Home / รักโบราณ / ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน / ตอนที่ 12 งานเทศกาลหยวนเซียว

Share

ตอนที่ 12 งานเทศกาลหยวนเซียว

Author: Jiulin
last update Last Updated: 2025-09-11 10:32:31

ภายในงานประดับประดาด้วยโคมไฟหลากสีสันลอยเรียงรายตามลำน้ำและบ้านเรือน ผู้คนเดินควงโคมไฟไปตามถนน แสงสีอ่อนๆ ของโคมไฟส่องสว่างไปทั่วทั้งเมืองสะท้อนกับน้ำในลำธาร เสียงขลุ่ยและพิณดังก้องกังวานสร้างบรรยากาศเงียบสงบและโรแมนติกยามค่ำคืนยิ่งนัก

‘ว้าวช่างเหมือนงานวัดอะไรเช่นนี้นะขาดแค่ชิงช้าสวรรค์แล้ว’

“ทำเหมือนไม่เคยเห็นอย่างนั้นล่ะตื่นเต้นอะไรเพียงนั้น” องค์หญิงเพ่ยเพ่ยเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันพลางปรายตาไปมองสตรีบ้าที่ดันดูโดดเด่นที่สุดในงานเสียอย่างนั้น

‘แต่ถึงอย่างไรนางก็คือคนบ้าจะมาเทียบอะไรกับพี่หญิงเว่ยของนางที่งามบริสุทธิ์เช่นนี้ได้กัน’

“พี่หญิงเว่ยคืนนี้ท่านน่ะงดงามที่สุดแล้วท่านพี่ว่าจริงหรือไม่เจ้าคะ” พูดจบก็หันไปมองจวิ้นอ๋องที่เบือนหน้ามามองน้องสาวตัวแสบของเขาพอดี ก่อนจะหันไปมองเว่ยอวิ๋ยเซียนแล้วยกยิ้มขึ้นมาเพียงเล็กน้อยแต่นั่นกลับทำให้เว่ยอวิ๋นเซียนรู้สึกดีใจอย่างที่สุดแล้ว

‘จวิ้นอ๋องบุรุษที่เยือกเย็นและเย็นชาเช่นเขาผู้ที่ไม่เคยยิ้มให้ผู้ใดแต่เมื่อหันมามองนางกลับยิ้มออกมาเช่นนี้แสดงว่านางยังคงมีหวังอยู่อย่างแน่นอน’

“องค์หญิงกล่าวเกินไปแล้ว ใต้หล้านี้คนที่งามที่สุดไม่ใช่ท่านหรอกหรือเพคะ”

“พี่หญิงเว่ยถ่อมตัวเกินไปแล้วข้าไหนเลยจะงามเท่าท่าน”

หลิวหรงผิงที่ยืนฟังคนทั้งคู่สนทนากันนั้นก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายไม่น้อย

‘คนนั้นงามคนนี้งามแล้วอย่างไรมีประโยชน์อันใดกัน คนพวกนี้ช่างน่าเบื่อเสียจริง’

คิดได้ดังนั้นก็เดินหนีออกมาจากวงสนทนานั้นด้วยความรวดเร็ว สายตาคมกริบของจวิ้นอ๋องมองตามแผ่นหลังของหลิวหรงผิงที่เวลานี้ไปหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายอาหารแล้ว

กลิ่นหอมของเนื้อย่างโชยมาทำเอานางน้ำลายไหลทันที หลิวหรงผิงหันซ้ายมองขวาก่อนจะพบเข้ากับเนื้อแพะเสียบไม้ย่างกลิ่นของมันช่างหอมเย้ายวนยั่วน้ำลายของนางยิ่งนัก

‘หอมเสียจริง ให้ตายสิยุคที่จากมาวันๆ เอาแต่ทำงานในห้องทดลองอาหารที่กินก็มีแต่อาหารขยะไหนเลยจะเคยได้ลิ้มรสอาหารอันโอชะเช่นนี้กัน’

