LOGINหลังประสบเหตุจากความหล่อกระแทกตา ธารตะวันก็ขอให้ท่านประธานช่วยไปนั่งหน้าตาดีที่โต๊ะอาหารแทน มิเช่นนั้นหัวใจเธอมันน่าจะทำงานหนักเกินแล้วอาจล้มเหลวได้เลย
แม่ครัวจำเป็นนำไส้กรอกกับหมูสับและโบโลน่าเตรียมไว้ เริ่มตั้งแต่ต้มเนื้อหมูแล้วก็หั่นไส้กรอกให้เรียบร้อย
ใบหน้างามล้ำหยิบจับอย่างคล่องแคล่ว โลกที่จากมาเธอทำมาแทบจะทุกอาชีพแล้วในร้านอาหาร ทั้งล้างจานหรือผู้ช่วยเชฟเธอก็ผ่านสนามเหล่านี้มาแล้วทั้งนั้น
ชีวิตเธอก็ทำได้ทุกอย่างเพื่อเงินนั่นแหละ...
เมนูทำง่ายแล้วก็อิ่มท้องถูกเสิร์ฟบนโต๊ะอาหาร ธันย์ธาราละสายตาจากหน้าจอมือถือ เขาวางคว่ำหน้าจอลงแล้วขยับตัวอย่างสนใจไข่กระทะตรงหน้าแทน
“อันนี้ซอสนะคะ เผื่อคุณธันย์อยากใส่ซอสเพิ่ม” เธอวางซอสให้เขาพร้อมกับพริกไทยเผื่อจะโรยหน้าเพิ่ม
พอจัดวางเสร็จร่างบางก็ถอยไปยืนประสานมือไว้ด้านหน้า พลันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เมื่ออีกฝ่ายช้อนตามองมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะเสตาไปที่ไข่กระทะพร้อมกับออกคำสั่งเสียงเย็นยะเยือก
“คุณชิมสิ” เขาพูดเสียงนิ่งจนเหมือนคนไร้ชีวิตชีวา
“คะ” เธอเลิกคิ้วแล้วระบายยิ้มจืดเจื่อนเมื่อได้ยิน
ทำอย่างกับกลัวว่าเธอจะวางยาพิษในอาหารเขา ธารตะวันยิ้มแย้มแก้เก้อเขินไม่เข้าใจสักนิดว่าทำไมถึงอยากให้เธอชิมก่อน พอสงสัยก็อดไม่ได้ที่จะไถ่ถามในสิ่งที่หัวสั่งการให้พูดออกไป
หรือเรียกว่าแพ้เสียงในหัวนั่นเอง
“กลัวฉันจะวางยาพิษคุณหรือไงคะ”
“แล้วคุณจะทำหรือเปล่า”
“คุณธันย์...”
คนที่แค่พูดเล่นขำไม่ออก เมื่อประธานธันย์ถามกลับเสียงจริงจัง สีหน้าอารมณ์ดูเป็นกังวลจนหว่างคิ้วเขากระตุกเข้าหากัน ทำเธอยืนตัวแข็งทื่อคิดไม่ตกกับสถานการณ์ตรงหน้า
“ผมแค่อยากจะไว้ใจคุณ” เขาพูดต่อเสียงราบเรียบ พลางหยิบช้อนในมือส่งให้เธอประกอบการตัดสินใจด้วย
ธารตะวันขยับสายตาสบมองนัยน์ตาคมเข้ม พอเอาเข้าจริงก็รู้สึกแย่ที่โดนตั้งแง่ไม่ไว้วางใจ แต่อีกใจหนึ่งก็พยายามจะทำความเข้าใจความเป็นธันย์ธาราให้มากที่สุด
ตัวเธอก็ต้องมั่นใจว่าไม่มีทางทำเรื่องไม่ดีอยู่แล้ว แต่ในส่วนของเขาเธอก็เป็นแค่คนแปลกหน้า จะไม่ไว้ใจกันก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร
“ถ้างั้นฉันขออนุญาตชิมก่อนก็แล้วกันนะคะ” เธอค้อมศีรษะอย่างนอบน้อม ก่อนจะหลุบตามองเขาที่เลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งข้างๆ
ร่างบางไม่มีท่าทีอิดออดยิ้มรับอย่างมั่นใจ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจเธอก็นั่งลงข้างเขาแล้วรับช้อนมาถือไว้ ก่อนเริ่มตักไข่ดาวที่โรยซอสและพริกไทยเข้าปากเคี้ยวทันที
