Share

บทที่ 5

Author: พิณเคล้าสายฝน
ขนตาที่เปียกชื้นของนางสั่นไหวทันที หลินซวงเอ๋อร์ก้มศีรษะต่ำลงยิ่งกว่าเดิม

"เงยหน้าขึ้น!" น้ำเสียงของชายหนุ่มค่อยๆหมดความอดทน

เล็บเลาะลึกเข้าไปในฝ่ามือ หลินซวงเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นอย่างขี้ขลาดตาขาว แต่ก็ไม่กล้าสบตาเขา

เยี่ยเป่ยเฉิงจ้องไปที่คนที่อยู่ตรงหน้า คิ้วทั้งสองข้างก็ขมวดกันทันที

สวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบ น่าจะเป็นบ่าวรับใช้ระดับล่างสุดในจวน แต่บ่าวรับใช้คนนี้หน้าตาผุดผ่อง ใบหน้าที่เรียวเล็กเท่าฝ่ามือขาวราวกับไข่ปอก ขนตาที่ทั้งยาวทั้งหนาสั่นไหวเล็กน้อย ริมฝีปากที่เหมือนกลีบดอกไม้นั้นงดงามมีเสน่ห์มาก

บนโลกใบนี้ จะมีผู้ชายที่หล่อเหลาขนาดนี้ได้อย่างไร?

เยี่ยเป่ยเฉิงผู้ที่เห็นสาวงามจนชินตา ในขณะนี้จิตใจเหม่อลอยเล็กน้อย

จากนั้นไม่นาน น้ำเสียงของเขาก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แล้วถามว่า "เจ้าชื่ออะไร?"

หลินซวงเอ๋อร์เปิดๆปิดปาก น้ำเสียงเบามาก: "ข้าน้อย... ชื่อหลินซวง"

แต่เยี่ยเป่ยเฉิงได้ยินอย่างชัดเจน

“หลินซวง?” เขาพึมพำชื่อนี้ออกมา รู้สึกว่าคุ้นหูเล็กน้อย ราวกับว่าเคยได้ยินจากที่ไหนสักแห่ง

“เงยหน้าขึ้น แล้วสบตาข้า!” น้ำเสียงที่เย็นชาดังขึ้นอีกครั้ง และความรู้สึกกดดันสุดขีดก็ถาโถมเข้ามา

หลินซวงเอ๋อร์กลืนน้ำลาย แล้วค่อยๆเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาอันเปียกชื้นแฝงความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด

เยี่ยเป่ยเฉิงขวมดคิ้วจ้องมองนางชั่วขณะหนึ่ง นัยน์ตาเย็นชาราวกับใบมีดน้ำแข็ง

ความจริงและความฝันซ้อนทับกัน นัยน์ตาคู่นี้เหมือนกับนัยน์ตาในคืนนั้น สะอาดบริสุทธิ์ และขี้ขลาดพอๆกัน เยี่ยเป่ยเฉิงจำนัยน์ตาเหล่านี้ได้แทบจะในทันที

แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเป็นผู้ชายชัดๆ...

เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้ว สีหน้าเริ่มเย็นชามากขึ้น

เมื่อทั้งคู่สบสายตากัน หลินซวงเอ๋อร์มีคามรู้สึกว่า เหมือนว่าเขาสามารถมองนางได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

ความรู้สึกหวาดกลัวสุดขีดกลืนกินหลินซวงเอ๋อร์ ในที่สุดนางก็ทนไม่ไหว ใบหน้าอันเรียวเล็กที่ซีดเผือดก็ซีดมากขึ้นกว่าเดิม และน้ำตาก็ไหลรินลงมาอย่างเงียบ ๆ

ในสมอง มีจุดจบที่น่าเวทนานับไม่ถ้วนผุดขึ้นมา

ครั้งนี้นางเสียใจเป็นที่สุด นางเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ไว้ในกล่องไม้มาเป็นเวลานาน และตัดใจไม่ใช้มันมาโดยตลอด

หากยังมีโอกาส นางจะแบ่งสรรปันส่วนเงินก้อนนี้อย่างเหมาะสม

ท่านป้าจ้าวดีต่อนางมาก นางควรแสดงความกตัญญูโดยการแบ่งให้นางหนึ่งส่วน

ตงเหมยก็ดีกับนางเช่นเดียวกัน นางก็ควรจะแสดงความขอบคุณนางด้วย

ยังมี...ยังมีฉีหมิง ค่างานศพของพี่ชายนางเขาก็เป็นคนจ่ายแทนให้ นางยังไม่มีโอกาสคืนให้เขาเลย...

ยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้าใจ หลินซวงเอ๋อร์อดไม่ได้ที่สะอื้นไห้ไม่ได้ น้ำตาก็ไหลรินลงมา

นัยน์ตาที่สะอาดบริสุทธิ์เจิ่งนองไปด้วยน้ำตา คนที่อยู่ตรงหน้าร้องไห้หนักมาก

เขายังไม่ได้ทำอะไรนาง นางก็เริ่มร้องไห้ก่อนแล้ว...

ความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ ทำให้เยี่ยเป่ยเฉิงเริ่มรู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมา ในที่สุด เขาก็มองไปทางอื่น หันหลังกลับแล้วจากไป

เมื่อมองดูร่างของเยี่ยเป่ยเฉิงค่อยๆเดินไกลออกไป หลินซวงเอ๋อร์ก็ไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย

เขาปล่อยนางไปอย่างนี้เลยหรือ?

เป็นไปได้ไหมว่า วันนั้นเขาจะเห็นหน้าของนางไม่ชัด?

พอแบมือออก หลินซวงเอ๋อร์ก็พบว่าฝ่ามือของตนเองมีแต่เหงื่อเต็มไปหมด

เมื่อครู่นี้ นัยน์ตาของเยี่ยเป่ยเฉิงอยากจะบดขยี้นางอย่างเห็นได้ชัด แต่เพราะเหตุใด เขาถึงจากไปโดยไม่พูดอะไรเลย?

หลินซวงเอ๋อร์ไม่เข้าใจ และรู้สึกไม่สบายใจมากยิ่งขึ้น

…...

พอกลับมาที่เรือนฝั่งตะวันออก เยี่ยเป่ยเฉิงยืนอยู่ในเรือนอวิ๋นซวน ทันใดนั้นนัยน์ตาก็ถูกรอยขีดข่วนเล็กน้อยที่ประตูดึงดูด

สีหน้าของเยี่ยเป่ยเฉิงก็ชะงักทันที ร่างที่บอบบางและสั่นเทาร่างนั้นก็ปรากฏขึ้นในสมอง เขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพเหตุการณ์ในวันนั้น

ลูกกระเดือกกลิ้งไปมา เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกคอแห้งเล็กน้อย

เขาคิดว่า บางทีมันอาจจะเป็นเพราะผลพวงมาจากยาเสน่ห์ เพราะว่า ปริมาณยาที่เยอะขนาดนั้น เขาสามารถทนได้แค่เพียงวันเดียว แม้ว่าพิษจะถอนพิษแล้ว แต่ก็ยังมีสารตกค้างอยู่ในร่างกาย

พอคิดได้ ก็ดูเหมือนว่าเขาจะหาเหตุผลที่ถูกต้องได้แล้ว จากนั้นนัยน์ตาก็มองไปที่รอยขีดข่วนอีกครั้ง

เสียงเคาะประตูดังขึ้น เยี่ยเป่ยเฉิงก็กลับมามีสติอีกครั้ง

"เข้ามา"

เสวียนอู่เปิดประตูแล้วเข้ามา

เยี่ยเป่ยเฉิงถามว่า: "เรื่องที่เจ้าไปตรวจสอบเป็นอย่างไรบ้าง?"

เสวียนอู่กล่าวว่า: "ตรวจสอบชัดเจนแล้ว"

เยี่ยเป่ยเฉิงหันหลังกลับแล้วเดินไปที่โต๊ะตำรา ยกเสื้อคลุมขึ้นแล้วนั่งลง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมยว่า: "ว่ามา"

เสวียนอู่กล่าวว่า: "บ่าวรับใช้ที่ท่านอ๋องพบในวันนั้น เป็นบ่าวรับใช้ของจวนพากเราจริงๆ ใช้ชื่อจริงๆ ชื่อว่าหลินซวง ปกติแล้วเขาจะรับผิดชอบปัดกวาดลานจวนเป็นหลัก พออายุได้สิบสามปีเขาก็ขายตัวให้กับจวน ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง และไม่เคยทำผิดใดๆเลย"

นิ้วที่เรียวยาวเคาะโต๊ะอย่างเป็นจังหวะ เยี่ยเป่ยเฉิงถามโดยที่ไม่ต้องคิดว่า: "ตอนที่เข้ามาในจวนได้ตรวจร่างกายหรือไม่?"

เสวียนอู่กล่าวว่า: "พ่อบ้านฉินเคยตรวจสอบด้วยตนเองแล้ว ไม่ผิดแน่"

เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะดูผิด?

เขาก็ปฏิเสธความคิดนี้ทันที

เป็นไปไม่ได้ นัยน์ตาคู่นั้น และกลิ่นบนตัวของนาง เขาจำไม่ผิดแน่

เขาถามอีกครั้ง: "ตรวจสอบภูมิหลังครอบครัวชัดเจนแล้วหรือยัง?"

เสวียนอู่ตอบว่า: "พ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก ที่บ้านมีน้องสาวฝาแฝด ชื่อหลินซวงเอ๋อร์ ได้ยินมาว่านางเคราะห์ร้ายเสียชีวิตในเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลัน เมื่อสองปีก่อน ที่บ้านเหลือเขาแค่เพียงคนเดียว"

หลังจากหยุดเคาะโต๊ะอย่างกะทันหัน ริมฝีปากบางของเยี่ยเป่ยเฉิงโค้งขึ้น

"งั้นก็ถูกต้องแล้ว!"

