ในเวลาเดียวกัน วังหลังฮองเฮาเผชิญหน้ากับพี่น้องทุกท่านที่มาเยี่ยมคารวะ อารมณ์ไม่ดีสุดขีดคนเหล่านี้ใบหน้าเผยความกังวล แต่แท้จริงแล้วกลับอยากให้เกิดเรื่องกับฉู่อ๋องและอวิ๋นอ๋องแทบแย่หากเกิดเรื่องกับพวกเขาสองคน เช่นนั้นนางที่เป็นฮองเฮาก็ไร้ที่พึ่งแล้ว“ฮองเฮา จงเฟยตั้งใจส่งพระคัมภีร์มา พูดว่าหลังรู้ข่าวเรื่องค่ายทหาร ก็ตั้งใจคัดบทสวดเพื่อขอพรให้องค์ชายทั้งสองท่านเพคะ”“ตอนนี้เอง แม่นมข้างกายฮองเอาถือพระคัมภีร์หนึ่งฉบับเข้ามาจากภายนอก นี่คือแม่นมของจงเฟยส่งเข้ามาทุกคนภายในห้องได้ยินแล้ว ต่างมีสีหน้าแปลกใจนับตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งก่อนจงเฟยก็ถูกขัง จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ถูกปล่อยออกมา บัดนี้ช่างไม่ยอมปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปจริงๆ คิดเพียงอยากออกมา!เพียงแต่ฮองเฮากลับเข้าใจความคิดอีกชั้นหนึ่งของจงเฟยนี่ขอพรที่ใดกัน เห็นได้ชัดว่ายั่วโมโหนาง!หลังเกิดเรื่องนี้ขึ้น นางก็ใคร่ครวญดีๆ มาก่อนแล้ว แผนการร้ายนี้เห็นชัดว่าพุ่งเป้ามาที่ฉู่อ๋อง บัดนี้คนที่อยากลงมือกับฉู่อ๋องอย่างรอแทบไม่ไหว ย่อมเป็นองค์ชายคนอื่นภายในนั้น...เช่ออ๋องเป็นคนแรกที่พุ่งเป้ามา!“ข้ารับพระคัมภีร์ไว้แล้ว ให้จงเฟย
ราชครูกู้เห็นว่าหลิงไท่ซือต้องการกล่าวโทษฉู่อ๋องให้ได้ บัดนี้ฐานะของลูกเขยตนไม่เหมาะสม ไม่สะดวกออกมาพูดได้เพียงแต่บัดนี้ท่าทางต้องการให้ฉู่อ๋องพลิกสถานการณ์กลับมาไม่ได้ของหลิงไท่ซือคนต่ำต้อยคนนี้ เขามองแล้วไม่สบอารมณ์อย่างมาก“ฉู่อ๋องจัดการในทันทีแล้ว บัดนี้ฉู่อ๋องเองก็ติดโรคระบาด ไม่สบายไปด้วย ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่หาทางรักษาโรคระบาดหรอกหรือ?”ราชครูกู้มองทางหลิงไท่ซือ “เหตุใดหลิงไท่ซือต้องร้อนใจตัดสินโทษถึงเพียงนี้ด้วยเล่า?”สีหน้าหลิงไท่ซือเคร่งขรึมลงไป ขณะกำลังจะเอ่ยปาก หร่วนไท่ซือกลับพูดออกมาก่อน “ราชครูกู้พูดถูกแล้ว ตอนนี้จะคลี่คลายเยี่ยงไรต่างหากสำคัญที่สุด”“หากจะตัดสินโทษจริง ไม่สู้รอฉู่อ๋องกลับเข้าราชสำนักก่อนค่อยว่ากัน เชื่อว่าด้วยอุปนิสัยของฉู่อ๋อง จะต้องไม่ปัดความรับผิดชอบแน่”สีหน้าทุกคนล้วนแปลกใจ ทุกคนเองก็ล้วนได้ยินมาว่าสกุลหร่วนและสกุลซ่งแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กัน บัดนี้ท่าทีของหร่วนไท่ซือชัดเจนอย่างมากทว่า พวกเขาคิดว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน วิธีรับมือของฉู่อ๋องเองก็ดีมากแล้ว หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก็ไม่แน่ว่าจะทำได้ดียิ่งกว่านี้!เช่ออ๋องเห็นราชครูก
