ทันทีที่เสิ่นชิงเวยพูดจบ บัณฑิตและขุนนางทุกคนก็ต่างพากันขยับหนีทันที นึกว่าจะมาดูเรื่องสนุกกลายเป็นต้องเสียเงิน สุดท้ายเสิ่นชิงเวยก็ได้มาสามพันตำลึงเบาๆ อีกทั้งยังกระตุกหยกห้อยเอวจ้าวเหวินและปิ่นหยกผีเสื้อของหลิวเสี่ยวเหยียนมาได้อีกด้วย
ไม่ทันพ้นประตูบ้านก็ได้ยินเสียงโหยหวนของป้าฝางดังมาจากนั้นก็ได้ยินเสียงพ่อบ้านเผยเอ่ยเสียวเข้มเพื่อจงใจให้นางได้ยิน
"โบยให้ครบร้อยไม้ เอาไปทิ้งสุสานไร้ญาตบังอาจคิดไม่ชื่อกับท่านแม่ทัพ"
เสิ่นชิงเวยต้องหาทางไปจากที่นี่ ผู้ชายคนนี้ใจแคบ ไม่ฟังเหตุผล หาทางกลับบ้านก่อนค่อยว่ากัน
เมื่อมาถึงบ้านน้องชายกับน้องสาวก็นั่งหลับรอนางทั้งคืนแต่เหตุใดมานั่งอยู่หน้าประตูบ้าน ในบ้านผู้คนพลุกพล่านนัก ทันทีทีที่เห็นนางก็วิ่งมากอด
เสิ่นชิงเวยกำลังปลอบใจน้องๆ ชายวัยกลางคนก็เดินมาหานางก่อนจะเอ่ย
"แม่นนางเสิ่น ข้าคือเถ้าแก่พ่านแม่นางเสิ่นจำข้าได้หรือไม่"
เสิ่นชิงเวยมองหน้าบุรุษตรงหน้า พยายามเค้นความทรงจำของร่างเดิมก็จำบุคคลคนนี้ได้ เขาเป็นเถ้าแก่ซื้อขายบ้านหรือเช่าบ้านในเมืองหลวง สมัยก่อนบิดาของร่างเดิมเคยคบค้าสมาคมกับเขาอยู่พอสมควร แต่สนิทถึงขั้นไหนนั้นนางไม่อาจรู้
"ท่านลุงพ่าน บังเอิญจังได้เจอท่านวันนี้ อาของข้านำไปจำนองท่านไว้หรือเจ้าคะ"
"เอ้อ นายท่านรองติดการพนันเขาไม่เพียงจำนำบ้านหลังนี้ ได้ข่าวว่าให้คนวาดรูปของท่านให้กับขุนนางเฒ่าคนหนึ่งในเมืองหลวงเพื่อต้องการขายท่านไปเป็นอนุ รวมถึงน้องสาวท่านด้วยได้ยินมาว่าเพียงแค่เห็นรูปวาดของท่านพวกเขาจ่ายถึงห้าพันตำลึงสำหรับท่านสองคนพี่น้อง ส่วนน้องชายท่านพวกเขาจ่ายอีกสองพันเพื่อส่งไปแคว้นลู่ ที่นั่นได้ยินว่าองค์ชายรองชอบบุรุษหนุ่มหน้าตาดี ข้าเองก็แค่คนกลางในการซื้อขายบ้าน แม่นางเสิ่นใต้เท้าเสิ่นชวนเคยช่วยข้าหลายครั้ง วันนี้บอกกล่าวท่านเพื่อให้ระวังตัว หากหาทางออกจากเมืองหลวงได้จงอย่ากลับมา"
พ่านจื่อส่งตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงให้แก่นาง ก่อนจะบอกว่าเขาเตรียมรถม้าไว้ให้นางแล้ว ให้รีบออกเดินทาง บ่ายวันนี้ใต้เท้าเหลียนจะส่งคนมารับนางกับน้องสาว เสิ่นชิงเวยเกลียดอารองของร่างเดิมนัก นางรับเอาตั๋วเงินมาก่อนจะกล่าวขอบคุณ เสิ่นชิงเวยเก็บของใช้บางอย่าง ป้ายฐานะรวมถึงป้ายวิญญาณบิดามารดา จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดบุรุษก่อนจะจับน้องทั้งสองคนเปลี่ยนเป็นชุดบุรุษ ตั๋วเงินถูกเย็บใส่ในชอบชายเสื้อกับกางเกง นางเหลือเงินติดตัวเพียงห้าพวงกับตั๋วเงินห้าตำลึงสองใบ
