Share

บทที่ 15

ซูเนี่ยนมีคำตอบอยู่ในใจ ไม่กังวลถึงแม้ฉู่อี้หานจะอยู่ด้วย นางกระแอมเบาๆ

“เอ่อคือ…จะให้รับท่านเป็นศิษย์ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่ข้าเป็นพระชายา มีหลายสิ่งที่ไม่สะดวกนัก เรื่องนี้คงต้องขออนุญาตจากท่านอ๋อง หากท่านอ๋องตกลง ข้าก็ตกลง”

หมอหลวงหูได้ยินดังนั้นพลันรู้สึกมีหวัง แล้วหันไปมองฉู่อี้หานด้วยแววตาคาดหวัง เขาต้องนับซูเนี่ยนเป็นอาจารย์ให้ได้ เพราะเขามีความรู้สึกลึกๆ ว่าต่อจากนี้ ซูเนี่ยนจะต้องสร้างตำนานใหม่ให้กับวงการแพทย์อย่างแน่นอน

ฉู่อี้หานเม้มริมฝีปาก ซูเนี่ยนแสดงความปรารถนาดี และจงใจเปิดบัญชีออมใจนี้ให้กับเขา การที่มีหมอหลวงหูเป็นผู้ช่วย เป็นเรื่องดีมากสำหรับอ๋องหลี

“ข้าอนุญาต แต่เรื่องนี้ห้ามแพร่งพรายออกไป เจ้ามีอะไรก็มาหาพระชายาที่จวนอ๋องเป็นพอ” ฉู่อี้หานพยักหน้า

“ไอ้หยา ท่านอาจารย์ผู้สูงส่งได้โปรดรับการคำนับจากศิษย์ผู้นี้ด้วยเถิด” หมอหลวงหูประสานมือ แล้วทำความเคารพให้กับซูเนี่ยน แม้นอายุของเขาจะมาก แต่ทว่ามารยาทห้ามเสื่อม

“เอาล่ะๆ” ซูเนี่ยนรับการคำนับ แล้วหันกลับไปหยิบยาจากกล่องยามาเม็ดหนึ่ง เดินไปข้างโต๊ะพร้อมเขียนสูตรลงบนกระดาษ

หมอหลวงหูตื่นเต้น

“นี่คือยาชากับสูตรปรุงยาชา เจ้านำไปศึกษา ไม่เข้าใจค่อยมาถามข้าที่จวนอ๋อง” ซูเนี่ยนมอบของให้กับหมอหลวงหู

“พ่ะย่ะค่ะๆ เช่นนั้นข้าน้อยไม่รบกวนแล้ว ข้าน้อยขอตัวลาไปก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงหูถือสูตรปรุงยากับยาไว้ พร้อมหิ้วกล่องยาออกจากห้องไปอย่างมีความสุข

เมื่อมาถึงหน้าประตูพลันพบกับมั่วหลิง หมอหลวงหูทักทายเขาอย่างมีความสุข “องครักษ์มั่ว”

ทักทายเสร็จ หมอหลวงหูพลันเดินจากไปอย่างรวดเร็วราวกับเท้าติดลม

มั่วหลิงมึนงง หมอหลวงหูใจดีกับเขาเช่นนี้ เขาไม่คุ้นเคยเลยจริงๆ

เขาส่ายศีรษะ คิดถึงเรื่องสำคัญ มั่วหลิงเดินเข้าไปในห้องเอ่ยต่อฉู่อี้หานว่า “ท่านอ๋อง กระหม่อมมีเรื่องจะรายงานพ่ะย่ะค่ะ”

“เรื่องใด ว่ามา”

“เป็นเรื่อง…” มั่วหลิงเหลือบมองซูเนี่ยนแวบหนึ่ง กล่าวว่า “คุณ…คุณชายเจ้าก้อนน้อยขังตัวเองอยู่ในห้องตำรา ไม่ยอมกินไม่ยอมดื่ม ผู้ใดเข้าไป เขาก็จะตะโกนโวยวาย กระหม่อมหมดหนทางจึงมาถามท่านอ๋องว่าจะทำอย่างไรดี”

“ท่านอ๋อง องค์หญิงใหญ่ไร้กังวลแล้ว ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องง่าย ท่านบอกแล้วว่าจะสืบหาดีๆ ส่วนเรื่องหมอหลวงหู ถือเสียว่าเป็นของขวัญจากข้าแล้วกัน เห็นแก่เรื่องพวกนี้แล้ว ท่านอ๋องทรงคืนเสียวเป่าให้ข้าได้หรือไม่เพคะ” ซูเนี่ยนกังวลใจ ก่อนที่เรื่องทุกอย่างจะจบ นางจำเป็นต้องพึ่งฉู่อี้หานอยู่

