Share

บทที่ 1266

Author: จี้เวยเวย
กู้เจาย่วนหยุดพูด อันที่จริงก่อนหน้านี้ญาติผู้พี่หญิงก็เคยเตือนนาง เรื่องนี้อาจเป็นความเข้าใจผิด นางก็เข้าใจแล้ว

เจียงเย่ไม่เคยเปลี่ยนไป เป็นนางทำผิดต่อเจียงเย่

เจียงเย่รักมั่นเพียงนาง แต่นางถึงขั้นชอบฉวีเซิน

ก่อนหน้านี้นางถูกทำให้หลงใหลจริง กลับไม่นึกถึงเรื่องนี้ คิดเพียงว่านางต่างหากคือคนทุกข์ใจที่สุด ทว่านับตั้งแต่วันนี้นางได้สติกลับมา นางก็รู้สึกอายและรู้สึกผิด

เหตุใดนางทำเรื่องเช่นนี้ออกมา นางไม่มีคุณสมบัติถามไล่เรียงเจียงเย่!

เจียงเย่กลับไม่รู้ความคิดของเจาย่วน เห็นสีหน้าลังเลของนางจึงเอ่ยว่า “ตอนนี้ทุกคนอยู่ที่โถงหน้าแล้ว พวกเราเองก็ไปเถอะ?”

“รอเรื่องทั้งหมดชัดเจนก่อนแล้วค่อยว่ากัน มอบโอกาสให้พวกเราสักครั้งดีหรือไม่?”

โถงหน้า

ถงซูถูกพามาที่สกุลกู้ นางเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีภายในใจ

จนกระทั่งได้เห็นเจียงเย่และกู้เจาย่วนมาพร้อมกัน ภายในสายตาสะท้อนแววเหลือจะเชื่อ นับๆ เวลาดูแล้ว ตอนนี้น่าจะเกิดเรื่องกับกู้เจาย่วนแล้วไม่ใช่หรือ?

ต่อให้ไม่ตาย ก็ไม่มีวันปลอดภัยเช่นนี้!

“แม่นางถง วันนี้เจ้าเองก็คงรู้แล้วว่าเชิญเจ้ามาด้วยเหตุใด ไม่สู้วันนี้พูดออกมาให้ชัดเจน ตกลงเจ้าและเจียงเย่มีคว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1498

    นางไม่เคยปรารถนาสิ่งใด สิ่งเดียวที่หวังก็คือให้ลูกสาวได้ไปเกิดใหม่ในครอบครัวที่ดี อย่าได้มีมารดาไร้ประโยชน์เช่นนางอีกเลยในฐานะมารดา แม้แต่ลูกของตนเองก็ยังปกป้องไม่ได้ ทำได้เพียงมองดูลูกของตนถูกส่งไปตาย!“ท่านมองเห็นลูกของข้าจริงหรือ?” สายตาของจิ้งอินซือไท่จับจ้องซ่งรั่วเจิน เปี่ยมไปด้วยความคาดหวังซ่งรั่วเจินพยักหน้า สายตาหันไปยังด้านข้างตัวนาง “ความจริงแล้วลูกสาวของท่านอยู่ข้างกายท่านมาโดยตลอด นางสามารถไปเกิดใหม่ได้ตั้งนานแล้ว แต่เพราะห่วงใยท่าน จึงยังไม่ยอมไป”เด็กหญิงคนนั้นเห็นว่าซ่งรั่วเจินมองเห็นตนจริง ก็ดีใจขึ้นมาซ่งรั่วเจินจึงค่อยๆ ถ่ายทอดความรู้สึกและคำพูดที่เด็กหญิงอยากบอกออกมา“นางบอกว่าคนที่นางรักที่สุดก็คือแม่ นางเข้าใจดีว่าท่านจำต้องทำเช่นนั้น แต่ไรมาไม่เคยโกรธเคืองท่านเลย”เพียงเอ่ยออกมา จิ้งอินซือไท่ก็ยกมือปิดหน้าร้องไห้ ความขมขื่นที่กดทับอยู่ในใจตลอดหลายปีพลันระเบิดออกมาทั้งหมดในห้วงขณะนั้น“ท่านโกหกข้า! ลูกของข้าเด็กเพียงนั้น กลับต้องตายไปก่อนเวลาอันควร ข้าที่เป็นแม่ไร้ค่าคนหนึ่งทำไม่ได้แม้แต่ปกป้องนาง นางจะไม่โกรธเคืองข้าได้อย่างไรกัน! นางต้องเกลียดข้าแน่ๆ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1497

