Share

บทที่ 549

Author: จี้เวยเวย
“นี่เกิดอะไรขึ้น? ก่อนหน้านี้ฮูหยินผู้เฒ่าก็ยังดีๆ อยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ๆ ก็หมดสติไปแล้วเล่า?” หลิ่วหรูเยียนเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้

แม่นมทางด้านข้างรีบตอบสีหน้าว้าวุ่น “บ่าวเองก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องใดขึ้น เมื่อครู่หยินผู้เฒ่ายังดีๆ จู่ๆ ก็หมดสติไม่ฟื้นเจ้าค่ะ”

“ฮูหยินผู้เฒ่ามีโรคอะไรหรือไม่?”

ซ่งรั่วเจินทางหนึ่งถามทางหนึ่งจับชีพจรฮูหยินผู้เฒ่า พบว่าอายุมากแล้ว ป่วยเป็นโรคหัวใจ ชีพจรอ่อนแอมาก ยิ่งไปกว่านั้นจากชีพจรยังพบความผิดปกติอยู่รางๆ

“ฮูหยินผู้เฒ่าของพวกเรา หลายปีมานี้กินยาอยู่ตลอด ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาฮูหยินผู้เฒ่ามีสติแจ่มชัด กินยาตามเวลาทุกวัน”

“วันนี้หลังกินยาก็ขึ้นเขามา อิงตามหลักการแล้วไม่สมควรเกิดเรื่องอะไร!”

ซ่งรั่วเจินหยิบยาลูกกลอนออกมาหนึ่งเม็ด “ยานี้ของข้าสามารถทำให้อาการของฮูหยินผู้เฒ่ามั่นคงได้ ทำให้นางฟื้นขึ้นมา”

แม่นมชะงักไปเบาๆ นางรู้ฐานะของซ่งรั่วเจินสองคนแล้ว รู้สึกลังเลอยู่บ้าง สองคนนี้น่าจะไม่คิดทำร้ายฮูหยินผู้เฒ่าหลังรู้ฐานะของนางหรอกกระมัง?

“ลูกสาวข้ารู้วิชาแพทย์ นางพูดว่ามีประโยชน์ก็ย่อมมีประโยชน์” หลิ่วหรูเยียนคิดว่าแม่นมไม่เชื่อวิชาแพทย์ของซ่งรั่วเจิน อธ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
เดี๋ยวไอ้สองตัวที่มาใหม่น่าโดนฟ้าผ่า โทษฐานปรักปรำ มันไม่ได้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองบ้างเลย คนตอจุดจุดจุดต้องเจอกับอะไร
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1434      

    เมิ่งชิ่นชะงักเล็กน้อย เข้าใจได้ว่านางให้ตนไปถามหยางอ๋องให้ชัดเจน เพียงแต่พอคิดว่าตนจะต้องไปหาหยางอ๋อง นางก็รู้สึกกระดากใจอยู่บ้าง นี่จะให้นางเอ่ยปากได้อย่างไร? “หากเจ้าไม่สะดวก ข้าก็สามารถช่วยได้ เจ้าไตร่ตรองดูให้ดี หากต้องการให้ข้าช่วย ส่งคนมาบอกข่าวข้าก็พอ” ซ่งรั่วเจินกล่าว การนัดพบกันตามลำพัง แน่นอนว่าไม่เหมาะสม แต่หากเป็นการรวมตัวเล็ก ๆ ของพวกเขา แล้วบังเอิญเชิญทั้งสองมาด้วย เช่นนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เหมาะเจาะลงตัว เมิ่งชิ่นย่อมเข้าใจความหมายของซ่งรั่วเจินเช่นกัน จึงพยักหน้ารัว ๆ “รั่วเจิน เจ้านี่ช่างใส่ใจจริง ๆ!” ซ่งรั่วเจินยิ้มเบา ๆ “นั่นเป็นเรื่องธรรมดา” จนเมื่อเมิ่งชิ่นจากไปแล้ว อวิ๋นเนี่ยนชูก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นว่า “รั่วเจิน เมื่อครู่นี้เหตุใดเจ้าจึงไม่ให้ข้าพูด?” “ข้าว่าสิ่งที่ข้าจะพูดก็หาใช่ไร้เหตุผลไม่ หยางอ๋องแต่งกับองค์หญิงไม่สำเร็จ ตอนนี้ก็คิดจะแต่งกับเมิ่งชิ่น เช่นนี้ไม่เกินไปหน่อยหรือ?” “พวกเรารู้จักเมิ่งชิ่นมานานขนาดนี้ นางเป็นคนนิสัยเช่นไร เจ้ากับข้าก็ล้วนรู้ดี” “แต่ก่อนก็ใช่ว่าจะไม่มีใครมาสู่ขอนาง เพียงแต่เมื่อเอ่ยถ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1433      

