共有

บทที่ 11 ผู้ป่วยความจำเสื่อม

last update 最終更新日: 2025-09-05 20:20:50

“แม่ถามว่าใครตาธันย์”

เสียงแหลมสูงแฝงความไม่พอใจย้ำอีกครั้ง ทำร่างบางนั่งตัวลีบเรียวหดเกร็งเหลือไม่กี่เซน ทั้งใบหน้าซีดเผือดเป็นไก่ต้มเมื่อหันไปสบสายตาพิฆาตกับหญิงรุ่นแม่

“เธอเป็นผู้ช่วยคนใหม่ผมครับแม่” เขาตอบ พลางโอบไหล่คนเป็นแม่ให้ใจเย็นลง ว่าเธอไม่ใช่แฟนหรือสาวในความลับเขาแต่อย่างใด

“แน่ใจเหรอว่าผู้ช่วยน่ะ”

“ครับ เธอเป็นผู้ช่วย”

รัศมีความแรงความตัวแม่ที่รุ่นใหญ่แผ่กระจายออกมา เมื่อคุณหญิงแม่ไล่สายตามองกันตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำเธอปั้นหน้ายิ้มฝืดฝืนชักสีหน้าไปต่อไม่ถูก ก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมยกมือประหนมไหว้อย่างนอบน้อม

“สวัสดีค่ะ หนูชื่อธารตะวัน... เป็นผู้ช่วยคุณธันย์ค่ะ” เธอแนะนำตัวในน้ำเสียงหวานล้ำ เคลือบด้วยประกายรอยยิ้มของความสดใส

ทว่าหญิงรุ่นราวคราวแม่ก็แค่รับไหว้ แต่สีหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่มีผู้หญิงมาเกาะแกะใกล้ลูกชายเธอ

“แล้วความทรงจำลูกกลับมาบ้างหรือยัง”

ความทรงจำเหรอ...

บุคคลนอกบทสนทนาอย่างเธอเผลอเสียมารยาทตั้งใจฟัง ขยับมองไปที่ร่างสูงกำยำของประธานธันย์ที่นิ่งเงียบไปหลายวินาที พลอยให้เธอลุ้นตัวโก่งว่าเรื่องราวตรงหน้าจะเป็นยังไงต่อ

“ยังไม่กลับมาครับ” เขาส่ายหน้าในดวงตาหม่นอับแสง ราวกับรู้สึกแย่ที่ความทรงจำทั้งหมดเลือนหายไป

“เฮ้อ...” คุณหญิงแม่ลอบถอนหายใจสีหน้าเศร้าสร้อยไม่สดใส

“แต่ผมก็ยังเป็นลูกแม่เหมือนเดิมนะครับ”

“แม่รู้ตาธันย์ว่าแกยังเป็นลูกแม่เหมือนเดิม...”

ใบหน้าหล่อเหลาระบายยิ้มบางเบา สองแม่ลูกกำลังพูดในสิ่งที่ทำให้อีกคนหูผึ่ง ปะติดปะต่อเรื่องราวจนขมับปวดร้าวแทบจะเป็นไมเกรน นี่ก็แปลว่าประธานธันย์ธารามีอาการความจำเสื่อมอย่างงั้นเหรอ

ความจำเสื่อมไม่เท่าไหร่... ประโยคถัดไปนี่สิทำเธอขนลุกวาบทันที

“แต่แม่ก็อยากให้จับคนร้ายได้เร็วๆ ใครกันแน่ที่พยายามจะฆ่าลูกชายของแม่”

“ฆ่า...” พยายามฆ่ากันเชียวเหรอ

ธารตะวันหลุดพูดถึงประเด็นร้อนที่ทั้งสองคุยกัน ผู้เป็นแม่ไม่อาจวางใจคนรอบตัวที่เข้าหาลูกชาย กลัวว่าจะมีคนประสงค์ร้ายโดยที่เจ้าลูกชายไม่รู้ตัว เพราะยังจับคนร้ายในคืนที่เกิดเหตุไม่ได้

