Share

ตอนที่8

last update Last Updated: 2025-04-24 10:35:17

ทีมงานเดินทางมาถึงหมู่บ้านก็ช่วงหัวค่ำพอดี หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางป่าโอบล้อมด้วยหุบเขา ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก มีแม่น้ำไหลผ่านหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านที่นี่คงใช้วิธีออกจากหมู่บ้านด้วยการล่องแพ ซึ่งเป็นวิธีที่ประหยัดเวลาและรวดเร็วกว่าเดินเท้า บ้านทุกหลังใช้ใบไม้ทำเป็นหลังคาและฝาบ้าน ทุกคนดีใจแทบหายเหนื่อยเลยทีเดียว พอก้าวขาเข้าหมู่บ้านชาวบ้านก็พากันมองมาที่ทุกคนด้วยสายตาแปลกๆ

" ทำไมพวกเขามองเราแบบนั้นวะ"

" ก็คงเห็นว่าพวกเราเป็นคนแปลกหน้าล่ะมั้ง"

" แต่ฉันว่าสายตามันดูแปลกๆอ่ะ หวังว่าหมู่บ้านนี้คงจะไม่ใช่แบบหมู่บ้านกินคนหรอกนะ"

ได้ฟังดุษฎีพูดทุกคนก็ลังเลที่จะเดินต่อ ดารินกับโมรีขยับเข้าหากันจับมือกันแน่นสายตามองดูรอบๆตัวด้วยความหวาดระแวง

" เฮ้ยไอ้กรุ๊ป มึงแน่ใจนะว่าพาพวกเรามาถูกหมู่บ้านหน่ะ "

ภาสกรที่เดินนำหน้าเข้าหมู่บ้านพร้อมดุษฎีถอยหลังกลับไปถามกิตติศักดิ์ 

" ไม่ผิด ที่นี่แหละกูมาตามแผนที่ที่ศาสตราจารย์ให้มาเลย "

" ศาสตราจารย์ได้บอกไหมว่าแถวนี้มันมีกี่หมู่บ้าน เราอาจจะมาผิดหมู่บ้านก็ได้นะ"

ดารินถามขึ้นมา 

" ไม่ได้ถาม แต่ถึงยังไงเราก็มาถึงที่นี่แล้วถึงต่อให้ผิดยังไง คืนนี้เราก็คงต้องพักที่นี่ทุกคนดูสินี่มันค่ำแล้วนะ เราไปต่อไม่ได้แล้ว"

" งั้นเราก็ลองชาวบ้านแถวนี้ดูว่าใช่ไหม"

ธารธาราพูดจบ ก็เดินเข้าไปหาชาวบ้านคนหนึ่งที่นั่งจ้องมองพวกเขาอยู่ กิตติศักดิ์กลัวว่าธารธาราจะมีอันตรายจึงรีบเดินตามไปด้วย

" ป้าคะ ที่นี่ใช่หมู่บ้านปะละทะไหมคะ"

" _ "

เงียบไม่มีคำตอบ กิตติศักดิ์จึงถามใหม่

" คือพวกเราจะไปที่หมู่บ้านปะละทะหน่ะครับ ไปบ้านของพรานมูเล่"

พอได้ยินชื่อมูเล่ หญิงวัยกลางคนก็พยักหน้าชี้มือไปอีกทาง

" ตกลงป้าคนนั้นว่าไงเรามาถูกใช่ไหม"

ดุษฎีถามรอลุ้นคำตอบเหมือนกับทุกคน

" เขาฟังเราไม่ออก"

" อ้าว"

"แต่พอพูดชื่อพรานมูเล่เขาก็ชี้มือบอกทางอย่างที่เห็น ไปกันเถอะ"

" เดี๋ยวๆ เดี๋ยวก่อน ไอ้กรุ๊ปในเมื่อเขาฟังเราไม่ออกแล้วจะแน่ใจได้ยังไงว่าที่เขาชี้หน่ะเป็นทางไปบ้านพรานมูเล่"

ทุกคนมองหน้ากัน ต่างเห็นด้วยกับคำพูดของภาสกร

" เราคงต้องเสี่ยงดู ไปเถอะ เดี๋ยวไปหาถามคนข้างหน้าก็ได้ ต้องมีสักคนนึงแหละที่ฟังภาษาเราออก"

