Masuk‘หมุนอีกรอบ’ นางสั่งในทันทีเพราะเริ่มหมดความอดทนแล้ว อีกทั้งยังเลิกคาดหวังเพราะอย่างไรก็ได้ของดีอย่างแหวนมิติมาแล้วชิ้นหนึ่ง แต่จะใช้ยังไงหรือให้ใครใช้ก็ค่อยคิดอีกทีหนึ่งเช่นกัน
แต่คราวนี้กลับผิดคาด หัวลูกศรค่อย ๆ หยุดลงในพื้นที่สีฟ้าซึ่งนางไม่เคยได้มาก่อน ทำให้อ้ายปิงลุ้นอยู่บ้างว่าจะได้รับอะไรในรอบนี้
[ยินดีด้วยได้รับ บ่อ‘น้ำพลังปราณ’ ซึ่งสามารถนำออกไปใช้นอกพื้นที่เพื่อปรับปรุงดินให้เหมาะกับการเพาะปลูกได้ หากพื้นดินแห้งแล้งได้รับการบำรุงด้วยน้ำพลังปราณเจือจางครบร้อยวัน จะกลายเป็นดินที่อุดมสมบูรณ์นับร้อยปี]
คราวนี้ของที่ได้ทำอ้ายปิงอ้าปากค้างอย่างแท้จริง นี่ใช่มั้ยวิธีการหาเงินและเก็บเกี่ยวความอุดมสมบูรณ์ของนาง
‘ท่านเทพ ข้ามีวิธีกลับไปหาท่านแล้ว รอข้าอีกสักนิดนะเจ้าคะ’
ชีวิตเรียบง่ายของเทพน้อยตกสวรรค์อย่างอ้ายปิงก็เพียงใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์แรกเกิดไปวัน ๆ เท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งนางก็ได้รู้ว่าแท้จริงแล้วตนเองยังมีบางสิ่งติดมาด้วย สิ่งที่เรียกตนเองว่าระบบปลูกผักทำฟาร์มขั้นเทพ
ตอนแรกนางคาดเดาไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าระบบสามารถทำอะไรได้ แต่ตอนนี้หญิงสาวได้รู้แล้วว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด นางก็เหมือนคนอื่น ๆ ที่เล่นเกมเพียงสองสามนาทีต่อวันแล้วก็ทำอย่างอื่นเพลินจนลืมเข้าไปดูฟาร์ม
หลังจากแอบไปหยดน้ำพลังปราณใส่บ่อน้ำของบ้านแล้ว อ้ายปิงก็เข้าฟาร์มอีกครั้งในตอนก่อนนอน เพราะไม่มีเวลามามัวสนใจแต่ทำฟาร์มน่ะสิ
‘เฮ่อ อยากได้ระบบอัตโนมัติมาเร็ว ๆ จริง ๆ เลย’ เสียดายเวลาที่ไม่ได้เข้ามาเก็บเกี่ยวและสั่งปลูก ทำให้ตอนนี้เพิ่งเก็บเกี่ยวผักบุ้งจีนไปรอบหนึ่ง ขายได้หกสิบเหรียญรวมเหรียญที่มีอยู่เป็นเจ็ดสิบ ก่อนจะปลูกหัวไชเท้า และผักบุ้งจีนจนใช้เหรียญไปทั้งหมด
เมื่อเข้ามาก่อนนอนก็เห็นว่าหัวไชเท้าเก็บได้แล้ว ส่วนผักบุ้งจีนก็ยังคงสวยงาม เพราะในเกมพืชผักจะไม่เน่าเสีย ข้อเสียคือทำให้ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์จากระบบเท่านั้นเพราะไม่สามารถปล่อยให้ผักแก่จนเก็บเมล็ดเองได้
ผักบุ้งจีนราคาสามสิบเหรียญ จะได้กำไรที่สิบเหรียญ ขณะที่หัวไชเท้าใช้ห้าสิบเหรียญในการปลูกและขายได้แปดสิบเหรียญ ทำให้ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ หนึ่งร้อยสิบเหรียญ
