Share

2

last update Last Updated: 2024-10-22 22:22:36

นัยน์ตาก้าวร้าวสยบนางให้ปิดปากนิ่งเงียบ ก้มหน้าคุดคู้ไม่กล้าโต้แย้ง เจียลี่จำได้ว่าวันก่อนเขารังแกนาง เขาเมาสุรา ขัดขานางจนล้มหน้าคะมำจับกบอยู่หน้าเรือน ข้อเท้าของนางปวดระบม เดินกะเผลกเป็นหญิงพิการ ท่านอาไล่ตะเพิดนางเป็นไล่สุนัข นางตกใจกลัวจนตัวสั่น ทว่ากลับใจสู้ขึ้นมาจึงไม่คิดหนีไปไหนไกล นางกลับมาทำหน้าที่ของนาง หลังจากการเดินทางไปช่วยเหลือครอบครัวขายผ้าที่ตลาด นางระลึกถึงบุญคุณของเขา หากเขาไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือนางเอาไว้ นางคงได้เป็นผีเฝ้าป่าไปนานแล้ว

“เจ้ามารับใช้อดีตท่านอาเขยอย่างข้าได้หลายวัน ก็น่าจะรู้ พักนี้ข้าอารมณ์แปรปรวน ถ้าเจ้าไม่อยากมา ไม่จำเป็นต้องมา”

“ข้ามาได้ ข้ายินดีรับใช้ท่านอา”

“แล้วเจ้าจะปรนนิบัติข้าไปถึงเมื่อไร? บุญคุณที่เจ้าว่าจึงจะทดแทนจนหมดสิ้น”

“เมื่อเห็นว่าท่านอาสบายใจ ไม่ร่ำสุราด้วยความทุกข์ ท่านได้บ่าวรับใช้ที่ดี ดูแลท่านได้ไม่บกพร่อง ข้าค่อยบอกลาท่าน ระหว่างนี้ข้าจะมา...”

เจียลี่ยืนกรานว่านางจะมาอย่างแน่นอน ด้วยรอยยิ้มที่น่ารันทดอดสู 

‘คนขี้เมา’ ไม่กล้าเอ่ยไล่นางอีก เขาออกคำสั่งให้นางนอนบนฟูกในอีกห้องหนึ่ง ตะวันขึ้นเมื่อไรค่อยเดินทางไป ขืนนางเดินลุยป่ากลับบ้านของนางในยามนี้ เขาคงได้เดือดร้อนเพราะนางเป็นแน่แท้

--------------------------

ชายผู้เป็นเพียงอดีตเขยสกุลเยี่ย ปากเอ่ยว่าเจียลี่เป็นสาวเป็นแซ่ ควรระมัดระวังตนให้มากอย่างกุลสตรีพึงกระทำ กลับยอมให้นางค้างแรมในห้องรับรองแขก กระทั่งเขาสร่างเมาจากฤทธิ์ข้าวฟ่างแดงหมักในรุ่งเช้า แลเห็นนางรีบกลับบ้านไปช่วยขายผ้าในตลาดเช่นเดิม จึงส่งคนไปแจ้งข่าวแก่บิดามารดาของนางว่านางมาเหยียบเรือนท่านอาขี้เมาในยามวิกาล

ถึงนางจะไปมาหาสู่ด้วยความหวังดี เกรงว่าท่านอาอาจได้รับอันตรายจากฟืนไฟ อาจเมามายสุราจนถึงแก่ชีวิตในที่พักอาศัยลำพัง นางก็เป็นบุตรสาวพ่อค้าขายผ้าที่มีชื่อเสียง มีหน้ามีตาในวงศ์ตระกูลขุนนาง คนในราชสำนักแห่กันมาซื้อผ้า สั่งอาภรณ์ซึ่งถักทอจากช่างฝีมือดีของสกุลเยี่ย

สกุลเยี่ยล้วนมีลูกหลานเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวย อาจทำให้ชื่อเสียงหวังเฟยมัวหมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อหนุ่มน้อยใหญ่ล้วนหาข้ออ้างมาพบพวกนาง แม้อาจทำได้เพียงชะโงกคอมองด้านหน้าร้านขายผ้า