เสวียนอู่มองเขาอย่างสับสน เยี่ยเป่ยเฉิงเริ่มสนใจคนรับใช้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

จากนั้นไม่นาน เสวียนอู่ก็ถามว่า: "ท่านอ๋อง จะจัดการกับหลินซวงอย่างไรดี?"

เยี่ยเป่ยเฉิงคงจะไม่ให้เขาไปตรวจสอบคนรับใช้ที่ไม่มีนัยสำคัญคนหนึ่งโดยที่ไม่มีเหตุผล

ถ้าไม่ใช่เพราะว่า บุคคลคนนี้เป็นสายลับที่ศัตรูส่งมา ก็คงจะเป็นเพราะว่า บุคคลคนนี้แตกจากคนอื่น จึงดึงดูดความสนใจของเยี่ยเป่ยเฉิง

เสวียนอู่ไม่มีทางนึกถึงอย่างหลัง จากที่เขารู้จักท่านอ๋อง แม้แต่ผู้หญิงเขาก็ไม่สนใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนรับใช้เลย

ดังนั้น เขาคิดเองเออเองแล้วพูดว่า: "หรือว่า เราจะ..." จากนั้น เขาก็ทำท่าทางเช็ดคอ

เยี่ยเป่ยเฉิงเหลือบมองเขา ใบหน้าที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ผุดขึ้นมาในหัว

ความรู้สึกแปลกๆแวบขึ้นมาในใจ เยี่ยเป่ยเฉิงเริ่มเหม่อลอยอีกครั้ง

เมื่อเห็นว่าเยี่ยเป่ยเฉิงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน เสวียนอู่ก็เข้าใจได้ทันทีว่า ในช่วงเวลาเช่นนี้ ถ้าท่านอ๋องไม่พูด ก็แสดงว่าเห็นด้วยแล้ว

“ท่านอ๋องวางใจได้ ข้าน้อยจะไปจัดการเขาเดี๋ยวนี้” พูดจบ เสวียนอู่ก็กำลังจะจากไป

"เดี๋ยวก่อน" จู่ๆ เยี่ยเป่ยเฉิงก็เรียกเสวียนอู่ให้หยุด

เสวียนอู่มองเขาอย่างสงสัย

จากนั้นไม่นาน เยี่ยเป่ยเฉิงก็พูดอย่างสงบนิ่งว่า: "เก็บเอาไว้ก่อน"

เมื่อเห็นสีหน้าสับสนของเสวียนอู่ เยี่ยเป่ยเฉิงจึงกล่าวเสริมว่า: "ภูมิหลังเป็นเรื่องจริง แค่เปลี่ยนตัวตน หลินซวงที่เข้ามาในจวนเมื่อสามปีที่แล้วอาจจะตายไปแล้วจริงๆ ตอนนี้ที่อยู่ในจวนน่าจะเป็นหลินซวงเอ๋อร์"

เสวียนอู่ตกใจ หลังจากที่พิจารณาถี่ถ้วนแล้วก็พบว่าสมเหตุสมผล

มิน่าเล่าเขามักจะรู้สึกเสมอว่าหลินซวงคนนี้งดงามกว่าผู้หญิงเสียอีก

เสวียนอู่กล่าวว่า: "บุคคลคนนี้ปกปิดตัวตนเข้ามาในจวนอาจจะมีเจตนาแอบแฝง เป็นไปได้ไหมว่า นางจะเป็นสายลับที่องค์ชายสามส่งมา"

ในการต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งองค์รัชทายาท องค์ชายสามอยากจะดึงเยี่ยเป่ยเฉิงเข้ามาเป็นพวก ไม่หาผู้หญิงมาให้เขา ก็วางสายลับไว้รอบตัวเขา

วันนั้นที่เขาถูกวางยาเสน่ห์ ที่เป็นองค์ชายสามที่บ่งการ

เสวียนอู่พูดด้วยความโกรธ: "เสวี่ยหยวนจากไปแล้ว ก็ยังมีหลินซวงเอ๋อร์อีก! องค์ชายสามจะไม่ยอมจบใช่ไหม!"

ผู้หญิงคนนั้นปลอมตัวเป็นผู้ชาย แล้วพยายามปีนขึ้นไปบนเตียงของเขา เยี่ยเป่ยเฉิงคิดว่า แผนการของผู้หญิงคนนี้แยบยลกว่าเสวี่ยหยวนมาก!

เสวียนอู่กล่าวว่า: "ท่านอ๋อง ผู้หญิงคนนี้เจ้าเล่ห์มาก เก็บเอาไว้ไม่ได้"

เยี่ยเป่ยเฉิงรู้ว่าเก็บเอาไว้ไม่ได้ แต่จะจัดการกับนางอย่างไร เยี่ยเป่ยเฉิงต้องคิดให้รอบคอบเสียก่อน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
นิภาภรณ์ คูณสวัสดิ์
...️...️...️So good
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status