แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: สกุลหยางมีบุตรสาว
นางอันเอ่ยปากกล่าว “เจ้าแต่งเข้าจวนอ๋องเฉินสามเดือนแล้ว หนึ่งไม่ได้รับความโปรดปราน สองไม่ได้รับอำนาจ สามไม่ได้รับทรัพย์สิน สี่ไม่ได้รับข่าวที่เป็นประโยชน์ นั่งตำแหน่งพระชายาอ๋องเฉิน ไม่กลัวผู้อื่นหัวเราะเยาะหรือ?”

กระทั่งนางยังรู้สึกขายหน้าเลย

มองดูใบหน้าที่อัปลักษณ์ของฉู่เชียนหลี่ ขมวดคิ้วกล่าว “เจ้าจำเป็นต้องทำให้ได้หนึ่งเรื่อง จึงจะสามารถทำประโยชน์ให้จวนอัครมหาเสนาบดีฉู่”

ต้องได้รับอำนาจหรือไม่ก็มีอิทธิพล

“แล้วก็เดือนหน้าเป็นวันแต่งงานของพี่หญิงเจ้าแล้ว เจ้าไปหาทางจัดการเรื่องสินเจ้าสาวมาให้นางด้วย ยิ่งเยอะยิ่งดี” น้ำเสียงที่แข็งกร้าวของนางเหมือนออกคำสั่งเสียมากกว่า

ฉู่เชียนหลี่ราวกับได้ยินเรื่องตลกที่สุดในโลก

พี่หญิงจะแต่งงาน จะอย่างไรก็ไม่ถึงคราวที่นางต้องซื้อสินเจ้าสาวกระมัง

“น้องหญิงสี่ ข้ารู้ว่าเรื่องนี้ทำให้เจ้าลำบากใจ…” ฉู่เจียวเจียวจับมือทั้งสองข้างนาง หลุบตาทั้งคู่ลงอย่างตำหนิตนเอง “เป็นเพราะข้าไม่เอาไหน ไม่สามารถได้รับความสำคัญจากท่านพ่อ ทำให้ตำแหน่งของพวกเราสามแม่ลูกในจวนกระอักกระอ่วนยิ่งนัก”

นางอันเป็นอนุภรรยา ข้างบนยังมีฮูหยินข่มอยู่

คุณหนูใหญ่ที่กำเนิดฮูหยินใหญ่เป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง ความงามเป็นเลิศ ส่วนคุณหนูรองก็เป็นหญิงมากความสามารถอันดับหนึ่งของเมืองหลวง ความรู้เป็นเลิศ

ปกติอัครมหาเสนาบดีฉู่โปรดปรานลูกสาวสองคนนี้มาก ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้นางอันสูญเสียความโปรดปราน กอปรกับฉู่เชียนหลีอัปลักษณ์ไร้ความงาม ชื่อเสียงฉาวโฉ่ นางจึงพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ไม่ได้รับความโปรดปรานมากกว่าเดิม

ฉู่เจียวเจียวกล่าวอย่างขุ่นเคือง “น้องหญิง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกเราพี่น้องยิ่งไม่ควรแบ่งเจ้าข้า พวกเราควรจะพยายามด้วยกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ฟันฝ่าด้วยกัน เพื่อให้ท่านแม่ได้ใช้ชีวิตที่ดีในเร็ววัน”

นางเป็นเด็กดี กตัญญู รู้ความ ได้ใจนางอันอย่างมาก

แต่การรู้ความของนางกลับตั้งอยู่บนผลประโยชน์จากตัวฉู่เชียนหลี

ฉู่เชียนหลีต้องเสียทรัพย์สิน หักหลังอ๋องเฉิน ทำดีกลับไม่ได้ผลดีตอบแทน ส่วนฉู่เจียวเจียวแค่อ้าปากก็ถูกมองว่าเป็นเด็กดีที่รู้ความ

เหอ!

“ข้าทราบแล้ว” นางชักมือของตนออกอย่างเฉยเมย ไม่ต้องการอยู่แม้แต่ครู่เดียว “ข้ายังมีธุระ กลับจวนอ๋องเฉินก่อนแล้ว”

จวนอัครมหาเสนาบดีนี้ไม่มีความอบอุ่นใดๆ เลย ไม่อยู่ก็ช่างเถอะ

ฉู่เจียวเจียวมองผู้หญิงที่เดินไปไกล จนกระทั่งแผ่นหลังหายลับตา ดึงสายตากลับด้วยความกังวลเล็กน้อย “ท่านแม่ นางจะช่วยพวกเราแต่โดยดีหรือไม่?”

