LOGINเมื่อเข้ามาในร้านอาหารแล้วกุลนิดารู้สึกเกร็งอย่างบอกไม่ถูกเพราะเอาเข้าจริงๆบรรยากาศแบบนี้เธอลืมไปหมดแล้ว อิทธิฤทธิ์เลื่อนเก้าอี้ให้กุลนิดานั่งพร้อมกับน้องอบอุ่นที่นั่งอยู่ข้างๆกัน
" สั่งตามสบายเลยนะครับ มื้อนี้พี่เลี้ยงฉลองให้กับเจ้าเด็กอ้วนครบรอบ 4 ขวบ โตแล้วนะเรา " อิทธิฤทธิ์บอกพร้อมกับเปิดเมนูอาหารแล้วก็สั่งอาหารมากมายในแบบที่ตัวเองชอบและไม่ลืมที่จะสั่งอาหารสำหรับเด็กด้วย จนกุลนิดาไม่กล้าสั่งอีกเพราะที่เขาสั่งมาก็ไม่น่าจะกินกันหมดแล้ว อิทธิฤทธิ์หลังจากสั่งเมนูอาหารเสร็จก็ลอบมองกุลนิดาที่ไม่ยอมสั่งอะไรเลยสักอย่าง " กุลอยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าสั่งได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจพี่หรอก วันนี้พี่กะจะพาเจ้าเด็กอ้วนมาเลี้ยงอยู่แล้ว และอยากให้สนุกกันเต็มที่ด้วย " อิทธิฤทธิ์บอกพร้อมกับมองหน้าน้องอบอุ่น แล้วเจ้าก้อนกลมนั้นก็เอาแต่ยิ้มจนตาหยีเพราะตื่นเต้นที่ได้ออกมายังสถานที่ใหม่ๆ เด็กอ้วนมองดูผู้คนรอบๆร้านพร้อมกับยิ้มให้ บางคนก็ยิ้มกลับแต่กับบางคนก็หยิ่งเกินกว่าจะยิ้มกลับให้เด็ก " แค่นี้ก็เยอะมากแล้วค่ะ แถมอาหารที่สั่งมาก็น่ากินทั้งนั้นเลยด้วยเอาแค่นั้นล่ะค่ะ ถ้าสั่งอีกได้พุงแตกแน่เลยค่ะพี่อิฐ " คุณนิดาบอก ส่วนประโยคหลังเธอแอบกระซิบเบาๆ ทำให้อิฐยิ้มรับอย่างเอ็นดู ยิ่งมองไกล้ๆเธอยิ่งน่ารัก กุลนิดาปิดเมนูลงอิทธิฤทธิ์จึงไม่เร้าหรืออีกเพราะที่สั่งมาก็เป็นอาหารที่เธอและลูกเธอชอบทั้งนั้น " กุลขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึงนะคะพี่อิฐ น้องอบอุ่นขาอยู่กับลุงอิฐแป๊บนึงนะคะ เดี๋ยวคุณแม่ไปเข้าห้องน้ำแล้วจะรีบกลับมาค่ะ อย่าซนนะลูก " กุลนิดาบอกกับอิทธิฤทธิ์พร้อมกับไม่ลืมที่จะหันไปบอกลูกสาว และปรามเด็กดื้อเอาไว้ก่อน ซึ่งน้องอบอุ่นก็พยักหน้าน้อยๆอย่างเข้าใจ " ได้เลยค่ะคุณแม่ น้องอบอุ่นจะเรียบร้อยสุดๆไปเลยค่ะ " เมื่อคนเป็นลูกสาวอนุญาตและรับปากแล้ว กุลนิดาจึงลุกขึ้นแล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำซึ่งเธอก็ถามพนักงานและค่อยๆเดินมาตามทางเรื่อยๆอย่างที่พนักงานคนนั้นบอก แล้วก็เห็นป้ายห้องน้ำซึ่งเป็นห้องน้ำรวมเข้าได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงกุลนิดาจึงรีบเข้าไปทันทีเพื่อที่จะได้รีบออกมาหาลูกสาว