ท่าทางการต่อสู้ของซูเนี่ยนแปลกประหลาด หลังจากที่ฉู่อี้หานแกล้งนางไปสักพักก็ไม่กล้าที่จะดูถูกฝีมือนางอีกแล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยทำตามกติกาเลยหลังจากที่ซูเนี่ยนทุบตีจนพอใจก็รู้สึกโล่งที่ได้ระบายความแค้น ไม่อยากที่จะมองฉู่อี้หานอีก คิดที่จะออกไปจากสระน้ำทันทีแต่นางไม่ทันสังเกตว่าผ้าม่านที่นางใช้พันร่างกายตรงหน้าอกไว้ค่อยๆ ร่วงหล่นลงจากการที่นางขยับร่างกายมากเกินไปผ้าม่านนั้นได้ล่วงลงในจังหวะเดียวกันกับที่ซูเนี่ยนหมุนตัวเดิมทีฉู่อี้หานที่คิดจะคว้าตัวนางไว้ก็ต้องนิ่งอึ้งไปกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้าซูเนี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะ นางรีบหันไปมองฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่อย่างตกใจในหัวสมองของฉู่อี้หานตอนนี้ถูกเจ้าลูกกลมๆ เด้งๆ สองลูกทำเอาเบลอไปหมด ในหัวสมองมีแต่สองคำนี้วนเวียนอยู่ใหญ่...มาก..."อ๊า!"ซูเนี่ยนกรี๊ดออกมาเสียงดัง รีบเอาผ้าม่านกลับมาพันไว้ทันที นางไม่อาจอดกลั้นความโกรธในใจได้อีกต่อไปเตะขาออกไปอย่างแรง จนฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่ต้องล้มลงไปในน้ำ"ข้าจะตีท่านให้ตาย ข้าจะทำให้ท่านจมน้ำตายไปเลย! ลามก! สารเลว!"เสียงตะโกนอย่างโกรธจัดของซูเนี่ยนดังขึ้นไม่หยุด นางกำนัลสองคนที่เฝ
มั่วอีค้อมตัวเล็กน้อย เหตุใดใบหน้าของท่านอ๋องถึงมีรอยช้ำได้นะ?ไม่ต้องถามก็รู้ได้ว่าพระชายาคงเป็นคนต่อยแน่ หรือว่าท่านอ๋องทำเรื่องอะไรไม่ดีกับพระชายาอีกแล้วเหรอ?มั่วอีคิดอย่างใจลอย เมื่อสายตาเย็นเยียบของฉู่อี้หานมองมา มั่วอีจึงต้องเร่งมือขึ้นอีกเขาเข็นฉู่อี้หานออกจากบ่อน้ำร้อน อ๋องคังกำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่ที่หน้าประตูเมื่อเห็นหน้าของฉู่อี้หานเขาก็ดีใจ แต่เมื่อเห็นรอยช้ำบนใบหน้าเขาก็ต้องยืนอึ้งอยู่อย่างนั้นใครกันที่ไม่กลัวตายแอบลอบทำร้ายเสด็จพี่! ใครกันที่บังอาจขนาดนี้ เขาจะต้องไปพบสักหน่อยแล้ว"ฮ่าๆๆ เสด็จพี่ มะ มุมปากท่าน" อ๋องคังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ใบหน้าเย็นชา มีแผลมาประดับไว้ ช่างดูมีสีสันเหลือเกินแค่รู้สึกตลกไปสักหน่อย"มั่วอี พาท่านอ๋องคังไปประลองดาบที่เรือนหน่อยสิ ไม่ต้องรุนแรงมากล่ะ อย่าได้รบกวนไทฮองไทเฮา ข้าอยากจะรู้ว่าหลายปีนี้ท่านอ๋องคังมีฝีมือดีขึ้นบ้างไหม" ฉู่อี้หานหรี่ตาลง มองไปที่อ๋องคังอย่างน่ากลัว เขาอยากจะยกมุมปากขึ้นเหลือเกิน แต่ก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา ฉับพลันความโกรธก็ฉายขึ้นมาในแววตายัยซูเนี่ยนนั่น ไม่ออมมือเลยสักนิด"เอ่อ ฮ่าๆๆ" เดิมทีอ๋องคังก