“ระหว่างรอหลักฐานเพิ่มเติมจากตำรวจ... แกก็ช่วยระวังตัวให้มากด้วยล่ะตาธันย์ แม่อดเป็นห่วงแกไม่ได้เลย” คุณหญิงแม่ลูบศีรษะลูกชายหัวแก้วหัวแหวนด้วยความห่วงใย ถึงน้ำเสียงจะดูนางร้ายก็ตามที

“ถ้างั้นระหว่างนี้ผมพักแผนงานล่าสุดที่บริษัทก่อนนะครับแม่”

“แม่เข้าใจ ยังไงก็ลองคุยกับพ่อเขาดู... เอาที่แกพอทำไหว”

ธันย์ธาราพยักหน้ารับ พลางชำเลืองตามองหญิงสาวที่หลุบตาคล้ายว่าครุ่นคิดบางอย่าง จนมือที่ประสานกันไว้ด้านหน้าจิกเกร็งไปมา

เพราะความจำเสื่อมโพรเจกต์งานล่าสุดที่ดำเนินค้างไว้ จึงยังไม่ได้สานต่อให้เสร็จเป็นกิจจะลักษณะ แต่เรื่องงานตรวจตราหรือเข้าที่ประชุมเกี่ยวกับโรงแรมในเครือเธียรประทีปเขาทำได้ดีเลย

“แล้วแม่หนูนี่ล่ะ ทำไมแกถึงจ้างมาทั้งที่งานก็ไม่ได้หนัก”

สายตาพิฆาตของคุณหญิงแม่ตวัดมองมาอีกครั้ง แช่แข็งร่างบางยืนยิ้มเจื่อนเม้มปากแล้วคลายออกอยู่หลายครั้ง จนธันย์ธาราต้องรีบช่วยขยายความเข้าใจผิดนี้ในทันที

“ส่วนเรื่องผู้ช่วยนี่ก็... อยากให้มาช่วยแบ่งเบาภาระงานหน่อยน่ะครับ พอนั่งเคลียร์ทุกอย่างคนเดียวคิดว่าไม่ไหว ผมก็เลยอยากได้คนมาช่วยเสริมสักคน”

“แค่นี้แน่นะ”

“แค่นี้แน่ครับ”

คุณหญิงแม่ทำหน้าเหมือนจะไม่เชื่อ แต่ในใจก็คิดว่าลูกชายเธอเป็นคนหัวสูงมากพอในการเลือกคู่ คงจะไม่คว้าดอกไม้ริมทางมาเชยชมหรือเด็ดดมอย่างแน่นอน

อีกอย่างตัวเธอก็มีคนที่อยากให้ตบแต่งอยู่แล้ว ผู้หญิงที่เพียบพร้อมเหมาะสมทั้งหน้าและสมฐานะกับสกุลเธียรประทีปนับอนันต์

“อีกอย่างโปรไฟล์เธอดีมากด้วย ผมว่าเธอพัฒนาต่อได้ ถ้าหากว่าวันนึงความทรงจำผมกลับมา ผมก็อยากจ้างเธอให้เป็นเลขาต่อ...”

สีหน้าเรียบนิ่งประกอบกับน้ำเสียงจริงจัง ทำให้คุณหญิงแม่ท่านเริ่มอ่อนใจไม่อยากซักไซ้ให้มากความ ต่อให้จะมดมอดหรือแมลงตัวเล็กตัวน้อยก็ไม่อาจเล็ดลอดสายตาเธอได้อยู่ดี

หากมีผู้หญิงหัวสูงหวังสบายหรือรวยทางลัด เธอก็ไม่ปล่อยให้เข้ามายุ่งย่ามชีวิตลูกชายที่เลี้ยงมาอย่างดีแน่นอน

