แชร์

บทที่ 370

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
“ก่อนหน้านี้เจ้าข้าเคยพบกันมาก่อน เจ้ายังจำได้หรือไม่?”

เมิ่งชิ่นสบมองซ่งรั่วเจินอย่างกระตือรือร้น “เมื่อแรกตอนข้าเห็นเจ้ายังคิดว่าเจ้าอุปนิสัยอ่อนโยนมาก ไม่คล้ายคนเกิดในจวนแม่ทัพอย่างพวกเรา”

“วันนี้เพียงได้เห็นกลับคิดว่าเป็นก่อนหน้านี้ข้ามองผิดไปแล้ว เจ้าไม่อ่อนโยนอ่อนแอเลยแม้แต่น้อย ต่อสู้กับคนขึ้นมาร้ายกาจยิ่งกว่าข้าเสียอีก!”

ซ่งรั่วเจิน “...” ช่างเป็นวิธีชมคนที่มีเอกลักษณ์โดยแท้

ชั่วขณะนี้ นางย้อนนึกถึงสถานการณ์ยามได้รู้จักเมิ่งชิ่นภายในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม

เมิ่งชิ่นมีอุปนิสัยร่าเริงไม่ยึดติด มีชื่อเสียงภายในเมืองหลวง แต่เพราะอุปนิสัยของเจ้าของร่างเดิมค่อนข้างอ่อนโยน กอปรกับปกติมีพวกพี่ชายปกป้องอยู่ตลอด ไม่จำเป็นต้องไปต่อสู้ด้วยตนเองทุกเรื่อง จึงชอบทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก เรื่องเล็กกลับทำให้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เมื่อแรกเจ้าของร่างเดิมถูกรังแก เมิ่งชิ่นตั้งใจออกมาช่วยนางพูด ทำเสียจนอีกฝ่ายพูดไม่ออก เตรียมให้คนชดใช้ จนใจเจ้าของร่างเดิมไม่อยากทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ตรงข้ามกันเกลี้ยกล่อมให้เมิ่งชิ่นยอมจบเรื่อง

นึกถึงจุดนี้ ซ่งรั่วเจินเพียงรู้สึกมากน้อยอย่างไรก็ไม่รู้ด
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 371

    “ข้าคร้านจะพูดกับเจ้าแล้ว!”เคอหยวนจื่อรู้จักนิสัยของเมิ่งชิ่นดี ทั้งที่เป็นสตรีแท้ๆ แต่กลับมีนิสัยราวบุรุษ หัวแข็งซะไม่มี!“รั่วเจิน เจ้ากับข้ารู้จักกันมาหลายปีขนาดนี้ เจ้าคิดว่าข้าจะทำร้ายเจ้างั้นหรือ?”คิ้วซ่งรั่วเจินเลิกขึ้นเล็กน้อย เคอหยวนจื่อเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าตนเองจะช่วยพูดให้? แค่เพราะว่านางทำให้พี่สี่ลุ่มหลงหัวปักหัวปำอย่างนั้นหรือ?“พี่สี่ของเจ้าคงใกล้จะกลับมาแล้วสินะ? เขามีนิสัยชัดเจนที่สุดแล้ว ข้ากับเจ้ารู้จักกันมาหลายปี แล้วจะทำร้ายเจ้าได้อย่างไร?”“ข้ากลับเห็นว่าเจ้ากำลังทำร้ายข้ามากกว่า ไม่อย่างนั้นก่อนหน้านี้ที่ซ่งปี้อวิ๋นล่วงเกินซื่อจื่อจนถูกขับไล่ไป เจ้าอยู่ด้วยก็รู้เห็นทั้งหมดเลยไม่ใช่หรือ?”“แล้วทำไมตอนที่พวกเขาถาม เจ้าไม่บอกว่าเจ้ากับซ่งปี้อวิ๋นก็อยู่ด้วย แต่พูดถึงแค่ข้าคนเดียว? เจ้าก็ลองอธิบายมาสิ ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่กันแน่”เคอหยวนจื่อเบิกตาโพลง ซ่งรั่วเจินบ้าไปแล้วหรือ? นี่คิดจะแตกหักกับนางหรือไร?นางไม่กลัวว่าซ่งจิ่งเซินจะตำหนินางเพราะเรื่องนี้งั้นหรือ?สิ้นเสียงซ่งรั่วเจิน ทุกคนจึงทราบว่าขณะที่ซ่งรั่วเจินสนทนากับซื่อจื่อ เคอหยวนจื่อก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 372

