LOGINทันทีที่ประตูรั้วบ้านถูกเปิดออก รถชารุกก็แล่นเข้ามาจอดโดยมีรถของอัญรัตน์ขับตามเข้ามาติดๆ
“นั่นรถของคุณอัญไม่ใช่เหรอคะ”
“อืม อย่าลืมทำหน้าที่ของคุณให้ดีก็แล้วกัน” ชารุกย้ำด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด เมื่ออดีตคนรักยังพยายามที่จะมาตามตื๊อเขา ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขามีกุสุมาอยู่ข้างกายแล้ว
นายหัววัยสามสิบหกเดินลงจากรถแล้วอ้อมมาเปิดประตูให้กุสุมาด้วยสีหน้าที่ปรับเป็นนุ่มนวลและอบอุ่นจนเธอเผลอใจเต้นไปกับเขาไม่ได้
อัญรัตน์ที่เดินลงมาจากรถเธอรีบตรงเข้าไปทักทายเขาแล้วมองกุสุมาที่คล้องแขนของเขาเอาไว้ด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
“มีธุระอะไรกับผมหรือเปล่า”
“อัญจะมาเรือนหอของเราไม่ได้เลยเหรอคะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่ยียวน ตั้งใจพูดให้กุสุมารู้ว่าเธอกับเขานั้นเคยมีความทรงจำร่วมกันที่นี่
“คุณเข้าบ้านไปก่อนนะแก้ว” ชารุกหันไปพูดกับเธอเสียงนุ่มแล้วยิ้มให้เธอด้วยความอ่อนโยน ก่อนจะหันไปมองอัญรัตน์ด้วยสายตาที่แข็งกร้าว
“ผมมีเรื่องต้องเคลียร์กับเธอนิดหน่อย” เขาพูดเสียงเข้ม
“ถ้างั้นรีบตามมานะคะ แก้วจะขึ้นไปอาบน้ำรอคุณข้างบน” กุสุมาพูดแล้วอมยิ้มด้วยความกระดากในสิ่งที่ตนเองพูดไป แก้มของเธอแดงเรื่ออมยิ้มให้กับเขาอย่างมีความหมาย
“ครับ” เขายิ้มตอบเธอ ก่อนจะหันมาลดยิ้มมองหน้าอัญรัตน์ที่ยืนมองกุสุมาตาขวางอยู่
“มีอะไรก็พูดมา”
“นี่คุณจะไม่เชิญอัญเข้าไปคุยในบ้านก่อนเหรอคะ”
“ไม่จำเป็น” เจ้าของบ้านหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยี่หระ
“คุณพ่อให้มาเชิญไปงานวันเกิดของท่านในสัปดาห์หน้า” อัญรัตน์พูดแล้วหยิบการ์ดเชิญให้กับเขา
ชารุกรับการ์ดเชิญเอาไว้ตามมารยาทแล้วขับไล่เธอทางสายตาแต่อัญรัตน์ก็ยังไม่ยอมกลับไปง่ายๆ
ในตอนนั้นเองกุสุมาก็ย้อนกลับมาแล้วเข้าไปกอดแขนของเขาเอาไว้
“ไหนบอกจะไปอาบน้ำรอผมไง” เขาหันไปถามเธอเสียงนุ่มจนอัญรัตน์หมั่นไส้
“แก้วเปลี่ยนใจแล้ว แก้วอยากอาบน้ำพร้อมคุณ นะคะ ขึ้นไปพร้อมแก้วนะ” เธอออดอ้อนเขาเท่าที่ตนเองจะนึกคำพูดออก
“หน้าด้าน” อัญรัตน์พูดขึ้นมาแล้วจ้องหน้าอีกฝ่าย ตั้งใจจะเปิดศึกซึ่งๆ หน้า
“เอ่อ ด่าตัวเองแบบนี้ไม่ดีมั้งคะ จริงๆ การที่เจ้าของบ้านไล่ให้กลับแล้วไม่ยอมกลับก็ควรใช้คำนี้ แต่แก้วว่ามันแรงไปหน่อย” กุสุมาตอบกลับไปอย่างใสซื่อ ท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อนของเธอทำให้อัญรัตน์กำมือแน่นด้วยความโกรธ
