แชร์

บทที่ 44/1 เคืองแค้น

ผู้เขียน: ชวี่เหว่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-22 21:07:33

บทที่ 44 เคืองแค้น

มิใช่แค่จวนตระกูลวั่งที่กำลังอยู่ในสภาวะตึงเครียด

สภาพการณ์ของจวนตระกูลหวังในเวลานี้ หากกล่าวว่ากำลังเลวร้ายอย่างถึงที่สุด ก็คงไม่ผิดนัก ผู้นำตระกูลอย่างหวังเหลียงเอาแต่เมามายหัวราน้ำ อาละวาดขว้างปาข้าวของในเรือนจนพังพินาศ บ่าวไพร่ที่เหลืออยู่ไม่กี่คนต่างเข้าหน้าไม่ติด

ผ่านมาสามวันแล้วที่หวังเหลียงพยายามตามหาตัวจิ่วเม่ย ทว่าไร้ซึ่งเบาะแสใดๆให้สืบต่อ เพื่อนบ้านที่อยู่ในระแวกนั้น ต่างให้การตรงกันว่า ไม่เห็นใครเข้าหรือออกจากจวนสกุลจิ่ว ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาแม้แต่คนเดียว

ทางด้านเหวินไป๋เหลียนที่พอมีสติหลงเหลือบ้างในช่วงกลางวัน รีบรุดมายังเรือนสามีด้วยสีหน้าท่าทางของผู้ชนะ หลังทราบข่าวเรื่องที่อนุในเรือนทองของหวังเหลียงหนีไป จากปากสาวใช้คนหนึ่งในจวน

เหวินไป๋เหลียนเคยเป็นสตรีงดงาม ทว่าเวลานี้ซูบผอมจนตาลึกโหล นางยืนพิงอยู่ที่กรอบประตู เหยียดปากเอ่ยวาจาตอกย้ำสามีด้วยน้ำเสียงแดกดัน

“โถๆๆๆ ท่านพี่ อนุคนงามยอดดวงใจของท่าน หอบผ้าหนีไปเสียแล้วหรือเจ้าคะ พอทราบว่าท่านพี่ตกต่ำกลายเป็นเพียง เสมียน หาใช่ท่านเสนาธิการทหารอีกต่อไป หึ! สมน้ำหน้า คนสารเลว! อยากมักมากเจ้า
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทาี่ 44/2 เคืองแค้น

    บทที่ 44/2 เคืองแค้น รวี่เยว่สวมใส่ชุดผ้าแพรไหมสีขาวบริสุทธิ์ราคาแพง เยื้องย่างเข้ามาพร้อมชุนอิ่งที่มีรอยยิ้มบางประดับมุมปาก ร่างบางสาวเท้ามาหยุดอยู่หน้าหวังเหลียง เพ่งพิศอีกฝ่ายด้วยแววตายากคาดเดา ก่อนเหลียวมองคนอื่นที่เหลืออย่างเย็นชา “ใต้เท้าหวัง ข้ามาแสดงความเสียใจกับท่านเจ้าค่ะ ช่างน่าเห็นใจเหลือเกิน สตรีอันเป็นที่รัก กลับเลือกที่จะจากท่านไปไกลแบบนี้ เป็นใครก็คงปวดใจจนทนไม่ได้” หากฟังดูเผินๆคงเข้าใจว่าหญิงสาว กำลังแสดงความเห็นใจที่หวังเหลียงต้องสูญเสียภรรยา คงมีเพียงหวังเหลียงที่เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อ ”หุบปาก!!” เขาตวาดนางเสียงดัง พยายามหยัดกายลุกขึ้นทว่ากลับถูกแรงกดดันกระแทกใส่จนมิอาจขยับเขยื้อน 
 ฮูหยินผู้เฒ่าลุกขึ้นจากเก้าอี้ ชี้มือสั่นระริกมาที่รวี่เยว่อย่างกรุ่นโกรธ “เจ้า นังเด็กอกตัญญู! ยังจะกล้าเสนอหน้ามาเหยียบที่นี่อีกรึ! ไสหัวออกไปจากบ้านข้าเดี๋ยวนี้!” หวังซีเหยียนลอบพิจารณาหญิงสาวทั้งสอง ก่อนเอ่ยปากถามหญิงชราอย่างข้องใจ “นางเป็นใครหรือขอรับท่านย่า ถึงได้รู้จักกับท่านพ่อ” “จะใครเสียอีกล่ะ! ก็นังเด็กอกตัญญูหวังลี่ถิง พี่สาวต่างมารดาของเจ้ากับเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-22
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 45/1 คิดไม่ซื่อ