    “คนที่ถูกทำร้ายคือข้า คนที่ถูกเข้าใจผิดก็คือข้า พอถูกเจ้าพูดแบบนี้กลับเหมือนข้าไปรังแกเจ้าอย่างนั้นแหละ”ซ่งรั่วเจินเปิดโปงโดยไม่เกรงใจแม้แต่น้อย น้ำเสียงแฝงความเจ็บช้ำใจและความงุนงงสงสัย ไม่ได้คาดคั้น ไม่ได้ก้าวร้าวคุกคามคนอื่น แต่เหมือนไม่เข้าใจสหายที่รู้จักกันมานานปีมากกว่าชั่วขณะนี้คนรอบข้างจึงเพิ่งเข้าใจแจ่มแจ้งประหนึ่งได้รับน้ำทิพย์เบิกปัญญา สายตาที่มองไปทางเคอหยวนจื่อก็เปลี่ยนเป็นแปลกประหลาดขึ้นมา พวกเขาเกือบจะถูกชักจูงให้เข้าใจผิดเสียแล้ว!“จริงด้วย แม่นางซ่งไม่ได้พูดอะไรเสียหน่อย เดิมก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดที่เคอหยวนจื่อไม่พูดให้ชัดเจน ทำไมตอนนี้ถึงทำเหมือนถูกนางกดดันให้คุกเข่าอีกเล่า?”“ถ้าคุกเข่าลงไปจริง คงกลายเป็นว่าซ่งรั่วเจินกับเมิ่งชิ่นรังแกนางจริงๆ แล้ว จุ๊ๆ”ความดูแคลนวาบผ่านดวงตาซ่งรั่วเจิน เล่ห์เหลี่ยมที่ตัวเองหาคำมาอธิบายไม่ได้ก็คิดจะถอยเพื่อรุกหาเรื่องกลับแบบนี้ นางดูออกมาแต่แรกแล้ว!เคอหยวนจื่อก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าลูกไม้ที่ใช้ร้อยครั้งเห็นผลร้อยครานี้จะใช้ไม่ได้ผล ซ่งรั่วเจินมาตัดไฟต้นลมแบบนี้ ทำให้นางตกที่นั่งลำบากยิ่งกว่าเดิม“ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 373

    “ข้าไม่รู้เลยว่าสหายธรรมดาจะมอบของล้ำค่าขนาดนี้ให้กัน ที่บ้านเจ้าไม่เคยสอนเจ้าหรือว่าไม่อาจรับสิ่งของที่บุรุษทั่วไปมอบให้ หรือจะบอกว่าหากอยากเป็นสหายกับแม่นางเคอ จะต้องกำนัลเงินก้อนโตให้อีกด้วย?”“อย่างอื่นข้าไม่พูดถึงก็แล้วกัน แต่กำไลบนมือเจ้าวงนั้นเป็นสิ่งของที่แม่ข้าเก็บไว้ให้ว่าที่ลูกสะใภ้ พี่สี่ของข้าทะนุถนอมอย่างยิ่ง ยามนี้สวมอยู่บนข้อมือเจ้า เจ้ากลับบอกว่าพี่สี่ของข้าเป็นแค่สหาย?”เมิ่งชิ่นจุ๊ปากทอดถอนใจ “เครื่องประดับที่เจ้าประโคมใส่บนร่างล้วนได้มาจากคุณชายสี่สกุลซ่ง ถ้าบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน เกรงว่าคงไม่มีใครเชื่อกระมัง?”“ข้า ข้าไม่รู้ ก่อนหน้านี้เป็นเขาอยากให้ข้ามาเอง ข้าไม่รับ เขาก็วางของไว้แล้ววิ่งหนีไป ข้ากลัวว่าจะทำร้ายจิตใจเขาถึงได้ฝืนใจรับไว้”เคอหยวนจื่อสุดจะระงับโทสะในใจ ไม่เพียงแต่ขุ่นเคืองซ่งรั่วเจิน แม้แต่ซ่งจิ่งเซินก็ยังพลอยโกรธเคืองไปด้วยแม้แต่น้องสาวตัวเองก็ยังจัดการไม่ได้ ปล่อยให้นางบังอาจมาคาดคั้นตนเอง รอจนซ่งจิ่งเซินกลับมาแล้ว นางจะต้องไปคิดบัญชีนี้กับเขาแน่นอน!“ฝืนใจขนาดนั้นเชียว? พี่สี่ของข้าจะทำให้คนอื่นลำบากใจเกินไปแล้ว? ถึงได้บังคับให้เจ้ารับขอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 374