นางอันพ่นลมออกจากจมูกอย่างไม่สบอารมณ์ “ไม่ช่วยก็ต้องช่วย เรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนาง ตลอดหลายปีมานี้คิดว่าข้าเลี้ยงนางเสียข้าวสุกหรืออย่างไร?”

“แต่หากฉู่เชียนหลีรู้ว่าท่านไม่ใช่แม่แท้ๆ…”

ฉู่เชียนหลีออกจากจวนอัครมหาเสนาบดี ไม่อยากรีบกลับจวนอ๋องเฉิน จึงเที่ยวเตร่ในเมืองหลวง

เมืองเจริญรุ่งเรือง ผู้คนพลุกพล่าน ทุกที่ล้วนเป็นภาพคึกคักที่เต็มไปด้วยเสียงของฝูงชน

นางหาร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพียงแต่ร้านอาหารนี้ค่อนข้างพิเศษ เวลากินข้าวมีผู้ชายมานั่งเป็นเพื่อน…คล้ายๆ หอนางโลม  หรือก็คือหอบำเรอ

บนเวทีกลางร้านอาหาร ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาหลายคนดีดพิณเริงระบำ ฉู่เชียนหลีขอโต๊ะที่ติดกับริมหน้าต่าง กินไปพลาง มองถนนข้างนอกไปพลาง มองดูร่างที่ยุ่งอยู่กับการขายผัก เดินตลาดและเข็นรถเข็น ฟังพวกเขาสนทนา

“อ๋องเฉินชนะสงครามอีกแล้ว สมกับเป็นเทพสงครามไร้พ่าย”

“หลายปีมานี้ต้องดีที่ได้เขาพิทักษ์ชายแดน ปกป้องประชาชนอย่างพวกเรา…”

“เพียงแต่คุณหนูสี่ที่ชั่วช้าของตระกูลฉู่ทำให้อ๋องเฉินที่ข้าเลื่อมใสและศรัทธาเป็นมลทิน ไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาของตนเองเสียเลย คิดฝันเฟื่องกับเฉินอ๋อง! ถ้าหากข้าเจอนาง ข้าจะเอาขี้ละเลงหน้านางแน่นอน!”

ฉู่เชียนหลีที่กำลังแทะเมล็ดแตงโม “...”

ข้าวในชามก็ไม่อร่อยไปในทันที

นอกหน้าต่าง “ข้าจะเอาขี้ยัดปากนาง!”

เพียะ…

นิ้วทั้งห้าบีบเข้าหากัน ชามถูกบีบแตกโดยตรง

ชายชุดขาวที่นั่งอยู่ด้านข้างตกใจจนเด้งลุกขึ้นพรวด

ฉู่เชียนหลีหันไปมอง “จะสั่นอะไรของเจ้า กินข้าว!”

ชายชุดขาวที่ลุกพรวดยืนไม่มั่นคง เกือบล้มลงพื้น มองดูใบหน้าของผู้หญิงที่อัปลักษณ์ราวกับปีศาจอย่างหวาดผวา มือที่ถือตะเกียบกำลังสั่น

ผู้คนข้างนอกต่างเล่ากันว่าหญิงอัปลักษณ์ตระกูลฉู่ได้ครอบครองแม้กระทั่งอ๋องเฉินผู้สูงศักดิ์และมีอำนาจบารมีในราชสำนัก วิธีการต้องเหี้ยมโหดแน่นอน หากมาใช้กับตัวเขา…

“พระชายาอ๋องเฉินไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วย!”

“เจ้ากลัวข้าทำไม?”

“ไว้ชีวิตด้วย! ข้าน้อยไม่รู้อะไรทั้งสิ้น และไม่กล้าปากโป้งเรื่องที่ท่านมาหอบำเรอด้วย ท่านปล่อยข้าน้อยไปเถอะ!”

“ข้ามาหอบำเรอแล้วอย่างไร เจ้าผู้ชายบ้านั้นคุมข้าได้หรือ? ลุกขึ้น ปรนนิบัติข้ากินข้าว!”