กิตติศักดิ์เดินนำหน้าทุกคนไป ตลอดทางก็ถามชาวบ้านคนนั้นคนนี้ แม้พวกเขาจะฟังไม่ออก แต่พอพูดชื่อพรานมูเล่กลับชี้มือบอกทางกันทุกคน จนมาถึงบ้านหลังหนึ่งที่มีเด็กชายคนหนึ่งกำลังเล่นอยู่

" หนู หนูจ๊ะ ที่นี่ใช่บ้านพรานมูเล่ไหม"

เด็กน้อยไม่ตอบแต่รีบวิ่งขึ้นบ้าน

" อ้าวหนู เดี๋ยวก่อนสิ พี่ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อยหนูกลับมาก่อน"

สักพักหญิงคนหนึ่งก็ออกมาจากบ้าน ส่วนเด็กชายคนนั้นได้แต่โผล่หัวออกมามองอยู่ที่หลังประตู

" คือพวกเรามาจากกรุงเทพนะครับ มาหาพรานมูเล่ ที่นี่ใช่บ้านพรานมูเล่มั๊ย"

หญิงคนนั้นพูดภาษากาเหรี่ยง ที่ทุกคนก็ฟังไม่ออกว่าหมายความว่ายังไง ในขณะที่ทุกคนกำลังยืนงงกันอยู่นั้น ก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามา

" พ่อของข้าไม่อยู่"

" อ่าห้า นี่ไงเราเจอคนที่พูดภาษาเราได้แล้ว"

" คืองี้นะ เรามาตามหาพรานมูเล่ ที่นี่คือบ้านของพรานมูเล่ใช่ไหม"

" ใช่ ต้องการเจอเขาทำไม"

" พวกเราต้องการให้พรานมูเล่นำทาง"

" เอ่อ พวกเรามาตามคำแนะนำของศาสตราจารย์ ท่านเป็นเพื่อนกับพรานมูเล่"

" พ่อข้าไม่เคยมีเพื่อนเป็นคนเมือง"

" อะ อ๋อ แต่ แต่ว่าศาสตราจารย์บอก หรือว่าศาสตราจารย์โกหกพวกเราวะ"

" ศาสตราจารย์ไม่น่าจะโกหกนะ ถ้าไม่รู้จักจริงๆจะบอกให้เรามาที่นี่ถูกได้ไง"

" ไว้พ่อของข้ามาก่อนแล้วค่อยว่ากัน ตอนนี้ค่ำแล้วพวกเอ็งก็พักที่นี่ละกัน"

" ได้ๆ ขอบคุณมาก ว่าแต่พรานมูเล่จะกลับมาตอนไหนเหรอ"

" พรุ่งนี้ "

" แล้วคุณชื่ออะไร เอ่อ เราจะได้เรียกถูก"

" เซโพ นั่นนอนายเมียของข้า แล้วก็ซำซาลูกชายข้า"

เซโพหันไปคุยกับลูกเมียก่อนจะกวักมือเรียกทุกคนขึ้นไปบนบ้าน นอนายยกสำรับข้าวมาวางทำมือบอกให้ทุกคนกิน

" กินข้าวกันก่อน ที่นี่มีแต่อาหารธรรมดาง่ายๆคงกินกันได้ กินเสร็จแล้วใครอยากอาบน้ำก็นู่นเลย"

ทุกคนมองตามที่เซโพชี้มือ

" ไหนอ่ะห้องน้ำ"

" ไม่มี ที่นี่ทุกคนอาบน้ำในแม่น้ำ ทั้งกินทั้งอาบทั้งซักผ้า ถ้าใครปวดหนักเบาก็เข้าป่าเลือกมุมตามใจชอบ"

" รีบกินเถอะจะได้รีบไปอาบน้ำ"

กินข้าวเสร็จซำซาก็ส่งตะเกียงให้1อันส่วนเด็กชายถือไว้1อันเดินนำหน้าไปที่แม่น้ำ หลังอาบน้ำเสร็จขึ้นบ้านมาก็เห็นว่านอนายใช้ผ้าบางๆปูไว้เตรียมให้เป็นที่นอนของทุกคน เซโพผายมือบอกและพูดขึ้น

" นอนเบียดๆกันหน่อยนะ บ้านหลังเล็ก หรือถ้าใครอยากนอนสบายจะลงไปนอนนอกบ้านก็ได้"

" พวกเรานอนได้ขอบคุณมาก"

ธารธาราพูดแล้วหันไปเปิดกระเป๋าหยิบเอาขนมสองสามห่อส่งให้ซำซา

" รับไปสิพี่ให้ขนมอร่อยนะ"

