Share

บทที่ 6

Author: หลันซานอวี่
โหวซานได้ยินดังนั้นก็นึกว่านี่เป็นแผนการที่ลูกพี่อู๋คิดขึ้นเพื่อกำราบอวิ๋นฝูหลิง สีหน้าจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย

อีกอย่างอวิ๋นฝูหลิงรูปงาม ลูกพี่อู๋อยากจะลองลิ้มรสชาติของนางก่อนก็เป็นเรื่องปกติ

โหวซานนึกว่าเดาใจลูกพี่อู๋ถูก จึงหัวเราะแล้วหันไปยักคิ้วหลิ่วตาใส่ลูกพี่อู๋ จากนั้นเอ่ยขึ้น

“หญิงสาวที่งดงามขนาดนี้ หากฆ่าทิ้งคงเสียดายแย่ ไม่สู้ให้นางได้เล่นสนุกกับลูกพี่อู๋ก่อน รอให้พี่น้องทุกคนสนุกกันเต็มที่แล้ว ข้าค่อยสังหารนาง เพื่อแก้แค้นให้พี่ใหญ่ก็ยังไม่สาย”

ลูกพี่อู๋ได้ยินดังนั้น แม้ใบหน้าจะยิ้มแย้ม ทว่าในดวงตากลับเหี้ยมเกรียมขึ้นทันใด

เขาอยากจะตบแต่งอวิ๋นฝูหลิงด้วยใจจริง ย่อมทนฟังโหวซานเหยียดหยามนางด้วยคำพูดเช่นนี้ไม่ได้

ชายจมูกงุ้มหลายคนเห็นสีหน้าของลูกพี่ พลันรู้ได้ทันทีว่าเขาโมโหแล้ว

แต่โหวซานยังไม่รู้ตัว ยังคงพูดจาหยาบโลนต่อไปไม่หยุด

ดวงตาอวิ๋นฝูหลิงเยือกเย็น ทว่าใบหน้ากลับยิ้มแย้ม “ได้สิ งั้นข้าจะเล่นสนุกกับพวกเจ้าก่อน”

พอดีกับยามนี้ที่มีสายลมพัดผ่านไปยังทิศทางของพวกลูกพี่อู๋

อวิ๋นฝูหลิงฉวยโอกาสตอนทุกคนเผลอ โปรยผงยาหนึ่งห่อ

ผงยาโชยไปตามลมใส่หน้าพวกลูกพี่อู๋ จากนั้นถูกพวกเขาสูดดมเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว

เวลาเพียงสองอึดใจ พวกลูกพี่อู๋ที่มีกันกลุ่มใหญ่ แขนขาอ่อนแรงแล้วล้มลง

อวิ๋นฝูหลิงเลิกคิ้วเท้าสะเอว “อย่างพวกเจ้าเนี่ยนะ ยังคิดจะมีเรื่องกับข้า?”

อวิ๋นจิงมั่วตะลึงงัน พลันมองอวิ๋นฝูหลิงตาวาว “ท่านแม่ ท่านเก่งมาก!”

อวิ๋นฝูหลิงยิ้มพร้อมลูบหัวเขา

ลูกพี่อู๋ดิ้นรนอยู่หลายที พบว่ามือเท้าตัวเองอ่อนแรง พละกำลังทั่วร่างคล้ายถูกบางสิ่งดูดไป จึงรู้สึกตกใจไม่น้อย

“เจ้า…เจ้าทำอะไรพวกข้า?”

เขาพยายามประคองสติ แต่น้ำเสียงที่สั่นเครือแสดงให้เห็นความหวาดกลัวจากส่วนลึกของจิตใจ

อวิ๋นฝูหลิงเหยียบลงไปบนหน้าอกของเขาพร้อมยิ้มอ่อน “วางใจเถอะ ก็แค่ผงยาที่ทำให้พวกเจ้าหมดแรง ไม่เป็นอันตรายกับชีวิตพวกเจ้าหรอก”

ลูกพี่อู๋ได้ยินเช่นนั้น ยังไม่ทันได้โล่งอก พลันเห็นอวิ๋นฝูหลิงถือมีดเล่มยาวซึ่งไม่รู้ว่าไปหามาจากที่ใด

นางวาดดาบไปมาบนตัวเขา พร้อมกับหัวเราะแล้วกล่าวขึ้น

“อยากเล่นสนุกไม่ใช่หรือ?”

