Masukนุชวราเกลียดมันที่สุด ถ้ามันสวยน้อยกว่านี้เธอจะไม่ว่าอะไรเลย แต่มันดันสวยมากเสียด้วยสิ นุชวรากลัวว่าวันหนึ่งมันจะคิดการใหญ่มาแทนที่เธอ...นี่สิคือปัญหา!
“ขอบคุณค่ะคุณท่าน”
ธีรยายกมือไหว้อีกครั้ง ชีวิตเธอนั้นมืดมนเหลือเกิน จะอยู่ต่อได้อีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เธอภาวนาขอให้ลูกทั้งสองของเธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในเร็ววัน...ก่อนที่เธออาจจะลาโลกนี้ไป ‘ธีรยาตรวจพบก้อนเนื้องอกในสมอง วันเดียวกันกับที่สามีของเธอถูกยิง’ ความโชคร้ายของธีรยาโจมตีเธอจนแทบกระอัก วันนี้ธีรยาไม่อาจเอ่ยอะไรได้อีก เธอต้องยอมและอดทนให้ถึงที่สุด ถึงแม้จะถูกตีตราว่าเป็นผู้หญิงหน้าด้าน และอยู่อย่างขอทานก็ตาม...
“เดี๋ยวจะให้นายเอกไปช่วยยกของและทำความสะอาด วันนี้คงต้องนอนแบบนั้นไปก่อนนะธีรยา”
“วราจะให้นายเอกออกไปซื้อของค่ะ ให้มันทำคนเดียวสิคะ จะต้องช่วยมันไปทำไม มันไม่ใช่คุณนายนะ และอีกอย่างอยู่ที่นี่อย่าหวังว่าจะอยู่ฟรีกินฟรีนะ...ให้ข้าวหมา! หมามันยังเฝ้าบ้านให้เลย...แกก็ควรจะคิดได้นะ...”
“ทำไมต้องพูดขนาดนี้...วรา” อดัมไม่เคยคิดมาก่อนเลย ว่าภรรยาเขาจะหยาบคายถึงเพียงนี้
“นี่ยังไม่ทันไรเลย...วราแตะมันไม่ได้ซะแล้ว...ต่อไปคงไม่มากกว่านี้หรือคะ...คุณพี่!”
“วรา!!”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณท่าน เดี๋ยวธีรยากับลูกจะทำเองค่ะ”
“แหม...ดูน่าสงสารจังเลยนะ...อีหน้าด้าน!!”
“พอเถอะ! วรา!”
“ก็ได้ค่ะ...เห็นแก่คุณพี่นะคะ ไม่งั้นแกเจอดีแน่!”
.....................
@ บ้านหลังเล็ก...สไตล์มินิมอล
ธีรยาพาลูกทั้งสองเก็บกวาดภายในบ้าน โดยรวมบ้านยังคงสะอาดสะอ้านดีทุกอย่าง ตัวบ้านมีห้องทั้งหมดสามห้อง บ้านมีลักษณะชั้นเดียวแบบพื้นปูน รูปทรงบ้านค่อนข้างกะทัดรัด ตกแต่งด้วยสไตล์เรียบหรูแบบแนววินเทจ บ่งบอกถึงรสนิยมและฐานะของเจ้าของเป็นอย่างดี บรรยากาศรอบบ้านประดับประดาไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด มีน้ำตกจำลองและมีฝูงปลาคาร์ฟเวียนว่ายอยู่ในบ่อน้ำใสสะอาดนั่น บ้านหลังนี้ถูกสร้างอยู่ห่างจากคฤหาสน์หลังใหญ่ประมาณห้าสิบเมตร ภายในบ้านมีข้าวของเครื่องใช้ครบครัน ราวกับตั้งใจให้เป็นบ้านสำหรับพักผ่อนหย่อนใจและสามารถใช้ชีวิตได้ไปในตัว
“แม่คะ...ในห้องนี้มีรูปวาดเต็มไปหมดเลยค่ะ”
เด็กหญิง ‘ปุณณดา’ หรือว่า ‘มิลิน’ ร้องเรียกให้ผู้เป็นแม่มาดูภาพต่างๆ ที่ถูกวาดอย่างสวยงาม บางภาพก็ถูกคลุมผ้าเอาไว้
“อย่าเข้าไปนะมิลิน...ลูกห้ามแตะเด็ดขาด คืนนี้เราต้องนอนด้วยกัน ตรงห้องรับแขก ลูกไปช่วยกันทำความสะอาดก่อนนะ แล้วนี่กายไปไหน?”
