แชร์

บทที่ 556

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
“อาการคุณชายหร่วนเป็นอย่างไรบ้างเพคะ?”

“หลังเจ้ารักษาอาการเขา อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ สองวันนี้ไม่รู้สึกเจ็บอีกแล้ว”

ฉู่จวินถิงอดจะชมเชยไม่ได้ วิชาแพทย์ของซ่งรั่วเจินเลิศล้ำจริงๆ ต่อให้ในเมืองหลวงมีหมอมากมายก็ยังไม่มีใครสามารถเทียบเคียงนางได้

“เช่นนั้นก็ดีแล้วเพคะ” ซ่งรั่วเจินถอนหายใจโล่งอก

“คราวก่อนรีบร้อนเกินไป อาการของอวี้เฉิงไม่สู้ดี เรื่องบางอย่างจึงไม่ทันได้บอกเจ้า สองวันนี้ค่อยนึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องต้องบอกเจ้า เป็นเรื่องเกี่ยวกับบิดาเจ้า” ฉู่จวินถิงกล่าว

ซ่งรั่วเจินได้ยินแล้วดวงตาก็พลันวาววับ พอลองตรองดู...ถึงเวลาที่ท่านพ่อจะกลับมาแล้วจริงๆ

นางรู้มาตลอดว่าบิดายังไม่ตาย ทั้งยังเคยทำนายพบว่าเขาสามารถกลับมาอย่างปลอดภัยจึงไม่ได้เข้าไปสอดมือ

อย่างไรเสีย กระดูกหักก็สมควรพักรักษาตัวดีๆ รีบร้อนกลับมาหาใช่เรื่องดีไม่ ในฐานะคนในสำนักวิชาเต๋า เปลี่ยนแปลงมากเกินไปก็หาใช่เรื่องดี ในเมื่อไม่มีผลกระทบ มิสู้รอคอยอย่างอดทน

ในนิยายต้นฉบับเวลานี้ตระกูลซ่งตกต่ำไปแล้ว ไม่สามารถรับมือจนซ่งหลินกลับมาได้ แต่ตอนนี้หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป บิดากลับมาทุกอย่างก็จะกลายเป็นข่าวดี!

หลังจากหร่วนอวี้
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1430  

    “ข้าว่านะน้องสะใภ้ ข้ากับเจ้าเพิ่งจะรู้จักกันไม่นาน เจ้ามีหน้ามาสั่งสอนข้าด้วยหรือ?” “มิน่าเหตุที่เจ้าดูชราถึงเพียงนี้ ที่แท้ก็เป็นเพราะชอบทำตัวเป็นป้าแก่ตามสั่งสอนคนอื่นไปทั่วนี่เอง!” ซ่งรั่วเจินแค่นหัวเราะออกมา ก่อนจะดึงมืออวิ๋นเนี่ยนชูให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับเอ่ยว่า “พวกเราคนวัยหนุ่มสาว อยู่ให้ห่างจากป้าแก่ที่ชอบเสนอหน้ามาสั่งสอนคนอื่นสักหน่อย มิเช่นนั้นอาจจะติดเชื้อมาก็ได้” “วัน ๆ เอาแต่คิดว่าตนเองรู้มาก เห็นใครก็อยากจะชี้นิ้วแนะนำไปทั่ว แต่ก็นะแม้แต่เรื่องในเรือนตนเองยังจัดการไม่ได้ ไม่รู้ว่าไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน!” อวิ๋นเนี่ยนชูตอนแรกยังกังวลว่าซ่งรั่วเจินจะถูกรังแก ทว่าหลังจากได้เห็นฝีปากอันเผ็ดร้อนของรั่วเจินกับตาตนเองแล้ว นางก็ถึงกับอึ้งไปเลย ทั้งที่เมื่อก่อนล้วนเป็นนางที่ต้องลุกมาปกป้องรั่วเจินเสมอ ทว่าบัดนี้นางไม่มีโอกาสแม้แต่จะพูดแทรกเข้าไปด้วยซ้ำ แค่รั่วเจินอ้าปากก็ทำคนเดือดดาลเจียนตายได้แล้ว แค่คำว่าป้าแก่คำเดียว ทว่าพลังทำลายล้างกลับมหาศาลถึงขีดสุด ไม่ผิดจากที่คาดไว้ ฉีชิงอีและถังเสวี่ยหนิงต่างหน้าแดงก่ำด้วยความเดือดดาล รู้สึกเพียงว่าศักดิ์ศรีของตนถูกย่ำยี

