ตั้งแต่การพบเจอกันเมื่อหลายวันก่อนที่ลานจอดรถของผับ ตรีชฎาก็ได้เริ่มปฏิบัติการสืบประวัติทุกซอกทุกมุมของสิบทิศ โดยมีโยธินคอยเป็นผู้ช่วยและคอยเช็กข่าวคราวของชายหนุ่มที่ลงตามหน้าหนังสือพิมพ์แทบทุกวันเป็นประจำ
จากการได้ประวัติแทบทุกซอกทุกมุมของเขา ทำให้หญิงสาวทราบว่าคุณหญิงสิรินดาเป็นมารดาของชายหนุ่ม ซึ่งเธอก็น่าจะเอะใจกับนามสกุลของสิบทิศตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว แต่ด้วยความที่คาดไม่ถึง ทำให้เธอเองก็ตกใจเช่นกันทันทีที่ทราบ
นับว่าโชคเข้าข้างเธออย่างจัง เนื่องจากเธอและคุณหญิงสิรินดาค่อนข้างจะสนิทสนมกันมากเลยทีเดียว เพราะคุณหญิงสิรินดานั้นเป็นลูกค้าขาประจำร้านเสื้อของเธอ โอกาสที่เธอจะได้ใกล้ชิดเขาอยู่แค่เอื้อมมือ
รูปถ่ายในแต่ละอิริยาบถของสิบทิศหลายใบและหนังสือแม็กกาซีนที่ชายหนุ่มขึ้นปกมีบทสัมภาษณ์ของเขาวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะทำงานของตรีชฎา ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเธอได้กว้านซื้อหาทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเขาผู้ซึ่งเป็นที่รักของเธอ จนคนขายคิดว่าเธอเป็นแฟนคลับตัวยงของ สิบทิศ ธาราธรณ์ ไปแล้ว
“นี่น่ะเหรอ ผู้หญิงที่เขาเคยคบ มีแต่ดารานางแบบทั้งนั้นเลย”
เสียงหวานพึมพำ เมื่อเห็นรูปของผู้หญิงที่เคยตกเป็นข่าวกับเขา
“คุณผิงคะ คุณหญิงสิรินดามาค่ะ”
ร่างบางที่กำลังนั่งอ่านบทสัมภาษณ์ของชายหนุ่มรูปงาม สะดุ้งกับเสียงเรียกของลูกน้องสาว ตรีชฎาละสายตาจากตัวหนังสือบนแม็กกาซีนเงยหน้าขึ้นตอบ
“ค่ะ เดี๋ยวผิงออกไปนะคะ ขอเก็บของแป๊บนึง”
มือเรียวบางรีบเก็บรูปถ่ายและแม็กกาซีนบนโต๊ะใส่ไว้ในกล่องใบสวยทันที เพราะเธอไม่ต้องการให้ใครเห็น เมื่อเก็บเรียบร้อยแล้ว ร่างบางก็รีบเดินออกไปต้อนรับแขกคนสำคัญ
“สวัสดีค่ะคุณป้า วันนี้มีอะไรให้ผิงรับใช้คะ”
ตรีชฎาพนมมือไหว้คนที่มีอายุมากกว่าด้วยกิริยาอ่อนช้อย
“สวัสดีจ้ะหนูผิง แหม รับช้งรับใช้อะไรกันจ๊ะ คนกันเองทั้งนั้น ที่ป้ามาวันนี้ก็เพราะป้าอยากได้ชุดราตรีใส่ไปงานการกุศลสักชุดน่ะจ้ะ”
คุณหญิงสิรินดารับไหว้คนรุ่นลูกด้วยรอยยิ้มละมุนละไม ก่อนบอกจุดประสงค์ของนาง
