Share

บทที่ 51

Penulis: จี้เวยเวย
แต่ไหนแต่ไรมานางเป็นคนใจร้าย สำหรับคนที่ไม่ดีกับตน อย่าคิดฝันจะได้เอาเปรียบกันแม้แต่น้อย!

จนกระทั่งมาถึงร้าน ก็ได้ยินเสียงทะเลาะดังออกจากด้านใน

“พ่อบ้านหลิน หลายวันก่อนคุณหนูของข้าส่งคนมาแจ้งแล้ว นับแต่นี้ไปไม่เกี่ยวข้องอันใดกับจวนหลินโหวอีก ดังนั้นบัญชีเงินทั้งหมดล้วนส่งคืนให้สกุลซ่ง เจ้าอย่าว่าแต่เงินเลย แม้แต่เงินเชื่อก็ไม่ได้” ผู้จัดการร้านซ่งอวี้ปฏิเสธเสียงเฉียบ

“ผู้จัดการซ่ง บัญชีของร้านตลอดสองปีมานี้ส่งไปให้จวนของพวกเรามาโดยตลอด เรื่องจิปาถะเช่นนี้จะพูดให้ชัดเจนอย่างง่ายดายได้อย่างไร?”

“มิหนำซ้ำ เดิมทีร้านนี้ก็เป็นของจวนสกุลหลินของพวกเรา แม่นางซ่งเพียงให้เจ้ามาช่วยพวกเราดูแล บัดนี้นับว่าถอนหมั้นแล้ว ร้านก็เป็นของพวกเรา ที่สมควรไปก็คือพวกเจ้าต่างหาก!”

พ่อบ้านหลินโมโหกระทืบเท้าอย่างโอหังพลางชูคอขึ้น “พวกเจ้าจงไปเดี๋ยวนี้เลย ห้ามมิให้นำของทั้งหมดไป หาไม่แล้วก็คือขโมย!”

“สิ่งของเหล่านี้ทั้งหมดล้วนเป็นพวกเราสกุลซ่งนำมา พวกเจ้ายังคิดละโมบกระนั้นรึ? อย่าได้ทำเกินไปนัก!”

ซ่งอวี้โมโหจนสีหน้าแข็งทื่อดุจเหล็ก เมื่อแรกตอนพวกเขารับช่วงต่อร้านนี้ ภายในทั้งเก่าทั้งโทรม เพียงแต่ตกแต่งซ่
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 52

    “ลืมตาสุนัขของเจ้าดูให้ชัดเจน! หาไม่แล้วให้ฮูหยินผู้เฒ่าของเจ้าไปพูดให้กระจ่างในศาลก็ย่อมได้ เงินของสกุลซ่งของข้า คนสารเลวเช่นเจ้าคิดจะโลภก็โลภได้กระนั้นรึ?”ซ่งจืออวี้เผยสีหน้ารังเกียจ ยกมือตบไปหนึ่งฉาด ตบเสียจนตาสองข้างของหลินเทามองเห็นดาวสีทองเขานับว่าเข้าใจแล้วเพราะเหตุใดน้องหญิงห้าจึงต้องพาอันธพาลมามากเพียงนี้ คนสกุลหลินเหล่านี้ช่างไร้ศักดิ์ศรีไร้ยางอายโดยแท้!“ท่าน...เหตุใดท่านตบคนเล่า?” หลินเทาเปล่งเสียงลนลาน“ข้าอยากตบก็ตบ เจ้าคนมีตาหามีแววไม่ ข้าตบหลินจือเยว่เขาก็ไม่กล้าตอบโต้ เจ้านับเป็นตัวอะไร?”ซ่งจืออวี้ไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย ยกมือตบใบหน้าอีกด้านของหลินเทาอีกหนึ่งฉาด คราวนี้จึงบวมเป่งเหมือนกันทั้งสองข้าง คล้ายหัวหมูก็มิปาน“ติดหนี้พวกเราแปดล้านตำลึงยังไม่คืน ยังคิดหมายตาร้านของพวกเราอีก มิใช่พูดว่าหลินโหวเป็นขุนนางมือสะอาด ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์กระนั้นหรือ? ช่างเป็นคนไร้ยางอายมาอาศัยรวมกันโดยแท้ ไสหัวไป!”หลินเทาได้ยินเพียงว่าคุณชายสามสกุลซ่งวู่วามไร้สมอง ไฉนเลยจะคิดได้ว่าเขาเป็นคนไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด ไม่พูดพร่ำก็ตบเขาแล้ว ตกใจเสียจนเขาต้องกุมศีรษะรีบขยับถอยหลัง“ท่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 53