นอกประตู ฝีเท้าของเฟิงเย่เสวียนที่เดินผ่านพอดีชะงักเล็กน้อย ถอยหลังสองก้าว เมื่อหันไปมองก็พบผู้หญิงคนหนึ่งกำลังใช้เท้าเหยียบอยู่บนเก้าอี้ และกระชากคอเสื้อของบริกรไว้ ท่าทางราวกับจอมเผด็จการ สีหน้ามืดมนฉับพลัน

นี่ก็คือที่นางบอกว่ากลับบ้านแม่หรือ?
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1270

    อันธพาลเจ็บจนกรีดร้องเหมือนหมูโดนเชือด “อ๊ะๆ!”ยังไม่ทันได้พักหายใจ ก็โดนถีบจนไปกลิ้งอยู่บนพื้น รองเท้าปักลายดอกไม้เหยียบลงบนหน้าอก หนักจนทำให้เขาหายใจไม่ออก กระอักเลือดออกมา“พู่!”เขากอดต้นขาของอวิ๋นอิง อยากดิ้นให้หลุด แต่หาของอวิ๋นอิงกดทับอยู่บนร่างกายของเขาเหมือนเหล็กกล้า และเขาก็เหมือนกับปลาตัวหนึ่งที่ถูกตอกตะปูอยู่บนเขียง พยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิต แต่ก็ดิ้นไม่หลุดเจอผีแล้ว!ทั้งที่นางผอมเช่นนี้ เหตุใดจึงมีแรงมากเช่นนี้?ผู้หญิงคนนี้ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือ?ชาวบ้านก็ตะลึงเช่นกันอวิ๋นอิงอุ้มลูกสาวไว้ด้วยมือข้างเดียว ค่อยๆ ก้มลง ยกฝ่ามืออีกข้าง เหวี่ยงไปที่ใบหน้าของอันธพาลโดยตรง“ข้าสั่งให้เจ้าเก็บ”เพียะ!“ไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือ?”เพียะ!“หูหนวกหรือ?”เพียะ!หนึ่งประโยค หนึ่งฝ่ามือ ตบจนอันธพาลหันซ้ายหันขวา มุมปากแตกมีเลือดไหล หูอื้อ สะบักสะบอมเหมือนสุนัขจรจัดตัวหนึ่ง ไม่หลงเหลือความฮึกเหิมของก่อนหน้านี้เลย“ลูกพี่!”ลิ่วล้อสามคนคว้าโต๊ะเก้าอี้และท่อนไม้ที่อยู่ข้างๆ ฟาดไปทางอวิ๋นอิงอย่างแรงอวิ๋นอิงกระโดนหมุนตัวเตะพวกเขาสามคนจนลอยกระเด็นออกไปไกลเจ็ดแปดเมตร โดยไม่หั

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1269

    ตงหลิงเจียงหนาน ทำเนียบสามเดือนที่พระชายาจากไป อ๋องเฉินเอาแต่เก็บตัว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลก หานเฟิงต้องรับผิดชอบงานแทนทุกอย่าง เมื่อนานวันเข้า โลกภายนอกต่างกำลังคาดเดา จิตใจของอ๋องเฉินได้รับกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ล้มแล้วลุกไม่ขึ้น เกรงว่าเหลือเวลาอีกไม่นานแล้วช่วงนี้ ในที่สุดอาการบาดเจ็บของจิ่งอี้ก็ดีขึ้นแล้วอาการบาดเจ็บทางกระดูกหรือเส้นเอ็น ต้องรักษาอย่างน้อยหนึ่งร้อยวันในที่สุดกระดูกซี่โครงที่หักสองซี่ก็หายดีแล้ว สามารถขี่ม้าได้แล้ว ตอนนั้นเขาบอกว่าจะนำทัพกลับแคว้นซีอวี้ทันทีแต่ก่อนไป เขาถามเหมือนไม่ใส่ใจ“เหตุใดไม่เจอแม่นางอวิ๋นอิงเลย?”จ้านหูจริงจังขึ้นมาทันที เขาตอบ“องค์ชายใหญ่ ข้าจะส่งคนไปสืบเดี๋ยวนี้!”“ไม่ต้อง”หลังจากปฏิเสธอย่างเฉยเมย ปีนขึ้นหลังม้า ขี่ออกไปคนเดียวแล้วจ้านหู “?”หมายความว่าอย่างไร?ตอนที่องค์ชายใหญ่หมดสติ แม้อวิ๋นอิงบอกว่าไม่สนใจ แต่แอบมาเยี่ยมองค์ชายใหญ่ตอนดึกดื่นเวลาที่ไม่มีคนองค์ชายใหญ่ก็อีกคน ทั้งที่คิดถึงอวิ๋นอิง แต่ไม่ยอมรับในใจของพวกเขาสองคนล้วนมีอีกฝ่าย ลูกสาวก็อายุเกือบครึ่งขวบแล้ว เหตุใดไม่ลองเปิดใจสักนิดแล้วอยู่ด้วยกันเลย

