 เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ[อีกด้านหนึ่ง...ห้องทำงานบริษัทวรารักษ์เมธานนท์]
“ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะยุ่งยากตรงไหนเลย เธอมาสมัครงานตามที่นายนนท์บอกเธอไว้แล้วนี่ เธอก็รู้อยู่แล้ว ทำไมจะต้องทำเรื่องนี้ให้วุ่นวายไปอีก ฉันไม่เข้าใจ”
หม่อมราชวงศ์อคิราห์มองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา และต้องการที่จะพบเขาในเวลานี้ เหตุผลของเธอเพียงเพื่ออยากสมัครงานตามระบบแค่นั้นหรือ เขาไม่เข้าใจเลย
“ดิฉันคิดว่ามันไม่ถูกต้องค่ะ ดิฉันไม่อยากจะใช้เส้นค่ะ ดิฉันแค่ต้องการได้สอบและสัมภาษณ์ตามปกติเหมือนคนทั่วไป ก็แค่นั้นเองค่ะท่านชาย”
“แล้วเธอได้อะไร จากสิ่งที่เธอกำลังเรียกร้องอยู่ตอนนี้”
“ดิฉันไม่ได้เรียกร้องค่ะ แค่ต้องการทำให้มันถูกต้องตามระบบก็เท่านั้นเองค่ะท่านชาย”
ดวงตากลมโตจ้องกลับใบหน้าคม เอาจริงๆ วันนี้เป็นครั้งแรกของขวัญข้าวเลยก็ว่าได้ ที่เธอได้มองหน้าเขาได้ชัดเจนและเต็มตามากขนาดนี้ เธออยู่ห่างจากเขาไม่ถึงเมตรเลยด้วยซ้ำ ลมหายใจร้อนเป่ารดมาที่เธอ จนเธอสัมผัสได้ และทำให้เธออดนึกถึงความรู้สึกบางอย่างเมื่อเจ็ดปีที่แล้วไม่ได้...
“ผลสุดท้าย เธอก็ต้องเข้าทำงานอยู่ดี ทำไมต้องเรื่องมาก”
“นี่ดิฉันอธิบายท่านชายไม่เข้าใจ หรือว่าท่านชายไม่ยอมเข้าใจกันแน่คะ ดิฉันก็บอกท่านชายอยู่นี่ไงคะ ว่าอยากทำตามระบบที่บริษัทควรจะทำ ไม่ได้เรียกร้องหรือเรื่องมากอะไร ถ้าดิฉันเข้ามาโดยไม่สอบไม่สัมภาษณ์ นั่นก็เท่ากับว่าดิฉันเป็นเด็กเส้น แล้วดิฉันจะทำงานอย่างไรคะท่านชาย”
ขวัญข้าวรู้สึกว่าขีดจำกัดทางอารมณ์ของเธอนั้นเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ เรื่องแค่นี้ทำไมถึงไม่เข้าใจสักที
“เธออยู่บ้านวรารักษ์เมธานนท์ คิดว่าคนอื่นไม่รู้กันหรือไงขวัญข้าว...แล้วกับเรื่องแค่นี้ เธอเดินเข้าบริษัทมาเขาก็รู้กันหมดแล้ว ว่าเธอเป็นเด็กเส้น...อืม...หรือเธอจะเปิดตัวในฐานะแฟนกับนายนนท์ก็ได้นะ คนอื่นจะได้ไม่ต้องมองเธอว่าเป็นเด็กเส้นอีก!”
