LOGIN“ฉันไม่ใช่เด็กซะหน่อย” ฉันเดินบ่นออกจากร้านโดยที่ไม่รอซี มันน่าหงุดหงิดจริงๆ
“ไอหมีพูห์บ้า”
“ว่าใคร” หันไปมองเสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาข้างๆ จะตามมาทำไมก็ไม่รู้ “ว่าหมีพูห์” หมีพูห์ไม่ได้ชื่อซีซะหน่อย “พี่สินะ” รู้ตัวเองด้วย ฉันหันหน้าหนีไม่ตอบคำถามคนตรงหน้า หมับ ~ ซีจับมือฉันแล้วลากฉันไปที่รถ “โลมาไปเองได้”ฉันยังยืนยันคำตอบเดิม ร่างสูงไม่ตอบแต่เปิดประตูรถเลิกคิ้วเชิงบอกให้ฉันนั่งในรถ รู้จักโลมาน้อยไปแล้ว ฉันยกมือขึ้นชี้ตรงปากตัวเองเพื่อย้ำคนตรงหน้า “โลมา-ไม่-ไป” พรึ่บ! “เห๊ยพี่” ฉันร้องออกมารีบเอามือคว้าคอคนตรงหน้ากันตก เมื่อคนตัวโตอุ้มฉันเหนือพื้นแล้ววางไว้ในรถอย่างเบามือ พร้อมกับคำพูดที่ไม่ดีกับใจฉันเอาซะเลย “อยู่นิ่งๆ ไม่งั้นจะไม่จบอยู่แค่อุ้ม” “ค......คิดว่ากลัว” สู้สิโลมาอย่ายอม “หรือจะลองครับ”น้ำเสียงเจ้าเล่ห์เอ่ยออกมา ซีโน้มตัวเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆ ฉันรีบเอามือดันคนที่ตัวโตกว่าให้ขยับออกห่าง แต่ดูเหมือนจะไม่ขยับเลยสักนิด ตัวหนักเป็นบ้า “>< ยอมแล้วๆ โลมายอมเเล้ว” เท่านั้นแหละค่ะ รอยยิ้มที่บ่งบอกถึงชัยชนะได้เผยออกมาจากใบหน้าที่หล่อราวกับเทพบุตร ซีผละตัวออกไปแล้วปิดประตูรถ เฮ้อ เกือบไปแล้ว “ดิสนีย์แลนด์ใช่ไหม” ซีที่ขึ้นรถมาแล้วถามฉันขึ้น “....” ฉันเลือกที่จะหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างเพราะไม่อยากตอบคำถามซีแล้ว “เฮ้อ” เสียงถอนหายใจของคนตัวโตพร้อมกับมือที่คว้าไหล่ฉันให้หันกลับไปมองคนตรงหน้า “ขอโทษที่พูดไม่ดี พี่รู้ว่าโลมาโตแล้ว แต่พี่เป็นห่วง กลัวเกิดอะไรไม่ดีขึ้นกับโลมา แต่ถ้าโลมาอึดอัดขอแค่พี่ไปส่งโลมาได้ไหม” นัยน์ตาที่สื่อออกมาอย่างจริงจังและน้ำเสียงทุ้มอ่อนโยนมันทำให้ความหงุดหงิดและความโกรธที่ฉันมีนั้นค่อยๆ หายไป “ได้ไหมครับ” ร่างสูงตรงหน้าเลื่อนมือมาวางไว้บนหัวแล้วลูบเบาๆ อย่างรอคำตอบ “ไม่ได้อึดอัดสักหน่อย ก็แค่ไม่ชอบ” คนตรงหน้าเลิกคิ้วมองฉัน “ไม่ชอบ?” “ไม่ชอบที่ซีว่าโลมาเป็นเด็ก” “หึๆ โอเคๆ ไม่เด็กก็ไม่เด็ก” “ยังจะขำอีก”ฉันกอดอกมองคนตรงหน้านิ่ง “ยอมแล้วๆ ค้าบบบบบ” ซีส่งยิ้มทำเป็นยกมือยอมแพ้ “ตกลงพี่ไปด้วยได้ใช่ไหม” “ไปก็ไปสิคะ ไม่ได้ห้ามสักหน่อย” โตเกียวดิสนีย์แลนด์ “ว้าวววว ดิสนีย์แลนด์จ้าโลมามาถึงแล้วจ้า ><” ตื่นเต้นเป็นบ้า ในที่สุดฝันฉันก็เป็นจริงสักที อยากวาง มงบนหัวตัวเองงามๆ เลยจ้า นั้นมัน!!! (0o0) ฉันหันไปมองมาสคอตมิกกี้เมาส์ มินนี่เมาส์ มินเนี่ยน ดัฟฟี่ >< และอีกมากมายเต็มไปหมดด้วยสายตาระยิบระยับเปล่งประกาย ขาของฉันรีบก้าวเดินออกไปหาจุดมุ่งหมายโดยไม่สนใจใครเลย นาทีนี้จะไม่มีอะไรมาหยุดฉันได้ หมับ! หยุดสิคะ หยุดโดยที่ไม่มีอะไรมากั้น (-__-) “จะไปไหน” ลืมไปเลยว่าซีมาด้วย ฉันมองหน้าคนที่ขัดจังหวะอย่างเซ็งๆ ทว่าสายตาฉันกลับสนใจสิ่งที่ซีคล้องคอไว้อยู่ “โอ๊ะ! ซีเอากล้องมาด้วยนี่ ถ่ายรูปให้โลมาหน่อยนะ” จับมือคนตรงหน้าแล้วลากไปถ่ายรูป แต่คนตัวใหญ่กว่ากลับไม่ขยับไปตามแรงฉันเลย ความสุขอยู่ตรงหน้ากลับเอื้อมไม่ถึง ฮืออออ เรื่องมันเศร้าเจ้าค่ะ “พี่ถ่ายรูปให้โลมา แล้วพี่จะได้อะไร” มันต้องมีข้อแลก เปลี่ยนด้วยเหรอ “ค่าตัวพี่แพงนะ”ดูจากหน้าหล่อๆ แล้วก็น่าจะแพง เอ๊ย!! กล้องน่าจะแพง “5,000 พอไหม เดียวโลมาโอนให้เลย” โลมายอมทุ่มสุดตัวเลยนะ แต่ร่างสูงตรงหน้ากลับส่ายหน้าไปมา ทำไมแพงจังวะ “ซีจะเอาเท่าไร” ก็ยังส่ายหน้าอีก (-__- + ) “เงินพี่มีแล้ว” จ้าพ่อคนรวย พ่อเทพบุตร “เเล้วซีอยากได้อะไร” “อืม….” ร่างสูงตรงหน้าทำท่านึกคิด ชักช้าจริง!! “โลมาต้องจับมือพี่ตลอด”เรื่องแค่นี้สบาย สงสัยพี่แกกลัวหลง “ได้” “และพรุ่งนี้โลมาจะต้องยอมตามใจพี่ทุกอย่าง โดยไม่มีข้อแม้ “ ทำไมมันเริ่มดูเยอะๆ คิดหนักเลยฉัน “ส่วนวันนี้พี่เลี้ยงเอง” เท่านั้นแหละ “ตกลงค่ะ” ^^ ไม่ต้องคิดเยอะแล้ว โลมาต้องการแค่นี้แหละ ฉันไม่ได้เห็นแก่เงินเลยนะคะทุกคนจริงจริ๊ง~ “อะไรคะ?” ซียืนมือมากุมมือฉันไว้แล้วประสานเข้ากัน “ไปกัน” เอ่อ….ทำไมมันเป็นเขินๆล่ะ คนตรงหน้าหันมายิ้มให้ฉันแล้วหันกลับไปมองมาสคอตมิกกี้เมาส์ที่จะถ่ายรูปให้ “มาเดี๋ยวพี่ถ่ายให้” ฉันปล่อยมือออกจากซีเตรียมจะเดินไปยืนข้างมาสคอต “โลมา” “หื้ม คะ?” เสียงเรียกทำให้ฉันหันกลับ ซีเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันแล้วย่อตัวลงให้ความสูงเราเท่ากัน โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ ยกมือขึ้นจัดทรงหน้าม้าให้ฉันอย่างเบามือ ตึกตัก ตึกตัก