    “ความอัปยศที่เจ้าทำกับข้าในวันนี้ ข้าจดจำไว้แล้ว!”เคอหยวนจื่อเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ต่อหน้าธารกำนัลแบบนี้ นางโมโหจนกินอาหารในงานเลี้ยงต่อไปไม่ลงแล้วควรรู้ว่าในจำนวนนี้มีคนไม่น้อยที่ก่อนหน้านี้อิจฉานาง ตอนนี้กลับดีนัก แต่ละคนล้วนดูเรื่องน่าอับอายของนาง ไม่รู้กลับไปแล้วจะเอานางไปพูดอย่างไรบ้าง!ซ่งรั่วเจินกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “เอาสิ ในเมื่อความจำของแม่นางเคอดีขนาดนี้ เช่นนั้นก็คืนทุกอย่างมาให้หมดเลยก็แล้วกัน ข้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยไปทวงทีละอย่าง”“ความจำของข้าไม่ดีเท่าไร อาจตกหล่นไปบ้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ท่านไม่เหมือนกัน สิ่งของที่คนอื่นให้มากับสิ่งของของตัวเองก็คงจะแยกออกสินะ”“ต่างหูที่ท่านสวมอยู่...เหมือนจะเป็นสิ่งของของสกุลซ่งของข้าเหมือนกันนะ?”สิ้นเสียงซ่งรั่วเจิน ใบหน้าของเคอหยวนจื่อก็ยิ่งแดงจัดจนแทบจะหยดเลือดลงมาได้ต่อหน้าสายตาทุกคน เห็นนางถอดเครื่องประดับลงมาทีละชิ้น จากก่อนหน้านี้ที่แต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศมาตอนนี้ตัวเปล่าล่อนจ้อน ทุกคนจึงตระหนักถึงความจริงข้อหนึ่งเครื่องประดับบนตัวเคอหยวนจื่อทุกชิ้นเป็นสิ่งที่ซ่งจิ่งเซินให้มาหมดเลยหรือนี่?“สวรรค์ เครื่องประดับมา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 375

    “นอกจากนี้ ข้าคิดว่าเคอหยวนจื่อยังเป็นคนร้ายกาจไม่ใช่เล่น เกรงว่ากอบโกยผลประโยชน์ไปจนหมดสิ้นแล้ว สุดท้ายความพยายามของพี่สี่ของเจ้าก็คงสูญเปล่าอยู่ดี”“ถึงอย่างไรก็ต้องผิดใจกัน มิสู้ทำแบบที่ตัวเองสบายใจหน่อยดีกว่าจริงไหม?” ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วพลางยิ้มเมิ่งชิ่นก็ยิ้มออกมาอย่างอดไม่อยู่ “ข้าชอบนิสัยนี้ของเจ้าจริงๆ มาวันนี้ได้รู้จักสหายแบบเจ้านับว่าคุ้มค่าแล้ว!”ซ่งรั่วเจินเองก็ดีใจมากเหมือนกันที่ได้รู้จักสหายที่ควรค่าแก่การคบหาคนหนึ่ง เห็นหว่างคิ้วของเมิ่งชิ่นแลดูหม่นหมองรำไรก็หยิบยันต์คุ้มภัยแผ่นหนึ่งส่งไปให้“วันนี้ขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยข้าคลี่คลายสถานการณ์ ยันต์คุ้มภัยแผ่นนี้ข้าให้เจ้า ถ้าเจ้าเชื่อใจข้า พรุ่งนี้จะต้องพกพามันไว้กับตัว”เมิ่งชิ่นรับยันต์คุ้มภัยมาอย่างงุนงง เดิมทีอยากพูดว่าตนเองไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ แต่พอคิดถึงชื่อเสียงซ่งรั่วเจินที่ได้ยินมาช่วงนี้จึงรับมาอย่างทะนุถนอมยิ่ง“ขอบคุณ ข้าจะพกมันไว้กับตัวอย่างดีเลยล่ะ”อาหารจัดเลี้ยงในจวนเซียงอ๋องย่อมดีเลิศอยู่แล้ว เมื่อไม่มีคนที่ตนเองเกลียด ซ่งรั่วเจินก็กินอย่างเบิกบานใจมากระหว่างนั้นได้ยินเรื่องซุบซิบมาเล็กน้อย ในนั้นม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 376

