Home / โรแมนติก / ท่านชายแวมไพร์ / บทที่ 4 เหตุเพราะกุหลาบดอกนั้น

Share

บทที่ 4 เหตุเพราะกุหลาบดอกนั้น

last update Last Updated: 2025-01-24 17:19:04

“โอ๊ย เจ็บนะ!” ลินินโวยวายเมื่อถูกโยนเข้ามาในห้องโถงกลางเรือนบ้าน

“สักล้านนึงพอจะได้ไหม” ชายวัยกลางคนที่พาตัวเธอขึ้นรถมาด้วยเอ่ยขึ้น ดูเหมือนว่าเขากำลังจะคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่

ลินินที่นั่งอยู่กลางห้องโถงเริ่มหน้าซีด แววตาเริ่มหม่นหมอง เมื่อทราบว่าครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่การข่มขู่ ที่พวกเขาแค่เรียกตัวเธอมาเพื่อตักเตือน แล้วจากนั้นจะยอมปล่อยให้กลับไปหาเงินมาชดใช้ดั่งครั้งก่อน

หลังจากวางสายลง มือหนาของเจ้าหนี้ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดชัตเตอร์จับภาพของเธอเพื่อส่งไปให้ปลายทาง

“ตาแก่นี่ดูชอบเธอนะ” เขาว่าพลางยื่นรูปชายสูงอายุคนหนึ่งที่ตอบกลับว่าจะขอซื้อตัวเธอมาให้ลินินได้พิจารณา

ตัวของเธอสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ยิ่งเวลาผ่านไปเนิ่นนานมากเท่าไหร่ก็ไม่ได้ทำให้เธอสงบนิ่งลงได้เลย แล้วเป็นใครจะกล้าทำใจให้สงบได้กันเล่า ในเมื่อทราบว่าตัวเองจะถูกขายให้กับใครที่ไหนก็ไม่รู้

“ขอร้องล่ะ หนูจ่ายให้คุณไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้วนะ” ลินินทิ้งตัวคุกเข่าก่อนจะทำท่าเว้าวอนขอความเห็นใจ เธอยังอยากมีอนาคตอีกยาวไกล หากโดนขายให้ชายแก่รุ่นราวคราวพ่อคงเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก

“นี่ยัยหนู ฉันเห็นใจเธออยู่หรอกนะที่ต้องใช้หนี้แทนพ่อที่เสียไป แต่ฉันเองก็ต้องกินต้องใช้เหมือนกัน” หากว่ากันตามตรง เขาก็เห็นเธอมาตั้งแต่เล็กตอนไปตามทวงหนี้พ่อของเธอ และเมื่อเห็นว่าพ่อของเธอเสียไปและเธอต้องมาใช้หนี้แทน ประกอบกับแม่ของเธอยังป่วยอีกด้วย ในบางช่วงบางตอนจึงแอบเห็นจอยู่นิดหน่อย แต่ก็อย่างว่า เรื่องปากท้องมันไม่เข้าใครออกใคร

ว่าจบชายวัยกลางคนก็เดินตรงไปนั่งลงบนโซฟาตัวแปรดของตัวเอง ก่อนจะยกขาขึ้นไขว่ห้างประหนึ่งวางอำนาจ “ที่เธอจ่ายมา มันยังไม่พอหนี้สินที่พ่อของเธอติดค้างเลยสักนิด” ผู้ที่เป็นหัวหน้าเอ่ยขึ้นพร้อมเสียงแค่นหัวเราะ

“เงินหนึ่งแสนเนี่ยนะ ฉันหาใช้ให้พวกคุณทุกเดือน เดือนละเกือบหนึ่งหมื่น ตลอดระยะเวลาหลายปี มันไม่ได้ลดลงเลยหรือไง”

“เหอะ พ่อเธอบอกว่าแสนนึงอย่างนั้นเหรอ? หมอนี่มันใช้ไม่ได้เลยนะ”

“???” ลินินทำสีหน้าฉงน

“พ่อเธอ ติดหนี้ฉันอยู่ล้านนึง”

“ล้านนึงอย่างนั้นเหรอ!?” ลินินกล่าว น้ำเสียงฟังดูตกใจไม่น้อย เธอไม่เคยจุ้นจ้านเรื่องหนี้สิ้นของพ่อ เขาบอกว่าติดค้างเพียงเท่าไหร่เธอก็ปักใจเชื่อตามนั้นมาโดยตลอด “คุณโกหกหรือเปล่า...”

