Beranda / วาย / ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า / บทที่ 21 เยือนบ้านเจ้าเพียงหวังได้พบหน้า

Share

บทที่ 21 เยือนบ้านเจ้าเพียงหวังได้พบหน้า

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-11 23:52:28

กระทั่งยามโหย่วมาเยือน (17.00 – 18.59 น.)

ว่านฟู่เฉิงก็เริ่มนั่งไม่ติดกลัวกู่ซิงอีจะหนีหายไป และอีกใจก็กลัวจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับกู่ซิงอี เขารีบเรียกหลี่เซียวเข้ามาหา วันนั้นหลังจากที่กู่ซิงอีลักพาตัวเขาไปครั้งแรก เขาก็สั่งหลี่เซียวให้ส่งคนไปตามสืบเรื่องคุณหนูรองตระกูลเซี่ยและสืบที่อยู่ของกู่ซิงอีมาด้วย ถึงได้รู้ว่าบ้านของกู่ซิงอีตั้งอยู่เขตชานเมือง

“เตรียมรถม้า ไปบ้านกู่ซิงอี” ว่านฟู่เฉิงกล่าวเสียงเรียบกลบเกลื่อนความรู้สึก

หลี่เซียวไม่ถามมากความด้วยความอยู่เป็นก็ขานรับหนึ่งทีแล้วรีบจากไปเตรียมรถม้าตามที่เจ้านายสั่ง

กู่ซิงอีที่เตรียมรอหมักสุราจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเคาะที่ประตูรั้ว เขารีบวางของในมือลง คิดว่าเป็นเซี่ยลู่หลินที่ขาดการติดต่อไปนานเดินทางมาหาตน ในใจที่หนักอึ้งมาทั้งวันก็รู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาย่องไปหาเซี่ยลู่หลินแล้วไม่เจอ จึงจำต้องบากหน้าไปขอพบตามตรง ทว่านายท่านเซี่ยก็สั่งคนในบ้านกันเขาไว้ ยามนี้พอได้ยินเสียงเคาะประตูรั้วจึงคิดว่าสหายของตนหนีออกมาได้แล้ว เพราะบ้านของเขาอยู่เขตที่ไม่ค่อยมีบ้านคนมากนัก และไม่มีใครรู้จัก ดังนั
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 21 บทท้าย ความทุกข์มลาย เพียงแย้มยลหน้าท่าน

    ใบหน้าของว่านฟู่เฉิงเริ่มขึ้นสีชมพูอ่อนจางลามไปยังใบหูแล้ว ปกติต่อให้เขาจะดื่มสุราไปหลายกาแต่ใบหน้าก็ยังคงขาวกระจ่างดังเดิม ทว่าบัดนี้กลับเรืองสีชมพูอ่อนขึ้นมาอย่างง่ายดายเพียงเพราะถูกคนทึ่มทื่อผู้หนึ่งสัมผัสมือไปมาเท่านั้นเอง เขาแอบมองรอยยิ้มด้านข้างที่ดูแปลกพิลึกของกู่ซิงอีด้วยไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายหลงใหลอะไรในมือของเขาจนยิ้มแบบนั้นออกมา ตบท้ายด้วยการกระทำที่แปลกประหลาดนั้นกู่ซิงอีก็ยังส่งเสียงหัวเราะชอบใจออกมาอีกด้วย! ว่านฟู่เฉิงครั้นถูกปล่อยมือแล้วก็ยังปรับสภาพหัวใจที่เต้นผิดจังหวะได้ไม่ดีนัก เขาบรรจงผสมข้าวหลายอย่างและสมุนไพรที่กู่ซิงอีเตรียมไว้ให้เข้าด้วยกันตามที่อีกฝ่ายบอก เมื่อผสมเสร็จแล้วก็นำไปใส่ในไหใบใหญ่ข้างขาที่กู่ซิงอีนำมาวางไว้ให้ ว่านฟู่เฉิงยังคงนั่งทำด้วยความนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาอยู่พักใหญ่เพราะกำลังพยายามปรับอารมณ์ของตนเองให้มั่นคงอยู่ ฝั่งกู่ซิงอีก็ยกไหสุรามาเตรียมรอบนโต๊ะ เดินหยิบของมาวางไว้ใกล้ลูกมือคนใหม่ของตนไม่พัก “ผู้เฒ่าเว่ยเป็นคนสอนเจ้า?” “เป็นเขา” กู่ซิงอีที่กำลังสอนวิธีการมัดไหสุราเพื่อปิดผนึกให้แน่นก็ตอบกลับ แววตามีทั้งรอยยิ้มและความค

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-11
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 22 คนพูดคิด แต่คนฟังไม่ทันสังเกต

