แชร์

บทที่ 184

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
“แม่นางลั่ว วันนี้เห็นว่าเจ้าสีหน้าดีขึ้นมาก โสมที่ข้าส่งไปให้เจ้า หวังว่าคงมีประโยชน์”

เหยาจิ่นเฉิงกล่าว พลางจ้องมองสตรีเบื้องหน้าด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความบิดเบี้ยว แต่ใบหน้ากลับส่งรอยยิ้มอ่อนโยนออกมา

ในฐานะบุตรชายของเสนาบดีกรมกลาโหม เขาได้รับการฝึกฝนวรยุทธ์มาตั้งแต่ยังเล็ก และด้วยอายุที่ใกล้เคียงกับซ่งเยี่ยนโจว จึงถูกนำไปเปรียบเทียบกับเขาเสมอ แต่ทุกครั้งมักจะพ่ายแพ้ให้กับซ่งเยี่ยนโจว ซึ่งทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก!

แต่ตอนนี้โชคชะตากลับเล่นตลกให้ซ่งเยี่ยนโจวกลายเป็นคนพิการ และสตรีที่เขาหมายปอง บัดนี้ก็จะแต่งงานให้กับเขาแล้ว นึกไม่ออกเลยว่าหากซ่งเยี่ยนโจวรู้เรื่องนี้แล้วจะมีปฏิกิริยาเช่นไร

แค่เพียงคิดก็ทำให้เขารู้สึกสะใจเหลือเกิน!

ลั่วชิงอินมองชายหนุ่มตรงหน้า นางไม่ได้ชอบเหยาจิ่นเฉิงเลย

แม้ว่าเขาจะดูสุภาพราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิที่แสนอบอุ่น แต่ในใจของนางกลับรู้สึกได้ว่านี่ไม่ใช่นิสัยที่แท้จริงของเหยาจิ่นเฉิง แต่เสมือนเป็นหน้ากากจอมปลอมที่เขาสวมปิดบังไว้

“ขอบคุณมากเจ้าค่ะ แต่โสมร้อยปีชิ้นนี้ล้ำค่าเกินไป วันนี้ข้าจึงตั้งใจนำมา...”

กล่าวจบ ลั่วชิงอินหันไปพยักหน้าให้สาวรับใช้ที่อยู่ข้าง
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 185

    “ข้ากำลังเป็นห่วงพี่หญิงรอง จะให้ข้าใส่ใจเรื่องอื่นได้อย่างไร?”ลั่วหวยหลี่อดไม่ได้ที่จะมองไปทางด้านหลัง ที่เขาเกลียดเหยาจิ่นเฉิงมากไม่ใช่ไม่มีเหตุผล คนผู้นี้เมื่อก่อนมีนิสัยโหดร้ายยิ่งนักครั้งหนึ่งที่เขาลงไม้ลงมือกับเหยาจิ่นเฉิง ก็เพราะชายผู้นี้ได้ฆ่าหวงโต้ว สุนัขที่เขาเลี้ยงมาหลายปีและสนิทสนมมากที่สุดไม่คิดว่าเหยาจิ่นเฉิงโต้เถียงกับเขาเพียงเล็กน้อย ก็จะกระทำอย่างไร้ความปรานี ฆ่าหวงโต้วอย่างโหดร้ายแล้วยังชำแหละแบ่งเนื้อกินกับพรรคพวก เมื่อตัวเขามาถึงก็เห็นแต่ซากหนังที่เปื้อนเลือด ย่อมโกรธแค้นอยากสังหารคน”แต่จนปัญญาที่เขาสู้เหยาจิ่นเฉิงไม่ได้ แต่ยังถูกเย้ยหยันอย่างเจ็บแสบ เป็นซ่งเยี่ยนโจวที่ยื่นมือเข้ามาช่วย เหยาจิ่นเฉิงถูกซ่งเยี่ยนโจวสั่งสอนอย่างสาสม ความแค้นของเขาจึงได้ระบายออกมาเสียทีเพราะเหตุนี้เอง เมื่อกลับไปเขาจึงถูกบิดาตำหนิอย่างหนัก แต่ตัวเขากลับไม่รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อยบัดนี้คนผู้นี้กลับคิดจะแต่งงานกับพี่หญิงของเขา ทำให้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อพวกซ่งรั่วเจินมาถึง ก็ได้เห็นลั่วหวยหลี่เดินวนไปมารอบศาลาไม่ไกล“หวยหลี่ เจ้ากำลังรอข้าอยู่หรือ?”เสียงทุ้มต่ำของซ่งเยี่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 186