แต่พอเดินเข้าไปถึงหน้าประตูก็ต้องตกใจเมื่อชนเข้ากับคนที่เพิ่งเดินออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ปึก!! " โอ้ย! ขอโทษค่ะ ว๊าย!!!! " ร่างเล็กถึงกับเซถลากำลังจะหงายหลัง หากแต่ก็มีมือหนายื่นเข้ามาแล้วโอบเอวของเธอเอาไว้เสียก่อน เธอจึงไม่หงายหลังล้มลงไป ทันทีที่ตั้งสติได้ก็มองหน้าบุคคลตรงหน้าแล้วก็ต้องหน้าซีดเผือกด้วยความกลัว ตอนนี้เหมือนโลกทั้งใบกำลังแตกสลาย เธอไม่คิดว่าชาตินี้จะเจอเขาอีก ผู้ชายคนนั้นคนที่ใจร้ายกับเธอมากที่สุด คนที่เธอหนีมาสุดล่าฟ้าเขียวแล้วแต่สุดท้ายก็เหมือนจะไม่พ้น ทำไมโลกนี้ช่างใจร้ายกับเธอซ้ำๆเหลือเกิน " คุณคิมหันต์ " กุลนิดาถึงกับไม่มีแรงที่จะลุกขึ้นยืนเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อได้เห็นหน้าคนใจร้ายคนนี้อีกครั้งในรอบเกือบ 5 ปี " หึ!....โลกกลมดีนะยัยเด็กร่าน! " คิมหันต์ คันธทรัพย์ มาเฟียหนุ่มเจ้าของคาสิโนและผับดังระดับประเทศ กำลังทำท่าทางนิ่งเฉยเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรเมื่อเจอกับคนตรงหน้า เขาเพียงแค่ยิ้มมุมปากออกมาอย่างพอใจเท่านั้น บทจะเจอก็ช่างง่ายดายเหลือเกิน เขาหรืออุตส่าห์ตามหามาตั้งหลายปีก็ไม่พบแม้แต่ร่องรอยเหมือนมีคนจงใจช่วยเหลือหล่อนปกปิดเอาไว้ " นี่...ปล่อยนะ!! " ร่างเล็กที่พยายามยืนให้มั่นคงแล้วแกะมือที่เขาโอบเอวของเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย เธออยากออกไปจากที่นี่แล้ว เพราะรู้สึกกดดันและอึดอัดเมื่อต้องอยู่ใกล้เขา แต่สิ่งที่คนตรงหน้าทำมันกลับสวนทางกันเมื่อเขากระชับเอวของเธอแน่นขึ้นพร้อมกับกระชากตัวเธอเข้าไปในห้องน้ำที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่แล้ว พอเข้ามาได้เขาก็ล็อคประตูทันทีและจับเธอเหวี่ยงเข้าไปในห้องน้ำอีกชั้นหนึ่ง " นี่คุณ!! จะทำอะไรอ่ะ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ " ร่างเล็กตกใจที่อยู่ๆเขาก็จับเธอเข้ามาในนี้ แม้เธอจะพยายามขัดขืนแต่แรงเธอก็เท่านี้ ดูเขาสิตัวใหญ่อย่างกับยักษ์เธอสูงยังไม่ถึงไหล่เขาเลย และเมื่อหลังของเธอพิงกับผนังห้องน้ำคิมหันต์ก็จัดการล็อคเธอไว้ด้วยแขนทั้งสองข้างที่วางทับผนังเอาไว้ ทำให้กุลนิดาไม่สามารถออกไปจากกรงขังของอ้อมแขนแกร่งนี้ได้ " เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง " คิมหันต์ถามอย่างคนต้องการคำตอบ เพราะเขาตามหาตัวเธอมากกว่า 5 ปี ตั้งแต่วันนั้นที่เธอหนีเขามาไม่มีวันไหนเลยที่เขาไม่ตามหาเธอ แต่ถึงแม้จะตามหายังไงก็ไม่มีแม้แต่เบาะแส เหมือนมีคนจงใจไม่ให้เขาตามหาเธอเจอ และวันนี้ก็มันก็สิ้นสุดการรอคอยของเขาสักทีและเขาจะไม่มีวันให้เธอได้จากไปไหนอีก " นี่มันร้านอาหารนะคะ ใครจะมาก็ได้หรือเปล่า คุณนั่นแหละไม่มีสิทธิ์มากักขังฉันแบบนี้นะถอยไปค่ะฉันจะออกไปแล้ว " ร่างเล็กพยายามตั้งสติและผลักเขาออกแต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อคนตัวโตเอาแต่จ้องหน้าเธออยู่แบบนั้น " ฉันจะถามเธอเป็นครั้งสุดท้าย เธอหนีฉันออกมาทำไม แล้วใครที่เป็นคนช่วยเหลือเธอ " คิมหันต์ถามพร้อมกับจ้องตาเพื่อดูท่าทางเพื่อจับโกหกคนตรงหน้า " ฉันไม่จำเป็นต้องบอก แล้วคุณกับฉันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว ฉันถือว่าตอนนั้นฉันชดใช้ไปหมดแล้ว แล้วฉันก็ไม่มีอะไรจะให้คุณอีก อย่ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตฉันอีก ปล่อย!! " ร่างเล็กพูดชัดเจนแต่ดูเหมือนคิมหันต์จะไม่ฟังเมื่อเขาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าของเธออีก นั่นจึงทำให้กุลนิดาทุบไปที่อกแกร่งของเขาจนสุดแรงเพื่อให้เขาได้รู้สึกเจ็บปวดและปล่อยเธอไปสักที คิมหันต์เห็นคนตัวเล็กที่พยศไม่เลิกและยังพยายามทุบตีเขาอีก เขาจึงจัดการรวบแขนเรียวของเธอทั้งสองข้างเอาไว้ในอุ้งมือหนาของตัวเองเพียงข้างเดียวพร้อมกับยกมันขึ้นเหนือศีรษะของเธอ และตัวเขาที่โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ จนตอนนี้จมูกของเขากับเธอแทบจะชนกัน คิมหันต์สูดดมกลิ่นกายอ่อนๆที่เป็นกลิ่นเฉพาะตัวเธอ และต้องมีแค่เขาเท่านั้นที่ได้เชยชมกลิ่นนี้แบบใกล้ๆ คิมหันต์สูดดมใกล้ๆ แล้วเลื่อนจากริมฝีปากสวยได้รูปไปที่ใบหูสวยของเธอพร้อมกับกระซิบเบาๆ เพื่อทบทวนความทรงจำที่เธออาจจะลืมไปแล้วแต่ไม่ใช่สำหรับเขาแน่นอน " พยศเหมือนเดิมเลยนะ หึ! ลืมแล้วหรอว่าฉันคนนี้เป็นผัวเธอ "เมื่อเข้ามาในร้านอาหารแล้วกุลนิดารู้สึกเกร็งอย่างบอกไม่ถูกเพราะเอาเข้าจริงๆบรรยากาศแบบนี้เธอลืมไปหมดแล้ว อิทธิฤทธิ์เลื่อนเก้าอี้ให้กุลนิดานั่งพร้อมกับน้องอบอุ่นที่นั่งอยู่ข้างๆกัน" สั่งตามสบายเลยนะครับ มื้อนี้พี่เลี้ยงฉลองให้กับเจ้าเด็กอ้วนครบรอบ 4 ขวบ โตแล้วนะเรา " อิทธิฤทธิ์บอกพร้อมกับเปิดเมนูอาหารแล้วก็สั่งอาหารมากมายในแบบที่ตัวเองชอบและไม่ลืมที่จะสั่งอาหารสำหรับเด็กด้วย จนกุลนิดาไม่กล้าสั่งอีกเพราะที่เขาสั่งมาก็ไม่น่าจะกินกันหมดแล้ว