    บทที่ 45 คิดไม่ซื่อ ยามรัตติกาลในเมืองหลวงของอาณาจักรอู๋ซาง ดูปลอดภัยและเงียบสงบอย่างที่ควรจะเป็น มีเพียงย่านเริงรมย์ที่ยังคงสว่างไสวจากแสงโคม เสียงบรรเลงดนตรีครื้นเครง ดังเล็ดลอดออกมาจากหอสุราและหอโคมแดง บ่อนพนันสองสามแห่งล้วนคราคร่ำไปด้วยผู้คนที่ต้องการเสี่ยงดวง มีทั้งนักบำเพ็ญและชาวบ้านทั่วไปปะปนกัน บางคนได้บางคนเสีย คละเคล้ากันไปซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ บนหลังคาของอาคารใกล้หอโอสถเยว่เสียง เวลานี้ถือว่าครึกครื้นไม่แพ้กัน เงาดำราวสิบกว่าเงาปรากฏขึ้น เป้าหมายของพวกมันคือเรือนนอนของนายหญิงเจ้าของหอ นักฆ่ามืออาชีพเหล่านี้ถูกว่าจ้างให้มาพาตัวหญิงสาวไปให้คนผู้หนึ่ง เมื่อได้รับสัญญาณจากคนที่เป็นหัวหน้า เงาดำทั้งหมดก็เร้นกายในความมืด ก่อนปรากฏตัวโอบล้อมเรือนนอนของหญิงสาว “เหลือชีวิตผู้หญิงคนนั้นไว้ คนอื่นๆ ฆ่าทิ้งได้หมด” “แล้วหากนักพรตระดับหยวนอิงที่ว่า ปรากฏตัวขึ้นมาจะทำเยี่ยงไร” “เจ้าโง่! ก็เผ่นสิวะ! ถามได้” นักฆ่าที่อยู่บนหลังคากระซิบกระซาบผ่านพลังปราณ ทว่ามิอาจซ่อนเสียงจากหูของรวี่เยว่และเสี่ยวเฮยมาวได้ ทั้งคู่เอามือปิดปาก กลั้นหัวเราะจนปวดท้อง สุดท้ายทนไม่ได้รวี่เยว่จำต้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-22
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บททค่ 45/2 คิดไม่ซื่อ

    บทที่ 45/2 คิดไม่ซื่อ ชายหนุ่มอยู่สนทนากับฮูหยินผู้เฒ่าและหวังซีเหยียนอีกราวสองเค่อ จากนั้นจึงขอตัวกลับ เขาไม่ได้เหลียวมองหรือเอ่ยวาจาใดๆ กับหวังลู่เสียนแม้แต่คำเดียว มีเพียงหวังลู่เสียนที่แอบมองชายหนุ่มอีกสองสามครั้งด้วยสายตาจับผิด หลังจากนั้นสองวันก็เป็นพิธีฝังศพ เจิ้งเป่าเองก็มาร่วมพิธีอีกเช่นกัน หลายวันต่อมา เจิ้งเป่าพร้อมองครักษ์ได้มาเยี่ยมเยียนหวังซีเหยียน พร้อมยื่นข้อเสนอให้สหาย ในการช่วยเกลี้ยกล่อมพี่สาว เพื่อให้นางยอมมาเป็นอนุของเขา ถึงหญิงสาวจะนิสัยเสีย หากแต่รูปโฉมงดงามไม่น้อย เจิ้งเป่าจึงแอบเสียดายอยู่ลึกๆ ที่จะปล่อยให้ของดีเสียเปล่า… “อาเหยียน เจ้าลองตรองดู ชื่อเสียงของพี่สาวเจ้าฉาวโฉ่ไปทั่วเมืองหลวงขนาดนี้ จะมีตระกูลใดยอมแต่งนางเข้าจวนเป็นภรรยาเอกกัน อย่าว่าแต่ภรรยาเอกเลย แม้แต่อนุก็คงไม่มีใครเปิดประตูข้างรับ ข้าเห็นแก่มิตรภาพของพวกเราถึงได้ยื่นมือช่วย หากนางยอมเป็นอนุของข้า เงินทองค่าใช้จ่ายสำหรับการฝึกฝนที่สำนักเพลิงจักรพรรดิ ข้าจะเป็นผู้ออกให้เจ้าเอง เจ้าก็ลองคิดทบทวนให้ดีๆ ด้วยชื่อเสียงของตระกูลหวัง และตำแหน่งหน้าที่การงานของบิดาเจ้าในเวลานี้ ข้าเกรงว่าคงไม่สามา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-22
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 46/1 ข้าได้กลิ่นน้ำส้ม