ซำซาแหงนมองดูหน้าผู้เป็นพ่อ เมื่อเซโพพยักหน้าก็รีบวิ่งไปคว้าขนมในมือของธารธารา

" อ้อ ถ้าไม่จำเป็นอย่าออกจากบ้านตอนกลางคืน ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรก็ห้ามทัก "

" เดี๋ยวก่อน แล้วถ้าเกิดปวดท้องขึ้นมากลางดึกหล่ะ"

ดารินถามขึ้นมา เธอยิ่งชอบปวดฉี่ตอนกลางคืนบ่อยๆอยู่ เซโพที่กำลังจะเดินไปหันกลับมาตอบ

" หน้าบ้านมีตะเกียงแขวนไว้อยู่หยิบมันไปส่องทางได้ ขอเตือนว่าอย่าไปคนเดียวให้หาเพื่อนไปด้วย"

ดารินพยักหน้าหงึกๆ ใครจะกล้าไปคนเดียวกันเล่า ยิ่งกลางป่ากลางเขาแบบนี้ด้วยน่ากลัวจะตาย

พอหัวถึงหมอนดุษฎีกับภาสกรก็หลับเป็นตาย กิตติศักดิ์กำลังจะหลับก็ได้ยินเสียงหมาหอนไม่หยุด เขาผุดลุกขึ้นเห็นเพื่อนสองคนหลับไม่กระดิก มองดูธารธารา แสงจากดวงจันทร์ที่สาดส่องมาเห็นว่าเธอนอนลืมตาอยู่ เขาย่องเบาๆไปหาเธอ

" น้ำ น้ำ"

" พี่กรุ๊ป"

" นอนไม่หลับเหรอ"

" อืม คงแปลกที่หน่ะ "

" พี่ก็เหมือนกัน ยิ่งเสียงหมาหอนด้วยเลยไม่หลับเลย"

" พี่คงไม่คิดว่าหมาหอนมันจะเห็นผีหรอกใช่ไหม"

" ฮ่าฮ่า ก็คิดอยู่นะ แต่ที่นี่คงไม่มีหรอกมั้ง"

โมรีนอนฟังทั้งสองสนทนากันเงียบๆ เธอเองก็นอนไม่หลับเหมือนกัน ได้ยินเสียงหมาหอนก็ยิ่งกลัวจนนอนไม่หลับ ได้แต่ข่มความกลัวด้วยการนอนนิ่งๆ ดารินลืมตาขึ้นมาสบตากับโมรี บวกกับเสียงหมาหอนที่ดังต่อเนื่องต่างคนต่างตกใจสะดุ้งลุกขึ้นมา

" แก แกเองเหรอ"

" ก็ฉันหน่ะสิแกคิดว่าใครหล่ะ"

บรู้ววววว

" เสียงหมาหอน ทำไมมันต้องมาหอนตอนนี้ด้วยเนี่ย จริงสิวันนี้มันวันพระด้วยนะ "

" คงไม่ใช่มันเห็นผีหรอกใช่ไหม"

" ไม่มีหรอก มันก็หอนไปตามเรื่องตามราวมันนั่นแหละไม่ต้องกลัว ผีเผอที่ไหนจะมี"

กิตติศักดิ์พูดปลอบใจทั้งที่ในใจของเขาก็กลัวเหมือนกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ธารนางครวญ   ตอนที่9

    " แก ฉัน ฉันว่าฉันปวดท้องแล้วหล่ะ "ดารินเอามือกุมท้อง แล้วเรื่องที่เธอไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้นจริงๆ ไม่ใช่ปวดฉี่แต่ปวดอึต้องเป็นอาหารที่กินเข้าไปเมื่อตอนค่ำแน่เลย กระเพาะลำไส้เธอไม่ค่อยดีกินอาหารแปลกไปทีไรท้องเสียทุกที" แกไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ"" ให้ฉันไปเฝ้าแกขี้เนี่ยนะ ไม่เอาอ่ะฉันกลัวผี"" แต่เซโพบอกว่าห้ามไปคนเดียวต้องมีเพื่อนไปด้วย แล้วแกก็เป็นเพื่อนของฉันถ้าแกไม่ไปแล้วจะให้พี่กรุ๊ปไปรึไง"" แต่ฉันก็กลัวนะ"" แกคิดว่าฉันไม่กลัวรึไง เราถึงต้องไปด้วยกันนี่ไง"" แกหน่ะปวดอะไรไม่รู้จักเวล่ำเวลา อั้นเอาไว้ก่อนไม่ได้รึไง อดเอาเดี๋ยวก็เช้าแล้ว"" โอ้ยจะบ้าเหรอ ฉันปวดจะแย่แล้ว เหมือนจะท้องเสียด้วยไม่ไหวแล้ว "ธารธาราเห็นทั้งสองคุยกัน โมรีก็ดูท่าจะไม่ยอมไปด้วยเลยอาสาไปเป็นเพื่อน" เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อนเอง ไปเถอะ"ดารินหันขวับไปมองธารธารา ไม่คิดว่าในยามลำบากคนที่ไม่รู้จักกันดีจะช่วยเธอ แต่เพื่อนสนิทที่คบกันมาหลายปีจะไม่สนใจเธอเเบบนี้ธารธาราถือตะเกียงพาดารินตรงไปที่ป่าหลังบ้าน" ฉันยืนรอตรงนี้นะ รีบไปเถอะ"" ได้ๆขอบใจนะ บุญคุณครั้งนี้ฉันจะไม่ลืมเลย กลับไปกรุงเทพฉันจะเลี้ยงหมูกะทะเธอเลย"