อัตราการเต้นของก้อนเนื้อข้างซ้ายเต้นเร็วผิดปกติยามรอยยิ้มอบอุ่นตรงหน้าเผยออกมาสะกดให้ฉันละสายตาออกไปไม่ได้เลย “เสร็จแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ย ทำให้สติฉันกลับคืนมา “///” “ไปได้แล้วเจ้าตัวกลมๆ รอนานแล้ว” แต่เอ๊ะ อะไรคือตัวกลมๆ “เขาเรียกว่ามิกกี้เมาส์” ว่าจบฉันวิ่งออกไปถ่ายรูปคู่กับมิกกี้เมาส์ทันที เราถ่ายรูปกันอยู่สักพัก โดยคุณตากล้องกิตติมศักดิ์ถ่ายให้ไม่บ่นสักคำ แถมยังถ่ายสวยมากๆด้วย “ซีไปเล่นนั้นกันเถอะ” ฉันจับมือซีแล้วลากไปต่อแถวเครื่องเล่นรถไฟเหาะเคยเปิดเจอในเน็ตมาเป็นเครื่องเล่นหวาดเสียวและเร็วสุดๆ เลยล่ะ โลมาตื่นเต้น >_< “…” “ทำไมซีทำหน้าอย่างนั้น” คนตรงหน้ามีสีหน้าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก สัมผัสได้ถึงเหงื่อไหลออกมาจากมือที่จับอยู่ หรือว่า… บ้าน่าาา “ซีกลัว?” ฉันกลั้นขำถามคนตัวโต (-__- ) เจ้าตัวหันมองฉันหน้าตาย “เปล่า” ใช่แน่ๆ โลมาถึงทีแกเอาคืนเเล้ว แค่คิดถึงสภาพคนตรงหน้าอ้วกแตกก็แทบจะกลั้นขำไม่ไหวแล้ว หึๆ (^__^) ซะที่ไหนกันล่ะ!!!! อ้วก~ หลังจากที่เราเล่นเครื่องเล่นวินาศสันตะโรนั้นแล้ว ตัวฉันนั้น ก็ได้นั่งกอดชักโครกประหนึ่งเป็นร่างกายส่วนที่ 33 ที่ขาดหายไปตั้งแต่ชาติปางก่อน ฮือออ (T T) อ้วกจนเวียนหัวแล้ว “ไหวไหม” กลับกันกับอีกคนหลังจากลงจากเครื่องเล่นหน้าตาสดชื่น ท่าทีสนุกเปรียบเสมือนเจอกับสิ่งที่ถูกใจ T_T ง่าาาให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว “โลมาเวียนหัว จะอ้วกอีกแล้ว” คนตัวโตแสดงสีหน้าเป็นห่วงออกมา ซีลูบหลังฉันเบาๆ พร้อมกับยื่นยาดมมาให้ฉัน เฮ้อ ค่อยยังชั่ว แต่เอ๊ะ! “ซีเข้ามาในห้องน้ำหญิงได้ไง” ฉันเบิกตากวางมองคนตรงหน้า หันไปมองรอบๆ ข้างที่เกิดการญี่ปุ่นมุงจับกลุ่มซุบซิบมองมาทางเรา ไหนจะสายตาที่มองคนตัวโตแวววาวแทบกรี๊ดเหมือนเจอซูเปอร์สตาร์ระดับฮอลลีวูด แม่เจ้าอีแป้นจะเป็นลม “โอเคแล้วใช่ไหม” พี่แกหาได้สนใจรอบข้างไม่ ใช้ผ้าเช็ด หน้าให้ฉันพร้อมกับจัดทรงผมหน้าม้าให้ฉันเหมือนเดิม มันใช่เวลาไหมคุณพี่ T_T ก่อนอื่นฉันต้องออกจากห้องน้ำให้ได้ “โลมาโอเคแล้ว เราออกจากที่นี่ก่อนดีกว่า” ซีพยักหน้าโอบไหล่ฉันเดินออกจากห้องน้ำทันที รอดแล้วฉัน ซีพาฉันมานั่งตรงม้านั่งใต้ต้นไม้ “นั่งรอพี่ตรงนี้ก่อน ห้ามไปไหนเข้าใจไหม” ยังไม่ทันได้ถามพี่แกก็วิ่งออกไป