งานเลี้ยงวันเกิดของชินอ๋องมู่หรงเสี่ยวหมิง จัดขึ้นอย่างเรียบง่ายภายในตำหนัก มีแขกเหรื่อมากมายมาร่วมงาน ฮ่องเต้และฮองเฮา ทรงส่งของขวัญมาอวยพรอย่างสมเกียรติ
มู่หรงเสี่ยวหมิงยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี เขามองไปโดยรอบ ก่อนจะหยุดสายตาเอาไว้ที่ฉินมู่หลาน เห็นนางกำลังยกสุราขึ้นดื่ม พร้อมกับกินเนื้อย่างอย่างเอร็ดอร่อย
เมื่อใดกันที่เขามองนางเปลี่ยนไป เหตุใดนางจึงดูเย้ายวนมากกว่าแต่ก่อน
ภาพของฉินมู่หลานในความทรงจำของเขานั้น นางเป็นสตรีเรียบร้อย เขินอาย และไม่เคยกล้ายั่วยวนเขาเช่นนี้มาก่อน
แต่เขากลับชอบที่นางเป็นเช่นนี้
ฉินมู่หลานเงยหน้ามองมู่หรงเสี่ยวหมิงเล็กน้อย ใบหน้างามแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์ของสุรา
"ท่านอ๋องเพคะ ลองเสวยเนื้อนี้ดูเถิดเพคะ รสชาติดีไม่น้อย"
เสี่ยวเยี่ยนจื่อเมื่อสัมผัสได้ว่ามู่หรงเสี่ยวหมิงกำลังจ้องมองฉินมู่หลานไม่วางตา ก็หาทางดึงดูดความสนใจจากเขา
มู่หรงเสี่ยวหมิงพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะคีบชิ้นเนื้อขึ้นมาลองชิมดู
"หม่อมฉันจะเต้นรำถวายพระองค์นะเพคะ"
"อืม เราอยากดูเจ้าร่ายรำ ได้ยินมาว่าฝีมือการร่ายรำของเจ้าเป็นอันดับหนึ่งในเมืองหลวง"
"ท่านอ๋องทรงชมเกินไปแล้วเพคะ"
เสี่ยวเยี่ยนจื่อยิ้มด้วยความเขินอาย ก่อนจะเดินหายไปเพียงครู่เดียว แล้วจึงกลับมาพร้อมกับชุดเริงระบำดอกไม้สีชมพูงามตาประดับด้วยดอกไม้สดหลากหลายชนิด ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนจนผู้คนต่างพากันชื่นชมไม่ขาดปาก
เสียงดนตรีบรรเลงเพลง ร่างบางระหงของเสี่ยวเยี่ยนจื่อ กำลังเริงระบำอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์ด้วยท่วงท่าที่สง่างาม สายตายั่วยวนทรงเสน่ห์มองไปที่มู่หรงเสี่ยวหมิงตลอดเวลา
แปะแปะ
"องครักษ์หลิน ตกรางวัลให้พระชายารอง"
"ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ ว่าแต่พี่หญิงเตรียมของขวัญเป็นสิ่งใดให้ท่านอ๋องหรือเพคะ น้องอยากจะชมยิ่งนัก"
ทุกสายตาจับจ้องไปที่ฉินมู่หลานเป็นตาเดียว นางส่งเสียงเฮอะในลำคอ ก่อนจะมองเสี่ยวเยี่ยนจื่อด้วยสายตาล้ำลึก
"คงจะให้น้องหญิงชมไม่ได้เสียแล้ว ของขวัญที่พี่มอบให้ท่านอ๋อง เป็นความลับของพวกเราสามีภรรยา คงจะเปิดเผยต่อคนนอกไม่ได้ ต้องขออภัยเจ้าด้วย"
เสี่ยวเยี่ยนจื่อยิ้มค้างกลางอากาศ นี่ฉินมู่หลานกำลังจะบอกนางอย่างอ้อมๆ ว่า นางไม่ควรสอดรู้เช่นนั้นหรือ?
