Войтиในตอนเช้ากุสุมาตื่นมาด้วยอาการปวดระบมที่สะโพก เมื่อคืนนี้ชารุกวาดลวดลายกับเธออย่างไม่รู้จักอิ่มจนตอนนี้เธอรู้สึกหน่วงอยู่ภายใน สายตาจับจ้องมองดูนายหัววัยสามสิบหกด้วยสายตาที่หลงใหล
ความใกล้ชิดและสิ่งที่เขาแสดงละครทำดีกับเธอ ประกอบกับบทรักที่เขามอบให้มันทำให้เธอรู้สึกดีกับเขาเป็นอย่างมาก แต่ก็เพียงรู้สึกดีเท่านั้น กุสุมาไม่กล้าที่จะคิดอะไรเกินเลยไปกว่านี้เพราะเขาชัดเจนแล้วว่าเธอจะได้รับสิทธิ์คนรักของเขาทุกอย่าง ยกเว้นความรักและการแต่งงานที่เขาจะไม่มีวันยกมันให้กับเธอ
“คุณชารุกคะ ตื่นได้แล้วค่ะ” เธอปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมา
ชารุกดึงเธอเข้าไปกอดแล้วลูบกลุ่มผมที่ตกลงมาบังแก้มของเธอด้วยความเอ็นดู “เมื่อคืนผมมีความสุขมาก”
“ค่ะ” เธอตอบรับแล้วก้มลงยิ้มอย่างเอียงอาย
“จริงสิคุณอายุเท่าไรแล้วถึงยี่สิบห้าหรือยัง” เขาถามเธอแล้วลูบไล้ที่ต้นแขน ตอนนี้มองเธอเป็นแค่ของเล่นชิ้นโปรดของตนเท่านั้น
“แก้วอายุยี่สิบค่ะ อีกสามเดือนก็จะอายุยี่สิบเอ็ดแล้ว” เธอตอบเขาไปตามความจริง
ชารุกนิ่งอึ้งไปสักพักมองดูหญิงสาวตรงหน้าที่เขาคิดว่าเธอแค่หน้าเด็กมาโดยตลอดเลยไม่ฉุกใจคิดว่าเธออายุน้อยจริงๆ
“สีหน้าคุณไม่ค่อยดีเลยนะคะ หรือว่าคุณกังวลว่าฉันเด็กไปจะทำหน้าที่คนรักได้ไม่ดี” เธอถามเขาด้วยความเป็นกังวล
“ผมคิดว่าคุณจะอายุมากกว่านี้เสียอีก นี่เราห่างกันตั้งสิบหกปีเลยเหรอ มิน่าล่ะอัญถึงไม่เชื่อว่าคุณกับผมเป็นคนรักกัน”
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ถึงแก้วจะอายุยังน้อยแต่คุณก็เห็นแล้วนี่คะว่าฝีมือของแก้วเป็นยังไง เชื่อใจแก้วเถอะค่ะคุณเลือกคนไม่ผิดหรอก” กุสุมาบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่สดใส
“อืม นั่นสินะ” ชารุกพยักหน้าน้อยๆ คิดว่าก็ดีที่ตัวเองได้คู่นอนวัยอ่อนแบบนี้ มันรู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาก
“แล้วระหว่างอัญกับณี คุณคิดว่าคนไหนจะรับมือง่ายกว่า”
“สำหรับแก้วแล้วคุณอัญเธอร้ายแบบเปิดเผยรับมือง่ายกว่าแน่นอนอยู่แล้วค่ะ แต่สำหรับคุณณีเธอดูมีความแอบร้ายอยู่ลึกๆ คนแบบนี้แก้วเดาทางไม่ออกเลยค่ะว่าเธอจะมาไม้ไหน แต่เท่าที่คุณเล่ามา แก้วคิดว่าเธอน่าจะใช้ความใจอ่อนของคุณชารียาเป็นเครื่องมือในการเข้าหาคุณ ซึ่งความยากจะอยู่ตรงนี้”
ชารุกยิ้มอย่างพอใจที่หญิงสาวตรงหน้าคาดเดาทุกอย่างอย่างมีเหตุผลตรงกับที่เขาคิดเอาไว้ไม่มีผิด
“วันไหนผมว่างจะพาคุณไปซื้อชุดใหม่ก็แล้วกัน” เขาพูดพลางเขี่ยไรผมเธอเล่น
