แต่เขาไม่อยากให้ลูกสาวของตัวเองกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม ตอนที่จะออกไป เขาพูดประโยคหนึ่ง "เซิงเซิง ไม่ต้องทรมานตัวเอง ต่อให้ลูกหย่าร้างกับเขาตระกูลเจียงก็ยังเป็นบ้านของลูกตลอดไป พ่อยินดีต้อนรับลูกกลับมาเสมอ"เจียงเซิงหยุดนิ่งจากนั้นก้มหน้าและยิ้มบางเธอรู้ว่าคุณพ่อหวังดีต่อเธอ ไม่อยากให้เธอกล้ำกลืนฝืนทน แต่เธอแค่อยากรู้ให้ชัดเจนว่าทำไมซือเย่เจ๋วจะหย่าร้างกับเธอ ก่อนที่จะถึงตอนนั้น เธอไม่มีทางยอมแพ้เด็ดขาด!เมื่อก่อนเป็นเขาที่ตามตื๊อตอแย ครั้งนี้สลับเป็นเธอบ้าง!วันรุ่งขึ้นณ TG กรุ๊ปจากที่หลัวหยิงสืบแทนเธอว่าซือเย่เจ๋วอยู่ที่บริษัท เจียงเซิงก็ตั้งใจแต่งตัวยกใหญ่แล้วนำข้าวกล่องมายัง TGหลัวเชว่ออกมาจากห้องทำงาน เมื่อเห็นผู้หญิงที่ท่าทางสวยและสง่างามเดินมา เขาก็ตกตะลึงและพูดขึ้น "คุณเจียง คุณ......"เขารู้ว่าเจียงเซิงหน้าตาสวยมากอยู่แล้ว แต่ตั้งแต่ที่คบกับท่านเจ๋ว เธอแต่งหน้าน้อยมาก ดังนั้นเมื่อเห็นเจียงเซิงที่แต่งหน้าอย่างประณีตก็ยังตกตะลึงเล็กน้อยเจียงเซิงชี้ไปที่ประตู “ฉันเข้าไปได้ไหม?”หลัวเชว่หยุดนิ่ง ในเมื่อท่านเจ๋วไม่ได้บอกว่าห้ามเธอเข้าไป แต่ไม่รอเขาตอบกลับ เจียงเซิงผลั
เจียงเซิงจูบลงบนริมฝีปากเย็นเฉียบของเขาอีกครั้ง เธอแนบตัวกับร่างกายของเขา มันแฝงไปด้วยความยั่วยวนเขาเธอคิดว่าเธอทำได้แต่เธอพบว่าเธอคิดผิดซือเย่เจ๋วอารมณ์ไม่สะทกสะท้าน ถ้าหากไม่ใช่เพราะความยับยั้งชั่งใจที่เขาภาคภูมิใจ นั่นก็คือเธอทำให้เขาหมดความสนใจไปแล้วเธอค่อย ๆ แยกออกจากปากของเขา แม้แต่หายใจก็ยังรู้สึกทรมาน เธอควรจะเชื่อว่าเขาเบื่อแล้ว ไม่รักแล้วจริง ๆ ใช่ไหม? หรือว่า เป็นวิธีที่เขาบีบคั้นให้เธอจากไปวิธีหนึ่ง?เธอกำหมัดแน่น "ซือเย่เจ๋ว ถ้าฉันบอกว่าฉันจะไม่ยอมแพ้ล่ะ?"ซือเย่เจ๋วนิ่งอึ้ง แต่ก็แค่แวบเดียวเท่านั้นก็หายไปกับความมืดสลัว เขาหันไปพูด "คุณกลับไปก่อน"เจียงเซิงเดินเข้าไปกอดเขาไว้ซือเย่เจ๋วเกร็งร่างกายของเขา มือที่ยกขึ้นค่อย ๆ ดึงกลับและกำหมัด พยายามควบคุมอารมณ์ที่อยากจะกอดเธอเอาไว้แน่น ๆและเสียงของเธอเบามาก "ซือเย่เจ๋ว ฉันไม่เชื่อว่าคุณไม่รักฉัน ต่อให้ไม่รัก แล้ว ฉันก็จะ......คิดหาวิธีทำให้คุณหลงรักฉันใหม่อีกครั้งความตกใจในดวงตาของซือเย่เจ๋วหายไม่นานก็หายไปจนหมด ต่อให้ความรักที่เขามีต่อเธอไม่เคยลดน้อยลงสักนิด แต่เขาก็ยังต้องทำใจดำเขาดึงเจียงเซิงออกจากอ้อมแขน