คราวนี้เพราะต้องปลูกระยะนานเนื่องจากถึงเวลานอนแล้วอย่างน้อย ๆ ก็สิบชั่วโมงกว่าจะมาดูได้อีกครั้ง อ้ายปิงจึงตัดสินใจเลือกพืชที่ใช้เวลาราวสิบชั่วโมงและสามารถปลูกได้ทั้งสองกระถาง
พบพืชที่ปลูกสิบชั่วโมงและเก็บเกี่ยวได้ทุก ๆ หกชั่วโมงอีกสองรอบ โดยมีค่าเมล็ดที่ห้าสิบเหรียญ นั่นคือ ‘ข้าวโพดหวาน’
นางไม่ลังเลที่จะปลูกข้าวโพดหวานทันที มือน้อย ๆ ปิดปากที่อ้ากว้างเพราะหาวนอน ง่วงเต็มทีแล้วเพราะวันนี้เล่นกับพี่ชายช่วงบ่ายจนเหนื่อยล้า ตาจึงปิดลงและหลับสนิทในทันที
[นายหญิงเช้าแล้ว ข้าวโพดชุดแรกเก็บเกี่ยวได้แล้วขอรับ] เสียงปลุกของระบบยังดังขึ้นแต่เช้าเหมือนเดิม
‘ขยันปลุกจริง ๆ งั้นช่วยเตือนเวลาผักเก็บเกี่ยวได้บ้าง ได้มั้ย’
[ข้าก็เตือนนะขอรับ แต่บางครั้งเจ้านายกำลังเพ่งความสนใจกับอะไรบางอย่าง จึงอาจไม่ได้ยินได้เช่นกัน]
‘อ้าว เป็นความผิดข้าหรอกหรือ ขอโทษแล้วกัน ต่อไปข้าจะพยายามฟังเจ้านะ’ อ้ายปิงตอบยิ้มๆ ก่อนยืดเส้นยืดสายเพื่อคลายความเมื่อยขบ จากนั้นก็เรียกหน้าระบบขึ้นมา
ตอนนี้เพิ่งเข้าใบไม้ผลิไม่นาน นางยังหวังว่าน้ำพลังปราณจากในเกมจะช่วยให้ผลผลิตดีขึ้นในปีนี้ แม้ยังไม่สามารถใช้กับพื้นที่อื่นได้ แต่อย่างน้อยขอปรับปรุงที่ดินรอบ ๆ บ้านก่อนแล้วกัน
‘ถ้าสามารถบังคับหยดน้ำไปใส่ในที่ดินเองได้ก็ดีสิ’
[ทำได้นะขอรับ ระบบสามารถส่งสิ่งของออกไปรอบ ๆ เจ้านายในระยะหนึ่งลี้ หากเป็นน้ำก็ไม่ยาก]
‘โอ้ ถ้าอย่างนั้นก็พยายามส่งออกไปทุกคืนแล้วกัน อย่างน้อยก็ให้รอบ ๆ นี้ชุ่มชื่นและปรับปรุงดินก่อนทุกๆคืน จะได้ไม่ต้องแอบไปที่บ่อน้ำให้ท่านแม่ดุอีก’
อ้ายปิงยิ้มแหยเมื่อนึกถึงเมื่อวาน หลังจากนางแอบนำน้ำพลังปราณไปใส่ในบ่อน้ำก็โดนแม่นมเหลียนตามไปจับตัวกลับมาหาท่านแม่ ก่อนจะโดนท่านแม่ดุเสียจนหูชา
‘มารดาเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวจริงๆ’
[เจ้านายมีหมุนวงล้อฟรีหนึ่งรอบ อย่าลืมเก็บเกี่ยวข้าวโพด]
‘จ้าๆ’ อ้ายปิงเปิดหน้าจอ สั่งเก็บเกี่ยวข้าวโพดและพบว่าได้รับเพียงหน่วยละสองฝัก ขายได้ฝักละยี่สิบแต้ม นั่นแสดงว่าการปลูกข้าวโพดเกือบได้ทุนคืนตั้งแต่รอบแรก และได้กำไรเบ็ดเสร็จคือเจ็ดสิบต่อช่องเลยทีเดียว ถือว่าคุ้มค่าไม่น้อย
