สตรีผู้นี้สวมชุดเรียบๆ บนศีรษะปักปิ่นธรรมดาๆ ไว้อันหนึ่ง ดวงตาสดใสดั่งสายน้ำ ดูอ่อนหวานและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก"ซูอี่เฉิง ทำไมถึงเสียงดังขนาดนี้ เจ้าไปก่อเรื่องอะไรอีกแล้วใช่ไหม" ซูเนี่ยนหรี่ตามองเจ้าเด็กน้อยตัวอ้วนเจ้าเด็กน้อยตัวอ้วนมีชื่อเต็มว่าซูอี่เฉิง ชื่อเล่นว่าเสียวเป่า"ท่านแม่ ท่านตื่นแล้วหรือ เสียวเป่าเป็นเด็กดีเชื่อฟัง ไม่ได้ก่อเรื่องอะไรเลย หากไม่เชื่อท่านก็ลองถามเสี่ยวฮุยดูสิ" เสียวเป่าชี้นิ้วอ้วนๆ ไปยังเสี่ยวฮุยซูเนี่ยนจ้องไปยังเสี่ยวฮุยโดยไม่พูดอะไร แม้ว่าเสียวเป่าจะก่อเรื่องอะไรเจ้าหนูอ้วนตัวนี้ก็จะปกป้องเขา ถามไปก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี"ท่านแม่ ท่านแม่ เสียวเป่าหิวแล้ว วันนี้กินเนื้อได้หรือไม่" เสียวเป่ากลัวว่าซูเนี่ยนจะจี้ถามไม่เลิก จึงได้ก้าวขาเล็กๆ ไปข้างๆ ซูเนี่ยนแล้วเกาะต้นขาของนางเอาไว้ซูเนี่ยนเม้มริมฝีปาก พฤติกรรมเช่นนี้ แสดงว่าไปก่อเรื่องมาแน่นอน นางจะไม่รู้จักลูกที่นางคลอดออกมาเองได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เสียวเป่าสืบทอดพลังพิเศษมาจากนางด้วย ยิ่งไปกว่านั้นพลังยังกล้าแกร่งกว่านางอีก สัตว์ที่อยู่แถวๆ นี้ต่างก็หวาดกลัวเขาเป็นอย่างมากสามปีก่อนที่โดนไ
"ท่านอ๋อง..." มั่วอีลำบากใจสายตาของซูเนี่ยนให้ความรู้สึกที่คุณเคยแก่เขา ราวกับเห็นท่านอ๋องในแบบที่เป็นสตรีเลยสายตาท่าทางของฉู่อี้หานดูมืดหม่น เขาหมุนล้อไปด้านข้างของซูเนี่ยนอย่างรวดเร็ว มือหนึ่งก็บีบที่คอของซูเนี่ยน "ท่านอ๋อง" มั่วอีกังวล ตอนนี้ซูเนี่ยนยังเป็นคนของไทเฮาอยู่ จวนอ๋องหลีจะทำอะไรนางไม่ได้“ปล่อยท่านแม่ของข้านะ” เสียวเป่าอยากก้าวไปข้างหน้า แต่กลับถูกมั่วอีจับตัวเอาไว้"แค่กแค่ก" ซูเนี่ยนถูกบีบคอจนหายใจลำบาก ทำให้นางนึกถึงเมื่อสามปีก่อนที่ถูกฉู่อี้หานบีบคอเช่นนี้เหมือนกันอ๋องสุนัขชั่วช้าชอบบีบคอคนขนาดนี้ แต่เสียดายที่นางไม่ใช่ซูเนี่ยนในตอนนั้นอีกแล้ว"ฉึก"ทันใดนั้นก็มีแสงสีเงินสว่างวาบ เข็มเงินสามเล่มพุ่งออกมาจากแขนเสื้อซูเนี่ยน พุ่งตรงเข้าไปหาดวงตาของฉู่อี้หาน ในเมื่ออ๋องสุนัขผู้นี้ตาบอด เช่นนั้นนางจะช่วยเขาอีกแรง"ท่านอ๋องระวัง" ฉู่อี้หานหักเลี้ยวเก้าอี้ล้อ หลบสามเข็มนั่นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังถูกเข็มหนึ่งในนั้นปาดเฉียดใบหน้าไปใบหน้าของฉู่อี้หานขาวเนียน จึงเห็นบาดแผลได้อย่างชัดเจนนัยน์ตาของฉู่อี้หานเต็มไปด้วยไอสังหารเสียวเป่าฉวยโอกาสในตอนที่มั่วอีกำลังไ