    ใต้ต้นท้อบุรุษผู้หนึ่งในอาภรณ์ยาวสีครามเข้ม ทวงท่างามสง่า แม้ว่าจะนั่งอยู่บนรถเข็น ก็ยังคงแสดงให้เห็นถึงความที่โดดเด่นแม้จะเป็นเพียงเงาหลัง นางก็ยังคงจำเขาได้ในทันทีซ่งเยี่ยนโจวราวกับรับรู้ถึงทุกสิ่งรอบตัว เขาหันมาโดยไม่รู้ตัว แล้วได้พบกับร่างอรชรอ่อนช้อยของสตรีนางนั้น ดวงตาใสดุจสายน้ำในฤดูใบไม้ร่วง แววตาอ่อนโยนเช่นดวงจันทร์บนฟากฝ้าสตรีผู้อ่อนหวานราวกับสายน้ำไหลริน เพียงยิ้มบาง ๆ ก็ทำให้แก้มของนางแดงระเรื่อ บัดนี้ในแววตากลับเต็มไปด้วยความหม่นหมองเล็กน้อยในใจเขารู้สึกผิดอย่างยิ่ง เขาทำผิดต่อลั่วชิงอิน ตั้งแต่ต้นจนจบเขาคือคนที่ผิดเองลั่วหวยหลี่พิจารณาคนทั้งสองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปพูดกับพี่หญิงของตนว่า “พี่หญิงรอง ข้าไปทำธุระสักครู่ เดี๋ยวจะกลับมาหาท่าน”ลั่วชิงอินมองลั่วหวยหลี่ที่เดินจากไป ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเท้าเดินไปหาซ่งเยี่ยนโจวทั้งสองต่างจ้องมองกันเงียบ ๆราวกับมีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะพูดออกมา แต่กาลเวลาที่ผันผ่าน ไม่ว่าจะเป็นฐานะหรือสถานการณ์ก็แปรเปลี่ยนไปหมด แม้ว่าครั้งหนึ่งจะเคยรู้จักกันดีเพียงใด บัดนี้กลับเหมือนมีกำแพงมากั้นกลางไม่อาจข้ามผ่านได้“ไม่ได้พบก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 187

    “บิดามารดาปฏิบัติต่อข้าอย่างดีเสมอมา ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกเขาต้องทนรับคำครหามากมายเพราะข้า ข้ามิอาจอกตัญญูต่อไปได้อีก…”ซ่งเยี่ยนโจวอดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดใจ รั่วเจินถึงแม้จะหมั้นหมายแล้ว แต่สองปีมานี้ยังคงรอคอยหลินจือเยว่ ยากที่จะหลีกเลี่ยงคำครหาของผู้คน ยิ่งไม่ต้องพูดลั่วชิงอินว่าช่วงที่ผ่านมาต้องยากลำบากมากเพียงใดนางเป็นบุตรีของตระกูลสูงศักดิ์ หากไม่ใช่เพราะเขา นางจะต้องตกอยู่ในสภาพนี้หรือ?แต่บัดนี้เขาเป็นเพียงคนที่เคยหย่าร้าง ไหนเลยจะคู่ควรกับนางได้? จะให้เอ่ยปาก เขาก็ไม่มีหน้าจะพูดออกมาสายตาจ้องมองหญิงสาวที่อยู่ในใจมาตลอดกำลังจะจากไป เขาจึงเรียกเบา ๆ“ชิงอิน”ซ่งเยี่ยนโจวนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ดวงตาลึกซึ้งจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างยากลำบาก “ตอนนี้ข้าได้หย่าร้างแล้ว หากว่า…”ลั่วชิงอินมองบุรุษตรงหน้าอย่างใจจดจ่อ นิ้วเรียวดุจหยกภายใต้แขนเสื้อของนางค่อย ๆ กำแน่นโดยไม่รู้ตัว ลมหายใจก็เริ่มติดขัดขึ้นเล็กน้อย“ซ่งเยี่ยนโจว เจ้ากับลั่วชิงอินนี่มันจริง ๆ เลย! เราเพิ่งจะหย่ากัน เจ้ายังคิดจะแต่งกับลั่วชิงอินอีกหรือ?”ทันใดนั้น เสียงแหลมสูงก็พุ่งเข้ามาทำลายบรรยากาศเดิม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 188