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1429  

    ซ่งรั่วเจินไม่ชอบเหลียงอ๋องเป็นทุนเดิม องค์ชายสี่พระองค์นี้เคยเข่นฆ่าผู้คนไปมากมายในนิยายต้นฉบับ ไม่ต่างจากอสรพิษร้ายที่ซ่อนตัวรอจังหวะจู่โจม ในชาตินี้ พวกนางจะไม่ปล่อยให้เหลียงอ๋องได้สมหวังอีก! เดิมทีนางมิได้รู้สึกอะไรกับฉีชิงอีผู้นี้เป็นพิเศษ ทว่าเมื่อคราวก่อนพอได้เห็นนางอยู่กับถังเสวี่ยหนิง อีกทั้งสายตาที่มองตนเองยังเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตร ก็รู้ทันทีว่าสองคนจะต้องเป็นศัตรูแน่ ด้วยความสามารถของนาง มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าพลังเข้ากันได้หรือไม่ได้ คนที่พลังไม่เข้ากัน พูดมากแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ ในเมื่อถูกลิขิตไว้แล้วว่ามิได้เดินบนเส้นทางเดียวกัน ย่อมไม่มีความจำเป็นต้องพยายามสร้างความสนิทสนม “ก็เหมือนกัน” ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วขึ้นสีหน้าราบเรียบ ไม่มีท่าทีว่าจะอธิบายอะไรเพิ่มเติมแม้แต่น้อย ฉีชิงอีกล่าวด้วยน้ำเสียงเสียดสี เจาะจงถึงข้อด้อยของซ่งรั่วเจินอย่างตรงไปตรงมา นางคิดว่าสตรีนางนี้จะลดท่าทีลงบ้าง กลับคิดไม่ถึงเลยว่าสตรีนางนี้จะยังเย่อหยิ่งจองหองเช่นเดิม น่าชิงชังเสียจริง! “พระชายาเหลียงอ๋อง ท่าน…” ถังเสวี่ยหนิงเดินเข้ามาหาพระชายาเหลียงอ๋องด้วยสีหน้ายิ้มแย้มสดใส ไม่คิดเลยว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1428  

    ชั่วขณะที่อูจิ่งซั่วผินศีรษะคิดจะหันไปอ้อนวอนต่อฮ่องเต้ ฮ่องเต้กลับหยัดกายขึ้นยืน พร้อมตรัสว่า “ในเมื่อองค์ชายอูได้ขอโทษแล้ว เรื่องของผู้น้อยอย่างพวกเจ้าก็ตัดสินใจกันเองเถิด เรายังมีราชกิจอื่นต้องสะสาง” “น้อมส่งฝ่าบาท” อูจิ่งซั่วที่ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ได้แต่อึ้งงัน “???” …… ซ่งรั่วเจินและอวิ๋นเนี่ยนชูในขณะนั้นก็กำลังเดินเล่นดูร้านรวงริมทาง “เนี่ยนชู หลังจากแต่งงานเจ้าก็ดูอ้วนท้วนสมบูรณ์ขึ้นกว่าเมื่อก่อนหน่อย ๆ แล้วนะ ดูท่าคงจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากเลยสินะเนี่ย!” ซ่งรั่วเจินเอ่ยเย้า อวิ๋นเนี่ยนชูหน้าแดงระเรื่อ “พวกข้าไหนเลยจะสู้เจ้ากับท่านอ๋องได้เล่า? รักใคร่กลมเกลียวดั่งเพลงพิณสอดประสาน ใครต่างก็อิจฉา” “พวกเจ้าต่างรอคอยกันมานานหลายปี ในที่สุดก็ได้บรรลุผลตามปรารถนา ข้าได้ยินมาว่า หมู่นี้พวกเจ้าเอาแต่ขลุกอยู่ในจวนตลอด แทบไม่ออกมาข้างนอกเลย ข้าเองก็ไม่กล้ารบกวนพวกเจ้า” ซ่งรั่วเจินผุดยิ้มบาง ๆ จุดจบอันน่าอนาถในชาติที่แล้ว บัดนี้นับว่าได้ถูกแก้ไขให้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว นางรู้สึกยินดีกับพวกเขาจากใจจริง “รั่วเจิน เจ้าพูดเหลวไหลอะไร!” อวิ๋นเนี่ยนชูรีบหันมองรอบข้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1427  