“คุณปล่อยให้มันมายืนว่าอัญแบบนี้ได้ยังไงคะ”
“แก้วด่าคุณตอนไหน เท่าที่ผมได้ยินมันไม่ใช่นะ” ชารุกพูดเสียงเรียบ กระตุกยิ้มที่มุมปากซ้ายด้วยความพอใจ
“ฉันถามจริงๆ เถอะคุณไปคว้าเด็กคนนี้มาจากไหน”
“กลับไปเถอะอัญ ผมต้องการพักผ่อน” เขาไล่เธออีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเฉยชา
“อัญไม่มีวันยอมแพ้หรอก อยู่ๆ คุณก็พามันมาเปิดตัว ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีวี่แววเลยว่าจะมีใคร คุณรู้จักมันไม่นานก็หลงมารยาของมันจนพามาอยู่ที่นี่ ผู้หญิงคนนี้มันจะเข้ามาปอกลอกคุณ คอยดูสิ”
“ไม่มีวัน แก้วไม่ใช่คนแบบนั้น” ชารุกพูดแล้วหันไปยิ้มให้กับกุสุมาแล้วโอบเอวเธอรั้งเข้ามาหาตัว
“แกหวังเงินทองของชารุกเท่านั้นสินะ เด็กขนาดนี้จะมาเป็นคนรักของเขาได้ยังไงกัน หรือจะบอกว่ารักเขาอย่างนั้นเหรอ” อัญรัตน์หันไปถามกุสุมาเสียงกร้าว
“ไม่ค่ะ” กุสุมาตอบแล้วยิ้มมองอัญรัตน์ตั้งแต่หัวจรดเท้า โดยใช้สายตาดูถูกอย่างในละครหลังข่าว รับบทนางเอกที่สู้คน
“ไม่ยุ่งเรื่องของคนอื่นสิคะคุณอัญ คุณเองที่เป็นฝ่ายทิ้งคุณชารุกไป แล้วตอนนี้จะมาทำตัวเป็นหมาหวงก้างไม่ได้นะคะ กลับไปเถอะค่ะ เลิกมารบกวนเวลาแห่งความสุขของพวกเราเสียที” หญิงสาวพูดออกมาแล้วเหยียดยิ้มให้น่าหมั่นไส้ที่สุด
“แก...”
“เราขึ้นไปอาบน้ำดีกว่าค่ะ เหนียวตัวมากแล้ว” กุสุมาคล้องแขนชารุกให้เขาเดินไปพร้อมกับเธอ ทิ้งให้อัญรัตน์ยืนกำมือตัวสั่นเทาด้วยความโกรธจัด
“คอยดูเถอะ ฉันจะกระชากหน้ากากของแกออกมาให้ได้” เธอพูดออกมาด้วยความเจ็บใจ แล้วยอมกลับออกไปเพราะอยู่ต่อก็คงไม่มีประโยชน์
**********************
ชารุกเดินออกมาจากห้องน้ำเห็นกุสุมากำลังหวีผมอยู่ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เขาเดินมาอยู่ด้านหลังของเธอแล้วเอามือวางบนไหล่ทั้งสองของหญิงสาว
“วันนี้คุณทำได้ดีมาก เห็นแบบนี้ก็ร้ายไม่เบานะ”
“แก้วตื่นเต้นแทบตายเลยค่ะ จำมาจากละครทั้งนั้น” เธอบอกเขาแล้วอมยิ้มหน่อยๆ รู้สึกตื่นเต้นกับแผงอกของเขาที่สะท้อนในกระจกตรงหน้าของตนเอง
“จะว่าไปทำไมคุณไม่ไล่เธอไปตรงๆ ล่ะคะ”
“ผมพูดแรงพูดตรงกับอัญไปทุกครั้ง แต่เธอก็ดูเหมือนว่าจะไม่สนใจและพยายามจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้ คุณก็น่าจะดูออกไม่ใช่เหรอว่าเธอพยายามแค่ไหน”
“แล้วคุณจะไปงานวันเกิดพ่อเธอไหมคะ”
“ก็คงต้องไปเพราะว่าครอบครัวของเธอก็มีหน้ามีตาพอสมควร หากผมไม่ไปก็คงจะดูเป็นการเสียมารยาท” ชารุกพูดด้วยความลำบากใจก่อนจะบางอย่างออกแล้วสบตากับกุสุมาผ่านกระจก
