Share

บทที่ 13

ยังไม่ทันตั้งตัว ก็มีอีกแท่งลอยมากระแทกข้อมือเขา แทบจะกระแทกจนกระดูกป่น จึงคลายมือที่จับเยว่เอ๋อร์

“คุณหนู!”

นางเห็นคนที่นอนมาทั้งช่วงเช้าลุกจากเตียงแล้วและยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้อง กำลังกะน้ำหนักทองแท่งที่ทั้งใหญ่ทั้งหนักด้วยการโยนขึ้นลงในมือ

นางหรี่ตา เล็งเป้า

“กล้าแตะต้องคนของข้ารึ? แม่จะเอาทองแท่งปาเจ้าให้ตาย!”

ตุบ!

“โอ๊ย...”

โดนทองไปสามแท่ง พ่อบ้านถูกปาจนหน้าผากแตก กระดูกข้อมือหัก เอวชราๆ ยอกไปหมด พลันล้มพับอยู่บนพื้น กุมสะเอวร้องครวญคราง 'ไอ้หยาๆ'

ทว่า ในพริบตาต่อมา เขาก็กัดฟันทนต่อความเจ็บปวด หอบเอาทองแท่งหนึ่งขึ้นมาแล้วออกแรงขบไปครั้งหนึ่งในทันที

เจ็บฟัน!

แข็งจริงๆ!

เป็นของจริง!

ทองคำ!

หน่วงขนาดนี้ หนักถึงเพียงนี้ ซ้ำยังมีตั้งสามแท่ง พระชายามั่งมียิ่งกว่าท่านอ๋องเสียอีก!

ตาของพ่อบ้านเป็นประกายแวววาวขึ้นในบัดดล จู่ๆ เอวก็ไม่เจ็บ ขาไม่ปวด โรคข้ออักเสบที่เป็นมาหลายสิบปีก็หายเป็นปลิดทิ้ง พลันคุกเข่าแบบประจบลงตรงหน้าพระชายา ยิ้มเสียจนมีแต่ความสอพลออยู่เต็มใบหน้า

“เป็นบ่าวเองที่ดวงตาโง่เง่า มีตาหามีแววไม่ นับแต่นี้ไป พระชายาให้บ่าวทำสิ่งใดบ่าวก็จะทำสิ่งนั้นขอรับ”

“บ่าวจะเป็นสุนัขรับใช้ของพระชายา!”

คนม้วยด้วยทรัพย์สิน วิหคสิ้นด้วยภักษา

เยว่เอ๋อร์ “?”

ท่าทีก่อนหลังต่างกันลิบลับ นางปรับตัวไม่ทันไปชั่วขณะ

ฉู่เชียนหลีอิงตัวกับประตูด้วยท่าทีเอื่อยเฉื่อย สองมือกอดอก จดจ้องคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้น มีเงินสั่งผีบงการปีศาจได้ สถานการณ์เช่นนี้นางพบเห็นมานักต่อนักแล้ว

“ขอโทษเยว่เอ๋อร์ของข้า”

พ่อบ้านหันมาทันใด “แม่นางเยว่เอ๋อร์ เมื่อครู่ข้าล่วงเกินเจ้า ต้องขออภัยจริงๆ มา รีบรับไป นี่คือเบี้ยเดือนเดือนนี้ของพระชายา ที่เกินมานั้นเป็นของชดเชยที่ข้ามอบให้เจ้า”

ก้อนเงินโตๆ ก้อนหนึ่งวางอยู่บนฝ่ามือของเยว่เอ๋อร์

จนถึงยามนี้เยว่เอ๋อร์ยังคงอยู่ในอาการงุนงง

พระชายาเอาทองคำปาใส่คน แล้วพระชายาในวันวานที่ทั้งเรียบร้อย เก็บตัว ขี้กลัว ขี้ขลาดเปลี่ยนเป็นป่าเถื่อนและร้ายกาจดังนี้แต่เมื่อใดกัน?

ช้าก่อน!

ทองแท่งมาจากที่ใด?