“โกหกงั้นเหรอ...เฮ้อ...นี่ไง...หลักฐาน” เขายื่นหนังสือสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษรมาให้เธออ่านอย่างเปิดเผย เมื่อนั้นลินินจึงได้ค้นพบความจริงเกี่ยวกับจำนวนเงินที่พ่อของตนเคยมาหยิบยืม

“ชัดเจนพอไหม หรือต้องให้วิญญาณพ่อเธอมาเข้าฝันบอกกล่าวด้วยล่ะ...”

หลังจากอ่านสัญญาฉบับนั้นอย่างถี่ถ้วนแล้ว ลินินก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตาอย่างหมดหวัง ไม่ว่าอย่างไรเธอคงต้องโดนขายเพื่อชดใช้หนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้แล้วสินะ

“ที่เธอจ่ายมา แค่ดอกเบี้ยรายเดือนยังไม่พอลดเงินต้นเลยด้วยซ้ำ แต่เราอย่ามัวแต่พูดอยู่เลย เดี๋ยวจะเสียฤกษ์งามยามดีซะเปล่า เห้ย เอานังเด็กนี่ไปแต่งตัวให้เรียบร้อย จะได้จัดส่งไปให้ตาแก่บ้ากามนั่น แต่ห้ามเจิมเด็ดขาด ยิ่งบริสุทธิ์ตาแก่นั่นจะจ่ายให้ราคางาม”

“ครับ” สิ้นเสียงผู้เป็นหัวหน้า พวกลูกน้องก็ฉุดกระชากร่างของลินินไปให้คุณป้าคนหนึ่งจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับเธอ

          “พอเปลี่ยนชุดแล้วก็ดูดีขึ้นเยอะเลยหนิ” เจ้าหนี้มองเชยชมเธอด้วยความชอบใจ หากในตนนี้เขาไม่ร้อนเงินมากนักก็คงจะเก็บเธอเอาไว้เสียเองแล้ว

แต่ในขณะที่กำลังจะไปส่งตัวเธอไปขึ้นรถ ร่างสูงของชายหนุ่มในชุดสูทสีดำก็ปรากฎตัวขึ้นอย่างกะทันหัน และการมาถึงของเขาก็ทำเอาเจ้าหนี้ถึงกับหวาดหวั่นไปตามกันเลยทีเดียว

แต่ด้วยความที่เขายืนหันข้าง ทำให้ลินินมองเห็นใบหน้าของเขาไม่ค่อยชัดเจนนัก แต่ก็เพียงพอจะทำให้เธอรับรู้ถึงออร่าความสง่างามและน่าเกรงขามของเขาอยู่ไม่น้อย

“คะ...คุณเจย์เดน...” ขณะที่เอ่ยเรียกผู้มาเยือน ใบหน้าของเขาก็ก้มหน้าก้มตาอย่างนอบน้อม

เจย์เดนจ้องมองคนตรงหน้าด้วยแววตาคมกริบดุจดั่งมีดดาบที่พร้อมเชือดเฉือนได้ทุกเมื่อ ทำเอาเจ้าหนี้วัยกลางคนผู้นั้นถึงกับหน้าซีดกันเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าตัวเขาไปทำอะไรขัดใจผู้เกรียงไกรตรงหน้าเข้า เขาจึงมาเยือนถึงที่นี่

“ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรกับกระผมหรือครับ” ขณะที่พูดก็ยังทำท่าโบกไม้โบกมือเพื่อให้ลูกน้องพาตัวลินินไปขึ้นรถดั่งเดิม ดูเหมือนว่าจุดประสงค์ของเขาจะยังชัดเจนไม่เปลี่ยนแปลง

เจย์เดนไม่โต้ตอบอะไร ท่าทีสงวนคำพูดดุจดั่งกลัวว่าทองคำจะล่วงออกจากปากของตน แล้วหันไปให้ความสนใจกับลินินที่กำลังจะถูกส่งตัวไปขึ้นรถ