“แต่ที่คุณซื้อให้แก้วก็เยอะแล้วนะคะ”
“ผมหมายถึงชุดทำงานต่างหากล่ะ อย่างน้อยใส่ชุดที่เป็นทางการก็ทำให้คุณดูมีอายุและน่าเชื่อถือขึ้น จะได้เหมาะสมกับการเป็นคนรักของผมหน่อย”
“ยังไงก็ได้ค่ะ แก้วตามใจคุณ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานแล้วดันตัวให้เขาลุกขึ้นไปอาบน้ำ
ชารุกยิ้มอย่างพอใจกับการถูกเอาใจในครั้งนี้แล้ว เขาลุกขึ้นไปที่ห้องน้ำอย่างอารมณ์ดี กุสุมามองแผ่นหลังที่มีกล้ามเนื้อของเขา แอบคิดในใจว่าหากเธอตกหลุมรักเขาขึ้นมาในสักวันเธอจะทำอย่างไรดี
“ถ้าในละคร นางเอกตกเป็นของพระเอกในครั้งแรกก็จะมีใจให้ แล้วในชีวิตจริงฉันจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่า แต่หากมันเกิดขึ้นกับฉันจริง ฉันก็เป็นเพียงแค่ตัวประกอบที่แสดงเป็นคนรักของพระเอกก็เท่านั้นสินะ” กุสุมาพึมพำออกมาปลอบใจตัวเอง ก่อนที่จะลงไปข้างล่างเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้เขาและฝากให้บุหงาทำธุระให้เธอ
**********************
ในตอนสายบุหงากลับมาจากไปตลาดและแวะทำธุระให้กับกุสุมา เธอเดินเข้ามานำของที่กุสุมาฝากซื้อมาให้ด้วยรอยยิ้มที่หยอกล้อ
“นี่ค่ะ ยาคุมกำเนิดที่คุณแก้วฝากพี่ซื้อ ทั้งแบบฉุกเฉินและแบบปกติ ส่วนนี่ใบเสร็จค่าส่งพัสดุที่คุณแก้วฝากให้พี่ไปส่ง เรียบร้อยดีใช่ไหมคะ”
“ขอบคุณพี่บุหงามากเลยนะที่ช่วยเป็นธุระให้ฉัน เงินทอนนี้พี่เก็บไว้เลยนะฉันยกให้”
“ใจดีจังเลยนะคะ คุณแก้ว” เสียงของภาวิณีดังขึ้นมาทำให้บุหงาต้องเลี่ยงออกไปเพื่อเตรียมน้ำมารับรองแขก
“สวัสดีค่ะคุณชารียา คุณณี มาหาคุณชารุกเหรอคะ”
“ใช่แล้วค่ะ” ชารียาตอบด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร
“คุณชารุกออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ”
“ฉันทราบดีค่ะ พี่ชารุกนัดเราทานอาหารกลางวันที่นี่ ก็เลยมารอ” ภาวิณีพูดขึ้นมาเสียงเรียบแล้วมองกล่องยาคุมกำเนิดในมือของกุสุมาด้วยความไม่พอใจ
ชารียาเองก็สังเกตว่ากุสุมาซื้อยาคุมกำเนิด ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่ว่าเธอเป็นผู้หญิงของชารุกและพักอยู่ด้วยกันที่นี่มันก็คงไม่เกินจริง ทำให้แอบลอบยิ้มอย่างพอใจและหันไปมองหน้าภาวิณีที่ตอนนี้คงอยากกรีดร้องแต่ก็ไม่สามารถทำได้
“พี่บุหงาพึ่งกลับมาจากตลาด ถ้าอย่างนั้นพวกคุณนั่งรอที่นี่ก่อนนะคะ แก้วขอตัวเข้าไปช่วยในครัวก่อนอาหารจะได้เสร็จเร็วๆ” กุสุมาบอกด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ
ตั้งใจถือกล่องยาคุมกำเนิดเดินผ่านหน้าภาวิณีไปแล้วยิ้มให้เล็กน้อย เป็นนัยว่าเธอกับชารุกมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นต่อกัน
“พี่ต้องช่วยณีนะคะ เห็นนังเด็กนั่นไหม มันถือยาคุมเดินไปทั่วบ้าน คงตั้งใจแสดงตัวว่าเป็นเมียพี่ชารุก”
“จะทำอย่างไรได้ล่ะ ณีอยากมาให้เห็นกับตาพี่ก็พามาแล้วนี่ไง แก้วเขาอยู่ที่นี่กับพี่ชารุกจริงๆ พี่ว่าณีตัดใจเถอะ”
“ไม่มีทางค่ะ ผู้หญิงคนนี้ต้องเข้ามาที่นี่ด้วยจุดประสงค์ที่ไม่ดีแน่ เธอต้องการจับพี่ชารุก” ภาวิณียังไม่ยอมแพ้ แสดงความเอาแต่ใจออกมาด้วยความริษยาที่มีต่อกุสุมา
“ไม่หรอกพี่ว่าณีคิดมากไป ถ้าเธอคิดจะจับพี่ชารุกจริงๆ เธอคงไม่ซื้อยาคุมกำเนิดมาทานหรอกค่ะ คงปล่อยให้ตัวเองท้องเพื่อเร่งให้พี่ชารุกรีบแต่งงานกับเธอมากกว่า” ชารียาออกความเห็นอย่างที่คิด
เมื่อได้ยินอย่างนั้นภาวิณีก็ชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจ เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าชารียานั้นเริ่มแสดงออกมาแล้วว่าไม่เต็มใจจะช่วยเหลือเธอ
“ตราบใดที่ทั้งสองคนนี้ไม่ได้แต่งงานกัน ณีก็ยังถือว่ามีหวัง มันอยู่ที่พี่ชารียาจะเต็มใจช่วยณีหรือเปล่าก็เท่านั้น พี่ก็รู้ว่าพี่ชารุกรักและตามใจพี่มากแค่ไหน แค่พี่บอกให้พี่ชารุกเลิกกับมัน ทุกอย่างก็จบแล้ว ” ภาวิณีพูดเหมือนเด็กที่เอาแต่ใจ
“แต่ถ้าทำอย่างนั้น พี่ชารุกนอกจากจะไม่ฟังแล้ว เขาอาจจะโกรธพี่จนไม่ไปเหยียบที่เกาะอีก พี่รู้จักนิสัยพี่ชายตัวเองดี พี่ชารุกไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายเรื่องส่วนตัว พี่ว่าณีใจเย็นก่อนเถอะ” ชารียาได้แต่พูดให้เธอใจเย็นลง
เธอไม่อยากพูดขัดใจอะไรอีกฝ่ายในตอนนี้ เพราะคนอย่างภาวิณีถ้าไม่พอใจอะไรก็จะแสดงความร้ายกาจและสร้างความวุ่นวายให้อย่างไม่รู้จบ
แม้เคยพูดกับสามีเรื่องให้ส่งตัวน้องสาวกลับไปหลายครั้ง แต่สามีของเธอก็ลำบากใจ เพราะพ่อกับแม่ของเขาเองก็อยากให้ภาวิณีเกี่ยวดองกันกับเธอในฐานะพี่สะใภ้เช่นกัน
**********************
ในตอนเช้ากุสุมาตื่นมาด้วยอาการปวดระบมที่สะโพก เมื่อคืนนี้ชารุกวาดลวดลายกับเธออย่างไม่รู้จักอิ่มจนตอนนี้เธอรู้สึกหน่วงอยู่ภายใน สายตาจับจ้องมองดูนายหัววัยสามสิบหกด้วยสายตาที่หลงใหลความใกล้ชิดและสิ่งที่เขาแสดงละครทำดีกับเธอ ประกอบกับบทรักที่เขามอบให้มันทำให้เธอรู้สึกดีกับเขาเป็นอย่างมาก แต่ก็เพียงรู้สึกดีเท่านั้น