แชร์

บทที่ 1566

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
ซ่งจิ่งเซินเห็นว่านางมิได้รับบาดเจ็บจริง ๆ จึงทอดถอนใจอย่างโล่งอก “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว วันนี้ที่เทศกาลงานวัดผู้คนย่อมเยอะอยู่แล้ว ท่านอย่าวิ่งสุ่มสี่สุ่มห้าสิ โชคดีที่กระหม่อมรับไว้ทัน มิเช่นนั้นท่านก็คงจะได้รับบาดเจ็บไปแล้ว”

ในตอนนี้ฉู่มู่เหยาหาได้สนใจฟังว่าซ่งจิ่งเซินกำลังพูดอะไรอยู่ไม่ เพราะว่านางเพิ่งได้พบว่าตนเองกำลังอยู่ในอ้อมกอดของซ่งจิ่งเซิน

รอบกายอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของบุรุษ หากเป็นผู้อื่น นางก็คงจะรังเกียจไม่น้อย ทว่าในตอนนี้นางกลับไม่ต่อต้านแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับทำให้นางรู้สึกสบายใจเป็นอย่างยิ่ง

หัวใจของนางเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว ภายใต้บรรยากาศอันครึกครื้นจ้อกแจ้กจอแจนี้ นางยังคงได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองอย่างชัดเจน

ซ่งจิ่งเซินเห็นฉู่มู่เหยาเงียบไม่พูดจา แต่ใบหน้ากลับยิ่งแดงมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงขมวดคิ้วทันที

“ท่านเป็นอะไรไป? หากไม่สบายต้องบอกข้านะ!”

“ข้าไม่เป็นไรจริง ๆ”

ฉู่มู่เหยาทำน้ำเสียงอ่อนลงด้วยจิตสำนึก น้ำเสียงอันนุ่มนวลแฝงไปด้วยการตำหนิเล็กน้อย "หากเจ้าไม่ไล่ตามข้า ข้าก็คงไม่ต้องวิ่งหรอก"

“เดิมทีกระหม่อมคิดว่าคืนนี้จะจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นเสียก่อนแล้วค่อยไปหาท
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1566

    ซ่งจิ่งเซินเห็นว่านางมิได้รับบาดเจ็บจริง ๆ จึงทอดถอนใจอย่างโล่งอก “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว วันนี้ที่เทศกาลงานวัดผู้คนย่อมเยอะอยู่แล้ว ท่านอย่าวิ่งสุ่มสี่สุ่มห้าสิ โชคดีที่กระหม่อมรับไว้ทัน มิเช่นนั้นท่านก็คงจะได้รับบาดเจ็บไปแล้ว”ในตอนนี้ฉู่มู่เหยาหาได้สนใจฟังว่าซ่งจิ่งเซินกำลังพูดอะไรอยู่ไม่ เพราะว่านางเพิ่งได้พบว่าตนเองกำลังอยู่ในอ้อมกอดของซ่งจิ่งเซินรอบกายอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของบุรุษ หากเป็นผู้อื่น นางก็คงจะรังเกียจไม่น้อย ทว่าในตอนนี้นางกลับไม่ต่อต้านแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับทำให้นางรู้สึกสบายใจเป็นอย่างยิ่งหัวใจของนางเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว ภายใต้บรรยากาศอันครึกครื้นจ้อกแจ้กจอแจนี้ นางยังคงได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองอย่างชัดเจนซ่งจิ่งเซินเห็นฉู่มู่เหยาเงียบไม่พูดจา แต่ใบหน้ากลับยิ่งแดงมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงขมวดคิ้วทันที“ท่านเป็นอะไรไป? หากไม่สบายต้องบอกข้านะ!”“ข้าไม่เป็นไรจริง ๆ”ฉู่มู่เหยาทำน้ำเสียงอ่อนลงด้วยจิตสำนึก น้ำเสียงอันนุ่มนวลแฝงไปด้วยการตำหนิเล็กน้อย "หากเจ้าไม่ไล่ตามข้า ข้าก็คงไม่ต้องวิ่งหรอก"“เดิมทีกระหม่อมคิดว่าคืนนี้จะจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นเสียก่อนแล้วค่อยไปหาท