“พระชายาอยากกินนั่นหรือเพคะ” และแล้วเสียงอ่อนหวานของเว่ยอวิ๋นเซียนก็เอ่ยถามนางออกมา หลิวหรงผิงหันไปมองก็เห็นว่าทั้งสามที่ไม่รู้เดินตามมาเมื่อไหร่มาหยุดยืนอยู่ไม่ห่างจากนางแล้ว

‘อะไรกันเนี่ย ข้าเดินหนีออกมาแล้วใยถึงเดินตามมาอีกเล่าอยากจะบ้าตายจริงๆ’

“ข้าเห็นท่านเอาแต่มองเนื้อแพะย่างท่านอยากกินงั้นหรือ”

“พี่หญิงเว่ยจะไปสนทนากับคนเช่นนางทำไมกันเจ้าคะคนอย่างนางกินแบบนั้นเป็นที่ไหน ท่านรู้หรือไม่นางกินเป็นเพียงแค่อาหารหมูเท่านั้น”

“อาหารหมูงั้นหรือ” เว่ยอวิ๋นเซียนพูดขึ้นพลางนึกสงสัยในสิ่งที่องค์หญิงเพ่ยเพ่ยเอ่ยออกมาเมื่อครู่

“ก็ที่จวนของท่านพี่อย่างไรเล่า นางน่ะ”

“เพ่ยเพ่ย”

เสียงเย็นชาดังแทรกขึ้นมาจนองค์หญิงเพ่ยเพ่ยรีบปิดปากของตนเองเอาไว้แทบไม่ทัน

‘นางจะพูดอะไรหรือว่าอาหารหมูที่ซิ่วอิงเคยบอกว่าข้าเคยกินนั้นจะเป็นฝีมือของนาง ใช่แน่ๆ องค์หญิงผู้นี้ช่างร้ายกาจเสียจริง’

หลิวหรงผิงเม้มปากด้วยความเดือดดาลใจไม่น้อย เจ้าของร่างที่อยู่ๆ ก็สติฟั่นเฟือนและถูกรังแกมาโดยตลอดเช่นนี้นางจะรู้สึกอย่างไรกันนะที่รู้ว่าน้องสามีและสามีตัวดีร่วมมือกลั่นแกล้งนางเช่นนี้

‘ทำร้ายกันเกินไปแล้ว’

หลิวหรงผิงจ้องมองสองพี่น้องคู่นั้นตาเขม็งก่อนจะหยิบเอาหมั่นโถที่เสี่ยวเถายัดใส่มือมาให้นางด้วย เพราะกลัวว่าพระชายาของตนที่ไม่ได้กินอาหารก่อนออกจากจวนจะหิวเข้า

ไม่รู้ว่าที่ห้ามไม่ให้น้องสาวตัวแสบผู้นั้นพูดมากไปกว่านี้นั้นเพราะกลัวว่านางจะอับอายหรือว่าแท้จริงแล้วเขากลัวว่าคนอื่นๆ จะรู้ว่าตัวเองนั้นคือต้นเหตุที่คอยบงการให้ผู้คนทำร้ายชายาของตนกันแน่ แต่ที่แน่ๆ อย่าหวังว่าข้าจะทำดีด้วยเลยและที่สำคัญคิดจะรังแกข้านั้นไม่ง่ายอีกแล้ว

นางกัดกินหมั่นโถวอย่างมูมมามทำเอาจวิ้นอ๋องหันหน้ามามองนางก่อนจะกอดอกแล้วขมวดคิ้วมองนางไม่วางตา

“เอิ้ก!”