“คุณป้าอยากได้ชุดแบบไหนคะ ตอนนี้ทางร้านเรา มีชุดราตรีคลอเลคชั่นใหม่ทำจากผ้าไหมฝรั่งเศส ผิงออกแบบให้ดูทันสมัยขึ้น คุณป้าจะลองดูไหมคะ ผิงจะได้หยิบมาให้ลอง”
เจ้าของร้านคนสวยแนะนำชุดใหม่ที่เพิ่งตัดเย็บเสร็จเมื่อคืนวานให้ลูกค้ากิตติมศักดิ์อย่างคุณหญิงสิรินดา
“ลองสิจ๊ะ หนูผิงโฆษณาขนาดนี้ ป้าว่าต้องสวยมากแน่ ๆ เลย”
ริมฝีปากอิ่มยิ้มหวานให้คุณหญิงสิรินดาเพียงนิด แล้วเดินไปหยิบชุดราตรีตัวใหม่มาให้นางได้ลองสวมใส่
ชุดราตรีสวยหรูที่ตรีชฎาหยิบมา เป็นชุดราตรียาวสีน้ำเงิน เนื้อผ้าถูกตัดเย็บด้วยผ้าไหมมันเงาจากฝรั่งเศสดูหรูหราสะดุดตา ยื่นให้คุณหญิงสิรินดาได้ลองสวมใส่ในห้องลองชุดของร้าน ผ่านไปห้านาทีนางก็เดินออกมาอวดโฉมให้เธอดู
“เป็นยังไงบ้างจ๊ะหนูผิง เหมาะกับป้าไหมจ๊ะ”
ร่างบางที่ยังดูสมส่วนและดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงไปหลายปี เพราะหมั่นดูแลสุขภาพอยู่เป็นประจำในชุดราตรีสีน้ำเงินสุดหรู หมุนรอบตัวให้หญิงสาวดูช้า ๆ หนึ่งรอบ
“สวยมากเลยค่ะคุณป้า ชุดนี้ถ้าคุณป้าได้ใส่เครื่องเพชรแล้ว จะยิ่งทำให้คุณป้าดูโดดเด่นมาก ๆ เลยค่ะ เพราะสีน้ำเงินก็เข้ากับเครื่องเพชรดีนะคะ ส่วนมากคนส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยใส่ชุดราตรีสีน้ำเงินด้วยค่ะ รับรองว่าคุณป้าต้องเป็นดาวเด่นในงานแน่นอนค่ะ”
เจ้าของร้านคนสวยแนะนำตามที่เห็น พลางจับชุดราตรีแสนสวยบนตัวของคุณหญิงสิรินดาให้เข้าที่เข้าทาง
“ก็จริงอย่างที่หนูผิงว่านะ ชุดราตรีสีน้ำเงินไม่ค่อยมีใครใส่ งั้นป้าเอาชุดนี้แหละจ้ะ จะได้ไม่เหมือนใครดี ไม่มีอะไรต้องแก้นะจ๊ะ ป้าใส่ได้พอดีเลย สงสัยชุดนี้คงจะทำเพื่อป้าโดยเฉพาะเลยนะจ๊ะ หนูผิงว่าไหม”
คุณหญิงสิรินดามองดูตัวเองในกระจก พร้อมกับพูดติดตลก จนหญิงสาวต้องอมยิ้มเล็กน้อย เมื่อลองจนพอใจแล้ว นางจึงถอดชุดส่งคืนให้ตรีชฎานำไปจัดใส่ถุง
คุณหญิงสิรินดามองดูหญิงสาวจัดแจงชุดใส่ถุงอย่างประณีตด้วยแววตาชื่นชม ตรีชฎาเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งเก่ง ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่อยู่เพียงลำพังคนเดียวตั้งแต่บิดามารดาเสียชีวิต จะสามารถเลี้ยงดูตัวเองจนเรียนจบและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้ถึงเพียงนี้