    “เหมือนจะยากไป ช่วยสอนอีกครั้งเถอะ” ว่านฟู่เฉิงเอ่ยเนิบนาบอย่างเคย คนฟังก็คิดว่าเขาพูดจริงเสียอย่างนั้น ลงมือสอนเขาอีกรอบอย่างช้า ๆ ด้วยความตั้งใจ ว่านฟู่เฉิงแอบมองใบหน้าด้านข้างที่อยู่ไม่ห่างจากตัวเขามากนัก ไม่ได้สนใจว่ากู่ซิงอีพูดเรื่องอะไร หรือต้องกรองสุราอย่างไร เรื่องนี้คุณชายอย่างเขามองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าทำอย่างไรให้ได้สุราออกมาโดยไม่เปลืองแรงกรองหลายรอบ แต่เพราะอยากให้กู่ซิงอีจับมือสอนอีกรอบจึงพูดปดออกไปก็เท่านั้นเอง ใครจะไปคิดว่ากู่ซิงอีที่ฉลาดและรอบคอบกลับโดนใบหน้าไร้อารมณ์ของเขาหลอกเอาได้ ในตอนนั้นกู่ซิงอีร้อง ‘เอ๊ะ!’ ด้วยน้ำเสียงประหลาดใจหนึ่งครั้งเหมือนเพิ่งจะตระหนักได้หลังจากที่หันมาสบตากับว่านฟู่เฉิงซึ่งกำลังหันหน้ามาสบตามองกับตนอยู่ก่อนแล้ว บนใบหน้าไร้อารมณ์เมื่อครู่ปรากฏรอยยิ้มจาง ๆ ที่มุมปากทั้งสองข้าง “ท่านแกล้งข้ารึ!” เขาผละออกมาเท้าสะเอวจ้องมองอีกฝ่าย “หรือเพียงแค่ถ่วงเวลาเพราะเริ่มเบื่อแล้วกันแน่” ว่านฟู่เฉิงเพิ่งรู้ตัวว่าตนเผลอยิ้มออกไปจนความแตก จึงรีบตีหน้านิ่ง หันหน้ากลับไปมองตรง หลุบตาลงต่ำมองไหสุราข้างขา แล้วทำทีเป็นสะบัดม

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-11
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 22 บทท้าย เป็นต้นพลับปลอม

    กู่ซิงอีเห็นดังนั้นก็รู้ว่าตนยังห่างชั้นจากว่านฟู่เฉิงมากนักด้านการปะทะฝีปาก อีกฝ่ายพูดน้อยจนแทบนับคำได้แต่เขาก็ไม่เคยเถียงชนะเลย และเรื่องจริงที่ว่าใครมาหาใครและใครดึงดันจะอยู่มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้ แต่คนผู้นี้กลับกลับดำเป็นขาวได้อย่างหน้าไม่อาย กู่ซิงอีตระหนักได้ว่าแผนที่ตนวางไว้ล้วนพังทั้งหมดเพราะเหตุใด “เป็นคุณชายว่านที่รอบคอบเสมอ” กล่าวถึงตรงนี้แล้วเขาก็กลับไปทำงานต่อ ว่านฟู่เฉิงยกยิ้มอยู่เพียงลำพังมองส่งคนจากไป จากนั้นก็รีบลงมือกรองสุราให้เสร็จ เขาเลือกที่จะสลัดความรู้สึกหนักหน่วงในใจทิ้งไปก่อน ต่อให้กู่ซิงอีจำต้องอยู่กับเขาเพราะทำเพื่อสหายก็ตาม แต่อย่างไรเสียตอนนี้กู่ซิงอีก็ยังอยู่ข้างกายเขาตลอด ยังพอมีเวลาให้เขาอีกหน่อย ดังนั้นช่วงเวลานี้เก็บเกี่ยวความรู้สึกตรงหน้าไว้ให้ได้มากที่สุดก็พอ ว่านฟู่เฉิงไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร แม้ไม่มีสิ่งใดตกถึงท้องแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกหิวมากเท่าที่ควร กระทั่งกู่ซิงอีและว่านฟู่เฉิงทำงานเสร็จก็ออกมานั่งที่เก้าอี้ไม้ไผ่ด้านนอกด้วยกัน รอบกายเต็มไปด้วยไหสุราที่เพิ่งหมักเสร็จซึ่งกู่ซิงอียกออกมาวางไว้เพื่ออาบแสงจันทร์ บน

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-11
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 23 ตอนต้น สัมผัสครั้งนี้ตราตรึงชั่วนิรันดร์ (1)

    ค่ำคืนนี้ไร้เมฆบดบังแสงจันทร์จึงอาบส่องได้ทั่วท้องนภา ว่านฟู่เฉิงจิตใจเบาบางไร้สิ่งใดให้กังวล เมื่อปล่อยวางเรื่องรอบกายได้จึงเผลอดื่มสุราเข้าไปแบบไม่ยั้งคิด ในระหว่างที่รอกู่ซิงอีเก็บไหสุรารอบบริเวณลานบ้านกลับไปในห้องทึบแสงห้องเดิมแล้วเขาก็นั่งดื่มอยู่คนเดียวจนหมดไปอีกหลายกา ตอนนี้เขาภูมิใจในตนเองไม่น้อยที่รู้จักหยิบสุราในไหมาเติมลงกาด้วยตนเองแล้ว ว่านฟู่เฉิงก็คือว่านฟู่เฉิง ต่อให้เริ่มเมามายแต่ก็ไม่ละทิ้งความเป็นคุณชายสูงศักดิ์ ไม่ยอมดื่มจากไหโดยตรงเพราะคิดว่าการดื่มจากกาสุราคือสุภาพที่สุด “คุณชายว่าน ท่าน ดื่มเก่งขนาดนี้เชียว” กู่ซิงอีที่เพิ่งเก็บไหสุราเสร็จและแอบไปล้างเนื้อล้างตัวพอกลับออกมาเห็นก็เอ่ยทักด้วยความแปลกใจ เพราะมองเห็นไหสุราที่ว่างเปล่ากำลังกลิ้งอยู่ข้างขาของคุณชายว่านไปมา ดูเหมือนว่าคุณชายว่านจะเติมสุราลงกาด้วยตนเองและดื่มไปจนหมดทั้งสี่ไหเล็กที่เขาเตรียมมาให้ ถึงแม้สีหน้าของว่านฟู่เฉิงจะยังเรียบเฉยดังเดิมแต่สองแก้มเริ่มขึ้นสีชมพูเจือจาง ยิ่งพอรวมกับใบหน้ารูปงามแล้วก็น่ามองไม่น้อยเลย กู่ซิงอีแทบไม่อยากละสายตาไป หากสตรีใดได้เห็นคงเป็นฝ่ายเมา