ชาวบ้านในเมืองพูดกันปากต่อปากว่า ‘ลี่จิ่น’ บุตรสาวคนเล็กสกุลเยี่ย เมื่อครั้งยังเป็นสาวสะพรั่งอายุครบสิบห้าปี สามารถเข้าร่วมการคัดสรรสาวงามเพื่อเข้าวังไปเป็นนางสนมได้ ทว่านางแสนดื้อรั้นไม่ฟังผู้ใด นางไม่มีความมักใหญ่ใฝ่สูง รักสำราญและชอบทำอะไรตามใจตน ถึงแม้ว่านางจะไม่ได้สร้างปัญหาเหมือนพี่สาวอย่าง ‘จินเยว่’ ซึ่งอยู่มาวันหนึ่งก็ตั้งครรภ์กับชายยากจนไร้สกุล หลังคลอดบุตรและเลี้ยงดูบุตรสาวจนเติบใหญ่ ผู้อาวุโสในตระกูลเยี่ยจึงให้ทั้งสองมาช่วยเหลือกิจการขายผ้า อย่าได้ไปเรียกลี่จิ่นให้ต้องทำงานเหน็ดเหนื่อย นางจะช่วยหรือไม่ช่วย ให้แล้วแต่นาง

ทุกวันนี้ลี่จิ่นอายุยี่สิบเก้าปี ยังคงสวยสะพรั่งไม่ต่างจากหญิงสาวอายุยี่สิบปี หลายปีก่อนนางหันไปเอาใจเจ้าของโรงถลุงแร่โลหะอย่างหวังเฟย ก่อนจะทอดทิ้งเขาอย่างไม่ไยดี ไปสานต่อสัมพันธ์กับคุณชายสาม บุตรชายคนโปรดผู้ครองแคว้นเล็ก ๆ ทางภาคตะวันออก ได้ยินว่าอีกไม่นานจะได้ไปครองแคว้นสวี

หวังเฟยไม่ตกหลุมพรางสกุลเยี่ยอีกเป็นแน่แท้ เขากำลังครุ่นคิดเรื่องนี้ แม้กระทั่งจุดประสงค์ของเจียลี่ นางมาปรนนิบัติเขาเพื่อทดแทนบุญคุณจริงหรือไม่

“สตรี... ล้วนเป็นเช่นเดียวกันทั้งนั้น แสวงหาผู้มีอำนาจ เพื่อคุ้มกะลาหัวตน” ในน้ำเสียงเคียดแค้น หวังเฟยชิงชังลี่จิ่นเข้ากระดูกดำ เขาหันหลังกลับไปพูดกับสตรีร่างผอมบาง เพียงได้ยินเสียงฝีเท้าของนาง วางตะกร้าไม้ใส่อาหารหลายอย่าง กลิ่นหอมฟุ้งของอาหารนั้นเขาคุ้นชินเป็นอย่างดี

ตาคมจรดมองดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาไปตามกาลเวลา นัยน์ตาลุกโชติช่วงด้วยเพลิงโทสะ

ลี่จิ่นเคยนำดอกเหมยกุ้ยฮวามาใส่แจกัน นางทำอาหารมาให้เขา สามถึงสี่วันครั้ง หลังจากที่เขาเลิกจากการคุมบ่าวรับใช้หน้าเตาเผาในโรงถลุงแร่โลหะ จะได้พบรอยยิ้มสวยหวานของนางเป็นประจำ

“อาหญิงเจ้าเคยนำดอกไม้มาใส่แจกันโง่เง่านี่ เพื่อหลอกลวงข้า นางทำอาหารมาให้ข้าชิมมากมาย หวังว่าเจ้าคงไม่คิดจะทำเช่นเดียวกับนาง”

“นางไม่ได้ทำ!” เสียงตะคอกดัง ใบหน้าสดสวยแดงก่ำมองสีหน้าเรียบเฉยของท่านอา

ผิดไปจากกิริยาเรียบร้อยว่านอนสอนง่ายของเจียลี่ นางมิอาจปิดบังความจริงอีกต่อไป

“ข้าเป็นผู้ทำอาหารทั้งหมดนี้ ท่านอาหญิงแอบอ้างฝีมือข้า น้ำหน้าอย่างนางหรือจะทำอาหารเป็น”

เจียลี่ทำให้ชายร่างผอมยืนนิ่งงัน นางหยิบอาหารออกจากตะกร้าหลายชั้น วางไว้บนโต๊ะในห้องรับแขกกว้างขวาง นางรู้ว่าเขาจะกินอาหารที่นี่

“เต้าหู้ผัดผักใส่ไข่ น้ำแกงหวาน ไก่ตุ๋น หมั่นโถว ข้าทำ ไม่ใช่นาง นางไม่เคยทำอาหารให้ท่านกินแม้แต่อย่างเดียว” นางไม่ลืมวางไหเหล้าหมักชั้นดีไว้บนโต๊ะหลังสงบสติอารมณ์ลง เมื่อก่อนนี้นางเคยฝากสุรามาให้ท่านอา ทว่าจะให้คาดเดา นางว่าอาหญิงไม่ได้เอ่ยชื่อของนางแม้สักคำเดียวหรอก