สีหน้าของเสียวเป่าแลดูวิตกกังวล ทว่าซูเนี่ยนกลับไม่ขมวดคิ้วเลยด้วยซ้ำ"ข้าตกลง แต่หากเจ้ากล้าหักหลังข้า ข้าจะทำให้เจ้าทรมานจนอยู่ไม่รอด ตายก็ไม่ได้""มั่วอี ถ่ายทอดคำสั่งของข้าลงไป ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ให้คืนฐานะพระชายาแก่นาง และให้ย้ายไปอยู่ที่เรือนเซียงจู๋""พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง""ช้าก่อน ท่านอ๋องหลี ข้าอยู่ที่เรือนลั่วสุ่ยมาจนชินแล้ว ขออยู่ที่นี่ต่อไปได้หรือไม่ หากมีเรื่องอะไร ท่านก็ส่งคนมาแจ้งให้ข้าทราบล่วงหน้าก็เป็นพอ" ซูเนี่ยนกล่าวอย่างถ่อมตน"มีอีกอย่าง ให้เฟิ่งเอ๋อร์มาดูแลข้าได้หรือไม่ เพราะอย่างไร ข้าก็คุ้นเคยกับนางอยู่ก่อนแล้ว”"ได้ มั่วอี ทำตามที่พระชายาบอก แล้วก็ พรุ่งนี้เป็นวันที่ข้าจะรับพระชายารองเข้ามา หวังว่าพระชายาจะไม่ก่อปัญหา" ทันทีที่ฉู่อี้หานพูดจบ เขาก็หมุนเก้าอี้ล้อออกไปทันที และเหลือบมองเสียวเป่าเล็กน้อยก่อนจะจากไปกับเด็กคนนี้ เขามักจะมีรู้สึกแปลกๆ อยู่เล็กน้อย"หม่อมฉันจะปฏิบัติตามคำสั่งของท่านอ๋องเพคะ" ซูเนี่ยนเปลี่ยนคำเรียก แล้วย่อตัวคำนับซูเนี่ยนยกมุมปากขึ้น ก่อปัญหานั้นหรือ แม้ว่านางกับฉู่อี้หานจะร่วมมือกัน แต่นางไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าจะไม่แก้แค้น
องค์หญิงใหญ่จิ้งคังนั่งอยู่บนที่นั่งสูงสุดในห้องโถงใหญ่ บนใบหน้าที่งดงามอ่อนหวานของนางไม่ได้แสดงออกถึงความยินดีหรือยินร้ายนางลูบท้องที่ตั้งครรภ์มาแล้วเก้าเดือน แล้วก้มหน้าลงหลายปีมานี้ฉู่อี้หานลำบากมามาก นางเองก็หวังว่าจะมีสักคนที่คอยอยู่เป็นเพื่อนเขา หากว่าซูเยียนหรันปฏิบัติต่อฉู่อี้หานด้วยความจริงใจ นางก็จะไม่ทำอะไร ด้วยเหตุนี้นางจึงมาด้วยตนเองในวันนี้ หวังว่าซูเยียนหรันจะไม่ทำให้นางต้องผิดหวังเหล่าสี่ผอ[footnoteRef:1]ห้อมล้อมฉู่อี้หานกับซูเยียนหรันอยู่ในห้องโถงใหญ่ ขันทีคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม [1: สี่ผอ คือ ผู้หญิงที่ติดตามดูแลช่วยเหลือเจ้าสาวในงานแต่ง] "องค์จักรพรรดิมีพระราชดำรัส การรับพระชายารองเข้ามายังจวนอ๋องหลีถือเป็นการแสดงความภักดีต่อราชวงศ์ จึงได้ประทานมุกวิญญาณจากทะเลตงไห่หนึ่งเม็ด ปะการังไฟสิบชิ้น หยกหรูอี้สิบคู่ ทองคำสิบหกกล่อง และเงินสิบแปดกล่องพ่ะย่ะค่ะ""ท่านอ๋องหลี ยินดีด้วย ยินดีด้วย"หลิวกงกงกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉียบคม แล้วโค้งคำนับเล็กน้อย ไม่ได้กล่าวประจบสอพลออ๋องหลีแต่อย่างใด เขาเป็นหัวหน้าขันทีที่อยู่ข้างกายองค์จักรพรรดิ เขาเป็นตัวแทนขององค์