ครั้งแรกที่นางได้เจอกับตรีชฎา นางคิดว่าผู้หญิงคนนี้คงจะร้ายใช่ย่อย เมื่อดูจากการแต่งตัวที่แสนเซ็กซี่และบุคลิกที่เป็นสาวมั่น ทว่าเมื่อได้รู้จักและได้พูดคุยกัน เธอกลับเป็นคนที่น่ารัก จิตใจดีงาม และมีอัธยาศัยดี ช่างผิดกับบุคลิกภายนอกเสียเหลือเกิน และเพราะความน่ารักของเธอนี่แหละ ที่ทำให้ตรีชฎาเป็นที่รักของทุกคนที่ได้รู้จักรวมทั้งนางด้วย
ความสดใสน่ารักทำให้นางเอ็นดูตรีชฎาเสมือนลูกสาวคนหนึ่ง ด้วยความที่นางมีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียว นี่ถ้าหญิงสาวเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของนางก็คงจะดี สำหรับผู้หญิงคนนี้ถ้าผู้ชายคนไหนได้ไปเป็นศรีภรรยาแล้วล่ะก็คงจะโชคดีไม่น้อย
‘ศรีภรรยา ลูกสะใภ้ เอ๊ะ! นางก็มีลูกชายอยู่ตั้งหนึ่งคน แล้วจะปล่อยให้หนูผิงไปเป็นลูกสะใภ้ของคนอื่นทำไมกัน’
คิดไปคิดมาแผนการร้ายก็แล่นเข้ามาสู่สมองอันชาญฉลาดของนางเสียนี่
‘หึ ๆ ถ้าตาสิบได้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาก็ดีเหมือนกัน จะได้หมดห่วงเรื่องบรรดาผู้หญิงเสียที หนูผิงก็น่ารักขนาดนี้ นี่ล่ะลูกสะใภ้ในฝัน’
“คัต! พักกองได้”เสียงสั่งคัตจากผู้กำกับ เป็นผลให้มาเรียต้องผละออกจากนักแสดงหนุ่มตัวประกอบแทบจะทันที มือบางกรีดกรายอย่างมีจริต ปัดเนื้อปัดตัวด้วยท่าทางสะอิดสะเอียนเต็มทน“เชอร์รี่ ไปเอาแอลกอฮอล์มาซิ”มาเรียตะโกนสั่งผู้จัดการส่วนตัว แต่เมื่อเห็นว่าคนที่เธอเรียกหา ยังไม่กระดิกตัวไปทำตามคำสั่ง สายตาแหลมก็หันขวับมาจิกตาขวาง“นี่! นังเชอร์รี่ มัวนั่งบื้ออยู่ทำไมยะ ไปเอาแอลกอฮอล์มาเร็ว ๆ สิ ฉันขยะแขยงสัมผัสจากไอ้บ้านั่นเต็มทีแล้ว เร็ว ๆ”เสียงแหลมสั่งกำชับอีกครั้ง ผู้จัดการชายใจสาวจึงต้องรีบวิ่งหน้าตั้งไปหยิบแอลกอฮอล์มาให้นางแบบสาวอย่างเร่งด่วน เพราะถ้าขืนชักช้ากว่านี้ เจ้าหล่อนเป็นได้โวยวายใส่ จนปวดหัวไปสามวันเจ็ดวัน“นี่ค่ะ คุณมาเรียขา แอลกอฮอล์ที่สั่งได้แล้วค่ะ”เชอร์รี่ยื่นแอลกอฮอล์ขวดใหญ่ พร้อมสำลีหนึ่งห่อส่งให้ร่างโปร่งบางที่นั่งไขว่ห้างอยู่เมื่อรับขวดแอลกอฮอล์กับสำลีมาได้ เจ้าหล่อนก็รีบใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ แล้วมาเช็ดตามเนื้อตัว เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย“คุณมาเรียขา เช็ดแค่นี้คราบสกปรกมันออกไม่หมดหรอกค่ะ ทำไมไม่อาบไปเลยล่ะคะ รับรองว่ากำจัดทั่วทุกซอกทุกมุมแน่ค่ะ” เชอร์รี่จีบปา
