LOGIN
ควันสีเทาลอยเป็นสายออกจากเรียวปากกระจับของชายหนุ่มที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาในโซนวีไอพีของร้านอาหารกึ่งผับบนโรงแรมหรูระดับลักชัวรี พยัคฆ์ อัครกิจภูริสกุล ทอดเวลาอยู่ตรงนี้ร่วมสองชั่วโมง สายตาคมดุจพญานักล่า หากยามนี้กลับเคว้งคว้างเหลือบแลไปมองด้านในของร้านในโซนของพนักงาน สลับกับมองไปนอกหน้าต่างยังบรรยากาศที่ตระการตาด้วยแสงสีเต้นระบำ
“แด่ราตรีที่ดื่มด่ำ” แก้วทรงสูงบรรจุเครื่องดื่มสีน้ำตาลอมแดงถูกยื่นมาตรงหน้า
“แมนฮัตตัน” พยัคฆ์เอ่ยชื่อคอกเทลรสเข้มที่มีประวัติอันยาวนาน
“ส่วนผสมของไรย์วิสกี้ กับไวน์เวอร์มูธ และแองโกสทูราบิทเทอร์ จะทำให้นายรู้สึกดี ไอ้เสือ”
พยัคฆ์สบตาเพื่อนรักพร้อมขำแห้ง “เฮอะ มีพี่น้องคนไหนถีบนายตกจากเก้าอี้ CEO โรงแรมยักษ์ใหญ่มาเป็นบาร์เทนเดอร์ไม่ทราบ”
พยัคฆ์รับแก้วมาจาก เซิร์ฟ สเวนเซน หรือลูกคลื่น ทายาทมหาเศรษฐีอันดับท็อปของโลก ซึ่งมีเครือข่ายธุรกิจมากมาย นอกจากโรงแรมคิงดอม ออฟ ไดมอนด์หลายสาขาแล้ว กาสิโนที่เป็นจุดพักสายตาด้านหน้าโรงแรมแห่งนี้ยังเป็นของตระกูลนี้ด้วย
“ว่าไปนั่น พี่น้องฉันมีแต่คนอยากจะไถเก้าอี้ประธานออกจากตูดมากกว่า” ลูกคลื่นหัวเราะลงลูกคอ หย่อนตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามเพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกันสมัยปริญญาโท
พยัคฆ์เป็นทายาทเจ้าของกิจการขายเป็ดขายไก่ พ่อให้กลับไปรับช่วงต่อกิจการตั้งแต่จบโท แต่เขาดึงเวลาด้วยการต่อปริญญาเอก ยังไม่ยอมเดินทางกลับไปอยู่ไทยถาวร
เขาเป็นคนถึงไหนถึงกัน รักความท้าทาย ติดใจชีวิตแบบสมบุกสมบัน ระหว่างเรียนปริญญาเอกจึงหากิจกรรมทำคลายเครียด ด้วยการขับอูเบอร์และเป็นยูทูบเบอร์ อีกภาพลักษณ์หนึ่งคือเพลย์บอยสุดเท่ เขาจึงกลายเป็นคนดังที่ทำรายได้มหาศาลในอเมริกา จนกระทั่งเจอกับมารีตอนไปถ่ายคลิปที่แกรนด์แคนยอนเมื่อสองปีก่อน เธอมากับกลุ่มเพื่อน ดูโดดเด่นที่สุดในกลุ่มและเป็นคนเดียวที่มีเพื่อนชายคนสนิทมาด้วย
มารีหลงใหลสายตาของพยัคฆ์ยามสบกันครั้งแรก เธอชวนเขาร่วมดื่ม ร้องเพลง เต้นรำ ก่อนจะนัวเนียกันแบบวันไนต์สแตนด์ หลักฐานแปดเปื้อนบนที่นอนยืนยันว่าเขาเป็นคนแรกของเธอ เธอไม่ได้โกหกว่าเอิร์ธ ผู้ชายคนที่มาด้วยเป็นแค่เพื่อน แรมเดือนที่พยัคฆ์ตามหามารีให้ควัก จนได้พบกัน และคบหากันเรื่อยมา แต่เธอขอยุติความสัมพันธ์เมื่อสองเดือนที่แล้ว เขาถามหาเหตุผลเพียงสั้นๆ ก่อนหายหน้าหายตาไปพักหนึ่ง แล้วจู่ๆ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็มาปรากฏตัวในนี้