    เมื่องานเลี้ยงราตรีถึงคราวเลิกรา ซ่งรั่วเจินกับเมิ่งชิ่นก็กลายเป็นเพื่อนสาวที่สนิทสนมกัน ถึงขั้นนึกแค้นใจที่เจอกันช้าไปเลยทีเดียว“รั่วเจิน พรุ่งนี้ข้าต้องไปไหว้พระกับท่านแม่ อีกสองวันข้าค่อยไปหาเจ้าที่บ้านเจ้าก็แล้วกัน” เมิ่งชิ่นกล่าว“ตกลง ข้าจะรอเจ้า” ซ่งรั่วเจินพยักหน้าแล้วว่า “ยันต์คุ้มภัยที่ข้าให้เจ้าไปจะต้องพกติดตัวไว้ให้ดี ห้ามยกให้ใครทั้งนั้น”เวลานั้นเอง เสียงหลิ่วหรูเยียนก็ดังขึ้นมา “เจินเอ๋อร์ เตรียมตัวกลับจวนได้แล้ว”หลิ่วหรูเยียนเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เห็นได้ชัดว่าคืนนี้พูดคุยกับพระชายาเซียงอ๋องและต่งฮูหยินอย่างเพลิดเพลิน ส่วนเรื่องช่วยขอร้องแทนสกุลซุน นางก็ไม่เอ่ยถึงอย่างรู้กาลเทศะยิ่งนักในงานเลี้ยง สวี่ชิงเหมยทราบความสัมพันธ์ระหว่างหลิ่วหรูเยียนกับสกุลซุน เข้าใจว่าหลิ่วหรูเยียนไม่สะดวกจะเอ่ยปาก นางจึงเลียบเคียงถามให้อย่างอ้อมๆเห็นว่าเพียงเอ่ยถึงสกุลซุน พระชายาเซียงอ๋องก็มีสีหน้าบึ้งตึง คนทั้งสองก็เข้าใจแจ่มแจ้งว่าเรื่องนี้ไม่มีโอกาสแก้ไขได้แล้ว ต่อให้พูดขึ้นมาก็มีแต่จะทำให้หมางใจกันเปล่าๆแม้ว่าหลิ่วเฟยเยี่ยนจะเป็นน้องสาวของนาง แต่นางยังเป็นมารดาคนหนึ่ง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 377

    ใบหน้าของเคอหยวนจื่อเต็มไปด้วยโทสะจากความอับอายและความหัวเสีย ราวกับปวดใจเสียเต็มประดา ในใจกลับลอบกระหยิ่มยิ้มย่อง แม้แต่สวรรค์ก็ยังช่วยเหลือนางจริงๆ!ก่อนหน้านี้ซ่งรั่วเจินก็บอกว่าซ่งจิ่งเซินยังไม่กลับมา คิดว่าคงเพิ่งเดินทางกลับมาถึงก็มาหานางอย่างอดรนทนไม่ไหวแล้ว!นางเข้าใจนิสัยของซ่งจิ่งเซินดี ขอแค่นางบอกว่าต่อไปไม่ยอมเจอเขาอีก เขาจะต้องร้อนใจมาก แล้วก็คงจะพลอยโกรธและตำหนิซ่งรั่วเจิน!ความอัปยศที่ได้รับกลางงานเลี้ยงในวันนี้ ยามนี้จะสนองคืนนางคนชั้นต่ำนั่นไปให้หมด จะต้องทำให้นางขอโทษตนเองต่อหน้าผู้คนมากมายให้ได้เลยเชียว!ทว่าซ่งจิ่งเซินมองสตรีตรงหน้าแล้วกลับขมวดคิ้วขึ้นมาชวีคั่วได้ฟังเคอหยวนจื่อฟ้องทุกข์มาแล้ว เดิมก็เจ็บแค้นแทนนาง ยามนี้ซ่งจิ่งเซินที่เป็นตัวต้นเหตุกลับมาแล้ว สีหน้าก็พลันบึ้งตึงขึ้นมาทันที“ซ่งจิ่งเซิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าสร้างปัญหาให้แม่นางเคอมากขนาดไหน? ให้สิ่งของเล็กน้อยมาแล้วยังส่งน้องสาวมาทวงคืนอีก เจ้าทำให้ผู้ชายทุกคนขายหน้าหมดแล้ว!”พวกซ่งรั่วเจินเดินออกมาเห็นภาพนี้เข้าพอดี“จิ่งเซิน?”ความประหลาดใจวาบผ่านดวงตาหลิ่วหรูเยียน หากที่มากกว่านั้นคือความยิน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 378