ฉู่เชียนหลียกมุมปากข้างหนึ่ง “ไสหัวไป”

“ขอรับๆ” พ่อบ้านหมอบลงบนพื้นด้วยมือเท้าทั้งสี่อยู่ในท่าเตรียมไสหัว

จู่ๆ ฉู่เชียนหลีก็ได้ความคิดขึ้นมา “กลับมา”

นางกระดิกนิ้วเล็กๆ

พ่อบ้านเห็นดังนั้นก็รีบขยับเข้าหาทั้งบั้นท้ายสั่นริกๆ โน้มหูเข้ามาฟังอย่างฉลาดเฉลียวในทันใด

“ข้าถามเจ้า ท่านอ๋องชิงชังรังเกียจสิ่งใดเป็นที่สุด?” พ่อบ้านผู้นี้เห็นเงินแล้วตาโต นางจึงจะใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ยั่วให้อ๋องเฉินโมโห พออ๋องเฉินบันดาลโทสะขึ้นมาก็จะหย่ากับนาง

พ่อบ้านมีอันต้องลำบากใจ

ตลอดหลายปีที่เข้าจวนมา มีผู้คนนับไม่ถ้วนที่ประจบเอาใจท่านอ๋อง แต่หากถามว่าท่านอ๋องรังเกียจสิ่งใด? คนที่ท่านอ๋องชิงชังที่สุดก็มิใช่...

เขาเพิ่งจะเงยสายตาขึ้นก็รีบหลุบตาลงอีกคราว ตอบว่า

“ท่านอ๋องรังเกียจคนที่เคี้ยวอาหารเสียงดัง ไม่ชอบกินต้นหอม และยังไม่ชอบของสีฉูดฉาด และยิ่งรังเกียจคนมาผายลมต่อหน้าท่านด้วย!”

ผายลม?

ฉู่เชียนหลีเลิกคิ้ว “ยังมีสิ่งใดอีก?”

“ยังมี...” พ่อบ้านพยายามคิด “ยังมีอีกขอรับ ท่านอ๋องรังเกียจคนพูดแล้วน้ำลายกระเด็น รังเกียจคนที่สามวันยังไม่เข้าห้องสุขาแม้สักหน และยัง...ไม่ชอบท่าน...”

ฉู่เชียนหลียอมรับโดยปริยาย “เจ้าซื่อมากนะ”

พ่อบ้านหนังหัวชาขึ้นโดยพลัน รีบแก้คำพูดใหม่ “คนที่ท่านอ๋องรังเกียจๆๆๆ เป็นที่สุดก็คือ คนที่นอกในไม่ตรงกัน[footnoteRef:1]ขอรับ!” [1: นอกในไม่ตรงกัน หมายถึง ทำอีกอย่าง คิดอีกอย่าง คล้ายสำนวนไทยว่า ปากซื่อใจคด ปากว่าตาขยิบ ]

ฉู่เชียนหลีเลิกคิ้วอีกคราว

ครั้งนางกลับจวนอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายฉู่หนนี้ นางอันต้องการให้นางจับตาดูความเคลื่อนไหวทุกอย่างของอ๋องเฉิน ถ้านางนำความเคลื่อนไหวของอ๋องเฉิน ส่งกลับไปให้จวนอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย คิดว่าเมื่ออ๋องเฉินรู้จะต้องหย่ากับนางเพราะความเคืองโกรธเป็นแน่

สมบูรณ์แบบ!

“สุนัขรับใช้... เอ๊ยไม่ใช่พ่อบ้าน เจ้าช่วยข้าได้มากทีเดียว จงวางใจ ขอเพียงมีข้าอยู่ในจวนอ๋องอีกวัน แม้ไม่อาจมอบอำนาจให้เจ้าได้ แต่ก็สามารถใช้ทองคำทับถมตัวเจ้าได้”

พ่อบ้านยิ้มจนปากแทบปริแตก อยู่มาจนปูนนี้ ยังไม่เคยพบเห็นเงินทองมากมายเช่นนี้เลย

“บ่าวจะรับใช้พระชายาอย่างสุดกำลังเป็นแน่ขอรับ!”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status