“ผมเชื่อว่าธารตะวันไว้ใจได้ครับ”

“พูดว่าเชื่อใจแกรู้จักเธอได้กี่วัน”

พอโดนสายตาของคนเป็นแม่มองแรงเพื่อคาดเค้น ธันย์ธาราก็ใช้ไม้ตายส่งลูกอ้อนผ่านแววตา โดยที่ธารตะวันคนนอกบทสนทนาไม่ทันจะได้สังเกตเห็นมัน

เธอกำลังตกตะกอนความคิดบางอย่างในหัว แต่เดาทางไม่ออกเลยว่าแนวเรื่องจะไปในทิศทางไหนกันแน่

“ตาธันย์แกนี่นะ”

“เชื่อผมนะครับ...”

เพราะรู้ว่าลูกชายโดนทำร้ายหนักในคืนวันที่เกิดเหตุ พอตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลก็ดันจำคนรอบข้างหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้อีก

ไม่พอเท่านั้น ธันย์ธารายังมีอาการหวาดระแวงผู้คนรอบข้าง ก่อนหน้านี้ก็ขังตัวอยู่แค่ในห้อง แต่กับผู้ให้กำเนิดมันคือสัญชาตญาณให้เข้าหาอย่างสบายใจ ส่วนคนอื่นธันย์ธาราไม่สนิทใจที่จะเข้าหาเลย

“งั้นแม่ไปและตาธันย์ จะไปเดินเล่นที่สวนหน่อย” เธอยิ้มให้ลูกชายแล้วตบหลังมือเบาๆ แทนคำพูดว่าให้ดูแลตัวเอง

ใครจะเชื่อ... จากประธานธันย์ธารานักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ผู้เคร่งครัดในหน้าที่การงานพาบริษัททะยานเป็นม้ามืดลำดับที่สามได้สำเร็จ ตอนนี้จะกลายเป็นคนผู้ป่วยความจำเสื่อมหวาดระแวงผู้คนรอบข้างไปแล้ว

“ครับแม่” ธันย์ธารายิ้มรับให้คลายกังวล ก่อนจะหันมองธารตะวันที่เงยหน้าขึ้นมาสบตากันพอดี

ร่างบางเม้มปากแล้วหัวเราะแห้งกลบเกลื่อน ไม่รู้จะเรียบเรียงสิ่งที่ได้ยินยังไงดี เจ้านายเธอกลายเป็นผู้ป่วยความจำเสื่อม ไหนจะโดนลอบทำร้ายแต่ยังจับผู้ก่อเหตุไม่ได้อีก

ภาคต่อนิยายที่ย้อนเวลามาเจอฆาตกรเหรอ...

“ธารตะวัน”

“ฆาตกร...”

“เป็นอะไรหรือเปล่า”

ธันย์ธาราขมวดคิ้วมุ่น พลางขยับปลายเท้าเข้าไปใกล้ เมื่อเห็นเธอมีสีหน้าวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด ดวงตากลมโตเป็นประกายพราวระยับยามสะท้อนกับแสงอาทิตย์

“ทำไมคุณถึงเลือกที่จะไว้ใจฉันล่ะคะคุณธันย์” เธอมุ่นคิ้วถามด้วยความไม่เข้าใจ ในเมื่อสุดท้ายก็คือคนแปลกหน้าต่อกันอยู่ดี

เขาเอาอะไรมาพูดว่าเชื่อใจคนแปลกหน้าอย่างเธอ เมื่อกี้ยังให้ชิมอาหารที่ทำให้กันมียาพิษอยู่เลยไม่ใช่หรือไง

“เพราะธารตะวันต่างหาก เป็นเครื่องรางของความโชคดี”

“เครื่องรางความโชคดีเหรอคะ...”