กุสุมาไม่กล้าที่จะคิดอะไรเกินเลยไปกว่านี้เพราะเขาชัดเจนแล้วว่าเธอจะได้รับสิทธิ์คนรักของเขาทุกอย่าง ยกเว้นความรักและการแต่งงานที่เขาจะไม่มีวันยกมันให้กับเธอ“คุณชารุกคะ ตื่นได้แล้วค่ะ” เธอปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาชารุกดึงเธอเข้าไปกอดแล้วลูบกลุ่มผมที่ตกลงมาบังแก้มของเธอด้วยความเอ็นดู “เมื่อคืนผมมีความสุขมาก”“ค่ะ” เธอตอบรับแล้วก้มลงยิ้มอย่างเอียงอาย“จริงสิคุณอายุเท่าไรแล้วถึงยี่สิบห้าหรือยัง” เขาถามเธอแล้วลูบไล้ที่ต้นแขน ตอนนี้มองเธอเป็นแค่ของเล่นชิ้นโปรดของตนเท่านั้น“แก้วอายุยี่สิบค่ะ อีกสามเดือนก็จะอายุยี่สิบเอ็ดแล้ว” เธอตอบเขาไปตามความจริงชารุกนิ่งอึ้งไปสักพักมองดูหญิงสาวตรงหน้าที่เขาคิดว่าเธอแค่หน้าเด็กมาโดยตลอดเลยไม่ฉุกใจคิดว่าเธออายุน้อยจริงๆ“สีหน้าคุณไม่ค่อยดีเลยนะคะ หรือ
ทันทีที่ประตูรั้วบ้านถูกเปิดออก รถชารุกก็แล่นเข้ามาจอดโดยมีรถของอัญรัตน์ขับตามเข้ามาติดๆ“นั่นรถของคุณอัญไม่ใช่เหรอคะ”“อืม อย่าลืมทำหน้าที่ของคุณให้ดีก็แล้วกัน” ชารุกย้ำด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด เมื่ออดีตคนรักยังพยายามที่จะมาตามตื๊อเขา ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขามีกุสุมาอยู่ข้างกายแล้วนายหัววัยสามสิบหกเดินลงจากรถแล้วอ้อมมาเปิดประตูให้กุสุมาด้วยสีหน้าที่ปรับเป็นนุ่มนวลและอบอุ่นจนเธอเผลอใจเต้นไปกับเขาไม่ได้อัญรัตน์ที่เดินลงมาจากรถเธอรีบตรงเข้าไปทักทายเขาแล้วมองกุสุมาที่คล้องแขนของเขาเอาไว้ด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“มีธุระอะไรกับผมหรือเปล่า”“อัญจะมาเรือนหอของเราไม่ได้เลยเหรอคะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่ยียวน ตั้งใจพูดให้กุสุมารู้ว่าเธอกับเขานั้นเคยมีความทรงจำร่วมกันที่นี่“คุณเข้าบ้านไปก่อนนะแก้ว” ชารุกหันไปพูดกับเธอเสียงนุ่มแล้วยิ้มให้เธอด้วยความอ่อนโยน ก่อนจะหันไปมองอัญรัตน์ด้วยสายตาที่แข็งกร้าว“ผมมีเรื่องต้องเคลียร์กับเธอนิดหน่อย” เขาพูดเสียงเข้ม“ถ้างั้นรีบตามมานะคะ แก้วจะขึ้นไปอาบน้ำรอคุณข้างบน” กุสุมาพูดแล้วอมยิ้มด้วยความกระดากในสิ่งที่ตนเองพูดไป แก้มของเธอแดงเรื่ออมยิ้มให้กับเขาอย่างมีความหมาย“
