Share

บทที่ 12

วันรุ่งขึ้น

ฉู่เชียนหลีนอนอยู่บนเตียงยังคงคำนึงถึงเรื่องที่ตนเองต้องสูญทรัพย์สินล้านล้านล้านไปในคืนเดียว นางกอดผ้าห่ม ยังคงอยู่ในอารมณ์เศร้าสลดเนิ่นนานมิอาจกลับมาเป็นตัวของตัวเองได้

“เฮ้อ!”

พอรุ่งเช้า เยว่เอ๋อร์ต้องวุ่นหน้าวุ่นหลัง ทำความสะอาดห้องหับ พับเสื้อผ้า เช็ดโต๊ะ ถอนหญ้าในลานบ้าน เปิดหน้าต่างระบายอากาศ และยังต้องยกกระถางดอกไม้ออกไปตากแดดด้วย ซึ่งฉู่เชียนหลีถอนหายใจมาเก้าสิบแปดครั้งแล้ว

“เฮ้อ...”

ทรัพย์สินล้านล้านของนาง

เยว่เอ๋อร์ยกอ่างน้ำเข้ามา “คุณหนูเจ้าคะ ตะวันส่องบั้นท้ายแล้ว ท่านยังไม่ตื่นอีกหรือเจ้าคะ?”

ฉู่เชียนหลีช้อนดวงตาแดงก่ำทั้งคู่ขึ้น ดวงตาที่มีเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยสีแดงจ้องเยว่เอ๋อร์ด้วยความคับแค้นใจแสนล้ำลึก

ถ้าไม่ใช่เพราะนังเด็กนี่รับใช้นางอย่างจงรักภักดี ไม่ละไม่ทิ้งมาตั้งแต่เล็ก จะต้องหักคอแสนชั่วช้าของนางเป็นแน่...

“เฮ้อ!”

นางพลิกตัว นอนหลับต่อไปด้วยความห่อเหี่ยวใจ

ไม่อยากลุกจากเตียง ข้าวปลาก็ไม่อยากกิน

เงินของฉัน...

เยว่เอ๋อร์เรียกต่ออีกหลายครั้ง เมื่อเห็นคุณหนูไม่ตอบสนอง จึงได้แต่ไปทำงานอื่นๆ ต่ออย่างจนใจ

ตลอดช่วงเช้า เรือนหลังเล็กโกโรโกโสและรกร้างแห่งนี้กลับคึกคัก

บ่าวในครัวนำอาหารเช้ามาส่ง เยว่เอ๋อร์เกิดมีปากเสียงกับพวกเขา “อาหารนี้ดูคล้ายว่าเน่าเสียแล้ว ข้าวก็แข็งนัก ยามนี้คุณหนูของเรายังอยู่ในตำแหน่งพระฉายาเฉินอ๋อง พวกเจ้ากลับกล้าละเลยถึงเพียงนี้เชียวรึ!”

บ่าวผิวคล้ำจากในครัวกลุ่มนั้นหัวเราะเย็นคราวหนึ่ง ก่อนโยนตะกร้าลงกับพื้น “ในครัวมีแค่เท่านั้นแล้ว ไม่เอาก็แล้วแต่”

เข้าจวนมาสามเดือนกว่าล้วนไม่เคยเป็นที่โปรดปราน ดูทีว่าชาตินี้คงได้อยู่แต่ในเรือนเย็น[footnoteRef:1]เท่านั้น [1: เรือนเย็น เหมือนตำหนักเย็นในวังหลวง ซึ่งเป็นที่พำนักสำหรับนางในในวังที่ไม่เป็นที่โปรดปรานของกษัตริย์แล้ว]

ยังฝันหวานจะได้เป็นพระชายาที่รักของอ๋องเฉินอีกหรือ?

จากนั้น มีพวกบ่าวมาจัดสรรสิ่งของให้

เยว่เอ๋อร์ก็มีปากเสียงกับพวกเขาขึ้นมาอีก “ตามกฎของจวน เครื่องใช้ต่างๆ ของคุณหนูข้าอย่างน้อยต้องมีผ้าห่มนวมสี่ผืน เหตุใดจึงส่งมาแค่ผ้าห่มบางๆ ผืนหนึ่ง นี่ก็จวนเจียนจะเข้าช่วงหนาวของฤดูใบไม้ร่วงแล้ว จะให้พวกเราใช้ชีวิตในฤดูหนาวอย่างไร?”

