Войтиเมื่อกลับมาถึงฝั่งชารุกได้พากุสุมาไปที่รีสอร์ตริมทะเลของตนต่อเพราะไม่อยากเสียเวลาพาเธอย้อนกลับไปส่งบ้าน และอยากเปิดตัวเธอในฐานะคนรักของตนอย่างเป็นทางการ
“ให้แก้วช่วยทำอะไรไหมคะ”
“ช่วยนั่งเป็นกำลังใจให้ผมก็พอ” เขาพูดเป็นนัยถึงสิ่งที่พูดอยู่บนเกาะทำให้กุสุมายิ้มออกมาที่เขารู้จักพูดหยอกล้อกับเธอ
“แล้วอย่าลืมนะว่าคุณอยู่ในฐานะคนรักของผม แค่ทำตัวให้ดูดีและแสดงความเป็นเจ้าของผมเท่านั้นก็พอ” เขาพูดตัดความหวังเธอด้วยการบอกว่าทั้งหมดมันคือหน้าที่ แล้วนั่งดูเอกสารที่วางบนโต๊ะ
ในตอนนั้นเลขานุการของเขาก็เคาะห้องแล้วเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “นายหัวจะรับกาแฟเพิ่มไหมคะ”
“ไม่ล่ะ แค่จะแวะมาเซ็นเอกสารเดี๋ยวก็กลับแล้ว”
“แล้วแขกของนายหัวล่ะคะ” เธอถามแล้วหันมายิ้มให้กับกุสุมาเล็กน้อย
“คุณจะรับน้ำส้มหรือกาแฟไหม” เขาหันมาถามเธอด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
“แก้วขอน้ำส้มก็ได้ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเอาน้ำส้มมาให้คุณแก้ว” ชารุกหันไปบอกกับเลขาของตนด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างกับที่พูดกับกุสุมา ทำให้เลขานุการสาวพอเดาออกว่าหญิงสาวคนนี้ต้องเป็นคนสำคัญของเจ้านายของตนแน่นอน
“คุณต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอคะ” กุสุมาพูดกับเขาหลังจากที่เลขานุการออกไปแล้ว ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะทำเหมือนว่าเธอเป็นคนรักของเขาจริงจังขนาดนี้
“อย่าบอกนะคะว่าที่นี่มีผู้หญิงที่มากวนใจคุณอีกคน”
“อย่าใช้คำว่าอีกคนเลย หลายคนเลยแหละ เพียงแต่ว่าหลักๆ คือสองคนนั้น ส่วนคนอื่นๆ ก็ไม่ถือเป็นปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น” เขาพูดออกมาตามตรง เขาไม่ใช่ผู้ชายที่เอาผู้หญิงมาพูดนินทาลับหลัง เพียงแต่บอกถึงสถานการณ์ที่ตนเองเจอให้กับเธอฟังก็เท่านั้น
“อย่าบอกนะคะ ว่าเลขาของคุณก็เป็นหนึ่งในนั้น” เธอถามแล้วทำตาโต
“ใช่ และคนอื่นๆ ที่อยากเป็นนายหญิงของที่นี่” เขาตอบคำถามแล้วมองเธอเป็นนัยว่าจะถามหรือพูดอะไรเขาอีก
“จริงสิคะ ฉันอยากได้โทรศัพท์ราคาถูกๆ สักสองเครื่องจะได้หรือเปล่าคะ”
“ได้สิเดี๋ยวเสร็จจากนี่ผมพาคุณไปซื้อ”
“ฉันจะซื้อโทรศัพท์แล้วส่งให้พ่อแม่เครื่องหนึ่ง เอาไว้ติดต่อฉัน” เธออธิบายให้เขาฟังถึงเหตุผลที่ต้องการสองเครื่อง
“จริงๆ คุณไม่ต้องอธิบายให้ผมฟังหรอก อยากทำอะไรก็ทำไปเลย”
“ฉันก็แค่อยากให้คุณรู้ว่าฉันจะเอาเงินของคุณไปใช้ทำอะไรก็เท่านั้น”