ที่นั่งโซนนี้ โต๊ะตัวนี้ เจ้าของโรงแรมสั่งให้สงวนไว้ให้พยัคฆ์แต่เพียงผู้เดียว ไม่ว่าชายหนุ่มจะเข้ามาใช้บริการหรือไม่ก็ตาม
“น้องๆ ที่เดินเสิร์ฟในร้านฉันก็สวยๆ ตั้งเยอะ ดีกรีไม่ธรรมดานะเว้ย” ลูกคลื่นพยักหน้าให้สาวเสิร์ฟนางหนึ่งที่เดินผ่านโต๊ะไป
“พอๆ ไม่เอาทั้งนั้น โดยเฉพาะยายแว่นใหญ่นั่นน่ะ เหมือนบาร์บี้โดนบาร์เทนเดอร์เอาความไฮเปอร์กับความเนิร์ดผสมใส่ลงไปแล้วจับเขย่า” พยัคฆ์พยักพเยิดไปยังสาวน้อยชาวไทยที่กำลังเต้นไปตามจังหวะการเขย่าของบาร์เทนเดอร์หนุ่ม
“นั่นน่ะเด็กเส้นของมารีเลยนะ เห็นว่ามาจากเชียงใหม่ บ้านใกล้เรือนเคียงกัน มารีมาอ้อนวอนให้ฉันรับเข้าทำงานตอนขอวีซ่าเวิร์กแอนด์แทรเวลมาที่นี่ จุดประสงค์คืออยากเที่ยวนั่นแหละ นี่อีกไม่กี่วันก็จะไปแล้ว”
“ไปซะได้ก็ดี น่ารำคาญ แล้วมารีก็ส่งแต่ยายนี่มาคอยบริการฉันด้วยนะ”
“น้องเขาไปทำอะไรให้วะ ระวังเหอะ เกลียดอะไรก็ดะ...”
“อย่าเอาคำพูดน้ำเน่ามาพูดกับฉันนะ ฉันยังรอเขาอยู่” พยัคฆ์ส่งสายตาประหัตประหารไปยังผู้จัดการร้านสาวที่บังอาจลูบคมเพลย์บอยอย่างเขา
“ถ้าจะให้ฉันไล่มารีออกจากตำแหน่งผู้จัดการร้านตอนนี้ ฉันไม่ทำนะโว้ย แยกแยะด้วย ต่อให้นายเป็นคนฝากก็เถอะ อย่าลืมว่าโรงแรมฉันมีชื่อเสียงเรื่องแสนดีต่อลูกจ้างและพนักงาน ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องร้องเรียนถ้าเขาทำงานดีไม่มีอะไรบกพร่อง”
“ฉันไม่ใช่เด็กๆ นะคลื่น ให้เขาทำที่นี่ไปน่ะดี ผูกสัญญาไว้นานๆ ยิ่งดี ถ้ารู้ทั้งรู้ว่ามีคู่หมั้นรออยู่ที่ไทย ก็ควรบอกฉันมาตรงๆ ตั้งแต่แรก นี่อะไร คบมาปีนึงแล้วถึงบอก”
“ที่ยังโกรธนี่เพราะรักเขาหรือว่าโดนลบเหลี่ยมวะ” ลูกคลื่นรู้ทันเพื่อน
“เหอะน่า” พยัคฆ์บอกปัดคำถามของเจ้าของโรงแรม
“จัดไหม เห็นมารีบอกว่าเร็วๆ นี้คู่หมั้นจะมาที่นี่ ฉันให้ลูกน้องลากไปกระทืบให้”
“ตระกูลนายก็ใช้แต่วิธีนี้ แต่ฉันดูออกว่ะว่ามารียังมีเยื่อใย แต่ทำไปเพราะไฟลท์บังคับ”
“นายก็คิดเข้าข้างตัวเอง ทำไมไม่มองว่าตัวเองเป็นแค่คนคั่นเวลาของมารีเวลามั่งวะ” ลูกคลื่นพูดกระแทกใจในสิ่งที่พยัคฆ์ไม่ยอมรับ
“เหงาหอยหรือไงถึงต้องการคนคั่นเวลา” พยัคฆ์สาดเครื่องดื่มลงคอ
“ไอ้เสือ นายทำ ‘ง’ หายไปเปล่าวะ” ลูกคลื่นเย้า
“อย่าทำเป็นไม่เก็ต”
“อ๋อ งั้นมารีเหงาหอย ส่วนนายก็ติดหอย?”