เธอทวนซ้ำประโยคเดิมจากปากเขา ส่ายตาสบมองนัยน์ตาสีดำเข้มราวกับน้ำหมึก ก่อนจะนิ่งงันไปชั่วขณะเพราะรู้สึกคุ้นหูกับประโยคนี้บอกไม่ถูก

คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยอ่านผ่านตามาก่อน...

ไม่มีคำตอบจากคนตัวสูง ทั้งสีหน้าก็เรียบนิ่งและแววตานิ่งเฉยจนยากจะอ่านความคิดออก

“ทานอาหารให้หมดแล้วตามผมขึ้นไปด้วยล่ะ” เขาทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็เดินจากไป เหลือแค่เธอที่ยืนตกอยู่ในภวังค์ความคิดนานหลายวินาที

“แค่เรามีพี่เจต... เราก็เหมือนมีเครื่องรางความโชคดีแล้วค่ะ”

ฉับพลันดวงตากลมโตก็เบิกขึ้นกว้าง หัวใจดวงน้อยอุ่นร้อนชาวาบไปทั่วกลางหน้าอก

“ทำไมมันเหมือนประโยคที่... ธารตะวันพูดกับเจตกวินเลยล่ะ”

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • ทะลุมิติเรื่องนี้แถมฟรีพ่อของลูก   บทที่ 22 เหตุผลคนไม่คู่ควร

    “แกว่าถ้าเราตกหลุมรักคนที่ไม่ควรรัก... มันจะแย่มากมั้ย”คำถามจากแพรพิมพ์ดาวเอ่ยขึ้น ฝ่าความเงียบให้เจ้าของห้องอย่างธารตะวันเงยหน้ามอง เธอกำลังตั้งใจโซ้ยสุกี้น้ำที่อีกฝ่ายซื้อมาฝากถึงห้องในยามดึก ทว่าพอเกริ่นเรื่องนี้เธอก็รีบเคี้ยวแล้วกลืนทันที“แกมีความรักเหรอ” เธอเลิกคิ้วถามอย่างใจจดใจจ่อ“ก็เปล่าหนิ” คู่สนทนาสั่นหัวปฏิเสธตอบกลับมา“แล้วถามทำไมอ่า”ธารตะวันหรี่ตาอย่างจับผิดพิรุธ เมื่อแพรพิมพ์ดาวแสร้งทำเป็นหลบสายตา ก้มหน้าใช้ช้อนตักสุกี้ตัวเองเข้าปากกลบเกลื่อนอาการเรื่องนี้ต้องมีอะไรในกอไผ่แน่นอน“สรุปถามทำไมหรา” พอได้ทีเธอก็ลากเสียงยาว เท้าแขนลงบนโต๊ะญี่ปุ่นแล้วยื่นหน้าเพื่อคาดเค้น ให้ผู้ต้องสงสัยคายหลักฐานออกมา“แล้วถามไม่ได้รึไง๊ล้า” แพรพิมพ์ดาวขึ้นเสียงสูง ก่อนจะยกมือเกาที่ต้นคอแล้วกลอกตาไปมา“เสียงสูงทะลุเพดานแล้วจ้ะ”“ก็... ก็อาจจะมีบ้าง”“ดูจากสีหน้าแกแล้วเนี่ย น่าจะมีเยอะเลยแหละ”พูดจบประโยค แพรพิมพ์ดาวก็ลอบถอนหายใจ พลางงุดหน้าจนคางเกือบชิดอกแล้วช้อนตามองเพื่อนสนิท วันนี้ที่เธอมาหาซะมืดค่ำก็เพราะมีปัญหานี้กวนใจนี่แหละแพรพิมพ์ดาวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนตั้งท่าเล่าด้วยสีหน้าจริ