สายตาสองคู่สบประสานกันทันใด ในตอนนั้นเองที่ลินินสามารถมองเห็นใบหน้าเขาได้อย่างชัดเจน

‘หล่อจัง’ เป็นสิ่งแรกที่ผุดขึ้นภายในใจของเธอ คนตรงหน้าช่างหล่อเหลา จมูกโด่ง สันกรามคมชัด ดวงตาคมเข้ม ผิวพรรณขาวนวลเนียนดุจดั่งหญิงสาว ทั้งหมดเป็นความลงตัวที่ทำให้หญิงสาวทุกคนล้วนใจละลายเมื่อได้พบเห็น

‘แต่ดูจากรูปการณ์ที่เข้ามาพัวพันกับคนพวกนี้ เขาอาจไม่ใช่คนดีก็เป็นได้’ ลินินคิดในใจ ก่อนจะหลบตางุดต่ำลงอีกครั้งอย่างจำใจ ไม่ว่ายังไงเขาก็คงไม่ได้มาช่วยหรอก

ไม่นานนัก ผู้ติดตามคนสนิทอย่างชาร์ลก็เดินเข้ามาเทียบเคียงอยู่ข้างเจย์เดน ในตอนนั้นเอง ลินินก็ยกมือขึ้นชี้หน้าเขาอย่างช่วยไม่ได้ เธอจำได้ดีว่าเป็นผู้ชายที่เข้ามากว้านซื้อดอกไม้ที่ร้าน

“คุณ...?” ลินินเอ่ยเรียกชาร์ลด้วยท่าทีฉงน แต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป ด้วยคิดว่าบางทีอาจเป็นเรื่องบังเอิญที่ได้มาเจอกันที่นี่

แต่ถึงอย่างนั้น ชาร์ลก็ไม่มัวพูดพร่ำ บอกกล่าวกับเจ้าหนี้โดยตรง “ค่าตัวของนาง ทางนั้นจ่ายให้พวกเจ้าเท่าไหร่ ท่านชายจะจ่ายให้มากกว่าเท่าตัว” เขาว่าพลางขยับแว่นตาขณะที่มือหนากำลังเตรียมเลื่อนทำธุรกรรมการเงินผ่านทางโทรศัพท์

“คุณเจย์เดนสนใจนังเด็กนี่เหรอครับ?”

“ข้าคิดว่าเมื่อสักครู่ผู้ติดตามของข้าก็พูดไปชัดเจนแล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง ว่าไหม?” แววตาคมกริบจ้องมองไปขณะตอบคำถาม

ชายวัยกลางคนที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับหน้าถอดสี เขารีบหันไปก้มศีรษะคารวะเจย์เดนทันที ถึงแม้เขาจะเป็นคนยุคปัจจุบัน แต่ก็ทราบดีว่าตระกูลแบรดฟอร์ดนั้นมีอำนาจล้นฟ้าและไร้ซึ่งผู้ใดกล้าขัดใจ รวมถึงเขาเองก็เช่นกัน

“ครับ ได้ยินชัดเจนแล้วครับ” เจ้าหนี้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนน้อม พลางยื่นหนังสือสัญญาไถ่ตัวของลินินส่งไปให้เจย์เดนเพื่อบ่งบอกค่าตัวของเธอ “ปล่อยเธอซะ”

ลินินยืนฟัง ในตอนแรกเธอมีสีหน้างุนงงก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นดื้อดึงเล็กน้อย คนพวกนี้นี่มันยังไงกัน ไม่ว่าอย่างไรก็จะซื้อขายเธอดั่งสิ่งของให้ได้เลยอย่างนั้นสิ

นอกจากนี้ คนที่ถูกรียกขานว่า ‘ท่านชาย’ นั่น หน้าตาก็ยังดูเยาว์วัย อายุยังไม่น่าจะเกินยี่สิบต้น ๆ เสียด้วยซ้ำ แล้วเหตุใดจึงอยากได้ตัวเธอกัน?

ระหว่างนั้น เจย์เดนรับหนังสือสัญญาไถ่ตัวมา พลางปรายตามองลินินที่ยืนอยู่ด้วยท่าทีเรียบเฉย เขาแค่นหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกมาเบา ๆ เป็นการบ่นกับตัวเอง

“นี่ไม่ทันไรก็ต้องเสียเงินเพราะนางแล้วหรือเนี่ย ใช้ได้แน่นะ”

คำพูดนั้นทำให้ลินินคิ้วขมวดพันกันด้วยความไม่พอใจเข้าไปใหญ่ เธอไม่ได้ขอให้มาซื้อสักหน่อย อยู่ ๆ เขาก็เดินเข้ามาแล้วขอซื้อตัวเธอเอง

แต่แม้คำพูดของเจย์เดนจะฟังดูเหมือนไม่ค่อยใส่มใจนักแต่การกระทำกลับสวนทางอย่างไรไม่รู้ เพราะสายตาคมกริบนั้นจ้องมองลินินประหนึ่งอยากจะกลืนกินเธอให้ได้เลยทีเดียวเชียว หากว่ากันตามตรง เขาอยากได้เธอแต่ทำปากหนักไปอย่างนั้นแหละ

แต่หากเป็นเขาคนนี้ก็คงดีกว่าชายแก่รุ่นราวคราวพ่อแหละนะ เอาไว้ค่อยหาทางต่อรองเจรจาเอาก็ได้ ลินินครุ่นคิดในใจ

“หวังว่าพวกเจ้าจะเลิกยุ่งกับนางโดยเด็ดขาดนะ”

“ครับ คุณเจย์เดน” หลังจากได้เงินจำนวนมหาศาลไปแล้วพวกเจ้าหนี้ยังคงก้มศีรษะอย่างนอบน้อม

และหลังจากเชยชมเธออยู่สักพัก เจย์เดนก็หันไปบอกชาร์ลด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเบื่อหน่ายเล็กน้อย “จัดการเอกสารให้เรียบร้อย แล้วพานางกลับมาด้วยล่ะ”

“ขอรับท่านชาย” ชาร์ลรับหนังสือไถ่ตัวจากมือเจย์เดนไปถือเอาไว้เอง ก่อนจะแอบยกยิ้มอย่างรู้ทันความคิดของท่านชายอย่างเสียอดไม่ได้

“อะไร...ข้าทำไปเพราะกุหลาบนั่นหรอก...” เจย์เดนพูดเสียงเบา เพื่อให้ผู้ติดตามได้ยินเพียงคนเดียวเท่านั้น

“ข้ายังไม่ได้กล่าวสิ่งใดเลยขอรับ”

เจย์เดนเห็นแบบนั้นก็ส่ายศีรษะ หลังจากเดินออกมาพ้นสายของผู้ติดตามตัวเองแล้วเขาก็แอบนึกในใจว่า “นาง...เป็นสมบัติของข้าแล้ว...”

ในขณะที่ชาร์ลก็แอบยิ้มตามแผ่นหลังของเขาที่เหมือนจะรีบเดินหายวับไปอย่างรวดเร็ว

“กลับบ้านกันเถอะขอรับ ท่านหญิง...”