“เอาเถอะ เอาเป็นว่าได้เงินผมไปเท่าไหร่ก็ตอบแทนผมให้มีความสุขเท่านั้นก็แล้วกัน” ชารุกพูดแล้วยกยิ้มมีเลศนัยทำให้เธออดที่จะหน้าแดงเรื่อ รู้ความหมายของเขาดีว่าอย่างไรคืนนี้ก็คงจะมีอะไรเกิดขึ้น หลังจากที่เขาให้เธอเตรียมใจมาหลายวัน
“มานี่สิ” เขาเรียกเธอให้เข้าไปหา
กุสุมางงเล็กน้อยแต่ก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปหาเขาแต่โดยดี เขาดึงเธอลงไปนั่งที่ตัก ทำให้เธอประหม่าเล็กน้อยเมื่อใกล้ชิดกับเขาอย่างนั้น
“คุณจะทำอะไรคะ” กุสุมาถามเสียงสั่นด้วยความประหม่า เพราะตอนนี้เธอกำลังรู้สึกได้ว่าก้นของเธอสัมผัสอะไรบางอย่างที่แข็งแกร่งอยู่
“คอยดูก็แล้วกัน” เขาพูดแล้วเชยคางเธอขึ้นมาสบตา กุสุมามองแววตาปรารถนาของเขาด้วยความตื่นเต้น
เมื่อเช้าเขายังดูเป็นชารุกคนเคร่งขรึม พอกลับมาจากเกาะก็กลายเป็นชารุกที่ดูขี้เล่นและอารมณ์ดี ทำให้เธอทำตัวไม่ถูก
เขาประทับจูบที่ริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา ในตอนนั้นประตูห้องถูกเคาะและตามมาด้วยเสียงเปิดประตูของเลขานุการสาวของเขา
กุสุมาดันตัวเขาออกด้วยความตกใจ ขณะที่อิงอรยืนอึ้งเมื่อเห็นว่าเจ้านายของตนกำลังจูบอยู่กับผู้หญิงที่เขาพามาด้วย
“ขอโทษค่ะนายหัว”
“วันหลังถ้าเคาะห้องแล้วรอให้ผมอนุญาตก่อนถึงเข้ามา” เขาบอกเธอเสียงเรียบ ยังคงรั้งกุสุมาให้นั่งบนตักของตน
“ค่ะ” เลขานุการสาวรีบละล่ำละลักพูด วางแก้วน้ำส้มลงที่โต๊ะรับแขกแล้วออกไปจากห้องโดยทันที
ชารุกดันตัวของกุสุมาออกไปแล้วยิ้มให้กับเธอ ทำให้หญิงสาวพึ่งนึกได้ว่าที่เขาทำไปทั้งหมดก็เป็นแค่การแสดงละครหลอกคนของเขาก็เท่านั้น
‘นั่นสินะ มันก็ต้องเป็นแค่นั้นอยู่แล้ว’
**********************
กุสุมาเลือกโทรศัพท์รุ่นธรรมดาและราคาถูกที่สุด เธอเลือกแบบปุ่มกดที่มีตัวเลขขนาดใหญ่เพื่อให้พ่อกับแม่ใช้งานได้สะดวก แม้ชารุกไม่ยอมให้เธอใช้โทรศัพท์ที่ตกรุ่นแบบนั้น แต่เธอก็ยืนกรานที่จะใช้แบบนี้
“แต่ว่าคุณคือคนรักของผม ขืนใช้แบบนี้ผมก็ขายหน้าแย่นะสิ”
“แต่ว่าแก้วเกรงใจ” เธอบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเกรงใจและยืนยันที่จะเลือกรุ่นปุ่มกดให้ได้
“เอาอย่างนี้ ของคุณใช้ตัวนี้รุ่นใหม่ล่าสุด ส่วนของพ่อกับแม่คุณถ้ากลัวมันหายก็ใช้แบบปุ่มกดก็ได้ ถ้าหายก็จะได้ไม่ต้องไปเสียดายมัน” เขาเป็นคนตัดสินใจแทนเธอ ทำให้กุสุมาต้องตามใจเขา