“สมแล้วที่เป็นเพื่อนรักของฉัน นายแม่งก็แรงไม่เปลี่ยนเหมือนกัน” พยัคฆ์ตอกกลับลูกคลื่น ตามองการโยกย้ายส่ายเอวของยายแว่นใหญ่ เท้ากระดิกตามจังหวะดนตรีโดยไม่รู้ตัว
“รักนายว่ะ ไอ้เสือ” ลูกคลื่นตบไหล่เพื่อน ก่อนลุกขึ้นยืนส่งสัญญาณให้พนักงานเอาเครื่องดื่มมาเพิ่ม “นายมีค่าสำหรับคนที่เขามองเห็น ฉะนั้นสำแดงเดชให้สุด ฉันเอาใจช่วย อ้อ ขอบคุณที่อุดหนุนนะโว้ย”
“จะไปแล้วเหรอ” ถามเพื่อน มือหยิบบุหรี่มวนใหม่มาต่อ
“อือ อีกสองชั่วโมงต้องเดินทางไปไทย ถ้านายกลับเมื่อไรไปเที่ยวไร่องุ่นฉันมั่งนะ” ลูกคลื่นทิ้งท้ายด้วยธุรกิจตัวใหม่ของครอบครัวที่พ่อของเขาซื้อที่ดินทดลองลงองุ่นรูบี้โรมัน องุ่นสายพันธุ์ที่แพงที่สุดในโลก
“เออ โชคดีเพื่อน” พยัคฆ์โบกมือให้ลูกคลื่น แล้วถอนหายใจเมื่อเครื่องดื่มแก้วใหม่ที่ลูกคลื่นสั่งให้ถูกนำมาเสิร์ฟโดยบาร์บี้เกิร์ลแว่นใหญ่
“น้ำใบบัวบกค่ะเฮีย” เมย์วางแก้วแมนฮัตตันลงบนโต๊ะตรงหน้าพยัคฆ์
“ทำไมต้องเป็นเธอที่มาเสิร์ฟทุกทีฮึ ไม่เจริญหูเจริญตาเลย” พยัคฆ์ไม่มองไปทางสาวน้อย
“เมย์บอกเป็นครั้งที่ห้าร้อยว่าเฮียกับเมย์หัวอกเดียวกัน เวลาเฮียมาพี่มารีก็เลยยกหน้าที่นี้ให้เมย์” สาวน้อยเบื่อที่จะพูดประโยคเดิม แต่ก็ต้องพูด ทว่าครั้งนี้พยัคฆ์ไม่ไล่เธอกลับอย่างรำคาญเหมือนที่ผ่านมา
“งั้นก็กินน้ำใบบัวบกซะ” เขาเลื่อนแก้วแมนฮัตตันให้คนหัวอกเดียวกัน
“หึ เฮียเอาเลย มันผิดกฎร้าน” ปากไม่กิน แต่หย่อนตัวลงนั่งข้างๆ เขา
ปานดวงใจโบกมือตรงหน้าชายหนุ่มที่ไม่สนใจคู่สนทนา เขาทิ้งสายตาไปทางมารีอีกครั้ง มารีซึ่งเผลอมองมารีบกลบเกลื่อนด้วยการหันไปคุยกับลูกน้อง
“ใจเย็นๆ สาวน้อย ตอนนี้มันคันคนละอย่างกับเมื่อกี้แล้ว ฉันรู้ว่าเธอยังไม่เคย เลยแยกแยะไม่ออก ว่าคันธรรมดากับคันอยากมีผัวมันต่างกัน” พยัคฆ์สะกดกลั้นตัวเองไม่ให้โจนทะยานตามคำเรียกของเธอ “ตอนนี้เธอคันอย่างหลัง”“อ๊า” เสียงหวานมาพร้อมเสียงกระเส่า เขาดึงมือเล็กมาจับแก่นกายตัวเอง“ฉันอยากดูเธอเริงระบำ พร่างพราวอยู่ใต้ร่างฉัน...ด้วยสิ่งที่เธอกำลังจับ”“ระ...เริง...