หึ!!! ปากคอเราะร้ายขึ้นทุกวัน
"เอาเถิด วันนี้ก็ดึกมากแล้ว ข้าขอจบงานเลี้ยงลงเพียงเท่านี้ ขอบใจทุกท่านที่มาร่วมงาน"
งานเลี้ยงสิ้นสุดลงแล้ว เหล่าแขกที่มาร่วมงานต่างทยอยกันกลับจวนของตนเองไปจนหมด บรรยากาศในตำหนักอ๋องจึงกลับมาเงียบสงบดังเดิม
"คืนนี้ข้าจะไปค้างที่ตำหนักชายาเอก"
"ท่านอ๋องเพคะ แต่วันนี้หม่อมฉันเตรียมชาอย่างดีไว้รอท่านอ๋องที่เรือนแล้วนะเพคะ"
"เยี่ยนจื่อ ข้าไม่ชอบพูดซ้ำ"
"ขออภัยเพคะ"
มู่หรงเสี่ยวหมิงมองฉินมู่หลานที่เดินโซซัดโซเซเตรียมจะกลับเรือนด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนจะเดินเข้าไปโอบอุ้มร่างบางขึ้นมา แล้วพาเดินกลับเรือน เสี่ยวเยี่ยนจื่อกำมือแน่นเดินกระทืบเท้ากลับเรือนไปด้วยความขุ่นเคือง
"ออกไปให้หมด"
มู่หรงเสี่ยวหมิงไล่เหล่านางกำนัลออกไปจนหมด ก่อนจะเดินเข้าไปหาฉินมู่หลานที่นั่งกอดเสาเตียงด้วยใบหน้าแดงก่ำ
"มู่หลาน"
"คนหล่อ วันนี้อยากดูโชว์พิเศษไหมจ๊ะ?"
"เจ้าพูดอะไร? ข้าไม่เข้าใจ"
ฉินมู่หลานส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มให้แก่มู่หรงเสี่ยวหมิง ก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปหาเขาที่ยืนอยู่ไม่ไกล
"วู้ โว้ววว!!!"
ฉินมู่หลานส่งเสียงฮัมเพลงประหลาด ก่อนจะถอดชุดตัวนอกออกจนหมด เผยให้เห็นเนินอกอวบอิ่มขนาดใหญ่ นางเดินเข้าไปดึงทึ้งเสื้อผ้าอาภรณ์ของเขาออกจนหมด ก่อนจะใช้ฝ่ามือเรียวงามลูบไล้ลงไปที่แผงอกของเขาอย่างหลงใหล
นางค่อยๆ ขยับสะโพกส่ายเอวร่อนไปมาอยู่ตรงหน้าเขา แล้วใช้สองแขนโอบรอบลำคอของเขาเอาไว้พลางบดเบียดหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่โตเข้ากับแผงอกของเขา มู่หรงเสี่ยวหมิงส่งเสียงซี้ดซ้าดในลำคอด้วยความเสียวกระสัน
"ท่าเต้นเจ้าช่างประหลาดนัก แต่งดงามไม่เบา"
มู่หรงเสี่ยวหมิงจ้องมองใบหน้าทรงเสน่ห์ที่แสนเย้ายวนของนางด้วยความหลงใหล
"คืนนี้เจ้าช่างงามเหลือเกิน"
"ท่านพี่อ๋องก็หล่อเหลือเกินเพคะ"
ไม่พูดเปล่า ฉินมู่หลานค่อยๆ เลื่อนใบหน้าของนางให้ต่ำลง ต่ำลง จนมองเห็นแท่งแก่นกายที่ชี้โด่ชูชันของเขา มันใหญ่ยาวเสียจริง ช่างถูกใจนางเหลือเกิน
ฉินมู่หลานผลักมู่หรงเสี่ยวหมิงให้ลงไปนั่งพิงบนหัวเตียงด้วยท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ก่อนที่นางจะแทรกร่างบางระหงเข้าไปนั่งอยู่ที่หว่างขาของเขา มือเรียวงามจับลำแท่งมังกรรูดชักขึ้นลงช้าๆ แล้วแลบลิ้นม้วนเลียที่หัวสีชมพูของเขาด้วยความชอบใจ
"ซี้ดดดดด อ๊าส์!!!"