“นี่สุราท่าน ดื่มเข้าไปเยอะ ๆ จะได้ลืมสตรีลวงโลกอย่างลี่จิ่นได้เสียที ท่านอามีตาแต่ไร้แววจริง ๆ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   18

    “ท่านว่าบ้านเมืองแตกแยกวุ่นวาย มีเรื่องอะไรหรือเจ้าคะ? ท่านอาพอจะบอกสตรีอย่างข้าได้หรือไม่ เผื่อว่าข้าอาจหาทางเอาตัวรอดได้ในยามคับขัน”“บ้านเมืองร้อนเป็นไฟ แตกแยกเป็นแคว้นเล็กแคว้นน้อย ราชวงศ์ไม่สามารถปกครองบ้านเมือง ราชสำนักก็อ่อนแอ ผู้ครองแคว้นไร้ซึ่งคุณธรรม ข้าควรได้อยู่กับเจ้า เป็นตายร้ายดี ขอให้ได้ฝังศพข้างเคียงกัน”“ข้าก็อยากอยู่กับท่านอาเจ้าค่ะ แม้ข้าจะเป็นหญิงต่ำต้อย ขาพิการ...”“เจ้ามีความคิดเช่นนั้นก็คงไม่แปลก พวกชั่วช้าคอยกรอกหูเจ้า รังแกเจ้าแต่เล็กจนโต ข้าเองก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือเจ้ามากนัก หากว่าข้าไม่ผ่านมาพบเจ้า”ต่อจากไปนี้จะไม่มี...หวังเฟยไม่ได้กล่าวคำนั้นกับนาง เพียงตั้งใจเป็นมั่นเหมาะว่าจะเฝ้าติดตามหญิงสาวข้อเท้าไม่ดีผู้นี้ไปเรื่อย ๆ ที่ใดมีเขา ก็มีนาง จนกว่าชีวิตจะหาไม่--------------------------หญิงร่างผอมบางเนื้อตัวมอมแมม นั่งโงนเงนบนหลังอานม้า นางบ่นพึมพำว่านางรอดตายแล้ว นางรู้สึกเหมือนกำลังนอนเล่นในเปลแกว่งไกวไปมาใต้ลมเยียบเย็นที่ลูบแก้มนางอย่างอ่อนโยน ไม่นานนักก็ผล็อยหลับไป หวังเฟยเฝ้ามองนางงีบหลับในอ้อมแขน น่าเอ็นดูนัก เขาลักลอบจูบแก้มนาง ขมับนาง บังคับม

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   17

    “อยู่เล่นกับพวกข้าก่อน วันนี้ข้าไม่ได้เอาขี้วัวมาทาเจ้า ข้ารับปากว่าจะไม่ฝังหญิงพิการขาเสียไว้ในกับดักสัตว์ ให้เจ้าเน่าตายในหลุม ข้ามีของเล่นที่น่าสนใจกว่า...”“เป็นผู้ดีมีสกุลแท้ ๆ ไยพวกเจ้าไม่ได้รับการอบรมบ่มนิสัยให้เป็นคนดีได้” นางต่อว่าด้วยท่าทีก้าวร้าว พวกเขากลับหัวเราะเป็นเรื่องสนุก เด็กชายวัยสิบสามนับว่าตัวโตมากพอมีความคิดสรรหาวิธีรังแกนาง แถมมากันถึงแปดคน ล้อมรอบนางไม่ให้นางหนี เหลียงฟางซินได้เหล็กปลายแหลมมาหนึ่งอัน หยิบออกมาจากชายเสื้อที่ซุกซ่อนไว้ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม“เจียลี่... วันนี้ข้าได้ลักลอบดูตำราเพศสตรี เพียงไม่เคยพบเห็นของจริง หอนางโลมข้าก็ยังเข้าไม่ได้ ท่านพ่อไม่ให้ข้าไปแน่ เจ้าคงไม่ใช่สตรีเหนียมอายใช่ไหม? ข้าล่ะนึกอยากรู้ว่าหญิงพิการจะมีรูเล็ก ๆ นั่นหรือไม่”สิ้นเสียงหัวเราะร่าเริง เด็กชายสองคนพลันล้มไปต่อหน้าต่อตา ชายเสื้อสีขาวสะอาดของผู้ดีร่างอวบถูกลากไปกับพื้นดิน แท่งเหล็กแหลมกระเด็นจากมือของเหลียงฟางซินไปอยู่ใต้เกือกอาชาสีน้ำตาล ตัวเขาก็ถูกลากไปกับเกือกม้านั้นด้วยชายร่างกำยำควบม้าถีบหน้าพวกเขาไม่สนว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร เด็กชายอันธพาลร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวด เม