    “คุณหนูลั่วที่ไม่ยอมออกเรือนเสียที คงไม่ใช่ว่ากำลังรอคุณชายใหญ่แห่งตระกูลซ่งหรอกกระมัง?”“ก่อนหน้านี้สองคนนี้ก็ดูเหมือนคู่บุญฟ้าประทาน เป็นคู่ครองที่เหมาะสมกันยิ่ง แต่สุดท้ายคุณชายใหญ่ตระกูลซ่งก็เปลี่ยนใจไปแต่งงานกับฝานซืออิ๋งแทนมิใช่หรือ?”“หากเป็นคุณหนูลั่วที่ยุยงให้ทั้งสองหย่ากันจริง ๆ เรื่องนี้ก็ช่างเกินจะให้อภัย!”ซ่งรั่วเจินซึ่งเดิมทีเฝ้าระวังอยู่ไม่ไกลนัก เผอิญเจอคนแปลกหน้าที่พยายามเข้ามาก่อกวน จึงต้องใช้เวลาไม่น้อยในการเลี่ยงให้พ้นไป ไม่คิดเลยว่าพอผ่านไปแค่ครู่เดียวก็เกิดเรื่องขึ้นแล้ว“ฝานซืออิ๋ง เรื่องระหว่างเราสองคนอย่าได้โยงไปถึงแม่นางลั่ว ข้ากับนางเพียงบังเอิญพบกัน เจ้าอย่าได้กล่าวคำเหลวไหลให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง”ซ่งเยี่ยนโจวสีหน้ามืดมนราวกับเมฆฝน ดวงตาเย็นเยือกของเขาส่งประกายความเย็นชาราวกับจะจับตัวเป็นน้ำแข็งจริง ๆฝานซืออิ๋งเมื่อเผชิญกับสายตาน่ากลัวนั้น ใจของนางสะดุดวูบด้วยความหวาดกลัวโดยไม่รู้ตัว แต่ครานี้ในเมื่อนางจับจุดอ่อนได้แล้ว เช่นนั้นก็ไม่มีทางปล่อยไปง่าย ๆลั่วชิงอินกล้าหมายปองบุรุษของนาง เช่นนี้ก็เท่ากับหาทางตาย!“ทำไม? กล้าทำแต่ไม่กล้ารับงั้นหร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 189

    “ข้าได้ยินมานานแล้วว่าหลังจากที่เจ้าหย่ากับข้า เจ้าโยนความผิดทุกอย่างมาให้ข้า แต่ข้าก็คร้านจะโต้เถียงกับเจ้าอยู่ดี”“อย่างไรเสีย เจ้าถนัดที่สุดในการโยนความผิดให้ผู้อื่น ข้าไม่อาจอธิบายกับทุกคนได้ทุกครั้งที่เจอ แต่บัดนี้เจ้ากระทำเกินไปแล้ว!”“ไม่เพียงแต่กล่าวหาพวกเรา ยังลากคนบริสุทธิ์มาเกี่ยวด้วย ช่างเป็นจิตใจที่โหดเหี้ยมดุจอสรพิษ!”ฝานซืออิ๋งปวดจนไม่สามารถพูดอะไรได้ นางมองซ่งรั่วเจินที่ทำท่าทางราวกับเป็นฝ่ายถูกกระทำ ซ้ำยังโยนความผิดทั้งหมดมาให้นางอีก ดวงตาของฝานซืออิ๋งเบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความเหลือเชื่อซ่งรั่วเจินได้กลายเป็นคนไร้ยางอายเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด?ซ่งรั่วเจินผู้เป็นต้นเหตุที่แท้จริงตีหน้าเศร้าพลางกล่าวโทษ มันก็แค่การแสดงละครใส่ร้ายป้ายสีมิใช่หรือ?ใครเล่าจะทำไม่เป็น?ว่ากันตามจริงแล้ว ตระกูลซ่งที่ผ่านมาต้องตกเป็นรองและถูกตระกูลฝานมองเป็นลูกไก่ในกำมือนั้น เป็นเพราะพวกเขาพยายามรักษาหน้าตาของตระกูล และไม่ต้องการพัวพันกับพวกเขาให้มากความแต่สำหรับนาง นางไม่ชอบปล่อยให้คนไร้ยางอายเหล่านี้ลอยนวลพี่ชายทั้งหลายของนางเป็นสุภาพบุรุษ ไม่เหมาะที่จะลดตัวลงมาตอบโต้ แต่นางซึ่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 190