    “ถ้าข้ารู้ว่าน้องสาวของท่านไม่เห็นด้วย ข้าไม่มีทางรับไว้แน่นอน ท่านวางใจได้ หลังข้ากลับไปแล้วจะนำสิ่งของที่ท่านให้ข้ามาก่อนหน้านี้ส่งคืนให้จวนสกุลซ่งทั้งหมด”เคอหยวนจื่อแสร้งเช็ดน้ำตาด้วยความปวดใจ แม้จะเจ็บช้ำใจมาก แต่ก็ยังมีศักดิ์ศรี “รั่วเจินไม่ชอบข้า ข้าอธิบายอย่างไรก็ไร้ประโยชน์ แต่ข้าหวังว่าท่านจะรู้ว่าข้าไม่ใช่คนที่โลภมากในของพวกนี้!”“ข้าให้อะไรเจ้าไปเยอะขนาดนั้นเลยหรือ?” ซ่งจิ่งเซินถามเคอหยวนจื่อไม่ค่อยเข้าใจความหมายของซ่งจิ่งเซิน แต่ก็ยังพยักหน้า “ใช่แล้ว ท่านให้อะไรข้ามาเยอะเลย”“รอสักครู่ ขอข้านึกก่อน”ซ่งจิ่งเซินยกมือขึ้นตัดบทเคอหยวนจื่อที่ร่ำไห้พูดพร่ำ หัวคิ้วขมวดเข้าหากันมากขึ้นเรื่อยๆก่อนหน้านี้เขาตกลงไปในทะเล ศีรษะกระแทกแนวปะการังจนสูญเสียความทรงจำ ความทรงจำบางส่วนเพิ่งฟื้นคืนมาเมื่อไม่นานมานี้ คิดถึงเรื่องราวในอดีตขึ้นมาได้ แต่สตรีตรงหน้าคือใคร? นางกำลังพูดอะไรอยู่กันแน่?“ข้าให้สิ่งของเจ้าไปมากมาย เดิมทีเจ้าไม่อยากรับ แต่ไม่อยากให้ข้าเสียใจจึงฝืนใจรับไว้ วันนี้น้องหญิงห้าของข้าจึงบอกให้เจ้านำมาคืนใช่หรือไม่?” ซ่งจิ่งเซินถาม“ใช่แล้ว” เคอหยวนจื่อพยักหน้าอีกคร

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 994

    ฉู่จวินถิงสังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของซ่งรั่วเจิน ไหวพริบบ่งบอกว่ามีปัญหาซ่งรั่วเจินส่ายหน้าเบาๆ “เพียงแต่ได้ยินจงเฟยพูดเรื่องบูชาเซียนโบตั๋นจึงรู้สึกแปลกอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าใช่เซียนโบตั๋นที่หม่อมฉันรู้จักหรือไม่”นางเคยได้ยินเรื่องเซียนโบตั๋นมาก่อน เป็นสิ่งที่สตรีบูชาจริง เซียนบุปผา มีสรรพคุณช่วยคืนความอ่อนเยาว์ เพียงแต่ภายในนี้กลับมีเคล็ดลับบางอย่าง ทำให้คนเสพติดอย่างง่ายดาย สุดท้ายลุ่มหลงจนยากจะถอนตัวขึ้นมาได้ ไม่ใช่เรื่องที่ดีหากเป็นคนฝีมือโหดเหี้ยม ก็สามารถใช้ของสิ่งนี้แลกเปลี่ยนโชคชะตาได้ น่ากลัวอย่างมากจงเฟยมีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ ตนเองเก็บไว้บูชาเองก็พอ ทว่านางกลับนำมามอบให้ฮองเฮา แปลกเกินไปแล้วกระมัง“พูดให้ฟังเถอะ”ฉู่จวินถิงกลับไม่รีบร้อนจากไป เอียงหูฟัง รอฟังคำพูดของว่าที่ฮูหยินอย่างอารมณ์ดีแท้จริงแล้ว ไม่ว่าเจินเอ๋อร์พูดอะไร เขาล้วนอยากฟัง“หม่อมฉันเคยเห็นเซียนโบตั๋นมาก่อน ทำให้สตรีงดงามอ่อนเยาว์ผ่านการบูชาอาหาร หากจริงใจมากเพียงพอ ยังสามารถใช้เลือดเป็นเครื่องบูชาได้ ผลลัพธ์ดีมากนัก”“เพียงแต่จะทำให้สตรีลุ่มหลง กลายเป็นรีบร้อนอยากได้ผลลัพธ์ จากนั้นยากจะถอนตัวขึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 993