    นี่มันช่าง...โหดร้ายกับเขาเกินไปแล้วซ่งอี้อันได้ยินเสียงคุ้นหูของจ้าวซูหว่านตั้งแต่แรกแล้ว เขาหลุบตาส่ายหน้า เป็นสัญญาณว่าเขาอยากฟังต่อไปเห็นดังนั้น พวกซ่งรั่วเจินทั้งสองคนก็มิได้จากไป ฟังทั้งสองคนฉุดกระชากกันพลางพูดเรื่องหน้าไม่อาย“เช่นนั้นตอนนี้จะทำอย่างไร? หลังตัวไร้ประโยชน์อย่างซ่งอี้อันผู้นั้นกลายเป็นคนตาบอด ข้าก็อยากถอนหมั้น ท่านให้ข้ารออยู่ตลอด ยืดเยื้อมาจนถึงตอนนี้ ข้าถอนหมั้นแล้ว ไม่ว่าสิ่งใดข้าก็ให้ท่านทั้งหมดแล้ว ท่านจะไม่สู่ขอข้าไม่ได้นะ”“ตอนแรกคนของท่านสมควรลงมือหนักยิ่งกว่านี้ ฆ่าเขาให้ตายแต่แรก เรื่องก็ไม่ยุ่งยากมากถึงเพียงนี้แล้ว”“บัดนี้ข้าตั้งครรภ์แล้ว ข้ารอได้ แต่ลูกในท้องสามารถรอได้กระนั้นหรือ?”ฉินเซี่ยงเหิงจับข้อมือจ้าวซูหว่าน “ซูหว่าน เจ้าต้องเชื่อความจริงใจของข้าที่มีต่อเจ้า ข้าต้องสู่ขอเจ้าเป็นแน่ หากมิใช่เพราะเจ้ากับซ่งอี้อันหมั้นหมายกัน พวกเราก็ได้อยู่ด้วยกันตั้งนานแล้ว”“มิสู้...เจ้าไปหาซ่งอี้อัน ร้องไห้ต่อหน้าเขาสักรอบหนึ่ง พูดว่าเจ้ามีใจให้ข้า แต่ข้าห่วงใยความรู้สึกของเขาจึงไม่ยอมอยู่ร่วมกับเจ้า เจ้าตาบอดคนนั้นรู้ว่าตนเองไม่เหมาะสมกับเจ้า จะต้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 54

    สามพี่น้องพบคู่ชู้รักแล้วก็ไม่มีแก่ใจกินข้าวอีก จ้าวซูหว่านกับฉินเซี่ยงเหิงช่างน่ารังเกียจนัก เกรงว่าอีกไม่นานจะต้องมาร้องห่มร้องไห้ต่อหน้าซ่งอี้อันเป็นแน่“ฉินเซี่ยงเหิงใช่พี่ชายของฉินซวงซวงหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากถามซ่งอี้อันชะงัก ฉับพลันก็ดึงสติกลับมาได้ “ใช่แล้ว เขาคือบุตรของท่านแม่ทัพฉิน”“สองพี่น้องคู่นี้เกรงว่าจะสมคบคิดกันกระมัง? ไม่เช่นนั้นจะมีเรื่องบังเอิญถึงเพียงนี้หรือ?” ซ่งจืออวี้ตะลึงงันพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรดี คนไร้ยางอายอยู่ร่วมกันโดยแท้!ซ่งรั่วเจินย้อนคิดถึงรายละเอียดในนิยายที่เคยอ่านก่อนหน้านี้ ทันใดนั้นก็นึกเรื่องสำคัญมากหนึ่งเรื่องขึ้นได้“พี่รอง ก่อนหน้านี้เฉินเซี่ยงเหิงมาจวนพวกเราบ่อย ๆ จ้าวซูหว่านเองก็มาดูเรียงความของท่านบ่อย ๆ ใช่หรือไม่?”ซ่งอี้อันหันหน้ามาพูดเสียงเข้ม “เจ้าหมายความว่า...”“ตามที่ข้ารู้มา แม้ฉินเซี่ยงเหิงจะศึกษาได้ไม่เลว แต่ก็ยังต่างชั้นกับท่านไม่น้อย ก่อนหน้านี้ก็มาขอให้ท่านสอนบ่อย ๆ บัดนี้ดวงตาทั้งสองข้างของท่านมืดบอด การสอบฤดูใบไม้ผลิเองก็ใกล้เข้ามาแล้ว เขา...”“อีกเดี๋ยวข้าจะนำเรียงความของข้าส่งไปให้ท่านอาจารย์ดู”