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1565

    “คุณชายซ่ง ไม่ทราบว่าท่าน...” “ข้ายังไม่มีคนในดวงใจ” ซ่งจืออวี้เผลอกล่าวออกมาโดยไม่รู้ตัว ฉู่ชิงหลีมองชายคนนั้นอย่างแปลกใจ และตั้งสติไม่ทันเป็นเวลาครู่หนึ่ง นาง...นางมิได้จะถามคำถามนี้! เพียงแต่ เมื่อได้ยินคำตอบนี้ ในใจนางยังรู้สึกดีใจอยู่เล็กน้อย “คุณชายซ่ง ท่านจะมีคนในดวงใจหรือไม่ แล้วมาบอกข้าทำไมกัน?” ฉู่ชิงหลีกล่าวพร้อมยิ้มจาง ๆเมื่อซ่งจืออวี้พูดออกไปก็พลันรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าฉู่ชิงหลีหาได้ขุ่นเคืองไม่ จึงเบาใจขึ้นมา และกล่าวว่า “ขอโทษนะ ข้าพูดไม่เก่งนัก อีกทั้งแทบไม่ได้คลุกคลีกับสตรีใด ชั่วขณะจึงพูดผิดไป หวังว่าเจ้าจะไม่โกรธนะ” ดวงหน้าที่งดงามของฉู่ชิงหลีแดงระเรื่อ นางรู้สึกว่าซ่งจืออวี้เป็นคนซื่อตรงไร้ซึ่งเล่ห์เหลี่ยม เดิมทีมิได้มีเจตนา และความซื่อตรงนี้กลับทำให้น่าเอ็นดูยิ่งนัก โดยเฉพาะใบหน้าที่ดูจริงใจขณะเอาใจนาง ยิ่งทำให้นางมิรู้จะเอ่ยสิ่งใดตอบกลับเลย “ข้าไม่โกรธหรอก” ฉู่ชิงหลีพูดแผ่วเบา ซ่งจืออวี้ยกยิ้มขึ้นมา มองดูแม่นางข้างกาย ในใจก็พลันรู้สึกปีติยิ่งนัก แม้แต่ถนนหนทางที่ทอดยาวก็คล้ายว่าสั้นลงไปถนัดตา หน้าประตูจวนกงชินอ๋อง “คุณชายซ่ง ข้ามาถ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1564

    “ไม่รบกวนหรอก” ซ่งจืออวี้ยิ้มอย่างสดใส ตลอดเส้นทาง ซ่งจืออวี้ได้เดินเคียงข้างกับฉู่ชิงหลี เพื่อส่งนางกลับจวนกงชินอ๋อง“ข้าได้ยินมาว่าตอนนี้ทานทำงานอยู่ในพระราชวัง ทุก ๆ วันจะยุ่งมากเลยใช่หรือไม่?”“ไม่ยุ่งหรอก ข้าชอบงานนี้มาก สหายร่วมงานล้วนฝีมือดี โดยปกติแล้วเรามักจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอยู่บ่อย ๆ” เมื่อซ่งจืออวี้พูดถึงหน้าที่การงานของตนเองในตอนนี้ มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นมาทันที “ข้าฝึกยุทธ์มาตั้งแต่วัยเยาว์ เติบโตขึ้นมาก็อยากเข้าสู่สมรภูมิมาตลอด แต่เมื่อสงครามชายแดนหยุดชะงัก ข้าจึงไม่รู้ว่าควรทำอะไรไปชั่วขณะหนึ่ง ตอนนี้ได้มาเป็นราชองครักษ์หน้าพระที่นั่งในพระราชวัง งานนี้เหมาะกับข้ายิ่งนัก มันเป็นสิ่งที่ข้าชื่นชอบจริง ๆ”ฉู่ชิงหลีที่เห็นซ่งจืออวี้ที่เอ่ยถึงงานด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข ในแววตาก็สะท้อนรอยยิ้มออกมาเช่นกัน “ได้ทำงานที่ตนเองรัก ย่อมทำให้คนมีความสุขจริง ๆ” “ข้าได้ยินมาว่าแม่นางฉู่ชื่นชอบการเย็บปักถักร้อยใช่หรือไม่?” ซ่งจืออวี้กล่าว “คุณชายซ่งทราบได้อย่างไรกัน?” ฉู่ชิงหลีแปลกใจอย่างยิ่ง เมื่อซ่งจืออวี้หลุดปากพูดออกมาก็ตระหนักได้ถึงความไม่ถูกต้อง อย่างไรเสียก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1563

    ในชั่วพริบตา ซ่งจืออวี้ก็กลายเป็นที่หมายปองของใครต่อใครแต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เคยพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน เขาฝึกยุทธ์มานานหลายปี แม่นางที่ได้พบเจอก็มีไม่มากนัก มิหนำซ้ำโดยปกติที่อยู่ในจวน ก็มักจะได้ยินท่านแม่บ่นตำหนิอยู่เสมอว่าเขามีเพียงแค่พละกำลัง ไม่รู้จักใช้สมอง จะต้องมิมีแม่นางคนใดชอบพอเป็นแน่จนกระทั่งตอนนี้ที่ได้ยินเสียงชื่นชมดังจากรอบด้าน อีกทั้งยังมีแม่นางใจกล้ากล่าวขึ้นโดยตรงว่าหากได้แต่งงานกับเขาก็คงจะดี หัวใจของเขาก็พลันได้รับแรงกระแทกอย่างมหาศาลนี่มันเกิดอะไรขึ้น?ซ่งรั่วเจินอดหัวเราะไม่ได้ เมื่อเห็นใบหูของพี่สามที่แดงขึ้นเรื่อย ๆ นางก็รู้ได้ว่าเขากำลังเขินอายก็เหมือนกับที่นางว่าไว้ปกติแล้วพี่สามออกจากจวนน้อยเกินไป จึงไม่รู้ความเป็นที่ต้องการของตัวเองโดยสิ้นเชิงบัดนี้พวกเขาสี่พี่น้องสกุลซ่ง ได้เป็นที่เลื่องลือชื่นชมอย่างท่วมท้นในเมืองหลวง โดยปกติแล้วคนที่อยากจะเป็นแม่สื่อแม่ชักให้พี่สามนั้นก็มีไม่น้อย ไม่เช่นนั้นท่านแม่ก็คงจะไม่ฉกฉวยโอกาสเพื่อให้เขาได้พบปะกับแม่นางอยู่ร่ำไปแต่ถึงอย่างไรทุกครั้งที่พี่สามได้ยินท่านแม่เอ่ยถึงเรื่องนี้ก็มักจะเชิดหนี เหมือนกันก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1562