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-13
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 23 ตอนปลาย สัมผัสครั้งนี้ตราตรึงชั่วนิรันดร์ (2)

    หึ ท่านก็รู้ตัวนี่ กู่ซิงอีคิดเช่นนั้นในใจ แต่ก็ต้องกล่าวตามจริงว่าเขาเองก็มีส่วนที่ผิด “คุณชายว่าน...ท่านเข้าใจผิดก็ไม่แปลก ข้าเข้าหาท่านด้วยเจตนาไม่ดีตั้งแต่แรก แต่เมื่อวานข้าคิดเผื่อท่านจากใจจริงไม่มีความต้องการใดเจือปน เพียงอยากขี่ม้าไปเล่นกับท่านที่นอกเมืองก็เท่านั้น” คุณชายว่านไม่โกรธที่เขาเคยวางแผนต่าง ๆ นานาแถมยังรับปากจะจัดการเรื่องเซี่ยลู่หลินให้เขาควรขอบใจเรื่องนี้เสียด้วยซ้ำไป อีกฝ่ายแค่พลั้งปากไม่ดีนิดหน่อยและอาจเพราะฤทธิ์ของสุราร่วมด้วยเขาไม่ควรเดินหนีมาทั้งอย่างนั้น “ข้ารู้แล้ว...เป็นเพราะข้าเอาแต่ใจจนเคยชิน จึงนิสัยเสียไปบ้าง” ว่านฟู่เฉิงพรูลมหายใจแผ่วเบาทอดถอนใจให้กับนิสัยของตนเองที่แก้ไม่หาย กู่ซิงอีขมวดคิ้วสงสัย ปัดปอยผมเส้นบางที่ปรกหน้าคุณชายว่านออกให้เพื่อดูว่าเขาใช่ว่านฟู่เฉิงที่ปากร้ายชอบมองคนอื่นเหมือนต้นหญ้าหรือไม่ ทว่าดวงหน้ารูปงามยังคงกระจ่างชัดในสายตา น้ำเสียงนุ่มทุ้มก็ยังคงเป็นเสียงที่คุ้นเคย ย่อมไม่ผิดตัวแน่ ในตอนนั้นก็ได้เห็นริมฝีปากของว่านฟู่เฉิงขยับเปิดอีกรอบ “เป็นข้าผิดเอง เจ้าอย่าถือสาเลย ไว้เราไปขี่ม้ากัน...” กู่ซิงอีตก

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-13
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 24 วาโยพัดโบก อาชาพุ่งทะยาน เจ้าและข้าเคียงคู่

    แสงแดดสีทองส่องผ่านช่องหน้าต่างกระทบลงบนพื้นห้อง อรุณรุ่งแม้จะหนาวเย็นแต่กลับดูอบอุ่นขึ้นมาจากลำแสงเหล่านั้น กู่ซิงอีตื่นมาก็พบว่าคุณชายว่านแต่งตัวเสร็จแล้วกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นของตัวเองที่อยู่ข้างเตียง พอเห็นเขาตื่นก็รีบขยับเอนตัวเข้ามาถามเขาว่า “เรื่องขี่ม้ายังจำได้หรือไม่ว่าเมื่อคืนเจ้าบอกว่าอย่างไร” กู่ซิงอีแม้จะยังมึนงงจากความง่วงงุนอยู่บ้างแต่ก็พยักหน้ารับไปพลางลุกขึ้นมานั่ง “เมื่อครู่เหมือนข้าจะได้ยินเสียงม้าอยู่ด้านนอก” น้อยนักที่ว่านฟู่เฉิงจะดูตื่นเต้นถึงเพียงนี้ นอกจากน้ำเสียงที่กระชับขึ้นแล้วดวงตาก็เปล่งประกายร่วมด้วย กู่ซิงอีเผลอมองและจดจำท่าทางของอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว ในตอนนั้นก็พูดขึ้นว่า “มาเร็วถึงเพียงนี้?” เขาขยับลุกออกจากเตียงหวังจะเดินออกไปดู แต่ระหว่างเดินไปได้สองก้าวก็ถูกว่านฟู่เฉิงเอื้อมมือมาสุดแขนเพื่อคว้าชายเสื้อเขาไว้ก่อน “ใส่เสื้อผ้าดี ๆ” ว่านฟู่เฉิงขมวดคิ้วมุ่น กู่ซิงอีพอได้ฟังก็รีบกวาดตาไปมองหาเสื้อคลุมสีฟ้าของตนเองที่อยู่ไม่ไกล ก้าวสองทีก็ดึงมาสวมไว้บนร่างแล้วจึงหายออกไปจากห้อง ไม่นานก็วิ่งกลับเข้ามาด้วยความตื่น