“เจ้าช่างน่ารังเกียจเสียจริง”

“อะไรหรือ”

หลิวหรงผิงเอียงคอมองคนทั้งสามพลางทำหน้าตาทะเล้นก่อนจะออกวิ่งไปยังทางเบื้องหน้าโดยมีตงหยางวิ่งตามนางไปแทบไม่ทัน

“อยู่กับนางนานๆ ข้าคงได้อายชาวบ้านมากกว่านี้แน่ ท่านพี่เช่นนั้นท่านก็พาพี่หญิงเว่ยไปเดินดูงานเถอะเจ้าคะ พี่สะใภ้นางซุกซนและเอ่อ…ทำตัวน่าเกลียดเช่นนี้อาจสร้างเรื่องให้ท่านอับอายและปวดหัวได้ปล่อยให้นางเดินเที่ยวคนเดียวดีกว่าแค่ให้หานเฟิงกับตงหยางคอยตามดูแลนางก็พอแล้วกระมัง”

“ได้อย่างไรกันข้ามีชายาแล้วคงเป็นเรื่องไม่เหมาะสมหากต้องไปกับสตรีอื่น”

“สตรีอื่นที่ไหนก็ยังมีข้าด้วยนี่นา”

“พวกเจ้าไปเดินเล่นเถอะ ตงหยางเจ้าไปกับพวกนาง”

“พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง”

“เดี๋ยวสิเจ้าคะท่านพี่!”

จวิ้นอ๋องไม่สนใจเสียงเรียกของน้องสาวเขาเดินออกมาจากวงสนทนา สายตาคมกริบมองตามแผ่นหลังของหลิวหรงผิงที่เวลานี้ไปหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายโคมไฟแล้ว

เมื่อทิ้งระยะจากคนหน้าเนื้อใจเสือพวกนั้นมาแล้วหลิวหรงผิงก็เดินดูงานไปเรื่อยๆ โดยมีหานเฟิงเดินรั้งท้ายคอยเฝ้าดูแลนางไม่ห่าง

“ข้าจะเอาอันนั้น”

“แต่ว่าพระชายานั่นมันหนักนะพ่ะย่ะค่ะ”

“ข้าจะเอา”

นางเบะปากเตรียมพร้อมจะร้องไห้ออกมาแล้วจนหานเฟิงต้องรีบผละออกจากนางหมายจะไปซื้อโคมไฟลายมังกรตัวใหญ่มาให้ตามความต้องการของสตรีผู้เป็นนายหญิงของเขา

หานเฟิงทั้งเร่งฝีเท้าไปข้างหน้าทั้งหันหลังกลับมามองนางเป็นระยะเหมือนกลัวว่านางจะหายไปอย่างไรอย่างนั้นแต่เมื่อมองเห็นว่าจวิ้นอ๋องกำลังเดินเข้ามาหานางแล้วเขาจึงวางใจและเดินหน้าต่อทันที

หลิวหรงผิงอมยิ้มก่อนจะหันซ้ายมองขวานางเห็นร้านขายแมงป่องย่างในหัวก็คิดอะไรสนุกๆ ออก

“นั่นเจ้าจะไปไหน”

และแล้วเสียงที่ไม่อยากได้ยินก็ดันลอยเข้าหูของนางมาจนได้

‘เวรกรรมจริงๆ จะปล่อยให้นางเล่นสนุกบ้างไม่ได้เลยหรืออย่างไรกัน’

โคมไฟในยุคโบราณนี้ทำขึ้นมาอย่างเรียบง่ายแม้จะไม่ได้มีลวดลายที่สลับซับซ้อนมากมายเท่าในยุคที่นางจากมาแต่เมื่อมารวมกันอยู่ในที่แห่งนี้กลับดูงดงามละลานตาไปหมด

ขณะที่จวิ้นอ๋องเดินนำหน้านางเพื่อข้ามผ่านสะพานไปยังใจกลางเมืองนั้นก็มองเห็นเว่ยอวิ๋นเซียนและองค์หญิงเพ่ยเพ่ยที่ยืนอยู่ตรงกลางของสะพานแล้ว นางมองมาที่หลิวหรงผิงด้วยแววตาริษยาเพียงชั่วครู่เท่านั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนเช่นเคย