เมื่อกลับมาถึงฝั่งชารุกได้พากุสุมาไปที่รีสอร์ตริมทะเลของตนต่อเพราะไม่อยากเสียเวลาพาเธอย้อนกลับไปส่งบ้าน และอยากเปิดตัวเธอในฐานะคนรักของตนอย่างเป็นทางการ“ให้แก้วช่วยทำอะไรไหมคะ”“ช่วยนั่งเป็นกำลังใจให้ผมก็พอ” เขาพูดเป็นนัยถึงสิ่งที่พูดอยู่บนเกาะทำให้กุสุมายิ้มออกมาที่เขารู้จักพูดหยอกล้อกับเธอ“แล้วอย่าลืมนะว่าคุณอยู่ในฐานะคนรักของผม แค่ทำตัวให้ดูดีและแสดงความเป็นเจ้าของผมเท่านั้นก็พอ” เขาพูดตัดความหวังเธอด้วยการบอกว่าทั้งหมดมันคือหน้าที่ แล้วนั่งดูเอกสารที่วางบนโต๊ะในตอนนั้นเลขานุการของเขาก็เคาะห้องแล้วเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “นายหัวจะรับกาแฟเพิ่มไหมคะ”“ไม่ล่ะ แค่จะแวะมาเซ็นเอกสารเดี๋ยวก็กลับแล้ว”“แล้วแขกของนายหัวล่ะคะ” เธอถามแล้วหันมายิ้มให้กับกุสุมาเล็กน้อย“คุณจะรับน้ำส้มหรือกาแฟไหม” เขาหันมาถามเธอด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล“แก้วขอน้ำส้มก็ได้ค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นเอาน้ำส้มมาให้คุณแก้ว” ชารุกหันไปบอกกับเลขาของตนด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างกับที่พูดกับกุสุมา ทำให้เลขานุการสาวพอเดาออกว่าหญิงสาวคนนี้ต้องเป็นคนสำคัญของเจ้านายของตนแน่นอน“คุณต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอคะ” กุสุมาพูดกับเขาหลังจาก
ชารุกนำเรือเร็วส่วนตัวของตนเองขับพากุสุมาไปยังเกาะที่มีรีสอร์ตของครอบครัวที่ตอนนี้เขากำลังดูแลอยู่ระหว่างทางเขาได้พูดถึงน้องสาวของเขาให้กับเธอฟังคร่าวๆ ว่าชารียาเป็นคนที่หัวอ่อนและจิตใจดี ส่วนสามีของเธอก็เป็นคนดี ทั้งสองจึงไม่ค่อยทันคนและเขาจึงต้องยื่นมือมาช่วยเรื่องการบริหารทั้งๆ ที่แบ่งชัดเจนแล้วว่ารีสอร์ตบนเกาะนั้นให้เป็นความดูแลของน้องสาวและน้องเขยของเขาเองกุสุมาไม่เข้าใจว่าเขาจะเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังไปทำไม แต่ก็ต้องรับฟังเอาไว้เพราะคิดว่าเขาต้องมีเหตุผลที่เล่าแน่“ปัญหารำคาญใจทุกครั้งที่ผมต้องเข้ามาดูแลรีสอร์ตแห่งนี้ นั้นก็คือน้องสาวของภาคิน เธอชอบพอผมและชารียาเองก็เชียร์ให้ผมกับเธอลงเอยกัน” ชารุกเริ่มโยงมาถึงเรื่องที่เขาต้องการให้เธอช่วยแล้ว “ที่แท้ผู้หญิงอีกคนที่คุณต้องการให้ฉันมาแสดงตัวว่าเป็นคนรัก ก็คือน้องสาวของน้องเขยของคุณอย่างนั้นเหรอคะ”“ใช่แล้ว เพราะความใจอ่อนและขี้สงสารของน้องสาวผมนั่นแหละทำให้เธอต้องคอยช่วยเหลือผู้หญิงคนนั้นด้วยความเกรงใจ และผมเป็นคนที่รักน้องสาวมาก บางทีก็ปฏิเสธเธอไม่ได้ มันจึงทำให้ผมอึดอัดทุกครั้งที่มาที่นี่” ชารุกไม่อยากพูดให้ผู้หญิงดูไม่ดี แต่ห