เมื่อถึงเวลาก็ออกทางหลังจวน ยามอู่แล้วสามพี่น้องพากันเดินเลาะชายแม่น้ำหลังเมืองหลวงไปยังรถม้าที่พ่านจื่อจอดรอ ทั้งสามนั่งพักอยู่ที่ร้านน้ำชาเก่าๆของสองตายายคู่หนึ่ง ได้ยินเสียงพวกเขาคุยกัน
"ได้ข่าวว่าเมื่อคืนมีสตรีคิดปีนเตียงท่านแม่ทัพ ป้าฝางหญิงชราที่ส่งนางไปขึ้นเตียงถูกโบยจนตาย"
"วันนี้มีประชุมเช้า แต่ท่านแม่ทัพให้คนไปสืบแล้ว สตรีนางนั้นจะถูกโยนไปเป็นนางบำเรอกองทัพหรือถูกแส้ฟาดจนตายกันแน่"
"เฮ้อ หากเป็นข้าคงยอมตายดีกว่า เป็นนางบำเรอกองทัพยิ่งกว่าตกนรกเสียอีก วันหนึ่งต้องหลับนอนกับทหารกลัดมันเหล่านั้น นางโลมในหอโคมเขียวยังดีกว่าเสียอีก"
เสิ่นชิงเวยที่กำลังยกน้ำชาขึ้นดื่มถึงกับสำลักจนน้องสาวต้องลูบหลังให้นาง เสิ่นชิงเวยยิ้มให้น้องสาวก่อนจะจ่ายเงินแล้วพากันออกไป เสิ่นชิงเวยเดินไปหาคนรับเขียนคำร้องก่อนจะจ่ายเงินแล้วเขียนข้อความส่งให้กับคนรับส่งข่าวสาร นางไม่อยากให้ลุงพ่านเดือดร้อน
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็เอาดินมาทาหน้าตนเองกับน้องๆ เสื้อผ้าทาด้วยดินสกปรกมอมแมม จากนั้นก็ไปรวมกับบรรดาขอทานที่กำลังจะถูกผลักให้ออกนอกเมืองหลวง ไม่นานนางกับน้องก็มาอยู่ตรงกลางกลุ่มผู้อพยพ เสียงร่ำไห้ระงม ชาวบ้านเหล่านี้หนีภัยพิบัติมา แต่กลับถูกผลักดันให้ออกจากเมืองหลวง ต้องไปอดอยากฮ่องเต้ทำอะไรกัน คนเหล่านี้มิใช่ราษฎรต้าหลี่หรอกหรือ
"ฮือๆๆ ใต้เท้าท่านนี้ ข้าไม่มีบ้านให้กลับแล้วอย่าไล่พวกเราไปเลย"
"ฮือ นั่นสิใต้เท้าอย่าไล่พวกเราไปเลยนะขอรับ พวกข้าหนีมาเพราะสงครามตอนนี้ไม่มีที่ทำกินแล้ว"
เหล่าผู้อพยพต่างร้องขอแต่ทหารยามกลับเงื้อทวงเตรียมจ้วงแทงคนที่มาเกาะขอเขา แต่กลับถูกขวางไว้จากทหารด้วยกัน
ทหารพากันผลักดันเหล่าผู้ลี้ภัยออกไป เสิ่นชิงเวยจับมือน้องๆแน่น ขอเพียงพ้นประตูเมืองได้นางก็จะเป็นอิสระ นางไม่รู้เลยว่าตอนนี้คนที่นางต้องการหนีมากที่สุดกำลังให้คนไปสืบเรื่องของนางแล้ว
"พี่ใหญ่ท่านหายไปทั้งคืนเลย เหนื่อยมากไหมเจ้าคะ"
"อืมไม่เหนื่อย ว่าแต่คนมากมายมาทำอันใดกัน"
"พวกเขามายึดบ้าน บอกว่าท่านพ่อติหนี้ ไล่พวกเราออกมาอยู่ข้างนอกเจ้าค่ะ"
"อยู่ที่นี่เดี๋ยวพี่มา"
เมื่อไปสอบถามจึงรู้ว่าอาของพวกนางเสิ่นชิวติดหนี้พนันเอาบ้านหลังนี้ไปจำนอง เสิ่นชิงเวยจึงขอเวลาพวกเขาสามวันเพื่อย้ายออก ขอเวลาหาบ้านเช่าให้ได้ก่อน จากนั้นก็เดินมาหาน้องชายน้องสาวยิ้มให้
"เราจะย้ายไปที่อื่น คืนนี้ไปนอนโรงเตี้ยมกันพี่ขอเวลาพวกเขาเก็บเสื้อผ้าของใช้"
