공유

บทที่ 512

작가: จี้เวยเวย
“คารวะเซียวอ๋อง” ซ่งรั่วเจินทำความเคารพ

ฉู่อี้ชวนพยักหน้า แม้รู้สึกตกตะลึงภายในใจ กลับไม่เผยอารมณ์ใดผ่านทางสีหน้าเลยสักเศษเสี้ยว

“เสด็จพี่ ท่านเขาไปนั่งด้านในก่อนสักครู่ น้องห้าอยู่ด้านใน” ฉู่จวินถิงเอ่ยปากเสียงเรียบ ท่าทีมีเหตุผล

ฉู่อี้ชวนชะงักเล็กน้อย สายตาของเขากวาดมองทั้งสองคน หยั่งเดาภายในใจว่าดึกถึงเพียงนี้แล้วคงมิใช่ว่าทั้งสองคนยังมีเรื่องอะไรให้ทำหรอกกระมัง?

“ได้”

ซ่งรั่วเจินเองก็คิดไม่ถึงว่าที่ฉู่จวินถิงพูดเมื่อครู่ล้วนเป็นความจริง เซียวอ๋องตั้งใจเดินทางมายามวิกาล เขาให้คนไปรอภายในจวน ยึดมั่นจะไปส่งนางกลับก่อน

“ท่านอ๋อง หม่อมฉันนั่งรถม้ากลับไปก็พอ ท่านกลับเข้าไปก่อนเถอะ ประเดี๋ยวเซียวอ๋องจะคอยนาน” ซ่งรั่วเจินพูด

สีหน้าฉู่จวินถิงไม่เปลี่ยนไป “เขารอสักครู่ได้ไม่เป็นไร ในเมื่อข้ารับเจ้ามา ย่อมต้องพาเจ้าไปส่งอย่างปลอดภัย”

“หม่อมฉันรู้ท่านกังวลความปลอดภัยของหม่อมฉัน ถ้าอย่างนั้นก็สามารถให้อวิ๋นหยางส่งหม่อมฉันกลับไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นบัดนี้คนที่หม่อมฉันล่วงเกินล้วนถูกจับไปแล้ว ไม่มีวันมีคนลงมือกับหม่อมฉันอีก”

ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบาๆ บัดนี้พวกฉินซวงซวงถูกขังอยู่ภายในคุก ไม่มีโ
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 513

    “น้องสาม เจ้าได้ข่าวมากระนั้นหรือ?”ฉู่อี้ชวนมีสีหน้าจริงจัง หลังจากที่เขากลับไปก็รู้สึกว่าทุกอย่างในเรื่องนี้ดูมีพิรุธ ยิ่งไปกว่านั้นซ่งรั่วเจินยังตั้งใจหลอกล่อพาเขาไปที่นั่น พูดว่าเพื่อช่วยเขา ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล โดยเฉพาะหลังจากที่เขาถูกลอบสังหารก็ยิ่งรู้สึกว่าถูกวางแผนเล่นงาน แต่เมื่อกลับมาสืบข่าวเหล่านี้ เขาก็เริ่มตระหนักถึงปัญหาทั้งหมด...น่ากลัวว่าคือแผนการหนึ่ง! เมื่อครู่ยามเขาได้พบซ่งรั่วเจินก็อยากถามดู แต่เพราะยังไม่แน่ใจในเรื่องนี้ จึงยังไม่เหมาะที่จะเปิดเผยออกไป“เรื่องนี้ฐานะของข้าไม่สะดวกนัก จึงฝากให้ศาลต้าหลี่สอบสวนและไม่ได้ถามมากมายอันใด เรื่องนี้มีพิรุธจริงๆ คาดว่าพรุ่งนี้ก็น่าจะได้ผลสรุปแล้ว” ฉู่จวินถิงพูดแต่ไหนแต่ไรมาศาลต้าหลี่ทำงานว่องไวมาก ยิ่งไปกว่านั้นเสด็จพ่อได้ออกพระราชโองการให้สอบสวนอย่างเคร่งครัด เวลาหนึ่งวันเพียงพอให้ศาลต้าหลี่สอบสวนข่าวสำคัญออกมาได้ ฉู่อี้ชวนรู้สึกหนักอึ้งภายในใจ หากฉู่จวินถิงเองก็ยังเห็นว่าเรื่องนี้มีพิรุธ ก็พิสูจน์ได้ว่าเขาคิดถูกแล้ว เรื่องนี้น่ากลัวว่าเป็นเรื่องยุ่งยากจริงๆ “เรื่องวันนี้ต้องขอบคุณเจ้าและแม่นางซ่ง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 514