    ได้ยินคำถามของอวิ๋นเนี่ยนชู สีหน้าของเมิ่งชิ่นก็เขินอาย รีบกล่าวอธิบายว่า “ความจริงแล้วข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนที่ข้าได้ยินข่าวนี้ ก็รู้สึกแปลกใจมาก ไม่ว่ายังไงก็ไม่เข้าใจเลยว่า อยู่ดีดีเหตุใดพระชายาซูเฟยจึงพูดถึงเรื่องการแต่งงานนี้ขึ้นมา” “อีกอย่างท่านแม่ก็เพิ่งจะมาบอกข่าวนี้กับข้า แม้แต่หยางอ๋อง ข้ายังไม่รู้เลยว่า รู้เรื่องนี้หรือไม่ อวิ๋นเนี่ยนชูขบคิดพลางกล่าวว่า “น่าจะรู้กระมัง? ไม่เช่นนั้นซูเฟยจะมาหารือกับท่านแม่เจ้าตรง ๆ โดยที่แม้แต่ความในใจของหยางอ๋องก็ยังไม่ได้ถามให้แน่ชัดจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?” “หยางอ๋องต้องรู้แน่นอน” ท่าทีของซ่งรั่วเจินมั่นใจอย่างมาก “ตามที่ข้าคิด หยางอ๋องคงไม่อยากแต่งงานกับอูเยว่เอ๋อร์แล้ว แต่เกรงว่าอูเยว่เอ๋อร์บัดนี้ก็ยังคงอยากเป็นพระชายาหยางอ๋องอยู่” เมิ่งชิ่นสบสายตากับซ่งรั่วเจิน ก่อนจะเข้าใจขึ้นมาในทันที “เจ้าหมายความว่า หยางอ๋องไม่อยากจะแต่งกับอูเยว่เอ๋อร์ แต่ก็กังวลว่า หากอูเยว่เอ๋อร์ไปทูลขอสมรสพระราชทานจากฝ่าบาท เขาก็จะจนปัญญาใช่หรือไม่?” “ดังนั้น เขาจึงอยากแต่งกับข้า เช่นนี้แล้ว เขาก็จะไม่ต้องแต่งกับอูเยว่เอ๋อร์ใช่ห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1432    