“สวัสดีครับคนสวย เมื่อกี้คุณเต้นได้เซ็กซี่มากเลย ผมรู้สึกถูกใจคุณมากเลยล่ะ ถ้าผมจะชวนคุณไปต่อ คุณจะให้เกียรติไปต่อกับผมคืนนี้ไหมครับ”ชายคนที่ฉุดแขนเธอไว้เอ่ยชวน พร้อมกับไล่มองเรือนร่างของเธอด้วยสายตาโลมเลียอย่างน่าเกลียด ตรีชฎาหน้าตึงไปชั่วขณะ ทั้งโกรธและอายมาก ที่ผู้ชายตรงหน้ามาพูดจาหยามเกียรติหยามศักดิ์ศรีเธอเช่นนี้“ปล่อยนะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว”เสียงหวานตะโกนใส่หน้า แล้วสะบัดแขนออกจากคนหื่นกาม“แหม ไม่มีใครเขาเชื่อหรอก ว่าคุณไม่ใช่ เอ หรือว่าที่ทำเป็นโมโหแบบนี้ เพราะอยากจะโก่งค่าตัวเหรอครับ ลีลาดีอย่างคุณเนี่ย ผมขอเหมาสองคืนเลย เท่าไหร่ล่ะ ผมจ่ายไม่อั้นอยู่แล้ว ยิ่งถ้าคุณเด็ดถูกใจผมล่ะก็ ผมจะจ่ายให้เป็นสองเท่าเลย สนใจไหม”ผู้ชายตรงหน้ายังคงต่อรองอย่างยียวนชวนให้ตรีชฎาโกรธจัด มือบางจึงฟาดลงไปที่ซีกแก้มของอีกฝ่ายเต็มแรง“เพียะ! ไอ้บ้า ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว ต่อให้แกจ่ายให้ฉันเท่าไหร่ ฉันก็ไม่เอา แล้วจำไว้ ว่าคนอย่างฉันมีค่าพอ ไม่จำเป็นต้องเอาตัวไปเสนอให้แกหรอก ไอ้หื่นกาม” ตรีชฎาตะคอกกลับ ทำท่าจะเดินหนี แต่อีกฝ่ายก็กระชากเธออย่างแรง ร่างบางถูกดันจนหลังติดกำแพงด้วยคนที่มีพละกำลังม
“ไม่ค่ะ ผิงดื่มไม่เป็นสักอย่าง”ตรีชฎาส่ายหน้า ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยลองแตะของพวกนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว“ผู้หญิงอย่างคุณมาที่นี่ก็ออกบ่อยไม่ใช่เหรอ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะดื่มของพวกนี้ไม่เป็น อย่างคุณเนี่ย หน้าไม่ให้เป็นคนไร้เดียงสาเลยนะ หรือคุณทำเป็นแอ๊บแบ๊วว่าไม่เคยดื่มให้ตัวเองดูดีฮะ”“ผิงดื่มไม่เป็นจริง ๆ นะคะ ทำไมคุณสิบต้องมายัดเยียดข้อหาให้ผิงด้วย”“แล้วปกติคุณมาที่นี่ทำไมถ้าไม่ได้มาดื่มสังสรรค์ อ้อ ใช่สิ ผมลืมไปที่คุณมาที่นี่บ่อย ๆ ก็เพราะว่าจะมาหาเหยื่อรวย ๆ ไว้ถลุงเงินเล่นล่ะสิท่า”วาจาเผ็ดร้อนแดกดันหญิงสาวอย่างเหยียดหยามเป็นที่สุด ในใจก็ไพล่คิดไปว่าผู้หญิงอย่างแม่นางยั่วคนนี้จะมีอะไร นอกเสียจากมาล่าเหยื่อกระเป๋าหนักไปนอนด้วย“คุณสิบ! ทำไมคุณต้องว่าผิงแบบนี้ด้วยคะ ผิงดูเป็นผู้หญิงแบบนั้นมากเลยเหรอ ผิงมาที่นี่ก็แค่มาแดนซ์กับเพื่อน ๆ เพื่อความสนุกสนานเท่านั้น ไม่ได้มาทำอะไรอย่างที่คุณสิบกล่าวหาผิงสักหน่อย”หน้าสวยเรียบตึงทันที เมื่อถูกเขาว่าร้าย เธอไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมเขาจะต้องหาเรื่องด่าว่าเธอได้ตลอดเวลา เขาไม่คิดบ้างเลยหรือไง ว่าเธอจะเสียใจแค่ไหนกับคำพูดที่ออกมาจากปากเขา“หึ ไม่ต
“โอ๊ย พอได้แล้ว หยุดสักที แสบแก้วหูจะตายอยู่แล้วนะ”มือหนายกขึ้นปิดหูทั้งสองข้างไว้อย่างรำคาญใจ เยื่อในหูจะฉีกขาดหมด ก็เพราะเสียงแจ๋น ๆ ของเธอนี่แหละ“คุณสิบต้องบอกมาก่อนว่าจะไปกับผิง ถ้าไม่อย่างนั้น ผิงก็จะตะโกนแบบนี้ จนคุณสิบหูแตกไปเลย”หน้าสวยสะบัดเชิดใส่เขา ก่อนจะตะโกนขึ้นมาดัง ๆ อีกรอบ“คุณสิบใจร้าย ๆ ใจร้ายที่สุดเลย ไม่ยอมไปเที่ยวกับผิง คุณสิบใจร้าย ๆ คุณสิบใจร้าย ๆ คุณสิบใจร้าย ๆ”“หยุดสักที ผมบอกให้หยุด!” เสียงเข้มตะโกนแทรกขึ้นมา“ไม่หยุด! คุณสิบใจร้าย ๆ คุณสิบใจร้าย ๆ”“โอ๊ย จะแหกปากอะไรนักหนา พอได้แล้ว ผมยอมแล้ว ไปก็ไป แต่หยุดตะโกนสักทีได้ไหม ปวดหูไปหมดแล้วเนี่ย”ในที่สุดสิบทิศก็ต้องยอมจำนนให้กับตรีชฎาจนได้ ที่ยอมไม่ใช่เพราะใจอ่อนหรอกนะ แต่ยอมเพราะทนไม่ไหวกับเสียงใสแสบแก้วหูของเธอเสียมากกว่า ถ้าขืนเธอตะโกนนานมากกว่านี้ มีหวังขี้หูออกมาเต้นระบำกันเป็นแถวแน่“จริง ๆ นะคะคุณสิบขา คุณสิบไปกับผิงจริง ๆ นะคะ พูดแล้วห้ามคืนคำนะ”ร่างบางรีบกระโดดมานั่งตักเขาด้วยความดีใจจนเกินเหตุ ก่อนจะกอดคอเขา พลางขอคำยืนยันอีกครั้ง เพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะเปลี่ยนใจไม่ไปกับเธอ“อืม บอกจะไปก็ไปสิ นี่
“ท่านประธานคะ คุณผิงมาขอพบค่ะ”เมื่อได้ยินเสียงของเลขานุการสาวดังมาจากอินเตอร์คอม ร่างสูงก็ต้องถอนหายใจดังเฮือก“มาอีกแล้วเหรอเนี่ย โอ๊ย อยากจะบ้าตาย เมื่อไหร่จะหลุดพ้นจากบ่วงกรรมสักทีวะไอ้สิบเอ๊ย”มือหนาตบศีรษะตัวเองเบา ๆ อย่างนึกเซ็ง ไม่รู้ว่าเธอจะมาทำไมทุกวี่ทุกวัน พอมาก็มานั่งเฝ้าเขาทำงานบ้างแหละ มาป่วนเขาบ้างแหละ จนพักหลัง ๆ มานี้ เขาไม่ค่อยจะมีสมาธิในการทำงานสักเท่าไหร่ เพราะแม่ยอดยุ่งที่ชื่อตรีชฎานี่แหละ“อืม”สิบทิศครางในลำคออนุญาตให้เธอเข้ามา ทั้งที่ใจก็ไม่ได้อยากจะทำอย่างนี้เสียด้วยซ้ำ แต่ถึงจะให้เธอเข้ามาหรือไม่ให้เข้ามาก็มีค่าเท่ากันเพราะครั้งก่อนเขาไม่อนุญาตให้เธอเข้ามา คุณเธอก็ไม่แคร์สื่อใด ๆ ทั้งสิ้น นั่งรอเขาอยู่หน้าห้องอย่างไม่รู้สึกเบื่อ พอเขาออกมาก็หนีเธอไม่พ้นอยู่ดี ก็เธอเล่นดักเขาเสียขนาดนั้น ถ้าเขาหนีรอดไปได้ ก็คงไม่มานั่งกลุ้มอยู่อย่างนี้หรอก“คุณสิบขา ผิงคิดถึงคุณจังเลยค่ะ”นี่ก็เป็นประโยคเด็ดที่เธอจะต้องพูดเป็นประจำทุกวัน ว่าคิดถึงเขาอย่างโน้น คิดถึงเขาอย่างนี้ตรีชฎาเดินยิ้มหน้าระรื่นมานั่งตรงที่พิงแขนเก้าอี้ ก่อนจะโอบกอดร่างสูงให้หายคิดถึง ทำอย่างกับว่าเธอไ
ผู้คนจำนวนไม่น้อยยืนต่อคิวสั่งกาแฟแถวยาวเหยียดในร้านกาแฟเล็ก ๆ เนื่องจากมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานอยู่ในออฟฟิศ มักจะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีมานั่งดื่มกาแฟใกล้บริษัท แทนการรับประทานอาหารเช้าจากที่บ้าน เพราะความสะดวกสบายและไม่ต้องเสียเวลามากนัก จึงทำให้ผู้คนนิยมที่จะบริหารเวลาของตัวเองเช่นนี้ ซึ่งมันก็ค่อนข้างประหยัดเวลาได้มากเลยทีเดียวณภัทรถือกาแฟและคุกกี้เนยสดของโปรดเดินมาหาที่นั่งทาน ซึ่งดูท่าแล้วจะไม่มีโต๊ะว่างให้เธอนั่งเลยสักโต๊ะเดียว เพราะมองไปทางไหนก็มีแต่คนนั่งกันเต็มหมดแล้ว ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปทั่วร้าน จนมาสะดุดอยู่ที่โต๊ะหนึ่ง มีเก้าอี้ว่างให้เธอสามารถเข้าไปนั่งได้พอดิบพอดี เห็นดังนั้น หญิงสาวจึงรีบย่ำเท้ามุ่งตรงไปที่โต๊ะนั้นโดยไม่รีรอ“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่ามีใครนั่งหรือเปล่าคะ ถ้าไม่มีฉันขอนั่งด้วยคนนะคะ”ณภัทรเอ่ยขอชายหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยคำอนุญาตใด ๆ ร่างบางก็จัดแจงจะนั่งเก้าอี้ตัวที่ว่างทันทีแต่ในจังหวะที่หญิงสาวก้าวขาเข้ามา หมายจะนั่งเก้าอี้ตัวนั้น ขาเรียวงามของเธอก็ดันไปสะดุดเข้ากับขาเก้าอี้โดยไม่ได้ตั้งใจ ส่งผลให้กาแฟที่ถืออยู่ในมือหกเลอะมื