ซือเย่เจ๋วเลื่อนที่เขี่ยบุหรี่ไปด้านข้าง นิ้วมือเคาะลงบนโต๊ะเป็นระยะ ๆ "กุงเห้อรู้แล้วยัง?"เขาหมายถึง เรื่องที่เจียงเซิงเกิดเรื่องขึ้นที่ประเทศ Sหลัวเชว่หยุดนิ่งครู่หนึ่งแล้วตอบกลับ "ผมคิดว่า กุงเห้อน่าจะรู้แล้วนะครับ"**เจียงเซิงถูกคนรับมาที่ตระกูลลู่อย่างรวดเร็ว และเธอก็พอเดาถึงเหตุผลที่กุงเห้อเรียกหาเธอได้แล้ว กุงหลี่หลี่พาเธอมาที่ห้องหนังสือ กุงเห้อประสานมือยืนที่หน้าต่าง ไม่ได้หันกลับมา "ซือเย่เจ๋วกับเธอถูกโจมตีที่ประเทศ S เหรอ?"เจียงเซิงยิ้มบาง "ข่าวสารของคุณเหมือนว่าจะรวดเร็วดีนะคะ""หึหึ อย่างไรซะประเทศ S ก็ถือว่าเป็นฐิ่นของฉัน หลังจากพวกเขาได้รับข่าวสารก็รายงานมาที่ฉัน ดูท่าว่าคนเหล่านั้นควบคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้ว"กุงเห้อหมุนตัวมาอย่างไม่รีบร้อน สายตามองไปที่เธอแล้วพูดขึ้น "ฉันพูดไว้ไม่ผิดเลยสักนิด เธอคบกับซือเย่เจ๋วต่อให้ฉันไม่ใช้เธอมาต่อกลอนตระกูลซือ แต่พวกเขาก็ไม่มีทางออมมือ"เจียงเซิงเดินเข้าไป "นายเฒ่ากุง เรื่องของตระกูลซือกับตระกูลกุงของพวกคุณ คุณเคยคิดบ้างไหมว่าบางทีคุณอาจจะถูกชักนำ?"กุงเห้อหน้าตาบึ้งตึง สีหน้าไม่พอใจ "ตอนนี้เธอยังจะช่วยพูดแทนตระกูลซืออีกเหร
เจียงเซิงหยุดชะงัก ถึงได้พูดขึ้น "แม่ของฉันรู้จัก เขายังบอกฉันอีกว่า แม่ของฉันเสียชีวิตด้วยโม่จ้วงไวรัส"กุงหลี่หลี่ปิดปาก สีหน้าตกตะลึงส่วนกุงเห้อก็แข็งทื่ออยู่ที่เดิมและสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันทีกุงเห้อให้กุงหลี่หลี่พาเจียงเซิงออกไป ตัวเองอยู่ในห้องหนังสือที่เงียบสงัด ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ สีหน้าดูแย่มาก ๆกุงหลี่หลี่เดินลงไปที่ชั้นล่างกับเธอ จู่ ๆ ก็ถามขึ้น "เจียงเซิง คำพูดเมื่อครู่ที่คุณพูดเป็นเรื่องจริงเหรอ แม่ของคุณ......""อืม คุณลุงเรเวียร์ไม่มีทางโกหกฉัน"เจียงเซิงรู้ว่า เรเวียร์ไม่มีทางเอาสาเหตุการเสียชีวิตของแม่ของเธอมาหลอกเธอ แต่เมื่อนึกถึงสีหน้าของกุงเห้อเมื่อสักครู่ เธอยังคงใส่ใจเล็กน้อย "คุณป้า คุณบอกฉันได้ไหม คุณตาทำไมเมื่อได้ยินว่าไวรัสสีหน้าก็เปลี่ยนไป?"เธอเรียกคุณป้า ทำให้กุงหลี่หลี่รู้สึกปลื้มใจเล็กน้อย ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอถึงได้ตอบกลับอย่างจนใจ "ฉันก็ไม่แน่ใจ คุณตาของคุณไม่รู้จริง ๆ ว่าแม่ของคุณติดเชื้อ แม้แต่ฉันก็ยังไม่รู้ ไม่แปลกใจที่เธอจะจากไปพร้อมกับเซียว......""ตอนนี้ฉันเพิ่งจะเข้าใจเหตุผลที่ม่านม่านพูดว่ามีเพียงเซียวที่สามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เ
