Войтиหลังจากที่อัญรัตน์กลับไปแล้วชารุกก็ดูจะนิ่งเงียบและดูเคร่งขรึมไปกว่าเดิมจนกุสุมาไม่กล้าที่จะชวนเขาพูดคุย เธอจึงได้แต่ทานอาหารไปเงียบๆ
พอทานอาหารเสร็จแล้วเขาก็ยังคงทำหน้าเคร่งเครียดอยู่ เธอพอเดาได้จากบทสนทนาระหว่างเขากับอัญรัตน์ก่อนหน้านี้ ว่าเธอเคยเป็นคนรักของเขาที่เกือบจะได้หมั้นกันและเธอได้ทิ้งเขาไปในงานหมั้น แต่เธอคงจะไปไม่รอดจึงได้หวนกลับมาหาเขา
“คุณขึ้นไปอาบน้ำเข้านอนก่อนเลยนะ” เขาบอกเธอเสียงเรียบแล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มด้านหลัง
ชาวหนุ่มนำเครื่องดื่มออกมาเทดื่มด้วยความหงุดหงิดและอารมณ์เสีย กุสุมาจึงรีบลุกจากโต๊ะอาหารแล้วขึ้นห้องไปก่อนตามที่เขาบอก
ดูจากการที่เขาดื่มเหล้าเพื่อดับอารมณ์หงุดหงิด เธอจึงคิดเอาเองว่าเขาคงยังมีใจให้กับอัญรัตน์อยู่ แต่คงโกรธแค้นที่ตนเองถูกทิ้งไปจึงพาตัวเธอมาแก้แค้นผู้หญิงคนนั้นด้วยการบอกว่าเป็นคนรักของเขาเพื่อให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำ
ชารุกเดิมเครื่องเดิมสีอำพันในมือด้วยความโกรธแค้น หลายต่อหลายครั้งที่อัญรัตน์มาตามตื้อขอคืนดีกับเขา เขาได้บอกเธอไปอย่างชัดเจนแล้วว่าทุกอย่างมันไม่สามารถกลับคืนไปเหมือนเดิมอีกแล้ว
ทุกครั้งที่เจอหน้าเธอเขารู้สึกเจ็บใจในสิ่งที่เธอทำกับเขา สำหรับชารุกแล้ว ในตอนนี้ไม่มีคำว่ารักให้กับเธอผู้หญิงที่เคยหักหลังเขาและไม่ซื่อสัตย์กับความรักอย่างเธอ
เขาไม่อยากให้ค่ากับเธอแม้แต่นิดเดียว ไม่อยากรู้สึกอะไรด้วย แต่ก็ต้องยอมรับว่าทุกครั้งที่เจอหน้าเธอ เขาต้องสะกดกลั้นอารมณ์ไม่ให้ตรงเข้าไปบีบคออีกฝ่ายอยู่ทุกครั้ง
ชายหนุ่มวัยสามสิบหกนั่งดื่มอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเวลาผ่านไปนานพอสมควร ความรู้สึกร้อนวูบวาบในตัวเพราะเครื่องดื่มทำให้เขาหงุดหงิดและปลดกระดุมเสื้อออกเผยให้เห็นหน้าอกอันแข็งแกร่ง
ชารุกเดินขึ้นห้องไปเห็นว่ากุสุมาหลับไปแล้วเขาจึงเข้าไปอาบน้ำเผื่อคลายร้อนดับอารมณ์หงุดหงิดของตัวเอง หลังจากนั้นจึงมาทิ้งตัวนอนข้างเธอ
การเคลื่อนไหวของเขาทำให้กุสุมาตื่นขึ้นมา กลิ่นลมหายใจหอมสะอาดปนกลิ่นแอลกอฮอล์ของเขามันทำให้เธอนึกถึงเรื่องคืนนั้นแล้วแอบหวั่นใจไม่ได้
“ผมทำให้คุณตื่นเหรอ” เขาถามเมื่อเห็นว่ากุสุมากำลังจ้องมองเขาอยู่
“ค่ะ คุณเมามากแล้วนอนพักเถอะค่ะ พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้าอีก”
