ฉินเหยี่ยนเย่ว์หยาบคายกับนางครั้งแล้วครั้งเล่า และกล้าถามคำถามกลับใส่นางด้วย มีอย่างที่ไหนกัน!สองมือของนางชี้ไปยังฉินเหยี่ยนเย่ว์อย่างสั่นเทา อดกลั้นคำพูดไว้ในใจ อึ้งงันไม่สามารถพูดอะไรได้สักคำนางโตมาเพียงนี้แล้ว ยังไม่เคยมีผู้ใดกล้าใช้น้ำเสียงเช่นนี้มาพูดกับนางเลย“เจ้าทำตัวเหลวไหลเกินไปแล้ว” ใบห
“ข้าเป็นอะไรไปรึ? ไยถึงรู้สึกอึดอัดนัก?” พระพันปีขยับกายรู้สึกว่าผ้าปูที่นอนเปียกชุ่ม และยังคิดว่าเป็นปัสสาวะด้วย ต่อหน้าเหล่าบุตรหลาน หลานสะใภ้ หลานเขย นางอับอายมาก และนางก็หน้าแดงก่ำขึ้นมาอย่างมากทันที“พระพันปี” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวอย่างปลอบโยน “เมื่อครู่พระองค์กริ้วมากจนมดสติไปเพคะ แต่เพลานี้พร
“ไม่ต้องคารวะหรอก” อ๋องอี๋หยางยิ้ม “อันที่จริงแล้วข้าสับสนมาก หมอหลวงล้วนหมดวิธีรักษาแล้ว เจ้าคิดถึงใบสั่งยานั้นได้อย่างไร?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์กระดากอายเล็กน้อยนางไม่รู้ว่าจะอธิบายทฤษฎีการแพทย์สมัยใหม่อย่างไรดี จึงต้องอ้างถึงปู่ “ตอบเสด็จอา เป็นทักษะลับที่นักพรตเต๋าเทียนหลิงทิ้งไว้ รายละเอียดสถานการณ์
แม่นมคนหนึ่งเดินออกมาจากตำหนักบรรทมของพระพันปี ตัวสั่นงันงกไปทั้งร่าง “แย่แล้ว แย่แล้วเพคะ พระพันปีสิ้นพระชนม์แล้ว”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปอย่างมาก“เกิดอะไรขึ้น?” ฮ่องเต้ตกใจ “เสด็จแม่มิใช่ว่าฟื้นแล้วหรือ?”“ทูลฮ่องเต้ เป็นความจริงอย่างยิ่ง พระพันปี...” แม่นมยังพูดไม่จบ
คำพูดที่ดูคล้ายไม่ได้ตั้งใจเหล่านั้นดังไปถึงหูขององค์ฮ่องเต้ ฮ่องเต้ขมวดคิ้วเมื่อองค์หญิงจ่างซีเห็นว่าผู้คนส่วนใหญ่ยืนอยู่ฝั่งตน และได้ชัยชนะกลับมาอย่างสมบูรณ์แบบ จึงยิ่งทะนงตนมากขึ้น “เสด็จแม่สิ้นพระชนม์ไปแล้ว เจ้ายังแสร้งทำอะไรอยู่อีก รีบหยุดมือเสีย!”ขณะที่นางพูด ก็คว้ามือของฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่กำ
ขณะได้โอกาสที่องค์หญิงจ่างซีไม่สามารถสร้างปัญหาได้ นางก็ตรวจพระวรกายของพระพันปีอีกครั้งชีพจรของพระพันปีอ่อนแอมาก อ่อนแอจนอาจจะสิ้นพระชนม์ไปเมื่อใดก็ได้นี่มิใช่เรื่องปกติอย่างแน่นอน“ในช่วงเวลาที่พวกเราจากไป มีผู้ใดป้อนของอย่างอื่นให้พระพันปีอีกบ้าง?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถามไม่มีผู้ใดเอ่ยตอบนางกวาดสาย
คำสั่งป้ายทองเว้นโทษตายเทียบเท่ากับคำสั่งของฮ่องเต้ ผู้ใดก็มิกล้าฝ่าฝืนทุกคนมีสีหน้าแตกต่างกันไป บางคนขยับตัวเล็กน้อย บางคนไม่ได้ขยับตัวเลยแม้แต่น้อย พวกเขาทั้งหมดหยุดอยู่ไม่ไกล และไม่กล้าขยับอีกเมื่อไม่มีคนวุ่นวายอีกต่อไป ในที่สุดนางก็สงบลงยาหนิวหวงอันกงมิสามารถใช้ร่วมกับยาหัวซินได้ เนื่องจากในย
ฉินเหยี่ยนเย่ว์คิดไม่ถึงว่าพระชายาอ๋องเฉียนจะออกมาพูดคำดังกล่าวในทันทีนับตั้งแต่งานชมดอกไม้ครั้งสุดท้าย นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบนางพระชายาอ๋องเฉียนขมวดคิ้ว แสดงความชื่นชมต่อทักษะแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของนางฉินเหยี่ยนเย่ว์สับสนเล็กน้อยผู้คนที่อยู่ในตำหนักบรรทมของพระพันปี ส่วนใหญ่เป็นองค์หญิง รวมถึงเหล่
หลังจากที่ได้พบนางนั้น โดยเฉพาะยามที่นางวิ่งโร่เข้ามากอดเขา ราวกับเมฆหมอกที่เคยบดบังได้จางหาย ภูเขาน้ำแข็งได้หลอมละลายลงมา คล้ายกับว่าบุปผากำลังเบ่งบานตงฟางหลีโอบกอดนางเอาไว้ พลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ไม่เป็นไรแล้ว ข้าอยู่ที่นี่แล้ว”“อื้ม” ฉินเหยี่ยนเย่ว์จับใบหน้าของเขาเอาไว้ ก่อนจะเอา