บ่าวจึงโยนผ้าห่มบางไว้กับพื้นเสียเลย

“โยนกระดูกอันหนึ่งให้สุนัข สุนัขยังรู้จักเห่าโฮ่งๆขอบคุณข้า แต่ยามมาส่งของให้พวกเจ้าน่ะรึ? เทียบไม่ได้กับเดรัจฉานสักตัวด้วยซ้ำ!”

พวกเขาล้วนได้ยินได้ฟังมาว่าในวันที่พระชายารองเซียวเข้าจวน พระชายาก็ถูกเรียกไปปรนนิบัติรับใช้นาง ซ้ำยังถูกท่านอ๋องลงโทษอย่างหนัก เพราะทำน้ำชาหกอีกด้วย

ผู้ใดคือว่าที่นายผู้หญิงของจวนแห่งนี้ ก็เห็นชัดกันอยู่แล้ว

เยว่เอ๋อร์โมโหจนร้องไห้ แต่ก็ไม่รู้จะทำฉันใด

ยามเที่ยง พ่อบ้านเดินเนิบนาบมาหาเพื่อจ่ายเบี้ยเดือน

เมื่อเศษก้อนเงินเล็กๆ แสนน่าสงสารสองก้อนถูกโยนลงบนอุ้งมือของเยว่เอ๋อร์ นางก็ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ “พ่อบ้าน นี่ท่านจะบีบคุณหนูของข้าให้ตายใช่หรือไม่!”

เบี้ยเดือนของพระชายาอ๋องคือยี่สิบตำลึง พ่อบ้านกลับให้เพียงหนึ่งตำลึง นี่เท่ากับยักยอกเอาไว้เองแทบทั้งหมด!

ยามนี้กระทั่งเบี้ยหวัดก็ยังไม่มี แล้วจะไปซื้อของใช้สำหรับฤดูหนาวให้คุณหนูได้อย่างไร?

“ท่านไม่กลัวหรือไรว่าข้าจะเอาเรื่องท่านไปฟ้องต่อท่านอ๋อง” เยว่เอ๋อร์ถลึงตาใส่พ่อบ้าน ดวงตาทั้งคู่โมโหจนแดงก่ำ

พ่อบ้านเหลือบตามองนางอย่างเกียจคร้านคราวหนึ่ง เอามือสองข้างไพล่หลัง ทำตัวเฉกหัวหน้าเล็กๆ เอ่ยอย่างมีนัยสำคัญว่า “เยว่เอ๋อร์ เจ้าต้องมองสถานการณ์ยามนี้ให้ชัดสิ”

“พระชายาไม่เป็นที่โปรดปราน มีตำแหน่งที่ไม่มั่นคง ทุกคนภายในจวนล้วนไปประจบพระชายารองเซียวกันหมด แต่ข้ายังมาจ่ายเบี้ยเดือนให้พระชายาด้วยตนเอง พระชายาควรต้องขอบใจข้าจึงจะถูก”

ข่มเหงกันเกินไปแล้ว!

ยักยอกเบี้ยเดือนด้วยเจตนาชั่ว ยังอ้างอย่างมีเหตุมีผลอีก

ใครเขาข่มเหงกันอย่างหน้าตาเฉยเช่นนี้!

เยว่เอ๋อร์บันดาลโทสะจนไม่สามารถควบคุมได้ ก้าวเท้าพุ่งตัวเข้าชนทันใด “เอาเบี้ยเดือนของคุณหนูข้ามาเดี๋ยวนี้!”

“เจ้าเป็นผู้น้อยกล้าล่วงเกินผู้ใหญ่รึ?”

พ่อบ้านตวาดใส่ ขณะเอามือจับแขนน้อยๆ แสนผอมบางของเยว่เอ๋อร์ และเงื้อมือขึ้นสูง แต่ในขณะที่กำลังจะหวดลงมากลับรู้สึกเจ็บที่หน้าผาก

“โอ๊ย!”

สิ่งใดกันกระแทกถูกหัวอย่างแรง ทั้งเจ็บทั้งแสบ

เมื่อก้มลงดู

เป็นทองคำแท่งแท่งหนึ่ง?

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status