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-13
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 24 + 25 วันสิ้นปีมีเพียงเจ้าและข้า

    สายลมเย็นปะทะเข้าที่ใบหน้า ต้นไม้ข้างทางราวกับวิ่งผ่านตัวของพวกเขาไปด้วยความไว หมู่เมฆบนท้องฟ้าคล้ายเคลื่อนตัวเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากสิ่งเหล่านั้นตลอดทางก็ได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจของคุณชายว่านดังขึ้นไม่หยุด กู่ซิงอีที่เริ่มประคองสติได้ก็รู้สึกว่านี่ไม่ปกติแล้ว คนด้านหลังคือคุณชายว่านตัวจริงใช่หรือไม่ ทำงานมาด้วยกันหลายเดือนไม่เคยเห็นคุณชายว่านหัวเราะมากขนาดนี้มาก่อน แล้วการที่ควบคุมม้าได้เก่งขนาดนี้นี่คือครั้งแรกจริงหรือ แต่พอคิดได้ว่าคนที่เอาแต่นั่งรถเข็นและทำแต่งานอยู่แค่ในจวนกับร้านว่านมาตลอดได้มาท่องไปบนหลังม้าตามที่ใจอยากไปได้ กู่ซิงอีคล้ายเห็นตัวเองช่วยลูกนกตัวหนึ่งที่ตกมาจากรัง ฟูมฟักเลี้ยงดูจนเจ้านกน้อยสามารถโผบินได้ด้วยปีกของตนเอง หัวใจพลันอ่อนวูบลง ไม่คิดเซ้าซี้ถามให้มากความอีก เขายื่นมือข้างหนึ่งที่ไม่ได้จับมือของคุณชายว่านออกไปด้านข้าง ให้สายลมได้พัดผ่านฝ่ามือไป ความเย็นของแรงลมที่สัมผัสผ่านซอกนิ้วก็พาให้รู้สึกจั๊กจี้น้อย ๆ กู่ซิงอีเผลอยกยิ้มแผ่วเบาจนดวงตาทอประกายแสงอ่อนโยน บัดนี้ไม่รู้ตนหรือว่านฟู่เฉิงกันแน่ที่เป็นลูกนกตกจากรังแล้วถูกอีกฝ่

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-13
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 25 (2.3) ใครจะไปนั่งรอเจ้ากัน

    “ก็ได้ ๆ ข้าผิดเอง เป็นข้าผิดเองทั้งหมด” กู่ซิงอีหัวเราะเสียงเบาวางไหสุราลงบนตักของว่านฟู่เฉิงให้เขาถือไว้ให้ ส่วนตนเองก็ขยับตัวไปซ้อนอยู่ด้านหลังพาเขากลับเข้าไปด้านในห้องด้วยกัน “คุณชายว่านคงไม่ได้มานั่งรอข้ากระมัง” กู่ซิงอีโน้มตัวลงไปถาม “ข้าจะไปนั่งรอเจ้าทำไม” ว่านฟู่เฉิงตอบเสียงเรียบ ติดจะหงุดหงิดเล็กน้อยตามนิสัยเดิมที่เป็นมาตลอด แต่แน่นอนว่ามีเพียงเขาที่รู้ว่าในใจไม่ได้หงุดหงิดอะไร ทำเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องจริงเท่านั้น “ไม่ได้รอแล้วจะไปนั่งตากลมหนาวทำไมกัน” กู่ซิงอีพึมพำเดินกลับไปปิดประตูห้องลง ก่อนจะถอดชุดคลุมกันลมหนาวที่มีสีเดียวกันกับว่านฟู่เฉิงออกไป ชุดคลุมตัวนี้ก็เป็นว่านฟู่เฉิงมอบให้ แต่เพราะมันดูโดดเด่นเกินฐานะไปกู่ซิงอีจึงนำขนสัตว์ที่คอทิ้งไว้ที่จวนตระกูลว่านแทน “ถ้าเจ้าอยากเข้าข้างตนเองก็ตามใจเถอะ” ว่านฟู่เฉิงยังคงตีหน้าเรียบเฉย วางไหสุราและเตาอุ่นมือลงบนโต๊ะน้ำชากลางห้อง ก่อนจะถอดชุดคลุมบนตัวออกเพราะกู่ซิงอียื่นมือมารอรับอยู่ตรงหน้าแล้ว “เอ๊ะ จริงสิ ไปเรียกหลี่เซียวกับพ่อบ้านมากินเลี้ยงวันสิ้นปีด้วยกันดีกว่า” กู่ซิงอีเอ่ยขึ้นหลังจากนำชุดคลุมของทั้