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 55

    “สองปีมานี้ นางใส่ใจดูแลข้า ดูแลจวน เทียบกับนางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นั่นแล้วยังดีกว่าไม่รู้กี่มากน้อย!”หลินรั่วหลานนึกถึงตอนที่ฉินซวงซวงแต่งเข้ามา อย่าว่าแต่เรื่องสินเดิมที่ว่างเปล่าเลย ยังสร้างความเดือดร้อนให้ลูกชายต้องอับอายขายหน้าอีก เพียงแต่งเข้ามาก็ถูกทางการจับตัวไป ยังต้องให้ลูกชายหาหนทางไปพานางออกมาอีกด้วยไหนเลยจะเทียบเคียงซ่งรั่วเจินได้?“ท่านแม่ ข้ากับซวงซวงแต่งงานกันแล้ว ข้าไม่มีวันแต่งงานกับซ่งรั่วเจินเป็นอันขาด ภายภาคหน้าขอท่านอย่าได้พูดเช่นนี้อีก ให้ซวงซวงรอในคุกอยู่ตลอดก็มิใช่เรื่องดี ท่านหาทางช่วยข้ารวบรวมเงินหนึ่งแสนตำลึงที ข้าจะไปไถ่ตัวนางออกมา”หลินจือเยว่ขมวดคิ้วแน่น ซวงซวงรออยู่ข้างในมากหนึ่งวัน ที่เสียไปก็คือหน้าของเขา เขารู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าต้องยังมีเงินอยู่ในมือแน่นอน“นางแพศยาคนนั้นทำเรื่องน่าขายหน้าพรรค์นี้ด้วยตนเอง ยังต้องให้พวกเรานำเงินไปไถ่อีกรึ?” หลินรั่วหลานเอ่ยถามเสียงแหลม “ให้สกุลฉินหาทางเอาเองเถอะ!”“บัดนี้ซวงซวงเป็นคนของพวกเราสกุลหลินแล้ว”สีหน้าหลินจือเยว่หนักแน่น เขารักเพียงซวงซวง แม้ครั้งนี้ซวงซวงจะทำผิดจริง แต่เขารู้ว่าซวงซวงทำถึงเพียงนี้ก็เพราะ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 56

    “ฝ่าบาท กระหม่อม กระหม่อมกำลังหาทาง...”หลินจือเยว่เหงื่อผุดดุจเม็ดฝน เขาประเมินการตัดสินใจเฉียบขาดของสกุลซ่งต่ำไป ถึงขั้นแม้เสียหน้าก็ต้องทำลายเขาให้ได้!“เจ้าคิดวิธีอันใดได้เล่า? ได้ยินว่าสองปีมานี้ เจ้าไม่เพียงยกมารดาเฒ่าในจวนให้แม่นางซ่งดูแล ตนเองอยู่ที่ชายแดนยังเขียนจดหมายขอเงินสกุลซ่งบ่อยครั้ง ตอนแต่งงานเจ้าก็สู่ขอภรรยาหลวงที่มีศักดิ์ทัดเทียมกันมาหยามเกียรติแม่นางซ่งอีกด้วย เจ้าช่างไม่สมควรเป็นคนยิ่งนัก!”ฮ่องเต้กริ้วหนัก ก่อนนี้ชมชอบหลินจือเยว่มากเพียงใด บัดนี้ก็คับข้องหมองใจมากเพียงนั้นสีหน้าหลินจือเยว่ซีดเผือด คิดไม่ถึงว่าซ่งจืออวี้ไม่เพียงพูดเรื่องหนี้สิน แม้แต่เรื่องเหล่านี้ก็กราบทูลต่อเบื้องพระพักตร์ฝ่าบาทจนหมดสิ้น นี่...นี่ช่างเป็นการตัดอนาคตของเขาโดยแท้!“ฝ่าบาท กระหม่อมเองก็ไม่คิดว่ารักษามารดาต้องใช้เงินมากเพียงนี้ นับตั้งแต่รู้เรื่องกระหม่อมก็คิดหาทางชดใช้ เพียงแต่ว่าจำนวนเงินนั้นไม่น้อยนัก จึงทำให้เสียเวลาไปหลายวัน...”เห็นหลินจือเยว่เปิดปากก็โยนความรับผิดชอบไปที่ฮูหยินผู้เฒ่าหลิน ซ่งจืออวี้ย่อมไม่อาจยอมรับ“ฝ่าบาท น้องหญิงของกระหม่อมถูกหลินโหวทำร้ายจิตใจ ปรารถ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 57

