Share

บทที่ 5

หนึ่งเค่อ[footnoteRef:1]ต่อมา ในที่สุดจวนอ๋องก็สงบลง [1: เค่อ หน่วยบอกเวลา 1 เค่อ เท่ากับ 15 นาที]

แต่เรื่องทุกอย่างมันวุ่นวายไปหมด ชุดของสาวใช้และเด็กรับใช้ต่างก็ยับยู่ยี่ บางคนที่ถูกหนูกัด ชุดก็เป็นรูอีกด้วย เมื่อครู่มีความสุขแค่ไหน ตอนนี้ก็รู้สับอับอายมากเท่านั้น ทั่วทั้งจวนอ๋องเหมือนกับถูกปล้นอย่างไรอย่างนั้น

อกของฉู่อี้หานกระเพื่อม เห็นได้ชัดว่าเขาโมโหมาก

"เหตุใดถึงเลี้ยงกระต่ายไว้ในจวน เอากระต่ายเหล่านี้ออกไปนอกจวนซะ"

เมื่อเห็นว่ามั่วอียังถือกระต่ายอ้วนนั่นไว้อยู่ ฉู่อี้หานจึงกล่าวด้วยความโกรธ

"ท่านอ๋อง กระต่ายตัวนี้นำมาตุ๋นเป็นอาหาร อ๋องคังบอกว่าจะมากินเนื้อกระต่ายตุ๋นน้ำแดง" มั่วอีรู้สึกไม่สบายใจ อ๋องคังเป็นโอรสองค์ที่หกของจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน เขาตามติดฉู่อี้หานมาตั้งแต่เด็ก เป็นองค์ชายเพียงคนเดียวที่ได้ใกล้ชิดกับฉู่อี้หาน

"กินอะไรกันนักหนา ต่อไปไม่อนุญาตให้อ๋องคังมาหาแล้ว"

"ท่านอ๋อง ท่านเองก็ชอบทานเหมือนกันไม่ใช่หรือ" มั่วอีลูบปลายจมูกพลางพึมพำเบาๆ ฉู่อี้หานเหลือบมองด้วยสายตาที่เฉียบคม มั่วอีจึงรีบก้มหน้า

"ท่านอ๋อง กระหม่อมไร้ความสามารถ ตรวจสอบไม่เจอว่าเรื่องหนูเป็นฝีมือใคร เพียงแต่..."

มั่วหลิงเดินเข้ามาจากข้างนอก แล้วโค้งคำนับฉู่อี้หาน

"เพียงแต่อะไร" ฉู่อี้หานหรี่ตาลง

"ทั่วทั้งลานในจวนอ๋องเต็มไปด้วยหนู มีเพียงเรือนลั่วสุ่ยที่พระชายาอาศัยอยู่เท่านั้นที่ไม่ได้รับผลกระทบอะไรแม้แต่น้อย"

ฉู่อี้หานครุ่นคิดอย่างอะเอียด เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าสามปีก่อนเขากักตัวซูเนี่ยนไว้ที่นั่น ที่โบยนางไปยี่สิบไม้นั้นไม่ได้คร่าชีวิตนางไป ต่อมาเขาก็ไม่ได้สนใจ แต่ก็ไม่ได้ต้องการชีวิตของนาง นางผู้นี้ช่างดวงแข็งยิ่งนัก

พรุ่งนี้เขาจะแต่งหรันเอ๋อร์เข้ามาในจวน วันนี้กลับเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นขนาดนี้

"ไป ไปเรือนลั่วสุ่ย" ท่าทางของฉู่อี้หานแลดูเย็นชา เขาล่ะอยากจะรู้นักว่าสตรีผู้นั้นจะมีอะไรที่ผิดแผกไปกันแน่

"พ่ะย่ะค่ะ" มั่วอีเข็นฉู่อี้หานไปยังเรือนลั่วสุ่ย

สายลมของฤดูใบไม้ผลิเดือนเมษาพัดมากระทบร่างของผู้คน ทำให้รู้สึกสบายเป็นอย่างยิ่ง เรือนลั่วสุ่ยนั้นสะอาดเป็นระเบียบ แตกต่างจากลานด้านในของจวนอ๋องที่เสียงดังวุ่นวายมาก

ภายในลานแบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนนึงปลูกหวาย ดอกมะลิ และเก๊กฮวย ซี่งดอกไม้ชนิดนี้สามารถใช้ปรุงยาได้ อีกส่วนหนึ่งก็ใช้ปลูกผักเอาไว้เล็กน้อย และส่วนสุดท้ายก็ใช้ปลูกสมุนไพรที่พบเห็นได้ทั่วไป อย่างเช่น สาระแหน่ ไป๋เสา ผักกาดน้ำเล็ก เป็นต้น

แม้จะมีหลายชนิด แต่กลับดูไม่สะเปะสะปะแม้แต่น้อย ถึงขนาดทำให้คนรู้สึกถึงความพิเศษ เหมือนครอบครัวที่อาศัยอยู่กันอย่างอิสระ ตัดขาดจากโลกภายนอก ทำให้คนรู้สึกสงบจิตใจลงได้

ภายในลาน ข้างต้นมะลิมีเด็กน้อยอ้วนกลมผู้หนึ่งกำลังแอบหัวเราะอยู่

เขาหัวเราะไปพลาง เด็ดดอกไม้ด้วยมืออวบอ้วนไปพลาง

เด็กน้อยอ้วนกลมพึมพำอยู่ในปาก แล้วยกนิ้วโป้งให้กับหนูอ้วนกลมตัวหนึ่งที่อยู่ข้างๆ

"เสี่ยวฮุย เจ้านี่สุดยอดไปเลย เมื่อก่อนแม่ครัวผู้นั้นทารุณท่านแม่มามาก ครั้งนี้ถือว่าได้แก้แค้นให้ท่านแม่แล้ว ยังมีคนเหล่านั้นด้วย ที่รังแกท่านแม่มาไม่น้อย พวกเขาสมควรโดนทรมานแล้ว"

"พวกเขามีความสุขขนาดนั้น ข้าเห็นแล้วไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก"

เสียงพูดของเด็กเล็กดังออกจากปากเด็กน้อยอ้วนกลมไม่หยุด เสี่ยวฮุยที่อยู่ข้างๆ คือหนูอ้วนที่เฉื่อยชาตัวนั้นนั่นเอง

ทำไมมันถึงได้ซวยขนาดนี้ สามปีมานี้มันถูกแม่ลูกคู่นี้ทรมานมาโดยตลอด มันไม่อยากถูกสั่ง แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่เพียงแต่เผ่าหนูของพวกมันเท่านั้น แม้กระทั่งแมว สุนัข และงูล้วนถูกสั่งการให้ทำงานจนยุ่งตัวเป็นเกลียว ไม่มีอะไรที่แม่ลูกสองคนสั่งการไม่ได้

"จี๊ดจี๊ด ครั้งหน้าข้าไม่ไปแล้ว เจ้าไม่รู้หรอกว่าเนื้อแม่ครัวนั่นเหม็นแค่ไหน ข้าแทบจะอาเจียนออกมาเลย"

"เจ้าอาเจียนเป็นด้วยหรือ" เจ้าเด็กน้อยตัวอ้วนๆ รู้สึกสงสัย

"เป็นสิ ข้าก็เป็นหนูที่รักความสะอาดตัวหนึ่งนะ"

"วันนี้ลำบากเจ้าแล้ว วันนี้ท่านแม่ทำอาหารอร่อยๆ ให้ ข้าจะแบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่งนะ"

"จี๊ดจี๊ด ดีเลย"

สีหน้าของเสี่ยวฮุยแลดูตื่นเต้น

"เอี๊ยด" ประตูถูกเปิดออก มีสตรีงดงามมากคนหนึ่งเดินออกมา

Kaugnay na kabanata

Pinakabagong kabanata

DMCA.com Protection Status