อิทธิฤทธิ์หลังจากสั่งเมนูอาหารเสร็จก็ลอบมองกุลนิดาที่ไม่ยอมสั่งอะไรเลยสักอย่าง" กุลอยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าสั่งได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจพี่หรอก วันนี้พี่กะจะพาเจ้าเด็กอ้วนมาเลี้ยงอยู่แล้ว และอยากให้สนุกกันเต็มที่ด้วย " อิทธิฤทธิ์บอกพร้อมกับมองหน้าน้องอบอุ่น แล้วเจ้าก้อนกลมนั้นก็เอาแต่ยิ้มจนตาหยีเพราะตื่นเต้นที่ได้ออกมายังสถานที่ใหม่ๆ เด็กอ้วนมองดูผู้คนรอบๆร้านพร้อมกับยิ้มให้ บางคนก็ยิ้มกลับแต่กับบางคนก็หยิ่งเกินกว่าจะยิ้มกลับให้เด็ก " แค่นี้ก็เยอะมากแล้วค่ะ แถมอาหารที่สั่งมาก็น่ากินทั้งนั้นเลยด้วยเอาแค่นั้นล่ะค่ะ ถ้าสั่งอีกได้พุงแตกแน
และแล้วก็มาถึงสุดสัปดาห์ วันนี้ตรงกับวันเกิดของเด็กอ้วนอย่างน้องอบอุ่นซึ่งวันนี้เจ้าตัวตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะจะได้ออกไปฉลองวันเกิดข้างนอกเป็นปีแรก หลังจากที่คุณแม่ของเธอจัดให้ที่บ้านทุกปี และวันนี้กุลนิดาก็ขอลางาน 1 วันเพื่อมาดูแลและให้ความสำคัญกับคนที่เธอรักมากที่สุด" คุณแม่ขา วันนี้น้องอบอุ่นน่ารักไหมคะ " เด็กหญิงกมลทิพย์เอ่ยถามคุณแม่ด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูเพราะวันนี้เธอใส่ชุดวันเกิดเป็นชุดเจ้าหญิงสีชมพูที่กุลนิดาตั้งใจซื้อให้ในวันเกิดของลูกสาว" น่ารักมากเลยค่ะ วันนี้น่ารักแล้วอย่าลืมเป็นเด็กดีด้วยนะคะลูก " กุลนิดาบอกกับลูกสาวที่วันนี้จะต้องออกไปข้างนอกด้วยกัน เพราะทุกครั้งที่ออกไปข้างนอกลูกของเธอมักจะสร้างตำนานกลับมาทุกครั้ง เขาว่ากันว่าเด็กดื้อคือเด็กฉลาดตอนนี้แม่ก็เริ่มไม่มั่นใจแล้ว" น้องอบอุ่นสัญญาค่ะว่าวันนี้จะไม่ดื้อไม่ซนนะคะคุณแม่ นั่นไงรถลุงอิฐมาแล้วค่ะ " เด็กอ้วนบอกหลังจากที่เพิ่งบอกว่าจะไม่ดื้อไม่ซนแต่พอได้ยินเสียงรถลงอิฐกลับวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตออกไปหาเลย" ระวังลูก... " กุลนิดาส่ายหน้าให้กับคนที่ตั้งใจจะเป็นเด็กดีแต่ก็เป็นได้เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้