    “หลินโหว แม่นางฉินเป็นคนเคียงหมอนของเจ้า วันแต่งงานเจ้าพูดไปทุกถ้อยคำว่านางจิตใจดีมีเมตตา รู้จักนางดี บัดนี้กลับพูดว่าไม่รู้เรื่อง เจ้าเป็นขุนนางในราชสำนักถึงขั้นมองจิตใจชั่วร้ายโหดเหี้ยมของคนเคียงหมอนไม่กระจ่าง นี่ไม่เลอะเลือนเกินไปหน่อยหรือ?” ฉู่จวินถิงเอ่ยปากเสียงเรียบหลินจือเยว่สายตาโง่งม ถูกกล่าวโทษเพิ่มอีกหนึ่งข้อแล้วกระนั้นหรือ?“ซวงซวงเองก็ถูกผู้มีวิชาหลอก พูดไปแล้วทั้งหมดล้วนต้องโทษนักต้มตุ๋นผู้นั้นที่ทำร้ายผู้คนมากถึงเพียงนี้” หลินจือเยว่อธิบายราชครูสวีเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “นั่นเพราะโง่เขลาเบาปัญญา ทำร้ายตนเองทั้งสิ้น!”หนึ่งคนต่อหนึ่งคนกล่าวโทษ สีหน้าหลินจือเยว่ซีดเผือด ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าซ่งหลานจือเป็นหรือตาย ก็สูญเสียอำนาจใหญ่ไปแล้ว ภายในราชสำนักอย่างมากที่สุดก็มีแม่ทัพไป๋ที่ยินดีช่วยพูดแทนพวกเขาเท่านั้น เหตุใดราชครูสวีกับฉู่อ๋องก็ล้วนปกป้องจวนสกุลซ่งเล่า?ซ่งจืออวี้เองก็มองอย่างโง่งมตอนมาตีกลองร้องทุกข์ในวันนี้ แท้จริงแล้วเขาเองก็กระวนกระวายใจ แต่บัดนี้คนที่สามารถกระทำเรื่องนี้ได้ก็เหลือเพียงเขาคนเดียวที่เหมาะสมที่สุด มิหนำซ้ำน้องหญิงห้ายังช่วยเขาคิดคำพูดดี ๆ ไว้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 58

    ณ จวนสกุลซ่งซ่งรั่วเจินได้ยินข่าวนี้ก็ดีใจมาก แม้แต่ซ่งอี้อันก็กินข้าวมื้อกลางวันมากขึ้นอีกหนึ่งชาม“ฝ่าบาทตรัสว่าครั้งนี้ทำให้เจ้าต้องเสียใจแล้ว รางวัลพระราชทานเหล่านี้ล้วนมอบให้เจ้า” ซ่งจืออวี้วางผ้าไหมสูจิ่นและปิ่นมุกลงตรงหน้าซ่งรั่วเจิน ทั้งยังพูดกับหลิ่วหรูเยียน “ฝ่าบาทยังรับสั่งว่าท่านพ่อไม่รู้เป็นหรือตาย พระองค์ทรงจำทุกเรื่องที่ท่านพ่อทำเพื่อราชสำนักไว้หมดแล้ว จะต้องไม่ปล่อยให้คนรังแกสกุลซ่งของพวกเราแน่นอน”หลิ่วหรูเยียนขอบตาแดงเรื่อ “ฝ่าบาทยังจำนายท่านได้...”“ท่านแม่ ไม่ช้าก็เร็วท่านพ่อจะต้องกลับมาแน่นอนเจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินเอ่ยปลอบ “ท่านดูผ้าไหมสูจิ่นเหล่านี้ ข้าดูแล้วสีดอกไม้นี้เหมาะกับท่านมาก ยังมีปิ่นมุกดอกโบตั๋นนี้อีก เหมาะกับท่านยิ่งนัก”หลิ่วหรูเยียนมองผ้าไหมและเครื่องประดับ อารมณ์ดีขึ้นหลายส่วน “นี่ล้วนเป็นฝ่าบาทพระราชทานให้เจ้า เจ้านำไปตัดชุดสวย ๆ มากหน่อยเถอะ”“ฝ่าบาทพระราชทานให้มากเพียงนี้ ท่านแม่ก็เลือกเอามากหน่อยเถิด ที่เหลือข้าค่อยนำไปตัดเสื้อผ้าก็ยังนับว่าพอเหลือ”“ได้ แม่รู้ว่าเจ้ากตัญญู”หลิ่วหรูเยียนสั่งให้บ่าวรับใช้ถือผ้าไหมสูจิ่น ก่อนจะออกไปพร้อมรอย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 59

    อ้างว่ามาหาเจ้าของร่างเดิมและปรากฏตัวข้างกายซ่งอี้อัน ยิ่งไปกว่านั้นยังใจกล้าสารภาพรัก ถูกปฏิเสธอย่างต่อเนื่องหลายครั้งกลับไม่ตัดใจ ซ่งอี้อันถึงได้ค่อย ๆ เปลี่ยนความคิดจนใจที่เนื้อแท้ของจ้าวซูหว่านไม่ใช่คนสงบเสงี่ยม ทว่าซ่งอี้อันควบคุมตนเองรักษามารยาท แม้หมั้นหมายแล้วก็ไม่เคยล่วงเกินเลยแม้แต่น้อย จ้าวซูหว่านไม่อาจข่มความเปล่าเปลี่ยวได้จึงไปคบหากับฉินเซี่ยงเหิง กลิ่นเหม็นเน่าบนตัวของทั้งสองคนผสานเข้ากันได้ดี ชายโรคจิตกับหญิงแพศยา บัดนี้ลอบสานสัมพันธ์ลึกซึ้งจนตั้งครรภ์แล้วเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนเองก็มีส่วนผิดในเรื่องนี้ ซ่งรั่วเจินก็ต้องลอบสบถในใจ!“ข้าไม่เข้าใจ” ซ่งรั่วเจินพูดอย่างไม่เกรงใจจ้าวซูหว่านตาแดงก่ำ “รั่วเจิน เจ้าพูดเช่นนี้ก็เพราะต้องการตีตัวออกห่างจากข้า ข้าเป็นสหายที่ดีของเจ้ามาโดยตลอด ยามนี้ข้าไม่มีโอกาสเป็นพี่สะใภ้ของเจ้าแล้ว ข้าเองก็เสียใจมาก เหตุใดพวกเจ้าต้องโทษข้าด้วยเล่า?”ซ่งรั่วเจิน “...” นี่มันดอกบัวขาว[1]ดอกใหญ่มากเชียวล่ะ“จ้าวซูหว่าน จะพูดอะไรก็ต้องมีมโนธรรม หลังเจ้าถอนหมั้น พวกเราสกุลซ่งเคยว่าอะไรสักคำหรือไม่?”“พี่รองของข้าช่วยเจ้าจึงตาบอด หากเป็นคนมีมโน

Bab terbaru

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 994

    ฉู่จวินถิงสังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของซ่งรั่วเจิน ไหวพริบบ่งบอกว่ามีปัญหาซ่งรั่วเจินส่ายหน้าเบาๆ “เพียงแต่ได้ยินจงเฟยพูดเรื่องบูชาเซียนโบตั๋นจึงรู้สึกแปลกอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าใช่เซียนโบตั๋นที่หม่อมฉันรู้จักหรือไม่”นางเคยได้ยินเรื่องเซียนโบตั๋นมาก่อน เป็นสิ่งที่สตรีบูชาจริง เซียนบุปผา มีสรรพคุณช่วยคืนความอ่อนเยาว์ เพียงแต่ภายในนี้กลับมีเคล็ดลับบางอย่าง ทำให้คนเสพติดอย่างง่ายดาย สุดท้ายลุ่มหลงจนยากจะถอนตัวขึ้นมาได้ ไม่ใช่เรื่องที่ดีหากเป็นคนฝีมือโหดเหี้ยม ก็สามารถใช้ของสิ่งนี้แลกเปลี่ยนโชคชะตาได้ น่ากลัวอย่างมากจงเฟยมีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ ตนเองเก็บไว้บูชาเองก็พอ ทว่านางกลับนำมามอบให้ฮองเฮา แปลกเกินไปแล้วกระมัง“พูดให้ฟังเถอะ”ฉู่จวินถิงกลับไม่รีบร้อนจากไป เอียงหูฟัง รอฟังคำพูดของว่าที่ฮูหยินอย่างอารมณ์ดีแท้จริงแล้ว ไม่ว่าเจินเอ๋อร์พูดอะไร เขาล้วนอยากฟัง“หม่อมฉันเคยเห็นเซียนโบตั๋นมาก่อน ทำให้สตรีงดงามอ่อนเยาว์ผ่านการบูชาอาหาร หากจริงใจมากเพียงพอ ยังสามารถใช้เลือดเป็นเครื่องบูชาได้ ผลลัพธ์ดีมากนัก”“เพียงแต่จะทำให้สตรีลุ่มหลง กลายเป็นรีบร้อนอยากได้ผลลัพธ์ จากนั้นยากจะถอนตัวขึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 993