นางครอบริมฝีปากงามลงไปจนสุดลำแท่ง แล้วจึงขยับศีรษะขึ้นลงอย่างรวดเร็ว มือก็รูดชักลำแท่งเอ็นเนื้อขึ้นลงอย่างถี่เร่า จนมู่หรงเสี่ยวหมิงส่งเสียงครวญครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน
"มู่หลานจ๋า!!! โอ้ววว ข้าเสียวเหลือเกิน ซี้ดดดด!!!"
มู่หรงเสี่ยวหมิงใช้มือสองข้างกดศีรษะของนางเอาไว้ แล้วเด้งเอวสวนท่อนลำมังกรเข้าไปในโพรงปากงามของนางจนเกิดเสียงดัง
อ๊อก อ๊อก!!!
"โอ้ววว ข้าจะไม่ไหวแล้ว ข้าเสียวเหลือเกินน ซี้ดดด!!!"
ร่างของมู่หรงเสี่ยวหมิงกระตุกเด้งขึ้นลงสองครั้ง ก่อนจะปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นออกมา จนมันไหลเยิ้มล้นทะลักออกมาจากขอบปากของฉินมู่หลาน
"กินให้หมด"
"ต้องกินอยู่แล้วเพคะ"
ฉินมู่หลานใช้ลิ้นเลียทำความสะอาดตั้งแต่หัวมังกรจนถึงลำแท่งอย่างเอร็ดอร่อย สร้างความพึงพอใจแก่มู่หรงเสี่ยวหมิงเป็นอย่างยิ่ง
"ดีมาก"
"พอแล้วนะเพคะ วันนี้หม่อมฉันเจ็บคอ วร้ายย!!!"
"วันนี้เจ้าจะได้เจ็บอย่างอื่นด้วย ฮิฮิฮิ"
มู่หรงเสี่ยวหมิงหัวเราะชอบใจแล้วจึงโอบรัดร่างบางของนางให้ขึ้นมานอนหงายบนเตียง ก่อนจะพยายามดึงทึ้งเสื้อผ้าของนาง ฉินมู่หลานรีบยกมือขึ้นหยุดการกระทำของเขาทันที
"จะทำสิ่งใดเพคะ?"
"ข้าจะพาเจ้าไปเที่ยวบนสวรรค์กับข้า"
"จะร่วมหลับนอนกับหม่อมฉันหรือเพคะ"
"หรือเจ้าไม่อยากร่วมหลับนอนกับข้า?"
"ไม่ต้องถอดให้เพคะ เดี๋ยวหม่อมฉันถอดเอง!!!"
เขาอุ้มร่างบางของฮองเฮาผู้เป็นที่รักเข้ามาในตำหนัก ก่อนจะวางนางลงบนโต๊ะเสวยอาหาร สองแขนใหญ่สอดเข้าไปที่ใต้เรียวขางามของนาง กอดรัดเอวบางเอาไว้ ฉินมู่หลานจึงใช้สองมือจับขอบโต๊ะเอาไว้ เพื่อรอรับความหรรษาที่เขาจะมอบให้แก่นางมู่หรงเสี่ยวหมิงกระแทกกระทั้นลำแท่งใหญ่ยักษ์เข้ามาในร่องรูของนางจนเกิดเสียงดังตับตับตับ โต๊ะไม้สั่นสะเทือนตามแรงบดเบียดเสียดสีของคนทั้งสอง ฉินมู่หลานใบหน้าบิดเบี้ยว ส่งเสียงหวานครวญครางไม่เป็นภาษา มู่หรงเสี่ยวหมิงโน้มใบหน้าลงไปจูบนางอย่างหนักหน่วง ลิ้นร้อนสอดแทรกบดเบียดเกี่ยวกระหวัดพัวพันกับลิ้นชื้นของนางอย่างเสน่หา ไฟแห่งความปรารถนาของคนทั้งคู่กำลังลุกโชนสว่างเจิดจ้า ไร้วี่แววที่จะมอดดับลง มีแต่จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ"อ๊าส์!!! มันแน่นไปหมดเพคะ อื้ออออ!!! หม่อมฉันจุกเหลือเกินเพคะ!!!""