หลังจากที่อัญรัตน์กลับไปแล้วชารุกก็ดูจะนิ่งเงียบและดูเคร่งขรึมไปกว่าเดิมจนกุสุมาไม่กล้าที่จะชวนเขาพูดคุย เธอจึงได้แต่ทานอาหารไปเงียบๆพอทานอาหารเสร็จแล้วเขาก็ยังคงทำหน้าเคร่งเครียดอยู่ เธอพอเดาได้จากบทสนทนาระหว่างเขากับอัญรัตน์ก่อนหน้านี้ ว่าเธอเคยเป็นคนรักของเขาที่เกือบจะได้หมั้นกันและเธอได้ทิ้งเขาไปในงานหมั้น แต่เธอคงจะไปไม่รอดจึงได้หวนกลับมาหาเขา“คุณขึ้นไปอาบน้ำเข้านอนก่อนเลยนะ” เขาบอกเธอเสียงเรียบแล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มด้านหลังชาวหนุ่มนำเครื่องดื่มออกมาเทดื่มด้วยความหงุดหงิดและอารมณ์เสีย กุสุมาจึงรีบลุกจากโต๊ะอาหารแล้วขึ้นห้องไปก่อนตามที่เขาบอกดูจากการที่เขาดื่มเหล้าเพื่อดับอารมณ์หงุดหงิด เธอจึงคิดเอาเองว่าเขาคงยังมีใจให้กับอัญรัตน์อยู่ แต่คงโกรธแค้นที่ตนเองถูกทิ้งไปจึงพาตัวเธอมาแก้แค้นผู้หญิงคนนั้นด้วยการบอกว่าเป็นคนรักของเขาเพื่อให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำชารุกเดิมเครื่องเดิมสีอำพันในมือด้วยความโกรธแค้น หลายต่อหลายครั้งที่อัญรัตน์มาตามตื้อขอคืนดีกับเขา เขาได้บอกเธอไปอย่างชัดเจนแล้วว่าทุกอย่างมันไม่สามารถกลับคืนไปเหมือนเดิมอีกแล้วทุกครั้งที่เจอหน้าเธอเขารู้สึกเจ็บใจในสิ่งที
ในตอนเย็นกุสุมาที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่นเธอได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาจอด จึงวางหนังสือลงเตรียมตัวลุกขึ้นไปต้อนรับเจ้าของบ้านแต่คนที่เดินเข้ามากลับเป็นหญิงสาวสวยคนหนึ่งที่แต่งตัวดูดีแต่งหน้าสวยจนกุสุมาแอบคิดว่าเธอเป็นดารา“ชารุกอยู่ไหม” เธอถามขึ้นแล้วปรายตามองมาที่กุสุมาอย่างไม่ชอบใจนักบุหงาที่เดินออกมาดูจึงยืมก้มหน้าอยู่ด้านหลังของกุสุมา ไม่ได้ตอบอะไรไปเพราะอัญรัตน์ถามกุสุมาไม่ได้ถามเธอ“ยังไม่กลับค่ะ” กุสุมาตอบแล้วส่งยิ้มให้อย่างสุภาพและเป็นมิตร“ดูจากการแต่งตัวแล้วเธอคงไม่ใช่คนรับใช้ของที่นี่” ฟังจากน้ำเสียงที่ดูเย่อหยิ่งและถือตัวของอีกฝ่ายทำให้กุสุมายกยิ้มขึ้นมา เข้าใจแล้วว่าเขาจ้างเธอมาเป็นคนรักเขาทำไม ที่แท้ก็คงเป็นเพราะมีผู้หญิงคนนี้นี่เอง“ตายจริง ฉันลืมแนะนำตัวไปเลย ฉันชื่อแก้วนะคะเป็นคนรักของคุณชารุก” กุสุมาแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานแล้วยิ้มให้กับอีกฝ่ายอัญรัตน์รู้สึกตกใจที่ได้ยินอย่างนั้น หากแต่เธอก็ไม่เชื่อและคิดว่าผู้หญิงคนนี้ก็คงเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่กำลังพยายามเข้าหาชารุกเหมือนกัน“เธอก็มารอชารุกเหมือนกันเหรอ ถึงได้ออกมาต้อนรับฉันเพราะคิดว่าเป็นเขาสินะ”“