เด็กทั้งสองพยักหน้าเสิ่นชิงเวยก็ลูบศรีษะพวกเขา พี่สาวเจ้าจากไปแล้วต่อไปนี้ ข้าจะดูแลพวกเจ้าแทนนางเอง
จวนอ๋องนอกเมืองผ่านมาห้าเดือนแล้วนับตั้งแต่วันที่ฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์ ราษฎรต่างร่มเย็นเป็นสุข ทุกวันจะมีคนสรรเสริญฮ่องเต้องค์ใหม่กับฮองเฮาไม่หยุด ที่ดินที่เสิ่นชิงเวยรับขวัญสะใภ้ใหญ่ ท่านตาของนางมาปรึกษากับแม่สามีว่าควรทำตลาดแบบใดเสิ่นชิงเวยให้เขาทำตลาดค้าส่ง และตลาดค้าปลีก อีกด้านทำถนนคนเดิน และตลาดโต้รุ่ง จากนั้นก็ให้เขาปล่อยเช่าที่ดินให้กับคนที่จะสร้างโรงเตี๊ยมหรือเหล่าอาหารเสิ่นชิงเวยกำลังวาดแบบร่างอยู่ เผยซ่างกวนเห็นร่างที่อุ้ยอ้ายกำลังทำงานก็เดินมาหาก่อนจะแย่งพู่กันจากในมือนางมาแล้วอุ้มร่างอุ้ยอ้ายไปนั่งบนที่นอนหนานุ่ม"ใกล้คลอดแล้ว อย่าเหนื่อยนักเลยวันๆ เคยหยุดพักบ้างหรือไม่""หม่อมฉันร่างสัญญาเช่าที่ดินให้กับเหลียนเอ๋อร์อยู่เพคะ จริงสิทรงให้คนไปติดต่อพ่อค้าเร่ได้ความเช่นไรบ้างเพคะ""พวกเขายินดีจะมาร่วมเป็นพันธมิตรอะไรที่เจ้าว่านั่นแหละ ว่าแต่ทำไมถึงสร้างตลาดใหญ่โตเหลือเกินเว่ยเว่ย แปดร้อยหมู่เชียวนะ""ท่านอ๋อง...หากมีตลาดก็มีพ่อค้า เมื่อมีพ่อค้าก็มีลูกค้า เมื่อมีลูกค้าคนก็มีการสร้างงาน เมื่อมีการสร้างงานก็ต้องหาคน เมื่อนั้นชาวบ้านก็มีงานทำ ชาวบ้านที่ไม่มีเงินไม่ม
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยจ้าวเผยหยวนฮ่องเต้พระองค์ใหม่และเสิ่นชิงผิงฮองเฮาพระองค์ใหม่ก็เสด็จออกมาพร้อมกัน ทั้งสองคนนั่งบนบัลลังก์มองลงมายังขุนนางที่ร่วมกันฝ่าฟันและเปลี่ยนแปลงการปกครองหลายอย่าง ฮ่องเต้กล่าวเปิดงานเลี้ยงจากนั้นทุกคนก็เริ่มดื่มกิน ได้ยินเสียงฝ่าบาทตรัสออกมา"จ้านอ๋อง ที่ผ่านมาต้องขอบใจท่านยิ่งนัก และพระชายาของท่านด้วย กฎหมายใหม่ที่ห้ามซื้อขายคนในครอบครัวเราทำสำเร็จแล้ว รวมถึงภาษีการปล่อยเช่าที่ดิน แม้จะถูกต่อต้านจากพวกคหบดีและขุนนางที่มีผลประโยชน์ไม่น้อย แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี""ล้วนเป็นเพราะพระปรีชาของพระองค์พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมกับพระชายาเพียงแค่ลองเสนอ แต่ทุกอย่างเป็นเพราะพระองค์ทรงผลักดันจนสำเร็จ""เราขอบใจขุนนางทุกคนที่อยู่ตรงนี้ที่ช่วยให้ต้าหลี่มีอำนาจและแสงยานุภาพจนอยู่เหนือแคว้นทั้งหลาย แม่ทัพเสิ่นเราขอบใจท่าน การเจรจากับแคว้นต่างๆ แม้บางคนจะต่อต้านการเจรจาครั้งนี้ อีกทั้งยังกล่าวหาว่าท่านอ่อนแอไม่กล้าสู้รบ แต่กลับกลายเป็นว่านอกจากไม่เสียเลือดเนื้อแล้วต้าหลี่ของเรายังได้ประโยชน์ไม่น้อย เรามีอาหารพวกเขามีเครื่องนุ่งห่ม มีแร่เหล็ก ไม่ต้องปล้นชิงไม่ต้องทำสงคราม แค่