    อูจิ่งซั่วใคร่ครวญครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายก็ตัดสินใจฉวยโอกาสนี้ถามออกไปตรง ๆ อูเยว่เอ๋อร์ก็ใช่ว่าจะสามารถถามข้อมูลนี้จากปากองค์ชายท่านอื่นมาได้เสมอไป ต่อให้ถามมาได้ ก็ใช่ว่าจะเชิญหมอเทวดาคนนี้มารักษาได้เสมอไปอีกเหมือนกัน เพียงแต่ ในตอนนี้หากเขาได้แสดงเจตจำนงออกมาต่อเบื้องพระพักตร์ฝ่าบาท ไม่แน่ว่าอาจจะยังพอมีโอกาส ตนเองมิเพียงกล่าวขอโทษ แต่ยังได้แสดงออกถึงความบริสุทธิ์ใจ เชื่อว่าพวกเขาจะต้องไม่กล้าออกปากตำหนิอย่างรุนแรงเกินไปแน่ ถึงอย่างไร คนของราชวงศ์ฉู่โยวก็มิได้เสียเปรียบอะไรจากเรื่องนี้อยู่แล้ว ครั้นสิ้นประโยคนี้ สีหน้าของผู้คนภายในห้องทรงพระอักษรล้วนเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าประหลาด เจ้าคนผู้นี้นับว่าฉลาดหลักแหลมดี รู้จักฉวยโอกาสถามขึ้นมาในจังหวะแบบนี้ ซึ่งยากที่จะเลี่ยงไม่ตอบคำถาม ทว่าคอยให้เขาได้รู้ว่าหมอเทวดาท่านนี้แท้จริงแล้วเป็นใครก่อนเถิด ท่าทางหลังจากนั้นจะต้องน่าสนใจมากแน่ “ข้าทราบดีว่าเรื่องทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความผิดของอ๋าวเจี๋ย ทว่าเขาในตอนนี้ก็กลายเป็นคนพิการไปแล้ว ข้าคิดว่าหมอเทวดาท่านนั้นมีวิชาแพทย์เลิศล้ำ บางทีอาจจะรักษาเขาให้หายเป็นปกติได้ หวังว่าหัวหน้าราชอง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1426  