ซี้ดดดด สุดยอดมาก ข้าเสียวเหลือเกิน โอ้วว!!!"เขาช้อนร่างของนางขึ้นมาจากโต๊ะ แล้วจึงพานางลงไปนอนหงายบนเตียง อ้าขานางออกจนกว้าง ก่อนจะบดเบียดแท่งเอ็นร้อนเข้ามาในซอกหลืบดอกไม้งามจนมิดลำ เขาขยับแท่งแก่นกายกระแทกกระทั้นเข้าออกอย่างเร็วแรง จนกลีบกุหลาบบวมแดงไปหมดตับตับตับเขาโน้มใบหน้าลงไ
ฉินมู่หลานดีดนิ้วมือจนเกิดเสียงดังเปาะ เหล่านางกำนัลต่างรีบนำผ้าขาวมาล้อมรอบบริเวณระเบียงด้านนอกจนมิดชิด และนำฟูกนอนมาวางเอาไว้ก่อนจะออกไปรอที่ด้านนอกตำหนักจนหมด ตอนนี้จึงมีเพียงแสงจันทร์ที่ทอแสงลงมานางค่อยๆ ปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากกายจนสิ้น แล้วค่อยๆ เดินเข้าไปหามู่หรงเสี่ยวหมิง ดึงทึ้งเสื้อผ้าของเขาออกเช่นกัน และลูบไล้ฝ่ามือลงไปบนแผงอกล่ำสันของเขาด้วยความหลงใหล สายตาของนางมองต่ำลงไปที่ลำแท่งมังกรขนาดใหญ่ที่แข็งชูชันรอคอยให้นางเล่นสนุกกับมันนางย่อตัวลงไปนั่งที่พื้น ก่อนจะใช้มือขาวเรียวงามจับแท่งเอ็นร้อนของเขารูดชักขึ้นลง ลิ้นอุ่นร้อนม้วนเลียที่ปลายหัวสีชมพูจนฉ่ำแฉะ แล้วจึงครอบริมฝีปากลงไปกลืนกินลำแท่งแก่นกายที่ใหญ่ยาวจนมิดลำ พร้อมกับขยับศีรษะขึ้นลงอย่างเร็วแรงและถี่เร่า"ซี้ดดดด!!! อ่าส์!!!"เขากดศีรษะของนางเอาไว้ แล้วกระแทกลำแท่งเอ็นร้อนเข้าออกในโพรงปากสวยของนางอย่างเอาแต่ใจอ๊อก อ๊อก"โอ้ววว มู่หลาน ซี้ดดด!!! จะแตกแล้ว!!!"ฉินมู่หลานเร่งขยับศีรษะให้เร็วแรงมากยิ่งขึ้น ไม่นานนักน้ำรักสีขาวขุ่นก็พุ่งล้นทะลักผ่านเข้ามาในลำคอของนาง ฉินมู่หลานเงยหน้ามองท้องฟ้าด้วยกลัวว่าน้ำรักของสามีอันเ
รัชศกเสี่ยวหมิงปีที่ 1ฮ่องเต้มู่หรงเสี่ยวหมิง ทรงขึ้นครองราชย์ราชสมบัติ และสถาปนาพระชายาเอกนามว่าฉินมู่หลานขึ้นเป็นฮองเฮา เขาไม่รับพระสนมใดใดเพิ่มอีกเลยแม้แต่คนเดียวฉินมู่หลานกำลังยืนรับลมอยู่ที่ตำหนักเฟิ่งหวง นางสวมชุดฮองเฮาสีแดงสด ปักลายมังกรเหยียบเมฆาม้าสวรรค์ หงส์คู่มังกร สวมทับด้วยแถบเซียะเพ่ยสีแดงปักลายหงส์ฟ้าสิบสองตัว บริเวณแขนเสื้อทำเป็นทรงกว้างปักลายมังกรทอง มงกุฎหงส์บนศีรษะประดับด้วยหงส์พิลาสสามตัว บริเวณท้ายมงกุฎ ด้านบนคือหงส์พิลาสข้างละหนึ่งตัว