“!?”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 8 อยู่บ้านกับท่านพ่อ 2

    ในเช้าวันหนึ่งหลังมื้ออาหาร อยู่ๆ ลินินก็ได้รับสายจากบริษัทว่ามีธุระเร่งด่วนต้องเข้าไปเจรจากับทางโรงงานฝ่ายผลิต ด้วยแบบเสื้อผ้าที่โรงงานจัดทำตัวอย่างรุ่นแรกออกมามันผิดไปจากแบบที่เธอคาดหวังเอาไว้มากคิ้วสวยขมวดมุ่นอย่างไม่พอใจ ก่อนจะจัดการบอกเลขาว่าเดี๋ยวจะเข้าไปที่โรงงานด้วยตัวเอง“ดูเหมือนต้องไปที่โรงงานเองแล้วล่ะ แบบที่ส่งมามันไม่ตรงกับที่สั่งไว้เลย” เธอบ่นให้สามีฟังขณะที่เตรียมตัวจะออกไปข้างนอกเจย์เดนที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ทำหน้าฉงน “เจ้าสั่งเลขาไปแทนก็ได้หนิลินิน ไม่เห็นต้องไปเองเลย ทำไมต้องเหนื่อยเองด้วย?” น้ำเสียงบ่งบอกชัดเจนว่าคัดค้านสุดตัวลินินจึงหยุดมือจากการเตรียมเอกสารแล้วหันมามองมาทางเขาอย่างไม่เข้าใจนักว่าทำไมสามีเธอจึงมีทีท่าเช่นนั้น“ก็เพราะเป็นแบรนด์ของฉันไง ฉันก็เลยอยากเข้าไปดูเอง”ได้ยินแบบนั้นเจ้าแวมไพร์ก็เริ่มขยับตัวเหมือนอยู่ไม่สุข สีหน้าของเขาเริ่มออกอาการกังวล ส่วนภรรยาตัวน้อยของเขาก็จับจ้องมองตามท่าทีนั้นอย่างไม่วางตา ด้วยสงสัยว่าสามีเป็นอะไรไป“แต่เจ้าไม่ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองก็ได้นี่นา ข้าแค่…แค่คิดว่าเจ้าควรพักบ้าง” ว่าจบก็ส่งมือหนาเข้ามากอบกุมมือเรียวของเธออ

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 7 คำชมจากแม่สามี

    ในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่น ท่านพ่อและท่านแม่ของเจย์เดนมาถึงพร้อมกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะจากเด็ก ๆ ทั้งสี่ที่วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน พวกเขาเติบโตอย่างรวดเร็วจนผู้ใหญ่ในครอบครัวอดตกใจเสียไม่ได้“ลินิน เจ้านี่เก่งเหลือเกิน” ท่านแม่เอ่ยชมขณะมองดูหลาน ๆ ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ใกล้ ๆ “ของข้าแค่คนเดียวก็ลมแทบจับแล้ว” ลินินยิ้มตอบ ขณะเดียวกันนั้นเจย์เดนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เริ่มขมวดคิ้วขึ้นในทันทีเมื่อได้ฟังคำพูดของแม่ตัวเอง “อะไรกันท่านแม่ ข้าเลี้ยงยากเหรอ?” ถามด้วยน้ำเสียงจริงจังไลเรนได้ยินก็หัวเราะขึ้น “เลี้ยงยากมาก เจ้าดื้อมากตั้งแต่ยังเล็ก ๆ แล้ว” “ดื้อเหรอคะ?” ลินินเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสนใจ “ไม่เห็นเคยรู้เลย” เธอนึกภาพเจย์เดนผู้มีท่าทีสงบนิ่งกลายเป็นเด็กดื้อไม่ออกเลยจริง ๆ แต่ถ้าหากเรื่องความขี้แกล้ง อันนี้พอจะรู้อยู่บ้างแล้วล่ะเจย์เดนขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม “ข้าไม่ได้ดื้ออะไรสักหน่อย ท่านแม่น่ะพูดเกินไป”“งั้นเหรอ?” ท่านแม่ส่งยิ้มพร้อมสายตาเจ้าเล่ห์มาทางเจย์เดน ก่อนจะหลับตาลงแล้วเล่าเรื่องสมัยที่เจย์เดนยังเป็นเด็กขึ้น “แล้วใครกันที่ปีนต้นไม้หนีออกจากบ้านเพร