    บทที่ 46 ข้าได้กลิ่นน้ำส้ม ล่วงเลยมาค่อนคืน หัวหน้านักฆ่าที่วั่งเฉาว่าจ้างก็ยังไม่กลับมารายงานผลของภารกิจ ชายวัยกลางคนกระสับกระส่าย จนไม่มีสมาธิเล่นหมากกับองครักษ์คนสนิทอีกต่อไป “หลูไห่ คนที่เจ้าว่าจ้างให้ทำงาน เชื่อถือได้มากแค่ไหนกัน เพียงแค่การไปพาตัวผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากบ้าน ข้าหวังว่าจะไม่มีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นนะ” “เรียนนายท่าน กลุ่มคนที่ข้าว่าจ้าง แต่ละคนอยู่ที่ระดับเจี๋ยตันขั้นกลางเป็นอย่างต่ำ อีกทั้งไม่ได้ไปกันเพียงแค่คนหรือสองคนขอรับ” องครักษ์ที่ชื่อหลูไห่เอ่ยรายงานนายเหนือหัวไปตามความจริง การที่พวกเขาเลือกลงมือในคืนนี้ ด้วยเพราะสายสืบที่คอยจับตาความเคลื่อนไหว ของหอโอสถเยว่เสียงรายงานมาว่า หม่าลั่วและนักพรตหญิงระดับหยวนอิง เดินทางออกนอกเมือง เพื่อไปทำธุระสำคัญให้กับนายหญิง องครักษ์อีกสามคนที่เหลือ ระดับตบะอยู่ที่เจี๋ยตันขั้นสูงและปลาย ตัวนายหญิงหอโอสถเยว่เสียงเอง ระดับตบะก็อยู่ที่เจี๋ยตันขั้นต้น ไม่น่าครณามือนักฆ่าซึ่งมีจำนวนมากกว่า “นี่ก็ดึกมากแล้ว เชิญนายท่านพักผ่อนดีกว่านะขอรับ ข้าจะอยู่ฟังข่าวให้ท่านเอง” “ดีเหมือนกัน มีอะไรก็รีบมารายงาน ข้าจะรอฟังข่าวอยู่ที่ห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-22
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 46/2 ข้าได้กลิ่นน้ำส้ม

    บทที่ 46/2 ข้าได้กลิ่นน้ำส้ม “ท่านก็ชมข้าเกินไป หากพูดถึงเรื่องรูปโฉม ตัวท่านเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าข้าสักนิด” ถึงจะอายุมากกว่าเขาหลายปี ทว่าอวี้เหวินเทียนหยากลับดูอ่อนเยาว์มิต่างจากตัวเขาเท่าใดนัก เห็นทีบุรุษผู้นี้คงบรรลุตบะระดับหยวนอิงตั้งแต่อายุพอๆ กันกับเขา จากนั้นฮั่วเฮ่อฉีจึงก้าวไปหารวี่เยว่ด้วยสีหน้าท่าทางออดอ้อน “รวี่เยว่น้อย ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน ข้าไม่อยู่ตั้งหลายวันเจ้าคิดถึงข้าบ้างหรือไม่” รวี่เยว่เจอลูกอ้อนแบบไม่ทันตั้งรับเข้าไป ใบหน้างามล้ำเกิดอาการร้อนวาบ ริ้วแดงพาดผ่านแก้มใส ขัดเขินจนทำสิ่งใดไม่ถูก ร่างบางสบตาชายหนุ่มสะคราญโฉมตรงหน้า กำลังจะอ้าปากตอบเขา ทว่าเสียงทุ้มต่ำของอวี้เหวินเทียนหยากลับดังขึ้นเสียก่อน “ข้าต้องขอโทษองค์ไท่จื่อด้วยจริงๆ เพราะการมาถึงก่อนกำหนดของข้าและคนตำหนักเทวาอนธการ จึงทำให้ รวี่เยว่น้อยของข้า มัวแต่ยุ่งกับการดูแลข้า และองครักษ์จนดึกจนดื่นทุกวัน นางคงไม่มีเวลาไปคิดถึงท่านเท่าใดนัก “อวี้เหวินเทียนหยาจงใจเน้นคำว่า รวี่เยว่น้อยของข้า ช้าๆ ชัดๆ ให้อีกฝ่ายได้ยิน
 “…” รวี่เยว่หน้าตางวยงง ยามได้ยินวาจาเหนือความคาดหมายจากปากชินอ๋อง นางไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-22
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บททค่ 47/1 สองตำหนักเปิดใจ

    บทที่ 47/1 สองตำหนักเปิดใจ ริมฝั่งแม่น้ำนอกกำแพงเมืองเทียนหวง แสงแดดสาดส่องกระทบพื้นผิวของแม่น้ำสายใหญ่ ที่กำลังไหลเอื่อยเฉื่อยเกิดเป็นประกายวิบวับ บุรุษร่างสูงสง่าทั้งสอง ยืนอยู่ที่ขอบทางเดินริมฝั่งแม่น้ำ ซึ่งทอดยาวประหนึ่งมังกรวารีตัวใหญ่ เสียงลมพัดผ่านใบไม้ดังเป็นจังหวะแผ่วเบา เหมือนจะบอกเล่าเรื่องราวแห่งความรู้สึก ที่อยู่ภายในใจของทั้งสองบุรุษ อวี้เหวินเทียนหยาในชุดผ้าไหมสีดำ รอบกายแผ่ไอเย็นบางเบาตลอดเวลา ดวงตาคมกริบสงบนิ่งเยือกเย็น จนมิสามารถอ่านสิ่งใดได้จากแววตา เป็นที่รู้กันดีว่าบุรุษผู้นี้สูงส่งและทรงอำนาจ จนมิอาจแตะต้องหรือท้าทายผู้หนึ่ง ดวงตาสีเทาเย็นชาทอดมองบุรุษสะคราญโฉม ผู้ซึ่งทรงอำนาจและสูงศักดิ์ไม่แพ้กัน แววตาของเขายังคงสงบนิ่ง ขณะกล่าวถึงเรื่องสำคัญกับอีกฝ่าย “หากเป็นเมื่อก่อน ข้าอาจไม่เข้าใจเรื่องราวและความรู้สึกระหว่างหนุ่มสาว แต่เมื่อไม่นานมานี้ ข้าถึงเพิ่งรู้ว่าสิ่งใดคือความรู้สึกที่เรียกว่า ความรัก ช่างเป็นความรู้สึกที่ซับซ้อนจนอยากจะอธิบาย…” แววตาสงบนิ่งของอวี้เหวินเทียนหยาเริ่มขยับเมื่อเอ่ยคำว่า ความรัก ออกมา ฮั่วเฮ่อฉีพยักหน้าเล็กน้อย คล้ายเห็นด้วยก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บททค่ 47/2 สองตำหนักเปิดใจ