“ผมนอนไม่หลับหรอก เหล้าเข้าปากทีไรถ้าไม่ได้ปลดปล่อยก็นอนไม่หลับทุกที” เขาพูดเสียงพร่าต่ำหยอกเธอด้วยคำพูดที่ทำให้เธอใจเต้นตึกตักไม่เป็นสุข
“เอ่อ นอนเถอะนะคะ” เธอบอกแล้วดึงผ้าห่มมาห่มให้แก่เขา
ชารุกขยับเข้าไปกอดเธอแล้วหอมที่แก้มนวลนั้นก่อนจะซุกหน้าลงที่ซอกคอของเธอทำให้กุสุมาตกใจและตัวเกร็ง คิดว่าเขากำลังจะทำอะไรเธอเหมือนอย่างคืนนั้น
แต่สักพักเธอก็ได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของเขาและเสียงกรนเบาๆ ทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วเขาแค่พูดหยอกล้อเธอเล่นเท่านั้น เธอจึงดันตัวเขาออกอย่างเบามือให้นอนยังฝั่งของตัวเองและขยับไปนอนอีกฝั่งแล้วหันหลังให้
ถึงแม้จะรู้สึกดีและประทับใจกับเขา แต่ว่าเธอก็ยังกังวลเรื่องนี้อยู่ดี แม้จะเคยตกเป็นของเขาไปแล้วครั้งหนึ่งก็ไม่ใช่ว่าเธอจะทำใจหลับนอนกับผู้ชายที่เธอไม่ได้รักได้อีกครั้ง
แต่ถ้าหากมันถึงที่สุดหรือเป็นความต้องการของเขา เธอก็คงต้องยอมอย่างเสียไม่ได้
การแสดงละครของเขาบางครั้งก็สมจริงจนเธอแอบใจสั่น ยิ่งความใกล้ชิดที่นอนข้างกันแบบนี้เธอกลัวเหลือเกินว่าใจตัวเองจะหลงรักเขา แล้วสุดท้ายก็ต้องเจ็บปวดเพราะฐานะที่แตกต่างกัน
ดังนั้นเธอจะไม่เพ้อฝันว่าตัวเองเป็นนางเอกในนิยาย และเตรียมใจเอาไว้หากว่าวันหนึ่งเขาเองจะสลัดคราบของสุภาพบุรุษแล้วเชยชมเธอให้คุ้มค่ากับเงินที่เขาเสียไป เธอก็จะไม่เสียใจ เพราะเขาดีกับเธอมากจริงๆ
**********************
ในตอนเช้าเธอปลุกให้ชารุกตื่นขึ้นมา แต่ว่าเขาไม่ยอมตื่นและขอเวลานอนต่อเหมือนเด็กน้อยไม่ยอมไปโรงเรียน
“คุณต้องไปทำงานนะคะ นี่ก็เจ็ดโมงกว่าแล้ว”
“ผมเป็นเจ้าของจะเข้ากี่โมงก็ได้” เขาพึมพำอย่างหงุดหงิดแล้วนอนต่อ กุสุมาจึงไม่ได้ปลุกเขาอีก
เธอเดินลงไปข้างล่างตอนนี้อาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าเธอไม่กล้าทานก่อนเขา กังวลว่าเขาจะต่อว่าเธอจึงยังไม่ให้บุหงาตั้งโต๊ะ
“เวลานายหัวเมาก็จะตื่นสายทุกครั้ง คุณแก้วทานก่อนก็ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องรอทานพร้อมนายหัวหรอกค่ะ บางทีตื่นเที่ยงก็มี”
“แล้วแฟนคนก่อนที่เขาพามาอยู่ที่นี่ มีใครกล้าทานอาหารเช้าก่อนเขาหรือเปล่าคะ” กุสุมาถามตามซื่อ
“ตายจริงคุณแก้ว นายหัวไม่เคยพาใครมาอยู่ที่นี่นะคะ คุณแก้วเป็นผู้หญิงคนแรกที่นายหัวพามา”