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 6 อยู่บ้านกับท่านพ่อ

    บังเอิญว่าในวันนี้ลินินจะต้องไปตรวจงานออกแบบเสื้อผ้าที่บริษัทของเธอ หลังจากเตรียมตัวเสร็จแล้วก็พร้อมจะออกเดินทางเจย์เดนในเสื้อเชิ้ตที่พับแขนขึ้นเล็กน้อยก็เดินตรงเข้ามาหาเธอด้วยมาดเข้ม "เจ้าจะไปนานไหม?" เขาถามลินินพร้อมย่อตัวนั่งลงตรงหน้าก่อนจะยื่นมือหนาออกไปช่วยสวมรองเท้าให้เธอ"ไม่นานหรอก นายอยู่ดูเด็ก ๆ ไหวใช่ไหม?" ลินินหันมายิ้มให้เล็กน้อยเจย์เดนพยักหน้ามั่นใจ "ข้าเป็นแวมไพร์นะ เลี้ยงเด็กแค่นี้จะไปยากอะไร" ใบหน้าหล่อแสยะยิ้มขึ้นด้วยความมั่นใจลินินเห็นแบบนั้นก็แอบหัวเราะนิดหน่อย "งั้นฝากด้วยนะ อย่าให้พวกเขาทำบ้านพังล่ะ""บ้านทนจะตาย เจ้าอย่ากังวลไปเลย" เขาพูดติดตลก พร้อมยกมือโบกให้ลินินก่อนที่เธอจะเดินออกไปตอนแรกทุกอย่างดูสงบเรียบร้อย เด็ก ๆ นั่งวาดรูปอยู่ในห้องโถงใหญ่ แต่ไม่นานนัก เรย์เน่เริ่มบ่นว่าเบื่อและอยากเล่นซ่อนแอบ"ท่านพ่อ เล่นซ่อนแอบกับพวกเราไหมคะ" ไม่เพียงแค่เอ่ยถาม ยังส่งสายตาแวอย่างออดอ้อนมาให้เจย์เดนอีกต่างหากร่างสูงที่นั่งเฝ้าลูก ๆ พร้อมทำงานไปด้วยก็ชายตาขึ้นจากกองงาน ก่อนจะตอบรับ "ได้สิ นับสิบนะ"ยังไม่ทันจะเริ่มนับ เด็ก ๆ ทั้งห้าก็วิ่งวุ่นหาที่ซ่อนไปทั่วคฤหาสน์

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 5 ข้าวกล่องหรรษา

    เช้าวันหนึ่งลินินตื่นขึ้นมา และเมื่อเห็นว่าลูก ๆ ยังหลับอยู่ เธอก็ตั้งใจว่าจะทำข้าวกล่องไปให้สามีที่บริษัท จึงรีบเร่งเตรียมวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน“ทำเสต๊กแล้วกัน” เธอว่าพลางตัดชื้นเนื้อแล้วจับมันพลิกใส่เตาย่าง เมื่อสุกได้ที่แบบกลาง ๆ แล้ว ก็นำมาตัดเป็นชิ้นพอดีคำ และพร้อมเริ่มเตรียมอย่างอื่นต่อไปแต่ก่อนที่จะทันได้ลงมือ ลูก ๆ ทั้งสี่ เจย์เนส เรย์เน่ เคย์ลิส และไลเอนน์ ก็ตื่นขึ้นมาได้ยินเข้าเสียก่อน"ท่านแม่ทำอะไรเหรอครับ/คะ?" เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ย ถามอย่างตื่นเต้น และเมื่อทราบว่าท่านแม่ของพวกเขากำลังจะทำรู้ข้าวกล่องไปให้ท่านพ่อที่บริษัท ทุกคนก็ดูเหมือนอยากจะช่วยกันคนละไม้คนละมือขึ้นมาในทันทีแต่แทนที่การช่วยจะทำให้งานเสร็จเร็วขึ้นกลับกลายเป็นวุ่นวายกว่าเดิมเสียอย่างนั้นเจย์เนสที่เป็นพี่ใหญ่สุดพยายามช่วยลินินหั่นผลไม้ แต่ด้วยความที่ยังมือใหม่จึงหั่นออกมาได้ไม่ค่อยเท่ากันนัก บางชิ้นก็ใหญ่เกินกว่าจะยัดลงปากได้ ส่วนบางชิ้นก็บางเฉียบจนแทบไม่ไต้องเตี้ยวกันเลย จนลินินต้องเข้ามาแก้ให้ส่วนเรย์เน่ คนนี้ชื่นชอบความสวยงามเป็นชีวิตจิตใจ จึงได้รับหน้าที่ยืนแต่งจานสลัด แต่ด้วยความที่เป็นเด็ก จึงใส่ใ

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 4 ศึกชิงนางจากผู้ท้าชิงห้าคน