อคิราห์ไม่รู้ว่าตัวเองจะเอาเรื่องนี้มาพูดเพื่ออะไร หรือเหตุการณ์เมื่อวาน ที่เขาเห็นเธอหัวเราะต่อกระซิกกับน้องชายของเขา คงมองเป็นอื่นไปไม่ได้หรอก
“สรุปท่านชายก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เอาเป็นว่า ตามที่ท่านชายแนะนำก็ได้นะคะ การเปิดตัวเป็นแฟนกับคุณนนท์ก็ดีเหมือนกันค่ะ ดิฉันเองจะได้ไม่ต้องทำตัวลำบากค่ะ ถ้าจะเป็นเด็กเส้น หรือเป็นเด็กคุณนนท์ คนอื่นก็คงจะไม่ได้คิดอะไรแล้วค่ะ”
ทำไมขวัญข้าวต้องยอมให้เขา ‘ขิง เธอฝ่ายเดียวด้วยล่ะ เมื่อไม่ยอมเข้าใจ ก็ตามนั้นเลยล่ะกัน
“อ่อ เธอคงยอมรับแล้วสินะ ว่าเมื่อก่อนและตอนนี้ ตัวเธอเองก็สนใจนายนนท์เหมือนกัน ฉันพูดแบบนี้ ก็คงเข้าทางเธอแล้วสิ”
“ใช่ค่ะ ดิฉันชอบคุณนนท์ค่ะ อืม ท่านชายคงจะเข้าใจแล้วนะคะ อีกอย่างตอนนี้คุณนนท์ยังไม่ได้เปิดตัวว่าจะคบกับดิฉันเลยนะคะ อยู่ดีๆ จะให้ดิฉันไปเปิดเองได้ยังไงคะ ถ้าจะให้ดี ท่านชายบอกน้องชายของท่านชายหน่อยค่ะ ว่าควรจะเป็นฝ่ายเอ่ยขอดิฉันได้แล้วนะคะ ดิฉันจะได้ไม่ต้องรอ และไม่ต้องสงสัยอะไรอีก!”
เส้นอารมณ์ของขวัญข้าวขาดลงในทันที ผู้ชายอะไรยั่วอารมณ์เก่งเป็นที่หนึ่ง เขาต้องการอะไรกันแน่
“ขวัญข้าว!”
อารมณ์หม่อมราชวงศ์หนุ่มพุ่งปรี๊ดทันที เขาตะคอกด้วยน้ำเสียงโกรธขึ้งออกมาทันที พร้อมกับลุกพรวดขึ้นยืนทันใด
“คะ ท่านชาย?”
ขวัญข้าวข่มความตื่นตระหนกของตัวเองเอาไว้ เธอไม่เคยคิดว่าเขาจะมีอารมณ์อ่อนไหวกับเรื่องนี้ นี่มันเรื่องของเธอนะ ทำไมเขาจะต้องโกรธเธอด้วยเล่า
“เธออย่ายั่วฉัน! และควรหยุด! ก่อนที่ฉันจะ...”
“ท่านชายจะทำอะไรกับดิฉันเหรอคะ?”
ขวัญข้าวลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับหม่อมราชวงศ์ผู้เกรี้ยวกราดทันที ใบหน้าสวยเชิดขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ เธอไม่ใช่ขวัญข้าวคนเดิมแล้วนะ
“เก่งจริงนะ!”
หมับ! มือหนาคว้าข้อมือของเธอในทันใด พร้อมกับออกแรงกระชากมือนั้นอย่างแรง จนร่างอวบอิ่มของเธอปลิวร่อนเข้ามาปะทะอกกว้าง ทั้งที่มีโต๊ะทำงานกั้นอยู่ แต่ด้วยแรงอันมหาศาลของเขา ทำให้ร่างของเธอลอยละลิ่วขึ้นมาเกยอยู่บนโต๊ะในทันใด
“อุ้ย!!!” ขวัญข้าวร้องออกมาด้วยความตกใจ
“ฉันเตือนเธอแล้วนะ...ขวัญข้าว อดีตระหว่างเธอกับฉันมันเป็นยังไง...เธออยากจะให้ฉันเตือนเธออีกครั้งใช่มั้ย!”
เขาพูดเสียงเย็นดูทรงอํานาจ มุมปากหนายกขึ้นเล็กน้อย คล้ายกับต้องการที่จะข่มคนตรงหน้า อคิราห์คิดจะเอ่ยปากขอโทษเธอเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งมันติดแหง็กอยู่ในใจเขามาตลอด แต่ทว่าดูเธอตอนนี้สิ ไม่ได้ทุกข์ร้อนกับเรื่องในอดีตของเธอเลยสักนิด เฝ้าแต่ก่อกวนอารมณ์ของเขาให้ขุ่นมัวอยู่เรื่อยไป
“เรื่องอะไรเหรอคะ...ท่านชาย”
ขวัญข้าวเชิดหน้าช้อนตามองคนตัวใหญ่ ‘อดีตก็คืออดีต...คนอย่างขวัญข้าวไม่เคยสนใจอยู่แล้ว’
“ฮึ่ม!”