ยามเหมากู้ชิงเหลียนตื่นก่อนนางจะลุกมาเตรียมน้ำล้างหน้าให้กับสามีแต่เช้า เผยจ้าวหยวนคว้าเอวบางรั้งให้นางลงมานอนข้างๆกอดนางเอาไว้ เขาพลิกกายเกยนางไว้ครึ่งตัวสบสายตาคู่งามก่อนจะจุมพิตเปลือกตา กู้ชิงเหลียนยอมให้เขาเชยชมจนพอใจ ร่างสูงทำท่าจะปลดอาภรณ์อีกครั้งแต่นางคว้ามือเขาเอาไว้"ท่านพี่..ยามเหมาแล้ววันนี้ต้องไปยกน้ำชาคารวะเสด็จพ่อกับเสด็จแม่นะเจ้าคะ จะสายไม่ได้""พี่ยังอยากรักเจ้าอีก""ให้เสร็จตามประเพณีก่อนนะเจ้าคะ ข้าไม่หนีท่านไปไหนหรอก ท่านลางานไว้เจ็ดวันมิใช่หรือคนหื่น""อยู่ใกล้เจ้าแล้วคิดอย่างอื่นไม่ออกเลย อยากรักแต่เจ้าคนดี""ลูกไม้ใต้ต้นจริงๆเชียว""หืม อะไรนะ หมายถึงพี่หรือ"กู้ชิงเหลียนหน้าแดงก่อนจะเอ่ยอ้อมแอ้มๆกับคนตัวโต"ข้าเคยได้ยินท่านพ่อเอ่ยกับท่านแม่บ่อยๆว่าจะมาหาเสด็จพ่อต้องดูฤกษ์ยามก่อน คนอะไรขยันรักเมียได้ทุกเวลาให้บ่าวไพร่ให้คนอื่นรอเป็นวันๆ บางครั้งไปแล้วไม่ได้อะไรกลับมาก็มีเพราะท่านอ๋องเอาแต่กักพระชายาไว้ในห้อง ท่านก็คงเหมือนเสด็จพ่อใช่หรือไม่เจ้าคะ""ฮ่าๆๆ คนงามสินสอดพี่ยาวกว่าเสด็จพ่อกับเสด็จอารัชทายาทอีกนะ เช่นนั้นพี่ต้องเก่งกว่าเสด็จพ่อสิ พร้อมไหมรับมือพี่ไหวหรือ
วันนี้เป็นวันมงคลของเผยจ้าวหยวนกับกู้ชิงเหลียน ทั้งคู่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กยามที่ท่านลุงหานมาหาท่านตากู้แต่งงานยียน ท่านป้าเซียวเซียวมักจะพาเด็กๆมาเล่นด้วยกัน ฉินเซียวเซียวแต่งงานกับกู้หานมีบุตรด้วยกันสี่คน กู้ชิงเหลียนเป็นบุตรสาวคนโต ยามนี้อายุสิบหกปีแล้วภายในห้องแต่งตัว เจ้าสาวสวมชุดเจ้าสาวสีเขียวแดงตามธรรมเนียม ข้างๆมีพัดที่ประดับสายไข่มุกห้อยเอาไว้ กู้ชิงเหลียนนั่งให้บรรดาแม่เฒ่าที่ครองรักยาวนานช่วยหวีผมให้ ฉินเซียวเซียวรอให้บุตรสาวแต่งตัวเรียบร้อยก็ให้ทุกคนออกไปรอข้างนอกก่อน"แม่เฒ่า หมัวมัวพวกท่านออกไปก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องจะสั่งบุตรสาวเป็นการส่วนตัวสักหน่อย""เจ้าค่ะฮูหยิน"เหล่าสตรีอาวุโสพากันออกไปจากห้องเนื่องจากทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เมื่อทุกคนออกไปเถาจื่อก็ปิดประตูแล้วยินเฝ้าอยู่ด้านนอก เพราะว่าฉูหยินมีเรื่องจะบอกกล่าวแก่คุณหนูใหญ่ กู้ชิงเหลียนมองหน้ามารดาอย่างมีคำถามก่อนจะเอ่ยออกไป"ท่านแม่...มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ เหตุใดดูท่านมีลับลมคมในนัก""เหลียนเอ๋อร์..แม่มีเรื่องอยากกำชับเจ้า รับปากแม่ได้หรือไม่""ท่านแม่บอกมาเถอะเจ้าค่ะ ลูกยินดีทำตามที่ท่านแ