    “หนังสือหย่าหรือ? ในเรื่องราวนี้มีเรื่องลับอะไรซ่อนอยู่กระนั้นหรือ?”“ข้าก็พอรู้มาว่าซ่งเยี่ยนโจวเพิ่งกลับมาไม่นาน ฝานซืออิ๋งก็กลับบ้านเดิมแล้ว ว่ากันว่าซ่งรั่วเจินเป็นคนขับไล่นางออกไป ส่วนจะจริงหรือไม่นั้น ข้าก็ไม่แน่ใจหรอก”ผู้คนรอบข้างเริ่มกระซิบกระซาบ ซ่งเยี่ยนโจวกับฝานซืออิ๋งหย่ากันอย่างกะทันหัน ก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นวี่แววสัญญาณเตือนอะไรวันนี้ในเมื่อได้มีโอกาสรับรู้เบื้องลึกเบื้องหลัง ใครเล่าจะยอมพลาดโอกาสเช่นนี้?ใบหน้าของฝานซืออิ๋งเปลี่ยนสีเล็กน้อย รีบคิดทบทวนว่านางอาจมีหลักฐานใดตกอยู่ในมือของซ่งรั่วเจินหรือไม่ แต่เมื่อตรึกตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว คิดว่าน่าจะไม่มีหลักฐานใด ๆ เหลืออยู่หนังสือสัญญาเงินกู้ถูกฉีกทำลายไปนานแล้ว ส่วนหลิ่วหรูเยียนก็คอยรักษาหน้าตาของนางตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่เคยนำเรื่องการกู้เงินเผยแพร่ออกไปแม้จะพูดออกมาในตอนนี้ นางก็ยังมีวิธีปฏิเสธได้อยู่ดี!“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตระกูลฝานยืมเงินจากตระกูลเรามาเท่าใด ข้าก็ไม่คิดจะกล่าวถึงหรอก”“มารดาของข้ายอมทำทุกอย่างเพื่อให้เจ้าอยู่กับพี่ใหญ่ของข้าอย่างสงบ ไม่ว่าเจ้าจะเรียกร้องสิ่งใด หากรับปากได้ก็ยอมทั้งหมด แต่เ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 191

    “แม่ข้ายังอยู่ ไม่พูดถึงว่ายังไม่ถึงรอบผู้เยาว์มาเจ้ากี้เจ้าการ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเจ้าที่เป็นสะใภ้ใหญ่ซึ่งควรอ่อนน้อมถ่อมตนยอมถอยให้ แต่เจ้ากลับเอาแต่สร้างปัญหา ข้าถึงได้หย่าร้างกับเจ้า!”ฝานซืออิ๋งปฏิเสธโดยสัญชาตญาณ “ข้า ข้าเปล่านะ...”“ถ้าเจ้าต้องการหลักฐาน ข้าก็มีพยานเหลือเฟือ!”“แม่นมสาวใช้ในจวน อาจารย์ที่สอนบัญชีให้เจ้า ลูกค้าของที่ร้าน ข้าล้วนสามารถเชิญมาได้!”น้ำเสียงของซ่งเยี่ยนโจวไม่เร็วไม่ช้า แต่กลับไม่เปิดช่องให้ฝานซืออิ๋งแก้ตัวแม้แต่น้อยฝานซืออิ๋งรู้สึกว่าหนังศีรษะชาหนึบ หลังจากแต่งงานมา ซ่งเยี่ยนโจวคร้านจะสนใจนาง แม้แต่คำพูดยังคร้านจะพูดด้วย ย่อมไม่มีทางมาถือสาหาความจนกระทั่งบัดนี้ นางจึงนึกขึ้นได้ว่าซ่งเยี่ยนโจวเดิมก็เป็นคนละเอียดรอบคอบเช่นนี้เองหากเขาตัดสินใจจะจัดการนางแล้ว ด้วยความสามารถของนางไม่สามารถรับมือได้เลย!คนทั้งหลายเห็นใบหน้าซีดเผือดของฝานซืออิ๋งก็เข้าใจแล้ว ที่แท้ฝานซืออิ๋งก็ใส่ร้ายซ่งรั่วเจินกับตระกูลซ่งมาโดยตลอดหรือนี่?“ฝานซืออิ๋งกลับดำเป็นขาวเช่นนี้ทำกันเกินไปแล้ว ซ่งรั่วเจินไม่ได้เอาเรื่องเอาราวกับนางด้วยซ้ำ แต่นางยังคิดจะมาใส่ร้ายซ่งเยี่ยนโจว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 192