    หลายปีที่ผ่านมานี้เขามิได้หาชมบุปผาไขว่คว้าต้นหลิวเหมือนคนอื่น ในจวนยังไม่มีแม้แต่อนุภรรยาสักคนด้วยซ้ำ ตัวเขารู้จักประมาณตนเอง และรู้ด้วยว่ามีคนมากมายกำลังจ้องจับผิดเขาอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่เคยทำอะไรพลาดพลั้งแม้เพียงสักครั้งเดียว หากได้แต่ง และอีกฝ่ายยังเป็นแม่นางที่รู้จักเอาใจใส่ เขาย่อมดูแลทะนุถนอมเป็นอย่างดี ได้ยินเช่นนั้น ซูเฟยก็เบาใจลงมา พร้อมกับเอ่ยว่า “ได้ เช่นนั้นข้าจะสั่งให้คนไปเชิญเมิ่งฮูหยินมาพบ” อีกด้านหนึ่ง อูเยว่เอ๋อร์บรรจงแต่งกายอย่างพิถีพิถันเรียบร้อยก็มาที่จวนหยางอ๋อง นางไม่เชื่อหรอกว่าตนเองแต่งกายมางดงามเพริศพริ้งเพียงนี้แล้ว หยางอ๋องจะยังไม่รู้สึกหวั่นไหวกับตนเอง! ทว่า หลังจากที่นางมาถึง กลับพบว่าหยางอ๋องไม่อยู่ที่จวนอ๋อง “เจ้าคงมิได้กำลังหลอกลวงข้ากระมัง? หยางอ๋องออกไปข้างนอกจริงหรือ?” “ทูลองค์หญิง ถ้อยคำของพวกกระหม่อมไม่มีโป้ปดมดเท็จพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องไม่อยู่ที่จวนจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ” อูเยว่เอ๋อร์ไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง ก็เท่ากับว่าวันนี้นางแต่งตัวมาเสียเปล่าแล้วน่ะสิ? “องค์หญิงเพคะ หากเป็นเช่นนี้แล้ว วันนี้หยางอ๋องคงมีธุระจำเป็นต้องสะสางจริง ๆ เพคะ คงมิไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1425  

    หยางอ๋องเห็นเสด็จแม่ของตนเองมีเจตนาอยากให้ตนเองอภิเษกกับถังเสวี่ยหนิง พลันตกใจ ก็ร้อนรนรีบเอ่ยทันทีว่า “ไม่ได้! ไม่ได้เด็ดขาด!” ล้อเล่นกันหรืออย่างไร ? เหตุผลที่เขาไม่ยอมแต่งงานกับอูเยว่เอ๋อร์ ก็เพราะว่าสตรีผู้นี้เอาแต่จ้องหาเรื่องพี่สะใภ้สามตลอด ส่วนถังเสวี่ยหนิงยังหนักยิ่งกว่านางอีก! “เสด็จแม่ ท่านคงมิได้อยากจะให้ลูกตายหรอกกระมัง” ซูเฟยถึงกับตะลึง รีบเอ่ยทันที “ดูเจ้าพูดจาเขาสิ ข้าเป็นเสด็จแม่ของเจ้านะ สิ่งนี้เรียกว่าหวังดีต่อเจ้ามิใช่หรือ? ข้าจะไปทำร้ายเจ้าได้อย่างไรกันเล่า?” “เหตุใดจนตอนนี้ถังเสวี่ยหนิงยังมิได้หมั้นหมายเสียที เสด็จแม่เองก็น่าจะทราบดีนะขอรับ ก่อนหน้านี้นางทำเรื่องโง่เง่าเอาไว้ตั้งเท่าใด ยิ่งไปกว่านั้นยังเคยล่วงเกินพระชายาฉู่อ๋องไว้เสียเต็มที่อีก” “โอรสของท่านถึงแม้จะไร้ความทะเยอทะยาน แต่อย่างน้อยก็เข้าใจตรงจุดนี้กระจ่างแจ้ง ว่าคนที่มิควรเข้าไปแหย่ห้ามเข้าไปแหย่เด็ดขาด ยิ่งจวนฉู่อ๋องยิ่งไม่ควรล่วงเกินอย่างเด็ดขาด!” หยางอ๋องเล่าสถานการณ์ของตนเองให้ซูเฟยฟังอย่างตรงไปตรงมา “ท่านแค่เลือกดรุณีที่มีชาติกำเนิดบริสุทธิ์ผุดผ่อง อากัปกิริยาสง่างามเพียบพร้อมให้ล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status