ไปไหนของเขา ……TrrrrrTrrrr…. แม่เจ้า!!! ฉลามโทรมา“ข้อตกลงของเรา” “ข้อตกลงอะไรคะ?” ร่างสูงขมวดคิ้วเป็นปม บนใบหน้าเผลอแสดงความหงุดหงิดออกมา ใช้มือเสยผมตัวเองก่อนจะหลับตาเหมือนกำลังจะระงับอารมณ์บางอย่างไม่ให้ออกมา “เฮ้อ ลืมแล้วสินะ” เสียงถอนหายใจของเจ้าตัวดังขึ้นก่อนที่จะลืมตาขึ้นมาจ้องมองด้วยแววตาและใบหน้าที่ผิดหวัง ฉันได้แต่ยืนขมวดคิ้วมึนงง ฉันลืมอะไร “มันไม่สำคัญเลยใช่ไหมว่ะ” ร่างสูงพูดเสียงเบาๆ เหมือนพึมพำกับตัวเอง ซีปล่อยมือที่กุมมือฉันไว้ ขยับตัวถอยห่างฉันก้าวหนึ่ง “ช่างเถอะ ห้องนอนเดินตรงไปเลี้ยวขวาห้องสุดท้าย” น้ำเสียงเรียบนิ่ง รู้สึกรับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่แสนจะเย็นเยือก ซีละสายตาจากฉัน นั่งลงดูทีวีเงียบๆ โดยไม่มองมาที่ฉันอีกเลย เป็นอะไรของเขา ฉันหันหลังด้วยความมึนงงเลือกที่จะเดินไปเอาของในห้องนอน “เจอแล้ว อยู่นี่เอง” ฉันเข้าไปในห้องนอนของซี กวาดสายตามองหาของก็เจอของๆ ฉันว่างไว้ข้างโต๊ะที่น่าจะเป็นโต๊ะทำงานของเจ้าตัว ทว่า ขณะที่ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ โต๊ะมากเท่าไร สายตาของฉันดันไปสะดุดเข้ากับรูปหลายๆ แผ่นที่ว่างไว้บนโต้ะ “นี่มัน….” รูปฉัน!!! เป็นรูปที่เราไปเที่
“คือ เมื่อคืนโลมาอยู่ในห้องตัวเองได้ยังไง?” “จำไม่ได้?” ฉันสายหน้าตอบคนตรงหน้า “เธอหลับ” อ่าาา… หลับนี่เอง ถึงว่าละ “ซีก็เลยปลุกโลมาใช่ไหม” ต้องใช่แน่ๆ ฉันต้องเดินขึ้นห้องมาเองต้องใช่แน่ๆ (^~^) “ใช่ ปลุกแล้ว” ว่าแหละ “แต่โลมาไม่ยอมตื่น” “!!!” “เลย… อุ้มมา” “ห๊ะ” (0 [] 0) แม่เจ้า “อะ…อุ้ม” ฉันถามซีอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “อืม (-__-) ” ร่างสูงพยักหน้ายืนยันคำตอบ “ได้ไงอะ โลมายังไม่อนุญาตเลยนะ” “ต้องขอด้วยเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามหน้านิ่ง “ต้องค่ะ!” “แต่เธอหลับ”เออใช่วะ “กะ…ก็… โลมาไม่กวนซีแล้วดีกว่า ฮะๆ” ตอบคนตรงหน้าด้วยแววตาและสีหน้าใสซื่อหันหลังรีบชิ่งไปนั่งรอที่เดิม จะรออยู่ใยในเมื่อเถียงไปเหตุผลก็คือ ฉันหลับ หลับแบบสนิทชนิดที่ว่าเอาหินมาปาใส่ก็ม่ายตื่นเจ้าค่ะ ฮืออออ~น่าอายจริงเลย นั่งรอสักพักร่างสูงนำแซนด์วิชมาวางไว้ตรงหน้า แทบัก!!! ฉันมองแซนด์วิชกับคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามสลับกันไปมา ไม่น่าเชื่อว่าซีจะทำได้น่ากินขนาดนี้ “ซีทำอาหารเป็นด้วยเหรอ”