    วันต่อมา ซ่งรั่วเจินก็ได้รู้ข่าวว่าหลินจือเยว่และฉินซวงซวงถูกตัดสินเนรเทศ“เนรเทศ? ผลการตัดสินออกเร็วถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”เฉินเซียงหัวเราะอย่างอดไม่ได้ “คุณหนู เรื่องนี้เป็นฉู่อ๋องจัดการ จะไม่เร็วได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ?”ซ่งรั่วเจินมองนางแวบหนึ่ง “ตอนนี้เจ้ากล้าขึ้นไม่น้อยเลยนะ ถึงขั้นกล้ามาหยอกล้อข้าเช่นนี้”“นั่นยังไม่ใช่เพราะรู้ว่าคุณหนูใจดีกับข้าอีกหรือ?” เฉินเซียงกลับไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย นางรู้ว่าคุณหนูดีต่อคนของตน“ฉินซวงซวงก็คล้ายอสรพิษ คิดอยากกัดคุณหนูอยู่ทุกขณะจิต หลังนางถูกเนรเทศไปแล้วก็จะไม่มาขัดตาคุณหนูในเมืองหลวงอีก นี่ยังไม่ใช่เรื่องดีอีกหรือ?”“การจัดการนี้ของฉู่อ๋องยอดเยี่ยมยิ่งนัก เมื่อครู่บ่าวได้ยินคุณชายรองชื่นชมด้วยเจ้าค่ะ” เฉินเซียงพูดอย่างมีความสุข ภาคภูมิใจอย่างแท้จริง“เช่นนั้นเถียนเจียวเจียวและถังเสวี่ยหนิงจะถูกจัดการเช่นไร?” ซ่งรั่วเจินถามต่อ“ทั้งสองคนถูกสั่งโบยที่ศาลาว่าการ เช้าวันนี้ถูกโบยต่อหน้าราษฎร์ โหย่วฝูตั้งใจไปดูมาเป็นพิเศษ พูดว่าการโบยนั้นแรงมากจริงๆ ชุดกระโปรงล้วนเปื้อนเลือด”ซ่งรั่วเจินขมวดคิ้ว “อัครเสนาบดีถังมิได้ไปหรือ?”“ไปเจ้าค่ะ ไม่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 515

    คิดว่า ต่อให้พี่ห้าฟื้นคืนความทรงจำแล้ว ก็ไม่มีวันไร้สมองเหมือนที่ผ่านมาขณะสองพี่น้องกำลังปรึกษากันว่าจะเปิดร้านที่ใดอยู่นั้น โหย่วฝูก็รีบเร่งเข้ามาแล้ว“คุณหนู” โหย่วฝูมองซ่งจิ่งเซินอย่างลังเลแวบหนึ่ง“ไม่เป็นไร พูดเถอะ” ซ่งรั่วเจินพูดซ่งจิ่งเซินมองน้องหญิงของตนอย่างสงสัย นี่คือมีแผนอะไรที่พวกเขาไม่รู้ด้วยหรือ?“คุณหนู ทางฝั่งนั้นมีการเคลื่อนไหวแล้ว ดูท่าทางแล้ววันนี้เตรียมไปสกุลหลิ่วเจ้าค่ะ” โหย่วฝูเอ่ยออกมาซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วเรียวยาวดุจกิ่งหลิวขึ้น “ข้ารู้แล้ว เจ้าออกไปเถอะ”“น้องหญิงห้า ใครจะไปสกุลหลิ่วหรือ?” ซ่งจิ่งเซินงุนงง“พี่สี่ ตอนนี้ไม่มีเวลาพูดมากกับท่านแล้ว พวกเราไปหาท่านแม่ก่อนเถอะ หลายวันมานี้อยู่อย่างสุขสบายเกินไป การค้าไก่ทอดเองก็ดีมาก ย่อมต้องเข้าตาครอบครัวของท่านน้าที่คอยจับตามองพวกเรา”“ในอดีตทุกครั้งล้วนเป็นท่านน้าไปสกุลหลิ่วฟ้องพวกเราก่อน ย่อมไม่สามารถถูกกระทำไปเสียทุกครั้งได้ ครั้งนี้สมควรเป็นพวกเราไปร้องทุกข์ก่อน”เพียงซ่งจิ่งเซินได้ยินก็สนใจขึ้นมาแล้ว “มิน่าเล่าสองวันนี้ข้าถึงรู้สึกไม่ชอบมาพากล เกือบลืมบ้านของท่านน้าไปแล้ว!”“ในอดีตขอเพียงบ้านพวกเ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 516

