Share

ตอนที่8

last update Last Updated: 2025-04-24 10:35:17

ทีมงานเดินทางมาถึงหมู่บ้านก็ช่วงหัวค่ำพอดี หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางป่าโอบล้อมด้วยหุบเขา ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก มีแม่น้ำไหลผ่านหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านที่นี่คงใช้วิธีออกจากหมู่บ้านด้วยการล่องแพ ซึ่งเป็นวิธีที่ประหยัดเวลาและรวดเร็วกว่าเดินเท้า บ้านทุกหลังใช้ใบไม้ทำเป็นหลังคาและฝาบ้าน ทุกคนดีใจแทบหายเหนื่อยเลยทีเดียว พอก้าวขาเข้าหมู่บ้านชาวบ้านก็พากันมองมาที่ทุกคนด้วยสายตาแปลกๆ

" ทำไมพวกเขามองเราแบบนั้นวะ"

" ก็คงเห็นว่าพวกเราเป็นคนแปลกหน้าล่ะมั้ง"

" แต่ฉันว่าสายตามันดูแปลกๆอ่ะ หวังว่าหมู่บ้านนี้คงจะไม่ใช่แบบหมู่บ้านกินคนหรอกนะ"

ได้ฟังดุษฎีพูดทุกคนก็ลังเลที่จะเดินต่อ ดารินกับโมรีขยับเข้าหากันจับมือกันแน่นสายตามองดูรอบๆตัวด้วยความหวาดระแวง

" เฮ้ยไอ้กรุ๊ป มึงแน่ใจนะว่าพาพวกเรามาถูกหมู่บ้านหน่ะ "

ภาสกรที่เดินนำหน้าเข้าหมู่บ้านพร้อมดุษฎีถอยหลังกลับไปถามกิตติศักดิ์ 

" ไม่ผิด ที่นี่แหละกูมาตามแผนที่ที่ศาสตราจารย์ให้มาเลย "

" ศาสตราจารย์ได้บอกไหมว่าแถวนี้มันมีกี่หมู่บ้าน เราอาจจะมาผิดหมู่บ้านก็ได้นะ"

ดารินถามขึ้นมา 

" ไม่ได้ถาม แต่ถึงยังไงเราก็มาถึงที่นี่แล้วถึงต่อให้ผิดยังไง คืนนี้เราก็คงต้องพักที่นี่ทุกคนดูสินี่มันค่ำแล้วนะ เราไปต่อไม่ได้แล้ว"

" งั้นเราก็ลองชาวบ้านแถวนี้ดูว่าใช่ไหม"

ธารธาราพูดจบ ก็เดินเข้าไปหาชาวบ้านคนหนึ่งที่นั่งจ้องมองพวกเขาอยู่ กิตติศักดิ์กลัวว่าธารธาราจะมีอันตรายจึงรีบเดินตามไปด้วย

" ป้าคะ ที่นี่ใช่หมู่บ้านปะละทะไหมคะ"

" _ "

เงียบไม่มีคำตอบ กิตติศักดิ์จึงถามใหม่

" คือพวกเราจะไปที่หมู่บ้านปะละทะหน่ะครับ ไปบ้านของพรานมูเล่"

พอได้ยินชื่อมูเล่ หญิงวัยกลางคนก็พยักหน้าชี้มือไปอีกทาง

" ตกลงป้าคนนั้นว่าไงเรามาถูกใช่ไหม"

ดุษฎีถามรอลุ้นคำตอบเหมือนกับทุกคน

" เขาฟังเราไม่ออก"

" อ้าว"

"แต่พอพูดชื่อพรานมูเล่เขาก็ชี้มือบอกทางอย่างที่เห็น ไปกันเถอะ"

" เดี๋ยวๆ เดี๋ยวก่อน ไอ้กรุ๊ปในเมื่อเขาฟังเราไม่ออกแล้วจะแน่ใจได้ยังไงว่าที่เขาชี้หน่ะเป็นทางไปบ้านพรานมูเล่"

ทุกคนมองหน้ากัน ต่างเห็นด้วยกับคำพูดของภาสกร

" เราคงต้องเสี่ยงดู ไปเถอะ เดี๋ยวไปหาถามคนข้างหน้าก็ได้ ต้องมีสักคนนึงแหละที่ฟังภาษาเราออก"

