ชีวิตไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิดเอาไว้ และฉันเองก็ยังอยากให้เมลลี่มีชีวิตในฐานะเลดี้ชนชั้นสูงต่อไป
ไม่ว่าอย่างไรฉันจะต้องรักษา บรรดาศักดิ์ยศท่านเคาน์ซารังต์เอาไว้ให้ได้ “หากอยากแต่งงานก็จะต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงสิคะท่านเคาน์เตส จริงอยู่ที่ชื่อเสียงของท่านไม่สู้ดีเท่าไหร่นักแต่เหล่าบุรุษพวกนั้นย่อมอยากเป็นท่านเคาน์ด้วยกันทั้งนั้น” อารีเอนกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้แก่โรวีนา เธอไม่ชอบใจความงดงามที่เจิดจรัสนั้นเท่าไหร่นัก แต่ก็ปฏิเสธเสน่ห์อันล้นเหลือของเคาน์เตสซารังต์ไม่ได้เลย เธอไม่ชอบที่ท่านเคาน์เตสมีความงดงามมากกว่าเธอ แต่ก็ดันหลงใหลไปกับความงามนั้นจนน่าหงุดหงิด นี่ฉัน..มาปรึกษาเรื่องสำคัญผิดคนรึเปล่านะ ฉันมองเห็นแววตาที่ไม่เป็นมิตรผ่านสายตาของเลดี้แรนเซล แต่นั่นก็ไม่เป็นอะไรหรอก คนอย่างโรวีนาเองก็ไม่ใช่คนดี จริงอยู่ที่ก่อนหน้าที่จะคลอดเมลลี่ โรวีนาไม่มีชู้และไม่เคยชายตามองบุรุษคนไหน แต่ทว่าหลังจากที่คลอดเมลลี่ออกมา เธอกลับลักลอบมีชู้กับบุรุษที่พึงใจ โรวีนาเป็นพวกเกลียดชังบุรุษที่หน้าตาดีเพราะว่าอิไลนั้นหล่อเหลาและนางชอบอิไลเพราะความหล่อเหลากับความอ่อนโยนของเขา ในใจจึงจดจำและฝังใจถึงเรื่องนั้น สายตาของโรวีนาจึงไม่ขอมองบุรุษหล่อเหลาผู้ใดอีกเลย นางจะนอนกับพวกต่ำศักดิ์ยิ่งเป็นชาวบ้านหรือว่าคนสวนนั้นจะชื่นชอบมากเป็นพิเศษ เพราะมันเท่ากับว่าโรวีนากำลังตบหน้าสามีของตัวเองอยู่ การประชดแบบนั้นมันดีซะที่ไหนกัน เชื่อเถอะว่าคนมีสมองส่วนใหญ่ไม่น่าจะทำกันแต่อย่างว่า..โรวีนาไม่ค่อยมีความคิดเท่าไหร่ อาจจะเพราะนางยังเด็กจึงยังตกตะกอนความคิดได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก “วันพรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงในคฤหาสน์เวลลิงตันเพื่อเลี้ยงฉลองที่ท่านเจโรมสามารถทำยารักษาโรคกามได้สำเร็จ..ท่านเคาน์เตสเองก็ควรจะไปที่นั่นนะคะ หากว่าท่านต้องการหาบุรุษที่จะแต่งงานด้วย” นั่นสินะ หากอยากแต่งงานก็จะต้องออกไปตามหาว่าที่เจ้าบ่าวของเธอ ข้อแรกต้องเป็นสามัญชน ข้อสองเรื่องหน้าตาเอาธรรมดาๆ ก็พอเพราะว่านี่คือสัญญาการแต่งงานธรรมดาๆ ข้อที่สาม ต้องไม่สะดุดตา เธอไม่อยากให้มีคนกล่าวถึงตระกูลซารังต์ในทางที่ไม่ดี ข้อที่สี่อันนี่สำคัญมากจะต้องไม่มีทายาทระหว่างเธอและว่าที่สามี