ปลายนิ้วที่พันกันของเจียงเซิงกระชับแน่น จากนั้นหันหน้ามองไปทางซือเย่เจ๋วที่จิตใจเหม่อลอยอยู่ "คุณจะหย่าร้าง คิดจะอธิบายกับลูก ๆ อย่างไร?"ซือเย่เจ๋วร่างกายแข็งทื่อเล็กน้อย สายตาเคร่งขรึมและพูดขึ้น "ถึงเวลาค่อยว่ากัน"ต่อให้เด็ก ๆ เกลียดเขา กล่าวโทษเขาเจียงเซิงมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง และพูดช้า ๆ "ไม่มีทางเลือกอื่นเหรอ?"จะต้องหย่าให้ได้?เขาไม่พูดจาเจียงเซิงกำมือเล็กน้อย "อย่างน้อยฉันก็อยากจะรู้ว่าเป็นเพราะอะไรคุณถึงอยากจะหย่าร้าง"ซือเย่เจ๋วขมวดคิ้ว พูดอย่างหงุดหงิด "สิ่งที่ควรพูดผมก็พูดไปแล้ว"เป็นอย่างที่คิด ถามอะไรออกมาไม่ได้เลยเจียงเซิงยิ้มเยาะออกมา ในเมื่อเขาไม่ยอมพูดแล้วอยากจะให้เธอหย่าร้าง งั้นเธอก็จะไม่หย่า หน้าด้านก็หน้าด้านเถอะ ใครใช้ให้เธอไม่อยากจากไปล่ะซือเย่เจ๋วเห็นความผิดหวังบนใบหน้าของเธอ ลึกไปในดวงตาปรากฏอารมณ์คลุมเครือออกมาทำให้เขาเกร็งใบหน้าอย่างอดไม่ได้หัวใจของเธอคงจะเจ็บปวดมากสินะแต่เขาก็เจ็บปวดเช่นกันเด็กทั้งสามคนรู้ว่าแด๊ดดี้กับหม่ามี้กลับมาแล้ว ต่างก็ดีใจอย่างมาก อาจเป็นเพราะไม่ได้เจอกันนานแล้ว เด็กทั้งสามคนตามติดเจียงเซิงมากหน่อย"หม่ามี้ หม่ามี
เจียงเซิงเบะปาก แต่เมื่อนึกอะไรได้ ในดวงตาก็มีความเจ้าเล่ห์แวบผ่านไปซือเย่เจ๋วอาบน้ำเย็น ระงับแรงกระตุ้นทั้งหมดของเขาเอาไว้ เขาถึงขั้นเสียใจกับความไม่เด็ดขาดของตัวเอง ยิ่งให้เธออยู่ต่อ ถึงเวลาเขาจะทำใจหย่าร้างได้จริง ๆ เหรอ?ไม่อยากปล่อยมือ แต่ก็ต้องปล่อยมือทั้ง ๆ ที่จะหย่าร้าง แต่กลับใช้เรื่องของลูกให้ความร่วมมือกับเธอ นี่อาจจะเป็นความเห็นแก่ตัวของเขาสินะเขาเพียงแค่อยากครอบครองช่วงเวลาที่สวยงามเหล่านี้เอาไว้ให้แน่น แค่เพียงเท่านี้ซือเย่เจ๋วเดินออกมาจากห้องน้ำ ภาพตรงหน้าทำให้ไฟลับที่เขาระงับเอาไว้ได้อย่างยากเข็ญก็ปะทุขึ้นในหัวของเขาอีกครั้ง เกือบทำให้เขาสติแตกเจียงเซิงใช้มือข้างหนึ่งค้ำศีรษะกึ่งนอนอยู่บนเตียง แต่ท่าทางที่สวยหยาดเยิ้ม ยั่วยวนอย่างถึงที่สุดแบบนี้ ผู้ชายทั่วไปเห็นแบบนี้ยังแทบคลั่ง ไม่ต้องพูดถึงเขา?ซือเย่เจ๋วเบี่ยงหน้าหนีอย่างยากลำบากและกัดฟันพูด "เจียงเซิง คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่?""ท่านเจ๋วบอกว่าฉันไม่มีแรงดึงดูดไม่ใช่เหรอ?" เจียงเซิงเล่นปลายผม ใบหน้าสวยหยาดเยิ้มยิ้มบาง "ทำไมถึงไม่กล้ามองฉัน?"ซือเย่เจ๋วดวงตาลึกซึ้ง หน้าตาบึ้งตึงและข่มเสียงต่ำ "คุณเ