“เจ้าว่าหากข้าใช้มีดเฉือนลงไปบนร่างเจ้าหลายๆ ที ในป่านี้จะมีสัตว์ป่าตามมาถึงนี่เพราะกลิ่นเลือดหรือไม่?”

“พวกเจ้าถูกยาของข้า อยากหนีก็ไร้เรี่ยวแรง แหกปากให้ตายคนในหมู่บ้านก็ไม่ได้ยิน”

“ถึงตอนนั้นคงต้องทนเห็นตัวเองถูกสัตว์ป่าพวกนั้นรุมทึ้ง เลือดเนื้อถูกสัตวป่ากัดกินทีละคำ…”

แผ่นหลังลูกพี่อู๋เย็นวาบ รู้สึกแค่ว่ารอยยิ้มอ่อนโยนของอวิ๋นฝูหลิงในยามนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน

ความรักใคร่ชอบพอที่มีให้นางก่อนหน้านี้พลันหายมลายสิ้น

เขาไม่กล้าคิดเป็นอื่นกับอวิ๋นฝูหลิงแม้แต่น้อย

ท่าทางเช่นนี้ของอวิ๋นฝูหลิง ทำให้ลูกน้องคนอื่นๆ ของลูกพี่อู๋ตกใจไปตามๆ กัน

พวกเขาหลายคนร้องห่มร้องไห้ ต่างเอ่ยปากวิงวอน

พวกเขาไม่เคยบาดหมางกับอวิ๋นฝูหลิง แต่ล้วนถูกโหวซานซื้อตัว จึงได้มาหาเรื่องอวิ๋นฝูหลิง

โหวซานจำมีดในมืออวิ๋นฝูหลิงได้ แล้วนึกไปถึงความโหดร้ายที่อวิ๋นฝูหลิงฆ่าคนติดต่อกันสามคน ทำให้ใจเขาสั่นสะท้านอย่างลืมตัว

ทว่าเมื่อได้ยินชายจมูกงุ้มหลายคนโยนความผิดทั้งหมดให้เขา และปฏิเสธความเกี่ยวข้องใดๆ กับเขา ทำให้เขาทั้งโกรธทั้งแค้น

จนด่าทอเสียงดังแล้วทะเลาะกับชายจมูกงุ้มหลายคนนั้น

ชั่วขณะนั้น ทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันอย่างดุเดือด

แม้โหวซานจะพูดจาฉะฉาน แต่เขาตัวคนเดียวจะเอาชนะพวกชายจมูกงุ้มได้อย่างไร

อวิ๋นฝูหลิงดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ปล่อยให้พวกเขาทะเลาะกัน กลับได้รับรู้ข่าวสารไม่น้อยจากการทะเลาะกันของพวกเขา

อวิ๋นจิงมั่วยังจำท่าทางดุร้ายของคนพวกนี้ตอนหาเรื่องเมื่อครู่ได้ ตอนนี้เมื่อเห็นพวกเขาโยนความผิดให้กัน ทันใดนั้นจึงมือเท้าสะเอว แล้วตะโกนด้วยน้ำเสียงของเด็กน้อย

“พวกเจ้าทั้งหมดล้วนเป็นคนเลว”

พวกชายจมูกงุ้มตกใจกับคำพูดของอวิ๋นจิงมั่วจนเงียบทันที

อวิ๋นจิงมั่ววิ่งไปข้างหน้าอย่างโมโห แล้วเข้าไปเตะพวกเขาทีละคน

ทุกครั้งที่เตะ ต้องด่าทออย่างโกรธแค้น “คนเลว”

ตอนถึงตาโหวซาน อวิ๋นจิงมั่วเตะซ้ำลงไปหลายที

เขาจำได้ว่าคนนี้ดุร้ายที่สุด ซ้ำยังพูดว่าจะฆ่าท่านแม่!