    ณ สกุลหลิ่วเพียงหลิ่วหรูเหยียนกลับมาที่บ้านมารดาก็เริ่มร้องไห้ฟ้องมารดาว่า “ท่านแม่ ครั้งนี้น้องหญิงทำให้ข้าเจ็บปวดใจจริงๆ ตลอดหลายปีมานี้ข้าไม่เคยทำผิดต่อนางเลย ดีต่อนางมาโดยตลอด แต่นางถึงขั้นทำกับข้าเช่นนี้!”“หรูเยียน เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่ากระไร?” นายหญิงหลิ่วงุนงงหลิ่วหรูเยียนตาแดง หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับน้ำตาที่หัวตา“เมื่อไม่กี่วันก่อนน้องหญิงมาหาข้า ถามไล่เรียงว่าเหตุใดไม่ไปขอความเมตตาจากเซียงอ๋อง ไม่ใช่ข้าไม่อยากทำ แต่ทำอย่างเต็มที่แล้ว”“เซียงอ๋องตามหาซื่อจื่อกลับมาได้อย่างยากลำบาก ได้เห็นเขาถูกรังแก ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อยฮั่นเฟยไป ขอความเมตตาเยี่ยงไรก็ไร้ประโยชน์”“เพราะสาเหตุนี้น้องหญิงจึงโทษข้า ข้าเองก็ไม่สามารถอธิบายอะไรได้ วันนั้นรั่วเจินล่วงเกินฉู่อ๋อง ถูกสั่งสอนอย่างแรงหนึ่งรอบ ข้าขอร้องให้น้องหญิงไปตามน้องเขยมาช่วย”“ใครคิดเล่าว่านางถึงขั้นพูดว่าข้าสมควรโดนแล้ว ยังพูดอีกว่าล้วนเป็นกรรมของข้า สุดท้ายทั้งตระกูลก็จะต้องถูกเนรเทศเหมือนฮั่นเฟย!”“ท่านแม่ ท่านพูดข้าและนางเป็นพี่น้องกัน เหตุใดนางใจร้ายถึงเพียงนี้เล่า? เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นข้าเป็นญาติ น่ากลัวว่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 517

    หลังหลิ่วเฟยเยี่ยนกล่าวถ้อยคำเหล่านี้ออกมาแล้วก็หันมองไปที่หลิ่วหรูเยียนแวบหนึ่ง เดิมทีคิดว่านางจะต้องดุซ่งรั่วเจินอย่างแน่นอน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า“รั่วเจินเป็นลูกสาวที่ข้าภาคภูมิใจมาตลอด อีกทั้งสิ่งที่นางพูดก็เป็นความจริง ต่อให้น้องหญิงจะถูกพูดแทงใจแต่ก็ไม่น่าจะต้องพูดจารุนแรงถึงเพียงนี้”ถ้อยคำนี้พูดออกมา ยังไม่ต้องพูดถึงหลิ่วเฟยเยี่ยน แม้แต่นายหญิงหลิ่วก็ยังลอบรู้สึกประหลาดใจ วันนี้เหตุใดหลิ่วหรูเยียนถึงคล้ายเปลี่ยนไปเป็นคนละคน?หากเป็นที่ผ่านมา นางก็ไม่มีวันพูดเช่นนี้“พี่หญิง รั่วเจินไม่เคารพผู้ใหญ่เช่นนี้ ท่านคิดว่าไม่มีปัญหาหรือ?” หลิ่วเฟยเยี่ยนถามอย่างเหลือจะเชื่อหลิ่วหรูเยียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วตอบ “หากน้องหญิงคิดว่าคำพูดนี้ไม่เหมาะสม เหตุใดเมื่อครู่ถึงพูดกับข้า?”“หรือว่าน้องหญิงคิดว่าหยามเกียรติเจ้าไม่ได้ แต่หยามเกียรติข้าได้หรือ? นี่หลักการอะไร!” หลิ่วเฟยเยี่ยนอ้าปาก ภายในใจเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ แต่กลับพูดตอบโต้ไม่ออกแม้ประโยคเดียวทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเช่นนี้ ทุกครั้งลูกสาวลูกชายตระกูลซ่งได้พบนางมีครั้งใดไม่เคารพนางบ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 518