    ด้วยความที่มิอาจปฏิเสธน้ำใจได้ ฉู่ชิงหลีจึงตอบตกลง “เจ้าค่ะ”ฉู่จวินถิงมองฮูหยินของตัวเองที่พยายามจับคู่ สร้างโอกาสให้กับซ่งจืออวี้ เขาก็อดขำไม่ได้ใครจะคาดคิดว่าวันหนึ่ง คนอย่างเขาจะต้องมาช่วยเป็นพ่อสื่อให้คนอื่นแบบนี้?“จวินถิง มานี่เร็วเข้า!” ซ่งรั่วเจินเรียกเขาฉู่จวินถิงรีบกล่าวตอบรับ “มาแล้ว ๆ!”“หากผู้ใดสามารถยกโอ่งนี้ขึ้นได้ จะสามารถเลือกรางวัลใดก็ได้หนึ่งชิ้นจากในสามชิ้นนี้ ผู้ที่เข้าร่วมจะต้องจ่ายเงินครั้งละสามร้อยเหวิน!” ชายชราที่ตั้งแผงลอยกล่าวอย่างภาคภูมิใจผู้คนโดยรอบที่มองโอ่งน้ำโอ่งนั้น ต่างก็แอบตกตะลึง “โอ่งน้ำใบนี้หนักขนาดนั้น คนคนเดียวจะสามารถยกขึ้นได้อย่างไรกัน?”“นั่นน่ะสิ? แถมลองเล่นครั้งหนึ่งยังต้องจ่ายถึงสามร้อยเหวิน นี่ไม่ใช่การค้าที่ได้กำไรเต็ม ๆ หรอกหรือ?”“โดยปกติแล้วโอ่งน้ำใบนี้เกรงว่าจะต้องใช้คนหลายคนช่วยกันยก ก่อนหน้านี้ข้าเห็นตอนที่ชายชราผู้นี้ขนของก็ต้องเรียกคนมาช่วยเหมือนกัน”เมื่อชายชราได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบตัว ก็แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา“ไป ๆ ๆ พวกเจ้าอย่ามาพูดจาซี้ซั้ว โอ่งน้ำหนักก็จริง แต่พวกเจ้าลองดูรางวัลนี้สิ นั่นมิใช่ของรางวัลธรรม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1561

    เมื่อเห็นคนทั้งสองที่จากไปอย่างรีบร้อน ซ่งรั่วเจินจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย นางรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายบางอย่างที่ไม่ธรรมดาเพียงแต่ ตอนนี้นางไม่มีเวลาสนใจเรื่องชาวบ้าน จึงหันไปมองฉู่ชิงหลี แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “แม่นางฉู่ นี่คือพี่สามของข้าเอง”ในชั่วพริบตาที่ฉู่ชิงหลีได้เห็นซ่งจืออวี้ นางก็จำได้ทันทีว่าเขาคือคนที่ช่วยชีวิตนางในวันนั้นเขามีใบหน้าเหมือนกับซ่งจิ่งเซินทุกประการ ทว่าร่างกายดูแข็งแรงกำยำกว่า บุคลิกก็แตกต่างจากความอ่อนโยนของซ่งจิ่งเซิน สีหน้าของเขาแฝงไปด้วยความแน่วแน่และดุดัน“คารวะคุณชายสามซ่ง ต้องขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ช่วยเหลือข้าเมื่อครั้งก่อน จนทำให้ข้ารอดพ้นจากอันตรายมาได้”ซ่งจืออวี้มองแม่นางตรงหน้าผู้ซึ่งเฝ้าฝังอยู่ในใจเสมอมา หัวใจของเขาก็ยิ่งเต้นระรัวไม่หยุด ตอนนี้รู้สึกเพียงว่าหัวใจตัวเองต้นแรงดั่งฟ้าร้อง“เมื่อพบเห็นความอยุติธรรม ก็ชักดาบเพื่อช่วยเหลือ คือสิ่งที่ข้าสมควรทำ ตราบใดที่เจ้าปลอดภัยก็ดีแล้ว”ใบหน้าของซ่งจืออวี้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เผยให้เห็นฟันขาวเรียงสวย ใบหน้าที่หล่อเหลาสง่างาม ในเวลานี้กลับแฝงไปด้วยความซื่อ ๆ อย่างเห็นได้ชัดฉู่ชิงหลีมองรอยยิ้มที่คุ้นเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status