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   16

    เจียลี่นั่งหมอบอยู่บนพื้นหญ้า คารวะท่านปู่ท่านย่าเป็นใหญ่โตราวคำนับฮ่องเต้ นางก้มหน้าผากแนบพื้น สองมีแปะผืนหญ้าจนผู้ใหญ่ขอให้นางลุก โดยเฉพาะท่านย่า ได้ใจอ่อนกับหลานสาวไปเสียทุกที ถึงเจียลี่อาจไม่เป็นที่รักที่สุด พวกเขารู้แก่ใจดีว่าหากนางจะไม่ต้องออกเรือน ให้นางทำงานหามรุ่งหามค่ำก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด นางไม่ยินดีตบแต่งกับหนุ่มผู้ดีคนไหนในเมือง ขอแค่นางได้ทำงานเก็บเงินเที่ยวเตร็ดเตร่ไปวัน ๆบ่าวรับใช้บ้านท่านอาหวังเรียกขานนางว่า ‘นายหญิง’ หากเมื่อพบลี่จิ่นกลับเรียกแม่นางสกุลเยี่ยอย่างให้ความเคารพ เฉกเช่นผู้สูงศักดิ์ทั่วไปถึงพวกเขาจะเคารพนอบน้อมเท่าไร ก็ยังไม่เท่ากับที่พวกเขาเคารพนายหญิงเจียลี่น่าประหลาดใจนัก น้องสาวของนางได้พบบ่าวรับใช้บ้าน ก็ว่าแปลกกระนั้นเจียลี่ยังไม่เข้าใจบ่าวรับใช้ หลายครั้งหลายคราพวกเขาไม่ยอมบอกว่าตนคิดสิ่งใด นางเคยได้ยินว่าหากเป็นในวังหลวง อาจถึงขั้นต้องจับพวกเขาไปทรมานทีเดียว บ่าวถึงจะยอมแพร่งพรายความลับของเจ้านาย แต่จะว่าไปแล้ว บ่าวผู้รักศักดิ์ศรีไม่ยอมพูดก็มี พวกเขายินยอมการถูกทรมานจนตายไปกับความลับของเจ้านาย กระโดดบ่อน้ำฆ่าตัวตาย กัดลิ้นตายเองก็มี“ข้าจะไป

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   15

    หัวใจของนางเต้นระส่ำระสาย เมื่อท่านอามอบสัจวาจาว่าจะมาสู่ขอนางให้เร็วที่สุด เขายังต่อว่านางไม่ให้พูดถึงท่านอาหญิงด้วยจุมพิตแสนหวาน กระชับกอดเอวนางอย่างหวงแหน ไม่ยอมให้นางออกจากเรือนง่ายดายนักมารดาและคนทางบ้านตำหนินางเรื่องเวลา ทำไมนางจึงมาทำงานช้า ถึงแม้ว่าจะมีบ่าวล่วงหน้าไปที่ร้านผ้าก่อน ก็นางเคยทำตัวเหลวไหลเสียเมื่อไร‘ท่านอานะท่านอา ข้าเกือบโดนทำโทษ แถมโดนหักหวนเฉียน[1]ไปตั้งเยอะ’ นางบ่นในใจ หากด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ความร้อนวูบวาบยังคงฝังติดบนเรือนกาย การถูไถประสาชายหญิงทำให้นางเพิ่งรู้ว่าท่อนแข็งขึงหน้าตาประหลาดนั่นทำอะไรได้ เขามอบความสุขสมให้นางเท่าไรมันยังแปลกที่เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ มาเป็นที่หนึ่งสำหรับนางเสมอ วันนี้นางโดนหักเงินกลับอารมณ์ดี ยิ้มแก้มปริ คนในบ้านทักนางอย่างสงสัยว่ามีเรื่องดีอะไรหรือเปล่า ขณะบ่าวรับใช้มารอรับนางพร้อมรถม้า บ่าวชายสองคนยังคงเป็นคนเดิม นางเข้าไปเจรจากับพวกเขาอย่างสุภาพ ขอให้อดทนอยู่กับเจ้านายเถิด ท่านหวังเฟยอารมณ์ดีบ้างร้ายบ้าง เดี๋ยวก็หาย เขาจะดีขึ้นอย่างแน่นอน ตราบใดที่ผู้คนรอบกายไม่ทอดทิ้งเขาให้โดดเดี่ยวเดียวดายกลับมาถึงเรือนไม้กว้างขวางในยามเซิน