    Last Updated : 2025-04-24
  • ธารนางครวญ   ตอนที่10

    " รีบเก็บของแล้วรีบไปจากบ้านของข้าซะแล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก ข้าจะให้คนถ่อแพไปส่งพวกเอ็งที่ทางเข้าหมู่บ้าน"" เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนสิครับพราน ขอแค่พรานนำทางพวกผมไป พรานต้องการเท่าไหร่ว่ามาเลย นี่นี่ครับ พรานดูก่อน"ดุษฎีเปิดกระเป๋าที่ภายในเต็มไปด้วยเงินเป็นปึกให้มูเล่ดู มูเล่มองด้วยแววตาเฉยชาต่อให้เอามากองท่วมหัวเขาก็ไม่เอา เพราะการไปหุบเขามรณะมันทำให้พ่อของเขาต้องตาย ตั้งแต่วันนั้นเขาก็โทษตัวเองมาตลอด ว่าถ้าไม่ใช่เพราะเขา พ่อของเขาก็คงไม่ต้องตาย" หรือว่าไม่พอ งั้นก็เอาไปแค่นี้ก่อนกลับออกมาผมจะบอกศาสตราจารย์ให้เอามาให้อีก"มูเล่มองหน้าทุกคนแล้วพูดเสียงแข็งกร้าว" ต่อให้พวกเอ็งขนเอามากองท่วมหัวข้าก็ไม่สน พวกเอ็งรีบไปจากบ้านข้าเดี๋ยวนี้เลย ไป๊"" ใจเย็นๆ เรื่องนี้เราคุยกันได้ "" ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับพวกเอ็ง "" แต่พรานคะพวกเราขอร้องเถอะค่ะ นะคะ"" ทำไงดี ถ้าพรานไม่นำทางพวกเราแล้วเราจะไปหุบเขามรณะได้ยังไง"" ก็ถ้าเขาเล่นตัวไม่ยอมไป ก็หาพรานคนอื่นสิ ไม่เห็นจะยาก"ดุษฎีออกความเห็น ก็แค่พรานไม่ใช่เหรอในหมู่บ้านนี้คงไม่ได้มีพรานแค่คนเดียวหรอก" จริงอย่างที่ไอ้ด้วงมันพูด ในเมื่อพรานมูเล่ไม่ยอมนำท