    “ซวงซวง เจ้าอย่าลดตัวไปเถียงกับนางเลย นางเป็นหญิงปากร้าย!”หลินจือเยว่ดึงฉินซวงซวงมาไว้ข้างหลัง มองซ่งรั่วเจินด้วยสายตาเย็นชา “เป็นสาวเป็นนางควรอ่อนโยนอ่อนหวานถึงจะถูก มาทำตาต่อตาฟันต่อฟันเจ้าคิดเจ้าแค้นเช่นนี้ดีตรงไหน?”โป๊ก!ซ่งรั่วเจินกำลังจะเอ่ยปาก แต่ได้ยินเสียงดังขึ้นกะทันหัน ตามด้วยเห็นหลินจือเยว่ถูกตีเข้าที่หน้า เรี่ยวแรงหนักหน่วงกระแทกเขาถอยหลังไปอย่างไม่อาจควบคุมจนถลาไปชนฉินซวงซวง“กรี๊ด!”ฉินซวงซวงอุทานด้วยความตกใจแล้วล้มลงบนพื้นอย่างหมดรูป มือข้างหนึ่งคว้าหลินจือเยว่เอาไว้จนล้มกลิ้งลงไปทั้งคู่“ใคร?”หลินจือเยว่ผุดขึ้นยืนด้วยความโมโห ใบหน้าถูกตีจนบวมปูด ในมือถือจี้หยกชิ้นหนึ่ง ท่าทางเดือดดาลสุดระงับ“ข้าเอง”ริมฝีปากบางของซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยออกมา น้ำเสียงเย็นชาดุจใบมีดเย็นเฉียบ ดวงตาลึกล้ำทอประกายคมกริบ“หลินจือเยว่ ที่ผ่านมาข้าเห็นเจ้าเป็นสหาย เคยช่วยเจ้าในสนามรบหลายครั้งก็เพราะเชื่อว่าเจ้าจะไม่ผิดต่อน้องสาวข้า”“ตอนนี้เจ้ากลับรังแกน้องสาวข้าเพื่อหญิงอื่น ทำให้ช่วงวัยแรกแย้มอันล้ำค่าของนางต้องสูญเปล่า ต่อให้เจ้าคุกเข่าขอโทษก็ยังไม่หายแค้น เจ้ายังกล้ามาตำหนินางอีก?”

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 994

    ฉู่จวินถิงสังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของซ่งรั่วเจิน ไหวพริบบ่งบอกว่ามีปัญหาซ่งรั่วเจินส่ายหน้าเบาๆ “เพียงแต่ได้ยินจงเฟยพูดเรื่องบูชาเซียนโบตั๋นจึงรู้สึกแปลกอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าใช่เซียนโบตั๋นที่หม่อมฉันรู้จักหรือไม่”นางเคยได้ยินเรื่องเซียนโบตั๋นมาก่อน เป็นสิ่งที่สตรีบูชาจริง เซียนบุปผา มีสรรพคุณช่วยคืนความอ่อนเยาว์ เพียงแต่ภายในนี้กลับมีเคล็ดลับบางอย่าง ทำให้คนเสพติดอย่างง่ายดาย สุดท้ายลุ่มหลงจนยากจะถอนตัวขึ้นมาได้ ไม่ใช่เรื่องที่ดีหากเป็นคนฝีมือโหดเหี้ยม ก็สามารถใช้ของสิ่งนี้แลกเปลี่ยนโชคชะตาได้ น่ากลัวอย่างมากจงเฟยมีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ ตนเองเก็บไว้บูชาเองก็พอ ทว่านางกลับนำมามอบให้ฮองเฮา แปลกเกินไปแล้วกระมัง“พูดให้ฟังเถอะ”ฉู่จวินถิงกลับไม่รีบร้อนจากไป เอียงหูฟัง รอฟังคำพูดของว่าที่ฮูหยินอย่างอารมณ์ดีแท้จริงแล้ว ไม่ว่าเจินเอ๋อร์พูดอะไร เขาล้วนอยากฟัง“หม่อมฉันเคยเห็นเซียนโบตั๋นมาก่อน ทำให้สตรีงดงามอ่อนเยาว์ผ่านการบูชาอาหาร หากจริงใจมากเพียงพอ ยังสามารถใช้เลือดเป็นเครื่องบูชาได้ ผลลัพธ์ดีมากนัก”“เพียงแต่จะทำให้สตรีลุ่มหลง กลายเป็นรีบร้อนอยากได้ผลลัพธ์ จากนั้นยากจะถอนตัวขึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 993