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-13

Bab terbaru

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ บทส่งท้าย ตราบจนนิรันดร์

    ค่ำคืนวันนี้ไร้ดวงจันทร์คอยส่องแสงอย่างเคย ทางเบื้องหน้ามืดสนิทจนแทบมองไม่เห็นทางเดิน แต่กู่‍ซิง‍อีกลับไม่รู้สึกว่ามันน่ากลัวอย่างที่คิด อาจเป็นเพราะยามนี้เขาได้ขี่อยู่บนหลังผู้อื่น ลำตัวแนบชิดกับคนที่กำลังเดินอยู่จนไร้ช่องว่างระหว่างกาย รับรู้ได้ถึงแผ่นหลังที่สั่นไหวเบา ‍ๆ‍ ทำให้รู้ว่ายังมีใครอีกคนอยู่กับตนเสมอ กู่‍ซิง‍อีกระชับอ้อมแขนที่เกี่ยวคอคนออกแรงอยู่เพิ่มขึ้นอีกนิด “อีกนานหรือไม่” เขาเอ่ยถามออกไปเพราะรู้สึกว่าตนถูกแบกมาไกลมากแล้ว กระนั้นว่าน‍ฟู่‍เฉิงก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเดิน “เสี่ยว‍อี เหนื่อยแล้วหรือ” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงเดินช้าลงและย่ำเท้าด้วยความเบา ด้วยเกรงว่าตนอาจจะเดินเร็วไปจนตัวสะเทือนทำให้คนที่อยู่บนหลังรู้สึกไม่สบายตัว “ข้าจะเหนื่อยได้อย่างไร ท่านเป็นคนแบกข้าอยู่นะ” กู่‍ซิง‍อีซบคางลงที่ไหล่ของว่าน‍ฟู่‍เฉิง ใจจริงแล้วเขาอยากให้เวลาหยุดอยู่เช่นนี้ตลอดไปเลยต่างหาก ถึงได้กำลังกลัวว่าจุดหมายปลายทางจะมาถึงเร็วเกินไป กระนั้นก็ยังอดห่วงว่าว่าน‍ฟู่‍เฉิงจะหนักอยู่ดีเลยไม่ได้บอกความในใจออกไป กู่‍ซิง‍อีเพิ่งได้รู้ว่าเมื่อก่อนตอนที่ว่าน‍ฟู่‍เฉิงถูกเขาแบกขึ้นบนหลังเดินไ

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 10 กาลก่อนท่านเป็นคนเอ่ย ว่าข้าไร้มารยาท

    หลี่เซียวที่กำลังเดินอยู่ในจวนก็พบกับคุณชายของตนกำลังเดินมาหาด้วยท่าทางเร่งรีบ เขาไม่ได้เดินไปหาอย่างที่ควรจะเป็น กลับรอคุณชายเดินเข้ามาหาตนที่หยุดรออยู่ก่อนแล้วแทน พลางคิดในใจว่า เอาอีกแล้ว ‍!‍ “เห็นเสี่ยว‍อีของข้าหรือไม่” นั่นไง จะมีสิ่งใดที่เขาเดาผิดไปจากท่าทางเร่งรีบของคุณชายได้อีก ‍!‍ “เมื่อ‍ครู่พอคุณชายกู่เตรียมรากบัวต้มน้ำตาลอยู่ในครัวเสร็จแล้วคิดจะถือนำไปให้คุณชายด้วยตัวเอง แต่ไม่ทันระวังเผลอสะดุดจนของในมือหกรดตัวเอง ตอนนี้น่าจะกำลังไปเปลี่ยนชุดขอรับ” “สะดุดหรือ ‍!‍ แล้วเสี่ยว‍อีบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงพูดค่อนข้างเร็วอย่างหาได้อยาก แทบจะยืนไม่ติดที่อยู่แล้ว ตอนนี้ร่างกายอยู่ตรงนี้แต่หัวใจกลับลอยไปไกลแล้ว “ไม่เป็นอะไรมากขอรับ คุณชายกู่ทรงตัวได้ทันจึงไม่ได้ล้มพับไปกับพื้น แถมรากบัวก็มิได้ร้อนมากและก็เพียงเปื้อนโดนปลายอาภรณ์เล็กน้อยเท่านั้น” สิ่งที่หลี่เซียวไม่ได้กล่าวจนหมดก็คือกู่‍ซิง‍อีนั้นร้อนรนขนาดไหนหลังจากทำขนมหกใส่ตัวเอง เอ่ยปากบ่นอยู่หลายประโยคว่าชุดนั้นคุณชายเป็นคนเลือกให้ตนเองกับมือแถมยังแพงมากด้วย ครั้นบ่นเสร็จก็รีบจาก