    บทที่ 47/2 สองตำหนักเปิดใจ ครั้งนี้ฮั่วเฮ่อฉีดวงตาเบิกกว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ หากองค์ราชาอวี้เหวินเทียนเหิงมีความสามารถพิเศษนี้จริง นั่นก็หมายความว่ารวี่เยว่คือองค์หญิงของตำหนักเทวาอนธการ และอวี้เหวินเทียนหยาก็คือพระปิตุลาของนาง! มิน่าเล่าเขาถึงกล่าวว่า สวรรค์เล่นตลกกับเขา! รอยยิ้มงดงามเจิดจ้าราวแสงตะวันยามเช้า ที่ส่งไปถึงดวงตาของฮั่วเฮ่อฉีผุดพรายเต็มดวงหน้า มือใหญ่ยกมากุมต้นแขนทั้งสองข้างของอวี้เหวินเทียนหยาพร้อมเขย่าเบาๆ “หลานเขยคงต้องขอฝากตัวกับท่านแล้ว พระปิตุลาของรวี่เยว่” เขาลอยหน้าลอยตาเอ่ยวาจาฝากฝังตัวเองกับอีกฝ่ายแบบเนียนๆ อวี้เหวินเทียนหยาคิ้วกระตุก ก้าวถอยหลังให้หลุดจากการเกาะกุมของฮั่วเฮ่อฉี ก่อนเอ่ยวาจาน้ำเสียงเนิบนาบระคนหมั่นไส้อย่างอดไม่อยู่ “หึ! อย่าเพิ่งหลงระเริงนัก ข้ายังไม่ได้บอกว่าท่านผ่านการทดสอบแล้วเสียหน่อย เรื่องนี้คงต้องดูกันอีกนาน และที่สำคัญเสด็จพี่ของข้าฝากมาบอกท่านว่า” “ธิดาของข้าจะเป็นเพียงภรรยาคนเดียวในชีวิตของสามีนาง หากบุรุษผู้นั้นทำไม่ได้ ก็ไสหัวไปไกลๆ เพราะข้าจะไม่มีวันยกนางให้เด็ดขาด!” อวี้เหวินเทียนหยาถ่ายทอดวาจาของ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 48/1 ความเปลี่ยนแปลง

    บทที่ 48/1 ความเปลี่ยนแปลง หวังเหลียงกระดกจอกสุราเข้าปากจนหมด ก่อนหันมามองมารดาด้วยสายตาว่างเปล่า “ท่านแม่จะถามข้าทำไมขอรับ ในเมื่อท่านบอกเองว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งสิ้น” “อาเหลียง นี่มันใช่เวลาที่เจ้าจะมาประชดประชันข้าไหม ลองตรองดูให้ดี บางทีเรื่องนี้อาจเชื่อมโยงกัน เริ่มจากการที่เจ้ามาถามข้าเรื่องพิษ ต่อมาลุงของเจ้าก็หายตัว จากนั้นพลังของเจ้าก็…เฮ้อออ “ฮูหยินผู้เฒ่าถอนหายใจยาวในท้ายประโยคและเริ่มกล่าวต่อ “เจ้าไม่คิดว่ามันน่าแปลกหรอกรึ แต่ที่ข้ามาถามเจ้า เป็นเพราะวันนี้ทั้งเสียนเอ๋อร์และเหยียนเอ๋อร์ จู่ๆ ก็ไข้ขึ้นสูงอย่างไม่มีสาเหตุ หมอกี่คนมาตรวจต่างบอกว่าเป็นไข้ไม่ได้ถูกพิษ อาการเหมือนกับเจ้าก่อนหน้านี้ไม่มีผิด” คำพูดของหญิงชรามีความเป็นไปได้อยู่หลายส่วน หากนำมาเชื่อมโยงกันให้ดีๆ ก็จะเห็นจุดที่น่าสงสัย ทว่าในเอกสารที่เขาเคยอ่านผ่านตา ระบุไว้ชัดเจนเรื่องพิษเพลิงอสูรสดับปราณ ว่าจะออกฤทธิ์ได้ดีกับเด็กเล็กเท่านั้น ทั้งไม่เคยปรากฏในบันทึกไว้ว่าพิษนี้มีผลกับผู้ใหญ่ แต่หากตัวเขาถูกพิษชนิดนี้จริง นั่นก็หมายความว่า ต้องมีนักปรุงโอสถระดับสูง ที่สามารถปรุงพิษเพลิงอสูร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25