“จริงสิ คุณเรียนจบอะไรมา”
“แก้วจบแค่มัธยมปลายค่ะ ไม่ได้เรียนต่อเพราะไม่มีเงินเรียน ทำไมเหรอคะ” เธอถามด้วยความสงสัยว่าเขามีแผนจะทำอะไรอีก
“ผมอยากให้คุณไปช่วยงานของผม อยากให้เราตัวติดกันตลอดเวลา”
“ได้สิคะ แก้วเรียนรู้งานไว ถ้าคุณสอนแก้วรับรองว่าแก้วต้องทำได้แน่ๆ แก้วอยากทำงานที่เป็นงานจริงๆ งานที่ใช้สมองและความสามารถ” กุสุมาพูดด้วยความตื่นเต้น
“แล้วอย่ามาบ่นทีหลังว่างานหนักก็แล้วกัน” เขาบอกเธอแล้วค่อยๆ เลื่อนมือลูบไล้ที่ต้นแขนผ่านเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวที่เธอสวมใส่ แล้วเลื่อนมือลงไปที่เนินอกของเธอทำให้กุสุมาตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เขาต้องการกำลังจะเกิดขึ้น
“พร้อมแล้วใช่ไหม” เขาถามเสียงพร่าต่ำ ไม่อยากบังคับจิตใจใคร
“ค่ะ” เธอตอบแล้วก้มหน้าอย่างเอียงอาย
นายหัวหนุ่มจับเธอลุกขึ้นยืนหันหน้ามาทางจน กระตุกสายรัดเอวถอดชุดคลุมอาบน้ำของกุสุมาออกไป เผยให้เห็นรูปร่างที่หน้าเชยชมของเธอ แล้วชารุกก็ยิ้มด้วยความพอใจ
เขาดึงผ้าเช็ดตัวของตนออกไปให้ผลทาง รั้งเจ้าของร่างบางให้มารับจูบจากตน หญิงสาวอ่อนระทวยไปกับจูบที่วาบหวามนั้นแล้วกอดคล้องคอเขาเอาไว้
ชายหนุ่มจูบเธอจนพอใจ ดันตัวเธอถอยหลังไปที่เตียงนอนแล้วทิ้งตัวลงไปทาบทับเล้าโลมเธอด้วยสัมผัสและปลายลิ้นของตน จนหญิงสาวครางออกมาในลำคอเบาๆ แอ่นกายรับการปรนนิบัติจากเขาอย่างเต็มใจ
ชารุกคร่อมทับบนตัวเธอดำเนินบทรักอย่างนุ่มนวลและช่ำชอง สอดแทรกความเป็นชายเข้าไปแล้วโยกกายบดเบียดกันอย่างนุ่มนวลในตอนแรก แล้วจึงค่อยๆ ปล่อยหมัดเด็ดออกมามัดใจเธอด้วยการวาดลีลาที่แสนดุดัน
กุสุมาร้องครางเสียงหลง กอดเขาเอาไว้และใช้มือจิกแผ่นหลังเพื่อระบายความเสียวซ่านที่ได้รับ
“อย่าหยุดนะคะ” หญิงสาวครางกระเส่าข้างใบหูเรียกร้องให้เขากระทำเธออย่างลืมตัว
ร่างกายทั้งสองเคลื่อนเข้าหากันเป็นจังหวะที่แสนเร่าร้อนในหลายท่าทางที่ชารุกบรรจงมอบให้
บทรักในคืนนี้จะจบลงไปด้วยท่าที่เขาให้เธอคลานคุกเข่า กุสุมาตัวอ่อนลงไปภายใต้อ้อมแขนที่แข็งแกร่งของเขา ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลุกไปทำความสะอาดร่างกาย
ในขณะที่ฝ่ายชายนั้นยิ้มออกมาอย่างพอใจที่ได้เชยชมเธอหลังจากอดกลั้นมาหลายคืนแล้ว