อ้ายปิงถูกแม่นมเหลียนอุ้มไปที่ห้องหลัก นางยังมีแม่นมเหลียนคอยป้อนอาหารเด็กอ่อน ยังมีน้ำเต้าหู้ให้ดื่มทั้งเช้าและเย็น บ่งบอกว่าท่านแม่ใส่ใจสุขภาพของเด็ก ๆ อย่างมาก ทั้ง ๆ ที่ผู้ใหญ่ทุกคนในบ้านล้วนมีรูปร่างผ่ายผอม บ่งบอกถึงความอดอยาก “ปิงเอ๋อร์ไม่ชอบกินเต้าหู้ แต่ชอบกินน้ำเต้าหู้ ต่อไปคงต้องหาอย่างอื่นมาให้นางกินนะแม่นมเหลียน” หลี่เอินผู้เป็นมารดาคอยสังเกตบุตรสาวหลายรอบแล้ว ดูเหมือนอ้ายปิงจะไม่ชอบกินเต้าหู้ หากวันใดมีเต้าหู้เป็นอาหารนางมักกินได้เพียงครึ่ง “เจ้าค่ะฮูหยิน บ่าวคิดว่าคุณหนูไม่เลือกกิน คงมีแต่เต้าหู้ที่กินได้ไม่มาก คงเพราะไม่ชื่นชอบจริงๆ” “ปิงเอ๋อร์กินผักง่ายกว่าอาหรงจริงๆ” หลี่เอินเห็นด้วยทันที อ้ายปิงได้ยินมารดาสนทนากับแม่นมก็อยากจะบอกว่านางไม่ชอบกินเต้าหู้แต่ไหนแต่ไรแล้ว ชอบกินผักผลไม้กับเนื้อสัตว์ อย่างที่มักจะกินตอนอยู่กับท่านเทพ เมื่อนึกถึงตรงนี้ดวงใจก็ปวดแปลบ คิดถึงท่านเทพเหลือเกิน ไม่รู้อีกนานแค่ไหนกว่าจะสามารถกลับไปได้ มีแต่ต้องรอให้หมดสิ้นอายุขัยเท่านั้น ซ้ำยังต้องรีบสั่งสมความอุดมสมบูรณ์เพื่อให้ภารกิจสำเร็จจึงจะกลับ
“มีเรื่องอะไรดีดีหรือเจ้าคะคุณหนู แต่น่าแปลกช่วงนี้เหมือนมีฝนปรอย ๆ ในตอนเช้า พื้นดินชุ่มฉ่ำไปหมด นายท่านกล่าวว่าปีนี้จะแล้งกว่าทุกปีแท้ๆ” “นมๆ อุ้มๆ” อ้ายปิงหันไปยิ้มยิงฟันให้แม่นมเหลียน ก่อนปล่อยให้นางช่วยแต่งตัว เสื้อผ้าที่สวมใส่ตอนนี้ก็เป็นฝีมือเย็บปักของท่านแม่ทั้งนั้น แม้เนื้อผ้าจะธรรมดาไปบ้าง แต่สีสันก็สวยงามเหมาะกับวัยเด็กจริง ๆ ตอนนี้ผมนางเริ่มยาวขึ้นมาบ้างแล้ว เนื่องจากแม่นมช่วยทาน้ำมันอะไรสักอย่างบำรุงทุกวันตั้งแต่เกิด ผมจึงดกดำดีเหลือเกิน เมื่อหันมองร่างอวบในคันฉ่องจนพอใจถึงปล่อยให้แม่นมเหลียนอุ้มไปหาท่านแม่เหมือนทุกวัน เนื่องจากเด็ก ๆ ในบ้านยังเล็ก จึงยังไปกินอาหารที่เรือนหลักทุกมื้อ กระทั่งพี่ชายอ้ายหรงซึ่งต้องไปเรียนและซ้อมวิชาต่อสู้ทุกวัน ยังต้องกลับมากินข้าวให้ทันเวลา วันนี้อ้ายปิงใช้ชีวิตอย่างสบายใจเพราะไม่ต้องคอยระแวงเพื่อเข้าไปเก็บเกี่ยวผลผลิตในเกมอีกแล้ว นางจึงตัดสินใจจะเข้าไปดูแค่ก่อนนอนเท่านั้น ลืมไปเสียสนิทว่ายังมีสิทธิ์หมุนวงล้อเหลืออยู่อีกอัน วันนี้พี่ชายได้กระรอกตัวน้อยกลับมาตัวหนึ่ง แต่เมื่อเขาปล่อ