“อ้าว แล้วคุณอัญล่ะ” กุสุมาถามด้วยความสงสัย
“รายนั้นไม่เคยมานอนที่นี่เลยสักครั้ง จริงๆ แล้วบ้านหลังนี้นายหัวปลูกไว้เป็นเรือนหอ กะว่าหมั้นสักหนึ่งปีรอให้บ้านเสร็จแล้วค่อยแต่ง แต่ว่างานหมั้นก็เป็นหมันเสียก่อน พอบ้านหลังนี้สร้างเสร็จนายหัวก็เลยมาอยู่ที่นี่คนเดียว”
“แล้วแต่ก่อนเขาอยู่ไหนล่ะ”
“แต่ก่อนนายหัวอยู่บ้านใหญ่ที่เกาะค่ะ ตอนนี้บ้านใหญ่ก็เหลือคุณชารียาน้องสาวของนายหัวกับคุณภาคินสามีของเธอ นายหัวก็เลยมาอยู่ที่นี่แล้วยกบ้านหลังนั้นให้เป็นเรือนหอของคุณชารียา” บุหงาตอบราวกับว่าคันปากอยากเล่ามานานแล้ว
“แล้วพ่อแม่ของเขาล่ะคะ”
“ท่านเสียไปนานแล้วค่ะ นายหัวก็เลยเป็นคนดูแลทุกอย่างทั้งรีสอร์ตบนเกาะแล้วก็รีสอร์ตริมทะเลในแถบจังหวัดนี้ จริงๆ ก็แบ่งให้คุณชารียาดูแลที่เกาะเองนะคะ แต่เพราะว่าเธอกับสามียังมือใหม่ในด้านธุรกิจทั้งคู่ นายหัวจึงเป็นคนที่ดูแลทุกอย่างให้”
“แล้วคุณอัญทำไมถึงได้ทิ้งคุณชารุกไปล่ะ” กุสุมาถามด้วยความอยากรู้
บุหงามองหันซ้ายหันขวาแล้วมองไปทางบันไดเมื่อเห็นว่าผู้เป็นนายยังไม่ลงมาง่ายๆ จึงเล่าเรื่องทุกอย่างให้กับกุสุมาฟัง
“...เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ หลังจากนั้นมานายหัวก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากที่เคยเป็นคนอารมณ์ดีชอบหยอกล้อคนงาน ตอนนี้บางทีก็กลายเป็นคนโมโหร้าย ขี้หงุดหงิด”
“โมโหร้ายเหรอ ตั้งแต่ฉันรู้จักเขา เขาก็ยังไม่เคยโมโหร้ายใส่ฉันเลยสักครั้งนะ”
“มันแล้วแต่ช่วงค่ะคุณแก้ว ช่วงนี้คุณแก้วอาจจะยังไม่เจอแต่ทำใจเถอะค่ะถ้านายหัวเกิดไม่พอใจอะไรขึ้นมา อาละวาดแต่ละทีบ้านแทบแตก”
พอได้ยินอย่างนั้นกุสุมาก็เริ่มรู้สึกหวั่นๆ เธอนอนกับเขามาสองคืนแล้วถ้าวันไหนเขาเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมาแล้วบีบคอเธอตาย เธอคงไม่ได้กลับไปเจอหน้าพ่อแม่แน่
“ถ้าอย่างนั้นฉันไม่กินข้าวก่อนเขาดีกว่า เผื่อโมโหเรื่องนี้ขึ้นมาเดี๋ยวบีบคอฉันตายพอดี” กุสุมาพูดขึ้นมาแล้วทำท่าขนลุก ทำให้บุหงาหัวเราะออกมาเบาๆ
“คุณแก้วนี้ตลกดีนะคะ” เธอพูดแล้วเดินกลับเข้าไปในครัว
กุสุมาหนึ่งเอามาค้ำคางกุมแก้มของตัวเองเอาไว้ “ถ้าฉันทำอะไรไม่ถูกใจ ฉันจะถูกฆ่าถ่วงทะเลไหมนะ” เธอพึมพำออกมาแล้วถอนหายใจหนัก
ทันใดนั้นเองก็มีมือมาแตะที่ไหล่ของเธอเบาๆ ทำให้หญิงสาวร้องออกมาด้วยความตกใจ