เมื่อได้โทรศัพท์มาแล้วกุสุมาก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสกับโทรศัพท์ที่ราคาแพงแบบนี้ “ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ที่คุณใจดีกับฉันขนาดนี้”
“อย่าลืมสิว่าผมจ้างคุณมาทำอะไร คนอย่างผมคิดจะทำอะไรก็ต้องทำให้ดีที่สุด คุณเองก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเหมือนกัน” ชารุกพูดขณะที่ขับรถไปด้วย
“แล้วเรื่อง เอ่อ ที่ฉันนอนห้องเดียวกับคุณ คุณแค่แสดงให้คนในบ้านเข้าใจอย่างนั้น” เธอตัดสินใจถามเขาตรงๆ ไม่อยากคิดไปเองและจะได้เตรียมตัวรับมือกับเขาถูก
“ผมบอกแล้วไงว่าคนอย่างผมทำอะไรก็ต้องเต็มที่และสมจริง”
“แก้วไม่เข้าใจค่ะ” เธอบอกไปตามตรง ต้องการความชัดเจนจากเขา
“คนรักกัน เขาทำอะไรกันบ้าง ผมก็จะทำอย่างนั้นกับคุณ ยกเว้นความรักและการแต่งงานเท่านั้นที่คุณจะไม่มีวันได้รับจากผม ทีนี้เข้าใจหรือยัง” เขาบอกเธอเสียงเรียบ
“ค่ะ แก้วเข้าใจแล้ว” เธอตอบเขาเสียงเบา เข้าใจชัดเจนแล้วว่าตัวเองอยู่ในสถานะแบบไหน
“อย่าลืมสิว่าผมหมดเงินไปกับคุณเท่าไร คิดเสียว่ามันเป็นแค่งานงานหนึ่งของคุณก็แล้วกัน คุณอาจจะไม่มีอิสระจากผม แต่ว่าอย่างน้อยก็ดีกว่าคุณทำงานที่นั่น” เขาพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาตรงๆ
“ค่ะ แก้วเข้าใจ ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วยแก้วออกมา อยู่กับคุณแก้วไม่ได้รู้สึกว่าขาดอิสรภาพเลยสักนิด” เธอบอกเขาอย่างเอาใจ
“คุณเป็นฝ่ายป้องกันนะ ผมลืมบอกไป” เขาพูดเป็นนัยว่าให้เธอเป็นฝ่ายคุมกำเนิด
“เอ่อ ค่ะ” กุสุมาหน้าแดงเรื่อ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการขายศักดิ์ศรีของตนเอง แต่ว่าผลตอบแทนที่ได้รับจากเขามันก็สมน้ำสมเนื้อ และอย่างที่เขาพูด เธออยู่กับเขาดีกว่าตกนรกที่นั่น
สิ่งที่เกิดขึ้นแม้จะไม่ได้เกิดจากความรัก แต่มันก็เกิดจากความเต็มใจของเธอ เขาทั้งไถ่ตัวเธอออกมา ให้ใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย ให้เกียรติเธอต่อหน้าคนอื่น แม้มันจะเป็นแค่การแสดงละครตบตาก็ตาม
แต่สิ่งที่เขาทำให้มันก็เกินกว่าที่คิดเอาไว้ มันทำให้เธอต้องยอมทำตามข้อเสนอของเขาอย่างเต็มใจ แม้จะไม่ต่างจากการขายตัวก็ตาม
**********************
ในตอนเช้ากุสุมาตื่นมาด้วยอาการปวดระบมที่สะโพก เมื่อคืนนี้ชารุกวาดลวดลายกับเธออย่างไม่รู้จักอิ่มจนตอนนี้เธอรู้สึกหน่วงอยู่ภายใน สายตาจับจ้องมองดูนายหัววัยสามสิบหกด้วยสายตาที่หลงใหลความใกล้ชิดและสิ่งที่เขาแสดงละครทำดีกับเธอ ประกอบกับบทรักที่เขามอบให้มันทำให้เธอรู้สึกดีกับเขาเป็นอย่างมาก