    วังหลังวันนี้ซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงเข้าวังไปขอบพระทัยความเมตตาด้วยกัน คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นความครึกครื้นทั้งภายในภายนอกตำหนักของฮองเฮายังไม่ทันเข้าไปก็ได้ยินเสียงตวนเฟยดังออกมาจากภายใน“ระยะนี้น้องหญิงจงเฟยงดงามมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว คนเองก็สดใสมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่ง ข้าถามนางว่าใช้เคล็ดลับอะไร นางก็ไม่ยอมบอกข้า ต่อมาข้ายังเห็นด้วยตนเอง”ตวนเฟยมองเซียนโบตั๋นข้างห้องบรรทมของฮองเฮาแวบหนึ่ง สายตาสะท้อนแววละโมบ“ที่แท้นางก็ตั้งใจขอเซียนโบตั๋นจากพระผู้ทรงศีล เพื่อรักษาความเยาว์วัยของสตรี ทำให้งดงามมีเสน่ห์!”เพียงถ้อยคำนี้พูดออกมา สนมคนอื่นก็ตาร้อนผ่าว ความเปลี่ยนแปลงของจงเฟยในระยะนี้ พวกนางล้วนเห็นอยู่ในสายตา ฝ่าบาทเองก็ประทับค้างแรมกับจงเฟยที่นั่นติดต่อกันหลายคืน ใครจะไม่อิจฉากันเล่า?สนมภายในวังมีไม่น้อย พวกเขาทำเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ปกติทำทุกวิธี ก็ไม่แน่ว่าจะได้ผลบัดนี้ได้เห็นจงเฟยได้รับความโปรดปรานมากขึ้นทุกที แต่ละคนร้อนใจจนแทบทนไม่ไหว“เดิมทีคิดว่าจงเฟยจะซ่อนไว้ คิดไม่ถึงเลยว่ายังมอบให้ฮองเฮาอีกด้วย น้องหญิงจงเฟยจริงใจต่อฮองเอาจริงๆ!

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 992

    “บัดนี้ข้าและองค์หญิงเพียงแต่มีปัญหากันเล็กน้อยเท่านั้น รอข้าไปอธิบายให้ชัดเจน ทั้งหมดย่อมกลับมาเป็นเหมือนเดิม”เสิ่นหวยอันพูดอย่างมีเหตุผล ชนิดที่ว่าหน้าตายังเผยแววลำพองใจ “เจ้าคิดดูให้ดี หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก่อเรื่องพรรค์นี้ขึ้นมา ป่านนี้คงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว”“ส่วนข้า ก็แค่ถูกโบย สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างว่องไว หรือเจ้าไม่เข้าใจความหมายกันเล่า?”“ตกลงเจ้าจะพูดอะไร?” เสิ่นจวินเจ๋อหรี่ตาลง สังเกตเห็นปัญหาแล้ว เสิ่นหวยอันมั่นใจในตนเองเกินไป“เหตุที่องค์หญิงทำเช่นนี้ ก็เพราะหึงหวงเท่านั้น” เสิ่นหวยอันหัวเราะเบาๆ ลูบแต่งผมและพูด “องค์หญิงมีจิตปฏิพัทธ์ต่อข้า เพียงแต่เห็นซ่งปี้อวิ๋นอยู่ข้างกายข้ามาโดยตลอด เข้าใจผิดคิดว่าข้าและนางมีความสัมพันธ์กัน นี่ถึงเป็นเช่นนี้”“ระหว่างสตรีย่อมหนีไม่พ้นความหึงหวง นี่คือเรื่องธรรมดาอย่างมาก เพียงแต่องค์หญิงอารมณ์รุนแรงอยู่บ้าง นี่ถึงโบยข้า”“หากไม่รัก นางก็คงไม่โมโหถึงเพียงนี้ เจ้าเข้าใจหรือไม่?”เสิ่นจวินเจ๋อชะงักไปในทันใด ครู่ต่อมาคิดว่าสายตาของฉู่มู่เหยาไม่น่าจะแย่ถึงเพียงนี้ เพียงแต่ลองคิดดูแล้วเขาก็เริ่มไม่มั่นใจเพราะเสิ่นหวยอันมั่นใจในตน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 991

    ได้ยินคำพูดของอวิ๋นเฉิงเจ๋อ ภายในสายตาอวิ๋นเนี่ยนชูเปี่ยมความแปลกใจ มากที่สุดคือต้องการรู้เหตุผลทั้งหมดตกลงเป็นเพราะอะไร?เพราะเหตุใดหลายปีมานี้ ทั้งๆ ที่นางแสดงความชอบของตนออกมาไม่ใช่เพียงครั้งเดียว ทว่าญาติผู้พี่กลับหลบเลี่ยงนางมาโดยตลอด นางต้องการคำตอบหนึ่ง กลับไม่ได้รับทั้งๆ ที่ดีต่อนางถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่ภายในใจมีนางมาโดยตลอด เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?อวิ๋นเฉิงเจ๋อเอ่ยปากพูดเสียงขมปร่า นี่ถึงพูดความคิดที่เก็บซ่อนไว้ภายในใจตลอดหลายปีมานี้ออกมา...อวิ๋นเนี่ยนชูได้ยินทั้งหมดนี้ สายตาสะท้อนแววเหลือจะเชื่อ ยากจะเชื่อได้ว่าทั้งหมดนี้ถึงขั้นยังมีเรื่องที่นางไม่รู้มากถึงเพียงนี้“ดังนั้น...พวกเราไม่ใช่ญาติพี่น้องแท้ๆ?”อวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด นี่คือเรื่องที่นางไม่เคยรู้ หลายปีมานี้ญาติผู้พี่ก็ไม่เคยพูดมาก่อนอวิ๋นเฉิงเจ๋อพยักหน้า “ปีนั้นข้าถูกทิ้งไว้ที่ประตูเรือนด้านหลัง หากไม่ใช่ท่านแม่ใจดีรับเลี้ยงข้า ข้าคงตายไปตั้งนานแล้ว...”หลายปีมานี้เขาเคยคิดอยู่หลายค่ำคืน บิดามารดาแท้ๆ ของเขาเป็นใคร เหตุใดต้องทิ้งเขา บางครั้งก็เกลี้ยกล่อมตนเอง คิดถึงปัญหาเหล่านี้ไปล้วนไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 990