    วังหลังวันนี้ซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงเข้าวังไปขอบพระทัยความเมตตาด้วยกัน คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นความครึกครื้นทั้งภายในภายนอกตำหนักของฮองเฮายังไม่ทันเข้าไปก็ได้ยินเสียงตวนเฟยดังออกมาจากภายใน“ระยะนี้น้องหญิงจงเฟยงดงามมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว คนเองก็สดใสมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่ง ข้าถามนางว่าใช้เคล็ดลับอะไร นางก็ไม่ยอมบอกข้า ต่อมาข้ายังเห็นด้วยตนเอง”ตวนเฟยมองเซียนโบตั๋นข้างห้องบรรทมของฮองเฮาแวบหนึ่ง สายตาสะท้อนแววละโมบ“ที่แท้นางก็ตั้งใจขอเซียนโบตั๋นจากพระผู้ทรงศีล เพื่อรักษาความเยาว์วัยของสตรี ทำให้งดงามมีเสน่ห์!”เพียงถ้อยคำนี้พูดออกมา สนมคนอื่นก็ตาร้อนผ่าว ความเปลี่ยนแปลงของจงเฟยในระยะนี้ พวกนางล้วนเห็นอยู่ในสายตา ฝ่าบาทเองก็ประทับค้างแรมกับจงเฟยที่นั่นติดต่อกันหลายคืน ใครจะไม่อิจฉากันเล่า?สนมภายในวังมีไม่น้อย พวกเขาทำเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ปกติทำทุกวิธี ก็ไม่แน่ว่าจะได้ผลบัดนี้ได้เห็นจงเฟยได้รับความโปรดปรานมากขึ้นทุกที แต่ละคนร้อนใจจนแทบทนไม่ไหว“เดิมทีคิดว่าจงเฟยจะซ่อนไว้ คิดไม่ถึงเลยว่ายังมอบให้ฮองเฮาอีกด้วย น้องหญิงจงเฟยจริงใจต่อฮองเอาจริงๆ!

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 992

    “บัดนี้ข้าและองค์หญิงเพียงแต่มีปัญหากันเล็กน้อยเท่านั้น รอข้าไปอธิบายให้ชัดเจน ทั้งหมดย่อมกลับมาเป็นเหมือนเดิม”เสิ่นหวยอันพูดอย่างมีเหตุผล ชนิดที่ว่าหน้าตายังเผยแววลำพองใจ “เจ้าคิดดูให้ดี หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก่อเรื่องพรรค์นี้ขึ้นมา ป่านนี้คงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว”“ส่วนข้า ก็แค่ถูกโบย สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างว่องไว หรือเจ้าไม่เข้าใจความหมายกันเล่า?”“ตกลงเจ้าจะพูดอะไร?” เสิ่นจวินเจ๋อหรี่ตาลง สังเกตเห็นปัญหาแล้ว เสิ่นหวยอันมั่นใจในตนเองเกินไป“เหตุที่องค์หญิงทำเช่นนี้ ก็เพราะหึงหวงเท่านั้น” เสิ่นหวยอันหัวเราะเบาๆ ลูบแต่งผมและพูด “องค์หญิงมีจิตปฏิพัทธ์ต่อข้า เพียงแต่เห็นซ่งปี้อวิ๋นอยู่ข้างกายข้ามาโดยตลอด เข้าใจผิดคิดว่าข้าและนางมีความสัมพันธ์กัน นี่ถึงเป็นเช่นนี้”“ระหว่างสตรีย่อมหนีไม่พ้นความหึงหวง นี่คือเรื่องธรรมดาอย่างมาก เพียงแต่องค์หญิงอารมณ์รุนแรงอยู่บ้าง นี่ถึงโบยข้า”“หากไม่รัก นางก็คงไม่โมโหถึงเพียงนี้ เจ้าเข้าใจหรือไม่?”เสิ่นจวินเจ๋อชะงักไปในทันใด ครู่ต่อมาคิดว่าสายตาของฉู่มู่เหยาไม่น่าจะแย่ถึงเพียงนี้ เพียงแต่ลองคิดดูแล้วเขาก็เริ่มไม่มั่นใจเพราะเสิ่นหวยอันมั่นใจในตน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 991

    ได้ยินคำพูดของอวิ๋นเฉิงเจ๋อ ภายในสายตาอวิ๋นเนี่ยนชูเปี่ยมความแปลกใจ มากที่สุดคือต้องการรู้เหตุผลทั้งหมดตกลงเป็นเพราะอะไร?เพราะเหตุใดหลายปีมานี้ ทั้งๆ ที่นางแสดงความชอบของตนออกมาไม่ใช่เพียงครั้งเดียว ทว่าญาติผู้พี่กลับหลบเลี่ยงนางมาโดยตลอด นางต้องการคำตอบหนึ่ง กลับไม่ได้รับทั้งๆ ที่ดีต่อนางถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่ภายในใจมีนางมาโดยตลอด เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?อวิ๋นเฉิงเจ๋อเอ่ยปากพูดเสียงขมปร่า นี่ถึงพูดความคิดที่เก็บซ่อนไว้ภายในใจตลอดหลายปีมานี้ออกมา...อวิ๋นเนี่ยนชูได้ยินทั้งหมดนี้ สายตาสะท้อนแววเหลือจะเชื่อ ยากจะเชื่อได้ว่าทั้งหมดนี้ถึงขั้นยังมีเรื่องที่นางไม่รู้มากถึงเพียงนี้“ดังนั้น...พวกเราไม่ใช่ญาติพี่น้องแท้ๆ?”อวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด นี่คือเรื่องที่นางไม่เคยรู้ หลายปีมานี้ญาติผู้พี่ก็ไม่เคยพูดมาก่อนอวิ๋นเฉิงเจ๋อพยักหน้า “ปีนั้นข้าถูกทิ้งไว้ที่ประตูเรือนด้านหลัง หากไม่ใช่ท่านแม่ใจดีรับเลี้ยงข้า ข้าคงตายไปตั้งนานแล้ว...”หลายปีมานี้เขาเคยคิดอยู่หลายค่ำคืน บิดามารดาแท้ๆ ของเขาเป็นใคร เหตุใดต้องทิ้งเขา บางครั้งก็เกลี้ยกล่อมตนเอง คิดถึงปัญหาเหล่านี้ไปล้วนไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 990