    หลิ่วหรูเยียนลุกขึ้นยืน มองพวกซ่งรั่วเจินทั้งสามคนแวบหนึ่ง เตรียมก้าวเท้าออกไปซ่งรั่วเจินสามคนย่อมลุกขึ้นตั้งแต่มารดาผินมองมาครั้งแรกแล้ว ทุกครั้งได้ฟังท่านน้าเล่นละครอยู่นาน วันนี้พวกเขาไม่ขอฟังแล้วสีหน้าหลิ่วเฟยเยี่ยนเปลี่ยนไป “พี่หญิง เหตุใดพวกท่านจะไปแล้วเล่า?”“ไม่ไปแล้วจะอยู่ทำอะไร? น้องหญิงก็อยู่สนทนากับท่านแม่ดีๆ เถอะ ข้ายังมีธุระอีกมาก บัดนี้ยังไม่รู้ว่าสามีเป็นตายร้ายดีเช่นไร ข้าต้องใส่ใจดูแลครอบครัว วาสนาไม่ดีเหมือนน้องหญิง”หลิ่วหรูเยียนถอนหายใจ ความอิจฉาและสลดใจเจืออยู่ในน้ำเสียงมือหลิ่วเฟยเยี่ยนแข็งค้างไป รู้สึกคล้ายถูกหลิ่วหรูเยียนตบนิ่งๆ หนึ่งฉาดนางพูดว่าสามีดื่มสุราทุกวัน ระหว่างทั้งคู่มีความขัดแย้งกันมากมาย ทว่าหลิ่วหรูเยียนพูดว่าสามีนางยังไม่รู้เป็นหรือตาย เช่นนี้ยังไม่ใช่นางคร่ำครวญทั้งๆ ที่มิได้เจ็บป่วย ชนิดที่ว่ายังสาดเกลือใส่แผลของหลิ่วหรูเยียนด้วยหรือ?“แต่ไหนแต่ไรมาท่านน้าและน้าเขยมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ชวนให้คนอิจฉาโดยแท้ หากท่านพ่อข้ายังอยู่ข้างกายท่านแม่ก็คงดี...” ซ่งรั่วเจินพูดอย่างสลดใจได้ถูกเวลาหนึ่งประโยคเห็นหลิ่วหรูเยียนเดินออกจากห้องแล้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 519

    หูหว่านเป็นสะใภ้ใหญ่ของสกุลหลิ่ว อุปนิสัยรุนแรง อีกทั้งยังชอบหาผลประโยชน์ เพราะเหตุนี้ทุกครั้งเห็นหลิ่วเฟยเยี่ยนขอสิ่งของจากหลิ่วหรูเยียน นางจึงหาทางแบ่งผลประโยชน์ออกมาต่อให้หลิ่วเฟยเยี่ยนดื้อรั้นเอาแต่ใจมากเพียงใด ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหูหว่านนายหญิงหลิ่วเองก็รู้อุปนิสัยของหูหว่าน แต่นางคิดว่าหูหว่านพูดไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย พวกเขาสกุลหลิ่วเองก็ขาดเงินเฉกเดียวกัน!แม้ว่านางสงสารเฟยเยี่ยน แต่อย่างไรเสียเฟยเยี่ยนก็แต่งเข้าสกุลซุนไปแล้ว ไม่สามารถยกผลประโยชน์ทั้งหมดไปให้สกุลซุนได้!“เฟยเยี่ยน พี่สะใภ้ของเจ้าพูดถูกแล้ว จะเอาของทั้งหมดกลับไปที่สกุลซุนไม่ได้ ต่อให้เจ้าไม่คิดถึงพี่ใหญ่เจ้า ก็ต้องคิดถึงหลานชายเหล่านั้นของเจ้า” นายหญิงหลิ่วพูดได้ยินดังนั้น ต่อให้หลิ่วเฟยเยี่ยนไม่ยอมก็ต้องกล้ำกลืนฝืนทนซ่งรั่วเจินสองสามคนรับชมภาพนี้ด้วยสายตาเย็นชา รู้สึกเพียงตลกเหลือเกิน พวกเขายังไม่ได้รับปาก คนเหล่านี้ก็จัดสรรปันส่วนด้วยตนเองเสร็จสรรพดีแล้วท่าทางนั้น...เห็นได้ชัดว่าไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะปฏิเสธ!ซ่งรั่วเจินหันมองทางหลิ่วหรูเยียน ขณะเตรียมจะเอ่ยปาก กลับมองเห็นหลิ่วหรูเยียนยิ้มน้อยๆ เป็นสัญญา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 520