ระบำด้วยไอ้นี่น่ะเหรอ มันท่อไอเสียแทรกเตอร์ชัดๆ” ความใหญ่โตของมันทำให้ลูกเศรษฐีชาวไร่ส้มเปรียบเทียบสิ่งที่อยู่ในมือกับสิ่งใกล้ตัว“ฉันอยากได้เธอ” เขาตัวสั่นเมื่อแก่นกายถูกมือบางลูบ พยัคฆ์ขยับเข้าออกถี่ๆ อีกครั้ง ต่างคนต่างเสียวซ่านสุกงอมด้วยอารมณ์“เสียว ฮือ เสียว”“ฉันก็เสียว เอากันก่อนเดี๋ยวค่อยแก้ไข รับรองไม่ท้อง” เขากระซิบและแยงลิ้นเข้าไปเลียในร่องหู เพิ่มความเสียวซ่านจนร่างบางกระตุกเกร็ง จากนั้นก็กระแทกลงไปมิดลำมีอารมณ์ขนาดนี้ใครมันจะถอย เขาสะอาด เธอก็สด หมดปัญหาเรื่องโรค“โอ๊ย เจ็บบบบบบบบ” เสียงร้องหลง อ้าปากกว้าง ท้องน้อยสั่นระรัวสุดทานทนกับความเสียวซ่านที่แปลบปลาบด้วยความเจ็บ“คืนนี้อดทนหน่อย แล้วพรุ่งนี้ฉันจะปลอบเธอในฐานะท
“เฮียถอดสองชิ้นเลยเหรอ” สติกลับมาชั่วคราว ความรวดร้าวข้างในแผลงฤทธิ์เพียงแค่เห็นสิ่งนั้น ความเสียวพุ่งไปกองรวมตัวกันไปที่ท้องน้อย ปานดวงใจทบทวนกฎกติกา เกมนี้มีแค่จูบนี่นา เธอหลับตาลงรอเกมถัดไป ปากพ่นคำพูดไม่น่าฟัง “เล็กกว่าผัวเก่าเมย์อีก ขนาดมันตัวเล็กกว่าเฮียนะ”ปานดวงใจคิดว่าคำพูดของตัวเองจะทำให้ไอ้เสือยักษ์ในกางเกงนั่นฝ่อลงเมื่อโดนบูลลี่“พูดแบบนี้เดี๋ยวต้องโดนของแข็งตีปาก”“ฮ่าๆๆๆๆๆ ขี้แพ้ชวนตี ไอ้เบบี๋เอ๊ย”ทว่าเขาก็เจ้าเล่ห์พอๆ กับเธอนั่นแหละ เสือยังไงก็ยังเป็นเสือ ต่อให้เอาลายพาดกลอนออก มันก็ยังเรียกว่าเสือ“เสือไม่ขี่ลิง”“หือ เล่านิทานเหยออออ เก็บไว้เล่าให้ลูกเฮียฟังเถ้อะ”“ฉันหมายถึงฉันเลือกที่จะถอดกางเกงในต่างหาก” เปลือกตาบางเผยอขึ้น ริมฝีปากอ้ากว้างเมื่อพยัคฆ์ก้าวขึ้นมาบนเตียงโดยที่ท่อนล่างเปลือยไปหมด“โอ้แม่เจ้า ไม่ใส่เหรอ” เธอยันตัวขึ้นเพื่อมองหากางเกงเขา“ใส่สิ”“ฮะ เฮียตั้งใจ ถะ ถอดกางเกงในใช่เปล่า ฮะ เฮียถอดแล้วนี่ ไป อะ เอาๆๆๆ กางเกงตัวนอกมาสะใส่สิ” ปานดวงใจพูดตะกุกตะกัก ตาจ้องมองพญาเสือโคร่งที่กระดกหัวทักทายเธอ“หมายถึงใส่อย่างอื่น”“ใส่อะไร”“เดี๋ยวรู้”สองมือหนาผ
“จักจี้” ปานดวงใจหัวเราะยามรับสัมผัสสุดสยิว มือเล็กไต่ไล้บนหน้าอกเปลือยเขา “คุณจูบไม่เป็นเหรอ”พยัคฆ์ขบกรามแน่น หันขวับไปมองยังสมุนสองคนที่ยืนรออยู่ตรงมุมหนึ่งของผับ...