    เพียงเอ่ยปาก โทสะทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมาแล้วความเจ็บปวดและอึดอัดใจที่สั่งสมอยู่ภายในใจล้วนระเบิดออกมาในเวลานี้อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินอวิ๋นเนี่ยนชูพูดเช่นนี้เป็นครั้งแรก มองนางตวาดถามไล่เรียงตนเอง ภายในใจเปี่ยมความรู้สึกผิด“ขอโทษ ล้วนเป็นความผิดของข้า”เห็นสายตาเปี่ยมความรู้สึกผิดของฝ่ายชาย อวิ๋นเนี่ยนชูตาแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “เดิมทีทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของท่านอยู่แล้ว! เหตุใดท่านไม่บอกข้าเร็วสักหน่อย ท่านรู้ว่าหลายปีมานี้ข้าฝืนได้ลำบากมากเพียงใดหรือไม่?”“ในเมื่อท่านไม่พูดมาโดยตลอด เหตุใดไม่เก็บเอาไว้ชั่วชีวิตเล่า?”น้ำตานางไหลลงมา ตลอดหลายปีมานี้ไม่ตอบรับความรู้สึกนาง นี่ทุกข์ใจมากเพียงใด?นางอยากบริภาษเขาแรงๆ อยากทุบตีเขา ชนิดที่ว่าอยากไม่สนใจเขาอีก ทำให้เขาเสียใจภายหลังไปชั่วชีวิตเพียงแต่ ยามได้เห็นของเหล่านั้นที่เขาซ่อนไว้ภายในห้อง รวมถึงภาพเหมือนของนางที่วาดไว้นับไม่ถ้วนยามค่ำคืน นางก็อยากร้องให้อย่างอดไม่ได้...“เป็นความผิดของข้าเอง ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้า เจ้าตีข้าด่าข้าโทษข้า ล้วนสมควรทั้งสิ้น”อวิ๋นเฉิงเจ๋อสืบเท้าขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ภายในสายตาเปี่ยมความเอ็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 989

    “อะไรนะ?” อวิ๋นเนี่ยนชูชะงัก ภายในสายตาสะท้อนความตกตะลึงทั้งๆ ที่ตลอดมาล้วนเป็นนางตอแยญาติผู้พี่หากไม่ใช่เพราะหลายปีมานี้นางทำเช่นนี้มาโดยตลอด คาดว่าญาติผู้พี่ก็คงไม่ชอบนาง ทว่าได้ยินคำพูดของมารดาแล้ว เหตุใดญาติผู้พี่ถึงผลักทั้งหมดนี้ลงบนศีรษะของเขาเล่า?“เฉิงเจ๋อพูดว่าเขาพยายามสอบสร้างผลงานก็เพื่อจะได้คู่ควรกับเจ้า จะได้มีโอกาสสู่ขอเจ้า”“หากเปลี่ยนเป็นในอดีต ข้าจะต้องไม่เห็นด้วยที่พวกเจ้าคบหากัน บัดนี้ผ่านเรื่องมามากถึงเพียงนี้ ความคิดของแม่ก็เปลี่ยนไปไม่น้อย”“หากเจ้าชอบเฉิงเจ๋อจริง ข้าเองก็ไม่คัดค้าน แต่หากเจ้าไม่ชอบ...”สีหน้าจางเหวินสับสน ก่อนหน้านี้เคยเห็นท่าทางของเด็กทั้งสอง ไม่ว่ามองอย่างไรเนี่ยนชูก็ไม่คล้ายไม่ชอบเฉิงเจ๋อ“ข้าชอบญาติผู้พี่เจ้าค่ะ” อวิ๋นเนี่ยนชูตอบอย่างไม่ลังเล “ข้าชอบญาติผู้พี่มาโดยตลอด”มองเห็นท่าทางมุ่งมั่นของลูกสาว จางเหวินรู้สึกเอือมระอาระคนโชคดีอยู่บ้าง “ช่างแล้วๆ น้ากู้ของเจ้าพูดถูกแล้ว ลูกหลานมีความสุขของลูกหลาน พวกเจ้าคบหากันก็เป็นพวกเจ้าสร้างขึ้น”“แม้ว่าปีนั้นเฉิงเจ๋อทำไม่ถูก ไม่สมควรเกิดความคิดต่อเจ้า แต่ข้าล้วนเห็นความพยายามของเขาตลอดหลา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 988