  • ทะลุมิติเรื่องนี้แถมฟรีพ่อของลูก   บทที่ 21 บทบาทพ่อแม่จำเป็น

    ห้างสรรพสินค้าหลังจากพาน้องกรมาเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า จัดรถบังคับชุดใหญ่ให้แบบเต็มเหนี่ยว ธันย์ธาราก็พาเด็กน้อยมาเล่นบ้านลม ส่วนเขานั่งเฝ้ากับคุณผู้ช่วยที่ยกมือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอเก็บไว้ธารตะวันยิ้มเอ็นดูน้องกรมากๆ รอยยิ้มที่แต่งแต้มอยู่บนใบหน้าจิ้มลิ้ม ส่งไปถึงดวงตาเธอให้เป็นรูปสระอิ ส่งเสียงหัวเราะปนยิ้มจังหวะที่น้องกรหันมาโบกมือให้“น่ารักจัง...” เธอชมออกเสียงแล้วยิ้มอย่างอิ่มเอมใจแต่ขณะที่เธอมองเด็กน้อย เจ้าของดวงตาคู่คมก็จับจ้องมองเธออยู่เช่นกัน ในแววตาที่สบมองมีประกายรอยยิ้มเจือจางอยู่ด้วยหากทว่าจู่ๆ ร่างบางก็นิ่งงันไป รอยยิ้มที่ปรากฏค่อยๆ เลือนหายไปทีละนิด เมื่อคิดถึงเรื่องราวสุดเศร้าจากนิยายที่เคยอ่าน จนนอนร้องไห้จมกองน้ำตาขี้มูกโป่งพูดจาสะอึกสะอื้นมาแล้ว“คุณคิดอะไรอยู่”“คะ”“เห็นอยู่ดีๆ คุณก็เหม่อ” เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย อีกฝ่ายคงไม่ทันได้สังเกต ในมุมเงียบๆ ของคนไม่ค่อยพูดแอบมองเธออยู่ก่อนแล้วร่างบางลอบถอนลมหายใจอย่างปลงปลด ก่อนจะลดโทรศัพท์มือถือที่ถ่ายภาพน้องกรลง นัยน์ตาหม่นแสงขึ้นมาในฉับพลันเธอก็เป็นแค่นักอ่านจอมเพ้อ ชอบอินกับบทบาทของตัวละครเกินไปหน่อย พอได้เห็น

  • ทะลุมิติเรื่องนี้แถมฟรีพ่อของลูก   บทที่ 20 ว่าด้วยเรื่องทะลุมิติ

    เมืองเอกเข้าปรึกษาหาลือเรื่องธุรกิจที่หุ้นส่วนกัน เกี่ยวกับธุรกิจบาร์เครื่องดื่มกึ่งร้านอาหารใจกลางเมือง ซึ่งเมืองเอกก็นำเอกสารมาแจกแจงรายละเอียดทั้งหมด ถึงการปรับปรุงร้านด้านในใหม่ล่าสุดถึงธันย์ธาราจะจำคนรอบตัวไม่ได้เลย แต่พอทราบข่าวว่าเพื่อนรักประสบอุบัติเหตุ เมืองเอกก็เป็นคนแรกๆ ที่เข้าช่วยเหลือทันทีทั้งติดต่อทนายและคนพื้นที่ทั้งหมด มาให้ช่วยกันระดมหาหลักฐานเพิ่มเติมในคืนวันเกิดเหตุ แต่กลับสืบสาวราวเรื่องถึงต้นตอไม่ได้ จนธันย์ธาราค่อนข้างมั่นใจว่าอาจเป็นคนมีอิทธิพลเข้ามาเอี่ยว“เรื่องผ่านมาสักพักใหญ่ละ แต่คดีความยังไม่คืบหน้าเหรอวะ” พอพูดคุยเรื่องธุรกิจเสร็จ เมืองเอกก็ไถ่ถามเรื่องคดีความต่อทันทีทั้งคู่นั่งคุยกันในห้องทำงาน ร่างสูงของประธานธันย์นั่งหลังตรงแล้วหลุบตาคิดหนัก ส่วนเมืองเอกที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็พลอยขมวดคิ้วนิ่วหน้าคิดตามไปด้วย“ทำไงได้ กล้องวงจรปิดพร้อมใจกันเสียเลยนี่หว่า”“อมพระทั้งโบสถ์มากูยังไม่อยากจะเชื่อเลยเหอะ”ธันย์ธาราพ่นลมขำเบาๆ ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเขาเป็นเหมือนบทละคร ทั้งโดนลอบทำร้ายจนความจำเสื่อมแต่จับคนก่อเหตุไม่ได้อีกทั้งกล้องวงจรปิดสำคัญๆ รอบบริเวณที