“มั่วหลิง ไปที่ห้องตำรา”

“พ่ะย่ะค่ะ”

มั่วหลิงเข็นฉู่อี้หานออกไปข้างนอก ซูเนี่ยนเห็นดังนั้นจึงหยิบกล่องยาเดินตามออกไปด้วย

ฝีเท้าทุกคนเดินตรงไปยังห้องตำราของฉู่อี้หานโดยตรงไม่หยุดพัก

ทหารหน้าประตูเห็นฉู่อี้หานพลันคำนับไปทีหนึ่ง

ขณะที่ทุกคนกำลังจะเดินเข้าไปนั้น ก็มีเสียงซุบๆ ซิบๆ ดังออกมาจากข้างใน กำลังภายในของฉู่อี้หานสูงส่งจึงหยุดเท้าไว้ก่อน

เขาหมุนเก้าอี้ล้อไปที่ด้านข้างห้องตำรา ผู้คนตามมา เห็นเพียงรูเล็กๆ ตรงผนังกำแพงที่ไม่รู้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใด รูนั่นยิ่งอยู่ยิ่งใหญ่ขึ้น ขี้ดินค่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็นกอง หนูสีเทาตัวอ้วนตัวหนึ่งมุดออกมาจากกำแพง แล้วตามมาด้วยหนูสีเทาตัวอื่นๆ วิ่งออกมาชนเข้ากับกองขี้ดินเสียงดังจุ๊บจิ๊บ

มั่วหลิงเห็นสีหน้าของฉู่อี้หานแปลกไป กำลังจะขับไล่หนูพวกนั้นออก จู่ๆ ก็มีมือขาวๆ อ้วนป้อมคู่หนึ่งยื่นออกมาจากรูนั่น

เจ้าก้อนน้อยอ้วนป้อมส่งเสียงครวญครางราวกับหนอนผีเสื้อที่กำลังขยับขยุกขยิกค่อยๆ มุดออกมาจากรู เมื่อมุดมาได้ครึ่งตัว ก็ติดแหงกอยู่ในนั้น

รูปหน้าซาลาเปาของเจ้าก้อนน้อยเหี่ยวย่นเป็นก้อนกลม

ซูเนี่ยนกุมหน้าผาก หมดคำจะพูด ช่างขายหน้ายิ่งนัก

“หึ หนูตัวใหญ่เสียจริง”

เมื่อเสียงอันเย็นชาดังขึ้น ทำให้เจ้าก้อนน้อยอ้วนป้อมตกใจสะดุ้งยิ่งติดแหงกกว่าเดิม

“พรวด” ฉู่อี้หานอดไม่ได้หลุดหัวเราะออกมา

มั่วหลิงตะลึงงัน ท่านอ๋องไม่หัวเราะมาหลายปีแล้ว ครั้งนี้กลับหัวเราะเพราะเจ้าก้อนน้อยอ้วนป้อมคนหนึ่ง ไม่ว่าอย่างไร เห็นแก่ที่เจ้าก้อนน้อยสามารถทำให้ท่านอ๋องหัวเราะได้ เขาตัดสินใจว่าต่อจากนี้จะปฏิบัติตัวดีๆ กับเจ้าก้อนน้อยนี้สักหน่อย

“หัวเราะอะไรกัน” เสียวเป่าส่งสายตามองฉู่อี้หาน แล้วขบฟันอย่างรุนแรง

“หัวเราะที่เจ้าตัวอ้วนไงเล่า” ฉู่อี้หานเก็บรอยยิ้ม แล้วเยาะเย้ยเสียวเป่า

“อ้วนแล้วอย่างไร ข้ากินข้าวสารบ้านท่านหรือไรกัน ท่านแม่ข้าบอกแล้วว่า ที่ข้าอ้วนเพราะข้ามีวาสนา คนหลายคนอยากมีวาสนานี้ ก็มีไม่ได้ ท่านจะไปรู้อะไร ไม่มีความรู้เลยจริงๆ” เสียวเป่าเหลือบตามองฉู่อี้หาน แล้วเห็นซูเนี่ยนที่อยู่ข้างหลังกะทันหัน เขาเบะปาก ปั้นหน้าเศร้า

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status