    “ไม่เพียงแต่ ก่อนหน้านี้ที่หาเรื่องรั่วเจินในโรงน้ำชาสกุลซ่ง นางยังจงใจให้แม่ทัพอ๋าวเจี๋ยไปท้าประลองกับพี่ใหญ่ซ่งอีก ทว่าตอนนี้ก็ถือว่าได้ชดใช้กรรมของตนเองแล้ว ชื่อเสียงพังพินาศย่อยยับ” เมิ่งชิ่นเข้าใจทันที “ที่หยางอ๋องเลิกตามเกี้ยวอูเยว่เอ๋อร์ ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?” “ใช่แล้ว” ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “แม้ว่าการแต่งงานกับองค์หญิงเชื่อมสัมพันธ์จะมีผลดีอยู่มาก ทว่าเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต หยางอ๋องเป็นผู้เฉลียวฉลาด ย่อมรับรู้ได้ถึงปัญหาที่อยู่ในนั้นได้” อวิ๋นเนี่ยนชูฟังไปด้วยพยักหน้าไปด้วย แต่ในใจก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย “เมิ่งชิ่น ปกติแล้วเจ้าก็ไม่ได้สนใจบุรุษมาตลอดไม่ใช่หรือ? เหตุใดอยู่ ๆ วันนี้จึงใส่ใจเรื่องของหยางอ๋องถึงเพียงนี้ หรือว่า…” คิ้วเรียวของซ่งรั่วเจินเลิกขึ้นเล็กน้อย นางย่อมรับรู้ได้ถึงความผิดปกติเช่นกัน เมิ่งชิ่นเหม่อลอยถึงเพียงนี้ อีกทั้งยังใส่ใจหยางอ๋องเป็นพิเศษ ต้องมีเหตุเป็นแน่ สีหน้าเมิ่งชิ่นแข็งทื่อทันที เดิมทียังคิดจะปิดบังไว้ ยังไงเรื่องนี้ ตอนนี้ก็ยังเป็นเพียงข้อเสนอเท่านั้น ไม่เหมาะสมที่จะกล่าวออกมาอย่างบุ่มบ่ามได้ แต่เมื่อคิดว่าล้วน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1431

    เห็นท่าทางเป็นกังวลของอวิ๋นเนี่ยนชู ซ่งรั่วเจินก็หัวเราะเบา ๆ พลางกล่าวว่า “ต่างก็เป็นพระชายาเหมือนกัน นางยังไม่กลัวว่าจะล่วงเกินข้า แล้วไยข้าจึงต้องกลัวว่าจะล่วงเกินนาง?” อย่างไรเสียก็กำหนดให้เป็นศัตรูกันอยู่แล้ว อีกไม่นานความแค้นระหว่างสองฝ่ายก็จะเผยออกมาต่อหน้า การเสแสร้งจอมปลอมในยามนี้ย่อมไม่มีความจำเป็น “รั่วเจิน นิสัยของเจ้าตอนนี้เปลี่ยนไปมากจริง ๆ” อวิ๋นเนี่ยนชูกล่าวด้วยความทอดถอนใจ ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้ว “ทำไมหรือ? เจ้าคิดว่าไม่ดีหรือ?” “ไม่ใช่” อวิ๋นเนี่ยนชูส่ายหน้า “เจ้าไม่รู้หรอกว่าตอนที่ข้าเห็นฉากนั้นเมื่อครู่ ข้านั้นสะใจแค่ไหน!” “จะว่าไป ก็เป็นเพราะสิ่งแวดล้อมในยามเยาว์ของเรานั่นแล ข้าดูแล้วหาใช่ว่าบุตรีตระกูลสูงศักดิ์ทุกนางจะระมัดระวังไปเสียทุกเรื่องไม่” “ถังเสวี่ยหนิงผู้นั้น เดิมทียังเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ที่คนในเมืองหลวงต่างสรรเสริญ เจ้าดูเอาเถิด บัดนี้เป็นเช่นไร ข้าเพียงคิดว่านางกับพระชายาเหลียงอ๋องอยู่ด้วยกัน ย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่ ไม่แน่ว่ากำลังคิดจะหาเรื่องเจ้าอยู่” “ทหารมาก็ใช้ขุนพลต้าน น้ำมาก็ใช้ดินกั้น หากนางเรียนรู้จากความผิดพ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1430  