เพื่อป้องกันการแย่งชิงตระกูลที่ควรจะเป็นของเมลลี่ “ขอบคุณเลดี้มากนะคะที่แนะนำ เดิมทีข้าคือคนจากทางใต้จึงไม่เข้าใจเรื่องธรรมเนียมของเมืองหลวงมากนัก” อารีเอนมองหน้าของเคาน์เตสซารังต์อีกครั้งหนึ่ง ที่ผ่านมาที่ไม่ค่อยออกงานและปฏิเสธบัตรเชิญของเธอ ไม่ใช่เพราะว่าหยิ่งแต่เพราะไม่รู้ธรรมเนียมของที่นี่งั้นเรอะ! อันที่จริงงานเลี้ยงของตระกูลเวลลิงตันมีกฎอยู่คือจะต้องสวมชุดเดรสสีน้ำเงินเข้ม.. หากว่าเธอไม่บอกเคาน์เตสจะต้องเป็นตัวตลกในงานอย่างแน่นอน ซึ่งมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรก็เธอเลยนี่ อย่าไปสนใจแล้วปล่อยให้เคาน์เคสอับอายไป.. “สะ..สีน้ำเงินค่ะ” โรวีนาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเพื่อเอ่ยถามอารีเอน “ข้าหมายถึงสีชุดที่จะต้องใส่เข้าร่วมงาน..หากท่านใส่สีอื่นไปคงจะกลายเป็นตัวตลกแน่ๆ” คราแรกฉันคิดว่าคุณหนูคนนี้จะเป็นพวกคนนิสัยแย่ๆ ซะอีก แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เลวร้ายอะไรเลยนี่ “เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะเลดี้แรนเซล” ................... “แหมท่านเจโรม ทางคาราวานสินค้าของเราจะกล้านำยามาขายในเมืองหลวงได้อย่างไรกันครับ ไม่ต้องพูดถึงการที่ข้าจะส่งสตรีมาประมูลแข่งกับท่านเลยด้วย ข้ารู้ดีว่าในจักรวรรดิแห่งนี้ใครเป็นผู้มีอำนาจ..” ลัคเซลเจ้าของคาราวานสินค้าก้มหน้าลงด้วยความนอบน้อม ใครเลยจะกล้าแข็งข้อกับตระกูลเวลลิงตัน “เช่นนั้นแล้วสตรีที่กล้าหลอกเงินของข้าไปพันเหรียญนางคือใครกันเล่า..หานางให้เจอแล้วส่งนางมาให้ข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะไม่ให้คณะคาราวานของเจ้าเหยียบย่างเข้ามาหากินในจักรวรรดิอีกเลย!” ลัคเซลพยักหน้าเร็วๆ ด้วยความประหม่า เขารีบเดินออกไปจากงานเลี้ยงเพื่อไปตามสืบหาสตรีที่แอบอ้างชื่อคาราวานสินค้าของเขา “อารมณ์เสียอะไรกัน วันนี้คือวันดีของเจ้ามิใช่หรือ” เจโรมยกมือขึ้นมาเสยผมไปทางด้านหลัง เขารู้สึกอารมณ์เสียมากกว่าเดิมอีกเมื่อเขามองเห็นดยุคฮาสคลาวกำลังส่งยิ้มให้เขาอย่างอารมณ์ดี “ไม่มีอะไรหรอกครับท่านดยุค ข้าก็แค่..