ตอนนี้อ้ายปิงยังเล็กนักคงไม่สามารถออกไปส่งน้ำพลังปราณยังพื้นที่อื่นได้ แต่ขอเพียงที่ดินของบ้านหนี่ว์อุดมสมบูรณ์ ก็สามารถหาเงินได้มากอย่างแน่นอน แต่จะปลูกเพียงผักเพื่อดองรอขายให้กองทัพคงไม่เหมาะนัก สงสัยนางต้องออกแนวคิดใหม่ให้ท่านแม่เสียแล้ว เพราะตอนนี้มีเพียงท่านแม่ที่มีอำนาจสั่งการในบ้าน คิดแล้วก็ต้องเร่งลงมือ อ้ายปิงในวันนี้ไม่ได้เล่นกับพี่ชาย หลังอาหารเที่ยงนางก็เข้าไปเก็บเกี่ยวข้าวโพดอีกครั้ง ก่อนเอ่ยเสียงอ้อแอ้คุยกับมารดา “อ้านแอ้ อ้านแอ้” ‘บัดซบ’ อ้ายปิงพบปัญหาใหญ่เสียแล้ว ตอนนี้นางยังเด็กเกินไปจริง ๆ จึงไม่อาจสนทนาและบอกความคิดของตนกับคนอื่นได้ เมื่อมารดาเห็นลูกสาวอยากคุยด้วยก็ก้มลงมาอุ้ม ก่อนพูดคุยเรื่องต่าง ๆ ให้บุตรสาวฟัง จากนั้นก็หยิบสะดึงและเข็มปักผ้ามาจับมือสอนบุตรสาวช้า ๆ ไม่นานอ้ายปิงก็ถูกเข็มปักผ้าดึงดูด บ่อยครั้งที่นางปักโดนมือตัวเองแต่ก็เพียงสะดุ้งเท่านั้น กลับรู้สึกว่าการปักผ้าก็เพลินดีเหมือนกันนะ กว่าจะรู้ตัวนางก็กลับมานอนบนเตียงเพื่อเตรียมเข้านอนแล้ว อ้ายปิงเปิดหน้าจอขึ้นมาเก็บเกี่ยวข้าวโพดชุดสุดท้าย ก่อน
‘หมุนอีกรอบ’ นางสั่งในทันทีเพราะเริ่มหมดความอดทนแล้ว อีกทั้งยังเลิกคาดหวังเพราะอย่างไรก็ได้ของดีอย่างแหวนมิติมาแล้วชิ้นหนึ่ง แต่จะใช้ยังไงหรือให้ใครใช้ก็ค่อยคิดอีกทีหนึ่งเช่นกัน แต่คราวนี้กลับผิดคาด หัวลูกศรค่อย ๆ หยุดลงในพื้นที่สีฟ้าซึ่งนางไม่เคยได้มาก่อน ทำให้อ้ายปิงลุ้นอยู่บ้างว่าจะได้รับอะไรในรอบนี้ [ยินดีด้วยได้รับ บ่อ‘น้ำพลังปราณ’ ซึ่งสามารถนำออกไปใช้นอกพื้นที่เพื่อปรับปรุงดินให้เหมาะกับการเพาะปลูกได้ หากพื้นดินแห้งแล้งได้รับการบำรุงด้วยน้ำพลังปราณเจือจางครบร้อยวัน จะกลายเป็นดินที่อุดมสมบูรณ์นับร้อยปี] คราวนี้ของที่ได้ทำอ้ายปิงอ้าปากค้างอย่างแท้จริง นี่ใช่มั้ยวิธีการหาเงินและเก็บเกี่ยวความอุดมสมบูรณ์ของนาง ‘ท่านเทพ ข้ามีวิธีกลับไปหาท่านแล้ว รอข้าอีกสักนิดนะเจ้าคะ’ ชีวิตเรียบง่ายของเทพน้อยตกสวรรค์อย่างอ้ายปิงก็เพียงใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์แรกเกิดไปวัน ๆ เท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งนางก็ได้รู้ว่าแท้จริงแล้วตนเองยังมีบางสิ่งติดมาด้วย สิ่งที่เรียกตนเองว่าระบบปลูกผักทำฟาร์มขั้นเทพ ตอนแรกนางคาดเดาไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าระบบสามารถทำอะไรได้