    “แต่ข้าเห็นสกุลซุนละโมบไม่รู้จักพอ ได้ยินมาว่าไม่ว่าน้องเขยหรือฮั่นเฟย ออกไปดื่มสุราครั้งหนึ่งก็ใช้จ่ายเงินไปจำนวนมหาศาล เอะอะก็เชิญไปทุกหนแห่ง”“พี่สะใภ้ใหญ่ ข้ารู้ท่านและพี่ใหญ่เอ็นดูเฟยเยี่ยน แต่พวกท่านก็ไม่สามารถมอบให้เช่นนี้ไปตลอดได้”“เมื่อหลายวันก่อนท่านแม่ก็มอบสองร้านทางทิศใต้ให้เฟยเยี่ยนมิใช่หรือ? นี่เพิ่งผ่านไปได้ไม่นานก็มาขอของจากข้าอีกแล้ว?”“ในเมื่อข้าแต่งออกไปแล้ว ก็คือคนของสกุลซ่ง บัดนี้สามีไม่อยู่ ข้าต้องดูแลทั้งครอบครัว ไม่สามารถมอบให้อย่างไร้ขีดจำกัดได้อีกแล้ว พวกท่านถือเสียว่าข้าใจร้ายก็แล้วกัน!”ซ่งรั่วเจินสามพี่น้องเห็นสีหน้าหูหว่านไม่สบอารมณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ทีแรกยังสามารถระงับเอาไว้ได้ ต่อมาไม่อาจระงับโทสะภายในสายตาได้อีกต่อไป อยากหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ ทำได้เพียงฝืนระงับมุมปากเท่านั้นในอดีตหลิ่วเฟยเยี่ยนเหยียบเรือสองแคม ได้รับผลประโยชน์อยู่ตรงกลางไม่น้อย ไม่ได้เปิดโปงมาโดยตลอดครั้งนี้มารดาตัดสินใจเด็ดขาด แม้แต่ผ้าคลุมกันอายก็ดึงลงมาแล้ว!เช่นนี้ ไม่ต้องให้มารดาลำบากใจ ป้าสะใภ้เพียงคนเดียวก็เพียงพอทำให้ท่านน้าสำลักตายได้แล้ว!ไม่ผิดไปดังคาด หูหว่านระงั

최신 챕터

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 994

    ฉู่จวินถิงสังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของซ่งรั่วเจิน ไหวพริบบ่งบอกว่ามีปัญหาซ่งรั่วเจินส่ายหน้าเบาๆ “เพียงแต่ได้ยินจงเฟยพูดเรื่องบูชาเซียนโบตั๋นจึงรู้สึกแปลกอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าใช่เซียนโบตั๋นที่หม่อมฉันรู้จักหรือไม่”นางเคยได้ยินเรื่องเซียนโบตั๋นมาก่อน เป็นสิ่งที่สตรีบูชาจริง เซียนบุปผา มีสรรพคุณช่วยคืนความอ่อนเยาว์ เพียงแต่ภายในนี้กลับมีเคล็ดลับบางอย่าง ทำให้คนเสพติดอย่างง่ายดาย สุดท้ายลุ่มหลงจนยากจะถอนตัวขึ้นมาได้ ไม่ใช่เรื่องที่ดีหากเป็นคนฝีมือโหดเหี้ยม ก็สามารถใช้ของสิ่งนี้แลกเปลี่ยนโชคชะตาได้ น่ากลัวอย่างมากจงเฟยมีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ ตนเองเก็บไว้บูชาเองก็พอ ทว่านางกลับนำมามอบให้ฮองเฮา แปลกเกินไปแล้วกระมัง“พูดให้ฟังเถอะ”ฉู่จวินถิงกลับไม่รีบร้อนจากไป เอียงหูฟัง รอฟังคำพูดของว่าที่ฮูหยินอย่างอารมณ์ดีแท้จริงแล้ว ไม่ว่าเจินเอ๋อร์พูดอะไร เขาล้วนอยากฟัง“หม่อมฉันเคยเห็นเซียนโบตั๋นมาก่อน ทำให้สตรีงดงามอ่อนเยาว์ผ่านการบูชาอาหาร หากจริงใจมากเพียงพอ ยังสามารถใช้เลือดเป็นเครื่องบูชาได้ ผลลัพธ์ดีมากนัก”“เพียงแต่จะทำให้สตรีลุ่มหลง กลายเป็นรีบร้อนอยากได้ผลลัพธ์ จากนั้นยากจะถอนตัวขึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 993