อวิ๋นฝูหลิงไม่ได้ห้ามอวิ๋นจิงมั่ว

ไม่ว่าจะอยู่ในโลกใด ล้วนมีคนเลวโดยสันดาน

แม้อวิ๋นมั่วจิงอายุยังน้อย ทว่าอวิ๋นฝูหลิงไม่คิดจะเลี้ยงเขาให้เติบโตเหมือนดอกไม้ในเรือนกระจก ที่ไร้เดียงสาและไม่รู้จักความโหดร้ายของโลกภายนอก

เมื่อได้เห็นความโหดร้ายของโลกใบนี้ ถึงจะรู้ว่าต้องปกป้องตัวเองอย่างไร

ทว่าระหว่างนี้จำเป็นต้องชี้แนะอย่างดี จึงจะรักษาปณิธานเอาไว้ไม่เข้าสู่หนทางที่ผิด

อวิ๋นฝูหลิงไม่เพียงไม่ห้ามปราม กลับคอยส่งเสริมอยู่ข้างๆ ปล่อยให้อวิ๋นจิงมั่วซัดพวกโหวซานเหมือนกระสอบทราย ปล่อยให้เขาเล่นให้สะใจ

หลังจากอวิ๋นจิงมั่วสั่งสอนพวกอวิ๋นซานทีละคนจนครบ อวิ๋นฝูหลิงกำลังจะเอ่ยปาก พลันได้ยินพงหญ้าด้านหลังนางมีเสียงความเคลื่อนไหว

อวิ๋นฝูหลิงหันมองตามสัญชาตญาณ

แต่ใครจะไปคิดว่าชั่วขณะนั้น โหวซานจะไขว้ขาเป็นรูปกรรไกร แล้วหนีบขาอวิ๋นจิงมั่วเอาไว้

อวิ๋นจิงมั่วตัวเล็ก เมื่อถูกโจมตีกะทันหันทำให้ยืนไม่มั่นล้มลงกับพื้นทันที

โหวซานใช้กำลังเล็กน้อยที่แอบสะสมเอาไว้พลิกตัว จากนั้นใช้น้ำหนักตัวของเขา ทับอวิ๋นจิงมั่วเอาไว้ใต้ร่าง

“ข้าฆ่าเจ้าไม่ได้ก็ฆ่าลูกชายเจ้าแทน ถือว่าได้แก้แค้นแล้ว”

โหวซานมองอวิ๋นฝูหลิงอย่างเหี้ยมเกรียม ใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความแค้น ดูคลุ้มคลั่งอย่างเห็นได้ชัด

เขารู้ว่าหนีไม่รอด เพราะอวิ๋นฝูหลิงไม่ปล่อยเขาไปแน่

แต่ก่อนตายได้ลากเจ้าเด็กอวิ๋นจิงมั่วลงนรกไปพร้อมกัน ก็ถือว่าคุ้มค่า

ดวงตาโหวซานเต็มไปด้วยความแค้น อ้าปากเตรียมกัดลงไปที่ลำคออวิ๋นจิงมั่ว

อวิ๋นฝูหลิงสีหน้าตระหนก รีบโผเข้าไปช่วยอวิ๋นจิงมั่วทันที

ในขณะนั้นเอง หินก้อนหนึ่งบินออกมาจากพงหญ้า

หินก้อนนั้นฝ่าอากาศจนเกิดเสียงดัง คล้ายมีกำลังมหาศาล แล้วพุ่งใส่ท้ายทอยโหวซาน

ทันใดนั้นร่างของโหวซานอ่อนปวกเปียก และไม่มีความเคลื่อนไหวอีก

อวิ๋นฝูหลิงรีบทะยานเข้าไปหาแล้วผลักโหวซานออก จากนั้นช่วยอวิ๋นจิงมั่วออกจากใต้ร่างเขา