แต่ก็เพียงรู้สึกดีเท่านั้น กุสุมาไม่กล้าที่จะคิดอะไรเกินเลยไปกว่านี้เพราะเขาชัดเจนแล้วว่าเธอจะได้รับสิทธิ์คนรักของเขาทุกอย่าง ยกเว้นความรักและการแต่งงานที่เขาจะไม่มีวันยกมันให้กับเธอ“คุณชารุกคะ ตื่นได้แล้วค่ะ” เธอปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาชารุกดึงเธอเข้าไปกอดแล้วลูบกลุ่มผมที่ตกลงมาบังแก้มของเธอด้วยความเอ็นดู “เมื่อคืนผมมีความสุขมาก”“ค่ะ” เธอตอบรับแล้วก้มลงยิ้มอย่างเอียงอาย“จริงสิคุณอายุเท่าไรแล้วถึงยี่สิบห้าหรือยัง” เขาถามเธอแล้วลูบไล้ที่ต้นแขน ตอนนี้มองเธอเป็นแค่ของเล่นชิ้นโปรดของตนเท่านั้น“แก้วอายุยี่สิบค่ะ อีกสามเดือนก็จะอายุยี่สิบเอ็ดแล้ว” เธอตอบเขาไปตามความจริงชารุกนิ่งอึ้งไปสักพักมองดูหญิงสาวตรงหน้าที่เขาคิดว่าเธอแค่หน้าเด็กมาโดยตลอดเลยไม่ฉุกใจคิดว่าเธออายุน้อยจริงๆ“สีหน้าคุณไม่ค่อยดีเลยนะคะ หรือ
ทันทีที่ประตูรั้วบ้านถูกเปิดออก รถชารุกก็แล่นเข้ามาจอดโดยมีรถของอัญรัตน์ขับตามเข้ามาติดๆ“นั่นรถของคุณอัญไม่ใช่เหรอคะ”“อืม อย่าลืมทำหน้าที่ของคุณให้ดีก็แล้วกัน” ชารุกย้ำด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด เมื่ออดีตคนรักยังพยายามที่จะมาตามตื๊อเขา ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขามีกุสุมาอยู่ข้างกายแล้วนายหัววัยสามสิบหกเดินลงจากรถแล้วอ้อมมาเปิดประตูให้กุสุมาด้วยสีหน้าที่ปรับเป็นนุ่มนวลและอบอุ่นจนเธอเผลอใจเต้นไปกับเขาไม่ได้อัญรัตน์ที่เดินลงมาจากรถเธอรีบตรงเข้าไปทักทายเขาแล้วมองกุสุมาที่คล้องแขนของเขาเอาไว้ด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“มีธุระอะไรกับผมหรือเปล่า”“อัญจะมาเรือนหอของเราไม่ได้เลยเหรอคะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่ยียวน ตั้งใจพูดให้กุสุมารู้ว่าเธอกับเขานั้นเคยมีความทรงจำร่วมกันที่นี่“คุณเข้าบ้านไปก่อนนะแก้ว” ชารุกหันไปพูดกับเธอเสียงนุ่มแล้วยิ้มให้เธอด้วยความอ่อนโยน ก่อนจะหันไปมองอัญรัตน์ด้วยสายตาที่แข็งกร้าว“ผมมีเรื่องต้องเคลียร์กับเธอนิดหน่อย” เขาพูดเสียงเข้ม“ถ้างั้นรีบตามมานะคะ แก้วจะขึ้นไปอาบน้ำรอคุณข้างบน” กุสุมาพูดแล้วอมยิ้มด้วยความกระดากในสิ่งที่ตนเองพูดไป แก้มของเธอแดงเรื่ออมยิ้มให้กับเขาอย่างมีความหมาย“