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1268

    คืนแรกที่มาถึงต่างโลก ฉู่เชียนหลีฝันในความฝัน นางอยู่บนสนามรบ สู้จนตัวตาย เลือดไหลเป็นแม่น้ำ น่าสลดใจนัก…ในความฝัน นางได้ต่อสู้ร่วมกับชายคนหนึ่งที่มองไม่เห็นใบหน้า ร่วมเป็นร่วมตาย และยังมีเสียงที่นุ่มนิ่มของเด็ก เรียก ‘ท่านแม่’ ครั้งแล้วครั้งเล่าในความฝัน ราวกับนางได้รับความอยุติธรรมครั้งใหญ่ หัวใจเจ็บปวด และพยายามอธิบายสุดชีวิต แต่พวกคนที่เรียกตัวเองว่า ‘ครอบครัว’ ไม่เชื่อนาง และยังบีบคั้นนางสู่เส้นทางที่สิ้นหวังในความฝัน…มีคนกำลังเรียกนาง‘เชียนหลี…เชียนหลี…’ฉึก!ฉู่เชียนหลีลืมตาฉับพลัน ท้องฟ้าข้างนอกสว่างแล้ว แสงแดดอุ่นๆ ยามเช้าสาดส่องเข้ามา สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของอากาศ สงบมากนางรู้สึกเวียนศีรษะ และแน่นหน้าอกราวกับนางอยู่ในความฝันอันยาวนานจริงๆนางได้รับความอยุติธรรมนางถูกคนในครอบครัวฆ่าตายแต่เหตุใดนางจำผู้ชายที่เรียกนาง และภาพที่เรียกนางว่า ‘ท่านแม่’ ไม่ได้เลย“องค์หญิง ท่านตื่นแล้ว”เมื่ออ้ายอ้ายได้ยินเสียง ถือกะละมังน้ำอุ่นกับเครื่องใช้เข้ามาปรนนิบัติฉู่เชียนหลีนวดขมับ อยู่ในอาการเหม่อลอย แขนขาอ่อนแรง ไม่มีแรงขยับ ดึงผ้าห่มออก ลงจากเตียง สวมรองเท้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1267

    สาวใช้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็รีบฝนหมึกอย่างเชื่อฟังมองดูองค์หญิงรีบหยิบพู่กัน เขียนอะไรบางอย่าง ท่าทางที่รีบร้อนนั่น เมื่อก่อนเวลาที่นังเป็นห่วงคุณชายเซิ่น ยังไม่รีบร้อนเช่นนี้เลยองค์หญิงกระโดดสระน้ำ หมดสติไปสามวัน หลังจากฟื้น ก็เปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย?นิสัยเปลี่ยนไปน้ำเสียงเปลี่ยนไปแต่เมื่อลองตั้งใจมอง องค์หญิงยังคงเป็นองค์หญิง ยังคงเป็นใบหน้าที่คุ้นเคยฉู่เชียนหลีเขียนอย่างรวดเร็ว…อ๋องเฉินเป็นอย่างไรบ้าง ข้าอยู่แคว้นหนานยวน…พลางเขียน พลางกล่าวอย่างรีบร้อน “รีบไปหาคน ช่วยข้าส่งจดหมายฉบับนี้ไปให้อ๋องเฉินที่ตงหลิงเจียงหนาน”นางอยากบอกความจริงกับเฟิงเย่เสวียน ต่อให้ตนลืมแล้ว แต่เฟิงเย่เสวียนจำนางได้เขาจะต้องมาหานางแน่นอนไม่ช้าก็เร็วสักวัน พวกเขาครอบครัวสี่คนจะอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา“อ๋องเฉินแห่งตงหลิงเจียงหนาน?”สาวใช้เกาศีรษะด้วยความสงสัย “องค์หญิง ท่านส่งจดหมายให้อ๋องเฉินทำไม? ท่านรู้จักอ๋องเฉินตั้งแต่เมื่อไร?”ฉู่เชียนหลีรีบกล่าว“อธิบายกับเจ้าไม่ได้ แต่ความสัมพันธ์ของข้ากับอ๋องเฉินไม่ธรรมดา…อ๋องเฉิน? อ๋องเฉินตงหลิง?”เงยหน้าฉับพลัน“ข้ารู้จักอ๋องเฉ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1266