“มั่วเอ๋อร์ เจ้าไม่เป็นไรนะ? บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”

อวิ๋นฝูหลิงสำรวจทั่วร่างของเขา แล้วย้ำสำรวจบริเวณลำคอและคอหอยของเขา

เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่โหวซานคิดจะกัดคอหอยอวิ๋นจิงมั่วให้ขาด คิดจะฆ่าเขาให้ตาย

เมื่อเห็นลำคออวิ๋นมั่วจิงสะอาดหมดจด ไม่มีแม้แต่รอยถลอก อวิ๋นฝูหลิงถึงได้โล่งอก

อวิ๋นจิงมั่วตกใจกับการกระทำบ้าคลั่งของโหวซาน

เมื่อกลับสู่อ้อมกอดของอวิ๋นฝูหลิงอีกครั้งเขาถึงรู้สึกตัว จากนั้นร้องไห้จ้าเสียงดัง

อวิ๋นฝูหลิงตบหลังเขาเบาๆ ปลอบประโลมจิตใจของเขาอย่างอ่อนโยน

เมื่อครู่นางประมาทเอง นึกว่าโหวซานถูกผงยาของนางแล้วแขนขาอ่อนแรง คงไม่มีอันตรายใด

กลับไม่คิดว่าเขาจะแอบสะสมกำลังที่เหลืออยู่น้อยนิด แล้วใช้กำลังทั้งหมดลงมือกับอวิ๋นจิงมั่ว

แม้อวิ๋นฝูหลิงจะเป็นหมอรักษาและช่วยชีวิตคน แต่นางเคยเห็นความชั่วร้ายของคนในโลกวิบัติมานักต่อนักแล้ว ดังนั้นจิตใจจึงถูกหล่อหลอมจนแข็งกระด้าง

แม้ชีวิตคนจะมีค่า แต่ชีวิตของคนบางคนไม่มีค่าให้เก็บไว้

อวิ๋นฝูหลิงมองโหวซานอย่างเยือกเย็น ในใจหมายจะฆ่าอีกฝ่าย

แต่ใครจะไปคิดว่าโหวซานกลับมีเลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด แล้วตายไปทันที
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 656

    เมื่อหลิงโหยวมองหนังสือสัญญาตรงหน้าให้ชัดเจนแล้ว มือทั้งสองก็สั่นระริกขึ้นมาในชั่วพริบตา จนเกือบจะถือกระดาษบาง ๆ แผ่นนั้นไม่อยู่นี่เป็นหนังสือสัญญาที่อวิ๋นฝูหลิงมอบให้เขา ในหนังสือสัญญาเขียนไว้ว่าต่อไปผลกำไรจากสำนักช่วยชีพในทุก ๆ ปีจะเป็นของเขาหนึ่งส่วนอย่าเห็นว่ามีเพียงแค่หนึ่งส่วน ว่ากันตามรายรับของสำนักช่วยชีพแล้ว เงินจำนวนนี้เป็นตัวเลขไม่น้อยเลยค่าจ้างสิบปีของหลิงโหยวในยามนี้ ยังมีมากไม่เท่าเงินหนึ่งส่วนนี้เลยหลิงโหยวตาแดงระเรื่ออย่างอดไม่ได้ ความรู้สึกปั่นป่วนไปมา ในลำคอก็เหมือนมีก้อนสำลีอัดแน่น พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะผ่านไปพักหนึ่ง เขาถึงหาเสียงของตนเองเจอในที่สุด“คุณหนูใหญ่ นี่มันมีค่ามากเกินไป บ่าวรับไว้ไม่ได้หรอกขอรับ!” หลิงโหยวดันหนังสือสัญญากลับไปอวิ๋นฝูหลิงห้ามเขาไว้ แล้วนำหนังสือสัญญาไปวางไว้ด้านหน้าหลิงโหยวอีกครั้ง“ท่านลุงหลิง นี่เป็นสิ่งที่ท่านลุงควรได้รับ”“ถ้าไม่ใช่ว่ามีท่านคอยช่วยข้าจัดการดูแลสำนักช่วยชีพ ตัวข้าคนเดียวจะไปทำได้อย่างไร?”“อีกทั้งที่กิจการสำนักช่วยชีพรุ่งเรืองได้อย่างในทุกวันนี้ ก็เป็นความดีความชอบท่านลุงหลิงด้วย!”การที่สำนักช่วยชีพที