มือใหญ่เพิ่มแรงบีบข้อมือของเธอ พร้อมกับรัดตัวเธอให้แนบกับอกแกร่ง สายตาคมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยของเธอ เพื่อหาร่องรอยของความหวาดกลัว แต่ทว่า คนตรงหน้ากลับถลึงตาใส่เขา ราวกับต้องการที่จะท้าทายเขาเพิ่มขึ้นไปอีก
“ปล่อยดิฉันนะคะ ทำไมเหรอคะ คำถามของดิฉันมันไปกระตุกต่อมส่วนไหนของท่านชายมิทราบ! ท่านชายถึงกับต้องเอาเรื่องราวในอดีตมาขู่ดิฉันแบบนี้!”
“เธอคงคิดว่าตอนนี้ฉันทำอะไรเธอไม่ได้งั้นสิ”
สายตาคมกวาดมองทั่วดวงหน้าเนียน และหยุดตรงริมฝีปากอวบอิ่มที่เผยอค้างไว้ ครั้งหนึ่งอคิราห์เคยลิ้มรสความหวานจาก ริมฝีปากอิ่มนี้มาแล้ว ถึงแม้มันจะเนิ่นนานมาแล้ว แต่เขาก็ยังจำได้เป็นอย่างดี ความสุขที่เขาได้รับจากเรือนกายของเธอ มันไม่เคยทำให้เขาอิ่มเอมเลยสักครั้ง ส่วนลึกของร่างกายเขา ยังคงต้องการร่างอรชรนี้อยู่ร่ำไป
“เอาจริงๆ ดิฉันก็คงจะทำอะไรท่านชายไม่ได้หรอกค่ะ ดิฉันเป็นผู้หญิง เป็นเพศที่อ่อนแอกว่าท่านชายมาก แต่ถ้าเรื่องจิตใจของดิฉันตอนนี้ล่ะก็ สู้ไม่ถอยค่ะ”
ขวัญข้าวยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขาอย่างกล้าหาญ ครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นเบี้ยล่างของเขามาตลอด และครั้งนี้ ขวัญข้าวจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนนี้ มาทำอะไรเธอได้อีกแล้ว
“โอเค อย่าหาว่าฉันไม่เตือนแล้วกัน!”
พูดจบใบหน้าคมก็โฉบวูบลงมาทันใด ริมฝีปากหนากระแทกลงมาที่ปากบาง บดเบียดริมฝีปากที่เม้มชิดไม่ยอมให้เขาได้รุกรานได้อย่างใจ เขากัดริมฝีปากเธอเพื่อดุนรอยแยกและส่งปลายลิ้นรุกล้ำเข้าไปในโพรงปากนุ่ม มือข้างหนึ่งของเขาบังคับดวงหน้าสวยขึ้นมารับจูบเขา ในขณะที่วงแขนอันแข็งแกร่งรัดร่างของเธอเอาไว้ในอ้อมแขน หม่อมราชวงศ์หนุ่มกดจูบปากบางอย่างหนักหน่วงจังหวะที่จู่โจมรุนแรง และเอาชนะคนตัวเล็กได้สำเร็จ
 ทรายแมว
ทรายแมวกดหัวใจ คอมเมนท์ = หนึ่งกำลังใจนะคะ ฝากกดติดตาม เพิ่มเข้าชั้น และรับแจ้งเตือนตอนใหม่ เรื่องใหม่ค่ะ ทรายแมว : เขียน