จึก จึก “ซี ตื่นได้แล้ว” โลมาใช้นิ้วชี้จิ้มตรงไหลผมเรียกให้ผมตื่น “ขบวนเสร็จแล้ว?” ผมผละจากไหลน้อง เลิกคิ้วเชิงถามคนตัวเล็กตรงหน้า “อืม เสร็จแล้ว” “ป่ะ” โลมาลุกขึ้นยืนพร้อมกับยืนมือมารอผม หึ เป็นเด็กที่รักษาสัญญาดีนี่ ผมเอื้อมมือจับมือโลมาแล้วลุกขึ้นตามร่างบาง “ไปดูการแสดงไฟ Celebration Street กันต่อค่ะ” “ห๊ะ” what!! ยังไม่จบอีกเหรอวะ “เนี่ยยังมีอีกเยอะเลยนะ ไหนจะม้าหมุน ปราสาทตอนกลางคืนก็สวยมากๆ เลย… บลาๆ” และน้องก็ไปอย่างที่พูดจริงๆ ครับ จนตอนนี้ 4 ทุ่มสวนสนุกปิด ผมถึงลากโลมาออกมาได้ “สนุกมากๆ เลยอ่ะ ตอนกลางคืนคือสวยมาก”น้องที่นั่งอยู่บนรถหันมายิ้มให้ผม จนผมอดยิ้มตามไม่ได้ “ดีแล้ว” ผมยกมือขึ้นลูบหัวโลมาอย่างเอ็นดู แล้วหันมาขับรถต่อ “โลมาอยากกินอะไรอีกไหม พี่จะได้แวะซื้อให้ก่อนเข้าโรงแรม” “....” เงียบ~ “โลม….” ผมหันมองคนนั่งข้างๆ “ZzzzzZzzzz” หลับ (-_-) ยัยเด็กน้อย ผมจอดรถข้างทางเอื้อมมือไปหยิบเสื้อกันหนาวของตัวเองด้านหลังมาห่มให้โลมา แล้วหันไปขับรถต่อ โรงแรม
“อยากเป็นคนของโลมา” ผมเงยหน้ามองใบหน้าแดงๆ ของโลมา ใช้มือข้างหนึ่งลูบหัวน้องเบาๆ “ได้ไหมครับ” ถามลองเชิงคนตัวเล็กตรงหน้าเผื่อได้คำตอบที่ต้องการ “คือโลมา….” พรึบ! “หึ ล้อเล่นน่ะ” ผละตัวออกจากคนตัวเล็กใช้นิ้วชี้เคาะหัวโลมาเบาๆ “โลมาตกใจหมด เล่นอะไรก็ไม่รู้” คนตัวเล็กถอนลมหายใจออกมาอย่างโหล่งอกมองผมแบบดุๆ ยัยแมวน้อย “นี่พี่ทำให้แมวตื่นเหรอ หืมมม” ผมดึงจมูกน้องเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว “อืออออ ซี มันเจ็บน่าาา >” น้องจับจมูกตัวเองมองผมแก้มป่องๆ อ่า…..จะทำให้ผมหลงถึงไหน “ยังจะยิ้มอีก ไม่คุยด้วยแล้ว ดูของต่อดีกว่า” ผมมองโลมาเลือกของอย่าตั้งใจทำเป็นไม่สนใจผม ถามว่าทำไมผมถึงไม่รอคำตอบจากโลมา ทำไมถึงบอกว่าล้อเล่น ที่จริงผมไม่ได้ล้อเล่นหรอกครับ ผมพูดจริง แต่เพราะเห็นสีหน้าและสายตาที่ดูสับสนของน้องแล้ว บอกเลยว่าผมกลัวคำตอบของน้อง กลัวน้องจะปฏิเสธผม น้องพึ่งรู้จักผมแค่ 2 วัน แต่สำหรับผมรู้จักน้องมา 3 ปี ใช่ครับ ผมเคยเจอโลมามาก่อน ผมชอบน้องตั้งแต่แรกเห็น แต่ตอนนั้นน้องยังเด็กเกินไปสำหรับผม ผมเลยทำได้แค่เฝ