"น้องพี่ เจ้าพูดเรื่องอะไรกัน พี่เคยบอกเจ้าแล้วไงว่ายินดีจะทำให้เจ้ากับท่านอ๋องสุขสมหวัง วันนี้จึงมาด้วยตนเอง เหตุใดเจ้าถึงยังเข้าใจพี่ผิดเล่า หากใครไม่รู้ก็คงคิดว่าเจ้าจงใจพูดเช่นนี้ ข้าล่ะรู้สึกน้อยใจจริงๆ" ซูเนี่ยนก้มหน้า ท่าทางเศร้าสร้อยเดิมซูเนี่ยนก็งดงามตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว ในยามนี้เมื่อได้เห็นรูปร่างหน้าตาแล้ว จู่ๆ ทุกคนก็รู้สึกว่าสตรีที่งามอันดับหนึ่งในต้าสุยเมื่อยืนอยู่ข้างๆ ซูเนี่ยนก็ดูธรรมดาซูเยียนหรันกัดฟัน เหตุใดซูเนี่ยนที่โง่เขลาถึงได้เปลี่ยนไป หากเป็นเมื่อก่อนนางคงเถียงข้างๆ คูๆ ออกมาแล้ว ยิ่งเถียงมากเท่าไร ทุกคนก็จะยิ่งคิดว่านางกำลังปกปิดความผิด อีกทั้งถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับฉู่อี้หาน ซูเนี่ยนก็ต้องระเบิดความโกรธออกมาแล้ว เหตุใดถึงได้สุขุมขนาดนี้ ทั้งยังจะทำให้นางสมปรารถนาอีก"เด็กๆ พระชายาสุขภาพไม่ดี มาพาพระชายาลงไปพักฟื้นเถิด" ฉู่อี้หานกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ"ท่านอ๋อง ต่อให้หม่อมฉันจะไม่สบายสักเพียงใดแต่ก็ต้องการเห็นท่านกับน้องสาวกราบไหว้ฟ้าดินด้วยกันนะเพคะ หม่อมฉันคือชายาเอก หากน้องสาวไม่ยกชาให้หม่อมฉัน มันจะไม่เป็นการผิดธรรมเนียมหรือเพคะ" ซูเนี่ยนมีท่
เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะหนึ่ง แล้วซูเยียนหรันก็ชะงักไป"พระชายารอง ท่านทำเกินไปแล้ว เมื่ออนุเข้าจวนมาก็ต้องยกน้ำชาให้นายหญิง ถึงแม้ว่าพระชายาของพวกเราจะไม่เป็นที่โปรดปราน แต่ก็ยังเป็นพระชายา ท่านทำเช่นนี้ทำให้ราชวงศ์กับจวนอ๋องต้องขายหน้าจริงๆ" เฟิ่งเอ๋อร์พูดคำว่าอนุสองคำนี้ออกมาเน้นๆ กล่าวหานางอย่างร้ายแรงได้ขนาดนี้ ซูเนี่ยนจึงเหลือบมองเฟิ่งเอ๋อร์ด้วยสายตาที่ชื่นชมต่อให้ซูเยียนหรันเป็นที่โปรดปรานมากเพียงใดก็เป็นเพียงแค่อนุ แต่ซูเนี่ยนเป็นภรรยาเอก ซูเยียนหรันทำเช่นนี้ก็เท่ากับเป็นการตบหน้าเหล่าภรรยาเอกคุณหนูรองซูผู้นี้เป็นแค่ลูกอนุแต่วันนี้ไต่เต้ามาถึงตำแหน่งนี้ได้ คงจะไม่ได้เป็นคนที่ใสซื่ออะไรคุณหนูจากตระกูลขุนนางที่ปกติได้อยู่ใกล้ชิดกับซูเยียนหรันทำท่าครุ่นคิด ในสายตาเผยให้เห็นถึงการต่อต้านเล็กน้อย"ไม่ใช่นะ ไม่ใช่เช่นนั้น แต่มือของข้า" ซูเยียนหรันส่ายหัวอย่างแรงพูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกซูเนี่ยนพูดขัดขึ้น "เป็นพี่เองที่ไม่ดี ชาร้อนๆ เมื่อครู่นี้พี่ควรรับมา พี่มีผิวที่หนาและหยาบกร้านจะไม่เป็นอะไรมาก แต่น้องนั้นทั้งบอบบางและอ่อนแอคงรับไม่ไหว แต่ท่านอ๋องช่างโชคดียิ่งนักที่ได้สตร