บทล่าสุด

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 57/ 2 ข้าขอเป็นคนเลวสักครั้งในชีวิตเถิด

    บทที่ 57/2 ข้าขอเป็นคนเลวสักครั้งในชีวิตเถิด เหวินไป๋เหลียนคนรักของเขาที่งดงามสดใสราวดอกทานตะวัน เทียบไม่ได้เลยกับความงามสง่าโดดเด่น ประหนึ่งดอกหมู่ตานตรงหน้า จากที่คิดว่าจะออกไปจากห้องหอทันทีหลังเปิดผ้าคลุมหน้าสาว หวังเหลียงกลับเปลี่ยนใจ เดินไปรินสุรามงคลมายื่นให้เยว่หนิงลี่แทน และใช้เวลาอยู่กับนางทั้งคืน ทว่าหลังจากนั้นเพียงเจ็ดวัน หวังเหลียงก็พาเหวินไป๋เหลียนเข้าจวน นับเป็นการหยามเกียรติฮูหยินเอกเป็นอย่างยิ่ง ทว่าเยว่หนิงลี่กล้บไม่มีปฏิกิริยาใดๆ นางสงบนิ่งเยือกเย็นราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับตน กลับเป็นชุนหมัวมัวและหลานสาวนามชุนอิ่งที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทน ครึ่งปีต่อมาหวังเหลียงก็พาอนุอีกคนเข้าจวน เหวินไป๋เหลียนแล่นมาหาเยว่หนิงลี่ให้จัดการเรื่องนี้ ทว่าเยว่หนิงลี่ที่กำลังตั้งครรภ์ได้หกเดือนกลับนิ่งเฉยไม่สนใจ ทำเหมือนเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนางอีกนั่นแหละ เหวินไป๋เหลียนที่กำลังตั้งครรภ์เช่นกันยิ่งเดือดดาลกว่าเดิม เพราะไม่สามารถยุแยงให้อีกฝ่ายออกโรงได้ “นางเป็นก้อนหินหรืออย่างไรกัน ถึงได้เย็นชาไร้อารมณ์เยี่ยงนี้ น่าโมโหที่สุด! หวังเหลียงนะหวังเหลียง!” เกือบสี่เดือนห

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 57/ 1 ข้าขอเป็นคนเลวสักครั้งในขีวิตเถิด

    บทที่ 57 1 ข้าขอเป็นคนเลวสักครั้งในชีวิตเถิด @เรื่องราวบางส่วนในบทนี้ค่อนข้างอ่อนไหว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ สิบหกปีก่อน เมืองเทียนหวง อาณาจักรอู๋ซาง นับตั้งแต่บอกลากับอวี้เหวินเทียนเหิง เยว่หนิงลี่กลายเป็นคนเงียบขรึม ทั้งที่ปกติหญิงสาวเป็นคนร่าเริงมีชีวิตชีวาราวลูกกวางน้อยวิ่งเล่นในทุ่งหญ้า แม้แต่ต้าอ๋องยังรู้สึกประหลาดใจ ครั้นถามไถ่หญิงสาวเพียงคลี่ยิ้มบาง และกล่าวว่าอาจเป็นเพราะต้องจากพี่น้องทหารร่วมรบไปอยู่เมืองหลวงจึงรู้สึกใจหาย หนึ่งเดือนก่อนงานแต่ง ค่ำคืนนี้เยว่หนิงลี่ออกมาเดินเล่นเตร็ดเตร่กับชุนหมัวมัวเพราะนอนไม่หล้บ ครั้นมองเห็นหอสุราที่ตนเคยมากับอวี้เหวินเทียนเหิง หญิงสาวก้าวเท้าเข้าไปด้านในอย่างไม่รู้ตัวราวต้องมนตร์ จากนั้นจึงถามหาห้องส่วนตัวที่เคยมา เสี่ยวเอ้อร์เดินนำขึ้นบันไดไป ทว่าระหว่างเดินผ่านห้องส่วนตัวอีกห้อง เสียงสนทนาของบุรุษกลุ่มหนึ่งดังลอดออกมา “นี่ หวังเหลียง เรื่องที่เจ้ากำลังจะแต่งงานกับรองแม่ทัพเยว่หนิงลี่จากแดนใต้ผู้นั้น ไม่ทำให้แม่นางเหวินไป๋เหลียนยอดดวงใจของเจ้าเสียใจแย่รึ” เสียงของบุรุษคนหนึ่งเอ่ยถามบุรุษอีกคนที่ชื่อ หวังเหลียง “นั่น

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 56/ 2 รักแรกของอวี้เหวินเทียนเหิง