กิตติศักดิ์เดินนำหน้าทุกคนไป ตลอดทางก็ถามชาวบ้านคนนั้นคนนี้ แม้พวกเขาจะฟังไม่ออก แต่พอพูดชื่อพรานมูเล่กลับชี้มือบอกทางกันทุกคน จนมาถึงบ้านหลังหนึ่งที่มีเด็กชายคนหนึ่งกำลังเล่นอยู่

" หนู หนูจ๊ะ ที่นี่ใช่บ้านพรานมูเล่ไหม"

เด็กน้อยไม่ตอบแต่รีบวิ่งขึ้นบ้าน

" อ้าวหนู เดี๋ยวก่อนสิ พี่ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อยหนูกลับมาก่อน"

สักพักหญิงคนหนึ่งก็ออกมาจากบ้าน ส่วนเด็กชายคนนั้นได้แต่โผล่หัวออกมามองอยู่ที่หลังประตู

" คือพวกเรามาจากกรุงเทพนะครับ มาหาพรานมูเล่ ที่นี่ใช่บ้านพรานมูเล่มั๊ย"

หญิงคนนั้นพูดภาษากาเหรี่ยง ที่ทุกคนก็ฟังไม่ออกว่าหมายความว่ายังไง ในขณะที่ทุกคนกำลังยืนงงกันอยู่นั้น ก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามา

" พ่อของข้าไม่อยู่"

" อ่าห้า นี่ไงเราเจอคนที่พูดภาษาเราได้แล้ว"

" คืองี้นะ เรามาตามหาพรานมูเล่ ที่นี่คือบ้านของพรานมูเล่ใช่ไหม"

" ใช่ ต้องการเจอเขาทำไม"

" พวกเราต้องการให้พรานมูเล่นำทาง"

" เอ่อ พวกเรามาตามคำแนะนำของศาสตราจารย์ ท่านเป็นเพื่อนกับพรานมูเล่"

" พ่อข้าไม่เคยมีเพื่อนเป็นคนเมือง"

" อะ อ๋อ แต่ แต่ว่าศาสตราจารย์บอก หรือว่าศาสตราจารย์โกหกพวกเราวะ"

" ศาสตราจารย์ไม่น่าจะโกหกนะ ถ้าไม่รู้จักจริงๆจะบอกให้เรามาที่นี่ถูกได้ไง"

" ไว้พ่อของข้ามาก่อนแล้วค่อยว่ากัน ตอนนี้ค่ำแล้วพวกเอ็งก็พักที่นี่ละกัน"

" ได้ๆ ขอบคุณมาก ว่าแต่พรานมูเล่จะกลับมาตอนไหนเหรอ"

" พรุ่งนี้ "

" แล้วคุณชื่ออะไร เอ่อ เราจะได้เรียกถูก"

" เซโพ นั่นนอนายเมียของข้า แล้วก็ซำซาลูกชายข้า"

เซโพหันไปคุยกับลูกเมียก่อนจะกวักมือเรียกทุกคนขึ้นไปบนบ้าน นอนายยกสำรับข้าวมาวางทำมือบอกให้ทุกคนกิน

" กินข้าวกันก่อน ที่นี่มีแต่อาหารธรรมดาง่ายๆคงกินกันได้ กินเสร็จแล้วใครอยากอาบน้ำก็นู่นเลย"

ทุกคนมองตามที่เซโพชี้มือ

" ไหนอ่ะห้องน้ำ"

" ไม่มี ที่นี่ทุกคนอาบน้ำในแม่น้ำ ทั้งกินทั้งอาบทั้งซักผ้า ถ้าใครปวดหนักเบาก็เข้าป่าเลือกมุมตามใจชอบ"

" รีบกินเถอะจะได้รีบไปอาบน้ำ"

กินข้าวเสร็จซำซาก็ส่งตะเกียงให้1อันส่วนเด็กชายถือไว้1อันเดินนำหน้าไปที่แม่น้ำ หลังอาบน้ำเสร็จขึ้นบ้านมาก็เห็นว่านอนายใช้ผ้าบางๆปูไว้เตรียมให้เป็นที่นอนของทุกคน เซโพผายมือบอกและพูดขึ้น

" นอนเบียดๆกันหน่อยนะ บ้านหลังเล็ก หรือถ้าใครอยากนอนสบายจะลงไปนอนนอกบ้านก็ได้"