**********************
ในตอนเช้ากุสุมาตื่นมาด้วยอาการปวดระบมที่สะโพก เมื่อคืนนี้ชารุกวาดลวดลายกับเธออย่างไม่รู้จักอิ่มจนตอนนี้เธอรู้สึกหน่วงอยู่ภายใน สายตาจับจ้องมองดูนายหัววัยสามสิบหกด้วยสายตาที่หลงใหลความใกล้ชิดและสิ่งที่เขาแสดงละครทำดีกับเธอ ประกอบกับบทรักที่เขามอบให้มันทำให้เธอรู้สึกดีกับเขาเป็นอย่างมาก แต่ก็เพียงรู้สึกดีเท่านั้น กุสุมาไม่กล้าที่จะคิดอะไรเกินเลยไปกว่านี้เพราะเขาชัดเจนแล้วว่าเธอจะได้รับสิทธิ์คนรักของเขาทุกอย่าง ยกเว้นความรักและการแต่งงานที่เขาจะไม่มีวันยกมันให้กับเธอ“คุณชารุกคะ ตื่นได้แล้วค่ะ” เธอปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาชารุกดึงเธอเข้าไปกอดแล้วลูบกลุ่มผมที่ตกลงมาบังแก้มของเธอด้วยความเอ็นดู “เมื่อคืนผมมีความสุขมาก”“ค่ะ” เธอตอบรับแล้วก้มลงยิ้มอย่างเอียงอาย“จริงสิคุณอายุเท่าไรแล้วถึงยี่สิบห้าหรือยัง” เขาถามเธอแล้วลูบไล้ที่ต้นแขน ตอนนี้มองเธอเป็นแค่ของเล่นชิ้นโปรดของตนเท่านั้น“แก้วอายุยี่สิบค่ะ อีกสามเดือนก็จะอายุยี่สิบเอ็ดแล้ว” เธอตอบเขาไปตามความจริงชารุกนิ่งอึ้งไปสักพักมองดูหญิงสาวตรงหน้าที่เขาคิดว่าเธอแค่หน้าเด็กมาโดยตลอดเลยไม่ฉุกใจคิดว่าเธออายุน้อยจริงๆ“สีหน้าคุณไม่ค่อยดีเลยนะคะ หรือ
ทันทีที่ประตูรั้วบ้านถูกเปิดออก รถชารุกก็แล่นเข้ามาจอดโดยมีรถของอัญรัตน์ขับตามเข้ามาติดๆ“นั่นรถของคุณอัญไม่ใช่เหรอคะ”“อืม อย่าลืมทำหน้าที่ของคุณให้ดีก็แล้วกัน” ชารุกย้ำด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด เมื่ออดีตคนรักยังพยายามที่จะมาตามตื๊อเขา ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขามีกุสุมาอยู่ข้างกายแล้วนายหัววัยสามสิบหกเดินลงจากรถแล้วอ้อมมาเปิดประตูให้กุสุมาด้วยสีหน้าที่ปรับเป็นนุ่มนวลและอบอุ่นจนเธอเผลอใจเต้นไปกับเขาไม่ได้อัญรัตน์ที่เดินลงมาจากรถเธอรีบตรงเข้าไปทักทายเขาแล้วมองกุสุมาที่คล้องแขนของเขาเอาไว้ด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“มีธุระอะไรกับผมหรือเปล่า”“อัญจะมาเรือนหอของเราไม่ได้เลยเหรอคะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่ยียวน ตั้งใจพูดให้กุสุมารู้ว่าเธอกับเขานั้นเคยมีความทรงจำร่วมกันที่นี่“คุณเข้าบ้านไปก่อนนะแก้ว” ชารุกหันไปพูดกับเธอเสียงนุ่มแล้วยิ้มให้เธอด้วยความอ่อนโยน ก่อนจะหันไปมองอัญรัตน์ด้วยสายตาที่แข็งกร้าว“ผมมีเรื่องต้องเคลียร์กับเธอนิดหน่อย” เขาพูดเสียงเข้ม“ถ้างั้นรีบตามมานะคะ แก้วจะขึ้นไปอาบน้ำรอคุณข้างบน” กุสุมาพูดแล้วอมยิ้มด้วยความกระดากในสิ่งที่ตนเองพูดไป แก้มของเธอแดงเรื่ออมยิ้มให้กับเขาอย่างมีความหมาย“