ห้อยระย้าแปดพฤกษ์ ที่เป็นลูกปัดร้อยทรงสี่เหลี่ยมสลับกับตารางเรียงครบแปดชั้นวันนี้อากาศค่อนข้างดีไม่น้อย นางจึงออกมาเดินเล่นเสียหน่อย"เจ้าท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว ไม่ควรออกมาเดินรับลมเช่นนี้"ฉินมู่หลานหันไปมองมู่หรงเสี่ยวหมิงที่สวมชุดมังกรทองเดินเข้ามาหานาง และประคองโอบไหล่นางให้เดินกลับเข้าไปในตำหนักด้วยกัน"อากาศอบอ้าวเพคะ อยากออกมารับลมเสียหน่อยเพคะท่านพี่ฝ่าบาท""เจ้าใกล้คลอดแล้ว เกิดไม่ระวังขึ้นมาจะเป็นอันตรายได้""รู้แล้วเพคะ เลิกบ่นเสียที โอ๊ะ!ท่านพี่ฝ่าบาท""มู่หลาน!!! เจ้าเป็นอะไร?""น้ำคร่ำแตกเพคะ น้ำคร่ำแตก!!!"ฉินมู่หลานช
ฉินเหยาเซียวง้างคันธนูขึ้นมาเตรียมจะยิงมันเข้ามาที่ฉินมู่หลานและมู่หรงเสี่ยวหมิงด้วยสายตาโกรธเกลียด นางเกลียดมันทั้งสอง คนที่ควรอยู่ในอ้อมกอดของมู่หรงเสี่ยวหมิงควรจะต้องเป็นนางเพียงเท่านั้น!!!นักฆ่าของนางถูกทหารของฝ่าบาทฆ่าตายจนหมดสิ้นแล้วนางไม่ยอม!!! มันจะต้องไม่จบลงเช่นนี้ ไม่มีทาง!!!ฉึก!!!มู่หรงเสี่ยวหมิงกอดฉินมู่หลานเอาไว้แน่น หากจะต้องตายเขาก็พร้อมที่จะยอมตายไปพร้อมกับนางทั้งสองค่อยๆ ลืมตาขึ้นไปมอง ลูกธนูที่พุ่งตรงมาเมื่อครู่ไม่ได้ปักลงมาที่เขาทั้งสอง แต่ทว่ามันกลับพุ่งแทงทะลุหน้าอกของฉินเหยาเซียว นางกระอักเลือดออกคำโต สายตาจ้องมองมู่หรงเสี่ยวหมิงด้วยสายตาเว้าวอน ก่อนจะล้มลงกับพื้น นางสิ้นใจตายทั้งที่ดวงตายังเบิกโพลงจ้องมองมาที่ฉินมู่หลานและมู่หรงเสี่ยวหมิงด้วยความเกลียดชัง"เสี่ยวหมิง""เสด็จพี่ โอ๊ย!!!"มู่หรงเสี่ยวเฉินเป็นคนฆ่าฉินเหยาเซียวด้วยมือของเขาเอง เขามองนางที่ล้มลงตายอยู่บนพื้นด้วยสายตาที่เจ็บปวด"ท่านพี่อ๋องท่านบาดเจ็บ ให้ข้าพยุงท่านเถิดเพคะ"ฉินมู่หลานค่อยๆ ประคองร่างของมู่หรงเสี่ยวหมิงให้ค่อยๆ เดินไปพร้อมกับนาง"โอ๊ย!!!""มู่หลาน!!! มู่หลานเจ้า เลือด!!!"ฉินมู่
ฉินมู่หลานหันไปมองเสี่ยวเยี่ยนจื่อด้วยสายตาที่สงสัยไม่น้อย ตอนนี้องครักษ์เงาของตำหนักชินอ๋องกำลังล้อมนางกับเสี่ยวเยี่ยนจื่อเอาไว้ตรงกลาง คอยคุ้มกันความปลอดภัยให้แก่พวกนางทั้งสอง"เจ้ามาได้เช่นไร?""