" พวกเรานอนได้ขอบคุณมาก"

ธารธาราพูดแล้วหันไปเปิดกระเป๋าหยิบเอาขนมสองสามห่อส่งให้ซำซา

" รับไปสิพี่ให้ขนมอร่อยนะ"

ซำซาแหงนมองดูหน้าผู้เป็นพ่อ เมื่อเซโพพยักหน้าก็รีบวิ่งไปคว้าขนมในมือของธารธารา

" อ้อ ถ้าไม่จำเป็นอย่าออกจากบ้านตอนกลางคืน ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรก็ห้ามทัก "

" เดี๋ยวก่อน แล้วถ้าเกิดปวดท้องขึ้นมากลางดึกหล่ะ"

ดารินถามขึ้นมา เธอยิ่งชอบปวดฉี่ตอนกลางคืนบ่อยๆอยู่ เซโพที่กำลังจะเดินไปหันกลับมาตอบ

" หน้าบ้านมีตะเกียงแขวนไว้อยู่หยิบมันไปส่องทางได้ ขอเตือนว่าอย่าไปคนเดียวให้หาเพื่อนไปด้วย"

ดารินพยักหน้าหงึกๆ ใครจะกล้าไปคนเดียวกันเล่า ยิ่งกลางป่ากลางเขาแบบนี้ด้วยน่ากลัวจะตาย

พอหัวถึงหมอนดุษฎีกับภาสกรก็หลับเป็นตาย กิตติศักดิ์กำลังจะหลับก็ได้ยินเสียงหมาหอนไม่หยุด เขาผุดลุกขึ้นเห็นเพื่อนสองคนหลับไม่กระดิก มองดูธารธารา แสงจากดวงจันทร์ที่สาดส่องมาเห็นว่าเธอนอนลืมตาอยู่ เขาย่องเบาๆไปหาเธอ

" น้ำ น้ำ"

" พี่กรุ๊ป"

" นอนไม่หลับเหรอ"

" อืม คงแปลกที่หน่ะ "

" พี่ก็เหมือนกัน ยิ่งเสียงหมาหอนด้วยเลยไม่หลับเลย"

" พี่คงไม่คิดว่าหมาหอนมันจะเห็นผีหรอกใช่ไหม"

" ฮ่าฮ่า ก็คิดอยู่นะ แต่ที่นี่คงไม่มีหรอกมั้ง"

โมรีนอนฟังทั้งสองสนทนากันเงียบๆ เธอเองก็นอนไม่หลับเหมือนกัน ได้ยินเสียงหมาหอนก็ยิ่งกลัวจนนอนไม่หลับ ได้แต่ข่มความกลัวด้วยการนอนนิ่งๆ ดารินลืมตาขึ้นมาสบตากับโมรี บวกกับเสียงหมาหอนที่ดังต่อเนื่องต่างคนต่างตกใจสะดุ้งลุกขึ้นมา

" แก แกเองเหรอ"

" ก็ฉันหน่ะสิแกคิดว่าใครหล่ะ"

บรู้ววววว

" เสียงหมาหอน ทำไมมันต้องมาหอนตอนนี้ด้วยเนี่ย จริงสิวันนี้มันวันพระด้วยนะ "

" คงไม่ใช่มันเห็นผีหรอกใช่ไหม"

" ไม่มีหรอก มันก็หอนไปตามเรื่องตามราวมันนั่นแหละไม่ต้องกลัว ผีเผอที่ไหนจะมี"

กิตติศักดิ์พูดปลอบใจทั้งที่ในใจของเขาก็กลัวเหมือนกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ธารนางครวญ   ตอนที่44