รุ่งเช้าเสิ่นชิงเวยตื่นตั้งแต่ยามเหมาเพื่อมาเตรียมตัว วันนี้จวนอ๋องต้องไปส่งมอบสินสอดให้กับสกุลกู้ เผยจ้าวหยวนเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อคืน ปีหน้านางกับเขาก็จะแต่งงานกันแล้ว เสด็จแม่บอกว่ารอให้นางโตอีกสักปีเขาจึงรอมาจนถึงป่านนี้ด้านนอกหับสีแดงและกล่องเครื่องประดับวางเรียงราย วันนี้เป็นวันดีเผยจ้าวหยวนไปส่งสินสอด ยามบ่ายสกุลหยางเองก็จะมาเจรจาเรื่องหมั้นหมายระหว่างหยางเยี่ยเฟยกับเผยชิงเหลียนอย่างเป็นทางการเมื่อแสงทองจับขอบฟ้าเผยซ่างกวนก็ตื่นนอน ก่อนจะงัวเงียเดินมากอดภรรยาที่กำลังนั่งอ่านรายการสินสอดอยู่ นางมีบุตรให้เขาแล้วห้าคนเขาเคยโกรธเกลียดนางในครั้งแรกที่ถูกวางยา แต่เมื่อได้รับรู้ว่านางเองก็เป็นเพียงคนที่โชคร้ายที่บังเอิญผ่านเข้ามาในคืนนั้นเขาก็ตามหานางมาตลอด เผยซ่างกวนกอดนางก่อนจะฝังจมูกโด่งลงบนแก้มขาวนวล"ทำอะไรอยู่คนดี""ตรวจดูสินสอดของหยวนเอ๋อร์เพคะ หม่อมฉันเกรงว่าจะไม่ครบ ลูกชายเราแต่งงานทั้งที อีกอย่างเขาเคยประกาศหน้าพระพักตร์ฝ่าบาทเมื่อตอนที่ได้ห้าขวบว่าจะส่งสินสอดให้ชิงเหลียนยาวยี่สิบลี้ ให้ยาวกว่าของพวกเรากับของพระชายาไท่จื่อเสียอีกเพคะ คิกๆๆ"เสิ่นชิงเวยห
ยามเหมาเผยชิงหลานตื่นมาเพื่อดูอาการของหยางเยี่ยเฟยอีกครั้ง นางใช้หลังมือแตะหน้าผากของเขา ท่านหมอบอกว่าเขาอาจมีไข้กลางคืน เมื่อคืนเขาตื่นมาดื่มน้ำและยาลดไข้จากนั้นก็หลับจนกระทั่งถึงตอนนี้"พี่เยี่ยเฟย..พี่ได้ยินหรือไม่ข้าจะไปเตรียมตัวปัดกวาดสุสานท่านย่า ยามอู่จะเซ่นไหว้ข้าจะไปบอกหูเปียวให้มาดูแลท่านนะเจ้าคะ"หยางเยี่ยเฟยตื่นนานแล้วแต่เขายังไม่ลืมตา เมื่อได้ยินดรุณีน้อยตรงหน้าเอ่ยกับเขา หยางเยี่ยเฟยจึงค่อยลืมตาขึ้นราวกับคนที่เพิ่งตื่นนอนก่อนจะเอ่ยกับนางน้ำเสียงัวเงียเล็กน้อย"หลานเอ๋อร์ เจ้าตื่นเช้ายิ่งนัก เมื่อคืนนี้ลำบากเจ้าแล้ว""มิลำบากเลยเจ้าค่ะ หากไม่ได้ท่านข้างต้องฝังอยู่ที่นี่เสียแล้ว อีกอย่างข้าต้องไปปัดกวาดสุสาน วันนี้จะไหว้ท่านย่าน่ะเจ้าค่ะ""ให้พี่ไปช่วยดีหรือไม่ แค่กๆ""พี่พักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ มีท่านย่ารองกับท่านปู่อยู่ บ่าวไพร่มากมายนักอีกอย่างท่านบาดเจ็บเพราะช่วยเหลือข้าๆจะให้ท่านไปลำบากอีกได้อย่างไร"หยางเยี่ยเฟยมองหน้านางก่อนจะยิ้ม นางงามมากนักงามเหมือนท่านน้าเว่ยเว่ยจริงๆ เขาไม่เป็นอะไรแล้ว เดิมทีเขามีวรยุทธพิษงูนั่นก็ถูกเขาสกัดเอาไว้ก่อนท่านหมอจ