เมื่อกลับมาถึงฝั่งชารุกได้พากุสุมาไปที่รีสอร์ตริมทะเลของตนต่อเพราะไม่อยากเสียเวลาพาเธอย้อนกลับไปส่งบ้าน และอยากเปิดตัวเธอในฐานะคนรักของตนอย่างเป็นทางการ“ให้แก้วช่วยทำอะไรไหมคะ”“ช่วยนั่งเป็นกำลังใจให้ผมก็พอ” เขาพูดเป็นนัยถึงสิ่งที่พูดอยู่บนเกาะทำให้กุสุมายิ้มออกมาที่เขารู้จักพูดหยอกล้อกับเธอ“แล้วอย่าลืมนะว่าคุณอยู่ในฐานะคนรักของผม แค่ทำตัวให้ดูดีและแสดงความเป็นเจ้าของผมเท่านั้นก็พอ” เขาพูดตัดความหวังเธอด้วยการบอกว่าทั้งหมดมันคือหน้าที่ แล้วนั่งดูเอกสารที่วางบนโต๊ะในตอนนั้นเลขานุการของเขาก็เคาะห้องแล้วเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “นายหัวจะรับกาแฟเพิ่มไหมคะ”“ไม่ล่ะ แค่จะแวะมาเซ็นเอกสารเดี๋ยวก็กลับแล้ว”“แล้วแขกของนายหัวล่ะคะ” เธอถามแล้วหันมายิ้มให้กับกุสุมาเล็กน้อย“คุณจะรับน้ำส้มหรือกาแฟไหม” เขาหันมาถามเธอด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล“แก้วขอน้ำส้มก็ได้ค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นเอาน้ำส้มมาให้คุณแก้ว” ชารุกหันไปบอกกับเลขาของตนด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างกับที่พูดกับกุสุมา ทำให้เลขานุการสาวพอเดาออกว่าหญิงสาวคนนี้ต้องเป็นคนสำคัญของเจ้านายของตนแน่นอน“คุณต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอคะ” กุสุมาพูดกับเขาหลังจาก
ชารุกนำเรือเร็วส่วนตัวของตนเองขับพากุสุมาไปยังเกาะที่มีรีสอร์ตของครอบครัวที่ตอนนี้เขากำลังดูแลอยู่ระหว่างทางเขาได้พูดถึงน้องสาวของเขาให้กับเธอฟังคร่าวๆ ว่าชารียาเป็นคนที่หัวอ่อนและจิตใจดี ส่วนสามีของเธอก็เป็นคนดี ทั้งสองจึงไม่ค่อยทันคนและเขาจึงต้องยื่นมือมาช่วยเรื่องการบริหารทั้งๆ ที่แบ่งชัดเจนแล้วว่ารีสอร์ตบนเกาะนั้นให้เป็นความดูแลของน้องสาวและน้องเขยของเขาเองกุสุมาไม่เข้าใจว่าเขาจะเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังไปทำไม แต่ก็ต้องรับฟังเอาไว้เพราะคิดว่าเขาต้องมีเหตุผลที่เล่าแน่“ปัญหารำคาญใจทุกครั้งที่ผมต้องเข้ามาดูแลรีสอร์ตแห่งนี้ นั้นก็คือน้องสาวของภาคิน เธอชอบพอผมและชารียาเองก็เชียร์ให้ผมกับเธอลงเอยกัน” ชารุกเริ่มโยงมาถึงเรื่องที่เขาต้องการให้เธอช่วยแล้ว “ที่แท้ผู้หญิงอีกคนที่คุณต้องการให้ฉันมาแสดงตัวว่าเป็นคนรัก ก็คือน้องสาวของน้องเขยของคุณอย่างนั้นเหรอคะ”“ใช่แล้ว เพราะความใจอ่อนและขี้สงสารของน้องสาวผมนั่นแหละทำให้เธอต้องคอยช่วยเหลือผู้หญิงคนนั้นด้วยความเกรงใจ และผมเป็นคนที่รักน้องสาวมาก บางทีก็ปฏิเสธเธอไม่ได้ มันจึงทำให้ผมอึดอัดทุกครั้งที่มาที่นี่” ชารุกไม่อยากพูดให้ผู้หญิงดูไม่ดี แต่ห