    Last Updated : 2025-04-24
  • ธารนางครวญ   ตอนที่11

    " นายครับคุณน้ำเธอคงไปหุบเขามรณะแล้ว แล้วนายจะเอายังไงต่อครับ"อาชวีหันไปมองดูเขาสูงตะหง่านเบื้องหน้าด้วยสายตาเยือกเย็น เซโพกอดลาลูกเมียบอกทั้งสองไม่ต้องเป็นห่วง แล้วสั่งให้เมียเอาเช็คไปขึ้นที่ธนาคารในเมืองให้เรียบร้อย เขาจำเป็นต้องใช้เงินเพื่ออนาคตของลูกชายและลูกอีกคนที่อยู่ในท้องที่กำลังจะเกิดมา หากมีโอกาสรอดชีวิตกลับมา เขาตั้งใจจะพาลูกเมียย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง แต่หากเขาไม่ได้กลับมาเงินค่าจ้างที่ได้มาหลักล้านก็เพียงพอที่จะทำให้ลูกเมียของเขาอยู่ได้สุขสบาย" มึงแน่ใจว่าจะตามทัน"" แน่ใจ แต่ต้องใช้เวลาหน่อย"" นานไหม"" บอกไม่ได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์"เซโพแกะรอยตามมูเล่ไปเรื่อยๆจนกระทั่งใกล้ค่ำจึงหยุดเดิน" อ้าว หยุดทำไมวะ"" ใกล้ค่ำแล้วพวกเราต้องหาที่พัก เอ็งสองคนไปช่วยกันหากิ่งไม้มาสุมไฟ หามาเยอะๆพวกสัตว์ป่ามันกลัวไฟ เราต้องสุมไฟให้ติดทั้งคืนจะได้ไม่มีอันตราย"ลูกน้องสองคนมองหน้าอาชวีเมื่ออาชวีพยักหน้า พวกเขาก็เดินออกไปหากิ่งไม้ทันทีพอก่อกองไฟเสร็จ เซโพก็หยิบของบางอย่างใส่ลงไปในกองไฟ ก่อนจะลุกขึ้นโรยผงสีขาวรอบๆบริเวณเป็นวงกลมล้อมรอบทุกคนเอาไว้" พราน พรานโรยผงอะไรอ่ะ"ดำรงถามด้วยคว

    Last Updated : 2025-04-24
  • ธารนางครวญ   ตอนที่12

    พวกลูกน้องมองหน้ากัน พวกเขาก็เหนื่อยมาทั้งวันต่างก็ง่วงนอน ถึงได้หลับไปด้วยความเพลีย ใครจะไปคิดว่าจะเกิดเหตุขึ้น ทั้งที่พรานก็เตือนแล้วว่าอย่าออกนอกเส้นที่ขีดไว้ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นายของพวกเขาดันคิดถึงเมียมาก เห็นเสือสมิงแปลงกายเป็นเธอก็หน้ามืดตามัวรีบตามออกไป ทั้งที่เรียกพวกเขาคนใดคนหนึ่งไปเป็นเพื่อนก็ได้แต่ที่ไม่เรียกเพราะคิดว่าจะไปแอบเย่กันหน่ะสิ แต่แทนที่จะได้เย่เมีย ดันเกือบถูกเสือกินแทน แล้วทีนี้ก็มาโทษลูกน้องอย่างพวกเขาอาชารีบเข้าไปกอดขาอาชวี" พวกผมผิดไปแล้วครับนาย ยกโทษให้พวกเราด้วยเถอะครับ ต่อไปพวกเราจะไม่หลับพร้อมกันอีกแล้ว ตั้งแต่คืนพรุ่งนี้พวกเราจะแบ่งเวรกัน ผลัดกันเฝ้ายามครับนาย "แสงแดดสาดส่องลงมาแม้เป็นเวลาสายแต่ก็ไม่ร้อนมาก เพราะมีต้นไม้ใหญ่หนาบดบัง เซโพเดินนำหน้าพาอาชวีกับลูกน้องเดินลัดเลาะขึ้นเขาข้ามลำธาร จนกระทั่งพบซากกองไฟ เซโพตรงเข้าไปทันที" ซากกองไฟนี่ยังใหม่ๆอยู่ แสดงว่าพวกเขาพึ่งไปได้ไม่นาน"" จะเป็นพวกน้ำไหม"อาชวีรีบถามขึ้นมาด้วยความดีใจ เซโพมองไปรอบๆซากกองไฟมีผงขาวโรยรอบอยู่ก็พยักหน้า " คนที่รู้วิธีโรยผงป้องกันแบบนี้มีเพียงพ่อข้ากับข้าเท่านั้น ข้าคิดว