หงุดหงิดที่เมนูที่สั่งไปไม่ได้ดังใจก็เท่านั้น ยินดีต้อนรับเข้าสู่งานเลี้ยงของตระกูลเวลลิงตันนะครับ” ฟลอยด์ยกแก้วสุราขึ้นมาดื่ม เขาพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปในงาน เขาได้ยินเรื่องที่เจโรมถูกหลอกและนั่นคือสิ่งเล็กๆ ที่ทำให้เขาอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก แม้แต่เขายังไม่ได้เบาะแสของสตรีผู้นั้นเลย แล้วคนอื่นได้หาเธอเจอได้อย่างไร เธอมีน้ำเสียงที่ก้องกังวานราวกับเสียงของระฆังแก้วและมีทักษะการพูดที่พูดฟังอดไม่ได้ที่จะถูกโน้มน้าว เขาชอบนะ ประทับใจจนอยากร่วมงานกับเธอเลย..ฟลอยด์กำลังเดินเข้าไปในสวนเขาต้องการหามุมเงียบๆ เพื่ออยู่คนเดียว ทว่าในช่วงเวลานั้นมันเหมือนกับเวลากำลังเดินช้าลงเมื่อเขามองเห็นเจ้าของเรือนผมสีชมพูที่กำลังนั่งอยู่ในสวนก่อนแล้ว เธอแหงนหน้าเพื่อมองดูดวงจันทร์ก่อนจะยกแก้วสุราขึ้นมาดื่มราวกับกำลังเรียกความกล้าหาญให้กับตัวเอง สตรีที่งดงามจนละสายตามิได้ผู้นั้น..ไม่มีใครไม่รู้จักนาง โรวีนา ซารังต์ หญิงหม้ายที่ทำตัวไร้ค่า..ความงดงามที่ฉาบเอาไว้เพียงเปลือกนอก ตระกูลซารังต์กำลังจะถูกเรียกคือบรรดาศักดิ์และการที่นางมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อมาหาบุรุษสักคนที่ต้องการครอบครองความงดงามนั้นและเต็มใจยอมเป็นท่านเคาน์ซารังต์เพื่อให้นางยังคงอยู่ในตำแหน่งของเคาน์เตสต่อไปได้ น่าขยะแขยงจริงๆ ..สตรีที่มีดีแค่ความงดงามแต่ไร้ซึ่งปัญญา จะนำไปตั้งโชว์เอาไว้ในคฤหาสน์ก็รู้สึกอับอายเมื่อผู้คนผ่านมาเห็น..นางคงมีค่าแค่นำไปประดับเอาไว้บนเตียงนอน “ทำได้สิวะ!..ต้องทำได้สิ แค่เดินเข้าไปหยิบแก้วสุราขึ้นมาดื่มเล็กน้อยเท่านั้นเอง หากมามัวนั่งอยู่ที่นี่ตอนนี้จะหาคนมาแต่งงานด้วยยังไงกันเล่า..ไหนๆ ก็ไหน อุตส่าห์มาที่นี่แล้วต้องกล้าๆ หน่อยสิ!!” แววตาสีโทแพซของฟลอยด์เต็มไปด้วยความฉงนเมื่อเขาได้ยินเสียงของหญิงหม้ายผู้นี้ ไม่ใช่หรอก ถึงจะคล้ายกันแต่ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก เคาน์เตสซารังต์ไม่น่าจะมีความสามารถขนาดนั้น นางจะกล้าหลอกลวงตระกูลเวลลิงตันได้อย่างไรกัน เขาคงคิดมากไปเอง เพราะเขาต้องการตามหาตัวของสตรีในคืนนั้นมากเกินไปจนรู้สึกสับสนไปหมด“หนังสือมาส่งแล้วครับ..”เจ้าของร้านหนังสือรีบออกมารับหนังสือที่ถูกส่งมาในทันที นี่คือหนังสือเดินทางที่ขายดีมากๆ ในช่วงนี้ ไม่ว่าเขาจะสั่งมาขายมากแค่ไหนก็ไม่สามารถเพียงพอต่อความต้องการของผู้คนได้เลยเจ้าของหนังสือคือบุรุษผู้หนึ่งที่เขียนแทนตัวเองว่าเมล เขาเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วทุกดินแดน แล้วเขียนเรื่องเล่ามากมายพร้อมแนบรูปวาดมาในหนังสือด้วย การเขียนที่สนุกเหมือนกับได้ฟังนักเล่าเรื่องเล่า และรูปวาดที่สวยงามเหมือนกับได้มองสถานที่ที่ถุกกล่าวถึงด้วยสายตาของตัวเอง มันยิ่งยกระดับให้หนังสือเล่มนี้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น“รีบๆ ยกเข้ามาได้เลย..