หลิวหรงผิงมองเห็นทั้งคู่แล้วนางพยายามเบี่ยงตัวออกมาอีกฝั่งแต่ขณะที่กำลังจะเดินผ่านร่างบางนั้นไปก็ดูเหมือนเว่ยอวิ๋นเวียนจะขยับกายเข้ามาใกล้นางจนไหล่บางชนเข้ากับนางจนได้ ไม่ทันได้สบถคำพูดใดออกมาอีกฝ่ายก็ทำท่าจะตกลงไปในทะเลสาบเสียอย่างนั้น

“อ๊ะ! องค์หญิงช่วยข้าด้วย”

“กรี๊ด! ตู้ม!”

‘ปากร้องขอความช่วยเหลือแต่มือไม่ยื่นออกมาเนี่ยนะ นี่มันฉากละครหลังข่าวที่ตัวร้ายแสร้งทำเป็นถูกนางเอกกลั่นแกล้งหรือไม่’

เสียงกรีดร้องดังขึ้นหลิวหรงผิงหันไปจ้องมองก็เห็นสตรีในชุดสีขาวนั้นกำลังตะเกียกตะกายพยายามขึ้นจากผิวน้ำ

‘แต่เมื่อครู่มันอะไรกันข้าไม่ได้ออกแรงผลักนางเสียหน่อยเหตุใดนางถึงตกลงไปได้’

“อ๊ะ! ขนมของข้า”

หลิวหรงผิงหันไปคว้าถ้วยขนมบัวลอยมาจากมือของตงหยางก่อนจะตักกินอย่างไม่สนใจสิ่งอื่นใดพลางจ้องมองเหตุการณ์ภายในทะเลสาบนั้นอย่างนึกสนุก

‘อากาศเย็นเพียงนี้นางจะสร้างเรื่องให้ตัวเองตกลงไปทำไมกันนะโง่จริงๆ’

หลิวหรงผิงส่ายหน้าพลางเคี้ยวขนมต่อ

“ท่านพี่ช่วยพี่หญิงเว่ยด้วย นางว่ายน้ำไม่เป็น”

องค์หญิงเพ่ยเพ่ยตะโกนร้องออกมาทหารองค์รักษ์ที่เฝ้าตามนางมาก็ไม่กล้าลงไปช่วย ชายหญิงไม่ควรแตะต้องกันและอีกฝ่ายเป็นถึงคุณหนูใหญ่ตระกูลเว่ยก็คงต้องรอให้จวิ้นอ๋องเป็นคนพาตัวนางขึ้นมาเท่านั้น

เมื่อจวิ้นอ๋องที่ช่วยนางขึ้นมาจากทะเลสาบแล้วก็หันไปจ้องมองหลิวหรงผิงที่เวลานี้เอาแต่ยืนกินขนมหยวนเซียวไม่สนใจผู้ใดเลยแม้เพียงนิด

ใบหน้าหล่อเหลายืนนิ่งไม่มีแม้แต่จะปลอบใจสตรีตรงหน้าที่กำลังนั่งจมปุกอยู่กับพื้นถนน องค์หญิงเพ่ยเพ่ยที่คิดว่าพี่ชายของนางคงจะยังมีใจให้เว่ยอวิ๋นเซียนอยู่บ้างแต่เวลานี้เขาที่ช่วยนางขึ้นมาจากน้ำแล้วแต่กลับไม่ยอมหยิบยื่นเสื้อคลุมของตนเองให้นางสวมใส่เสียอย่างนั้น

‘นี่มันอะไรกันเนี่ย’

เว่ยอวิ๋นเซียนรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยความเย็นของน้ำเริ่มทำให้นางหนาวสั่นขึ้นมาแล้ว นางเอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นทำเอาผู้คนที่พบเห็นต่างก็อดที่จะสงสารไม่ได้ยกเว้นก็เพียงแค่หลิวหรงผิงเท่านั้น!