กุลนิดาเดินตามอิทธิฤทธิ์พร้อมกับลูกสาวตัวแสบของเธอเข้ามาในบ้านและภาพที่เห็นเป็นประจำก็คืออิทธิฤทธิ์จะนั่งเล่นกับลูกสาวเธอพร้อมกับที่เธอต้องปลีกตัวไปทำมื้อเย็นให้กับทั้งสองคนทาน" อาหารเสร็จแล้วค่ะ พี่อิฐน้องอบอุ่นมากินข้าวก่อนค่ะ " อิทธิฤทธิ์กับเด็กอ้วนของเขาจึงละจากการเล่นของเล่นตรงหน้าแล้วไปยังโต๊ะอาหารที่มีกุลนิดารออยู่ก่อนแล้ว" ว๊าว...น่ากินจังเลยค่ะคุณแม่ขา ของโปรดน้องอบอุ่นทั้งนั้นเลย " เด็กอ้วนตาโตเมื่ออาหารมื้อนี้เป็นของโปรดของตัวเองทุกเมนู เพราะวันนี้เป็นสุดสัปดาห์ลุงอิฐของเธอจึงซื้อแต่วัตถุดิบที่ใช้ทำเมนูโปรดของเธอมาทั้งนั้น" ไหน ของโปรดที่ว่ามีเมนูอะไรบ้างคะ " กุลนิดาถามลูกสาวเพื่อทบทวนความจำ น้องอบอุ่นกำลังอยู่ในวัยเรียนรู้เธอจึงอยากสอนทุกอย่างที่แม่อย่างเธอสามารถที่จะสอนลูกได้ ถามบ่อยๆเด็กจะเรียนรู้ได้เร็ว" แกงจืดหมูสับ ไข่เจียวกุ้ง แล้วก็เกี๊ยวน้ำหมูสับค่ะ " น้องอบอุ่นบอกเมนูได้ถูกทุกเมนู พร้อมกับยิ้มให้คนเป็นแม่ด้วยรอยยิ้มที่ภูมิใจ อาหารแทบทุกมื้อที่เธอทานมักจะเป็นอาหารอ่อนๆที่ลูกสาวของเธอสามารถทานด้วยได้ เธอจำไม่ได้แล้วว่าอาหารรสจัดเธอทานครั้งล่า
" แง๊!!! คุณแม่ขาน้องอบอุ่นเจ็บจังเลยค่ะ " เด็กสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มตัวอวบอ้วนกำลังย่างเข้าสู่วัย 4 ขวบ ซึ่งน้องอบอุ่นสะดุดขาตัวเองล้มลงไปที่พื้นในขณะที่กำลังวิ่งตามเจ้าเหมียวน้อยในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ส่วนคนเป็นแม่แค่แวะจ่ายตังค์ให้กับแม่ค้าแป๊บเดียวเพราะลูกสาวตัวน้อยอยากกินนมชมพูปั่น เผลอแป๊บเดียวก็ได้ยินเสียงลูกสาวร้องไห้อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นักแล้ว เธอจึงรีบวิ่งมาสุดชีวิตเพื่อมาดูลูกสาวที่กำลังหกล้มและเสียขวัญอยู่" น้องอบอุ่น ไหน...เจ็บตรงไหนลูก แม่ขอดูหน่อยสิคะ " กุลนิดา เขมิกา (กุล) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยววัย 28 ปีรีบวิ่งเข้ามาดูอาการของลูกสาวอย่างรวดเร็ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามทำสีหน้าให้ปกติที่สุด เพราะไม่อยากให้ลูกรู้สึกตกใจไปมากกว่านี้ พอสำรวจตามร่างกายก็พบว่ามีเพียงแค่เข่าเล็กเท่านั้นที่ถลอกจนเลือดออก แต่เจ้าตัวแสบกลับร้องเหมือนเจ็บไปทั้งตัวสงสัยน่าจะตกใจมากกว่า" ซนจนได้เรื่องแล้วนะคะลูกเห็นไหม เด็กดีของแม่วันนี้กลายเป็นเด็กดื้อแล้วนะ " กุลนิดาประคองลูกสาวตัวน้อยให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มใสของลูกสาวออกจากแก้มให้เบาๆ" น้องอบอุ่นไม่ได้ดื้อนะคะคุณแม่




![จิรัติพันประดับ [เซตเกี่ยวรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)