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 655

    ปีนี้ได้อาศัยวาสนาของพระชายาอี้อ๋อง หลาย ๆ ครัวเรือนจึงมีเงินเก็บอยู่ในมือขึ้นมาบ้างเมื่อมีเงินเหลืออยู่ในมือ กอปรกับมาถึงสิ้นปีแล้ว ย่อมอยากฉลองปีใหม่ดี ๆ สักหนขณะที่ทุกคนกำลังคิดวางแผนว่าปีนี้จะซื้อของอะไรมาเตรียมสำหรับวันปีใหม่ อยู่ ๆ ผู้ดูแลที่ดินก็ตีฆ้องเรียกให้ทุกคนไปรวมตัวกันที่หน้าหมู่บ้านมีคนรั้งตัวผู้ดูแลที่ดินไว้ แล้วเอ่ยถาม “จะให้พวกเราไปทำอะไร?”ผู้ดูแลที่ดินหัวเราะพลางกล่าว “พวกเจ้าไปถึงก็จะรู้เอง”ทุกคนเห็นว่าใบหน้าของผู้ดูแลที่ดินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม จึงคาดเดาว่าน่าจะเป็นเรื่องดีทุกคนเกาะกลุ่มกันเดินไปยังหน้าหมู่บ้าน แล้วจึงได้เห็นว่าที่หน้าหมู่บ้านมีรถเข็นจอดอยู่หลายคัน ทั้งมีคนกำลังขนของลงจากรถเมื่อได้มองดูให้ดี ก็มีทั้งเนื้อ ทั้งสุรา ทั้งผ้าทุกผู้คนยืนจับกลุ่มกันเป็นกระจุก ๆ ขณะที่กำลังกระซิบกระซาบพูดคุยกันอยู่ ทันใดนั้นเสียงตีฆ้องก็ดังขึ้น บุรุษรูปร่างสูงใหญ่ผู้หนึ่งเดินออกมาครั้นทุกคนเงยหน้าขึ้นมา ก็จำได้ทันทีว่าบุรุษผู้นี้คือผู้ดูแลที่อยู่ใต้บัญชาของพระชายาอี้อ๋อง แซ่อู๋กิจธุระของสวนสมุนไพรบนเขาทุกอย่าง ล้วนอยู่ในความรับผิดชอบของเขาลูกพี่อู๋เดินฝ่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 654