แล้วสั่งเพิ่มมาอีกสองร้อยเล่มนะ ชาวเมืองชอบหนังสือการเดินทางนี้มากเลย..”เด็กส่งหนังสือก้มหน้าขอบคุณ“ได้เลยครับนายท่าน..”เพียงแค่วางหนังสือพวกนั้นที่หน้าร้าน ผู้คนมากมายก็เดินทางเข้ามาจับจองหนังสือกันอย่างคับคั่งเมลลี่กำลังยืนมองหนังสือของตัวเองที่ถูกขายออกอย่างรวดเร็ว เธอยกยิ้มด้วยความดีใจก่อนจะสวมหมวกเพื่อปิดบังใบหน้าเธอออกเดินทางครั้งแรกตั้งแต่ตอนอายุสิบห้า มันคือการออกเดินทางไปที่แกรนด์ดัชชีแมทสันกับท่านตา และหลังจากนั้นเธอก็พบกับท่านลุงอาเดน พี่ชาย
“นี่มันอะไรกันอาริ?”โรวีนาเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจเมื่ออารีเอนส่งบัตรเชิญมาให้เธอ มันเป็นบัตรเชิญการแต่งงานระหว่างอาริเอนและลอร์ดเวนสัน เธอไม่คิดว่ามันจะกะทันหันมากขนาดนี้ นี่ทั้งสองคนไปตกหลุมรักกันตอนนี้ก่อน“กับบางคน ที่ใช่มันจะใช่เลยโรวี่ ท่านบาทีอัสนั้นไม่เรื่องมาก ท่านเป็นคนดี ไม่นอกใจและยกเรื่องเงินทั้งหมดในเวนสันให้ฉันเป็นผู้จัดการ ท่านบอกเกี่ยวกับการใช้ชีวิตสามีภรรยาของเราเอาไว้อย่างชัดเจน ท่านไม่ใช่คนขี้หึงและไม่มีเหตุผล แต่ท่านก็ห้ามไม่ให้ฉันไม่ร่วมงานเลี้ยงโดยที่ไม่มีท่านไปด้วย ท่านยินดีจะไปงานเลี้ยงทุกงานที่ฉันอยากไป และหากว่าเรามีลูกจะใช้ชื่อตระกูลเวนสันก่อน ส่วนลูกคนที่สองจะใช้ชื่อตระกูลแรนเซล โรวี่..เจ้าคิดว่ามีกี่คนกันที่คุยเรื่องการแต่งงานชัดเจนมากขนาดนั้น ฉันคิดว่าฉันหาพ่อของลูกเจอแล้วเพราะแบบนั้นก็เลยตกลงแต่งงานกับเขาในทันที”โรวีนายกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ ส่วน เบียงก้าเธอกำลังหัวเราะอยู่“เรื่องนั้นก็สมกับที่เป็นอารินะคะ ขอให้อาริมีความสุขมากๆ กับการแต่งงานในครั้งนี้”เบียงก้าหย่ากับบารอนลัคเน่แล้ว ตอนนี้นางคือมาดามเจ้าของร้านตัดเสื้อเท่านั้น ไม่ใช่ชนชั้นสูงหรือว่าบ