    เพียงเอ่ยปาก โทสะทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมาแล้วความเจ็บปวดและอึดอัดใจที่สั่งสมอยู่ภายในใจล้วนระเบิดออกมาในเวลานี้อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินอวิ๋นเนี่ยนชูพูดเช่นนี้เป็นครั้งแรก มองนางตวาดถามไล่เรียงตนเอง ภายในใจเปี่ยมความรู้สึกผิด“ขอโทษ ล้วนเป็นความผิดของข้า”เห็นสายตาเปี่ยมความรู้สึกผิดของฝ่ายชาย อวิ๋นเนี่ยนชูตาแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “เดิมทีทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของท่านอยู่แล้ว! เหตุใดท่านไม่บอกข้าเร็วสักหน่อย ท่านรู้ว่าหลายปีมานี้ข้าฝืนได้ลำบากมากเพียงใดหรือไม่?”“ในเมื่อท่านไม่พูดมาโดยตลอด เหตุใดไม่เก็บเอาไว้ชั่วชีวิตเล่า?”น้ำตานางไหลลงมา ตลอดหลายปีมานี้ไม่ตอบรับความรู้สึกนาง นี่ทุกข์ใจมากเพียงใด?นางอยากบริภาษเขาแรงๆ อยากทุบตีเขา ชนิดที่ว่าอยากไม่สนใจเขาอีก ทำให้เขาเสียใจภายหลังไปชั่วชีวิตเพียงแต่ ยามได้เห็นของเหล่านั้นที่เขาซ่อนไว้ภายในห้อง รวมถึงภาพเหมือนของนางที่วาดไว้นับไม่ถ้วนยามค่ำคืน นางก็อยากร้องให้อย่างอดไม่ได้...“เป็นความผิดของข้าเอง ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้า เจ้าตีข้าด่าข้าโทษข้า ล้วนสมควรทั้งสิ้น”อวิ๋นเฉิงเจ๋อสืบเท้าขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ภายในสายตาเปี่ยมความเอ็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 989

    “อะไรนะ?” อวิ๋นเนี่ยนชูชะงัก ภายในสายตาสะท้อนความตกตะลึงทั้งๆ ที่ตลอดมาล้วนเป็นนางตอแยญาติผู้พี่หากไม่ใช่เพราะหลายปีมานี้นางทำเช่นนี้มาโดยตลอด คาดว่าญาติผู้พี่ก็คงไม่ชอบนาง ทว่าได้ยินคำพูดของมารดาแล้ว เหตุใดญาติผู้พี่ถึงผลักทั้งหมดนี้ลงบนศีรษะของเขาเล่า?“เฉิงเจ๋อพูดว่าเขาพยายามสอบสร้างผลงานก็เพื่อจะได้คู่ควรกับเจ้า จะได้มีโอกาสสู่ขอเจ้า”“หากเปลี่ยนเป็นในอดีต ข้าจะต้องไม่เห็นด้วยที่พวกเจ้าคบหากัน บัดนี้ผ่านเรื่องมามากถึงเพียงนี้ ความคิดของแม่ก็เปลี่ยนไปไม่น้อย”“หากเจ้าชอบเฉิงเจ๋อจริง ข้าเองก็ไม่คัดค้าน แต่หากเจ้าไม่ชอบ...”สีหน้าจางเหวินสับสน ก่อนหน้านี้เคยเห็นท่าทางของเด็กทั้งสอง ไม่ว่ามองอย่างไรเนี่ยนชูก็ไม่คล้ายไม่ชอบเฉิงเจ๋อ“ข้าชอบญาติผู้พี่เจ้าค่ะ” อวิ๋นเนี่ยนชูตอบอย่างไม่ลังเล “ข้าชอบญาติผู้พี่มาโดยตลอด”มองเห็นท่าทางมุ่งมั่นของลูกสาว จางเหวินรู้สึกเอือมระอาระคนโชคดีอยู่บ้าง “ช่างแล้วๆ น้ากู้ของเจ้าพูดถูกแล้ว ลูกหลานมีความสุขของลูกหลาน พวกเจ้าคบหากันก็เป็นพวกเจ้าสร้างขึ้น”“แม้ว่าปีนั้นเฉิงเจ๋อทำไม่ถูก ไม่สมควรเกิดความคิดต่อเจ้า แต่ข้าล้วนเห็นความพยายามของเขาตลอดหลา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 988