    ทุกคนในแพมองหน้ากันเลิกลั่ก แพสองลำแข่งขันถ่อแพเร็วกันอยู่รึไง กิตติศักดิ์กับภาสกรและดุษฎีสลับกันเร่งความเร็วแพพยายามแซงแพอีกลำให้พ้น แต่เร่งยังไงก็แซงไม่พ้นสักที ขณะที่แพของอาโบพวกลูกน้องก็สลับกันถ่อ พวกเขามืออาชีพอยู่แล้วแถมยังเป็นนักรบชนเผ่า พวกกิตติศักดิ์สู้ไม่ได้อยู่แล้ว แถมยังส่งสายตาเยาะเย้ยมาให้อีก สุดท้ายทั้งสามคนก็พากันนั่งเหนื่อยหอบ มูเล่ต้องมาถ่อแพแทน กิตติศักดิ์เหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจ ยิ่งเห็นธารธารากับอาโบส่งสายตาหวานเยิ้มให้กันก็ยิ่งหมดแรง" เธอกับผู้ชายคนนั้น"" หือ"" คนที่เป็นหัวหน้าฐานหน่ะยังไง"ดารินกระซิบถามธารธารา แล้วแอบมองไปที่อาโบ" ก็"" ใช่อย่างที่คิดใช่ไหม"ธารธารายิ้มพยักหน้า" ถึงว่าพวกเราตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ที่แท้ก็ถูกเขาพาไปอยู่ที่ฐานนี่เอง ว่าแต่แซ่บไหม"ธารธาราพยักหน้าแล้วพากันหัวเราะคิกคักกับดาริน ก่อนจะเล่าเรื่องที่พลัดหลงกันจนไปเจอกับอาโบให้ฟัง โมรีที่นั่งอยู่ข้างหน้าก็เงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ ตะวันบ่ายคล้อยอาโบมองธารธาราไม่ละสายตา เห็นเธอพูดคุยหัวเราะกับเพื่อนไม่หยุด พอเธอหันมาสบตา เขาก็ส่งสายตาพยักพเยิดหน้าให้มาหาเขา เธอลุกขึ้นโพโรโรกับจ่อจ่อ

  • ธารนางครวญ   ตอนที่43

    อาโบตรวจดูข้าวของที่จะเอาไปก่อนให้ลูกน้องขนลงแพ แล้วเดินไปรับธารธาราที่กระท่อม" อาโบ"พอเปิดประตู เธอก็พุ่งเข้ามากอดเขาไว้แน่นเขาถามเสียงอ่อนโยน" เตรียมตัวพร้อมรึยัง"เธอส่ายหน้า" หือ ไหนดูซิมีตรงไหนยังไม่พร้อมอีก"เขาสำรวจทั่วตัวของเธอ ก่อนนึกขึ้นมาได้ล้วงเอาสร้อยคอเขี้ยวเสือไฟ ที่เขาทำพิธีปลุกเสกด้วยตัวเองเมื่อหลายคืนก่อนออกมา แล้วสวมใส่ให้เธอ" อะไร"" เขี้ยวเสือไฟ ใส่เอาไว้ป้องกันอันตราย ฉันทำพิธีปลุกเสกทั้งคืนเลยนะ"" แล้วของนายหล่ะ"" ฉันมีคาถาอาคมอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องใส่ของพวกนี้"" อาโบ"เธอกอดรัดเขาแน่นออดอ้อนไม่ยอมปล่อยอยากกอดเขาไว้นานอีกสักหน่อย อยู่กันสองคนแบบนี้ เพราะจากนี้ไปต้องมีคนอื่นอีกหลายคน คงไม่มีโมเม้นต์แบบนี้อีกนานเลยพอเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ก็ถูกประกบจูบ เธออ้าปากแลบลิ้นออกมาพันเกี่ยวกับลิ้นของเขา ดูดดุนกันอยู่พักใหญ่ อาโบอุ้มเธอขึ้นไปบนแคร่ถอดเสื้อผ้าตัวเองออก เธอก็ถอดของตัวเองออก เมื่อสองร่างเปลือยเปล่าก็กอดรัดโรมรันกัน สลับกันขึ้นบนลงล่างโยกกันเมามันส์จนลืมไปว่ามีใครอีกหลายคนรอพวกเขาอยู่โพโรโรกับจ่อจ่อยืนชะเง้อรออยู่นาน ก็ยังไม่มีวี่แววว่าอาโบกับธารธาราจะมา

  • ธารนางครวญ   ตอนที่42

    ก็ดี ก็ดี ในเมื่อเขาอยากให้เธอไปพ้นหูพ้นตาเขานัก เธอก็จะไปไม่กลับมาอีก ทำไมนะเวลารักใครต้องทุ่มให้หมดใจไม่เหลือเผื่อใจไว้เจ็บบ้าง คิดเอาไว้ซะดิบดีว่าตามหากล้วยไม้พบจะอยู่กับเขาที่ในป่า ยอมเป็นคนชนเผ่า คิดอะไรอยู่ เขาไม่เอาเธอแล้ว ที่ผ่านมาเธอมันก็แค่ที่บำบัดความใคร่เท่านั้นแหละ ยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยใจน้ำตารื้นขึ้นมา" ไม่ต้องลำบากนายหรอก ฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องการอะไรเลย ไม่ต้องไปส่งฉันให้เสียเวลาด้วย พวกเขาอยู่ที่หมู่บ้านใช่ไหม เดี๋ยวฉันไปหาพวกเขาเอง"" ลำบากอะไร ทำไมถึงพูดแบบนั้น ฉันเต็มใจ"เขายื่นมือจะเช็ดน้ำตาให้ แต่เธอปัดออกขยับตัวลุกหนีไปนั่งอีกมุม อาโบมองตามด้วยใจที่เจ็บปวด เขาอธิบายไปหมดแล้วแต่ดูเหมือนเธอจะไม่เชื่อเขาเลย เขาต้องทำยังไง เขาเตรียมทุกอย่างเพื่อเดินทางไปกับเธอ เขาฝึกคนใหม่ให้ขึ้นมาแทนที่เขา เพราะตั้งใจว่าเขาจะตามเธอไปทุกที่ เขายอมทิ้งทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับเธอ แต่ดูเหมือนว่าเธอไม่ต้องการให้เขาไปด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาก็จะไปส่งเธอให้กับพวกของเธอ แล้วจะแอบตามเธอไปปกป้องเธออยู่ห่างๆ จนกว่าเธอจะได้เจอสิ่งที่เธอตามหาโพโรโรวิ่งตามจนทันนั่งเหนื่อยหอบอยู่ฝั่งตร

  • ธารนางครวญ   ตอนที่41

    อาโบดันตัวผู้หญิงที่โผเข้ากอดเขาออก อยู่ดีๆเธอก็เข้ามากอดเขา ก่อนหน้าพ่อของเธอได้มาหาเขาเพื่อเอาของที่เขาสั่งมาให้ เธอตามพ่อของเธอมาด้วย ส่วนพ่อของเธอพอคุยธุระและมอบของให้เขาเสร็จก็ขอไปคุยกับลูกชาย เขากำลังจะไปเธอก็บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย แต่ก็ไม่ได้คุยอะไร เธอเอาแต่ยืนบิดไปบิดมายิ้มเขินอาย จะพูดอะไรก็ไม่พูด เขาเลยบอกว่าถ้าไม่มีอะไรเขาจะไปแล้ว เธอก็พุ่งมากอดเขาเลย " อย่าทำแบบนี้อีกฉันไม่ชอบ เธอก็รู้ว่าฉันมีเมียแล้ว ถ้าอยากมีผัวนักก็อดใจรอหน่อยอีกไม่กี่เดือนก็จะมีงานเลือกคู่ แต่ถ้ามันอดไม่ได้จริงๆ"อาโบมองไปที่ต้นมะเขือยาวแล้วเด็ดมายื่นให้" ให้ฉันทำไม"" แก้คัน"พูดจบก็เดินออกมา เธอมองดูมะเขือยาวในมือ เธอคันตรงไหน แล้วมะเขือยาวแก้คันได้ด้วยเหรออาโบรีบเดินกลับกระท่อม พอเปิดประตูเข้าไปก็ไม่เห็นธารธารา หรือว่าจะไปห้องน้ำนะ เขาวางของในมือลงเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนั่งรอเธอ หลายวันมานี้เขาเตรียมตัวสำหรับเดินทางไปกับเธอ จึงต้องให้คนเตรียมของหลายอย่าง ทั้งของป้องกันตัว อาหารแห้งและของใช้อื่นที่จำเป็น ที่สำคัญคือการฝึกคนใหม่มาแทนที่เขาในช่วงที่เขาไม่อยู่ เขาต้องสอนทักษะหลายๆอย่างให้ แล้วยังมีงาน