“เหตุใดพระชายาถึงได้ใจร้ายถึงเพียงนี้ท่านผลักข้าลงไปทำไมกัน”

“ห้ะ?”

“เมื่อครู่ตอนที่ท่านเดินผ่านข้าไม่ใช่ท่านหรอกหรือที่ผลักข้าลงไปในแม่น้ำนั่น”

“เอ๋”

แววตาเยือกเย็นของจวิ้นอ๋องหันขวับมามองนางทันที

“เจ้ามีอะไรจะอธิบายหรือไม่”

‘นี่เขาโง่เขลาเพียงนี้เลยหรือนี่ไม่คิดจะสืบความก็คิดว่าเป็นฝีมือของข้าแล้ว เป็นท่านอ๋องไปได้อย่างไรกันนะ’

หลิวหรงผิงหันไปจ้องมองเว่ยอวิ๋นเซียนที่นั่งจมปุกอยู่กับพื้นเนื้อตัวเปียกโซกไปด้วยน้ำในทะเลสาบทั้งยังมีน้ำตานองหน้าดูไปแล้วช่างน่าสงสารยิ่งนัก

นางเหยียดยิ้มให้กับความโง่เขลาของบุรษตรงหน้าจนจวิ้นอ๋องเองก็ถึงกับขมวดคิ้วด้วยความงุนงงไม่น้อย ‘นางแสดงสีหน้าเช่นนี้เป็นด้วยงั้นหรือ’

“เหตุใดท่านจึงมองหน้าข้าเช่นนั้นคิดอะไรอยู่งั้นหรือเพคะสามี”

‘สตรีบ้าผู้นี้เหตุใดถึงได้ต่อปากต่อคำแบบนี้ได้ด้วย’

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน   ตอนที่ 50 มีเพียงเจ้า-END

    ท่าทีที่เหินห่างของนางก็ยิ่งทำให้เขาปวดใจไม่น้อยอยากที่จะเข้าไปสวมกอดคนตรงหน้าแต่ก็ทำได้เพียงแคยับยั้งใจเอาไว้เท่านั้น“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”“ข้าสบายดี”“ผิงเอ๋ออย่าทำห่างเหินกับข้าเช่นนี้สิ”“ข้ากับท่านในเวลานี้เกี่ยวข้องอันใดกันอย่างนั้นหรือถึงได้ใช้คำว่าห่างเหิน”“เจ้าตั้งครรภ์เหตุใดถึงไม่บอกข้า”“ไม่ใช่ว่าท่านเป็นคนพูดเองหรอกหรือว่าไม่ว่าอย่างไรจะให้สายเลือดของท่านปะปนกับคนสกุลหลิวไม่ได้”“คือว่าข้าไม่ได้….”“จะบอกว่าไม่ได้เป็นคนพูดกระนั้นหรือ ครั้งแรกตอนเข้าหอกับข้าครั้งที่สองตอนอยู่ที่เมืองลี่หนานคิดว่าข้าโง่เขลาถึงกลับจดจำไม่ได้อย่างนั้นหรือ”“อันที่จริงนี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้วท่านกับข้าก็ห่างเหินกับคำว่าสามีภรรยาไปแล้ว และท่านเองก็มาอยู่ที่นี่แล้วดังนั้นหนังสือหย่าของข้าได้แล้วหรือยัง”“เจ้าอยากหย่ากับข้ามากกระนั้นหรือ”“ใช่”หลิวหรงผิงตอบเขาไปโดยไม่คิดจะหันหลังกลับไปมองเขาเลยสักเพียงนิด จวิ้นอ๋องกำมือของตนเอาไว้แน่นก่อนจะชายตามองไปยังสองคนที่เหลือในห้องเย่หยุนฟางที่เห็นแววตาเย็นเยือกของเขาจ้องมองมาก็เข้าไปสะกิดเซี่ยเว่ยหมิงในทันที ก่อนที่ชายหนุ่มที่เอาแต่นั่งฟังบทสนทนาของคนทั้งค

  • ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน   ตอนที่ 49 สมควรแล้ว

    เสียงลากกระบี่ดังขึ้นไปตามทางเดินของจวนนำพาความรู้สึกเย็นยะเยือกรายล้อมไปทั่วทั้งบริเวณนั้น จนบ่าวรับใช้ในจวนไม่มีผู้ใดกล้าโผล่หน้าออกมาดูเลยสักคน ร่างสูงยืนจังก้าจ้องมองเจ้าเมืองฉางอันที่กำลังนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นหน้าเรือนใหญ่“ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้งบอกมาว่านางอยู่ไหน”“ขะ ข้าไม่รู้เรื่อง”“เจ้าเมืองฉางอัน ท่านคงใช้ชีวิตอยู่มานานมากจนไม่เสียดายชีวิตนี้ของท่านแล้วสินะ”เป็นเยี่ยอ๋องที่พูดขึ้นก่อนจะเข้าไปนั่งยองๆ ใกล้เขา เจ้าเมืองฉางอันที่ถูกซ้อมปางตายในเวลานี้แทบจะพูดอะไรออกมาไม่ได้อยู่แล้วเพราะความละโมบของเขานำพามาซึ่งเหตุการณ์เลวร้ายในครั้งนี้ ก่อนหน้านี้เพราะมีสตรีนางหนึ่งมาขอให้เขากระทำการบางอย่างบอกว่าเป็นพระประสงค์ของพระสนมเสียนเฟยหากว่าเขาทำสำเร็จจะได้รางวัลเป็นทองคำหนึ่งล้านตำลึงและได้แต่งงานกับองค์หญิงห้าหรือก็คือองค์หญิงเพ่ยเพ่ยที่ถึงวัยออกเรือนแล้วนั่นเองแม้จะอายุห่างกับเขาราวพ่อลูกแต่เพราะความหลงใหลในรูปโฉมและเงินทองทำให้เขาไม่สนใจถูกผิด ช่วยเหลือนางโดยการลักพาตัวสตรีนางหนึ่งและเด็กชายอีกคนที่เขาไม่คิดจะสืบที่มาที่ไปของคนทั้งคู่ก่อนเลยสักเพียงนิดมาไว้ที่จวนแห่งนี้

  • ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน   ตอนที่ 48 ความเหมือนที่คล้ายคลึงกัน

    ภายในห้องรับรองนั้นเยี่ยอ๋องที่ยืนกอดอกอยู่ข้างหน้าต่างโดยไม่ยอมขยับกายไปไหนอยู่นั้นก็ได้พูดขึ้นมาว่า“นางดูแปลกๆ ท่านแน่ใจนะว่านางจะช่วยพวกเราได้จริงๆ พี่สี่นี่ได้ยินหรือไม่”เยี่ยอ๋องจ้องมองใบหน้าคมคายของผู้เป็นพี่ชายที่เวลานี้ดูเหมือนว่าเขาจะเอาแต่นั่งเหม่อลอยเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่และดูท่าว่าจะไม่ได้ฟังที่เขาพูดเมื่อครู่นี้“พี่สี่….องค์รัชทายาท!”“เบาๆ สิเจ้าอยากคนให้แตกตื่นมากนักหรืออย่างไรกัน”“ข้าเรียกท่านนานแล้วแต่ท่านก็เอาแต่เหม่อลอยเป็นอะไรไปอย่าบอกนะว่าสนใจสตรีผู้นั้นขึ้นมาแล้ว” จวิ้นอ๋องหันไปจ้องมองน้องชายของเขาก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก“ข้าว่านะเยี่ยอ๋องพวกเราไม่ต้องส่งคนออกไปตามหาพวกนางหรอก”“ท่านจ้างวานนางไปแล้วมันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วหรือไม่เล่า”“ไม่ใช่เช่นนั้น ตงหยางเจ้าเข้ามาในนี้ที”“ขอรับใต้เท้า” เสียงของตงหยางดังขึ้นหน้าประตูห้องก่อนที่ร่างสูงจะเดินเข้ามาด้านใน“ส่งคนไปสะกดรอยตามเย่หยุนฟางเอาไว้หากมีความคืบหน้าอะไรให้รีบมารายงานข้า”“ขอรับ” เขารับคำสั่งก่อนจะเร่งฝีเท้าออกไปจากห้องรับรองตามมาด้วยเหวินหงที่ถูกเยี่ยอ๋องสั่งการให้ตามเขาไป

  • ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน   ตอนที่ 47 คนคุ้นเคย

    -โรงเตี๊ยมเหมยหลัน เมืองฉางอัน-“ข้าก็บอกไปแล้วว่าให้พวกเจ้าพักผ่อนก่อนไม่ต้องรีบมาอย่างไรเล่า”“ข้าไม่เป็นไรแล้วจริงๆ ข้าทำได้”เมื่อมู่อิงเถายังคงยืนยันหนักแน่นหลิวหรงผิงก็หันไปมองเย่หยุนฟางด้วยความจนใจ“เจ้าบอกว่ามีเรื่องจะพูดกับพวกข้าเรื่องอะไรงั้นหรือ”“พักนี้มีคนแปลกหน้าเข้ามาในเมืองมากมายนัก”“ไหนเจ้าบอกว่าตรวจสอบดีแล้วอย่างไรเล่า”“ก็ตรวจสอบไปแล้วไม่พบพิรุธอันใดถึงได้มายืนสนทนากับพวกเจ้าได้อย่างไรเล่า”เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่ทั้งหมดจะหันไปมองตามมาด้วยร่างอ้วนท้วนของฉางไห่ผู้ดูแลโรงเตี๊ยมโผล่หน้าเข้ามาในห้องรับรองก่อนจะสังเกตเห็นว่าเย่หยุนฟางก็อยู่ในห้องนี้เช่นกัน“นายหญิงท่านก็อยู่ด้วยหรือขอรับ”“วิ่งหน้าตาตื่นมาเช่นนี้มีเรื่องสำคัญอะไร”เย่หยุนฟางหันไปถามคนของตัวเองก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย“มีคนมาขอพบแม่นางหลิวขอรับ”“ใคร/ใคร”ทั้งหลิวหรงผิงและเย่หยุนฟางต่างก็พูดขึ้นพร้อมกัน ฉางไห่ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้นางก่อนจะบอกว่าคนผู้นั้นรอนางอยู่ด้านล่างแล้วเย่หยุนฟางหันไปมองหลิวหรงผิงแววตามีความกังวลอยู่ไม่น้อย หลิวหรงผิงคลี่กระดาษแผ่นนั้นออกอ่านสีหน้าที่วิตกกังวลก่อนหน้

  • ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน   ตอนที่ 46 ความทรมานที่กัดกินใจ