“น้องไปดูปลาคาร์ฟค่ะคุณแม่ เยอะมากๆ เลยนะคะ”
“ไปเรียกน้องมา ห้ามไปแตะของทุกอย่างในนี้ จนกว่านายท่านจะให้คนมาจัดการ ของพวกนี้เป็นของลูกชายนายท่าน ลูกและน้องอย่าแตะเด็ดขาด เรามาอาศัยบ้านเขานะ และลูกเองก็อย่าดื้อนะมิลิน...”
“ค่ะคุณแม่”
“ดีมากลูก...”
ธีรยามองลูกน้อยวัย 9 ขวบของเธอด้วยความรู้สึกเอ็นดูในความน่ารักและว่านอนสอนง่าย ธีรยามีลมหายใจอยู่ได้ก็เพราะลูกทั้งสอง ตอนนี้สิ่งที่อยู่ในหัวของเธอ คือ จะทำอย่างไรให้ชีวิตของธีรยานั้นอยู่รอดจนถึงวันที่ลูกของเธอนั้นเติบโตเป็นผู้ใหญ่ หรืออย่างน้อยก็พอจะช่วยเหลือตัวเองได้
กรการณ์สามีของธีรยา ทำงานกับนายท่านอดัมเกือบสิบปี ในตำแหน่งเลขาคนสนิท ฐานะของทางครอบครัวนั้นถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง กรการณ์มีความคิดที่จะเปิดธุรกิจเป็นของตัวเอง เลยนำเงินเก็บที่หามาได้ มาลงทุนเปิดเต็นท์ขายรถมือสอง ร่วมกับเพื่อนของเขา ในขณะที่กรการณ์เองก็ยังทำงานให้กับนายท่านอดัม แต่ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจเพื่อนมากเกินไป
กรการณ์ถูกโกงจากเพื่อนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่เด็ก สุดท้ายแล้วกรการณ์ไม่เหลืออะไร ธุรกิจล้มละลาย เพื่อนของเขาหนีไป ทิ้งให้กรการณ์รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
ความใจดีของนายท่านอดัมนั้นมีมากเหลือเกิน นายท่านให้เงินมาอีกก้อนหนึ่งเพื่อมาใช้หนี้ที่เกิดจากการทำธุรกิจ กรการณ์กำลังจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่แล้วโชคก็ไม่เคยเข้าข้างสามีของธีรยาเลยสักครั้ง ข่าวร้ายที่ธีรยาได้รับในวันที่เธอกำลังไปหาหมอ เพื่อรับฟังผลการตรวจของเธอ กรการณ์ถูกยิงอาการสาหัส เป็นตายเท่ากันและรักษาตัวอยู่นานหลายเดือน
นายท่านอดัมช่วยรักษาสามีเธอจนสุดความสามารถ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดนายอดัมก็เป็นคนรับผิดชอบ แต่ท้ายที่สุดแล้วสามีเธอก็ไม่รอด เขาเสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 40 ปี และซ้ำร้ายไปกว่านั้น ธีรยามาทราบในภายหลัง ว่าบ้านที่เธอจะใช้อาศัยต่อกับลูกทั้งสองนั้น จะต้องถูกธนาคารยึด เพราะกรการณ์ได้นำมันไปจำนองเพื่อทำธุรกิจในครั้งนั้น...โดยไม่ได้บอกธีรยา
ธีรยาจึงเหลือทางเลือกสุดท้าย คือนายท่านอดัม ธีรยาอับจนไร้ซึ่งหนทาง เธอคิดไม่ถึงเลยว่าชีวิตของเธอจะลำบากขนาดนี้ เงินเก็บของเธอก็มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ธีรยาเลยตัดสินใจที่จะมาขออาศัยอยู่กับนายท่านอดัม อย่างน้อยหากเธอเสียชีวิตลงวันใด นายท่านอดัมก็ยังจะสามารถที่จะดูแลลูกน้อยของเธอต่อไปได้ วันนี้ธีรยาถึงต้องอดทนกับทุกสิ่งทุกอย่าง จะถูกด่าหรือประณามอย่างไร ธีรยาก็ต้องทนให้ถึงที่สุด...
ปึ่ง! ปึ่ง! ปึ่ง! เสียงประตูถูกทุบดังสนั่น!