ฟลอยด์กุมมือของโรวีนาเอาไว้ เขามองท่านพ่อตาที่กำลังอุ้มลูกสาวของเราอยู่ ก่อนจะส่งยิ้มให้ท่าน..“มีใครจะขัดขวางงานแต่งในครั้งนี้ของข้าอีกรึเปล่า หากมีก็ก้าวเท้าออกมาได้เลย!!”เขาตะโกนออกมาเสียงดังลั่นเพื่อให้ทุกคนได้ยินหลังจากที่ทหารของพระราชคุมตัวของอิไลออกไปแล้วเจโรมมองฟลอยด์และโรวีนาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ ราวกับไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเลย แผนการของเขาล้มเหลวไม่เป็นท่าเพราะถูกฟลอยด์อ่านแผนการออกจนหมด นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน ที่ฟลอยด์จะงัดหลักฐานการหย่าและหลักฐานการจดทะเบียนสมรสของเขาออกมา เขาเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างดีขัดขวางไม่ได้จริงๆ สินะ งานแต่งในครั้งนี้ เขาไม่สามารถดึงรั้งสตรีผู้นั้นมาอยู่ข้างกายได้เลยจริงๆ ..เขาแพ้แบบไม่เป็นท่าเลย พ่ายแพ้แบบที่ไม่ได้เฉียดเข้าใกล้โรวีนาแม้แต่นิดเดียว คู่แข่งของเขานั้นน่ากลัวมากจริงๆ“ท่านเคาน์เวลลิงตันครับ นี่เป็นเช็คเงินสดที่ท่านดยุคฝากมาให้พร้อมกับจดหมายครับ”ไมเนอร์เดินเข้าไปส่งมอบของที่ท่าน ดยุคสั่งให้เขาจัดเตรียมเอาไว้ ให้แก่ท่านเคาน์เวลลิงตันเจโรมเปิดจดหมายออกก็พบว่าในจดหม
คาดินันกระแอมออกมาเบาๆ เพราะว่าในยามนี้ท่านดยุคและท่านดัชเชสกำลังแสดงความรักที่มากมายต่อกัน ซึ่งมันอาจจะทำให้เขาทำหน้าที่ต่อไปได้อย่างลำบากโรวีนาละริมฝีปากออกจากกลีบปากของฟลอยด์ด้วยความนึกเสียดาย เธอส่งยิ้มให้เขาก่อนที่เราจะกอบกุมมือกันแน่น“พิธีสาบานของคู่บ่าวสาวทั้งสองเสร็จสิ้นแล้วครับ มีใครจะคัดค้านการแต่งงานในครั้งนี้รึเปล่า? ..”นั่นคือสิ่งที่ฟลอยด์กังวล เขาปรายสายตามองไปที่ยังที่นั่งของแขกที่มาร่วมงาน ราวกับกำลังรอคอยบางอย่างอยู่“ข้าขอคัดค้านการแต่งงานในครั้งนี้ครับ!!..”เจโรมแสยะยิ้มออกมาเมื่ออิไลแสดงตัวในการคัดค้านการแต่งงานครั้งนี้ตามแผนการที่เขาวางเอาไว้ แน่นอนว่าฟลอยด์ไม่ได้คิดยินยอมให้อิไลเข้ามาในงานนี้โดยง่าย รอบๆ วิหารศักดิ์สิทธิ์นั้นเต็มไปด้วยทหารของฮาวคลาวที่กำลังเฝ้าประตูเพื่อตรวจสอบแขกที่เข้ามา หากว่าเขาไม่ให้อิไลปลอมตัวมาก็คงไม่มีทางเข้าในนี้ได้อย่างแน่นอนและเมื่ออิไลซึ่งเป็นสามีเก่าของโรวีนาแสดงตัวออกมา เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นในทันทีท่านดยุคแมทสันจับดาบที่เอว เขาตั้งใจว่าจะพุ่งเข้าไปจัดการ อิไลให้สาสมกับที่ไอ้คนสารเลวนั่นทำให้ลูกสาวของเขาเจ็บปวด แต่ทว่าไมเนอร์จับมื