"หึ" แววตาของฉู่อี้หานค่อนข้างร้อนแรง ซูเนี่ยนรู้สึกตกใจจนต้องชักมือกลับไป"ข้าเห็นเจ้าเปลือยหมดแล้ว เจ้าเองก็เห็นข้าเปลือยหมดแล้วไม่ใช่เหรอ ข้ายังไม่เอาเรื่องที่เจ้ามองข้าเลยนะ" น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้นอีกครั้ง สายตาของฉู่อี้หานจับจ้องไปที่ใบหน้าเล็กๆ ขาวสะอาดของซูเนี่ยน"หุบปากนะ!" ซูเนี่ยนหน้าดำ นางเห็นเขาเปลือยตั้งแต่เมื่อไรกัน?"ท่านอ๋อง พระชายา ไทฮองไทเฮาตื่นแล้วเพคะ" ในขณะที่ซูเนี่ยนกำลังจะพูดอะไร แม่นมไป๋ก็เดินเข้ามาหาทั้งสองคนด้วยความดีใจ"ตื่นแล้ว? ไปดูสิ" ซูเนี่ยนพยักหน้า ดูจากเวลา ตอนนี้ไทฮองไทเฮาก็ควรจะตื่นแล้วซูเนี่ยนเดินอยู่ด้านหน้า ฉู่อี้หานเข็นเก้าอี้ล้อตามมาอยู่ด้านหลัง พวกเขาเดินอย่างรีบร้อนเข้าไปในตำหนักของไทฮองไทเฮาตอนนี้ไทฮองไทเฮากำลังนั่งเอนหลังกินข้าวต้มเปล่าด้วยการดูแลของนางกำนัลอยู่บนศรีษะของนางไม่มีเครื่องประดับผมใดๆ สีหน้าขาวซีด ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่ใบหน้าเล็กมาก เห็นได้ชัดว่าในตอนสาวๆ ก็เป็นหญิงงามคนหนึ่ง"ไทฮองไทเฮา ท่านอ๋องหลีกับพระชายาหลีมาแล้วเพคะ" แม่นมไป๋พูดรายงานอย่างนอบน้อม"ไม่กินแล้ว" ไทฮองไทเฮาโบกมือให้กับนางกำนัล ข้าวต้ม
ซูเนี่ยนกรอกตาบน ครั้งแรกเลยที่ได้เห็นคนระลึกความหลังกันแบบนี้กลิ่นยาสมุนไพรลอยมา ขอบตาแดงๆ ของฉู่อี้หานค่อยๆ จางหายไป กลับมาสดใสอีกครั้ง เมื่อเห็นซูเนี่ยนมองค้อนเขาทีหนึ่ง เขาก็กลับมามีสติอีกครั้งมีพวกเราอยู่ก็มีความหวังอย่างนั้นเหรอ?ประโยคนี้ตอนนั้นดูเหมือนเสด็จแม่ของเขาก็เคยพูดไว้ เหตุใดซูเนี่ยนถึงได้พูดประโยคเดียวกัน?เพลงเซียวเซียงเยียนอวี่ที่ซูเนี่ยนเล่นใรงานชมดอกท้อ ความจริงแล้วเป็นบทเพลงที่เสด็จแม่ของเขาเคยบรรเลงร่วมกับลู่เจียว พวกเขาทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก วิธีการดีดพิณก็เหมือนกันในหลายจุดซูเนี่ยนไม่เพียงสามารถดีดพิณได้ วิธีการดีดยังได้รับการสืบทอดมาจากลู่เจียว ครั้งก่อนเขาได้ยินแล้วตอนอยู่อีกเรือน แถมยังส่งมั่วอีไปแอบดูมาแล้วด้วยเขาอยากฟังอีกสักครั้งจัง"ท่านอ๋อง รบกวนหลีกทางหน่อย" ซูเนี่ยนโบกมือไล่ฉู่อี้หานอย่างรำคาญแม่นมไป๋ที่อยู่ด้านหลังรีบเข็นฉู่อี้หานออกไปด้านข้างทันทีไทฮองไทเฮาเม้มปาก มองดูซูเนี่ยนที่ดึงมือของตัวเองไป ความจริงนางค่อนข้างตื่นเต้น เพราะว่านางไม่อยากกินยา และไม่อยากฝังเข็มซูเนี่ยนจับชีพจรให้ไทฮองไทเฮาอย่างละเอียด ทั้งยังตรวจดู