….TrrrrTrrrrrr… “ฮ... ฮะโหล ฮัลโหล”เสียงแกจะสั่นทำไมเนี่ย (อยู่ไหน!!) “!!!” ปลายสายตะคอกให้ฟังลักษณะของอารมณ์หรืออาจจับได้ว่าเป็น “…. ฉลามว่าอะไรนะ” ภายในใจฉันเต้นเร็ว ๆ นี้ควบคุมเสียงให้เป็นปกติที่สุด (อย่ากล่าวหากูไม่รู้นะว่าไปทำอะไรมา) อึ้งใจว่าร้ายแตกสลายแขนขาร่วงเมื่อทราบปลายสายพูดคำในเสียงฉลามต้องโกรธมากอาจจะสามารถพูดออกมาได้เพราะว่าฉันจะดื้อหรือเกเรไม่พูดถึงฉลามอย่างมากก็ไม่เคยพูดถึงอย่างชัดเจนถึงความสำคัญเลย “ฉะฉลามฮึก” ฉันไม่รู้จักอย่างเป็นทางการ กลอนน้ำตาที่คลอไม่ให้ไหลรินออกมา (เสียงร้องต้นฉบับวะ เห๊ยยย!!! โลมาพี่อีกครั้งคุยกับลูกน้องอยู่) อา อ้าวววคุณพระ!!! อีแม่นั้นเก็บน้ำตาที่ร่วงหล่นลงมาทัน “กลิ่นของโลมาตกใจหมดเลย” “พี่ขอโทษสำหรับลูกน้องมันทำงานพลาดนะลูกน้องมันทำงานพลาดอย่างนึงเลยตั้งใจไป” เพราะไม่ได้อกไปทีคิดว่าจะจับได้ในส่วน “ไม่ได้ว่าโลมาส่วน” ฉันย้ำอีกครั้งในเรื่องของสิ่งนี้ (ไม่ครับๆ สำหรับลูกน้องมันมาขัดพี่ตอนโทรหาโลมาพอดีพี่ข่าวคราวครับ) บางออยังไม่ค่อยจะพูดถึงจ
“ฉันไม่ใช่เด็กซะหน่อย” ฉันเดินบ่นออกจากร้านโดยที่ไม่รอซี มันน่าหงุดหงิดจริงๆ “ไอหมีพูห์บ้า” “ว่าใคร” หันไปมองเสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาข้างๆ จะตามมาทำไมก็ไม่รู้ “ว่าหมีพูห์” หมีพูห์ไม่ได้ชื่อซีซะหน่อย “พี่สินะ” รู้ตัวเองด้วย ฉันหันหน้าหนีไม่ตอบคำถามคนตรงหน้า หมับ ~ ซีจับมือฉันแล้วลากฉันไปที่รถ “โลมาไปเองได้”ฉันยังยืนยันคำตอบเดิม ร่างสูงไม่ตอบแต่เปิดประตูรถเลิกคิ้วเชิงบอกให้ฉันนั่งในรถ รู้จักโลมาน้อยไปแล้ว ฉันยกมือขึ้นชี้ตรงปากตัวเองเพื่อย้ำคนตรงหน้า “โลมา-ไม่-ไป” พรึ่บ! “เห๊ยพี่” ฉันร้องออกมารีบเอามือคว้าคอคนตรงหน้ากันตก เมื่อคนตัวโตอุ้มฉันเหนือพื้นแล้ววางไว้ในรถอย่างเบามือ พร้อมกับคำพูดที่ไม่ดีกับใจฉันเอาซะเลย “อยู่นิ่งๆ ไม่งั้นจะไม่จบอยู่แค่อุ้ม” “ค......คิดว่ากลัว” สู้สิโลมาอย่ายอม “หรือจะลองครับ”น้ำเสียงเจ้าเล่ห์เอ่ยออกมา ซีโน้มตัวเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆ ฉันรีบเอามือดันคนที่ตัวโตกว่าให้ขยับออกห่าง แต่ดูเหมือนจะไม่ขยับเลยสักนิด ตัวหนักเป็นบ้า “>ยอมแล้วๆ โลม