    วังหลังวันนี้ซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงเข้าวังไปขอบพระทัยความเมตตาด้วยกัน คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นความครึกครื้นทั้งภายในภายนอกตำหนักของฮองเฮายังไม่ทันเข้าไปก็ได้ยินเสียงตวนเฟยดังออกมาจากภายใน“ระยะนี้น้องหญิงจงเฟยงดงามมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว คนเองก็สดใสมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่ง ข้าถามนางว่าใช้เคล็ดลับอะไร นางก็ไม่ยอมบอกข้า ต่อมาข้ายังเห็นด้วยตนเอง”ตวนเฟยมองเซียนโบตั๋นข้างห้องบรรทมของฮองเฮาแวบหนึ่ง สายตาสะท้อนแววละโมบ“ที่แท้นางก็ตั้งใจขอเซียนโบตั๋นจากพระผู้ทรงศีล เพื่อรักษาความเยาว์วัยของสตรี ทำให้งดงามมีเสน่ห์!”เพียงถ้อยคำนี้พูดออกมา สนมคนอื่นก็ตาร้อนผ่าว ความเปลี่ยนแปลงของจงเฟยในระยะนี้ พวกนางล้วนเห็นอยู่ในสายตา ฝ่าบาทเองก็ประทับค้างแรมกับจงเฟยที่นั่นติดต่อกันหลายคืน ใครจะไม่อิจฉากันเล่า?สนมภายในวังมีไม่น้อย พวกเขาทำเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ปกติทำทุกวิธี ก็ไม่แน่ว่าจะได้ผลบัดนี้ได้เห็นจงเฟยได้รับความโปรดปรานมากขึ้นทุกที แต่ละคนร้อนใจจนแทบทนไม่ไหว“เดิมทีคิดว่าจงเฟยจะซ่อนไว้ คิดไม่ถึงเลยว่ายังมอบให้ฮองเฮาอีกด้วย น้องหญิงจงเฟยจริงใจต่อฮองเอาจริงๆ!

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 992

    “บัดนี้ข้าและองค์หญิงเพียงแต่มีปัญหากันเล็กน้อยเท่านั้น รอข้าไปอธิบายให้ชัดเจน ทั้งหมดย่อมกลับมาเป็นเหมือนเดิม”เสิ่นหวยอันพูดอย่างมีเหตุผล ชนิดที่ว่าหน้าตายังเผยแววลำพองใจ “เจ้าคิดดูให้ดี หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก่อเรื่องพรรค์นี้ขึ้นมา ป่านนี้คงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว”“ส่วนข้า ก็แค่ถูกโบย สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างว่องไว หรือเจ้าไม่เข้าใจความหมายกันเล่า?”“ตกลงเจ้าจะพูดอะไร?” เสิ่นจวินเจ๋อหรี่ตาลง สังเกตเห็นปัญหาแล้ว เสิ่นหวยอันมั่นใจในตนเองเกินไป“เหตุที่องค์หญิงทำเช่นนี้ ก็เพราะหึงหวงเท่านั้น” เสิ่นหวยอันหัวเราะเบาๆ ลูบแต่งผมและพูด “องค์หญิงมีจิตปฏิพัทธ์ต่อข้า เพียงแต่เห็นซ่งปี้อวิ๋นอยู่ข้างกายข้ามาโดยตลอด เข้าใจผิดคิดว่าข้าและนางมีความสัมพันธ์กัน นี่ถึงเป็นเช่นนี้”“ระหว่างสตรีย่อมหนีไม่พ้นความหึงหวง นี่คือเรื่องธรรมดาอย่างมาก เพียงแต่องค์หญิงอารมณ์รุนแรงอยู่บ้าง นี่ถึงโบยข้า”“หากไม่รัก นางก็คงไม่โมโหถึงเพียงนี้ เจ้าเข้าใจหรือไม่?”เสิ่นจวินเจ๋อชะงักไปในทันใด ครู่ต่อมาคิดว่าสายตาของฉู่มู่เหยาไม่น่าจะแย่ถึงเพียงนี้ เพียงแต่ลองคิดดูแล้วเขาก็เริ่มไม่มั่นใจเพราะเสิ่นหวยอันมั่นใจในตน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 991

    ได้ยินคำพูดของอวิ๋นเฉิงเจ๋อ ภายในสายตาอวิ๋นเนี่ยนชูเปี่ยมความแปลกใจ มากที่สุดคือต้องการรู้เหตุผลทั้งหมดตกลงเป็นเพราะอะไร?เพราะเหตุใดหลายปีมานี้ ทั้งๆ ที่นางแสดงความชอบของตนออกมาไม่ใช่เพียงครั้งเดียว ทว่าญาติผู้พี่กลับหลบเลี่ยงนางมาโดยตลอด นางต้องการคำตอบหนึ่ง กลับไม่ได้รับทั้งๆ ที่ดีต่อนางถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่ภายในใจมีนางมาโดยตลอด เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?อวิ๋นเฉิงเจ๋อเอ่ยปากพูดเสียงขมปร่า นี่ถึงพูดความคิดที่เก็บซ่อนไว้ภายในใจตลอดหลายปีมานี้ออกมา...อวิ๋นเนี่ยนชูได้ยินทั้งหมดนี้ สายตาสะท้อนแววเหลือจะเชื่อ ยากจะเชื่อได้ว่าทั้งหมดนี้ถึงขั้นยังมีเรื่องที่นางไม่รู้มากถึงเพียงนี้“ดังนั้น...พวกเราไม่ใช่ญาติพี่น้องแท้ๆ?”อวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด นี่คือเรื่องที่นางไม่เคยรู้ หลายปีมานี้ญาติผู้พี่ก็ไม่เคยพูดมาก่อนอวิ๋นเฉิงเจ๋อพยักหน้า “ปีนั้นข้าถูกทิ้งไว้ที่ประตูเรือนด้านหลัง หากไม่ใช่ท่านแม่ใจดีรับเลี้ยงข้า ข้าคงตายไปตั้งนานแล้ว...”หลายปีมานี้เขาเคยคิดอยู่หลายค่ำคืน บิดามารดาแท้ๆ ของเขาเป็นใคร เหตุใดต้องทิ้งเขา บางครั้งก็เกลี้ยกล่อมตนเอง คิดถึงปัญหาเหล่านี้ไปล้วนไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 990