    Last Updated : 2025-04-24
  • ธารนางครวญ   ตอนที่13

    ในขณะที่ทุกคนกำลังเอร็ดอร่อยกับมันเผาอยู่ ไม่รู้เลยว่ามีสายตาหลายคู่จับจ้องพวกเขาอยู่ในพุ่มไม้ ดึกสงัดเงียบสนิทได้ยินเพียงเสียงลมพัดหวีดหวิว เซโพยังไม่นอนเขารู้สึกได้ถึงความผิดปกติของป่าบริเวณนี้ แปลกที่ไม่มีเสียงสัตว์ป่าร้องเลยสักแอะ เขานอนอย่างระแวดระวังจนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา มันมีมากกว่า1คู่ สวบ สวบ สวบ เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เซโพลุกขึ้นเตือนให้ทุกคนระวังตัว แต่ไม่ทันจะได้ตอบโต้ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างพุ่งโจมตีก่อนที่สติจะดับลงมูเล่เดินนำทุกคนขึ้นเขาลงเขาสู่หุบเขาใหญ่อีกลูก ก่อนจะหยุดลงแล้วหันมาบอกทุกคน" ป่าบริเวณนี้ดูแปลกไปทุกคนระวังตัวกันด้วย"ทุกคนมองไปรอบๆเห็นว่าต้นไม้แถวนี้ต้นใหญ่กว่าทางที่ผ่านมา ใบไม้ก็ใหญ่มากด้วยยิ่งเดินเข้าไปก็ยิ่งรู้สึกตัวเล็กเหมือนมด " นั่นมันอะไรหน่ะ เหมือนหม้อข้าวหม้อแกงลิงเลย"ภาสกรชี้ให้ทุกคนดู" ใช่ หม้อข้าวหม้อแกงลิง แต่เป็นหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่โคตรใหญ่เลย"" ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเราไปโดนมัน มันจะต้องสวบเราแน่ๆ"" พวกเอ็งรีบเดิน เราต้องออกจากที่นี่ให้ได้ก่อนค่ำ พวกเอ็งเห็นเขาลูกนั้นไหม"ทุกคนมองตามที่มูเล่บอก เห็นเขาลูกใหญ่อีกฟาก

    Last Updated : 2025-04-27
  • ธารนางครวญ   ตอนที่14

    สัตว์ประหลาดก้มหน้าลงไปชิดกับเป้า ทำจมูกฟุดฟิดสูดดมกลิ่น อาชวีถลึงตาใส่มันทั้งกลัวทั้งโมโห สัตว์ประหลาดอีกสามตัวถือคบไฟเข้ามาทำท่าจะจุดไฟ สัตว์ประหลาดที่ดมอยู่ที่หว่างขาอาชวีก็แผดเสียงแหลมเล็กเเสบแก้วหูขึ้นมา ก่อนจะลุกขึ้นตวัดมือตบไปที่สัตว์ประหลาดทั้งสามที่พยายามจุดไฟ จากนั้นก็เกิดการตะลุมบอนขึ้น" ดูเหมือนว่ามันจะทะเลาะกันเอง ตัวนั้นที่ดมเป้านายน่าจะอยากได้นายไปทำผัว แต่ตัวอื่นไม่ยอมเพราะต้องการจะกินนาย"" ข้าก็คิดแบบนั้น อาศัยช่วงที่พวกมันทะเลาะกันมาช่วยกันหาทางออกจากที่นี่ดีกว่า"ทุกคนช่วยกันทั้งแหกทั้งแงะทั้งกัดก็ไม่มีวี่แววว่าจะออกไปจากกรงขังได้ ปัง ปัง เสียงปืนดังขึ้นทุกอย่างเงียบสนิททั้งคนทั้งสัตว์ประหลาดต่างพากันมองหาต้นเสียง ก็เห็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งสะพายย่ามอยู่ ในมือถือปืนเล็งไปที่พวกมันแล้วก็กราดยิงไปทั่วปัง ปัง ปัง ปัง เสียงกรีดร้องของสัตว์ประหลาดดังขึ้นไปทั่วทั้งบริเวณ เสียงดังแสบแก้วหูจนทุกคนต้องเอามือมาปิดหูตัวเองไว้ ความโกลาหลเกิดขึ้นเมื่อพวกมันบางตัวล้มตายจมกองเลือด ที่เหลือต่างก็พากันวิ่งหนีแตกตื่น สัตว์ประหลาดตัวที่ถือปืนสะพายย่ามก็ตกใจตัวเอง โยนปืนและย่ามที่สะ