“ค่ะ…” ธีรยารีบวิ่งออกไปเพื่อยุติเสียงอันดังสนั่นนั้น เธอหลับสนิทเพราะความเหนื่อยล้า และตื่นเอาเกือบสาย ถ้าไม่มีเสียงอึกทึกครึกโครมนั่นปลุกเธอ
แกร๊ก! ประตูถูกเปิดในเวลาต่อมา
“คุณหญิงบอกให้แกกับลูกไปพบที่ตึกใหญ่”
สาวใช้นามว่าใบบัวกระชากเสียง พร้อมกับใช้สายตามองธีรยาตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบไม่เกรงใจ
“ตอนนี้เลยหรือคะ?” ธีรยาหันไปมองลูกน้อยของเธอที่กำลังตื่นนอนจากการถูกปลุกเช่นกัน
“ใช่! นี่มัน 9 โมงแล้ว แกไม่แหกตาดูเวลาล่ะ นอนตื่นสายขนาดนี้ สมควรแล้วที่คุณผู้หญิงจะไม่ชอบแก รีบไป! อย่าให้คุณผู้หญิงรอนาน”
“ค่ะ” ธีรยารีบเดินเข้าไปห้องน้ำเพื่อรีบทำภารกิจส่วนตัว พร้อมกับหันไปบอกลูกน้อยของเธอ
“มิลิน กาย ลุกขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟันเร็วลูก”
“ค่ะคุณแม่”
“อึก! อื้อ!” เสียงร้องของปุณณดาถูกปิดกั้น เมื่อเธอได้สติหญิงสาวก็ดิ้นสุดฤทธิ์ จนทำให้เอกสารบนโต๊ะทำงานเขาร่วงหล่นบนพื้นกระจัดกระจาย คนที่อยู่ด้านนอกตกใจ พร้อมกับวิ่งกรูเข้าไปยืนลุ้นหน้าประตูใหญ่ด้วยความตื่นตระหนกและกระวนกระวายใจ “คุณจะเข้าไปไม่ได้นะคะ ถ้าท่านประธานไม่เรียก”เลขาแสนสวยเข้ามาขวางกันยกรทันที “แต่เพื่อนดิฉัน...” “ท่านประธานไม่ทำอะไรเพื่อนคุณหรอกค่ะ ท่านเป็นถึงประธานบริษัทนะคะ จะทำเรื่องไม่ดีอย่างที่คุณคิดได้ยังไง” “คุณก็พึ่งจะทำงานกับท่านประธานไม่กี่วัน คุณรู้ได้ยังไง”กันยกรกระชากเสียงใส่เลขาหน้าห้อง ด้านใน... เพี๊ยะ! ฝ่ามือบางฟาดลงบนใบหน้าคม เมื่อร่างกายของเธอเป็นอิสระจากการพยายามทำตัวเองให้หลุดพ้นจากอ้อมแขนอันแข็งแกร่งนั่น “อุ๊บ!” ปากบางถูกบดขยี้อีกครั้งด้วยความรุนแรงและดุเดือดกว่าครั้งเก่า ลิ้นเล็กถูกตวัดด้วยลิ้นหนาของเขา ดูดเม้มเอาแต่ใจ ราวกับหิวโหยมานานแรมปี จูบร้อนนั้นดุเดือดกินเวลาไปหลายนาที จนร่างบางเริ่มอ่อนระทวย พรึ่บ! ร่างกำยำผละออกจากร่างบางทันที เมื่ออารมณ์ของเขาตอนนี้ค่อนข้างจะเ
@ โรงแรมสุดหรู ประเทศสิงคโปร์... “ทำไมห้องที่ฉันจองมาต้องติดกับนายคนนี้ด้วย”ณิศรากำลังเกรี้ยวกราดใส่พนักงานต้อนรับ เธอสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี โดยที่อีกฝ่ายก็พยายามที่จะอธิบาย “ห้องมันเต็มคุณก็เห็นอยู่ และอีกอย่างโรงแรมนี้ เป็นสถานที่จัดงานด้วย คุณจะยกเลิกและไปพักที่อื่นก็ได้นะ และถ้าคุณมาไม่ทันนัดของลูกค้าแต่ละครั้งล่ะก็ คงต้องให้พ่อของคุณมาจัดการล่ะมั้ง”สายตาเหยียดๆ ของกันต์ธีส่งถึงณิศราทันทีโดยไม่เกรงกลัวใดๆ “ฉันไม่ได้คุยกับแก ไม่ต้องออกความคิดเห็น”ณิศราตอบกลับทันทีเช่นกัน ทำยังไงเธอถึงจะจัดการไอ่บ้านี้ได้นะ “อืม...