    นานวันเข้า เจย์เนสและเรย์เน่ก็เริ่มโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ก็เหมือนเด็กอายุเจ็ดขวบเข้าแล้ว ส่วนน้องน้อยของพวกเขาตอนนี้ก็คล้ายกับเด็กมนุษย์ในช่วงวัยห้าขวบ และใช่ ทั้งมดนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงปีเป็นอย่างที่ท่านหมอเคยกล่าวว่าพวกเขาจะโตไวและเรียนรู้เร็วมาก เจย์เดนกับลินินจึงจ้างครูมาคอยสอนพวกเขาที่บ้านด้วย เนื่องจากเล็งเห็นว่าพวกเขาอาจยังไม่พร้อมที่จะไปเข้าเรียนร่วมกับเด็กคนอื่น ๆนอกจากนี้ เมื่อเริ่มโตขึ้น การติดแม่ก็เริ่มน้อยลง กลายเป็นน้อง ๆ เข้ามาทำหน้าที่ในส่วนนั้นแทนเจย์เนสในวัยหนุ่มน้อยเริ่มสนใจการอ่านหนังสือในห้องเงียบ ๆ หรือออกไปฝึกศิลปะการต่อสู้กับอาจารย์ที่ท่านพ่อของเขาจ้างมาฝึกส่วนตัวเสียมากกว่ามาขลุกอยู่ในห้องกับน้อง ๆ และนอกเหนือจากนั้นนิสัยก็เริ่มเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนผู้เป็นพ่ออย่างไม่ทิ้งห่างส่วนเรย์เน่ก็เริ่มมีความสนใจในเรื่องศิลปะและดนตรี บ่อยครั้งเธอจะเก็บตัวฝึกซ้อมเปียโนหรือวาดภาพในมุมของตัวเอง "ช่วงนี้ส่งไม้ต่อให้น้อง ๆ แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าแม่จะเหงาเลย"ลินินได้ฟังเช่นนั้นก็หลุดหัวเราะออกมา แต่ถึงก็ยังมีสมาชิกตัวโตที่ดูเหมือนจะคอยมาแย่งแม่ของพวกเขาอยู่ตลอด

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 3 เกิดเรื่องไม่คาดฝันอีกแล้ว

    และแล้ววันหนึ่งก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นอีกครั้งเข้าจนได้ เมื่อลินินส่องกระจกและเริ่มเห็นหน้าท้องที่ดูเหมือนจะอวบอิ่มขึ้น“นี่เราไม่ได้ออกกำลังกายจนลงพุงหรือยังไงกันเนี่ย” เธอพึมพำ แต่แล้วก็นึกถึงตอนที่ตั้งท้องสองแฝดขึ้นมาได้ ว่ามันก็เริ่มต้นเช่นนี้นอกจากนี้เมื่อสังเกตอาการไปนานวันเข้า ยังมีอาการพะอืดพะอมร่วมด้วยอีกต่างหาก อาการนั้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเจย์เดนต้องตัดสินใจพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลในที่สุด“ซูบผอมลงอีกแล้วนะขอรับท่านหญิง” ท่านหมอเอ่ยแซวพร้อมรอยยิ้ม"ตอนแรกฉันคิดว่าอาจจะกินเยอะไป อาหารก็เลยอาจจะไม่ย่อย แต่พอเห็นว่าผอมลงแล้วท้องป่องเหมือนครั้งที่แล้ว ก็เลยคิดว่าคงจะ..." ลินินพูดเสียงเบาขณะที่ท่านหมอก็อัลตร้าซาวน์บริเวณหน้าท้องของเธอไปพลาง“ขอรับ ตั้งครรภ์อีกแล้ว..." ท่านหมอยืนยันความคิดของเธอเจย์เดนที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ พลันหยุดนิ่งราวกับถูกหยุดเวลา ดวงตาสีแดงของเขาจับจ้องไปยังหมอหลวงราวกับอยากจะให้แน่ใจว่าตัวเองฟังไม่ผิดไป "ปกติแล้วแวมไพร์จะตั้งครรภ์ได้ครั้งเดียวไม่ใช่หรือ?"“นั่นน่ะสิ” แววตาคู่สวยของลินินก็จับจ้องใบหน้าของท่านหมอด้วยความฉงนเช่นกัน พร้อมกับหันมองสามีของตน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status