ฉันกำลังนั่งอยู่ที่ด้านหน้ากระจกเงาบานใหญ่ ในห้องแต่งตัวภายในวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ทั้งหรูหราและคุ้นตาเอาซะเลย สาวใช้จากพระราชวังสามารถทำงานของพวกนางได้อย่างคล่องแคล่วจนน่าตกใจ ในเวลาไม่นานการแต่งกายที่แสนยากลำบากก็เสร็จสิ้นลง มีชุดที่ต้องสวมทับหลายชั้นมากๆ ชุดแต่งงานของดัชเชสนั้นยุ่งยากมาทีเดียว จะต้องสวมกระโปรงที่มีโครงด้านในเพื่อให้กระโปรงบานออกและเป็นรูปทรงที่สวยงาม อีกทั้งยังต้องสวมใส่คลอเซ็ตเพื่อรัดเอวที่เล็กอยู่แล้วในคอดกิ่วยิ่งกว่าเดิม และยังมีการดันทรงชุดชั้นในเพื่อให้เนินอกโผล่พ้นออกมานอกชุดเล็กน้อย แต่การพยายามอย่างหนักของสาวใช้ก็ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นคุ้มค่า ภาพที่สะท้อนในกระจกดูเหมือนกับเทพธิดาที่งดงามราวกับไม่มีอยู่จริง จากเดิมที่โรวีนานั้นงดงามมากๆ อยู่แล้ว แต่ในยามนี้ดูท่าว่าผู้ที่พบเห็นใบหน้านี้ของเธอจะต้องจดจำความงดงามนี้ไปตลอดแน่ๆ“เสร็จเร็วกว่าที่คิดเอาไว้อีกนะโรวี่..”ท่านพ่อของเธออยู่ในชุดดยุคเต็มยศ ท่านแย้มยิ้มออกมาด้วยความอารมณ์ดี..“ลูกงดงามมากจริงๆ ให้ตายเถอะ..ลูกเหมือนกับนางฟ้าตัวน้อยๆ เลย”นางฟ้าตัวน้อยงั้นเหรอ? ทั้งๆ ที่เธอโตมากพอที่จะมีลูกและมีสามีแล้วแต่
“ไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องเป็นกังวลนะครับคุณหนู แค่ท่านยิ้มออกมา แล้วโปรยดอกไม้ไปตามทางเดินเท่านั้นเอง..ท่านดัชเชสจะต้องดีใจมากๆ ที่คุณหนูเป็นผู้โปรยดอกไม้ตามทางเดินของท่าน”โลแวนกำลังให้กำลังใจคาเรนที่แสดงท่าทีประหม่า เขารู้มาว่าคุณหนูตัวน้อยไม่เคยออกงานหรือว่าอยู่ในที่ที่คนเยอะๆ มาก่อน เพราะแบบนั้นจึงหลีกเลี่ยงอาการตื่นเต้นและประหม่าของเด็กชายอายุห้าขวบไม่ได้“...ท่านแม่..จะดีใจมากๆ เลยใช่ไหมโลแวน หากท่านแม่เห็นข้ากำลังโปรยดอกไม้”โลแวนพยักหน้า“เพราะว่าคุณหนู..คือแก้วตาดวงใจของท่านดัชเชสไงครับ วันนี้คือวันที่ท่านดยุคและท่านดัชเชสแต่งงานกัน วันที่ทั้งสองท่านจะประกาศให้ทุกคนล่วงรู้ว่าทั้งสองท่านเป็นครอบครัวเดียวกันโดยสมบูรณ์..”คราแรกที่ท่านดัชเชสบอกกับเขาว่างานของเขามันคือการเป็นพี่เลี้ยงเด็ก บอกตามตรงว่าโลแวนกังวลมากๆ เพราะเขากับเด็กไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ เขาเติบโตมาในเส้นทางที่เปียกปอนไปด้วยเลือด ต้องต่อสู้เท่านั้นถึงจะมีชีวิตรอด ต้องดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองได้หายใจต่อไป..แล้วเขาจะมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กได้ยังไงกันแต่เมื่อเขาได้พบเจอคุณหนูทั้งสอง มันเหมือนกับว่าโลแวนได้พบเจอนางฟ้าและเทพบุต