  • ทะลุมิติเรื่องนี้แถมฟรีพ่อของลูก   บทที่ 19 วาสนาพ่อของลูกใคร

    เจตกวินอาสามาส่งธารตะวันถึงหน้าบริษัท เขายื่นแขนให้เธอจับพยุงร่างเดินกะเผลกเข้างาน ทว่าตั้งแต่ที่เขาพูดว่าจะจีบเธอขณะเดินข้ามสะพานแม่น้ำ บทสนทนาก็จบลงโดยการที่เธอเงียบมาตลอดทาง“เราเดินไหวแน่นะ” เขาถามขึ้น ตอนมาส่งเธอที่หน้าบริษัทแล้ว“ไหวค่ะ” เธอพยักหน้า พลางคลี่รอยยิ้มฝืดฝืนส่งให้ทว่าอีกฝ่ายกลับยิ้มหวานราวกับบริหารเสน่ห์ใส่ ใบหน้าหล่อเหลาตามพิมพ์นิยมของเจตกวิน เกือบทำให้ธารตะวันเคลิ้มตามรอยยิ้มที่ชวนอบอุ่นใจ จนบางทีอาจลืมไปว่านี่คือตำนานตัวร้ายได้บทพระเอกมาแต่แล้วเธอก็ถูกกระชากสติให้กลับมาฉับพลัน รีบส่ายสะบัดหัวไล่ความคิดไม่เข้าท่าให้ออกจากสมองไปทันที“ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์มาส่งแล้วก็... ให้ขี่หลังด้วย”“ไม่เป็นไรครับ แต่พรุ่งนี้พี่ไปรับเราอีกได้มั้ย”พอได้ที เจตกวินก็ใช้ช่องทางนี้ไล่ต้อนเธอ ก่อนที่จะจ้องมองใบหน้าน่ารักของรุ่นน้อง พลางมุ่นคิ้วรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ“ยังไงทางมาบริษัทก็ทางเดียวกันอยู่แล้วหนิครับ” เขาพูดต่อในเชิงกดดันกันทางอ้อม แต่ใช้รอยยิ้มสวยกดข่มอารมณ์ความต้องการไว้“ตะวันไม่รบกวนพี่เจตดีกว่า” เธอยิ้มแล้วตอบกลับอย่างชัดเจน“รังเกียจพี่เหรอ...”“คะ”“เราคุยกับพี่ตาม