    วังหลังวันนี้ซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงเข้าวังไปขอบพระทัยความเมตตาด้วยกัน คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นความครึกครื้นทั้งภายในภายนอกตำหนักของฮองเฮายังไม่ทันเข้าไปก็ได้ยินเสียงตวนเฟยดังออกมาจากภายใน“ระยะนี้น้องหญิงจงเฟยงดงามมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว คนเองก็สดใสมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่ง ข้าถามนางว่าใช้เคล็ดลับอะไร นางก็ไม่ยอมบอกข้า ต่อมาข้ายังเห็นด้วยตนเอง”ตวนเฟยมองเซียนโบตั๋นข้างห้องบรรทมของฮองเฮาแวบหนึ่ง สายตาสะท้อนแววละโมบ“ที่แท้นางก็ตั้งใจขอเซียนโบตั๋นจากพระผู้ทรงศีล เพื่อรักษาความเยาว์วัยของสตรี ทำให้งดงามมีเสน่ห์!”เพียงถ้อยคำนี้พูดออกมา สนมคนอื่นก็ตาร้อนผ่าว ความเปลี่ยนแปลงของจงเฟยในระยะนี้ พวกนางล้วนเห็นอยู่ในสายตา ฝ่าบาทเองก็ประทับค้างแรมกับจงเฟยที่นั่นติดต่อกันหลายคืน ใครจะไม่อิจฉากันเล่า?สนมภายในวังมีไม่น้อย พวกเขาทำเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ปกติทำทุกวิธี ก็ไม่แน่ว่าจะได้ผลบัดนี้ได้เห็นจงเฟยได้รับความโปรดปรานมากขึ้นทุกที แต่ละคนร้อนใจจนแทบทนไม่ไหว“เดิมทีคิดว่าจงเฟยจะซ่อนไว้ คิดไม่ถึงเลยว่ายังมอบให้ฮองเฮาอีกด้วย น้องหญิงจงเฟยจริงใจต่อฮองเอาจริงๆ!

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 992

    “บัดนี้ข้าและองค์หญิงเพียงแต่มีปัญหากันเล็กน้อยเท่านั้น รอข้าไปอธิบายให้ชัดเจน ทั้งหมดย่อมกลับมาเป็นเหมือนเดิม”เสิ่นหวยอันพูดอย่างมีเหตุผล ชนิดที่ว่าหน้าตายังเผยแววลำพองใจ “เจ้าคิดดูให้ดี หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก่อเรื่องพรรค์นี้ขึ้นมา ป่านนี้คงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว”“ส่วนข้า ก็แค่ถูกโบย สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างว่องไว หรือเจ้าไม่เข้าใจความหมายกันเล่า?”“ตกลงเจ้าจะพูดอะไร?” เสิ่นจวินเจ๋อหรี่ตาลง สังเกตเห็นปัญหาแล้ว เสิ่นหวยอันมั่นใจในตนเองเกินไป“เหตุที่องค์หญิงทำเช่นนี้ ก็เพราะหึงหวงเท่านั้น” เสิ่นหวยอันหัวเราะเบาๆ ลูบแต่งผมและพูด “องค์หญิงมีจิตปฏิพัทธ์ต่อข้า เพียงแต่เห็นซ่งปี้อวิ๋นอยู่ข้างกายข้ามาโดยตลอด เข้าใจผิดคิดว่าข้าและนางมีความสัมพันธ์กัน นี่ถึงเป็นเช่นนี้”“ระหว่างสตรีย่อมหนีไม่พ้นความหึงหวง นี่คือเรื่องธรรมดาอย่างมาก เพียงแต่องค์หญิงอารมณ์รุนแรงอยู่บ้าง นี่ถึงโบยข้า”“หากไม่รัก นางก็คงไม่โมโหถึงเพียงนี้ เจ้าเข้าใจหรือไม่?”เสิ่นจวินเจ๋อชะงักไปในทันใด ครู่ต่อมาคิดว่าสายตาของฉู่มู่เหยาไม่น่าจะแย่ถึงเพียงนี้ เพียงแต่ลองคิดดูแล้วเขาก็เริ่มไม่มั่นใจเพราะเสิ่นหวยอันมั่นใจในตน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 991

    ได้ยินคำพูดของอวิ๋นเฉิงเจ๋อ ภายในสายตาอวิ๋นเนี่ยนชูเปี่ยมความแปลกใจ มากที่สุดคือต้องการรู้เหตุผลทั้งหมดตกลงเป็นเพราะอะไร?เพราะเหตุใดหลายปีมานี้ ทั้งๆ ที่นางแสดงความชอบของตนออกมาไม่ใช่เพียงครั้งเดียว ทว่าญาติผู้พี่กลับหลบเลี่ยงนางมาโดยตลอด นางต้องการคำตอบหนึ่ง กลับไม่ได้รับทั้งๆ ที่ดีต่อนางถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่ภายในใจมีนางมาโดยตลอด เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?อวิ๋นเฉิงเจ๋อเอ่ยปากพูดเสียงขมปร่า นี่ถึงพูดความคิดที่เก็บซ่อนไว้ภายในใจตลอดหลายปีมานี้ออกมา...อวิ๋นเนี่ยนชูได้ยินทั้งหมดนี้ สายตาสะท้อนแววเหลือจะเชื่อ ยากจะเชื่อได้ว่าทั้งหมดนี้ถึงขั้นยังมีเรื่องที่นางไม่รู้มากถึงเพียงนี้“ดังนั้น...พวกเราไม่ใช่ญาติพี่น้องแท้ๆ?”อวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด นี่คือเรื่องที่นางไม่เคยรู้ หลายปีมานี้ญาติผู้พี่ก็ไม่เคยพูดมาก่อนอวิ๋นเฉิงเจ๋อพยักหน้า “ปีนั้นข้าถูกทิ้งไว้ที่ประตูเรือนด้านหลัง หากไม่ใช่ท่านแม่ใจดีรับเลี้ยงข้า ข้าคงตายไปตั้งนานแล้ว...”หลายปีมานี้เขาเคยคิดอยู่หลายค่ำคืน บิดามารดาแท้ๆ ของเขาเป็นใคร เหตุใดต้องทิ้งเขา บางครั้งก็เกลี้ยกล่อมตนเอง คิดถึงปัญหาเหล่านี้ไปล้วนไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 990