    “ข้าว่านะน้องสะใภ้ ข้ากับเจ้าเพิ่งจะรู้จักกันไม่นาน เจ้ามีหน้ามาสั่งสอนข้าด้วยหรือ?” “มิน่าเหตุที่เจ้าดูชราถึงเพียงนี้ ที่แท้ก็เป็นเพราะชอบทำตัวเป็นป้าแก่ตามสั่งสอนคนอื่นไปทั่วนี่เอง!” ซ่งรั่วเจินแค่นหัวเราะออกมา ก่อนจะดึงมืออวิ๋นเนี่ยนชูให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับเอ่ยว่า “พวกเราคนวัยหนุ่มสาว อยู่ให้ห่างจากป้าแก่ที่ชอบเสนอหน้ามาสั่งสอนคนอื่นสักหน่อย มิเช่นนั้นอาจจะติดเชื้อมาก็ได้” “วัน ๆ เอาแต่คิดว่าตนเองรู้มาก เห็นใครก็อยากจะชี้นิ้วแนะนำไปทั่ว แต่ก็นะแม้แต่เรื่องในเรือนตนเองยังจัดการไม่ได้ ไม่รู้ว่าไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน!” อวิ๋นเนี่ยนชูตอนแรกยังกังวลว่าซ่งรั่วเจินจะถูกรังแก ทว่าหลังจากได้เห็นฝีปากอันเผ็ดร้อนของรั่วเจินกับตาตนเองแล้ว นางก็ถึงกับอึ้งไปเลย ทั้งที่เมื่อก่อนล้วนเป็นนางที่ต้องลุกมาปกป้องรั่วเจินเสมอ ทว่าบัดนี้นางไม่มีโอกาสแม้แต่จะพูดแทรกเข้าไปด้วยซ้ำ แค่รั่วเจินอ้าปากก็ทำคนเดือดดาลเจียนตายได้แล้ว แค่คำว่าป้าแก่คำเดียว ทว่าพลังทำลายล้างกลับมหาศาลถึงขีดสุด ไม่ผิดจากที่คาดไว้ ฉีชิงอีและถังเสวี่ยหนิงต่างหน้าแดงก่ำด้วยความเดือดดาล รู้สึกเพียงว่าศักดิ์ศรีของตนถูกย่ำยี

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1429  

    ซ่งรั่วเจินไม่ชอบเหลียงอ๋องเป็นทุนเดิม องค์ชายสี่พระองค์นี้เคยเข่นฆ่าผู้คนไปมากมายในนิยายต้นฉบับ ไม่ต่างจากอสรพิษร้ายที่ซ่อนตัวรอจังหวะจู่โจม ในชาตินี้ พวกนางจะไม่ปล่อยให้เหลียงอ๋องได้สมหวังอีก! เดิมทีนางมิได้รู้สึกอะไรกับฉีชิงอีผู้นี้เป็นพิเศษ ทว่าเมื่อคราวก่อนพอได้เห็นนางอยู่กับถังเสวี่ยหนิง อีกทั้งสายตาที่มองตนเองยังเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตร ก็รู้ทันทีว่าสองคนจะต้องเป็นศัตรูแน่ ด้วยความสามารถของนาง มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าพลังเข้ากันได้หรือไม่ได้ คนที่พลังไม่เข้ากัน พูดมากแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ ในเมื่อถูกลิขิตไว้แล้วว่ามิได้เดินบนเส้นทางเดียวกัน ย่อมไม่มีความจำเป็นต้องพยายามสร้างความสนิทสนม “ก็เหมือนกัน” ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วขึ้นสีหน้าราบเรียบ ไม่มีท่าทีว่าจะอธิบายอะไรเพิ่มเติมแม้แต่น้อย ฉีชิงอีกล่าวด้วยน้ำเสียงเสียดสี เจาะจงถึงข้อด้อยของซ่งรั่วเจินอย่างตรงไปตรงมา นางคิดว่าสตรีนางนี้จะลดท่าทีลงบ้าง กลับคิดไม่ถึงเลยว่าสตรีนางนี้จะยังเย่อหยิ่งจองหองเช่นเดิม น่าชิงชังเสียจริง! “พระชายาเหลียงอ๋อง ท่าน…” ถังเสวี่ยหนิงเดินเข้ามาหาพระชายาเหลียงอ๋องด้วยสีหน้ายิ้มแย้มสดใส ไม่คิดเลยว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status