    นี่ก็เป็นโอกาสที่จะดึงคนใต้บังคับบัญชามาเป็นพวก และซื้อใจคนเช่นกันหากไม่มอบประโยชน์ในเรื่องทรัพย์สินเงินทองให้ แล้วใครจะไปยอมถวายชีวิตให้เจ้าสุดหัวใจเล่า?นอกจากเงินค่าจ้างที่ได้รับตามปกติแล้ว ยังได้รับสวัสดิการพิเศษอีกก้อนหนึ่ง ใครบ้างจะไม่ดีใจ?ครั้นได้รับประโยชน์อันจับต้องได้ เข้าใจแล้วว่าอยู่กับนางแล้วทำงานได้เงิน ทั้งมีเนื้อให้กิน ย่อมทุ่มทำงานกับนางสุดหัวจิตหัวใจแน่หลังจากอวิ๋นฝูหลิงไตร่ตรองคร่าว ๆ อยู่ในใจ และเมื่อเซียวจิ่งอี้กลับมาในยามเย็นแล้ว อวิ๋นฝูหลิงจะหารือกับเขาเรื่องมอบสวัสดิการให้คนใต้บังคับบัญชาเมื่อก่อนเซียวจิ่งอี้ไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้เลยเรื่องยิบย่อยเช่นนี้ ล้วนมีพ่อบ้านฝูคอยจัดการเขาขบคิดเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ข้าจำได้ราง ๆ ว่าช่วงวันปีใหม่จะมีการมอบเงินเบี้ยเลี้ยงจำนวนหนึ่งเดือนให้”อวิ๋นฝูหลิงทราบเรื่องนี้มาจากพ่อบ้านฝูแล้ว จึงพยักหน้าพลางกล่าว “เมื่อก่อนเป็นเช่นนี้จริง”“แต่ปีนี้ไม่เหมือนกัน ท่านแต่งข้าเข้ามา ทำให้ในจวนอ๋องมีนายหญิงแล้ว แน่นอนว่าต้องมีบรรยากาศอะไรใหม่ ๆ บ้าง”“มิเช่นนั้นก็จะไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของข้า จะมีข้าอยู่ในจวนอ๋องหรือไม่ล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 653

    ตรวจฎีกามาตลอดทั้งเช้า ฮ่องเต้จิ่งผิงทรงกำลังเหนื่อยอยู่บ้างพอดียิ่งไปกว่านั้นเมื่อลองดูชั่วยามแล้ว อีกไม่นานก็ถึงยามกินข้าวกลางวันเซียวจิงมั่วมาหาในยามนี้ ก็จะได้ร่วมกินข้าวกลางวันกับเขาพอดีหลังเซียวจิงมั่วเข้ามาในตำหนัก ก็ทำการคารวะและถวายพระพรตามธรรมเนียมฮ่องเต้จิ่งผิงแย้มสรวลพลางโบกมือให้เซียวจิงมั่ว “ไม่ต้องมากพิธีไป เข้ามาให้เสด็จปู่ดูหน่อยเร็ว”เซียวจิงมั่วก้าวไปด้านหน้าตามพระกระแสรับสั่งยิ่งมองดูเซียวจิงมั่วพระราชนัดดาผู้นี้ ฮ่องเต้จิ่งผิงก็ยิ่งทรงรักใคร่รูปโฉมของเซียวจิงมั่วนั้นเป็นการรวมเอาข้อดีของเซียวจิ่งอี้กับอวิ๋นฝูหลิงเข้าด้วยกัน แม้จะอายุน้อย ก็ดูออกว่าวันข้างหน้าจะต้องกลายเป็นคุณชายรูปงามสง่าผู้หนึ่งแน่นอนอีกทั้งเด็กน้อยผู้นี้ก็ไม่มีดีเพียงแค่รูปโฉมเท่านั้น ทว่ายังฉลาดเฉลียวอีกด้วย หลายวันมานี้ยามที่เข้าไปในห้องทรงพระอักษร ฮ่องเต้จิ่งผิงก็มักจะได้ยินเหล่าอัครมหาเสนาบดีที่มาสอนวิชาแก่เหล่าองค์ชายและพระราชนัดดาเอ่ยปากชมเซียวจิงมั่วอยู่หลายครั้งอายุน้อยเพียงเท่านี้ ก็โดดเด่นกว่าลูกผู้พี่ที่อายุมากกว่าเขาเสียแล้วมีพระราชนัดดาที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ในใจฮ่อ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 652