    จิ้งอินซือไท่เผชิญหน้ากับคำถามไล่เรียงนั้น นางเพียงแต่ส่ายหน้า สีหน้ายังคงสงบนิ่ง ราวกับตัดสินใจแน่วแน่แล้วก็มิปาน“ใต้เท้า ข้าไม่รู้เรื่อง หากท่านไม่เชื่อ ก็ฆ่าข้าเถิด”“เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้หนีไม่พ้นพวกเจ้า เจ้าคิดหรือว่าปิดบังเช่นนี้แล้วพวกเราจะสืบหาความจริงไม่พบ?”ใบหน้าเสนาบดีศาลต้าหลี่พลันเย็นชา เดิมทีคิดว่าคนของสำนักเทียนฉือน่าจะพูดจาง่าย ไม่นึกเลยว่าล้วนเป็นพวกหัวแข็ง ถามไล่เรียงอย่างไรก็ไม่อาจเค้นเอาความจริงที่เป็นประโยชน์ออกมาได้แม้สักนิด“จิ้งอินซือไท่ ท่านรู้สึกผิดต่อลูกสาวของตนมาตลอดใช่หรือไม่?” จู่ๆ ซ่งรั่วเจินก็เอ่ยขึ้นมาเมื่อได้ยินคำพูดนั้น แววตาของจิ้งอินซือไท่พลันสะท้อนความตกใจวูบหนึ่ง แต่ก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว “ข้าไม่รู้ว่าท่านกำลังพูดอันใด”“จิ้งอินซือไท่ ลูกสาวของท่านใช่หรือไม่ว่ามีผิวขาวดุจหยก ดวงตาสดใสดั่งดวงจันทร์ มัดผมเปียสองข้าง ชอบสวมกระโปรงสีเขียว?”“น่าเสียดาย วันที่นางถูกพาตัวไป กลับถูกเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงสีแดงทั้งชุด อีกทั้งยังสวมปลอกคอประดับกระดิ่งเงินที่นางชื่นชอบที่สุด” “นางร้องไห้อ้อนวอนท่าน นางไม่อยากถูกพาไป แต่แม้ท่านจะพยายามจนหมดส