หลิงหลิงนางกำนัลของเจ้าไปแจ้งข้าที่จวนว่าเจ้าหายตัวไปกลางดึก ปกติเจ้าจะลุกขึ้นมาเรียกนางให้เข้าไปปรนนิบัติทุกคืน แต่เมื่อคืนเจ้ากลับเงียบหายพอเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าเจ้าหายตัวไป นางจึงรีบมาหาข้าที่จวน""แล้วองครักษ์เงาเล่าเจ้าไปพาพวกเขามาได้เช่นไร?""องครักษ์เงาแท้จริงแล้วเป็นทหารฝีมือดีที่ไทเฮาทรงบ่มเพาะเอาไว้ กลุ่มหนึ่งตามท่านพี่ไป อีกกลุ่มคอยอารักขาตำหนักชินอ๋องเอาไว้ ไทเฮาทรงมอบพวกเขาให้กับท่านพี่มู่หรงเสี่ยวหมิง หลิงหลิงบอกว่าเห็นหย่งเยี่ยมีท่าทีลับๆ ล่อๆ จึงแอบตามนางมา ตอนที่ข้าไปถึงองครักษ์กำลังฟื้นคืนสติ พวกเขาถูกวางยานอนหลับ""นางเป็นนักฆ่าที่ฮองเฮาเลี้ยงดูเอาไว้ ช่างโหดเหี้ยมเหลือเกิน""โหดเหี้ยมจริงๆ แล้วยังคิดไม่ซื่อต่อข้ากับไทเฮาอีกด้วย""นางกำลังส่งคนไปฆ่าท่านพี่อ๋อง""จริงหรือ เรารีบหนีกันก่อนเถิด!!!""คิดว่าจะหนีข้าพ้นหรือนังสารเลว!!!"ฉินเหยาเซียวง้างคันธนูเตรียมยิงเข้ามาที่
"เหตุใดพระองค์ถึง...."ฉินเหยาเซียวปรายตามองฉินมู่หลานด้วยสายตาเย็นชา ในแววตานั้นไม่มีแม้แต่ความเอ็นดูรักใคร่หลงเหลือต่อนางเช่นแต่ก่อนอยู่เลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าฉินมู่หลานไม่ใช่หลานสาวร่วมสายเลือดเดียวกันกับนาง"แปลกใจมากเลยหรือ ที่เป็นข้า?"ฉินมู่หลานไม่ตอบสิ่งใด นางค่อยๆ พยุงร่างตนเองให้ลุกขึ้น แต่ทว่าเพราะฤทธิ์ของยาสลบจึงทำให้นางรู้สึกเวียนหัวและดวงตาพร่ามัวคล้ายจะเป็นลม"เดิมทีข้าก็ไม่ได้คิดจะลงมือเร็วเช่นนี้ หากเจ้าไม่ได้ตั้งครรภ์ขึ้นมาเสียก่อน""หมายความว่าอย่างไร? หม่อมฉันไปทำสิ่งใดให้พระองค์โกรธเกลียดกันเพคะ หม่อมฉันเป็นหลานสาวแท้ๆ ของพระองค์นะเพคะ""หลานสาวหรือ ฮ่าๆๆๆๆ เจ้าช่างเพ้อฝันไม่เคยเปลี่ยน"ฉินมู่หลานขมวดคิ้วมุ่นมองฉินเหยาเซียวด้วยความสงสัยแรงจูงใจในการลักพาตัวนางมาคือสิ่งใดกันแน่?ฉินเหยาเซียวทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างไม่รีบไม่ร้อน ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ"ข้าอุตส่าห์วางยาพิษเจ้าทีละนิดมานานแรมปี จนร่างกายของเจ้าอ่อนแอลงทุกวัน ข้าคิดว่าเจ้าจะตกตายไปตั้งแต่วันนั้น แต่เจ้ากลับดวงแข็งฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง ข้าจึงลงมือเป็นครั้งที่สองพยายามเป่าหูเจ้าเรื่องไทเฮ