    พระราชนัดดาองค์อื่นที่ได้รับเกียรติเช่นนี้ มีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้นครั้นหันมองครอบครัวตนเอง ก่อนหน้านี้ไม่นานองค์ชายสามเพิ่งถูกฮ่องเต้จิ่งผิงติเตียนไป ทั้งยังกักตัวเขาไว้ในจวนอ๋องพระชายาองค์ชายสามรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ในใจมากเป็นพิเศษในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ หากมิใช่เพราะต้องการเลี่ยงมิให้ผู้อื่นจับผิด แล้วกุมจุดอ่อนของจวนองค์ชายสามไว้ได้อีก วันนี้พระชายาองค์ชายสามคงไม่เหยียบย่างมาถึงที่นี่แน่ก็แค่งานเลี้ยงวันเกิดของเด็กคนหนึ่งเท่านั้นอีกทั้งมิใช่งานเลี้ยงใหญ่โตที่มีความหมายพิเศษอันใด ควรค่าแก่การที่นางซึ่งเป็นถึงผู้อาวุโสมากกว่าต้องมาร่วมงานถึงที่นี่เชียว?จนใจที่ยามนี้สถานการณ์ของจวนองค์ชายสามมิสู้ดี กอปรกับเจ้าเด็กน่าชังอย่างเซียวจิงมั่วได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้จิ่งผิง หลายครั้งหลายคราวก่อนหน้านี้ถึงขั้นพาเขาไปท้องพระโรงด้วย หลังจากพระชายาองค์ชายสามหารือกับองค์ชายสามแล้ว จึงตัดสินใจพาบุตรชายมาเยี่ยมเยือนถึงที่นี่สักครั้งเป็นการดีที่จะได้แสดงให้ฮ่องเต้จิ่งผิงเห็นถึงความรักความเมตตาที่พวกเขามีต่อหลานชายงานเลี้ยงวันเกิดครั้งนี้ เซียวจิงมั่วเฉลิมฉลองอย่างสุขใจเป็นพิเศษ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 651

    ผู้คนส่งเสียงจอแจ พูดคุยกันสนุกสนานครื้นเครงเซียวคังถูกเบียดไปยังอีกฝั่งฟาก ครั้นเห็นเซียวจิงมั่วจูงเสือตัวหนึ่งออกมาจริง ใบหน้าก็ประเดี๋ยวดำประเดี๋ยวแดงด้วยความอับอายแม้เสือขาวตัวนี้จะเป็นเพียงเสืออ่อนวัย ทว่าก็เป็นเสือจริงๆ!เซียวลี่เห็นเซียวคังสีหน้าดูไม่ได้ พลันก็เหมือนจะรู้สึกยินดีปรีดาขึ้นมาก็ไม่ปาน เขาเท้าเอวพลางกล่าวว่า“ใครกันนะที่บอกว่าจิงมั่วของพวกเราพูดโกหกหลอกลวงผู้อื่น?”ว่าจบ เขาก็แค่นเสียงร้องเฮอะแรง ๆ ไปทางเซียวคัง จากนั้นจึงทำหน้าทะเล้นเซียวคังโมโหจนใบหน้าแดงเถือกเขาลอบกัดฟันกรอด ในใจทั้งเดือดดาลทั้งเกลียดชังเลื่อนสายตาไปอยู่ที่เสือขาวน้อยตัวนั้น ในดวงตาพลันประกายแววอาฆาตเคียดแค้นทำไมเซียวจิงมั่วถึงเลี้ยงเสือขาวให้เชื่องได้?ทำไมกัน ไม่เพียงแค่บิดาของเซียวจิงมั่วเท่านั้นที่เหนือกว่าท่านพ่อของตน กระทั่งวันนี้มันก็ยังเหนือกว่าตนด้วย?เขาไม่ยอม!ทุกคนล้วนเข้าไปมุงดูเจ้าเสือขาวตัวน้อยด้วยความประหลาดใจ ไม่มีใครเลยที่สนใจความรู้สึกของเซียวคังหลังจากเหล่าพระราชนัดดาไม่กี่คนที่มีความสัมพันธ์ดี ๆ กับเซียวจิงมั่วได้รับคำอนุญาตจากเขา ก็ยังได้รับเกียรติให้ได้ล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status