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1496

    เพียงแต่เห็นได้ชัดว่าเซียวอ๋องไม่ชั่วร้ายต่ำต้อยเช่นเดียวกับเช่ออ๋อง กลับดูเหมือนเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าหากไม่ใช่เพราะสาเหตุนี้ ในชาติที่แล้วก็คงไม่ถูกเช่ออ๋องใส่ร้ายป้ายสีจนกลายเป็นองค์ชายไร้อำนาจ“เมื่อคนเราผ่านประสบการณ์มามาก ก็ย่อมคิดตก” ฉู่จวินถิงคีบอาหารให้ซ่งรั่วเจินพลางพูดว่า “ทีแรกยังกลัวว่าเจ้ามาที่นี่แล้วจะรู้สึกเบื่อเสียอีก ตอนนี้ดีเลย มีเรื่องวุ่นวายให้ดู พอดีเลยไม่ใช่หรือ?”ซ่งรั่วเจินยกมือเกาจมูก อยู่ด้วยกันนานแล้ว ความลับเล็กๆ น้อยๆ ล้วนปิดไม่มิดหลังกินข้าวแล้ว ซ่งรั่วเจินเอ่ยว่า “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พวกเราไปดูศพเถอะ หมอชันสูตรน่าจะนับได้ไม่น้อยแล้ว จากปริมาณย่อมสามารถมองออกได้ว่าทิศทางที่พวกเราวิเคราะห์นั้นถูกหรือไม่”ถังเสวี่ยหนิงสามคนเองก็กินเสร็จแล้ว เดิมทีพวกเขาก็ไม่สนใจอาหารเจอยู่แล้ว เพียงกินๆ ไปเล็กน้อยเท่านั้น จากนั้นตามซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงไปสืบคดีพร้อมกันเห็นดังนั้น ทั้งสองคนหันมองเหลียงอ๋อง อยากติดตามไปด้วย“พระชายาเหลียงอ๋อง โครงกระดูกในเรือนหลังนี้น่าตกใจเป็นพิเศษ ข้าชี้แนะพวกท่านอย่าไปเลยจะดีที่สุด” เสนาบดีศาลต้าหลี่เอ่ยเตือน“ถ้าอย่างนั้นเหตุใด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1495

    “เจ้ากับเซียวอ๋องเดิมทีก็ไม่คุ้นเคยกัน ตอนนี้ก็เพิ่งเริ่มอยู่ร่วมกัน อีกอย่าง เจ้าก็ยังมิได้แสดงความในใจ เซียวอ๋องจะรักษาระยะห่างกับเจ้าก็ปกติ” “เขาเป็นถึงท่านอ๋อง หรือเจ้าหวังว่าเขามาทำตัวเอาอกเอาใจเจ้าเหมือนบุรุษอื่นหรือ?” ฉีชิงอีเห็นว่าถังเสวี่ยหนิงเพิ่งเจออุปสรรคเพียงเล็กน้อยก็เริ่มคิดถอย แววตาจึงฉายความไม่อยากจะเชื่อ ก่อนหน้านี้ตอนที่พวกนางคบหากัน ถังเสวี่ยหนิงมั่นใจอยู่เสมอไม่ใช่หรือ? ท่าทางในวันนี้ แม้แต่นางยังรู้สึกดูแคลน! “เจ้าควรคิดให้ดีนะ ข้าที่อุตส่าห์มาเมืองฉีหยางพร้อมท่านอ๋องก็เพื่อช่วยเจ้า หากเจ้าคิดจะไม่คว้าโอกาสนี้ไว้จริง ๆ พวกเราก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว” น้ำเสียงของฉีชิงอีแฝงความไม่พอใจ หากไม่ใช่เพราะเห็นว่าเมิ่งชิ่นกำลังจะได้เป็นพระชายาหยางอ๋อง และความสัมพันธ์ระหว่างตนกับองค์หญิงฉีเยว่ก็แย่ลงเพราะเรื่องวุ่นวายครั้งก่อน อีกทั้งไม่มีผู้ช่วยที่เหมาะสมอยู่ข้างกาย นางก็คงไม่คิดจะดึงถังเสวี่ยหนิงขึ้นมา หากถังเสวี่ยหนิงได้เป็นพระชายาเซียวอ๋อง แม้แต่นางเองก็ต้องเรียกว่าพี่สะใภ้ใหญ่ แต่เมื่อเทียบกับการถูกซ่งรั่วเจินกดไว้ อย่า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1494    