“พักเรื่องงานไว้ก่อนครับ วันนี้ผมขอดื่มฉลองมิตรภาพของเราก่อนนะครับ”วิลเลี่ยมยกแก้วเครื่องดื่มชูขึ้น สายตาคมสีฟ้าของเขามองไปยังเลขาแสนสวยที่อยู่ในชุดเดรสสีแดงที่มีความเซ็กซี่อย่างที่สุด“อ่อ ครับ ผมนี่แย่จริงๆ นะครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่พูดเรื่องงานซะเยอะเลย ความจริงวันนี้ผมก็พาคุณมาผ่อนคลายครับ”ธนนท์รีบยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นเพื่อเป็นการขอโทษ“สองสาวนี่ไม่ต้องห่วงนะครับ วันนี้พักเรื่องงานสักวัน เดี๋ยวผมขออนุญาตเจ้านายคุณเองครับ...โอเค มั้ยครับคุณธนนท์”“ได้ครับ หมดเวลางานแล้วครับ” ธนนท์หันไปพยักหน้าให้กับสองสาวเพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาพูด“ค่ะ/ค่ะ”“อืม ขออนุญาตถามเรื่องส่วนตัวคุณ...เขม หน่อยนะครับ ไม่ทราบว่าคุณมีครอบครับหรือยังครับ”วิลเลี่ยมเปิดประเด็นคำถามในสิ่งที่เขาสนใจทันที เขารู้สึกถูกใจหญิงไทยคนนี้มาก“ยังค่ะ ดิฉันยังโสดค่ะ” เขมมิกาตื่นเต้นอย่างที่สุด สุดท้ายแล้วเธอก็เข้าตาหนุ่มสายฝอเข้าแล้ว ^^“ไหนๆ คุณเขมก็ถูกท่านประธานถามเรื่องนี้ไปแล้ว จริงๆ ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะครับ ว่าคุณชมพูนุทตอนนี้คุณยังโสดเหมือนกับคุณเขมหรือเปล่าครับ”ปรเมศยิงคำถามต่อจากเจ้านายของตัวเองทันที“เอ่อ
“ค่ะ...” “ฉันอยากจะขอโทษเธอ...ขวัญข้าว ขอโทษในสิ่งที่ฉันทำไม่ดีกับเธอและน้องของเธอ อภัยให้ฉันเถอะนะ...” “ค่ะคุณผู้หญิง ดิฉันให้อภัยคุณผู้หญิงค่ะ และดิฉันเชื่อว่าแม่ของดิฉันก็คงจะคิดเหมือนกันค่ะ เรื่องราวในอดีต ดิฉันไม่ได้เก็บเอามาคิดอีกแล้วค่ะ คุณผู้หญิงไม่ต้องคิดมากนะคะ” “ขอบใจเธอมากนะขวัญข้าว ฉันขอบใจเธอจริงๆ บ้านหลังนี้เธออยู่ได้สบายเลยนะ ไม่ต้องย้ายออกไปอยู่ที่ไหนแล้ว นอกเสียจากเธอจะแต่งงานมีครอบครัวไป นั่นก็แล้วแต่เธอนะ ฉันไม่ได้มีอำนาจที่จะตัดสินใจ อย่างที่บอก ชายคินน์ต่างหาก ที่เป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้ และในตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งชายคินน์กับนนท์ลูกชายของฉัน ทำไมถึงยังไม่แต่งงานมีครอบครัวกันอีก เรื่องนี้ก็ทำให้ฉันกลุ้มใจอยู่พอสมควร” “ท่านชายคินน์กับคุณนนท์อาจจะมีแล้วก็ได้นะคะ คุณทั้งสองอาจจะยังไม่เปิดตัวก็ได้ค่ะคุณผู้หญิง” “ไม่มีหรอก...ฉันตามสืบมาหมดแล้ว” “ห๊ะ! อะไรนะคะ คุณผู้หญิงตามสืบเหรอคะ”คำพูดของคุณหญิงบงกชเพชรทำให้ขวัญข้าวตกใจเป็นอย่างมาก หัวใจเธอเต้นแรงแทบจะทะลุออกจากอก ขวัญข้าวกังวลเรื่องเธอกับท่านชายในอดีต