    ยิ่งไปกว่านั้น ขอเพียงเขาพยายาม เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องมีอนาคตแน่ตระกูลตกต่ำ บิดามารดาจากไปก่อนวัยอันควร เดิมทีเขาก็เป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจตายที่ข้างถนนตั้งนานแล้ว บัดนี้ไม่เพียงมีข้าวกิน มีเสื้อผ้าสวมใส่ ท่านน้ายังเชิญอาจารย์มาสอนหนังสือเขา เขาไม่มีวันอกตัญญูเขาคิด...รออีกหน่อย รอจนเขามีความสามารถ รอจนเขาฉายแววโดดเด่น บางทีอาจมีโอกาสขอท่านน้าแต่งงานกับเนี่ยนชูทว่า ขณะเขากำลังตรากตรำร่ำเรียนอยู่นั้น ในที่สุดก็ได้รับคำชมจากอาจารย์ ได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง อาจารย์ของสำนักศึกษาหลวงเองก็ชื่นชมว่าเขาจะต้องมีโอกาสสอบผ่านขุนนางแน่ ตอนเขาคิดว่าตนเองอาจจะสามารถตอบรับความรู้สึกของเนี่ยนชูได้ กลับได้ยินท่านน้าและแม่นมพูดสนทนากันที่แท้...เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของบิดามารดาลูกของมารดาตายไปตั้งนานแล้ว ส่วนเขาคือเด็กที่วันนั้นถูกทิ้งไว้หน้าประตูเรือนด้านหลังของมารดาเดิมทีมารดาก็ยากจะยอมรับความเจ็บปวดได้ อีกทั้งยังสงสารเขา หมอพูดว่าร่างกายนางเสียหาย ภายภาคหน้ายากจะมีลูกได้อีก นี่ถึงรับอุปการะเขา ประกาศต่อโลกภายนอกว่าเขาเป็นลูกของตนเขาเป็นแค่เด็กถูกทิ้งคนหนึ่ง เศษสวะที่ไม่ยอมหนาว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 987

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ข้าเคยไม่สนับสนุนเจ้าตั้งแต่ยามใด? แต่ไหนแต่ไรมาข้าล้วนสนับสนุนการตัดสินใจของเจ้า”ก่อนหน้านี้นางทำนายมาก่อนแล้ว ภายในเรื่องนี้มีเงื่อนงำซ่อนอยู่มากมาย อวิ๋นเฉิงเจ๋ออ่อนแอเกินไปสำหรับเรื่องนี้ ไม่มีความรับผิดชอบมากเพียงพอเพียงแต่ หากไม่เคยผ่านความทุกข์ของผู้อื่น ก็ไม่สามารถตัดสินตามใจได้อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลายเป็นเช่นนี้ ย่อมหนีไม่พ้นประสบการณ์ที่เขาเคยเจอมาในช่วงหลายปีมานี้เรื่องเดียวกัน บางคนมีความรับผิดชอบที่แข็งแกร่งมาก ไม่ได้รับผลกระทบใด แต่บางคนคิดอ่านอย่างละเอียด ยากจะสามารถรับได้ใต้หล้ากว้างใหญ่ รวมทุกสรรพสิ่งไว้แล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะตนเอง นางย่อมไม่วู่วามสอดมือเข้าไปอวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มกว้าง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์เป็นเช่นไรข้าก็ไม่ใส่ใจแล้ว หากไม่พูดเรื่องนี้ออกมา ข้าจะต้องเสียใจภายหลังแน่”“ตอนนี้ท่านป้าจ้างกำลังอยู่กับท่านแม่ข้า รอกลับไปแล้วค่อยหาโอกาสพูดเถอะ”ซ่งรั่วเจินจิกนิ้วทำนาย ภายในสายตาเผยแววประหลาดใจ เปลี่ยนคำพูด “ดูท่าแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดออกจากปากของตนแล้วล่ะ”อวิ๋นเนี่ยนชูสงสัย “หมายความว่าอะไร?”“ญาติผู้พี่เจ้าพูด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 986

    ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status