  • ธารนางครวญ   ตอนที่40

    กลับถึงกระท่อมอาโบมีท่าทีเงียบขรึมอย่างเห็นได้ชัด ธารธาราไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรจึงเข้าไปกอดเขา จูบแก้มหนักๆไปหนึ่งที" มีเรื่องอะไรรึเปล่าหรือว่าพวกEUจะโจมตีอีก"" ไม่ใช่ น้ำ"" หือ"" กล้วยไม้นั่นยังไงก็ต้องตามให้ได้ใช่ไหม"" อือใช่ มันสำคัญมากต้องได้มันมาถ้างานวิจัยสำเร็จ เราจะช่วยคนที่เป็นโรคร้ายได้ยังมีอีกหลายชีวิตที่รอคอยอย่างมีความหวังว่าพวกเขาจะหาย มันเป็นงานสำคัญมากเลยนะ แล้วฉันก็ตั้งใจว่าจะต้องทำมันให้สำเร็จ"อาโบถอนหายใจ เขาไม่เคยคิดถึงวันที่ต้องจากเธอเลย เขาคิดแค่ว่าวันนี้ตอนนี้พรุ่งนี้เขาแค่มีเธอในอ้อมกอด ได้รักเธอดูแลเธอมีความสุขกับเธอในทุกๆวัน แต่เขาลืมคิดไปว่าเธอมาในป่าทำไม เธอมีสิ่งที่ต้องทำมีภารกิจหน้าที่ ไม่ใช่มาอยู่กับเขา เขาเองก็เช่นกันมีหน้าที่ต้องปกป้องดินแดน ตอนนี้สถานการณ์สู้รบยังสงบอยู่ แต่อนาคตไม่รุ้วันใดจะเกิดการปะทะกันขึ้นมาอีก เธอจะมาอยู่กับเขาที่นี่ไม่ได้ ไม่ปลอดภัย ไม่มีอนาคต ไม่ยุติธรรมกับเธอหากเขาจะรั้งให้เธออยู่ที่นี่ แต่เขารักเธอ รักมาก แม้เพียงระยะเวลาสั้นๆที่อยู่ด้วยกัน เขาก็ไม่อยากแยกจากเธอแม้สักสิบวินาทีเดียว แต่อนาคตของเราเขามองไม่เห็น เมื่อต่างคน

  • ธารนางครวญ   ตอนที่39

    " เสือที่มันอาละวาดเมื่อคืนมันมาจากไหนพรานรู้ไหม"กิตติศักดิ์ถามขึ้นมา" ไม่แน่ใจ แต่มันคือเสืออาคมแน่ๆแต่จะเป็นของใครอันนี้ก็ไม่รู้ "" แสดงว่าเจ้าของเสือคงจะใช้ให้เสือตัวนั้นเข้ามาทำร้ายคนในหมู่บ้านแน่ๆ"" งั้นก็แสดงว่าเจ้าของเสือต้องมีปัญหากับใครสักคนในหมู่บ้านหรือไม่ก็เป็นฝ่ายตรงข้ามที่พวกเขาเคยสู้รบกัน อ่าอันนี้ผมเดาเอานะ"ภาสกรพูด" ก็อาจเป็นไปได้ "" แต่ข้าคิดว่าน่าจะเป็นเสืออาคมของพวกเล่นของที่หลุดออกมา หรือไม่ก็ถูกปล่อยทิ้งเพราะขี้เกียจเลี้ยง หรือเจ้าของมีอันเป็นไปมันถึงได้ดุร้ายทำร้ายคนไม่เลือกหน้า ที่สำคัญเสือตัวนี้หัวหน้าฐานบอกว่าก่อนจะมาที่หมู่บ้านมันไปที่ฐานมาก่อน เมื่อเช้าข้าก็พึ่งรู้จากลูกชายว่าหลายวันก่อนที่ฐานอียูก็ถูกมันเข้าไปอาละวาดมา"ตาลิบอกทุกคน" ถ้าเป็นอย่างที่หัวหน้าหมู่บ้านเล่า งั้นข้อสงสัยที่ว่าฝั่งอียูจะใช้เสืออาคมมาเล่นงานเราก็ปัดตกไปได้เลย"ตาลิพยักหน้า " ตามแพลนเราต้องออกเดินทางวันนี้ แต่พรานมูเล่กับพรานเซโพบาดเจ็บ เรื่องไปหุบเขามรณะคงต้องยืดวันออกไปก่อน รอจนกว่าพวกพรานจะหายดี"กิตติศักดิ์บอกทุกคน โมรีทำหน้าเซ็งเดินฮึดฮัดกลับเข้ากระท่อมไป" อยู่ต่อก็ดี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status