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 9 ถูกจับได้เสียแล้ว

    ด้วยเพราะรู้ว่ากู่‍ซิง‍อีหลับลึกขนาดไหน ว่าน‍ฟู่‍เฉิงจึงใช้เรื่องนี้ในการแอบเอาเปรียบกู่‍ซิง‍อีอยู่บ่อยครั้ง อย่างเช่นเมื่อคืนที่เขาตื่นมากลางดึกและพบว่ามีใครแอบขยับมาซุกกายแนบชิดตนอยู่ แบบนั้นมีหรือจะอดใจไหว เผลอกัดกู่‍ซิง‍อีไปหลายทีจนกระทั่งอีกฝ่ายส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอเหมือนจะรู้สึกตัวเขาถึงได้แสร้งหลับลงไปตามเดิม แต่กลับไม่ได้ปล่อยคนในอ้อมกอดให้เป็นอิสระ เมื่อก่อนจะแอบทำทีไรต้องหักห้ามใจตลอด แต่บัดนี้ทั้งคู่ตบแต่งกันแล้ว เขาขอเชยชมสักนิดก็คงไม่เป็นไรกระมัง แต่อาจเพราะเผลอตัวมากไป กลับกระทำการไม่แนบเนียน โดนจับได้ตั้งแต่อีกฝ่ายลืมตาตื่นขึ้นมา “คุณ‍ชาย‍ว่าน เมื่อคืนทำอะไรแปลก ‍ๆ‍ หรือไม่” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงหันมองคนที่ลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง เพราะกู่‍ซิง‍อีขี้ร้อนเป็นทุนเดิมเวลาสวมเสื้อผ้านอนมักจะมัดหลวม ‍ๆ‍ พอตื่นนอนมาทีไรเสื้อผ้าที่มัดไม่แน่นก็จะหลุดลุ่ยอย่างเช่นตอนนี้ อาภรณ์ที่เปิดกว้างเผยให้เห็นแผ่นอกขาวเนียนบางส่วนที่มีรอยช้ำจาง ‍ๆ‍ ผมดำเงาชี้ฟูเล็กน้อย ดวงตาก็หรี่เล็กลงยังไม่ทันลืมตาได้เต็มที่ แต่กลับถามเหมือนรู้บางอย่างเช่นนี้ เล่นเอาคนที่กำลังยกน้ำชาไปให้รู้สึกร

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.2 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา

    รุ่งอรุณก่อนวันงานเทศกาลฉีเฉียว “เสี่ยว‍อี เจ้ากำลังจะไปที่ใด” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงเพิ่งลืมตาตื่นขึ้นมาและกำลังลุกขึ้นนั่งก็ทันได้เห็นกู่‍ซิง‍อีที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จเข้าพอดี แถมดูท่าทางรีบร้อนเหมือนจะออกไปจากห้อง เมื่อถามเสร็จเขาก็เบนสายตามองดูท้องฟ้าข้างนอกหน้าต่าง ฟ้ายังไม่ทันสว่างเท่าไรนักน่าจะเลยยามเฉิน[1]มาเพียงไม่นาน ([1] ยามเฉิน คือ 07.00 – 08.59 น. ) แน่นอนว่าปกติทั้งสองคนต่างพากันตื่นเช้ากว่านี้นัก แต่เมื่อวานคุยกันแล้วว่าจะหยุดทำงานสามวัน เหตุใดกู่‍ซิง‍อีถึงลุกมาแต่งตัวคล้ายจะไปทำงานอีก ต่อให้ปกติพวกเขาจะสลับทำงานที่จวนและที่ร้านว่าน และวันนี้คือวันที่ต้องทำงานที่จวน ทว่าว่าน‍ฟู่‍เฉิงอยากให้ดูไม่มีความน่าสงสัยจึงเปลี่ยนเป็นหยุดงานทั้งหมดแทน คำกล่าวเช่นนั้นก็รวมถึงงานที่จวนก็ไม่ต้องทำมิใช่หรือ หยุดก็คือหยุด ไหนเลยกลับคาดไม่ถึงว่ากู่‍ซิง‍อีจะไม่เข้าใจสิ่งที่หมายถึงให้หยุดอยู่จวนจริง ‍ๆ‍ ครั้นพอได้เห็นอีกฝ่ายแต่งตัวก็คิดว่าจะออกไปที่ห้องทำงาน “ไปร้านขนมไฉ่ที่ข้าชอบอย่างไรเล่า นานครั้งเราถึงจะว่างในช่วงเช้าแบบนี้ รอบนี้ก็ไม่ต้องวานให้คนอื่นไปต่อแถวแทน ได้

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (4.4)