เรื่องที่เสียวเป่าเป็นบุตรชายของฉู่อี้หานห้ามให้ผู้อื่นรู้เด็ดขาด มิเช่นนั้นจะเกิดหายนะที่ไม่คาดฝัน ด้วยเหตุนี้ซูเนี่ยนจึงสวมหน้ากากหนังมนุษย์ที่ทำขึ้นพิเศษให้กับเสียวเป่าซูเนี่ยนมองเสียวเป่านิ่งๆ มือของนางเอื้อมไปบีบแก้มของเสียวเป่าโดยสัญชาตญาณ“ท่านแม่” เสียวเป่าน้อยใจ“อะแฮ่ม เอ่ออะไรนะ ลูก ตอนนี้เจ้าเริ่มโตแล้ว ใส่หน้ากากนี้ไม่ได้แล้ว แม่เลยทำอันใหม่ให้ อันนี้ระบายอากาศได้ดีกว่า ไม่อึดอัดเลย” ซูเนี่ยนหยิบหน้ากากหนังมนุษย์ชิ้นใหม่ออกมา“ท่านแม่ เมื่อใดเสียวเป่าถึงจะไม่ต้องใส่หน้ากากหรือ” สีหน้าของเสียวเป่าหมองหม่น วันนี้เขาได้อ่านตำราที่เสี่ยวฮุยหามาให้ จึงรู้ความหมายของคำว่าลูกนอกคอก แต่ทว่าเขามีรูปลักษณ์เหมือนคนคนนั้นจริงๆ นะ“เสียวเป่า แม่สัญญา รอให้แม่ช่วยท่านลุงของเจ้าออกมาได้ก่อน เราจะออกจากเมืองหลวงพร้อมกันทันที ดีไหมจ๊ะ” ซูเนี่ยนสวมกอดเสียวเป่าด้วยความรู้สึกผิดเรื่องอื่นนางสามารถทดแทนได้ แต่ความรักจากบิดา นางไม่สามารถทดแทนได้จริงๆ“ก็ได้ เช่นนั้นเราสัญญากันแล้วนะ เสียวเป่าจะเชื่อฟังท่านแม่ เสียวเป่าจะเอาเพียงท่านแม่”บนใบหน้าของเสียวเป่าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม มองจนซูเ
“ท่านอ๋อง หากข้าช่วยองค์หญิงใหญ่จิ้งคังได้ และสามารถช่วยให้เด็กในท้องของนางคลอดออกมาอย่างปลอดภัย จะสามารถยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้าได้หรือไม่” ซูเนี่ยนมองฉู่อี้หานไม่ละสายตา“หากข้าไม่สามารถช่วยได้ค่อยลงทัณฑ์ข้าตอนนั้นก็ยังไม่สาย แต่หากเสียเวลาต่อไป อาจช่วยองค์หญิงใหญ่ไว้ไม่ได้นะเพคะ”“เจ้ารู้วิชาแพทย์นั้นหรือ เหตุใดข้าจึงไม่รู้” ฉู่อี้หานไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด“ท่านอ๋องทรงอย่าลืมสิเพคะ ว่าท่านตาของข้าทำงานอะไร” ซูเนี่ยนมั่นใจเจ้าของร่างเดิมกำเนิดมาในตระกูลลู่ และตระกูลลู่เป็นตระกูลเลื่องชื่อในด้านการแพทย์ของเมืองหลวง ชื่อเสียงสูงส่งนัก แต่ทว่าตอนนั้นมารดาของซูเนี่ยนต้องทะเลาะกับครอบครัวเพราะต้องการสมรสกับซูกั๋วกง และไม่เคยไปมาหาสู่กันอีกนับแต่นั้นมาทว่าในความทรงจำของซูเนี่ยนจำได้ว่า จู่ๆ ตระกูลลู่ก็ประกาศเลิกกิจการด้านการแพทย์ในวันฝังมารดา และค่อยๆ หายไปในสายตาของผู้คน ทำให้รู้ว่ามารดายังมีตำแหน่งอยู่ในใจคนตระกูลลู่อยู่“ได้ หากเจ้าช่วยนางไว้ไม่ได้ ข้าจะทำให้เจ้าต้องชดใช้”สีหน้าของฉู่อี้หานมืดครึ้ม สายตากวาดมองไปยังเสียวเป่า เมื่อเห็นดวงตาคู่โตของเสียวเป่ากำลังมอ