    เมืองหลวงแคว้นต้าหยวน-กรมการพระนคร-จวิ้นอ๋องเดินออกมาจากกรมการพระนครด้วยสีหน้าที่ดูเบื่อหน่ายยิ่งนัก หลายปีมานี้เขาต้องเรียนรู้งานในฐานะองค์รัชทายาทที่ถูกฮ่องเต้ยัดเยียดตำแหน่งนี้ให้โดยที่เขาไม่เต็มใจรับเลยสักเพียงนิดชายหนุ่มหมายมั่นจะออกท่องยุทธภพเพื่อตามหาชายาเพียงคนเดียวของเขาที่หายตัวไปเมื่อหลายปีก่อน แต่เพราะหน้าที่ในตอนนี้จึงทำได้เพียงแค่ส่งองค์รักษ์และเหล่าทหารออกติดตามหานางแทนเขาเท่านั้นน้องชายร่วมสายเลือดที่หายตัวไปตั้งแต่เล็กๆ แม้จะตามหาพบแล้วแต่กลับมีชะตากรรมเดียวกันกับเขาเสียอย่างนั้น“นั่นเจ้าจะไปไหน ต้องไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่ออีกนะ”“ใยข้าต้องไปด้วย”“เจ้าเป็นเจ้ากรมไหนเลยจะละทิ้งหน้าที่กลับไปรายงานผลงานกับพระองค์เดี๋ยวนี้เลยจะมาทิ้งให้ข้ารับผิดชอบแทนเจ้าไม่ได้”“เฮ้อ…ไว้ค่อยรายงานก็ยังได้ นี่พี่สี่พวกเราทำอะไรกันอยู่อย่างนั้นหรือ”“ถามมาได้ว่าทำอะไรไหนเจ้าบอกว่าใกล้ได้ตัวคนร้ายที่เป็นคนลอบทำร้ายเสด็จแม่แล้วอย่างไรเล่า”“ก็ยังไม่รู้ว่านางอยู่ไหน” เยี่ยอ๋องพูดขึ้นพลางเสยผมของเขาด้วยท่วงท่าที่ดูเหนื่อยหน่ายยิ่งนัก จวิ้นอ๋องรู้ดีว่าเวลานี้เขาไม่น่าจะมีกระจิตกระใจในการทำงานอย

  • ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน   ตอนที่ 45 ร้ายแรงกว่าที่คิด

    “อาเฟยอยู่หรือไม่”เสียงเรียกของหลิวหรงผิงดังแว่วออกมาจากด้านในบ้าน อาเฟยที่กำลังกระโดดโลดเต้นเล่นอยู่หน้าบ้านกับเพื่อนๆ อยู่นั้นก็รีบวิ่งเข้ามาด้านในด้วยความรวดเร็ว“มีอะไรหรือขอรับท่านแม่”“เห็นท่านป้าของเจ้าหรือไม่”“เมื่อครู่ข้าเห็นท่านป้าเดินไปที่สวนไผ่หลังบ้านคงจะไปเดินเล่นกระมังขอรับ”“อย่างนั้นหรือ อาหารเย็นใกล้เสร็จแล้วเจ้ามาช่วยเสี่ยวเถายกไปวางที่โต๊ะอาหารทีแม่จะไปเก็บผักที่แปลงข้างบ้านเสียหน่อย”“ได้ขอรับ”“ล้างมือด้วยเล่า”“ขอรับท่านแม่”เด็กชายรีบวิ่งไปที่ถังใส่น้ำที่ถูกวางเอาไว้บนโต๊ะทำอาหาร เขาปีนเก้าอี้เล็กแล้วยื่นมือน้อยๆ นั้นลงไปล้างในอ่างน้ำทีละส่วนตามที่ผู้เป็นมารดาเคยสอนเอาไว้ หลิวหรงผิงจ้องมองการกระทำนั้นอย่างนึกเอ็นดูก่อนจะหันหลังเดินไปที่สวนผักข้างบ้านในเวลาต่อมา“พี่เสี่ยวเถา”อาเฟยกระโดดลงจากเก้าอี้เล็กนั้นก่อนจะวิ่งเข้าไปหาเสี่ยวเถาที่กำลังจัดเตรียมอาหารสำหรับอาหารมื้อค่ำนี้ นางหันมามองเด็กชายเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า“มีอะไรหรือเจ้าคะคุณชาย”“พี่เสี่ยวเถาอยู่ตรงนี้ไปก่อนนะข้าจะไปดูท่านป้ามู่เสียหน่อย”“แต่ว่าคุณหนูบอกให้คุณชายอยู่ที่นี่เตรียมอาหารสำหรับตั้งโ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status