    อีกทั้งด้ายแดงที่เด่นชัดแม้อยู่ห่างไกลกันถึงเพียงนี้จากข้อมือแต่ละข้างของว่าน‍ฟู่‍เฉิงและกู่‍ซิง‍อีก็ดูคล้ายกันยิ่งนัก คนแอบมองจิตใจลนลานรีบหันกลับไปด้วยดวงตาเบิกโพลง ก้าวเดินตามหลังคนนำทางไปติด ‍ๆ‍ ด้วยท่าทางที่เร่งรีบขึ้นกว่าเดิมราวกับกำลังโดนไฟไล่เผาก้นมา สิ่งที่คนภายนอกกล่าวมาเรื่องฮูหยินของตระ‍กูล‍ว่านไม่มีที่มาที่ไปที่แน่ชัดหลอมรวมกับการกระทำของคนทั้งสองด้านหลัง และยังบวกกับก่อนหน้านี้ที่ได้พูดคุยกับกู่‍ซิง‍อีก็คล้ายว่างานทั้งหมดของตระ‍กูล‍ว่านได้ตกอยู่ในมือกู่‍ซิง‍อีแล้ว ดังนั้นทุกอย่างที่นึกขึ้นได้จึงไม่ใช่ตนคิดไปเองแน่ ‍ๆ‍ ทว่าเซี่ย‍หลี่‍จวินแม้จะได้ล่วงรู้ความลับเรื่องนี้เข้าแต่ก็ไม่ได้คิดจะป่าวประกาศให้คนอื่นได้รับรู้หรอก เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเป็นหลัก เนื่องจากตระ‍กูล‍ว่านเป็นคนเปิดเส้นทางหลายสายให้เขา ดังนั้นนอกจากแตะว่าน‍ฟู่‍เฉิงไม่ได้แล้ว ก็ยิ่งห้ามทำให้กู่‍ซิง‍อีไม่พอใจอีกด้วย ‍!‍ ถ้าล่วงรู้อนาคตได้ว่าเรื่องราวจะดำเนินมาเป็นแบบนี้เขาคงจะเห็นใจกู่‍ซิง‍อีอีกสักหน่อย บางทีตัวเขาอาจได้ผลประโยชน์มากกว่าให้บุตรสาวของตนตบแต่งกับน้องชายบุญธรรมของว่าน‍ฟู่

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (3+4.)

    “ขอรับ ‍!‍” หลี่เซียวรีบร้อนรับคำก่อนจากไป ฉี‍หย่าหันมองซ้ายขวาด้วยความตกใจ นางจะถูกปฏิบัติอย่างนี้จริง ‍ๆ‍ หรือ นางไม่งดงามหรือไรทำไมคุณ‍ชาย‍ว่านถึงไม่คิดจะสนใจหรือเมตตานางสักนิด แม้จะต้องยอมรับว่าสองคนตรงหน้านางรูปงามไร้ที่ติ แต่นางไม่คิดว่าตนเองจะด้อยค่าถึงเพียงนี้ ‍!‍ จังหวะนั้นเองประตูห้องบานเดิมพลันเปิดออกอีกครั้ง คราวนี้เป็นนาย‍ท่าน‍เซี่ยเดินออกมา พอเห็นบ่าวในจวนของตนที่นั่งกองกับพื้นก็ฉงน ที่แท้คนที่ส่งเสียงดังเมื่อ‍ครู่ก็คือฉี‍หย่าสาวรับใช้ที่บุตรสาวทิ้งไว้ที่จวนเมื่อสองปีก่อน สตรีนางนี้แม้หน้าตาจะงดงามแต่กลับทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง มีดีแค่ดนตรีกับร่ายรำ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรกับการทำงานในจวนได้เล่า ดังนั้นสำหรับเขาแล้วนางแทบไม่มีสิ่งใดให้ใช้งานได้เลย ตัวเขาแทบไม่อยากพามาทว่านางก็ดื้อดึงขอตามมาจนได้ เขายังกลัวว่าฮูหยินของตนจะเข้าใจผิดด้วยซ้ำ บัดนี้ยังจะมาสร้างความเดือดร้อนให้อีก ช่างน่าขายหน้าจริง ‍ๆ‍ เซี่ย‍หลี่‍จวินหันมองว่าน‍ฟู่‍เฉิงด้วยความระวัง กลัวว่าสิ่งที่เคยสัญญาไว้จะถูกยกเลิกเพียงเพราะบ่าวรับใช้ในจวนของตนเอง “คุณ‍ชาย‍ว่าน เป็นข้าไม่อบรมบ่

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (2.4)

    แล้วนางไหนเลยจะคาดเดาอนาคตได้ ตนย้ายไปอยู่ตระ‍กูล‍เซี่ยเพียงไม่นานยังไม่มีโอกาสได้มาพบคุณ‍ชาย‍ว่านเลยสักครั้ง คุณชายผู้นี้ก็ตบแต่งภรรยาเสียแล้ว แต่นางยินยอม ยินยอมเป็นเพียงอนุภรรยาคนหนึ่งของเขาก็ได้ การค้าของตระ‍กูล‍ว่านเติบโตในชั่วข้ามคืนแค่ไหน ใครในเมือง‍จางไม่รู้บ้างเล่า ดังนั้นทุกวันนางจึงตั้งตารอคอยมาโดยตลอด กาลก่อนแม้คุณ‍ชาย‍ว่านจะนั่งเก้าอี้รถเข็นแต่อย่างไรก็ยังรูปงามมากนัก บัดนี้พอเดินเหินได้ปกติด้วยใบหน้าสง่างามเป็นทุนเดิมก็ไม่ต่างอะไรกับเทพเซียนลงมาเดินบนดิน พอได้พบเห็นคนที่ตนคะนึงหาอีกคราก็พาให้หัวใจนางเต้นผิดจังหวะ ใบหน้าพลันขึ้นสีแดงด้วยความขวยเขิน “คุณ‍ชาย‍ว่าน...” นางเอ่ยเรียกเสียงหวาน “...เจ้ามาทำไม” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงกลับไม่สบอารมณ์ทันทีที่ได้เจอนาง นึกรังเกียจสายตาเช่นนี้ยิ่งนัก หากเป็นกู่‍ซิง‍อีมองเขาด้วยสายตาแบบนี้เจ้าตัวคงไม่อาจหนีรอดเขาไปได้ แต่พอเป็นสตรีตรงหน้าส่งสายตาเฉกเช่นนี้มาให้เขากลับรู้สึกอยากจะอาเจียนขึ้นมา ถึงขั้นดึงหลี่เซียวมาบังตัวเองไว้ครึ่งหนึ่ง “คุณ‍ชาย‍ว่านถามเช่นนี้ ข้าเสียใจยิ่งนัก” ฉี‍หย่าตอบด้วยน้ำเสียงน้อยใจ เดินก้าว