    เพียงเอ่ยปาก โทสะทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมาแล้วความเจ็บปวดและอึดอัดใจที่สั่งสมอยู่ภายในใจล้วนระเบิดออกมาในเวลานี้อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินอวิ๋นเนี่ยนชูพูดเช่นนี้เป็นครั้งแรก มองนางตวาดถามไล่เรียงตนเอง ภายในใจเปี่ยมความรู้สึกผิด“ขอโทษ ล้วนเป็นความผิดของข้า”เห็นสายตาเปี่ยมความรู้สึกผิดของฝ่ายชาย อวิ๋นเนี่ยนชูตาแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “เดิมทีทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของท่านอยู่แล้ว! เหตุใดท่านไม่บอกข้าเร็วสักหน่อย ท่านรู้ว่าหลายปีมานี้ข้าฝืนได้ลำบากมากเพียงใดหรือไม่?”“ในเมื่อท่านไม่พูดมาโดยตลอด เหตุใดไม่เก็บเอาไว้ชั่วชีวิตเล่า?”น้ำตานางไหลลงมา ตลอดหลายปีมานี้ไม่ตอบรับความรู้สึกนาง นี่ทุกข์ใจมากเพียงใด?นางอยากบริภาษเขาแรงๆ อยากทุบตีเขา ชนิดที่ว่าอยากไม่สนใจเขาอีก ทำให้เขาเสียใจภายหลังไปชั่วชีวิตเพียงแต่ ยามได้เห็นของเหล่านั้นที่เขาซ่อนไว้ภายในห้อง รวมถึงภาพเหมือนของนางที่วาดไว้นับไม่ถ้วนยามค่ำคืน นางก็อยากร้องให้อย่างอดไม่ได้...“เป็นความผิดของข้าเอง ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้า เจ้าตีข้าด่าข้าโทษข้า ล้วนสมควรทั้งสิ้น”อวิ๋นเฉิงเจ๋อสืบเท้าขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ภายในสายตาเปี่ยมความเอ็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 989

    “อะไรนะ?” อวิ๋นเนี่ยนชูชะงัก ภายในสายตาสะท้อนความตกตะลึงทั้งๆ ที่ตลอดมาล้วนเป็นนางตอแยญาติผู้พี่หากไม่ใช่เพราะหลายปีมานี้นางทำเช่นนี้มาโดยตลอด คาดว่าญาติผู้พี่ก็คงไม่ชอบนาง ทว่าได้ยินคำพูดของมารดาแล้ว เหตุใดญาติผู้พี่ถึงผลักทั้งหมดนี้ลงบนศีรษะของเขาเล่า?“เฉิงเจ๋อพูดว่าเขาพยายามสอบสร้างผลงานก็เพื่อจะได้คู่ควรกับเจ้า จะได้มีโอกาสสู่ขอเจ้า”“หากเปลี่ยนเป็นในอดีต ข้าจะต้องไม่เห็นด้วยที่พวกเจ้าคบหากัน บัดนี้ผ่านเรื่องมามากถึงเพียงนี้ ความคิดของแม่ก็เปลี่ยนไปไม่น้อย”“หากเจ้าชอบเฉิงเจ๋อจริง ข้าเองก็ไม่คัดค้าน แต่หากเจ้าไม่ชอบ...”สีหน้าจางเหวินสับสน ก่อนหน้านี้เคยเห็นท่าทางของเด็กทั้งสอง ไม่ว่ามองอย่างไรเนี่ยนชูก็ไม่คล้ายไม่ชอบเฉิงเจ๋อ“ข้าชอบญาติผู้พี่เจ้าค่ะ” อวิ๋นเนี่ยนชูตอบอย่างไม่ลังเล “ข้าชอบญาติผู้พี่มาโดยตลอด”มองเห็นท่าทางมุ่งมั่นของลูกสาว จางเหวินรู้สึกเอือมระอาระคนโชคดีอยู่บ้าง “ช่างแล้วๆ น้ากู้ของเจ้าพูดถูกแล้ว ลูกหลานมีความสุขของลูกหลาน พวกเจ้าคบหากันก็เป็นพวกเจ้าสร้างขึ้น”“แม้ว่าปีนั้นเฉิงเจ๋อทำไม่ถูก ไม่สมควรเกิดความคิดต่อเจ้า แต่ข้าล้วนเห็นความพยายามของเขาตลอดหลา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 988