เมื่อกลับมาถึงฝั่งชารุกได้พากุสุมาไปที่รีสอร์ตริมทะเลของตนต่อเพราะไม่อยากเสียเวลาพาเธอย้อนกลับไปส่งบ้าน และอยากเปิดตัวเธอในฐานะคนรักของตนอย่างเป็นทางการ“ให้แก้วช่วยทำอะไรไหมคะ”“ช่วยนั่งเป็นกำลังใจให้ผมก็พอ” เขาพูดเป็นนัยถึงสิ่งที่พูดอยู่บนเกาะทำให้กุสุมายิ้มออกมาที่เขารู้จักพูดหยอกล้อกับเธอ“แล้วอย่าลืมนะว่าคุณอยู่ในฐานะคนรักของผม แค่ทำตัวให้ดูดีและแสดงความเป็นเจ้าของผมเท่านั้นก็พอ” เขาพูดตัดความหวังเธอด้วยการบอกว่าทั้งหมดมันคือหน้าที่ แล้วนั่งดูเอกสารที่วางบนโต๊ะในตอนนั้นเลขานุการของเขาก็เคาะห้องแล้วเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “นายหัวจะรับกาแฟเพิ่มไหมคะ”“ไม่ล่ะ แค่จะแวะมาเซ็นเอกสารเดี๋ยวก็กลับแล้ว”“แล้วแขกของนายหัวล่ะคะ” เธอถามแล้วหันมายิ้มให้กับกุสุมาเล็กน้อย“คุณจะรับน้ำส้มหรือกาแฟไหม” เขาหันมาถามเธอด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล“แก้วขอน้ำส้มก็ได้ค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นเอาน้ำส้มมาให้คุณแก้ว” ชารุกหันไปบอกกับเลขาของตนด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างกับที่พูดกับกุสุมา ทำให้เลขานุการสาวพอเดาออกว่าหญิงสาวคนนี้ต้องเป็นคนสำคัญของเจ้านายของตนแน่นอน“คุณต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอคะ” กุสุมาพูดกับเขาหลังจาก
ชารุกนำเรือเร็วส่วนตัวของตนเองขับพากุสุมาไปยังเกาะที่มีรีสอร์ตของครอบครัวที่ตอนนี้เขากำลังดูแลอยู่ระหว่างทางเขาได้พูดถึงน้องสาวของเขาให้กับเธอฟังคร่าวๆ ว่าชารียาเป็นคนที่หัวอ่อนและจิตใจดี ส่วนสามีของเธอก็เป็นคนดี ทั้งสองจึงไม่ค่อยทันคนและเขาจึงต้องยื่นมือมาช่วยเรื่องการบริหารทั้งๆ ที่แบ่งชัดเจนแล้วว่ารีสอร์ตบนเกาะนั้นให้เป็นความดูแลของน้องสาวและน้องเขยของเขาเองกุสุมาไม่เข้าใจว่าเขาจะเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังไปทำไม แต่ก็ต้องรับฟังเอาไว้เพราะคิดว่าเขาต้องมีเหตุผลที่เล่าแน่“ปัญหารำคาญใจทุกครั้งที่ผมต้องเข้ามาดูแลรีสอร์ตแห่งนี้ นั้นก็คือน้องสาวของภาคิน เธอชอบพอผมและชารียาเองก็เชียร์ให้ผมกับเธอลงเอยกัน” ชารุกเริ่มโยงมาถึงเรื่องที่เขาต้องการให้เธอช่วยแล้ว “ที่แท้ผู้หญิงอีกคนที่คุณต้องการให้ฉันมาแสดงตัวว่าเป็นคนรัก ก็คือน้องสาวของน้องเขยของคุณอย่างนั้นเหรอคะ”“ใช่แล้ว เพราะความใจอ่อนและขี้สงสารของน้องสาวผมนั่นแหละทำให้เธอต้องคอยช่วยเหลือผู้หญิงคนนั้นด้วยความเกรงใจ และผมเป็นคนที่รักน้องสาวมาก บางทีก็ปฏิเสธเธอไม่ได้ มันจึงทำให้ผมอึดอัดทุกครั้งที่มาที่นี่” ชารุกไม่อยากพูดให้ผู้หญิงดูไม่ดี แต่ห