  • ทะลุมิติเรื่องนี้แถมฟรีพ่อของลูก   บทที่ 18 พี่เจตจะจีบน้องตะวัน

    “ญี่ปุ่นต้องสนุกมากแน่เลยใช่มั้ยคะป้าขา... ฮือ”ร่างบางยืนหมดอาลัยตายอยากอยู่หน้าร้านน้ำเต้าหู้ ทั้งๆ ที่เพิ่งจะผ่านไปได้ไม่กี่วัน แต่เธอก็คิดถึงน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋เจ้าประจำจะแย่ ถึงขั้นเบะปากจะร้องไห้มาร่อมมาร่ออยู่แล้วญี่ปุ่นในช่วงเดือนนี้คงมีหิมะให้เล่นสนุกแน่เลย จะว่าไปแล้วตั้งแต่เกิด ตัวเธอไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศเลยสักครั้ง อย่าว่าแต่เที่ยวเมืองนอกเลย แค่เดินทางในประเทศยังเป็นไปได้ยากชีวิตที่ต้องก้มหน้าหาเงินงกๆ หนึ่งวันก็เก้าชั่วโมง ไม่รวมเดินทางไปกลับที่ต้องเผชิญอุปสรรคแต่ละวันต่างกันออกไปอีก“รีบกลับมาไวๆ น้าคุณป้าขา” เธอได้แต่มองรถเข็นของป้าที่คลุมผ้าใบไว้ตาละห้อยทว่าวินาทีที่เธอหมุนตัวหันหลัง ร่างสูงของเจตกวินดันมาปรากฏอยู่ตรงหน้า ทำเอาเธอชะงักตัวมองอีกฝ่ายที่ยิ้มหวานให้แต่เช้า“พี่เจต...”เจตกวินมุ่นคิ้วเข้าหากัน พลางชะเง้อตัวมองไปด้านหลังเธอ แล้วทำหน้าเสียดายที่เห็นป้ายกระดาษติดประกาศว่าหยุด แต่เขาก็แค่เล่นละครตบตาเพราะมาดักรอธารตะวันแต่แรกแล้ว“อ้าว พี่เพิ่งรู้ว่าร้านป้าเขาปิด” เจตกวินยิ้มหวานให้หญิงสาว อันที่จริงเมื่อวานเขาขับผ่านทางนี้แล้วเห็นธารตะวันขึ้นรถเมล์พ

  • ทะลุมิติเรื่องนี้แถมฟรีพ่อของลูก   บทที่ 17 จูบแรกไม่ทันตั้งตัว

    ซ่าเสียงห่าฝนชุดใหญ่เทกระจาดอย่างหนัก ระหว่างทางขับรถกลับมาหอพักของธารตะวันยังไม่แรงเท่านี้เลยกระทั่งรถยนต์ของประธานธันย์จอดหน้าหอพักคุณผู้ช่วย พายุฝนก็พร้อมใจสาดซัดกระหน่ำ ตกหนักจนแทบมองไม่เห็นทางด้านหน้า เสียงฟ้าร้องดังครืนจนร่างบางหดตัวตกใจ“ฝนตกหนักขนาดนี้คุณจะขับกลับไหวเหรอคะ”“ไหวครับ”“แต่ฉันเป็นห่วงคุณไงคะ...”เธอชะเง้อมองสายฝนผ่านหน้าต่างรถ สีหน้าเคร่งเครียดหนัก ก่อนที่จะหันไปเสนอความเห็นด้วยความเป็นห่วงอีกฝ่าย เกรงว่าถ้าเขาขับรถฝ่าพายุกลับไปแล้วจะเกิดอันตราย อย่างน้อยรอฝนซาก็ยังดี“ขึ้นไปนั่งรอบนห้องฉันก่อนดีมั้ยคะ รอให้ฝนซาแล้วคุณธันย์ค่อยกลับดีกว่าค่ะ... ขับไปแบบนี้อันตรายมากเลย”“รอบนห้องคุณเหรอ”ธันย์ธาราถามย้ำให้แน่ใจว่าไม่ได้หูฝาด พลางส่ายตาครุ่นคิด จนคิ้วเข้มขมวดมุ่นเข้าหากัน“ค่ะ ทำไมคะ” ร่างบางมุ่นคิ้วที่มุมปากมีรอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏอยู่“เปล่า ไม่มีอะไร” เขาส่ายหน้าพลางยกมือขึ้นถูปลายจมูกนิดๆสุดท้ายพายุฝนก็ไม่มีท่าทีจะเบาลง ธารตะวันเดินกางร่มคันเดียวกับเจ้านายขึ้นห้อง จนเสื้อผ้าบางส่วนของทั้งคู่ถูกสาดกระเซนจนเปียกชุ่มร่างสูงวางร่มที่เปียกฝนกางไว้หน้าห้องเธอ เพราะห

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status