เป็นอันรู้กัน“ฉันเป็นนักจูบ”“จริงอะ” เธอแหงนหน้าหัวเราะอีกครั้ง “ฉันว่าไอ้คุณสมบัตินี้ต้องให้คนอื่นเขายกย่องนะ ไม่ใช่มายกหางตัวเองแบบนี้” นิ้วเรียวยาวจิ้มบนหน้าอกเขา กระแทกแรงๆ สองสามครั้งมือหนากระตุกโบบนคอของเธอ ผ้าคลุมของแวมไพร์ทิ้งตัวลงพื้นทันใดเธอน่ากลืนกินยิ่งกว่าเดิม ผิวพรรณขาวผ่อง ไหล่กลมกลึงต้องแสงไฟ ปานดวงใจกระตุกไหล่ไล่จมูกโด่งคมที่กำลังฝังลงมาแถวรักแร้ “ฉันมีเงินก้อนหนึ่งเหลือเฟือสำหรับการเที่ยวรอบโลก เธอรับคำท้าไหม”“เงินน่ะไม่หิว แต่เมย์กระหายชัยชนะ”“นี่คือคำตอบว่ารับคำท้าใช่ไหม” พยัคฆ์ต้องการคำตอบที่ชัดเจน“Yes เมย์ชอบของรางวัล ชอบความท้าทาย ฮ่าๆๆๆ”“ฉันคิดไม่ผิด งั้นมาพิสูจน์กันว่าฉันเป็นนักจูบจริงไหม กล้าจูบกับฉันหรือเปล่าล่ะ”“ทำไมจะไม่กล้า จูบเสร็จก็ล้างปาก ทำออกบ่อยปายยย แล้วกติกาคืออะไร แค่อยากได้คำยืนยันว่าเฮียเป็นนักจูบตัวยงอะเหรออออ”“ใครมีอารมณ์ก่อนคนนั้นแพ้”“โอ๊ย สบายบรื๋อ แข่งกับครายไม่
“แด่ค่ำคืนนี้เฮีย ปลดปล่อยทุกฉิ่งทุกอย่างออกมา แล้วลืมมันให้หมด”“หึๆ ปลดปล่อยทุกอย่างเลยใช่ไหม” เขามองตาเธอ “เธอจะทำให้ฉันลืมมันให้หมด?”“แม่นเจ้า” เธอตอบ ลงท้ายด้วยภาษาบ้านเกิดเขาหัวเราะ หยิบแก้วมาชนกับเธอ ก่อนจิบเครื่องดื่มดีกรีแรง 96% ตามรสชาติของมันนุ่มละมุนไม่ผิดเพี้ยนไปจากที่เธอบอก แต่เขารู้ฤทธิ์เดชของมันดี“เอาทิชชูไหม” ดูเธอจะไม่แยแสกับของเหลวที่ไหลลงมา เป็นเขาเสียเองที่ไม่อาจละสายตาไปได้ เขายังอยากนั่งอยู่ในบรรยากาศนี้ให้ตลอดรอดฝั่งจึงต้องขอความร่วมมือให้เธอช่วยจำกัดมันออก“ไม่อะเฮีย” ปานดวงใจปฏิเสธ จู่ๆ ก็ลุกออกจากโต๊ะพยัคฆ์มองตามด้วยความสงสัย แวมไพร์สาวแวะดื่มกับนักพนันหนุ่มที่ยื่นแก้วให้ระหว่างที่เธอเดินผ่าน เจ้าสาวขอบคุณด้วยการยื่นหน้าเข้าไปจะกัดลำคอพวกนั้น แต่ก็ถอยออกมาและเต้นยั่วๆ โยกๆ แบบที่เขาเห็นประจำ แต่คราวนี้เขารู้สึกว่ามันเป็นภาพบาดตา บาดความรู้สึกปานดวงใจกลับมาพร้อมกับน้ำหวานสีแดง“ตะกี้เฮียว่าเหล้าเปื้อนคอใช่ปะ”“อือ” เขามองเธอเทน้ำหวาน ตามด้วยเหล้า“เมย์เลยเพิ่งนึกได้ว่าแวมไพร์ต้องกินเลือดจะได้ฉมจริง”พยัคฆ์มองน้ำหวานผสมเหล้าไหลลงมาจากมุมปากสองข้าง ใจเต้น