ก็แล้วแต่ อย่าให้ปัญหามันลามมาหาผมแล้วกัน”กันต์ธีหยักไหล่แบบไม่สนใจ เขาเบื่อหน่ายผู้หญิงแบบนี้มากๆ นอกจากเธอจะกรี๊ดกร้าดหนวกหูแล้ว ยังน่าเบื่ออีกต่างหาก “สรุปฉันขอเปลี่ยนห้องได้ไหมคะ”ณิศราหันไปต่อรองกับพนักงานของโรงแรม แต่คำตอบที่ได้คือ “ห้องเต็มครับ” “โอเค...”ณิศราหันมาถลึงตาใส่คนข้างหลังทันที นั่นมันเพราะนายนั่นแหละ ไม่งั้นฉันคงไม่เป็นแบบนี้แน่ๆ “อย่ามาพาลไม่เข้าเรื่อง อายุก็ไม
@ บ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์น... “กายลูกจะไปกี่วัน แม่จะได้เตรียมเสื้อผ้าให้ถูก”ธีรยาเอ่ยขึ้นในเช้าวันหนึ่ง เธอและลูกทั้งสองกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ “ต้องเตรียมไปสิบวันก่อนครับแม่ ผมยังไม่แน่ใจเลยครับ คือว่า...มีปัญหานิดหน่อยครับ”สิ่งที่นายท่านอดัมโทรมาบอกกันต์ธีเมื่อคืน มันทำให้เขารู้สึกไขว้เขวเป็นอย่างมาก อย่างหนึ่งคือบุณคุณ ‘ฝากริต้าหน่อยนะ คนนี้เอาแต่ใจตัวเองไปหน่อย ยังไงลุงขอให้กายอดทนกับเธอสักหน่อย ถูกตามใจจนเคยตัว’ อีกอย่างหนึ่งก็คือ ‘ความแค้นที่รอการเอาคืนอย่างสาสม’ “มีอะไรเหรอกาย?” ปุณณดาเอ่ยถามอย่างสงสัย “นิดหน่อยครับพี่มิลิน ไปหลายวันผมคิดถึงแม่ครับ”กันต์ธีหลีกเลี่ยงคำตอบที่แท้จริง เขาไม่อยากให้แม่และพี่สาวทุกข์ใจกับเรื่องที่เขาคิดจะทำต่อจากนี้ “กายจะไปสิงคโปร์วันไหน เดี๋ยวพี่ไปส่งที่สนามบิน” “วันจันทร์ครับ” “แล้วไปกับ...เอ่อ...หัวหน้าฝ่ายการตลาดใช่ไหม?”ปุณณดารู้อยู่ก่อนแล้ว ว่าน้องชายเธอกำลังมีปัญหากับณิศราลูกสาวของบ้านนั้น กันต์ธีมักจะเล่าเรื่องราวให้เธอได้ฟังตลอด ปุณณดาห้ามน้องแ
@ แผนกไอที... “มิลิน แกเป็นยังไงบ้าง”กันยกรร้องเรียกเพื่อนสาวทันที เมื่อเห็นใบหน้าสวยแดงกล่ำ ย่ำเท้าก้าวเข้ามาภายในห้องทำงาน ที่ตอนนี้มีกันยกรนั่งรอปุณณดาอยู่ในห้องเพียงคนเดียว เนื่องจากเป็นเวลาพักกลางวัน “สักครู่...ตัง”ปุณณดานั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่มันทำให้ปุณณดาเกิดภาวะแพนิคชั่วขณะ เธอไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ทำไมเขาถึงต้องการที่จะขอโทษเธอ เขาไม่แค้นเธอแล้วหรือ? เขารู้สึกผิดขนาดนั้นเชียวหรือ? “...” กันยกรมองหน้าเพื่อนสาวด้วยความรู้สึกลุ้นระทึกเช่นกัน เมื่อเธอได้ทราบข่าวเม้าท์จากแผนกประชาสัมพันธ์โดยหัวหน้าแผนก ‘มิลินไปทำอะไรให้ท่านประธานไม่พอใจหรือเปล่าไม่รู้...แต่ที่รู้คือตอนนี้โดนเรียกเข้าไปห้องท่านประธานแล้วแก...’ นี่คือสิ่งที่ขาเม้าท์กำลังแพร่กระจายข่าว จนเกิดเป็นวงกว้างในวงการสายนินทาโดยมีหัวข้อ ‘แจ๊คพอตมิลิน!’ “เขาเรียกฉันเข้าไปคุย...ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงาน”ปุณณดาเริ่มเล่าเรื่องราวเมื่อครู่ให้เพื่อนฟัง กันยกรผ่านทุกเรื่องราวทั้งหมดของเธอมาตลอด เธอจึงไม่คิดที่จะปิดบังเพื่อนรักของเธอเลยแม้แต่นิด