    ยิ่งไปกว่านั้น ขอเพียงเขาพยายาม เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องมีอนาคตแน่ตระกูลตกต่ำ บิดามารดาจากไปก่อนวัยอันควร เดิมทีเขาก็เป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจตายที่ข้างถนนตั้งนานแล้ว บัดนี้ไม่เพียงมีข้าวกิน มีเสื้อผ้าสวมใส่ ท่านน้ายังเชิญอาจารย์มาสอนหนังสือเขา เขาไม่มีวันอกตัญญูเขาคิด...รออีกหน่อย รอจนเขามีความสามารถ รอจนเขาฉายแววโดดเด่น บางทีอาจมีโอกาสขอท่านน้าแต่งงานกับเนี่ยนชูทว่า ขณะเขากำลังตรากตรำร่ำเรียนอยู่นั้น ในที่สุดก็ได้รับคำชมจากอาจารย์ ได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง อาจารย์ของสำนักศึกษาหลวงเองก็ชื่นชมว่าเขาจะต้องมีโอกาสสอบผ่านขุนนางแน่ ตอนเขาคิดว่าตนเองอาจจะสามารถตอบรับความรู้สึกของเนี่ยนชูได้ กลับได้ยินท่านน้าและแม่นมพูดสนทนากันที่แท้...เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของบิดามารดาลูกของมารดาตายไปตั้งนานแล้ว ส่วนเขาคือเด็กที่วันนั้นถูกทิ้งไว้หน้าประตูเรือนด้านหลังของมารดาเดิมทีมารดาก็ยากจะยอมรับความเจ็บปวดได้ อีกทั้งยังสงสารเขา หมอพูดว่าร่างกายนางเสียหาย ภายภาคหน้ายากจะมีลูกได้อีก นี่ถึงรับอุปการะเขา ประกาศต่อโลกภายนอกว่าเขาเป็นลูกของตนเขาเป็นแค่เด็กถูกทิ้งคนหนึ่ง เศษสวะที่ไม่ยอมหนาว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 987

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ข้าเคยไม่สนับสนุนเจ้าตั้งแต่ยามใด? แต่ไหนแต่ไรมาข้าล้วนสนับสนุนการตัดสินใจของเจ้า”ก่อนหน้านี้นางทำนายมาก่อนแล้ว ภายในเรื่องนี้มีเงื่อนงำซ่อนอยู่มากมาย อวิ๋นเฉิงเจ๋ออ่อนแอเกินไปสำหรับเรื่องนี้ ไม่มีความรับผิดชอบมากเพียงพอเพียงแต่ หากไม่เคยผ่านความทุกข์ของผู้อื่น ก็ไม่สามารถตัดสินตามใจได้อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลายเป็นเช่นนี้ ย่อมหนีไม่พ้นประสบการณ์ที่เขาเคยเจอมาในช่วงหลายปีมานี้เรื่องเดียวกัน บางคนมีความรับผิดชอบที่แข็งแกร่งมาก ไม่ได้รับผลกระทบใด แต่บางคนคิดอ่านอย่างละเอียด ยากจะสามารถรับได้ใต้หล้ากว้างใหญ่ รวมทุกสรรพสิ่งไว้แล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะตนเอง นางย่อมไม่วู่วามสอดมือเข้าไปอวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มกว้าง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์เป็นเช่นไรข้าก็ไม่ใส่ใจแล้ว หากไม่พูดเรื่องนี้ออกมา ข้าจะต้องเสียใจภายหลังแน่”“ตอนนี้ท่านป้าจ้างกำลังอยู่กับท่านแม่ข้า รอกลับไปแล้วค่อยหาโอกาสพูดเถอะ”ซ่งรั่วเจินจิกนิ้วทำนาย ภายในสายตาเผยแววประหลาดใจ เปลี่ยนคำพูด “ดูท่าแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดออกจากปากของตนแล้วล่ะ”อวิ๋นเนี่ยนชูสงสัย “หมายความว่าอะไร?”“ญาติผู้พี่เจ้าพูด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 986

    ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status