ดวงตากลมโตเบิกกว้างที่รสชาติอาหารถูกปาก พลางช้อนตามองที่ประธานธันย์แล้วยิ้มแก้มแป้นแล้นจนตาเป็นรูปสระอิ
“อร่อยมากค่ะ” เธอชมฝีมือตัวเอง พร้อมกับยกนิ้วโป้งประกอบหลังกลืนอาหารหมดปากแล้ว
ธันย์ธารายกยิ้มจนแทบมองไม่ออกว่ายิ้มอยู่ที่มุมปาก ไม่ว่าอารมณ์ไหนสีหน้าและแววตาเขาก็เย็นชาราวกับหมอกอยู่ดี เขาส่ายหน้าว่าไม่ทานไข่กระทะของเธอแล้วดันมันไปไว้ตรงหน้าเธอแทน
“กินอีกสิ”
“คะ”
“กินข้าวมาหรือยัง”
“เอ่อ... ยังไม่ได้กินค่ะคุณธันย์” ใบหน้าจิ้มลิ้มมุ่นคิ้ว เผลอยู่ปากเข้าหากันเล็กน้อย
เมื่อเช้าเธอรีบเดินทางจนไม่ได้ทานอะไรรองท้องมาเลย แต่ปกติในโลกที่จากมาก็ไม่เคยทานข้าวเช้าทันอยู่แล้ว เพราะงั้นมันเลยจะไปหนักที่มื้อกลางวันซะมากกว่า
“งั้นคุณก็ทานให้หมด”
“แล้วคุณธันย์ไม่ทานเหรอคะ”
เขาส่ายหน้าเบาๆ แทนคำตอบ ทำเอาเธอนั่งไหล่ห่อคอตกทันที
ร่างบางนั่งงุดหน้าจนคางเกือบชิดอก อุตส่าห์ตั้งใจทำสุดฝีมือทั้งตกแต่งหน้าตาให้สวยงามน่ารับประทาน รสชาตินี่ก็ไม่ได้แย่เลยสักนิด ไม่ได้อยากจะน้อยใจเลยแต่หัวใจมันก็ซึมหงอยอยู่ดี
“หรือว่าเพราะฉันกินแล้วคุณก็เลย... ถ้างั้นเดี๋ยวฉันทำให้ใหม่ก็ได้ค่ะ แต่รบกวนรอสักครู่ได้ไหมคะ”
ธารตะวันน้อยใจแต่พยายามเก็บอาการ เธอก้มหน้าลงแล้วจะลุกไปทำเพิ่มใหม่ แต่ถูกมือหนารั้งแขนไว้พร้อมกับแย่งช้อนในมือเธอไป พอเงยหน้าขึ้นมองเขาก็พบว่าเจ้าตัวใช้ช้อนเดียวกันตักไข่กระทะกิน
“คุณธันย์”
“จบมั้ย”
“แต่นั่นมันช้อน...”
เธอถึงกับเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก กระอึกกระอักที่เขาแสดงออกว่าไม่รังเกียจตามที่เธอกังวล แต่การกินช้อนเดียวกันมันต้องสนิทกันมากไม่ใช่เหรอ หรือก็ต้องคนเป็นแฟนกันนี่นาถึงจะทำได้
บ้าชะมัดเลย...
หัวใจของเธอเต้นแรงเป็นลิงโลดเลยตอนี้ หน้าตาหูเหอเห่อร้อนแทบไหม้ไปหมดแล้ว พลังทำลายล้างนี่มันอะไรกัน หล่อเย็นชาแถมมีลูกเล่นที่แพรวพราวอีกต่างหาก
นิยายเรื่องนี้จะได้พระเอกตัวซีเครทเหรอ...
ธันย์ธาราป้องปากกระแอมไอ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง หลังอีกฝ่ายนั่งสติหลุดลอยราวกับลูกโป่งอัดแก๊สไปแล้วเรียบร้อย
“กินเสร็จแล้วตามขึ้นไปข้างบนที”
“เอ่อ ได้ค่ะคุณธันย์... ขอบคุณนะคะ”
เธอรีบค้อมศีรษะหลายๆ ครั้ง ก่อนเงยหน้าส่งยิ้มบางเบาให้เขาที่กดสายตาหน้านิ่งตอบกลับมา
ทว่าห้วงเวลาฝันหวานก็ถูกดับลงในเพียงพริบตา ฉุดดึงให้เธอกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง เมื่อเสียงแหลมสูงของหญิงรุ่นใหญ่ดังขึ้นจากด้านหลัง จนเสียวสันหลังวาบขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
“ผู้หญิงคนนี้ใครตาธันย์...”
ชีวิตหลังจากทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ยังคงดำเนินต่อไป ราวกับกำลังสวมบทบาท เป็นตัวละครในเนื้อเรื่อง จนลืมเลือนไปแล้วว่าอีกโลกหนึ่งที่จากมาก่อนหน้านี้พวกเขาใช้ชีวิตกันอย่างไรไม่มีการวางแผนถึงตอนออก มีแต่วางแผนครอบครัวต่อไป“ขออนุญาตแจ้งตารางงานวันนี้นะคะ”ร่างบางระหงในชุดทำงานสวยเข้ารูป ยืนรายงานตารางงานของเขาในเวลานี้ แต่ประธานธันย์ กลับเอาแต่จ้องเรือนร่างยั่วใจ ขณะใช้สายตาโลมเลียคุณเลขาหรือภรรยาในอนาคตสองเดือนที่ภาพจำทริปญี่ปุ่นยังตราตรึง...เขาจำได้ไม่ลืมเลย ว่าได้กินเธออิ่มหนำสำราญแค่ไหนตั้งใจจะปั๊มลูกน้อยให้ติดที่ญี่ปุ่นด้วย ซึ่งพอกลับมา พ่อพระเอกเอวหวานกินดุคนนี้ ยิ่งคลั่งรักธารตะวันหนักกว่าเดิม ตามติดเธอแจไม่ให้ห่างกายไปไหนไกล“คุณธันย์คะ เดี๋ยวมีประชุม... อึก”ธารตะวันที่พูดอยู่ดีๆ เธอก็ดันรู้สึกพะอืดพะอม คล้ายว่าจะอาเจียนขึ้นมาดื้อๆร่างสูงผุดลุกจากเก้าอี้ เข้าไปประคองคนรักด้วยสีหน้าห่วงใย“เป็นอะไรหรือเปล่าตะวัน”“ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่อึก...”ร่างบางกุมหน้าท้องไว้ พลางปิดปากจนตัวโก่งงอ ก่อนที่จะผละออกจากธันย์ธารา แล้วรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำทันที“แหวะ... ฮึก แอะ”วินาทีที่ถึงชักโค
ญี่ปุ่นหวานและอุ่นมาก...หมายถึงเธอที่นอนใต้ร่าง ครวญครางเสียงหวานระงม ไปทั่วห้องพักของโรงแรมหรู อุ่นร้อนในร่องรักที่โดนตอกอัดหนักๆ จนเสียงเนื้อกระทบกันดังขึ้นหลังจากเธอตอบตกลงจะแต่งงาน พอกลับมาถึงโรงแรม ธันย์ธาราก็เปิดฉากนัวเนียเธอ ตั้งแต่หน้าประตูทางเข้า ถอดเสื้อผ้าเรี่ยราดไปตามทาง สุดท้ายก็จบที่ฟูกไม่กี่ฟุตบนพื้นห้อง“อ๊ะๆ อื้อ... เสียว อึก เสียวค่ะ”ธารตะวันนอนอ้าขากว้าง ให้เขาแทรกกลางที่หว่างขา ซอยสะโพกที่กำกับจังหวะรักได้เสียวสะท้านร่างกายทั้งคู่เปลือยเปล่า โคมไฟแสงสลัวโทนอบอุ่น กระตุ้นให้ทั้งคู่อ่อนคล้อยเคลิ้มตามไปกับแรงอารมณ์ ไม่ปฏิเสธความต้องการ และมอบความสุขให้แก่กันด้วยความเต็มใจสมฉายาพ่อพระเอกเอวหวานกินดุเพราะนอกจากขนาดใหญ่โตมโหฬาร ยังถึกทน เริ่มยกที่สามทันทีไม่มีอิดออด หลังจากเขาพักเหนื่อยแค่สามนาทีเท่านั้น“ผมอยากเอาคุณหน้ากระจก”“อ๊ะ- อึก”“ได้มั้ยตะวัน... ขอเอาที่หน้ากระจกสิ”น้ำเสียงเขาติดกระเส่า ขณะกดสายตา มองสีหน้ายั่วอารมณ์ของคนใต้ร่าง ประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะไปด้วย“อื้อ ตามใจ... อ๊ะ- อ๊ะ ตามใจคุณ”“เด็กดี”“ฮึก... คุณธันย์ อ๊ะ- อ๊า อื้อ”คนใต้ร่างครางเสียงหวาน