    เพียงเอ่ยปาก โทสะทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมาแล้วความเจ็บปวดและอึดอัดใจที่สั่งสมอยู่ภายในใจล้วนระเบิดออกมาในเวลานี้อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินอวิ๋นเนี่ยนชูพูดเช่นนี้เป็นครั้งแรก มองนางตวาดถามไล่เรียงตนเอง ภายในใจเปี่ยมความรู้สึกผิด“ขอโทษ ล้วนเป็นความผิดของข้า”เห็นสายตาเปี่ยมความรู้สึกผิดของฝ่ายชาย อวิ๋นเนี่ยนชูตาแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “เดิมทีทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของท่านอยู่แล้ว! เหตุใดท่านไม่บอกข้าเร็วสักหน่อย ท่านรู้ว่าหลายปีมานี้ข้าฝืนได้ลำบากมากเพียงใดหรือไม่?”“ในเมื่อท่านไม่พูดมาโดยตลอด เหตุใดไม่เก็บเอาไว้ชั่วชีวิตเล่า?”น้ำตานางไหลลงมา ตลอดหลายปีมานี้ไม่ตอบรับความรู้สึกนาง นี่ทุกข์ใจมากเพียงใด?นางอยากบริภาษเขาแรงๆ อยากทุบตีเขา ชนิดที่ว่าอยากไม่สนใจเขาอีก ทำให้เขาเสียใจภายหลังไปชั่วชีวิตเพียงแต่ ยามได้เห็นของเหล่านั้นที่เขาซ่อนไว้ภายในห้อง รวมถึงภาพเหมือนของนางที่วาดไว้นับไม่ถ้วนยามค่ำคืน นางก็อยากร้องให้อย่างอดไม่ได้...“เป็นความผิดของข้าเอง ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้า เจ้าตีข้าด่าข้าโทษข้า ล้วนสมควรทั้งสิ้น”อวิ๋นเฉิงเจ๋อสืบเท้าขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ภายในสายตาเปี่ยมความเอ็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 989

    “อะไรนะ?” อวิ๋นเนี่ยนชูชะงัก ภายในสายตาสะท้อนความตกตะลึงทั้งๆ ที่ตลอดมาล้วนเป็นนางตอแยญาติผู้พี่หากไม่ใช่เพราะหลายปีมานี้นางทำเช่นนี้มาโดยตลอด คาดว่าญาติผู้พี่ก็คงไม่ชอบนาง ทว่าได้ยินคำพูดของมารดาแล้ว เหตุใดญาติผู้พี่ถึงผลักทั้งหมดนี้ลงบนศีรษะของเขาเล่า?“เฉิงเจ๋อพูดว่าเขาพยายามสอบสร้างผลงานก็เพื่อจะได้คู่ควรกับเจ้า จะได้มีโอกาสสู่ขอเจ้า”“หากเปลี่ยนเป็นในอดีต ข้าจะต้องไม่เห็นด้วยที่พวกเจ้าคบหากัน บัดนี้ผ่านเรื่องมามากถึงเพียงนี้ ความคิดของแม่ก็เปลี่ยนไปไม่น้อย”“หากเจ้าชอบเฉิงเจ๋อจริง ข้าเองก็ไม่คัดค้าน แต่หากเจ้าไม่ชอบ...”สีหน้าจางเหวินสับสน ก่อนหน้านี้เคยเห็นท่าทางของเด็กทั้งสอง ไม่ว่ามองอย่างไรเนี่ยนชูก็ไม่คล้ายไม่ชอบเฉิงเจ๋อ“ข้าชอบญาติผู้พี่เจ้าค่ะ” อวิ๋นเนี่ยนชูตอบอย่างไม่ลังเล “ข้าชอบญาติผู้พี่มาโดยตลอด”มองเห็นท่าทางมุ่งมั่นของลูกสาว จางเหวินรู้สึกเอือมระอาระคนโชคดีอยู่บ้าง “ช่างแล้วๆ น้ากู้ของเจ้าพูดถูกแล้ว ลูกหลานมีความสุขของลูกหลาน พวกเจ้าคบหากันก็เป็นพวกเจ้าสร้างขึ้น”“แม้ว่าปีนั้นเฉิงเจ๋อทำไม่ถูก ไม่สมควรเกิดความคิดต่อเจ้า แต่ข้าล้วนเห็นความพยายามของเขาตลอดหลา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 988