เจียงเซิงหยุดชะงัก จากนั้นลดสายตาลงอย่างอดไม่ได้ "ใช่มั้งคะ""งั้นเด็ก ๆ ล่ะ?" เจียงเซิ่นพูดช้า ๆ "พวกลูกหย่าร้าง ต้องส่งผลกระทบต่อเด็ก ๆ อย่างมากแน่นอน"เจียงเซิงเม้มริมฝีปาก "เขาบอกว่าหลังจากหย่าร้าง ลูก ๆ จะเลี้ยงดูด้วยกัน หนูก็ยังอยู่สามารถอยู่กับลูก ๆ ได้..."เจียงเซิ่นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย "ท่านเจ๋วพูดแบบนี้เหรอ?"ดูเหมือนไม่คาดคิดเจียงเซิงพยักหน้า จากสถานะของซือเย่เจ๋ว ถ้าหากไม่อยากมีความเกี่ยงข้องใด ๆ กับเธอ เขาสามารถแย่งชิงสิทธิ์การเลี้ยงดูกับเธอได้ ถึงขั้นที่ทำให้เธอไม่ได้อะไรสักอย่างแต่เขาไม่ได้ทำ ดังนั้นเธอจึงเชื่อว่าที่ซือเย่เจ๋วหย่าร้างยังมีเหตุผลอื่นอีก แต่เขาไม่ยอมบอกเหตุผลที่แท้จริงในการหย่าร้างกับเธอแฟรงค์โทรหาเธอ เธอเดินไปรับสายที่ด้านข้าง "คุณอาแฟรงค์? ได้ค่ะ งั้นฉันจะไปเดี๋ยวนี้"“แฟรงค์ เรียกหาลูกเหรอ?” เจียงเซิ่นถามหลังจากเจียงเซิงวางสาย ก็หันไปมองเขา "อืม คุณพ่อ ช่วยดูแลเด็ก ๆ ไปก่อน หนูไปที่บริษัทหน่อย"เจียงเซิ่นยิ้มและพูด "วางใจได้"เจียงเซิงขับรถไปที่ Soul จิวเวลรี่ เพิ่งก้าวเท้าเข้าไปในห้องโถงใหญ่ ก็เห็นแฟรงค์กำลังพูดคุยอะไรบางอย่างกับทีมงา
เขาเป็นถึงเจ้าชายไวโอลินที่มีชื่อเสียง กระแสไม่ด้อยไปกว่าเลย อีกอย่างยังเป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียนดนตรีรอยัลแฟรงค์ตกตะลึง เขาคิดว่าเจียงเซิงจะหานักแสดงยอดเยี่ยมกู้ซะอีก คิดไม่ถึงว่าจะนึกถึงคุณชายตระกูลลู่ได้ให้ลู่ลี่เซินมาเป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์ Soul จิวเวลรี่ เหมือนว่าผลลัพธ์ไม่ได้ด้อยไปกว่าดาราเป็นพรีเซนเตอร์เลย อีกอย่าง ลู่ลี่เซินไม่เคยเป็นพรีเซนเตอร์ให้แบรนด์ไหนมาก่อน เขาจะรับปากไหม?เจียงเซิงออกไปรับสายที่ด้านข้าง ไม่รู้ว่าพูดอะไร จากนั้นเจียงเซิงหันมาทำมือโอเคกับแฟรงค์แฟรงค์รีบพูดกับผู้คนที่อยู่ข้างๆ "เร็วเข้า ไปเตรียมตัวเดี๋ยวนี้"สิบนาทีต่อมา ลู่ลี่เซินก็ปรากฏตัวที่ Soul จิวเวลรี่จริง ๆ หลายคนเพิ่งเคยพบลู่ลี่เซินเป็นครั้งแรก ทุกคนแทบจะตกตะลึงกับภาพลักษณ์ของเขาเขาสูง 190 เซนติเมตร แค่ความยาวขาก็ 114 เซนติเมตรแล้ว รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ขนคิ้วมีความดื้อรั้นเล็กน้อย ตาชั้นเดียวหลบในให้ความรู้สึกเย็นชาแต่ก็ยังน่าทึ่ง เหมือนกับพระเอกที่เดินออกมาจากในการ์ตูนเจียงเซิงมองนาฬิกาข้อมือ แล้วเงยหน้ายิ้ม "คุณมาได้ตรงเวลามากเลยนะ"“ทำไมจู่ ๆ ถึงได้คิดตามหาฉันผมได้” ลู่ลี่เซินสงสัย เพ