[บ้านวรารักษ์เมธานนท์...ในเวลายามเย็น] “นั่นลูกจะออกไปไหนอีกล่ะ พึ่งกลับเข้ามาไม่ใช่เหรอ”คุณหญิงบงกชเพชรมองบุตรีของตัวเองที่อยู่ในชุดพร้อมที่จะออกจากบ้าน “แพรนัดเพื่อนไว้ค่ะคุณแม่ วันนี้วันเกิดมิ้นท์ค่ะ เราจะไปฉลองกันค่ะ” “เรื่องเรียนของลูกไปถึงไหนแล้ว ตามแก้รายวิชาครบแล้วหรือยัง แล้วเทอมนี้จะจบหรือเปล่าลูก” “ยังค่ะคุณแม่ คงต้องจบเทอมหน้าค่ะ เพราะเหลืออีกแค่สองตัวค่ะ ยังไงแพรก็ต้องเรียนจบอยู่แล้วค่ะ คุณแม่ไม่ต้องห่วงค่ะ” “อะไรนะ! ไหนลูกบอกว่าเทอมนี้จะจบ แล้วนี่เลื่อนไปเทอมหน้าอีกเหรอ ตายแล้วยัยแพร ทำไมเรียนแค่นี้ ถึงไม่จบซะที ดูพี่นนท์เราสิ ถึงแม้จะเกเรยังไงแต่ก็ยังเรียนจบ ทำไมลูกถึงไม่เอาอย่างพี่นนท์บ้างล่ะลูก” “ก็อาจารย์ที่ ‘มหาลัยสิคะคุณแม่ แกล้งแพรค่ะ ความจริงแพรก็จะจบเทอมนี้แหละค่ะ”แพรพิไลกุเรื่องเพื่อโกหกผู้เป็นแม่ ความเป็นจริง เธอเองต่างหากที่ไม่อยากเรียนจบ เพราะถ้าเธอเรียนจบแล้ว แม่ของเธอจะต้องจับเธอยัดเข้าทำงานที่บริษัทพี่ชายของเธอเป็นแน่ “แม่ไม่เชื่อที่ลูกบอกหรอกนะแพร ครั้งที่แล้วลูกก็บอกว่าอาจารย์แกล้งแบ
“อึก! อึก!” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นมาด้วยความตกใจที่จู่ๆ ริมฝีปากของชายหนุ่มก็ฉกวูบลงมาด้วยความเร็วแสงประกบจูบปากของเธออย่างรวดเร็ว ขวัญข้าวพยายามสะบัดหน้าหนี แต่ทว่าก็ถูกมือใหญ่บีบปลายคางของเธอเอาไว้ ลมหายใจปัดผ่านข้างใบหน้าใกล้ชิด ลิ้นหนาเกี่ยวกวัดลิ้นเล็กไว้ในปากอย่างหิวกระหาย อีกมือก็เกี่ยวกระหวัดร่างบางเข้ามาแนบร่างแกร่งราวกับงูใหญ่กำลังรัดเหยื่ออย่างหิวโหย“อึ้ม...” ขณะที่ริมฝีปากของเขาแนบสนิทก็ไม่อาจซ่อนรอยยิ้มอันพึงใจไว้ได้ ความหวานที่เคยลิ้มลองไม่เคยลดน้อยลงไปเลยสักนิด ชายหนุ่มตะโบมจูบอย่างร้อนแรงและหนักหน่วงจนได้ยินเสียงอู้อี้ในลําคอของอีกฝ่าย“ไม่! อึก!” ขวัญข้าวพยายามดิ้นเพื่อหนีริมฝีปากร้อน แต่เธอก็ไม่สามารถจะหลบหลีกริมฝีปากความเร็วแสงนั้นได้ มือทั้งสองข้างของเธอผลักอกแกร่งจนสุดแรง แต่ทว่ามันก็เหมือนกับผลักหินผาก็ไม่ปาน สะโพกมนเกยอยู่บนโต๊ะทำงานในสภาพกึ่งนั่งกึ่งยืน โดยที่ตัวของชายหนุ่มใช้ร่างของเขากันเธอเอาไว้ ไม่ให้หนีออกไปได้สำเร็จ“อืม...หวานเหมือนเดิมนี่”อคิราห์ถอนริมฝีปากของตัวเองออก พร้อมกับก้มมองใบหน้าของเธอ ที่ตอนนี้มีสภาพแดงเห่อไปทั่วทั้งหน้า ชายหนุ่มยกยิ้มอย่า