    ยิ่งไปกว่านั้น ขอเพียงเขาพยายาม เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องมีอนาคตแน่ตระกูลตกต่ำ บิดามารดาจากไปก่อนวัยอันควร เดิมทีเขาก็เป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจตายที่ข้างถนนตั้งนานแล้ว บัดนี้ไม่เพียงมีข้าวกิน มีเสื้อผ้าสวมใส่ ท่านน้ายังเชิญอาจารย์มาสอนหนังสือเขา เขาไม่มีวันอกตัญญูเขาคิด...รออีกหน่อย รอจนเขามีความสามารถ รอจนเขาฉายแววโดดเด่น บางทีอาจมีโอกาสขอท่านน้าแต่งงานกับเนี่ยนชูทว่า ขณะเขากำลังตรากตรำร่ำเรียนอยู่นั้น ในที่สุดก็ได้รับคำชมจากอาจารย์ ได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง อาจารย์ของสำนักศึกษาหลวงเองก็ชื่นชมว่าเขาจะต้องมีโอกาสสอบผ่านขุนนางแน่ ตอนเขาคิดว่าตนเองอาจจะสามารถตอบรับความรู้สึกของเนี่ยนชูได้ กลับได้ยินท่านน้าและแม่นมพูดสนทนากันที่แท้...เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของบิดามารดาลูกของมารดาตายไปตั้งนานแล้ว ส่วนเขาคือเด็กที่วันนั้นถูกทิ้งไว้หน้าประตูเรือนด้านหลังของมารดาเดิมทีมารดาก็ยากจะยอมรับความเจ็บปวดได้ อีกทั้งยังสงสารเขา หมอพูดว่าร่างกายนางเสียหาย ภายภาคหน้ายากจะมีลูกได้อีก นี่ถึงรับอุปการะเขา ประกาศต่อโลกภายนอกว่าเขาเป็นลูกของตนเขาเป็นแค่เด็กถูกทิ้งคนหนึ่ง เศษสวะที่ไม่ยอมหนาว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 987

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ข้าเคยไม่สนับสนุนเจ้าตั้งแต่ยามใด? แต่ไหนแต่ไรมาข้าล้วนสนับสนุนการตัดสินใจของเจ้า”ก่อนหน้านี้นางทำนายมาก่อนแล้ว ภายในเรื่องนี้มีเงื่อนงำซ่อนอยู่มากมาย อวิ๋นเฉิงเจ๋ออ่อนแอเกินไปสำหรับเรื่องนี้ ไม่มีความรับผิดชอบมากเพียงพอเพียงแต่ หากไม่เคยผ่านความทุกข์ของผู้อื่น ก็ไม่สามารถตัดสินตามใจได้อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลายเป็นเช่นนี้ ย่อมหนีไม่พ้นประสบการณ์ที่เขาเคยเจอมาในช่วงหลายปีมานี้เรื่องเดียวกัน บางคนมีความรับผิดชอบที่แข็งแกร่งมาก ไม่ได้รับผลกระทบใด แต่บางคนคิดอ่านอย่างละเอียด ยากจะสามารถรับได้ใต้หล้ากว้างใหญ่ รวมทุกสรรพสิ่งไว้แล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะตนเอง นางย่อมไม่วู่วามสอดมือเข้าไปอวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มกว้าง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์เป็นเช่นไรข้าก็ไม่ใส่ใจแล้ว หากไม่พูดเรื่องนี้ออกมา ข้าจะต้องเสียใจภายหลังแน่”“ตอนนี้ท่านป้าจ้างกำลังอยู่กับท่านแม่ข้า รอกลับไปแล้วค่อยหาโอกาสพูดเถอะ”ซ่งรั่วเจินจิกนิ้วทำนาย ภายในสายตาเผยแววประหลาดใจ เปลี่ยนคำพูด “ดูท่าแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดออกจากปากของตนแล้วล่ะ”อวิ๋นเนี่ยนชูสงสัย “หมายความว่าอะไร?”“ญาติผู้พี่เจ้าพูด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 986

    ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status