    Last Updated : 2025-04-27
  • ธารนางครวญ   ตอนที่15

    กิตติศักดิ์อุ้มโมรีไปได้ไม่ถึงไหน ก็เจอดุษฎีกับมูเล่ จึงบอกให้ทั้งสองไปช่วยดารินมูเล่มองดูสามคนที่บาดเจ็บนอนอยู่ก็ถอนหายใจ กิตติศักดิ์เดินเข้ามาหามูเล่" พวกเราคงต้องหยุดเดินทางก่อน จนกว่าทั้งสามคนจะหายดีถึงไปต่อได้"" ก็คงต้องเป็นอย่างงั้น "ภาสกรแขนเดาะ หน้ามีรอยบาดเป็นแผลใหญ่ยาวครึ่งซีกซ้าย โมรีหัวแตกตอนนี้จับไข้ตัวร้อน ดารินหนักสุดขาหักสองข้างต้องใช้ไม้ดามเอาไว้ ส่วนคนที่เหลือบาดเจ็บแค่เล็กน้อยอาชวีมองดูผลไม้หลากสีลูกใหญ่ที่ลูกน้องของเขาพากันเก็บมาแล้วขมวดคิ้ว" พวกมึงแน่ใจนะว่ากินได้ "" แน่ใจสิครับนายมันเป็นผลไม้ก็ต้องกินได้อยู่แล้ว นายกินสิครับกินเลย ลูกใหญ่ๆสีสวยๆทั้งนั้น"" กูไม่ชอบกินผลไม้"" โธ่นายครับ นี่มันในป่านะครับมีผลไม้ให้กินก็บุญหัวแล้วนายอย่า"คำว่าเรื่องมากยังไม่ทันหลุดออกจากปากดำรงก็รีบกลืนลงไป เมื่อเห็นสายตาดุดันของอาชวี เขารู้ตัวว่าพูดมากไปจึงรีบหยิบผลไม้ออกไปกินห่างๆ ก่อนจะโดนบาทาเจ้านาย" นายครับแล้วนายจะไปไหน"" กูไปหาเดินเล่นแถวนี้แหละ"" ไปคนเดียวไม่กลัวเหรอครับ ถ้าเกิดเจออะไรขึ้นมาจะทำไง"อาชวีหยุดชะงัก อยากออกไปสูดอากาศคิดอะไรเพลินๆคนเดียวหน่อย เมื่อนึ

    Last Updated : 2025-04-28
  • ธารนางครวญ   ตอนที่16

    " เฮ้ยน้ำ น้ำทำไมมาถึงนี่แล้ววะกรุ๊ป"ดุษฎีแตกตื่นเห็นว่าน้ำเริ่มขึ้นมาถึงตรงที่เขาหลบฝน จึงรีบตะโกนบอกกิตติศักดิ์ กิตติศักดิ์กับดุษฎีรีบวิ่งไปหาเพื่อนที่บาดเจ็บทั้งสามคน ก็เห็นว่าน้ำท่วมเข้าไปถึงข้อเท้าแล้ว ดารินนอนอยู่บนเปลไม้ไผ่เปียกไปทั้งตัวข้างๆมีดุษฎีกับโมรีที่นั่งกอดเข่าอยู่" ทำไมไม่พากันออกมาจะรอให้น้ำท่วมตายห่าก่อนรึไง"ดุษฎีสบถอย่างหัวเสีย" กูเจ็บแขน รินก็นอนเดี้ยงอยู่แบบนี้แล้วจะให้หนีไปไหน"ภาสรตอบ เขาเองก็อยากหนีไปจากตรงนี้แต่เขาจะทิ้งดารินไปได้ยังไง เลยรอให้คนอื่นมาช่วยแล้วค่อยออกไปพร้อมกัน กิตติศักดิ์หันไปมองโมรี อดต่อว่าไม่ได้" โมเธอแค่หัวแตกเจ็บที่หัว แต่มือกับขาสองข้างยังใช้การได้ ทำไมไม่ช่วยพาพวกเขาออกจากตรงนี้ก่อน"" จะให้พาไปไหน ฝนก็ตกหนักแบบนี้ไปทางไหนก็เปียกอยู่ดี"" เธอไม่เห็นเหรอว่าน้ำกำลังจะท่วมแล้วน้ำป่าเวลามันมามันมาเร็วมาก คนปกติยังหนีแทบไม่ทัน ตอนนี้เรามีเพื่อนที่บาดเจ็บอยู่อะไรช่วยได้ก็ต้องช่วยกันไปก่อน"" แต่พรานเซโพก็บอกแล้วนี่ว่าพรานมูเล่กำลังไปหาที่หลบฝนใหม่ให้เราอยู่"" ตอนนี้พรานมูเล่ยังไม่กลับมา น้ำเริ่มขึ้นมาเรื่อยๆแล้วเห็นไหม เราต้องช่วยเหลื