    ทุกคน “...”สีหน้าฮ่องเต้หนานยวนดูไม่ดีนัก เซิ่ยซือเฉินเป็นแค่บัณฑิตคนหนึ่ง เพื่อบัณฑิตคนหนึ่ง ต้องทุ่มสุดตัวเช่นนี้เลย ต้องตื่นเต้นเช่นนี้เลย?ในฐานะองค์หญิง ไม่ควรมองให้ไกลกว่านี้หน่อยหรือ?เพื่อป้องกันจวินลั่วยวนทำร้ายตัวเอง เขาออกคำสั่ง มัดมือและเท้าของนางโดยตรงจวินลั่วยวนขยับไม่ได้แล้วเห็นท่าทางที่จะยิ้มไม่ยิ้มของฉู่เชียนหลี และยังเลิกคิ้วอย่างยั่วยุ นางโมโหจนแทบกัดลิ้นฆ่าตัวตายหลังจากเหตุการณ์ที่วุ่นวาย ไปจากตำหนักองค์หญิงฉู่เชียนหลีกับหลิงอี้ซิงเดินเคียงข้างกันจากไป เมื่ออารมณ์ดี จังหวะการเดินก็ผ่อนคลายเป็นพิเศษ อดไม่ได้ที่จะฮัมเพลงเบาๆฮัมไปฮัมมา จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าหลิงอี้ซิงเป็นผู้มีจิตใจเมตตา อุทิศตนให้กับความดีและคุณธรรมหยุดฝีเท้าหันไปถาม “ท่านพี่ ท่านน่าจะเห็นกระมัง ว่าข้าจงใจรังแกจวินลั่วยวน?”หลิงอี้ซิงเดินตามปกติ สายตามองไปข้างหน้า พยักหน้าอย่างเกียจคร้าน ตอบสั้นๆ เพียงคำเดียว“อืม”“ท่านไม่รู้สึกว่าข้านิสัยไม่ดีหรือ?”เขาหยุดเดินหันมามองนาง กล่าวอย่างจริงจัง “ที่เจ้ารังแกนาง นั่นก็ต้องเป็นเพราะนางล่วงเกินเจ้าก่อนแน่นอน ล้วนเป็นความผิดของนาง”เขาไ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1265

    “ยวนเอ๋อร์! ยวนเอ๋อร์!” ฮ่องเต้หนานยวนร้อนใจจนหน้าถอดสี “ใครก็ได้ ใครก็ได้รีบมาเร็ว ยวนเอ๋อร์เสียเลือดมากเกินไป หมดสติไปแล้ว!”จวินลั่วยวนที่ ‘เสียเลือดมากเกินไปจนหมดสติ’ “...”เจ้าน่ะสิที่เสียเลือดมากเกินไปเจ้าเสียเลือดมากเกินไปทั้งครอบครัว!หมอหลวงมาอย่างรวดเร็ว หลังจากทำแผลให้จวินลั่วยวนเสร็จ ถอนหายใจด้วยความกังวล “สามเดือนแล้ว ในที่สุดเอ็นขององค์หญิงก็เชื่อมต่อกัน คิดไม่ถึงว่าขาดอีกแล้ว ความพยายามในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาล้วนสูญเปล่า” ต่อจากนี้ก็ต้องใช้เวลาอีกสามเดือน เปิดบาดแผล บำรุงเอ็นทุกวันเมื่อฉู่เชียนหลีได้ยินคำนี้ เบ้าตาแดงฉับพลัน“ล้วนเป็นความผิดของข้า…”นางดึงชายเสื้อของหลิงอี้ซิง กล่าวเสียงสะอึก“ท่านพี่ ข้ามันไม่ดี ต้องเป็นเพราะเรื่องของคุณชายเซิ่นแน่ องค์โกรธข้า ไม่ชอบข้า จึงฟาดมือของตัวเองใส่เสา เพื่อเป็นการแสดงความรังเกียจต่อข้า”“ข้าทำร้ายนาง ฮือๆ…”หลิงอี้ซิงรักน้องสาว ทุกคนในแคว้นหนานยวนรู้เรื่องนี้แล้วฮ่องเต้หนานยวนกล่าวโทษนางได้อย่างไร?กลับกัน เขายังต้องขอร้องหลิงอี้ซิงทักษะการทำนายของหลิงอี้ซิงมีเพียงหนึ่งเดียวในใต้ฟ้า ตลอดหลายปีที่เขานั่งตำแหน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status