“เป็นอะไรไป ขวัญอ่อนเกินไปแล้วนะ” ชารุกพูดขึ้นมาแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้หัวโต๊ะ
ในตอนนั้นบุหงาเดินมาดูเมื่อได้ยินเสียงของกุสุมา เมื่อเห็นว่าเจ้านายลงมาแล้วจึงช่วยบุหลันจัดโต๊ะอาหารเช้าให้กับทั้งคู่
“ตื่นนานแล้วทำไมไม่ทานก่อนผมล่ะ”
“แก้วรอทานพร้อมคุณค่ะ” เธอตอบเอาใจเขา แต่ก็ยังก้มหน้าอยู่อย่างนั้น
“วันหลังไม่ต้องรอผมนะ หิวก็ทานก่อนเลย”
“ค่ะ” เธอรับปากแล้วมองอาหารที่ถูกนำมาวางไว้ตรงหน้า
“ทานเยอะๆ นะ ตัวผอมกอดไม่นุ่มมือเลย” เขาพูดให้บุหงาได้ยิน เขาไม่รู้ว่าเธอหรือใครเป็นสายให้กับชารียาหรือเปล่า จึงต้องแนบเนียนทุกสถานการณ์
“ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ เริ่มทานอาหารตรงหน้าและลอบมองเขาอยู่เป็นระยะ
ขนาดชารุกอยู่ในชุดนอนและสภาพยังไม่ได้อาบน้ำแบบนั้นเขาก็ยังดูดีจนเธออดชื่นชมไม่ได้ ท่าทางภายนอกเขาดูเข้าถึงยากและน่าเกรงขามเหมาะกับการเป็น ‘นายหัว’ แต่อยู่กับเธอเขายังไม่เคยแสดงด้านมืดออกมา และเธอจะไม่แหย่ให้เขาแสดงมันออกมาแน่
“เดี๋ยวทานข้าวเสร็จผมจะขึ้นไปอาบน้ำ คุณมีเวลาครึ่งชั่วโมงในการแต่งหน้าแต่งตัวให้ดูเรียบร้อย”
“เราจะไปไหนกันเหรอคะ”
“ผมจะพาคุณข้ามเกาะไปกับผม”
“ข้ามเกาะเหรอคะ”
“ใช่ แล้วอย่าลืมทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีนะ” ชารุกย้ำเตือนเธอถึงสิ่งที่เขาต้องการ
กุสุมาสงสัยว่าทำไมต้องกำชับเธอแบบนี้ หรือเขาอาจจะกังวลว่าอัญรัตน์จะตามเข้าไปที่เกาะก็ได้ “ไม่ต้องห่วงนะคะเชื่อมือแก้วได้เลย” เธอพูดแล้วยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ
**********************
ในตอนเช้ากุสุมาตื่นมาด้วยอาการปวดระบมที่สะโพก เมื่อคืนนี้ชารุกวาดลวดลายกับเธออย่างไม่รู้จักอิ่มจนตอนนี้เธอรู้สึกหน่วงอยู่ภายใน สายตาจับจ้องมองดูนายหัววัยสามสิบหกด้วยสายตาที่หลงใหลความใกล้ชิดและสิ่งที่เขาแสดงละครทำดีกับเธอ ประกอบกับบทรักที่เขามอบให้มันทำให้เธอรู้สึกดีกับเขาเป็นอย่างมาก แต่ก็เพียงรู้สึกดีเท่านั้น กุสุมาไม่กล้าที่จะคิดอะไรเกินเลยไปกว่านี้เพราะเขาชัดเจนแล้วว่าเธอจะได้รับสิทธิ์คนรักของเขาทุกอย่าง ยกเว้นความรักและการแต่งงานที่เขาจะไม่มีวันยกมันให้กับเธอ“คุณชารุกคะ ตื่นได้แล้วค่ะ” เธอปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาชารุกดึงเธอเข้าไปกอดแล้วลูบกลุ่มผมที่ตกลงมาบังแก้มของเธอด้วยความเอ็นดู “เมื่อคืนผมมีความสุขมาก”“ค่ะ” เธอตอบรับแล้วก้มลงยิ้มอย่างเอียงอาย“จริงสิคุณอายุเท่าไรแล้วถึงยี่สิบห้าหรือยัง” เขาถามเธอแล้วลูบไล้ที่ต้นแขน ตอนนี้มองเธอเป็นแค่ของเล่นชิ้นโปรดของตนเท่านั้น“แก้วอายุยี่สิบค่ะ อีกสามเดือนก็จะอายุยี่สิบเอ็ดแล้ว” เธอตอบเขาไปตามความจริงชารุกนิ่งอึ้งไปสักพักมองดูหญิงสาวตรงหน้าที่เขาคิดว่าเธอแค่หน้าเด็กมาโดยตลอดเลยไม่ฉุกใจคิดว่าเธออายุน้อยจริงๆ“สีหน้าคุณไม่ค่อยดีเลยนะคะ หรือ
ทันทีที่ประตูรั้วบ้านถูกเปิดออก รถชารุกก็แล่นเข้ามาจอดโดยมีรถของอัญรัตน์ขับตามเข้ามาติดๆ“นั่นรถของคุณอัญไม่ใช่เหรอคะ”“อืม อย่าลืมทำหน้าที่ของคุณให้ดีก็แล้วกัน” ชารุกย้ำด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด เมื่ออดีตคนรักยังพยายามที่จะมาตามตื๊อเขา ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขามีกุสุมาอยู่ข้างกายแล้วนายหัววัยสามสิบหกเดินลงจากรถแล้วอ้อมมาเปิดประตูให้กุสุมาด้วยสีหน้าที่ปรับเป็นนุ่มนวลและอบอุ่นจนเธอเผลอใจเต้นไปกับเขาไม่ได้อัญรัตน์ที่เดินลงมาจากรถเธอรีบตรงเข้าไปทักทายเขาแล้วมองกุสุมาที่คล้องแขนของเขาเอาไว้ด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“มีธุระอะไรกับผมหรือเปล่า”“อัญจะมาเรือนหอของเราไม่ได้เลยเหรอคะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่ยียวน ตั้งใจพูดให้กุสุมารู้ว่าเธอกับเขานั้นเคยมีความทรงจำร่วมกันที่นี่“คุณเข้าบ้านไปก่อนนะแก้ว” ชารุกหันไปพูดกับเธอเสียงนุ่มแล้วยิ้มให้เธอด้วยความอ่อนโยน ก่อนจะหันไปมองอัญรัตน์ด้วยสายตาที่แข็งกร้าว“ผมมีเรื่องต้องเคลียร์กับเธอนิดหน่อย” เขาพูดเสียงเข้ม“ถ้างั้นรีบตามมานะคะ แก้วจะขึ้นไปอาบน้ำรอคุณข้างบน” กุสุมาพูดแล้วอมยิ้มด้วยความกระดากในสิ่งที่ตนเองพูดไป แก้มของเธอแดงเรื่ออมยิ้มให้กับเขาอย่างมีความหมาย“
เมื่อกลับมาถึงฝั่งชารุกได้พากุสุมาไปที่รีสอร์ตริมทะเลของตนต่อเพราะไม่อยากเสียเวลาพาเธอย้อนกลับไปส่งบ้าน และอยากเปิดตัวเธอในฐานะคนรักของตนอย่างเป็นทางการ“ให้แก้วช่วยทำอะไรไหมคะ”“ช่วยนั่งเป็นกำลังใจให้ผมก็พอ” เขาพูดเป็นนัยถึงสิ่งที่พูดอยู่บนเกาะทำให้กุสุมายิ้มออกมาที่เขารู้จักพูดหยอกล้อกับเธอ“แล้วอย่าลืมนะว่าคุณอยู่ในฐานะคนรักของผม แค่ทำตัวให้ดูดีและแสดงความเป็นเจ้าของผมเท่านั้นก็พอ” เขาพูดตัดความหวังเธอด้วยการบอกว่าทั้งหมดมันคือหน้าที่ แล้วนั่งดูเอกสารที่วางบนโต๊ะในตอนนั้นเลขานุการของเขาก็เคาะห้องแล้วเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “นายหัวจะรับกาแฟเพิ่มไหมคะ”“ไม่ล่ะ แค่จะแวะมาเซ็นเอกสารเดี๋ยวก็กลับแล้ว”“แล้วแขกของนายหัวล่ะคะ” เธอถามแล้วหันมายิ้มให้กับกุสุมาเล็กน้อย“คุณจะรับน้ำส้มหรือกาแฟไหม” เขาหันมาถามเธอด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล“แก้วขอน้ำส้มก็ได้ค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นเอาน้ำส้มมาให้คุณแก้ว” ชารุกหันไปบอกกับเลขาของตนด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างกับที่พูดกับกุสุมา ทำให้เลขานุการสาวพอเดาออกว่าหญิงสาวคนนี้ต้องเป็นคนสำคัญของเจ้านายของตนแน่นอน“คุณต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอคะ” กุสุมาพูดกับเขาหลังจาก
ชารุกนำเรือเร็วส่วนตัวของตนเองขับพากุสุมาไปยังเกาะที่มีรีสอร์ตของครอบครัวที่ตอนนี้เขากำลังดูแลอยู่ระหว่างทางเขาได้พูดถึงน้องสาวของเขาให้กับเธอฟังคร่าวๆ ว่าชารียาเป็นคนที่หัวอ่อนและจิตใจดี ส่วนสามีของเธอก็เป็นคนดี ทั้งสองจึงไม่ค่อยทันคนและเขาจึงต้องยื่นมือมาช่วยเรื่องการบริหารทั้งๆ ที่แบ่งชัดเจนแล้วว่ารีสอร์ตบนเกาะนั้นให้เป็นความดูแลของน้องสาวและน้องเขยของเขาเองกุสุมาไม่เข้าใจว่าเขาจะเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังไปทำไม แต่ก็ต้องรับฟังเอาไว้เพราะคิดว่าเขาต้องมีเหตุผลที่เล่าแน่“ปัญหารำคาญใจทุกครั้งที่ผมต้องเข้ามาดูแลรีสอร์ตแห่งนี้ นั้นก็คือน้องสาวของภาคิน เธอชอบพอผมและชารียาเองก็เชียร์ให้ผมกับเธอลงเอยกัน” ชารุกเริ่มโยงมาถึงเรื่องที่เขาต้องการให้เธอช่วยแล้ว “ที่แท้ผู้หญิงอีกคนที่คุณต้องการให้ฉันมาแสดงตัวว่าเป็นคนรัก ก็คือน้องสาวของน้องเขยของคุณอย่างนั้นเหรอคะ”“ใช่แล้ว เพราะความใจอ่อนและขี้สงสารของน้องสาวผมนั่นแหละทำให้เธอต้องคอยช่วยเหลือผู้หญิงคนนั้นด้วยความเกรงใจ และผมเป็นคนที่รักน้องสาวมาก บางทีก็ปฏิเสธเธอไม่ได้ มันจึงทำให้ผมอึดอัดทุกครั้งที่มาที่นี่” ชารุกไม่อยากพูดให้ผู้หญิงดูไม่ดี แต่ห