    ว่าพลาง เขาก็ไม่สนใจถังเสวี่ยหนิงกับพวก ก่อนจะไปนั่งลงตรงที่ว่างระหว่างซ่งรั่วเจินและพวก และตักข้าวใส่ชามให้ตนเอง โชคดีที่เขาถือว่ามาไม่สายเกินไป ช่วงหลายวันนี้กินแต่อาหารมังสวิรัติมากพอแล้วจริง ๆ เดิมยังคิดว่าเสนาบดีศาลต้าหลี่ไปทำธุระแล้ว ใครจะคิดว่าบุรุษผู้นี้ช่างหัวไวจริง ๆ ถึงกลับตามมากินข้าวแล้ว ซ่งรั่วเจินเห็นท่าทีเช่นนั้นของเซียวอ๋องก็ชะงักไปชั่วขณะ นางไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าเซียวอ๋องจะมีสติถึงเพียงนี้ เสนาบดีศาลต้าหลี่อดหัวเราะไม่ได้ แต่ก่อนก็เห็นว่าเซียวอ๋องกับฉู่อ๋องมีสถานะที่อ่อนไหว เวลาอยู่ด้วยกันย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะขัดแย้งกัน กลัวว่าจะยุ่งยากไม่น้อย แต่ว่าหลังจากผ่านช่วงเวลาที่ได้อยู่ร่วมกันที่ศาลต้าหลี่ความสัมพันธ์ก็ดูปรองดองอย่างเห็นได้ชัด เข้ากันได้ดีไม่น้อย ซ่งรั่วเจินมองไปที่ฉู่จวินถิง ก็พบว่าเขาไม่ได้มีท่าทีประหลาดใจเลย เห็นได้ชัดว่าได้คาดเดาท่าทีของเซียวอ๋องไว้นานแล้ว “เซียวอ๋องเห็นว่าฝีมือเจ้าดีมาโดยตลอด เพียงแต่ตั้งแต่คราวก่อน เจ้าก็ไม่ได้ส่งอาหารมาอีก คราวก่อนยังได้ยินเขากับเสนาบดีศาลต้าหลี่พูดถึงเรื่องนี้ด้วยความเสียดายอยู่เลย” ฉู่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1493

    ตอนที่เหลียงอ๋องกับพวกมาถึง ก็เห็นซ่งรั่วเจินกับอีกสองคนกำลังนั่งที่โต๊ะเล็กและเริ่มกินกันแล้ว ถังเสวี่ยหนิงเดิมคิดว่าในสำนักเทียนฉือคงไม่มีอะไรอร่อยแน่ ๆ ไม่นึกเลยว่าจะมีเนื้อสัตว์ด้วย จึงอดประหลาดใจไม่ได้ เซียวอ๋องบอกว่ามากินอาหารมังสวิรัติไม่ใช่หรือ? ครู่ถัดมา เมื่อนางเห็นอาหารมังสวิรัติที่เตรียมไว้ ก็อดตะลึงไม่ได้ อาหารมังสวิรัติที่จืดชืดเช่นนี้ดูแล้วไม่น่ากินเอาเสียเลย จึงอดถามไม่ได้ว่า “ฝ่าบาท เหตุใดพวกเรากินไม่เหมือนพวกเขา?” ฉีชิงอีเห็นซ่งรั่วเจินกินอย่างเอร็ดอร่อย ก็เอ่ยขึ้นทันทีว่า “พระชายาฉู่อ๋องคงไม่ได้มาที่นี่เพื่อเที่ยวเล่นจริง ๆ หรอกกระมัง ถึงกับตั้งใจพาพ่อครัวมาด้วย?” ในแววตาของฉีชิงอีฉายความภาคภูมิใจ นางได้ยินมานานแล้วว่าซ่งรั่วเจินถูกเลี้ยงมาอย่างทะนุถนอม ใช้ชีวิตในเมืองหลวงเรียกได้ว่าฟุ่มเฟือยสิ้นดี ใครให้สกุลซ่งร่ำรวย ร้านค้าเหล่านั้นในมือซ่งรั่วเจินแต่ละแห่งล้วนเป็นก้อนทองคำที่ออกไข่ได้ เดิมทีก็ไม่เห็นมีอะไรที่ไม่เหมาะสม แต่บัดนี้มาที่สำนักเทียนฉือเพื่อสืบคดีกับฉู่อ๋อง แล้วยังฟุ่มเฟือยเช่นนี้ ก็ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง! ฉู่อ๋องมา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status