บรรยากาศภายในผับกึ่งร้านอาหารคืนนี้สุดสะพรึง พยัคฆ์นึกว่าตนเองก้าวเข้ามาในบ้านผีสิง บนผนังรอบด้านกลายเป็นฉากสยองขวัญ ด้านหนึ่งเป็นผนังบ้านไม้ผุพัง อีกด้านเป็นฉากปราสาทรกเรื้อด้วยวัชพืชพาดพัน“โอ้” เขาสะดุ้งเมื่อก้มลงมองพื้น มันเป็นจอภาพที่มีหนอนตัวเป้งชอนไชน่าขยะแขยงพยัคฆ์ขนลุกซู่ พนักงานเสิร์ฟอยู่ในชุดผีสารพัดชนิด แฟรงเกรนสไตล์กำลังมิกซ์เครื่องดื่มอยู่ที่บาร์ ผีแม่ชีเยื้องย่างหน้าบึ้งตึงเสิร์ฟเครื่องดื่ม ส่วนอีกด้านเป็นเฟรดดี้ ครูเกอร์“พับผ่าสิ ฮัลนิบาลก็มา ไม่ใช่ผี แต่น่ากลัวกว่าผีซะอีก” พยัคฆ์ลูบแขนตัวเองขณะเดินสวนกับชายร่างใหญ่ แปลงร่างเสียจนจำไม่ได้ว่าเป็นพนักงานเสิร์ฟคนไหนเขาเดินไปนั่งที่ประจำ แวมไพร์สาวผิวขาวกำลังเป็นที่สนใจของลูกค้า เธอเดินนวยนาดเสิร์ฟเครื่องดื่มให้หนุ่มๆ เสร็จก็ค้อมตัวเข้าหาลูกค้า ทำทีจะกัดต้นคอให้จมเขี้ยวปลอม แต่ยืดตัวขึ้นมาก่อนที่จะโดนตะปบ ชุดตัวนั้นช่างเซ็กซี่ ตัวเสื้อเกาะอกจนต่ำ กระโปรงพองๆ สั้นเหนือเข่า รองเท้าส้นสูงมีสายพันไปมาจนถึงใต้เข่า ทั้งหมดเป็นสีดำ ยกเว้นผ้าคลุมที่เป็นสีแดงแวมไพร์สาวเต้นยั่วแขกทีละโต๊ะ เขามองเพลินเหมือนถูกสะกดจนกระทั่งแม่ค้าง
“ข้าวแห้งทะเล” ปานดวงใจบอกชื่ออาหาร “ไม่มีอยู่ในเมนูเหมือนกัน เมย์ทำเอง มันเหมือนข้าวต้มทะเล แต่ข้าวไม่เละและไม่มีน้ำ”“ฉันไม่ได้สั่ง ใครใช้ให้เปลี่ยนเมนู ฉันจะกินข้าวผัดปู” เขาดันชามออกไปไกลๆ“เฮีย มันไม่มีประโยชน์หรอกที่จะไปรำลึกถึงรสชาติเดิมๆ หรือสิ่งเดิมๆ ที่เคยทำร่วมกัน” ปานดวงใจยืนค้อมตัวปลอบเขา“แล้วเธอทำได้? ไม่เคยมีสักวูบหนึ่งเลยเหรอที่เธอเคยนึกถึงเรื่องเก่าๆ” เขาท้าทาย ค้นหาความจริงภายใต้กรอบแว่นอันโต“เมย์ก็ไม่ใช่พระอรหันต์เนาะ แต่เมย์ก็ไม่ฟูมฟายแบบเฮีย”“ฉันดูฟูมฟายเหรอ ฉันแค่อยากกินข้าวผัดปู แล้วที่ต้องบอกมารีเพราะเขาเป็นผู้จัดการร้าน ลูกค้าจะกินอาหารนอกเมนูก็ต้องบอกเขาไม่ใช่เหรอ”“โอเคๆ เมย์ผิดเองที่คิดไปไกล เฮียรอแป๊บนะ ถือว่าลูกจ้างทำกินกันเอง ไม่ต้องบอกพี่มารีหรอก” ปานดวงใจเดินส่ายหัวกลับไปที่ครัว“เป็นไงมั่งเมย์” หมิง เพื่อนร่วมงานในครัวที่วิ่งวุ่นหยิบจับจานชามใส่สเต๊กร้องถาม“เวรกรรมอะไรของเมย์ก็ไม่รู้อะ เอาแต่ใจ แบบนี้มั้งพี่มารีเลยตัดใจง่าย ความหล่อความแซ่บทะลุทะลวงไม่ช่วยอะไร ถ้าเป็นคนเอาแต่ใจ” ปานดวงใจว่าพลางเปิดตู้แช่แข็ง หยิบเนื้อปูม้าแกะออกมา“อีบ้า พี่มารีเข