“คุณธันย์... อยากอยู่ที่นี่กับฉันเหรอคะ”พอได้ฟังว่าเขาอยากอยู่ด้วยกัน ธารตะวันก็หลุดยิ้มบางๆ แต่ดวงตาปกปิดความเศร้าไม่มิด เพราะอีกโลกนึง พวกเขาคงเป็นคนแปลกหน้าต่อกันไปแล้วต่อให้เดินสวนกันไป อาจจะไม่มีใครหันมาสบตาก็ได้“ใช่ ถ้าเลือกได้... ผมขอติดอยู่ในมิตินี้กับคุณ”“คุณธันย์”“ผมพูดจริง มีคุณแล้วชีวิตผมมีความสุขมากจริงๆ”ดวงตาของเขาตอนพูดจริงใจ ไม่ได้ปรุงแต่งให้สวยหรู ราวกับโลกใบเดิมที่เขาจากมา ธันย์ธาราอาจไม่ได้ใช้ชีวิตของตัวเองทีแรกเธอก็อยากรู้ว่าเขาเป็นใคร หรือมาจากไหน ชีวิตในโลกที่จากมา ชีวิตความเป็นอยู่เขาคือใครกันแน่แต่มาคิดดูอีกที...การรู้จักกันแค่โลกมิตินี้มันก็พอแล้วให้นิยายเรื่องนี้ กลั่นกรองความรักของเราสองคนผ่านตัวอักษร เพราะว่าสิ่งที่แสดงออกมามันคือความรัก เป็นความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจ และทั้งคู่ก็ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่านี้นอกจากได้อยู่ด้วยกันในทุกวัน... และทุกวันตลอดไป“ถ้างั้นหลังจากนี้ มาใช้ชีวิตให้เต็มที่ดีมั้ยคะ”“ผมก็รักคุณเต็มที่ทุกวันนะธารตะวัน”ยามรักเขาก็แสดงออกว่ารักสุดตัว ทั้งสีหน้าและแววตามันชัด ว่าตัวเขาตกหลุมรักผู้หญิงตรงหน้าเข้าแล้วมันไม่ใช่ค
หลังกลับจากห้างสรรพสินค้า ธารตะวันก็รับหน้าที่ นั่งกล่อมเด็กน้อยทั้งสองนอน ใช้เวลาสักพักจนกระทั่งเด็กๆ ผล็อยหลับไป เธอถึงลากแขนประธานธันย์เข้ามาที่ห้องทำงาน“อะไรของคุณ หืม ตะวัน”“เอกสารที่คุณต้องเซ็นไงคะ”ธันย์ธาราเอี้ยวลำคอมอง เธอจึงดันหลังให้เขาอย่ากังวล“นั่งเถอะค่ะ ฉันจะเอามาให้อ่านก่อน”เธอเกาะบ่าคนตัวสูงกว่า ก่อนจะกดไหล่เขาให้นั่งที่เก้าอี้ทำงาน ทำเขามุ่นคิ้วติดจะสงสัย สายตาไล่มองร่างบางระหง เดินไปหยิบเอกสารบนชั้นมาวางที่โต๊ะ“สมัครเป็นพ่อของลูก...”ธันย์ธาราอ่านออกเสียง พลางกวาดสายตาอ่านทุกตัวอักษรส่วนคนพิมพ์เอกสารใบนี้ขึ้นมา ยืนยิ้มอย่างภูมิใจ เป็นแบบฟอร์มที่เธอตั้งใจทำให้เขาอ่านข้อตกลงการอุ้มท้องคือการเสียสละร่างกายหากมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในท้อง ร่างกายของแม่จะถ่ายโอนสารอาหารให้ลูก และบางครั้ง ลูกน้อยก็จะดูดซึมแคลเซียมจากแม่อีกด้วยอย่างที่เขาเคยบอก คนท้องอารมณ์แปรปรวน เมื่อท้องเริ่มโตก็จะยิ่งใช้ชีวิตยากขึ้น เวลานอนก็หายใจไม่เต็มอิ่มอีกต่างหาก เธอเคยไปอ่านเจอมา หากโดนลูกน้อยแบ่งแคลเซียมไปเยอะร่างกายจะปวดร้าวทรมานปวดลึกถึงกระดูกเลยแหละถ้าหากเขาอยากเป็นพ่อคน ต้องรับข้อตกล