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (1.4)

    วันนี้หลี่เซียวรอจังหวะที่ว่าน‍ฟู่‍เฉิงอยู่ตัวคนเดียวถึงได้มีโอกาสเข้ามาเตือนอะไรบางอย่าง “คุณชาย ไม่รู้ว่าสองสามวันที่ผ่านมาคุณชายเห็นรายงานร้านค้าที่เพิ่มขึ้นมาในถนนสายฝนแล้วหรือยังขอรับ” “มีงานเทศกาลหรือ ‍?‍” ช่วงนี้งานปกติที่เขาเคยทำล้วนส่งมอบให้ฮูหยินของตนเกือบทั้งหมด ส่วนตัวเองไปมองหาลู่ทางการขยายกิจการแทน ขณะนี้เองก็กำลังดูเครื่องประดับที่ส่งมาจากแคว้นอื่นด้วยความตั้งใจ พอถูกถามจึงไม่ได้ทันคิดถึงว่าวันนี้คือวันที่เท่าไร มีงานอะไรสำคัญหรือไม่ เพราะนอกจากจะนับวันรอที่จะได้หยุดเพื่อออกไปชมต้นไม้ใบหญ้าลำธารกับคนของใจแล้ว วันเวลาอย่างอื่นล้วนไม่อยู่ในสายตาของเขา แต่ที่ถามออกไปได้อย่างแม่นยำและถูกถึงเก้าส่วนก็เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาล้วน ‍ๆ‍ เนื่องจากถนนสายฝนเป็นหนึ่งในกิจการร้านค้าที่เขามีมากที่สุดในเมือง‍จาง หากมีร้านค้าเพิ่มขึ้นมาก็หมายถึงมีการแบ่งพื้นที่หน้าร้านแต่เดิมจากหนึ่งเป็นสองร้าน หรือก็คืออาจมีงานเทศกาลยามค่ำคืนร่วมด้วย แถมบางครั้งยังเป็นตระ‍กูล‍ว่านที่ต้องออกหน้ารับจัดงานด้วยซ้ำ แต่แน่นอนว่าในส่วนนี้เขาย่อมมีผู้ดูแลแทนอยู่แล้วเลยไม่ค่อยสนใจที่หลี่เซี

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 7 ตกถังข้าวสารแล้ว งานไม่ต้องทำก็ได้

    ใกล้เข้าเหมันตฤดูแล้ว ว่าน‍ฟู่‍เฉิงยืนกอดอกมองคนขนของเข้ามาในจวน เขาสั่งไหมาเยอะมาก เอามาทุกขนาดที่หาได้ หากคำนวณผ่านตาคร่าว ‍ๆ‍ ตั้งแต่ครึ่งก้านธูปที่แล้วไหที่ถูกขนเข้าไปก็ปาไปหลายร้อยใบแล้ว กู่‍ซิง‍อีที่เดินหาวหวอดออกมาก็มองตามกลุ่มคนมากมายซึ่งกำลังพากันขนไหเข้าไปด้านหลังจวน “ท่านสั่งไหมาทำไมเยอะแยะ” เมื่อเดินเข้ามาใกล้ถึงคนรักของตนก็เอ่ยถามออกไป “ไว้ให้เจ้าหมักสุรา” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงกล่าวแย้มยิ้ม ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายเดินเข้ามาจนถึงตนเอง ว่าน‍ฟู่‍เฉิงก็ก้าวยาว ‍ๆ‍ เดินไปหยุดยืนข้างกายดวงใจของตนแล้ว เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจมองมาทางนี้จึงขยับหอมแก้มกู่‍ซิง‍อีด้วยความรวดเร็วไปหนึ่งที กู่‍ซิง‍อีตกใจจนตัวแข็ง รีบหันมองซ้ายมองขวา เมื่อไม่เห็นใครก็โล่งใจ แต่อดที่จะมองค้อนเขาไปทีหนึ่งมิได้ “เหอะ ท่านยังคิดจะใช้ข้าทำงานอีก ‍!‍ ข้าตกถังข้าวสารแล้ว ไหนเลยจะไปทำงานให้เหนื่อย” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงไม่ได้เสียใจหรือน้อยใจกลับยกยิ้มมองกู่‍ซิง‍อีและพูดเสริมว่า “ข้าสั่งทำห้องหมักสุราโดยเฉพาะไว้ให้เจ้าแล้วไม่ต้องรวมกับครัวของจวนแบบครั้งก่อนอีก และทั้งข้าว ไห เชือก ผ้ากรองก็มีให้ใช้ไม

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status