[อีกด้านหนึ่ง...ห้องทำงานบริษัทวรารักษ์เมธานนท์] “ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะยุ่งยากตรงไหนเลย เธอมาสมัครงานตามที่นายนนท์บอกเธอไว้แล้วนี่ เธอก็รู้อยู่แล้ว ทำไมจะต้องทำเรื่องนี้ให้วุ่นวายไปอีก ฉันไม่เข้าใจ”หม่อมราชวงศ์อคิราห์มองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา และต้องการที่จะพบเขาในเวลานี้ เหตุผลของเธอเพียงเพื่ออยากสมัครงานตามระบบแค่นั้นหรือ เขาไม่เข้าใจเลย “ดิฉันคิดว่ามันไม่ถูกต้องค่ะ ดิฉันไม่อยากจะใช้เส้นค่ะ ดิฉันแค่ต้องการได้สอบและสัมภาษณ์ตามปกติเหมือนคนทั่วไป ก็แค่นั้นเองค่ะท่านชาย” “แล้วเธอได้อะไร จากสิ่งที่เธอกำลังเรียกร้องอยู่ตอนนี้” “ดิฉันไม่ได้เรียกร้องค่ะ แค่ต้องการทำให้มันถูกต้องตามระบบก็เท่านั้นเองค่ะท่านชาย”ดวงตากลมโตจ้องกลับใบหน้าคม เอาจริงๆ วันนี้เป็นครั้งแรกของขวัญข้าวเลยก็ว่าได้ ที่เธอได้มองหน้าเขาได้ชัดเจนและเต็มตามากขนาดนี้ เธออยู่ห่างจากเขาไม่ถึงเมตรเลยด้วยซ้ำ ลมหายใจร้อนเป่ารดมาที่เธอ จนเธอสัมผัสได้ และทำให้เธออดนึกถึงความรู้สึกบางอย่างเมื่อเจ็ดปีที่แล้วไม่ได้... “ผลสุดท้าย เธอก็ต้องเข้าทำงานอยู่ดี ทำไมต้องเรื่องมาก” “นี่
[บริษัทวรารักษ์เมธานนท์] “ขอโทษนะคะ คือว่าดิฉันยังไม่ได้สอบข้อเขียน และสัมภาษณ์เลยนะคะ คุณจะให้ดิฉันเริ่มงานวันพรุ่งนี้เลยเหรอคะ”ขวัญข้าวมาสมัครงานที่บริษัทวรารักษ์เมธานนท์ในวันรุ่งขึ้น ในตำแหน่ง Sales Engineer ตามที่บริษัทได้ประกาศรับ เธอพึ่งจะกรอกใบสมัครไปใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ขวัญข้าวก็ทราบผล เธอรู้สึกไม่โอเคกับสิ่งที่คุณธนนท์ทำมากนัก เธอไม่อยากเป็นเด็กเส้นในสายตาของคนอื่น สังคมการทำงานของเธอก็จะลำบากมากขึ้น “คุณธนนท์เธอได้บอกไว้แล้วค่ะ ว่าถ้าคุณขวัญข้าวมา ก็รับได้เลยแค่กรอกใบสมัครก็พอค่ะ รายละเอียดต่างๆ ในการทำงานอยู่ซองกระดาษนี่นะคะ ดิฉันเตรียมเรียบร้อยแล้วค่ะ” “ดิฉันขอคุยกับคุณธนนท์หน่อยได้มั้ยคะ” “คุณธนนท์ไม่อยู่ค่ะ เธอไปจังหวัดระยองกับเลขา และฝ่าย Sales Engineer คนใหม่ตั้งแต่เมื่อเช้าค่ะ” “Sales Engineer คนใหม่เหรอคะ เอ่อ ไม่ทราบว่าเธอชื่อชมพูนุทหรือเปล่าคะ”เมื่อเช้าเพื่อนของเธอได้แชทหาเธอตั้งแต่เช้า ว่าจะรีบออกไปทำงาน วันแรกของชมพูนุทก็ดูจะรีบร้อนไปหมด “ใช่ค่ะ คุณชมพูนุทพึ่งมาทำงานวันนี้วันแรกค่ะ เผอิญมีลูกค้าใหญ่ที่