“คุณธันย์อย่าบีบได้มั้ยคะ”ร่างบางระหงที่สวมแค่เสื้อยืดตัวโคร่ง กำลังควงตะหลิวจับกระทะอยู่ในครัว ช่วงล่างเปลือยเปล่าโล่งโจ้ง เพราะเพิ่งเติมเต็มรักกับธันย์ธาราไปเมื่อคืนสะดุ้งตื่นมาคว้าได้แค่เสื้อก็ใส่มาก่อน“คุณธันย์ฉันบอกว่าอย่าบีบไง”“หือ”“ทำไมดื้อแบบนี้นะ”เธอดุเขาที่จับหน้าอกเล่นไม่หยุด พลางเอี้ยวลำคอมองร่างสูง เขาที่ซบใบหน้าบนลาดไหล่เล็ก ครางในลำคอขัดใจหลังโดนดุ“แค่จับก็ไม่ได้เหรอ” เขาทำเสียงงอน โหมดอ้อนแฟนกำเริบทันที“แล้วบีบทำไมคะ” เธอจดจ่อกับการผัดข้าว แต่เขาก็คอยพราสติให้ไม่อยู่กับตัวเรื่อยเลยยังไงสองเต้าใหญ่ก็เป็นของเขาคนเดียว“ตะวัน”“พอค่ะ”“ธารตะวัน...”เธอส่ายหน้าเสียงแข็งใส่ อย่าคิดว่าเธอรู้ไม่ทันเขา เวลาอยากได้เธอทีไร เป็นต้องเสียงอ่อนเสียงอ้อนกันทุกที ไม่ใช่ว่าเธอเบื่อหน่าย แต่มันไม่เกินไปหน่อยเหรอไงที่หิวกันตลอดเวลาน่ะหิวที่ไม่ได้แปลว่าหิวข้าวด้วย“อ่ะ!”ร่างบางสะดุ้งโหยง ตะหลิวในมือที่ผัดข้าวแทบปลิว เมื่ออีกฝ่ายถกเสื้อยืดเธอขึ้น เผยให้เห็นบั้นท้ายงามงอน เป็นประจักษ์แก่สายตาเขาเธอพยายามจะเบี่ยงตัวหลบ แต่ก็ถูกเขาตามไล่ต้อนกันอยู่ดี“คุณธันย์อย่าถก ฉันไม่ได้ใส่ก
ใบหน้าคมคร้ามหลุบตามองต่ำ มือหนาลูบไล้ที่แผ่นหลังบาง ลามลงไปเคล้นคลึงสะโพกผาย ก่อนจะบีบขยำบั้นท้ายอวบอัด พลางฟาดตีเต็มแรงจนร่างบางกระตุกรับธารตะวันที่ก้มต่ำ กำลังรูดชักลำกายแท่งโต หยอกเย้าให้แข็งตัวสู้มือ จนกระทั่งมันผงาดองอาจตรงหน้า“ไม่ไหวแล้วตะวัน...”ธันย์ธาราพ่นลมหายใจหอบหนัก เขาสั่นกระสันไปทั้งร่าง เมื่อรู้สึกได้ถึงริมฝีปากนุ่มนิ่ม กำลังค่อยๆ อ้าอมแท่งร้อน“อึก”“ไหวนะ”“อื้อ...”ธารตะวันบิดเบ้ใบหน้า มือใหม่ไร้ประสบการณ์กำลังเรียนรู้ วิธีการปรนเปรอ บำเรอกามให้แฟนหนุ่ม แต่เพราะมือใหม่นี่แหละ ทำเขาตื่นเต้น จนปลายเอ็นกระตุกรับในโพรงปากอุ่น“ระวังฟันนะตะวัน”“อื้อ”“ไม่ต้องรีบ อ่า... อืม”ธันย์ธาราขมวดคิ้วเครียด ทิ้งศีรษะพิงเบาะแล้วเกร็งท้องรับ เมื่อริมฝีปากของเธอ อ้าอมแก่นกายเข้าครึ่งลำธารตะวันหยุดไว้กลางทาง หยาดน้ำตาคลอระเรื่อ ใต้ตาแดงก่ำหลังถูกความคับใหญ่เล่นงาน จนไม่กล้าขยับหัวให้กดลงลึกมากกว่านี้ เกรงว่ามุมปากจะฉีกจนเลือดกบปากได้ใหญ่จนคับแน่นในปากสุดๆเหมือนขอบปากมันจะฉีกเลย“อ่อก... อึก”“ระวังสำลัก”“อื้อ- อึก”ความรู้มีเต็มหัว...แค่อ่อนประสบการณ์เท่านั้นเองนักอ่านตัวยงง