    บทที่ 56/2 รักแรกของอวี้เหวินเทียนเหิง อวี้เหวินเทียนหยาได้แต่ทอดถอนใจ หันไปถามความเห็นของเยว่หนิงลี่ ด้วยความที่หญิงสาวเติบโตมากับบุรุษ จึงทำให้นางมีนิสัยใจกว้างและจริงใจเป็นทุนเดิม เมื่อเห็นว่าคนตำหนักเทวาอนธการ มีใจอยากชื่นชมความมีชีวิตชีวาของเมืองหลวงเผ่ามนุษย์ จึงตบปากรับคำอย่างเต็มใจ เพราะอย่างไรเสีย นางก็ชอบออกมาเดินเล่นเพื่อสอดส่องความปลอดภัยของชาวเมืองยามค่ำคืนเป็นปกติอยู่แล้ว ผูกมิตรไว้ดีกว่าเป็นศัตรู นั้นคือคำที่ต้าอ๋องผู้เฒ่าสั่งสอนนางมาตั้งแต่เด็ก “ได้เจ้าค่ะ ข้ายินดีช่วยพาพี่ชายองครักษ์เที่ยวชมเมืองหลวงยามค่ำคืน” เสียงสดใสจริงใจสะท้อนไปถึงจิตใจขององค์ราชาหนุ่ม จนก้อนเนื้อในอกเต้นแรงไม่เป็นระส่ำ “ถิงซี เรียกข้าว่าถิงซีเถิด” อวี้เหวินเทียนเหิงบอกชื่อกลางของตน ที่ปกติมีเพียงญาติพี่น้องเท่านั้นที่เอ่ยเรียกนามนี้ แค่กก!! ผู้เป็นน้องสำลักน้ำลายรอบที่สอง นับจากคืนนั้น ถิงซี ก็จะมารอพบเยว่หนิงลี่ที่สะพานหิน ซึ่งอยู่ห่างจากร้านอาหารทะเลไปราวครึ่งลี้ทุกคืน แม้ฝนจะตกเขาก็จะกางร่มมายืนรอนางไม่เคยขาด หลังจากผ่านไปสองอาทิตย์ ในที่สุดชายหนุ่มก็มีความกล้า เอ่ยปากชวนนางออกมาเที่ย

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 56/1 รักแรกของอวี้เหวินเทียนเหิง

    บทที่ 56 รักแรกของอวี้เหวินเทียนเหิง ตำหนักเทวาอนธการ องค์ราชาอวี้เหวินเทียนเหิงวางสาส์นที่น้องชายส่งมาถึงลงบนโต๊ะหลังจากอ่านจบ ร่างสูงสง่าใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มมองออกไปไกล ดวงตาเรียวยาวคู่คมเจือความเศร้าอยู่หลายส่วน “หนิงลี่ ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องหรือทำร้ายลูกสาวของพวกเราได้อีกแล้ว…ไยเจ้าถึงไม่บอกว่าตั้งครรภ์กับข้า ก่อนที่จะแต่งให้เจ้าสารเลวชั้นต่ำหวังเหลียงคนนั้น!” เพียงแค่รู้สึกขุ่นเคืองใจ ของตกแต่งภายในห้องทรงอักษรทั้งหมดก็แตกละเอียด ดวงตาสีเทาทรงอำนาจคมกริบปิดลง ความทรงจำเมื่อสิบเจ็ดปีก่อนหวนกลับมา เมืองเทียนหวง อาณาจักรอู๋ซาง ในพิธีเปิดงานประลองของอาณาจจักร อวี้เหวินเทียนเหิงปลอมตัวเป็นองครักษ์ของน้องชาย เพื่อออกมาท่องเที่ยวดูโลกภายนอกในรอบสิบปี องค์ราชาหนุ่มในวัยยี่สิบแปดเดินทางลงจากภูผาหยินซาน หลังจากพระบิดาเดินเข้าแดนบำเพ็ญแห่งเทวา เพื่อกักตัวระยะยาวอย่างไม่มีกำหนด ชายหนุ่มสวมหน้ากากโลหะสีดำปกปิดใบหน้าเหมือนองครักษ์คนอื่นๆ เพียงแต่มิอาจปกปิดรัศมีสูงส่งรอบกาย จึงทำให้หลายคนรู้สึกยำเกรงองครักษ์ของชินอ๋องผู้นี้มากกว่าคนอื่นๆ ค่ำคืนหลังจบพิธีเปิดงาน อวี้เหวินเที

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 55/2 หารือ

    บทที่ 55/2 หารือ หลังจากปล่อยให้ฮั่วเมิ่งเหยา ทำความรู้จักมักจี่กับรวี่เยว่พอสมควร ครู่ต่อมาฮั่วเฮ่อฉีจึงสั่งให้ฟ่านจื่อพาน้องสาวไปส่งยังที่พัก ท่าทางผ่อนคลายของฮั่วเฮ่อฉีก่อนหน้านี้ แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เขาขออนุญาตรวี่เยว่ ก่อนกางม่านพลังป้องกันไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกไป จากนั้นจึงเอ่ยเรื่องสำคัญ “รวี่เยว่ข้ามีเรื่องสำคัญต้องบอกเจ้า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเจ้าโดยตรง ข้าเองไม่แน่ใจ ว่าเจ้าเคยรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับคำพยากรณ์สำคัญ เมื่อสิบกว่าปีก่อนหรือไม่” “หากเป็นเรื่องนี้ข้าพอรู้อยู่บ้างเจ้าค่ะ” รวี่เยว่ไม่คิดปิดบัง ในเมื่อชายหนุ่มเอ่ยขึ้นมาก่อนแบบนี้ แสดงว่าเขาต้องรู้หรือได้ยินอะไรมา ทั้งคู่หารือกันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงออกไปพบชินอ๋องอวี้เหวินเทียนหยาด้วยกัน …ตำหนักรับรองริมทะเลสาบ โถงรับรองส่วนตัวในเรือนพักชินอ๋อง คำพยากรณ์ซึ่งเกี่ยวพันกับรวี่เยว่ ถูกถ่ายทอดให้อวี้เหวินเทียนหยาฟังจากปากของฮั่วเฮ่อฉี อีกทั้งเรื่องนี้โยงใยไปถึงความขัดแย้งระหว่างสองอาณาจักร หากสำนักกระบี่สวรรค์คิดทรยศอาณาจักรอู๋ซาง ไปเข้าฝ่ายอาณาจักรหวงซาอย่างที่คาดไว้จริง เช่นนั้นก็มิอาจนิ่งเฉย เพ