หลังจากที่อัญรัตน์กลับไปแล้วชารุกก็ดูจะนิ่งเงียบและดูเคร่งขรึมไปกว่าเดิมจนกุสุมาไม่กล้าที่จะชวนเขาพูดคุย เธอจึงได้แต่ทานอาหารไปเงียบๆพอทานอาหารเสร็จแล้วเขาก็ยังคงทำหน้าเคร่งเครียดอยู่ เธอพอเดาได้จากบทสนทนาระหว่างเขากับอัญรัตน์ก่อนหน้านี้ ว่าเธอเคยเป็นคนรักของเขาที่เกือบจะได้หมั้นกันและเธอได้ทิ้งเขาไปในงานหมั้น แต่เธอคงจะไปไม่รอดจึงได้หวนกลับมาหาเขา“คุณขึ้นไปอาบน้ำเข้านอนก่อนเลยนะ” เขาบอกเธอเสียงเรียบแล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มด้านหลังชาวหนุ่มนำเครื่องดื่มออกมาเทดื่มด้วยความหงุดหงิดและอารมณ์เสีย กุสุมาจึงรีบลุกจากโต๊ะอาหารแล้วขึ้นห้องไปก่อนตามที่เขาบอกดูจากการที่เขาดื่มเหล้าเพื่อดับอารมณ์หงุดหงิด เธอจึงคิดเอาเองว่าเขาคงยังมีใจให้กับอัญรัตน์อยู่ แต่คงโกรธแค้นที่ตนเองถูกทิ้งไปจึงพาตัวเธอมาแก้แค้นผู้หญิงคนนั้นด้วยการบอกว่าเป็นคนรักของเขาเพื่อให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำชารุกเดิมเครื่องเดิมสีอำพันในมือด้วยความโกรธแค้น หลายต่อหลายครั้งที่อัญรัตน์มาตามตื้อขอคืนดีกับเขา เขาได้บอกเธอไปอย่างชัดเจนแล้วว่าทุกอย่างมันไม่สามารถกลับคืนไปเหมือนเดิมอีกแล้วทุกครั้งที่เจอหน้าเธอเขารู้สึกเจ็บใจในสิ่งที
ในตอนเย็นกุสุมาที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่นเธอได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาจอด จึงวางหนังสือลงเตรียมตัวลุกขึ้นไปต้อนรับเจ้าของบ้านแต่คนที่เดินเข้ามากลับเป็นหญิงสาวสวยคนหนึ่งที่แต่งตัวดูดีแต่งหน้าสวยจนกุสุมาแอบคิดว่าเธอเป็นดารา“ชารุกอยู่ไหม” เธอถามขึ้นแล้วปรายตามองมาที่กุสุมาอย่างไม่ชอบใจนักบุหงาที่เดินออกมาดูจึงยืมก้มหน้าอยู่ด้านหลังของกุสุมา ไม่ได้ตอบอะไรไปเพราะอัญรัตน์ถามกุสุมาไม่ได้ถามเธอ“ยังไม่กลับค่ะ” กุสุมาตอบแล้วส่งยิ้มให้อย่างสุภาพและเป็นมิตร“ดูจากการแต่งตัวแล้วเธอคงไม่ใช่คนรับใช้ของที่นี่” ฟังจากน้ำเสียงที่ดูเย่อหยิ่งและถือตัวของอีกฝ่ายทำให้กุสุมายกยิ้มขึ้นมา เข้าใจแล้วว่าเขาจ้างเธอมาเป็นคนรักเขาทำไม ที่แท้ก็คงเป็นเพราะมีผู้หญิงคนนี้นี่เอง“ตายจริง ฉันลืมแนะนำตัวไปเลย ฉันชื่อแก้วนะคะเป็นคนรักของคุณชารุก” กุสุมาแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานแล้วยิ้มให้กับอีกฝ่ายอัญรัตน์รู้สึกตกใจที่ได้ยินอย่างนั้น หากแต่เธอก็ไม่เชื่อและคิดว่าผู้หญิงคนนี้ก็คงเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่กำลังพยายามเข้าหาชารุกเหมือนกัน“เธอก็มารอชารุกเหมือนกันเหรอ ถึงได้ออกมาต้อนรับฉันเพราะคิดว่าเป็นเขาสินะ”“