    ยิ่งไปกว่านั้น ขอเพียงเขาพยายาม เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องมีอนาคตแน่ตระกูลตกต่ำ บิดามารดาจากไปก่อนวัยอันควร เดิมทีเขาก็เป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจตายที่ข้างถนนตั้งนานแล้ว บัดนี้ไม่เพียงมีข้าวกิน มีเสื้อผ้าสวมใส่ ท่านน้ายังเชิญอาจารย์มาสอนหนังสือเขา เขาไม่มีวันอกตัญญูเขาคิด...รออีกหน่อย รอจนเขามีความสามารถ รอจนเขาฉายแววโดดเด่น บางทีอาจมีโอกาสขอท่านน้าแต่งงานกับเนี่ยนชูทว่า ขณะเขากำลังตรากตรำร่ำเรียนอยู่นั้น ในที่สุดก็ได้รับคำชมจากอาจารย์ ได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง อาจารย์ของสำนักศึกษาหลวงเองก็ชื่นชมว่าเขาจะต้องมีโอกาสสอบผ่านขุนนางแน่ ตอนเขาคิดว่าตนเองอาจจะสามารถตอบรับความรู้สึกของเนี่ยนชูได้ กลับได้ยินท่านน้าและแม่นมพูดสนทนากันที่แท้...เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของบิดามารดาลูกของมารดาตายไปตั้งนานแล้ว ส่วนเขาคือเด็กที่วันนั้นถูกทิ้งไว้หน้าประตูเรือนด้านหลังของมารดาเดิมทีมารดาก็ยากจะยอมรับความเจ็บปวดได้ อีกทั้งยังสงสารเขา หมอพูดว่าร่างกายนางเสียหาย ภายภาคหน้ายากจะมีลูกได้อีก นี่ถึงรับอุปการะเขา ประกาศต่อโลกภายนอกว่าเขาเป็นลูกของตนเขาเป็นแค่เด็กถูกทิ้งคนหนึ่ง เศษสวะที่ไม่ยอมหนาว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 987

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ข้าเคยไม่สนับสนุนเจ้าตั้งแต่ยามใด? แต่ไหนแต่ไรมาข้าล้วนสนับสนุนการตัดสินใจของเจ้า”ก่อนหน้านี้นางทำนายมาก่อนแล้ว ภายในเรื่องนี้มีเงื่อนงำซ่อนอยู่มากมาย อวิ๋นเฉิงเจ๋ออ่อนแอเกินไปสำหรับเรื่องนี้ ไม่มีความรับผิดชอบมากเพียงพอเพียงแต่ หากไม่เคยผ่านความทุกข์ของผู้อื่น ก็ไม่สามารถตัดสินตามใจได้อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลายเป็นเช่นนี้ ย่อมหนีไม่พ้นประสบการณ์ที่เขาเคยเจอมาในช่วงหลายปีมานี้เรื่องเดียวกัน บางคนมีความรับผิดชอบที่แข็งแกร่งมาก ไม่ได้รับผลกระทบใด แต่บางคนคิดอ่านอย่างละเอียด ยากจะสามารถรับได้ใต้หล้ากว้างใหญ่ รวมทุกสรรพสิ่งไว้แล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะตนเอง นางย่อมไม่วู่วามสอดมือเข้าไปอวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มกว้าง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์เป็นเช่นไรข้าก็ไม่ใส่ใจแล้ว หากไม่พูดเรื่องนี้ออกมา ข้าจะต้องเสียใจภายหลังแน่”“ตอนนี้ท่านป้าจ้างกำลังอยู่กับท่านแม่ข้า รอกลับไปแล้วค่อยหาโอกาสพูดเถอะ”ซ่งรั่วเจินจิกนิ้วทำนาย ภายในสายตาเผยแววประหลาดใจ เปลี่ยนคำพูด “ดูท่าแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดออกจากปากของตนแล้วล่ะ”อวิ๋นเนี่ยนชูสงสัย “หมายความว่าอะไร?”“ญาติผู้พี่เจ้าพูด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 986

    ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status