“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ หากพระองค์จะฝ่าเข้าไปโดยใช้กำลังเช่นนี้ ระวังอาวุธลับ...” เฟยอิ่งรีบร้อนกล่าวออกมาสายเกินไปที่จะเอ่ยออกมาแล้วดาบของตงฟางหลีเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารมากมายที่ล้อมรอบเอาไว้ ก่อนจะพุ่งตรงไปยังหินอ่อนขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงทางเข้าดาบเล่มนี้สามารถตัดเหล็กได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นการตัดหินหา
ตงฟางหลีจึงยื่นมือไปสัมผัสหินที่อยู่บนรูปปั้นภายในเรือนมีบรรยากาศแห้ง ๆ เย็น ๆ ทว่า ด้านบนก้อนหินกลับมีความชื้น มือที่เอื้อมไปสัมผัสนั้นพลันรู้สึกได้ถึงหยาดน้ำเปียก ๆ ขึ้นมาสายตาของตงฟางหลีจ้องมองไปที่รูปปั้นหินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สายตาจะไปหยุดอยู่ที่จุดเชื่อมต่อระหว่างรูปปั้นหินกับกำแพงรอยต่อระ
ผู้ที่ตอบเขากลับมาจากห้องลับที่อยู่ด้านล่างนั้น หาใช่ใครอื่นใดไม่ เว้นเสียแต่เหยี่ยนเย่ว์ตงฟางหลีพลันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก“เฟยอิ่ง หาทางเข้าต่อไปเถอะ หากภายในระยะเวลาหนึ่งก้านธูปยังไม่อาจหาทางเข้าเจอละก็ ทุบช่องระบายอากาศนี้ทิ้งเสีย” ตงฟางหลีกำแขนเสื้อเอาไว้แน่นตำแหน่งของห้องลับนั้น ตั้งอยู
บุรุษผู้นั้น ไม่เพียงแต่พบสถานที่แห่งนี้ แต่ยังพบตำแหน่งของห้องลับอีกด้วยหากว่าเขาทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้แล้ว นั่นหมายความว่าเขาได้ค้นพบการมีอยู่ของห้องลับห้องนี้อย่างแน่นอนต่อจากนี้ นางเพียงแค่ต้องส่งข่าวว่าตนเองอยู่ด้านล่างไปหาเขาเท่านั้นทั้งนางและเซียวเซี่ยงหว่านจะต้องรอดออกไปแน่นอน!ฉินเหย
ภายในใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกลิงโลดยิ่งนักหากการพบเจอเหรียญทองแดงหนึ่งเหรียญเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญนั้นแล้วการที่เจอเหรียญทองแดงสี่เหรียญในคราเดียวเล่า ย่อมมิใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอนมีคนอยู่ข้างบน!มีคนโยนเหรียญทองแดงลงมาจากช่องระบายอากาศทั้งสี่ช่องการปรากฏตัวที่นี่ในยามนี้ ทั้งยังพยา
เขาต้องหาตัวพวกนางเจอให้เร็วที่สุด!“ท่านอ๋อง” หลังจากเฟยอิ่งค้นหาไปแล้วหนึ่งรอบ “หาอะไรไม่เจอเลยพ่ะย่ะค่ะ นี่ออกจะแปลกเกินไปแล้ว ตามหลักแล้วไม่ว่าจะเป็นกลไกหรือว่าห้องลับ ล้วนจะต้องเหลือร่องรอยไว้บ้าง”“ตามผนังในห้องนี้ล้วนเป็นกำแพงตัน ไม่มีกลไก แล้วก็ไม่มีช่องกั้น ด้านล่างของห้องนี้ก็คือทะเลสาบ แล
นกการเขนเงาเป็นนกที่เงามีโดยเฉพาะ เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างเงาด้วยกันพวกมันอยู่ไปทั่วทุกหนแห่ง และสามารถส่งข่าวสารไปทั่วทุกที่นกกางเขนเงาทุกตัวล้วนได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด และระหว่างพวกมันเองจะมีรูปแบบวิธีการแยกแยะตัวตนหนึ่งชุดไม่เพียงเท่านี้ ช่องทางการสื่อสารข้อมูลระหว่างเงาจะมีระบบรหัสที
ความเป็นไปได้มากที่สุด คือพี่ใหญ่ใช้ประโยชน์จากทาสเป่ยลู่คนนั้น ทำเรื่องที่มิอาจเปิดเผยได้เหล่านั้นอยู่ที่นี่หากเป็นเหตุผลเช่นนี้ เบาะแสทุกอย่างล้วนราบรื่นแล้วตงฟางหลีเดินอ้อมห้องอีกหนึ่งรอบใช้มือสัมผัสและเคาะสิ่งของที่น่าสงสัยทั้งหมดเบา ๆ ไปหนึ่งรอบน่าเสียดาย ที่หาร่องรอยของห้องลับไม่เจอ“จางฉู