“เพียะ”เสียงตบดังขึ้น ซูเนี่ยนลืมตาขึ้น เห็นกลุ่มหญิงวัยกลางคนผู้เป็นบ่าวรับใช้ที่สวมใส่ชุดโบราณห้อมล้อมเธออยู่“เพียะ”เสียงตบดังขึ้นอีกครั้ง และคราวนี้ซูเนี่ยนสะดุ้งตื่นขึ้นทันทีเธอจำได้แม่นว่าเธอกำลังทำการทดลองศึกษายาต้านการอักเสบชนิดพิเศษตัวต่อไปที่กำลังจะออกขาย แต่คาดไม่ถึงเลยว่าเธอจะถูกผู้ช่วยของเธอแทงจนตายเสียก่อนอะไรเนี่ย นี่เราเดินทางข้ามมิติเวลามางั้นหรือ!“พระชายาเพคะ บ่าวขอให้พระชายาหยุดดิ้นรนและเอาเด็กในท้องออกแต่โดยดีเสียเถอะเพคะ จวนท่านอ๋องนี้ไม่มีที่สำหรับลูกนอกคอกหรอกนะเพคะ”คนตรงหน้าซูเนี่ยนคือผู้หญิงแต่งกายในชุดหัวหน้าบ่าวรับใช้คนหนึ่งถือถ้วยยาอยู่ในมือ และจ้องมองซูเนี่ยนด้วยสายตาดูถูกพระชายา? เด็ก?ซูเนี่ยนก้มศีรษะลง เหลือบมองท้องที่นูนป่องของเธอ มุมปากกระดกขึ้น ย้อนเวลามาแล้วยังมีเด็กติดมาด้วยหรือนี่!เมื่อมองดูท้องป่องของตน ซูเนี่ยนคิดอยากจะเอื้อมมือไปลูบ เธอจึงเพิ่งรู้ตัวว่ามือทั้งสองข้างของเธอถูกหญิงรับใช้จับขึงไว้ทันใดนั้น ความทรงจำแปลกๆ ก็พรั่งพรูออกมาเจ้าของร่างเดิมเป็นพระชายาเอกของฉู่อี้หาน ผู้ชนะศึกสงครามแห่งราชวงศ์สุย แต่นางไม่ได้เป็นที่โ
"พระชายา" มีเสียงอันอ่อนแรงดังลอยมาจากมุมข้างๆ นั่นก็คือเฟิ่งเอ๋อร์ สาวใช้แต่งเข้าบ้านตามเจ้าของร่างเดิม และเป็นเพียงคนเดียวที่ดีกับเจ้าของร่างเดิมด้วยใจจริง"พระ…พระชายา นี่เป็นคำสั่งของหมัวมัว ไม่เกี่ยวกับพวกเรานะเพคะ" สาวใช้สองคนที่จับฟิ่งเอ๋อร์ไว้ตัวสั่นเทา แล้วปล่อยตัวเฟิ่งเอ๋อร์ เพราะกลัวว่าตนจะถูกเฆี่ยนตี พวกนางไม่เข้าใจว่าพระชายาที่อ่อนแอมาโดยตลอดเหตุใดถึงได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเช่นนี้"พระชายาผู้เปี่ยมล้นไปด้วยบารมี อะไรกัน แค่นี้ก็อดทนอดกลั้นไม่ได้แล้วหรือ" เสียงอันมืดมนเย็นเยียบดังมาจากด้านหลัง ซูเนี่ยนไม่ทันได้โต้ตอบอะไร ตัวนางก็ถูกบีบคอเสียแล้ว"แค่กแค่ก ปล่อยนะ" ซูเนี่ยนตบมือใหญ่ที่บีบคอตนเอาไว้"ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง ช่วยบ่าวด้วย พระชายาต้องถูกวิญญาณร้ายสิงอยู่เป็นแน่ พระองค์ต้องให้ความเป็นธรรมกับบ่าวนะเพคะ"หลิวหมัวมัวพุ่งไปหาท่านอ๋องแล้วสะอื้นไห้ทั้งน้ำมูกและน้ำตา นึกไม่ถึงเลยว่าจะถูกองครักษ์ของฉู่อี้หานเตะออกไป นางหวาดกลัวจนไม่กล้าอาละวาด ฉู่อี้หานพินิจมองใบหน้าของซูเนี่ยนอย่างละเอียด ราวกับต้องการมองทะลุผ่านใบหน้าของซูเนี่ยนเข้าไป"แค่กแค่ก ท่านอ๋อง...ผู้สง่างาม นึก