แต่ว่าผลผลิตจากในเกมนั้นไม่สามารถนำออกมาด้านนอกได้ แต่สามารถขายในร้านค้าของระบบเพื่อขยายฐานการผลิตแล้วจึงจะสามารถนำเหรียญในเกมที่ได้รับมาหมุนวงล้อเพื่อสุ่มของใช้ออกมาใช้ในโลกจริงได้เท่านั้น กล่าวคือเล่นเกมเพื่อเอาเหรียญในเกม จากนั้นก็นำไปแลกกับสิทธิ์หมุนวงล้อสุ่มของวิเศษ ถึงจะนำของวิเศษออกมาใช้นอกเกมได้ [ตอนนี้มีการสุ่มวงล้อฟรีหนึ่งครั้งต่อวัน ยอดคงเหลือสี่ครั้ง เจ้านายต้องการหมุนวงล้อเลยหรือไม่] ‘ยังก่อน’ ตอนนี้อ้ายปิงให้ความสนใจกับฟาร์มอยู่ นางมองช่องที่ระบบมอบให้เริ่มต้น มีเพียงหนึ่งช่องเท่านั้น หากต้องการขยายช่องก็ต้องใช้เหรียญ หากต้องการปลูกพืชก็ต้องใช้เหรียญ ช่างเป็นระบบเกมหน้าเลือดเสียจริง ความจริงเกมที่นางสร้างขึ้นก็มีความคล้ายคลึงกัน เพียงแต่ในเกมจะใช้เหรียญเพื่อสุ่มของวิเศษและของตกแต่งฟาร์มเท่านั้น ไม่เหมือนกับตอนนี้ที่มันเป็นตัวกำหนดชีวิตของนางไปเสียแล้ว หญิงสาวดูเมล็ดพันธุ์ในร้านค้าระบบ มันมีราคาซื้อและราคาขายต่อหน่วยบอกเอาไว้ มีตั้งแต่พืชธรรมดาจนถึงพืชวิเศษ [ระบบเชื่อมต่อกับร้านค้าในแดนต่างๆและส่งสินค้าอ
เมื่อต้องติดตามท่านอ๋องผู้ถูกเนรเทศมาชายแดนทางเหนือ พวกเขาก็ตัดสินใจใช้เงินที่ขนมาจากเมืองหลวงซื้อที่ดินปลูกจวนนอกเมือง แทนที่จะซื้อจวนขนาดกลางในเมือง จวนสกุลหนี่ว์ไม่ได้ไกลจากในเมืองมากนัก ซ้ำยังเป็นทางไปยังค่ายทหาร อยู่ตรงข้ามกับหน้าด่าน ทำให้รู้สึกปลอดภัยขึ้นเล็กน้อย แต่จวนแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่มาก ด้านหน้ามีเรือนหลัก ด้านข้างมีเรือนรับรอง เรือนสี่ประสานของจวน ด้านตะวันออกเป็นเรือนของบุตรชาย ด้านตะวันตกเป็นของบุตรสาว ขณะที่เรือนหลักเป็นที่พำนักของนายท่านและหนี่ว์ฮูหยิน ทุกวันหนี่ว์อ้ายปิงมักถูกพาไปยังห้องอาหารในเรือนหลัก ก่อนถูกมารดาพากลับไปยังห้องนอนของมารดา วันนี้บรรยากาศในห้องอาหารคึกคัก นับตั้งแต่บิดาอย่างหนี่ว์ซวงกลับมา หนี่ว์อ้ายหรงก็ดูร่าเริงขึ้นมาก แม้จะเห็นว่ามีรอยช้ำบนร่างกายมากขึ้น แต่เขากลับมีรอยยิ้มอยู่เสมอ “น้องสาวเจ้ามาแล้ว” หนี่ว์อ้ายหรงเดินไปต้อนรับน้องสาวด้วยท่าทางยินดี อ้ายปิงทำเพียงแปะๆ มือให้เขาพอเป็นพิธี ประมาณว่าขอบคุณที่มาต้อนรับนาง ไม่นานท่านพ่อก็เริ่มกินอาหาร บนโต๊ะอาหารเงียบสนิท กระทั่งถ้วยจานเปล่าถูก