หลังจากที่อัญรัตน์กลับไปแล้วชารุกก็ดูจะนิ่งเงียบและดูเคร่งขรึมไปกว่าเดิมจนกุสุมาไม่กล้าที่จะชวนเขาพูดคุย เธอจึงได้แต่ทานอาหารไปเงียบๆพอทานอาหารเสร็จแล้วเขาก็ยังคงทำหน้าเคร่งเครียดอยู่ เธอพอเดาได้จากบทสนทนาระหว่างเขากับอัญรัตน์ก่อนหน้านี้ ว่าเธอเคยเป็นคนรักของเขาที่เกือบจะได้หมั้นกันและเธอได้ทิ้งเขาไปในงานหมั้น แต่เธอคงจะไปไม่รอดจึงได้หวนกลับมาหาเขา“คุณขึ้นไปอาบน้ำเข้านอนก่อนเลยนะ” เขาบอกเธอเสียงเรียบแล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มด้านหลังชาวหนุ่มนำเครื่องดื่มออกมาเทดื่มด้วยความหงุดหงิดและอารมณ์เสีย กุสุมาจึงรีบลุกจากโต๊ะอาหารแล้วขึ้นห้องไปก่อนตามที่เขาบอกดูจากการที่เขาดื่มเหล้าเพื่อดับอารมณ์หงุดหงิด เธอจึงคิดเอาเองว่าเขาคงยังมีใจให้กับอัญรัตน์อยู่ แต่คงโกรธแค้นที่ตนเองถูกทิ้งไปจึงพาตัวเธอมาแก้แค้นผู้หญิงคนนั้นด้วยการบอกว่าเป็นคนรักของเขาเพื่อให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำชารุกเดิมเครื่องเดิมสีอำพันในมือด้วยความโกรธแค้น หลายต่อหลายครั้งที่อัญรัตน์มาตามตื้อขอคืนดีกับเขา เขาได้บอกเธอไปอย่างชัดเจนแล้วว่าทุกอย่างมันไม่สามารถกลับคืนไปเหมือนเดิมอีกแล้วทุกครั้งที่เจอหน้าเธอเขารู้สึกเจ็บใจในสิ่งที
ในตอนเย็นกุสุมาที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่นเธอได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาจอด จึงวางหนังสือลงเตรียมตัวลุกขึ้นไปต้อนรับเจ้าของบ้านแต่คนที่เดินเข้ามากลับเป็นหญิงสาวสวยคนหนึ่งที่แต่งตัวดูดีแต่งหน้าสวยจนกุสุมาแอบคิดว่าเธอเป็นดารา“ชารุกอยู่ไหม” เธอถามขึ้นแล้วปรายตามองมาที่กุสุมาอย่างไม่ชอบใจนักบุหงาที่เดินออกมาดูจึงยืมก้มหน้าอยู่ด้านหลังของกุสุมา ไม่ได้ตอบอะไรไปเพราะอัญรัตน์ถามกุสุมาไม่ได้ถามเธอ“ยังไม่กลับค่ะ” กุสุมาตอบแล้วส่งยิ้มให้อย่างสุภาพและเป็นมิตร“ดูจากการแต่งตัวแล้วเธอคงไม่ใช่คนรับใช้ของที่นี่” ฟังจากน้ำเสียงที่ดูเย่อหยิ่งและถือตัวของอีกฝ่ายทำให้กุสุมายกยิ้มขึ้นมา เข้าใจแล้วว่าเขาจ้างเธอมาเป็นคนรักเขาทำไม ที่แท้ก็คงเป็นเพราะมีผู้หญิงคนนี้นี่เอง“ตายจริง ฉันลืมแนะนำตัวไปเลย ฉันชื่อแก้วนะคะเป็นคนรักของคุณชารุก” กุสุมาแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานแล้วยิ้มให้กับอีกฝ่ายอัญรัตน์รู้สึกตกใจที่ได้ยินอย่างนั้น หากแต่เธอก็ไม่เชื่อและคิดว่าผู้หญิงคนนี้ก็คงเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่กำลังพยายามเข้าหาชารุกเหมือนกัน“เธอก็มารอชารุกเหมือนกันเหรอ ถึงได้ออกมาต้อนรับฉันเพราะคิดว่าเป็นเขาสินะ”“