"ตุ้บ" ซูเนี่ยนถูกโยนลงบนเตียงที่อยู่ในเรือนลั่วสุ่ย บาดแผลบนร่างกายฉีกขาด ที่หน้าผากของซูเนี่ยนมีเหงื่อไหลออกมาเรือนลั่วสุ่ยถูกปล่อยทิ้งให้ร้าง ไม่มีผู้ใดปัดกวาดเช็ดถูจึงเต็มไปด้วยฝุ่น อีกทั้งยังมีกลิ่นอับด้วย สาวใช้ทั้งสาวและแก่ต่างก็รังเกียจกัน สายตาที่มองดูซูเนี่ยนก็ดูเหยียดหยามมากยิ่งขึ้น"ถุ้ย ถึงอย่างไรก็เป็นสตรีสูงศักดิ์ สิ่งที่ทำลงไปกลับเทียบคนในเรือนโกวหลานไม่ติดเลยสักนิด สมควรแล้วจริงๆ"ใบหน้าของหลิวหมัวมัวบวมแดง แต่พอเห็นสภาพที่จนตรอกของซูเนี่ยนแล้ว ก็ถ่มน้ำลายอย่างภาคภูมิใจ"หุบปาก เจ้าเป็นใครกันถึงได้มาสั่งสอนข้าที่เป็นพระชายา ต่อให้ข้าไม่ดีอีกสักเพียงใด ข้าก็เป็นคนของราชวงศ์อวี้เตี๋ย ทั้งยังเป็นพระชายาด้วย"ซูเนี่ยนจ้องมองหลิวหมัวมัวด้วยสายตาที่เย็นชา ไอสังหารผุดขึ้นที่นัยน์ตาของนาง"อุ้ย บ่าวลืมไปเลยว่าท่านยังเป็นพระชายาอยู่ เช่นนั้นบ่าวไม่รบกวนพระชายาแล้วเพคะ ท่านก็อยู่ที่เรือนลั่วสุ่ยนี่ไปตามยถากรรมเถิด ท่านอ๋องสั่งการมาแล้ว ไม่ว่าท่านต้องการอะไร ก็ไม่ต้องเอาให้ท่านทั้งนั้น"หลิวหมัวมัวรับรู้ได้ถึงสายตาอันเย็นชาของซูเนี่ยนจนรู้สึกสั่นสะท้าน แต่ไม่นานก็ได้ตอบ
สามปีต่อมา ณ จวนอ๋องหลีวันนี้ที่จวนอ๋องหลีครึกครื้นเป็นอย่างมาก เหล่าคนรับใช้เข้าๆ ออกๆ บริเวณหน้าประตูแขวนโคมไฟสีแดงเอาไว้ มีผ้ามงคลพาดอยู่บนวงกบประตู พวกสาวใช้และเด็กรับใช้ต่างก็แต่งกายเนื่องในโอกาสอันน่ายินดีนี้ด้วยเช่นกัน ใบหน้าเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขพรุ่งนี้เป็นวันที่จวนอ๋องหลีจะรับพระชายารองเข้ามา ว่ากันตามหลักแล้วการที่พระชายารองเข้าจวนมาไม่ใช่เรื่องสูงส่งอะไร แต่นั่นเป็นถึงสตรีโฉมงามอันดับหนึ่งในต้าสุย และเป็นคนที่อยู่ในใจของท่านอ๋องเชียวนะ เอาใจพระชายารองก็เหมือนกับได้เอาใจท่านอ๋อง เหล่าคนรับใช้จึงพยายามทำงานให้ดีที่สุดแน่นอนว่า พวกเขาลืมไปเลยว่าในจวนอ๋องยังมีพระชายาเอกอยู่ในจวนอ๋องที่กว้างใหญ่ ทุกคนกำลังยุ่งทั้งภายในและภายนอกไม่มีใครสังเกตเห็นร่างกลมๆ เล็กๆ ที่อ้อมจากลานหลังมายังห้องครัวอย่างรวดเร็ว พวกมันม้วนตัวหลบอยู่ในพงหญ้าแล้วมองออกไปด้านนอก ข้างๆ ยังมีหนูสีเทาตัวอ้วนติดตามมาด้วย“ไอ้หยา แย่แล้ว แย่แล้ว ไฟไหม้ห้องครัวแล้ว รีบมาดับไฟเร็วเข้า”หญิงรับใช้วัยกลางคนที่ทำอาหารใบหน้าเปื้อนขี้เถ้า ในมือยังคงถือมีดทำครัวอยู่ พยายามพุ่งออกจากห้องครัวอย่างสุดกำลังควันที่