เห็นว่าตำรับยาถูกรับไปแล้ว ฉู่จวินถิงไปสอบสวนคนสอดแนมที่ถูกจับไว้ ซ่งรั่วเจินจึงกลับเข้ากระโจมขณะกำลังเตรียมให้เหล่าหมอหลวงไปพักผ่อน กลับพบว่าพวกเขาล้วนสบมองนางด้วยสายตาทอประกาย ภายในสายตาเปี่ยมความหวัง“พระชายา ท่านไม่ได้ไปปรุงยาหรือ?”“ยาถูกนำไปปรุงแล้ว พวกเรารออยู่ที่นี่ก็พอ”ซ่งรั่วเจินยิ้มน้อยๆ “ทุกท่านล้วนลำบากแล้ว ไม่สู้กลับไปพักผ่อนสักครู่?”“ข้าไม่ง่วง ข้าอยากเห็นผลลัพธ์ของยาก่อนว่าเป็นเช่นไร”หมอหลวงหยางโบกมือ เมื่อคืนเขาดีใจที่สุด อีกทั้งยังนับว่าเขาได้เห็นวิชาแพทย์อันล้ำเลิศของพระชายาฉู่อ๋องอย่างแท้จริงแล้ว สมกับที่เคยได้ยินมาไม่ผิดไปดังคาด!บางส่วนที่พวกเขาไม่เข้าใจ พระชายาฉู่อ๋องคิดเพียงเล็กน้อยก็เข้าใจประเด็นสำคัญภายในนั้นแล้วมีอยู่หลายครั้ง เขาล้วนรู้สึกราวกับสติปัญญาแล่นพล่านขึ้นมาอย่างกะทันหันหากมีโอกาสได้ร่วมศึกษากับพระชายาฉู่อ๋องอีกหลายครั้ง เขาคิดว่าวิชาแพทย์ของตนจะต้องก้าวหน้าขึ้นไม่น้อยแน่“ใช่ หากไม่ได้รับผล พวกเรานอนก็นอนหลับไม่สนิทพ่ะย่ะค่ะ!”หมอหลวงคนอื่นเองก็มีท่าทีเช่นนี้ ครั้งนี้พวกเขามั่นใจมาก!ซ่งรั่วเจินคลี่ยิ้มบางๆ “เช่นนั้นพวกเราก็มารอ
ตอนซ่งรั่วเจินเดินออกจากกระโจมก็พบว่าหนึ่งคืนที่ผ่านมา ภายในค่ายทหารเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อยเห็นได้ชัดว่ารองแม่ทัพหลายท่านไม่ได้นอนพักผ่อนตลอดทั้งคืน ทว่าสีหน้าพวกเขากลับสะท้อนคุณธรรมเต็มเปี่ยม อีกทั้งยังมีเพลิงโทสะลุกโชน“ข้าก็บอกแล้วว่าหนึ่งคืนจะต้องลากตัวไอ้สารเลวคนนี้ออกมาให้ได้ ท่านอ๋องดีต่อทหารทุกคนมาก ถึงขั้นมีคนกล้าฉวยโอกาสนี้สร้างความเดือดร้อนให้ทั้งค่ายทหาร นี่ถูกเขาเอาเปรียบหมดแล้วจริงๆ!”“คนผู้นี้ก็คือเดรัจฉานโดยแท้ ก่อนหน้านี้ตอนเข้าอยู่ในค่ายไม่ได้รับความสนใจ ยังเป็นทานอ๋องเลื่อนตำแหน่งให้ บัดนี้กลับตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้น!”“มารดาเถอะ หากครั้งนี้สามารถรอดตายผ่านด่านนี้ไปได้ คืนนี้ข้าจะไปขุดหลุดฝังบรรพชนบ้านเขา!”คนอื่นต่างเผยสีหน้าเห็นด้วย ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโหจริงๆ คิดไม่ถึงเลยว่าขณะกำลังจะไปรายงานท่านอ๋องจะได้พบพระชายาฉู่อ๋อง จึงรีบเก็บสีหน้าและทำความเคารพ “คารวะพระชายา”“จับคนสอดแนมได้แล้วหรือ?”หูของซ่งรั่วเจินว่องไวมาก ย่อมไม่พลาดบทสนทนาของพวกเขาเมื่อคืนตอนจวินถิงกลับมาฟ้าก็มืดมากแล้ว เขาพูดว่าไม่เกินวันนี้จะต้องจับตัวคนสอดแนมออกมาให้ได้ตอนนั้นนางยังแปลกใจเหตุใ