“แต่เขามองแรงจริงๆ นะมิลิน พี่ชักกลัวแล้วสิ...พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะ...รางวัลพนักงานดีเด่นของปีที่แล้วก็การัณตีอยู่...เธอล่ะมิลิน...ไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า...ลองนึกดูสิ ไม่ใช่เรื่องดีเลยนะถ้าท่านประธานจะไม่ชอบหน้าเราน่ะ” “ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่...มิลินว่าเขาน่าจะมองเราสองคน ที่พูดกันไม่หยุด รบกวนที่ประชุมมากกว่านะคะ”ปุณณดาหาเหตุระงับเสียงพูดของอีกฝ่าย “อืม...น่าจะใช่...^^” เวลาผ่านไปราว 30 นาที... “คุณปุณณดาคะ...เสร็จจากประชุมท่านประธานเชิญคุณที่ห้องทำงานนะคะ” “คะ? เอ่อ...เรื่องอะไรหรือคะ คือว่าดิฉันไม่น่าจะมีงานที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหารขนาดนั้นนะคะ”ปุณณดาตกใจอย่างที่สุด ที่อยู่ดีๆ เลขาของท่านประธานเดินเข้ามากระซิบบอกเธอ “ดิฉันไม่ทราบค่ะ ท่านให้ดิฉันมาบอกคุณค่ะ เดี๋ยวถ้ายังไงเชิญตามดิฉันมาเลยนะคะ” “อุ้ย! นั่นไง! พี่บอกแล้วไงว่าท่านประธานจะต้องมีอะไรแน่ๆ มิลินเธอทำอะไรผิดไว้หรือเปล่าเนี่ย เธอต้องใจเย็นๆ นะค่อยๆ คิดก่อนพูดนะ...ตายแล้ว! พี่ก็คิดว่าเป็นพี่ซะอีก รอดตัวไป...ขอให้โชคดีนะจ๊ะน้องสาว” “พี่ไปกับมิลิ
อีกด้านหนึ่ง...“เธอแวะทักทายใครเหรอไลลา...เธอรู้จักคนในบริษัทฉันด้วยเหรอ?”“น้องที่ฉันรู้จักมานานแล้ว เราเป็นเพื่อนกันน่ะ”“ฉันไม่ยักรู้นะ...ว่าเธอมีเพื่อนคนอื่นอีก นอกจากฉัน”“ฉันสนิทสนมกันมานานหลายปีแล้ว แต่เผอิญน้องเขาดันมาทำงานที่บริษัทของเธอด้วย”“อืม...”“หนูไลลา...ทำไมไม่ไปยืนข้างๆ ตาแม็กซ์ล่ะลูก ตอนนี้หนูควรจะเปิดตัวได้แล้วนะ”“เอ่อ...หนู”สิ่งที่กิริฎาไม่ชอบมากที่สุดก็คือ ‘การเป็นหุ่นเชิด’ เธอเหนื่อยหน่ายกับสิ่งแบบนี้เหลือเกิน กิริฎาต้องตามใจคนทุกคน เพื่ออะไรกัน? กิริฎาอยากเป็นตัวของตัวเอง เธอไม่ได้ต้องการแบบนี้เลยสักนิด...“เธอต้องฝึกไว้นะไลลา...อีกหน่อยถ้าเธอแต่งงานกับแม็กซ์แล้ว เธอเองก็ต้องออกงานสังคมบ่อยๆ เผลอๆ ฉันว่าเธอจะต้องลาออกจากการเป็นหมอด้วยซ้ำ”“เอาไว้ก่อนเถอะริต้า...การเป็นหมอคือสิ่งที่ฉันรักนะ”น้ำเสียงของกิริฎาเริ่มแข็งขึ้น เธอไม่ชอบให้ใครมาแตะเรื่องอาชีพของเธอเลย ‘กิริฎาจะทนกับผู้คนเหล่านี้ได้มากแค่ไหนกัน’“บ้านเรามีเงินมากพอที่จะเลี้ยงหนูไปทั้งชาติเลยนะ เพราะฉะนั้นแม่ว่า หนูควรจะวางแผนที่จะสร้างครอบครัว และมีลูกกับแม็กซ์ให้พ่อกับแม่ได้ชื่นใจดีกว่านะคะ อีกอย่