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   14

    เมื่อท่านอาหนุ่มแทรกมือเข้าบีบเคล้นเต้าเต่งตึง ไม่ยอมให้นางห้ามปรามเขาได้อีก ฝ่ามืออีกข้างจับมือของนางสอดประสานทุกปลายนิ้ว เขาก้มหน้าจูบนางซ้ำ ๆ ให้นางหลงใหลในวังวนเสน่หา นางไม่แม้จะเอ่ยห้ามปรามเขาด้วยความหวาดกลัว หากให้การต้อนรับท่านอาไม่ต่างจากนางบำเรอร่างสูงใหญ่กำยำ มิใช่ชายขี้เมา ไร้สตรีเหลียวแล ไร้เรี่ยวแรงเหมือนคนป่วยอย่างเมื่อหลายเดือนก่อน วัน ๆ เขาเฝ้ากอดแต่ไหเหล้า คนในบ้านสกุลเยี่ยหัวเราะเยาะเย้ยลับหลังว่าเขาจะยังใช้การได้หรือเปล่า ถึงส่งเจียลี่ไปดูแล นางงามเท่าไรก็คงไม่สามารถทำให้ความเป็นชายของเขาแข็งขึงขึ้นมาได้หวังเฟยลบคำสบประมาทเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง เขาก้มหน้าลงดื่มด่ำยอดปทุมถัน ทั้งซ้ายขวาอย่างเท่าเทียม มือบีบเคล้นเนินอกเต่งตึง ด้วยความระมัดระวังเอาใจนาง ไม่ให้รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย กระทั่งสตรีร่างเล็กรับรู้ได้ถึงบางสิ่ง ผงาดรอนางอยู่เหนือหน้าท้อง น้ำเปียกฉ่ำไม่รู้ว่าเป็นน้ำในอ่างหรืออย่างไรแน่“ท่านอา... ร่างกายข้าฝืนทนไม่ไหวอีกแล้วเจ้าค่ะ ท่านไม่ควรรังแกข้า...” ริมฝีปากสีชาดที่เม้มสนิทคลายออก เพื่อเอ่ยคำขอร้องเขาอย่าได้กลั่นแกล้งนาง ให้นางต่อสู้กับความรู้สึกประหลาดมากมา

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   13

    ที่ผ่านมาท่านอาไม่เคยแตะต้องนางแม้ปลายผม กระทั่งถ้อยคำรื่นหูของเขา หาใช่เสียงตะคอกโวยวายเพราะความเมา นางไม่เคยคิดว่าจะได้ยิน“เจ้าอย่าทิ้งข้าไปเลยนะเจียลี่ รอข้าสักหน่อย ข้าจะไปสู่ขอเจ้ามาอยู่กับท่านอาขี้เมาทุกวัน...”หวังเฟยรู้ว่าโรคทางใจได้รับการเยียวยารักษาเป็นอย่างดี เขาจึงมิใช่ท่านอาคนเดิมเห็นใบหน้าตกใจของนาง เรียวปากอิ่มสีชาดเม้มปิดสนิทแน่น พาให้เป็นสุขโดยไร้สาเหตุ นางลุกขึ้นไปเรียกบ่าวให้ต้มน้ำ เตรียมน้ำอุ่นให้เขาอาบ ถังไม้ลอยด้วยดอกไม้หอม เขาแสร้งทำโวยวายเรียกคนดูแลให้เข้ามา“มีอะไรเจ้าคะ ท่านอา... น้ำร้อนไปหรือ?”เจียลี่ไม่ทันได้ระวังตัว ร่างกำยำลุกขึ้นมาคว้าเอวนางกอดเข้าหมับ นางร้องวี้ดว้ายตกใจ ยันแผงอกกว้างไว้ด้วยแรงน้อยนิด หน้าตาตื่นตระหนกเงยขึ้นมองฝ่ายรุกเร้า เขาไม่ได้ถอดเสื้อผ้าแต่ยังอยู่ชุดที่เกือบจะหลุดก็ไม่ยอมหลุด“ข้าไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนแล้ว ท่านอาทำอะไรน่ะ” นางก็กลัวว่าจะเปียกไปด้วยกับเขาที่ลงไปแช่น้ำทั้งเสื้อผ้าไม่ยอมถอด ตาหลุบมองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ“เจ้ามี ข้าเห็นว่าเจ้านำเสื้อผ้ามาเผื่อทุกครั้ง ข้าชอบทำเสื้อผ้าของเจ้าเลอะเทอะ”“วันนี้ข้าไม่ได้นำติดมือมา ตั้ง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status