หลังจากที่อัญรัตน์กลับไปแล้วชารุกก็ดูจะนิ่งเงียบและดูเคร่งขรึมไปกว่าเดิมจนกุสุมาไม่กล้าที่จะชวนเขาพูดคุย เธอจึงได้แต่ทานอาหารไปเงียบๆพอทานอาหารเสร็จแล้วเขาก็ยังคงทำหน้าเคร่งเครียดอยู่ เธอพอเดาได้จากบทสนทนาระหว่างเขากับอัญรัตน์ก่อนหน้านี้ ว่าเธอเคยเป็นคนรักของเขาที่เกือบจะได้หมั้นกันและเธอได้ทิ้งเขาไปในงานหมั้น แต่เธอคงจะไปไม่รอดจึงได้หวนกลับมาหาเขา“คุณขึ้นไปอาบน้ำเข้านอนก่อนเลยนะ” เขาบอกเธอเสียงเรียบแล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มด้านหลังชาวหนุ่มนำเครื่องดื่มออกมาเทดื่มด้วยความหงุดหงิดและอารมณ์เสีย กุสุมาจึงรีบลุกจากโต๊ะอาหารแล้วขึ้นห้องไปก่อนตามที่เขาบอกดูจากการที่เขาดื่มเหล้าเพื่อดับอารมณ์หงุดหงิด เธอจึงคิดเอาเองว่าเขาคงยังมีใจให้กับอัญรัตน์อยู่ แต่คงโกรธแค้นที่ตนเองถูกทิ้งไปจึงพาตัวเธอมาแก้แค้นผู้หญิงคนนั้นด้วยการบอกว่าเป็นคนรักของเขาเพื่อให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำชารุกเดิมเครื่องเดิมสีอำพันในมือด้วยความโกรธแค้น หลายต่อหลายครั้งที่อัญรัตน์มาตามตื้อขอคืนดีกับเขา เขาได้บอกเธอไปอย่างชัดเจนแล้วว่าทุกอย่างมันไม่สามารถกลับคืนไปเหมือนเดิมอีกแล้วทุกครั้งที่เจอหน้าเธอเขารู้สึกเจ็บใจในสิ่งที
ในตอนเย็นกุสุมาที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่นเธอได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาจอด จึงวางหนังสือลงเตรียมตัวลุกขึ้นไปต้อนรับเจ้าของบ้านแต่คนที่เดินเข้ามากลับเป็นหญิงสาวสวยคนหนึ่งที่แต่งตัวดูดีแต่งหน้าสวยจนกุสุมาแอบคิดว่าเธอเป็นดารา“ชารุกอยู่ไหม” เธอถามขึ้นแล้วปรายตามองมาที่กุสุมาอย่างไม่ชอบใจนักบุหงาที่เดินออกมาดูจึงยืมก้มหน้าอยู่ด้านหลังของกุสุมา ไม่ได้ตอบอะไรไปเพราะอัญรัตน์ถามกุสุมาไม่ได้ถามเธอ“ยังไม่กลับค่ะ” กุสุมาตอบแล้วส่งยิ้มให้อย่างสุภาพและเป็นมิตร“ดูจากการแต่งตัวแล้วเธอคงไม่ใช่คนรับใช้ของที่นี่” ฟังจากน้ำเสียงที่ดูเย่อหยิ่งและถือตัวของอีกฝ่ายทำให้กุสุมายกยิ้มขึ้นมา เข้าใจแล้วว่าเขาจ้างเธอมาเป็นคนรักเขาทำไม ที่แท้ก็คงเป็นเพราะมีผู้หญิงคนนี้นี่เอง“ตายจริง ฉันลืมแนะนำตัวไปเลย ฉันชื่อแก้วนะคะเป็นคนรักของคุณชารุก” กุสุมาแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานแล้วยิ้มให้กับอีกฝ่ายอัญรัตน์รู้สึกตกใจที่ได้ยินอย่างนั้น หากแต่เธอก็ไม่เชื่อและคิดว่าผู้หญิงคนนี้ก็คงเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่กำลังพยายามเข้าหาชารุกเหมือนกัน“เธอก็มารอชารุกเหมือนกันเหรอ ถึงได้ออกมาต้อนรับฉันเพราะคิดว่าเป็นเขาสินะ”“