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 55/1 หารือ

    บทที่ 55/1 หารือ เรือนกายสูงสง่าของฮั่วเฮ่อฉีก้าวเข้ามาในห้อง ตามมาด้วยลูกสุนัขสีขาวเจ้าประจำ มันตรงดิ่งไปหาแมวสีเข้มที่ย้ายตัวเอง ไปนอนเอกเขนกอยู่บนตั่งอย่างคุ้นเคย “รวี่เยว่ของข้า สบายดีหรือไม่ ช่วงนี้พี่ชายถูกพวกตัวยุ่งจากตำหนักเทพอนันต์รั้งตัวไว้ เลยปลีกตัวมาหาไม่ได้ คิดถึงเจ้าใจแทบขาด” มาถึงปุ๊บก็รีบเอ่ยวาจาออดอ้อนสาวเจ้าปั๊บ ทำคนฟังเขินอายจนแก้มเนียนใสซับสีระเรื่อ ไม่เพียงเท่านั้น ชายหนุ่มยังถือวิสาสะ เดินมากอบกุมมือเล็กขึ้นมาแนบอก สบตานางในดวงใจตาหวานซึ้ง คงเพราะเห็นว่าผู้ปกครองของหญิงสาว ไม่ได้มีท่าทีกีดกันเขาอีกต่อไป ฮั่วเฮ่อฉีเลยเดินหน้าเต็มกำลัง เพื่อพิชิตหัวใจของรวี่เยว่อย่างเปิดเผยมากขึ้น “พี่ชาย ท่านทำข้าใจสั่นไปหมดแล้วเจ้าค่ะ” รวี่เยว่ยังคงใสซื่อเรื่องความรักไม่ปลี่ยน รู้สึกอย่างไรก็พูดออกมาอย่างนั้น จนอีกคนที่ยืนอยู่หลังประตู ยกมือขึ้นมาประกบแก้มหัวเราะคิกอยู่ในใจ ‘ข้าชอบนางยิ่งนัก นางน่ารักเหลือเกิน’ ถ้อยคำอันใสซื่อของรวี่เยว่ ประดุจน้ำทิพย์ชโลมหัวใจของชายหนุ่ม เขายินดีเป็นล้นพ้นยามได้ยินว่านางใจสั่น ‘นางเริ่มมีใจให้ข้าแล้ว!’ ฮั่วเฮ่อฉีหัวใจลิงโลด อยากจะ

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 54/2 อย่าทำให้ข้าโมโห

    บทที่ 54/2 อย่าทำให้ข้าโมโห จากนั้นก็ลงมือทุบตีจิกข่วน จนใบหน้าของวั่งเฉาบวมเป่งกลายเป็นหัวหมู ผ่านไปครู่หนึ่งโส่วจินจึงลากร่างอันบอบช้ำของ ของเล่นชิ้นใหม่ เอ้ย นักโทษคนใหม่ ไปแยกขังไว้ในห้องข้างๆ ช่วงสายของวันรุ่งขึ้น หวังเหลียงเดินกระสับกระส่าย วนไปวนมาอยู่หน้าจวนแม่ทัพปราบทักษิณ มารดาของเขากับจูหมัวมัวออกมาพบต้าอ๋องตั้งแต่เมื่อวานช่วงบ่าย จนถึงบัดนี้ทั้งคู่ยังไม่กลับจวน ทหารที่เฝ้าประตูกลับออกมาพร้อมพ่อบ้าน กล่าวว่าฮูหยินผู้เฒ่าและจูหมัวมัว ออกไปจากที่นี่ตั้งแต่ช่วงเย็นของเมื่อวานแล้ว ซึ่งถือเป็นความจริงไม่ได้โกหกเลยสักนิดเดียว หญิงชราถูกส่งไปหอโอสถเยว่เสียง ส่วนร่างไร้วิญญาณของจูหมัวมัวถูกพาไปทิ้งยังป่าอสูรในเวลาเดียวกัน ส่วนคนขับรถม้าอย่างฝานจื่อหรือหม่าฝาน ก็กลับมายังคฤหาสน์ตามคำสั่งของฮูหยินผู้เฒ่า นางบอกให้เขากลับมารอรับหวังเหลียงตอนเลิกงานเหมือนทุกวัน นางกับจูหมัวมัวจะหารถม้ากลับคฤหาสน์เอง เพราะต้องใช้เวลาในการสนทนากับต้าอ๋องค่อนข้างนาน หวังเหลียงเดินกลับขึ้นรถม้า ในอกเต็มด้วยความวิตกกังวล มารดาของเขาหายตัวไป หลังมาขอพบต้าอ๋อง เรื่องนี้ดูอย่างไรก็ไม่ปกติ อยากจะถามไถ่มาก