สถานการณ์ในตอนนี้ หากเขาสอดมือเข้าไป ก็ยากจะถูกคนหยิบยกเรื่องนี้ออกมากล่าวหา ให้เสด็จพ่อส่งคนออกมาสืบถึงจะทำให้คนเชื่อถือที่สุด!อีกด้านหนึ่ง คนสร้างเรื่องทั้งหมดกำลังดีใจ“บัดนี้ทั่วทั้งเมืองหลวงต่างรู้ว่าโรคระบาดแพร่จากค่ายทหาร ชื่อเสียงอันดีงามที่เขาสั่งสมมานานหลายปี นับว่าถูกทำลายทั้งหมดแล้ว!”“ทว่าตอนเหล่าขุนนางในราชสำนักถกเถียงกันเรื่องนี้ ท่าทีของเสด็จพ่อกลับไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ เห็นได้ชัดว่ายังปกป้องเขาอยู่”ฝ่ายชายขมวดคิ้ว สีหน้าสะท้อนความไม่พอใจ บัดนี้เกิดเรื่องใหญ่ภายในค่ายทหาร ไม่ว่ามองอย่างไรก็สมควรลงโทษอย่างหนัก แต่กลับไม่มีความเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย“อย่าเพิ่งร้อนใจเพคะ” หญิงสาวทางด้านข้างผลิยิ้มพลางเอ่ยปาก “ตอนนี้ฉู่อ๋องยังเอาตนเองไม่รอด ฝ่าบาทกังวลความปลอดภัยของเขา ย่อมไม่ใส่ใจจัดการเขาในตอนนี้!”“ไม่แน่ว่าไม่ต้องรอให้ฝ่าบาทจัดการ ฉู่อ๋องก็ตายในค่ายทหารก่อนแล้ว”ได้ยินดังนั้น ฝ่ายชายพยักหน้า ใบหน้าเผยความระอา“ทีแรกข้าก็ไม่อยากเอาชีวิตเขา ใครให้เขาโดดเด่นเกินหน้าเกินตาเช่นนี้ พูดได้เพียงว่าเขารนหาที่ตายเอง!”ภายในสายตาหญิงสาวสะท้อนไอเย็น “ทุกคนที่ขวางทางท่านล้
เมืองหลวง ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วทุกหนแห่งพวกกู้หรูเยียนได้รู้ว่าบัดนี้คนในเมืองหลวงกำลังกระสับกระส่าย โรคระบาดเริ่มขยายวงกว้าง ยิ่งไปกว่านั้นราษฎรก็แน่ใจว่าโรคระบาดในครั้งนี้แพร่มาจากค่ายทหารของฉู่อ๋อง ใบหน้าจึงเผยความกังวล“เสนาบดีศาลต้าหลี่สืบออกมาได้แล้วไม่ใช่หรือ ทั้งๆ ที่หมู่บ้านชิงหยางแห่งนั้นเกิดโรคระบาดก่อน แต่ราษฎรเหล่านี้กลับปักใจว่าโรคระบาดออกมาจากค่ายทหาร น่าโมโหนัก!”บัดนี้กู้หรูเยียนนับว่ารู้แล้วว่าซิ่วไฉเจอทหาร มีเหตุผลไปก็ไร้ประโยชน์ ทั้งๆ ที่ทั้งหมดล้วนพูดไว้อย่างชัดเจนแล้ว เอือมระอาคนเหล่านี้ไม่เชื่อ“ท่านแม่ ท่านอย่าโมโหเพราะข่าวลือภายนอกเหล่านั้นเลย นี่เห็นได้ชัดว่ามีคนปลุกปั่น ท่านโมโหไปก็ไร้ประโยชน์”“ก็เพียงปากของพวกเราเหล่านี้ พูดออกไปก็ไร้ประโยชน์”ซ่งจิ่งเซินเห็นมารดาร้อนใจดุจไฟเผา มุมปากล้วนพองขึ้นมาแล้ว เอ่ยออกมาอย่างสุดระงับ“เรื่องนี้โทษท่านแม่ที่ร้อนใจไม่ได้ ข้าได้ยินข่าวลือเหล่านั้นก็อยากตีคนเหลือเกิน!”สีหน้าซ่งจืออวี้ไม่สบอารมณ์ “ตอนนี้น้องหญิงห้าไม่อยู่ข้างนอกก็ดี คำพูดของคนข้างนอกเหล่านั้นเกินไปจริงๆ ชวนให้คนโมโหแทบแย่!”ซ่งอี้อันมองเห็นท่า