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 54/1 อย่าทำให้ข้าโมโห

    บทที่ 54 อย่าทำให้ข้าโมโห วั่งเฉาละล่ำละลักเอ่ยวาจา เตรียมปลดปล่อยพลังธาตุ…ทว่ากลับไร้ปฏิกิริยาใดๆ พลังธาตุวารีระดับเจี๋ยตันขั้นสมบูรณ์ปลายยอดระดับคอขวด ถูกกดข่มไว้ด้วยพลังอันแข็งแกร่งบางอย่าง ชายวัยกลางคนตื่นตระหนกจนแทบจิตหลุด มองหญิงสาวราวเห็นภูตผี ใบหน้าของเขาซีดขาวมิต่างจากกระดาษ ในแววตาเต็มไปด้วยความสับสนระคนหวาดกลัว 
 ในมหาพิภพทงเทียนเหอ สิ่งที่สามารถกดข่มพลังธาตุของนักพรตคนอื่นๆได้ในบัดดล มีเพียงสองประการ ประการแรกคือ เขตแดนแห่งแสงพิสุทธิ์ของผู้ครอบครองธาตุแสงระดับหยวนอิงขึ้นไป และประการที่สอง พลังที่อยู่เหนือมวลมนุษย์ทั้งปวง ทวยเทพ! ถึงแม้หญิงสาวเบื้องหน้าจะมีตบะระดับหยวนอิง หากแต่นางหาใช่เผ่ามนุษย์สายเลือดสัตว์เทพเหมือนเช่นเชื้อพระวงศ์ของตำหนักเทพอนันต์ จะมีเขตแดนแห่งแสงพิสุทธิ์ได้อย่างไร เรื่องที่นางมีธาตุมืดนั่นก็น่าเหลือเชื่อจนทำให้เขาประหลาดใจมากพอแล้ว “เจ้าเป็นใครกันแน่! เจ้าไม่ใช่หวังลี่ถิง แต่เป็นตัวปลอมใช่หรือไม่!” วั่งเฉาตกอยู่ในความหวาดผวาโพล่งวาจาออกมาขณะก้าวถอยหลัง “ถามมากเสียจริง หนวกหู” เสียงหวานดังขึ้นคล้ายรำคาญก่อนที่จะ… ครืนนน!! ปึ้ก!! แร

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 53/2 ช่วงเวลาแห่งความสนุก

    บทที่ 53/2 ช่วงเวลาแห่งความสนุก กระต่ายน้อยพองขนขู่ฟ่ออีกรอบ หันมาแหวใส่อีกฝ่ายทันควัน กล่าวว่าตนไม่ใช่เด็กน้อยเสียหน่อย ปีหน้าก็จะปักปิ่นแล้ว ถึงเวลานั้นจะกลับมาท้าเขาแข่งดื่มสุรา ใครแพ้ต้องยอมเรียกอีกฝ่ายว่า ลูกพี่ “ตกลง แล้วข้าจะรอแข่งร่ำสุรากับเจ้า! เตรียมล้างคอไว้ได้เลยอวี้เหวินอิงเอ๋อร์” “ท่านต่างหากที่ต้องเตรียมล้างคอไว้รอ หวงฝู่ฮ่าวอวี่” หลังจากปะทะคารมกันจบ ก็กลับมานั่งกินข้าวกันต่อ ทั้งคู่วางความแค้นลงชั่วคราว แต่กลับมาประลองฝีมือด้วยการแย่งชิงอาหารกันบนโต๊ะแทน รวี่เยว่ถึงกับส่ายหน้าให้กับความซุกซนของทั้งคู่ คืนนั้นองค์ชายใหญ่เสด็จกลับวังด้วยอารมณ์เบิกบานใจอย่างถึงที่สุด เขาไม่ได้สนุกเช่นนี้มานานแล้ว กงกงประจำตำหนักรีบไปรายงานจ้าวกุ้ยเฟยเป็นการเร่งด่วน องค์ชายใหญ่อารมณ์ดีเป็นพิเศษ ทางด้านรวี่เยว่หลังจากส่งกระต่ายน้อยพุงโตถึงเรือน นางก็แวะไปดูสภาพของเล่นใหม่ที่ต้าอ๋องส่งมาให้ตามคำขอ ภายในคุกใต้ดินเวลานี้ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง บนร่างกายของฮูหยินผู้เฒ่าเต็มไปด้วยรอยตะปบ จากกรงเล็บของเสี่ยวเฮยมาว หญิงชรานั่งขดตัวกลม ยกมือปิดหน้าร้องไห้คร่ำครวญขอชีวิตปานขาดใจ ทว่าเสียงที่เ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status