    Last Updated : 2025-04-28

Latest chapter

  • ธารนางครวญ   ตอนที่24

    เมื่อได้ฟังกิตติศักดิ์พูดทุกคนก็เริ่มเป็นกังวลหันไปมองชาวบ้านที่อยู่ไม่ไกล ไม่รู้ว่าพวกนั้นจ้องมองพวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ละคนจ้องมองไม่ละสายตาจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม " กินอิ่มกันแล้วใช่ไหมพวกเราจะได้เก็บล้าง"" ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพวกเราช่วยกันเก็บล้างเอง เกรงใจจะแย่ทำให้พวกเรากินแล้วยังจะให้เก็บล้างให้อีก"ธารธาราร้องห้ามแล้วเก็บจานรวมกัน" ก็ได้ งั้นเอ็งเอาจานไปล้างที่ตรงนั้น"ธารธารามองตามที่หญิงคนนั้นชี้บอกแล้วพยักหน้าส่งยิ้มให้ธารธาราดารินและโมรีช่วยกันล้างจานระหว่างล้างจานดารินก็กระซิบกระซาบเล่าให้ฟัง เรื่องเมืองแม่ม่ายอิระวดีที่ดุษฎีเล่าให้ตนฟังมาอีกทีทางด้านพวกผู้ชายก็ปรึกษากันว่าจะออกจากเมืองแม่ม่ายยังไง" ข้าขอคิดดูก่อน ที่นี่มันมีมนต์คาถากำกับเอาไว้ เหมือนเป็นอีกมิติหนึ่งยากที่ใครจะเข้ามา แต่ถ้าหลุดเข้ามาแล้วก็ยากที่จะออกไป"อาชากับลูกน้องอีกสองคนหันไปเห็นหญิงม่ายคนหนึ่ง ยื่นมือยาวเฟื้อยไปเก็บผลไม้ที่อยู่บนต้น" นั่น นั่นพวกมึงเห็นเหมือนกูไหมวะ"" ชัดเลยพี่ม้า"" นี่แม่ม่ายหรือแม่นากกันแน่"ทั้งสามมองหน้ากัน หญิงคนนั้นรู้อยู่แล้วว่ามีคนมองจึงเรียกเสียงหวาน" กินผลไม้ด้วยกันไหมจ

  • ธารนางครวญ   ตอนที่23

    " เมืองแม่ม่ายอิระวดี แสดงว่าทั้งเมืองตัองมีแต่แม่ม่ายใช่ไหม"" ถูกต้อง"" ว้าว ก็ดีหน่ะสิถึงจะเป็นแม่ม่ายแต่ก็มีแต่คนสวยๆ ฉันพร้อมจะเป็นผัวให้"ดำรงพูดขึ้นมาด้วยความภาคภูมิใจ พร้อมทำท่าเก๊กหล่อ" ฉันก็ด้วยพี่"" ฉันก็ด้วย"" เมืองที่มีแต่แม่ม่ายมันจะเหมือนกับที่เคยออกข่าวไหม ว่าพอมันจับผู้ชายคนไหนไปทำผัว ผู้ชายคนนั้นก็จะตาย"ภาสกรถามขึ้นมา ดำรงกับลูกน้องคนอื่นที่บอกอยากเป็นผัวแม่ม่ายถึงกับหน้าถอดสี" ไม่ใช่ แม่ม่ายที่เมืองนี้ไม่เอาผัว แต่เกลียดผู้ชาย หากมีผู้ชายหลุดรอดมาจะถูกทำให้ตายอย่างทรมาน เพราะก่อนที่พวกเขาจะมาอยู่ที่นี่ได้ ก่อนตายได้ถูกผัวทำให้เจ็บช้ำน้ำใจจนต้องเลิกรากัน จากนั้นก็ครองตัวเป็นหม้ายจนตาย แต่ใช่ว่าทุกคนจะได้มาที่นี่ ต้องเป็นหญิงหม้ายที่ตั้งปณิธาณแน่วแน่ว่าจะไม่เอาผัวอีก และชอบสร้างกุศลผลบุญ ด้วยจิตที่อาฆาตผู้ชาย จึงทำให้มาอยู่รวมกันที่เมืองนี้"" พ่อ ไม่มีเวลาแล้ว พวกนั้นใกล้เข้ามาแล้วทำไงดี"เซโพเห็นพวกแม่ม่ายใกล้เข้ามาจนเห็นเงาตะคุ่มๆจากไกลๆ ก็รีบสะกิดบอกมูเล่ให้หยุดเล่าประวัติก่อน" เร็วพวกเอ็งรีบแปลงโฉม"ทุกคนรีบแต่งตัวเป็นหญิงเอาเสื้อผ้าของโมรีดารินและธารธาราไ

  • ธารนางครวญ   ตอนที่22

    เดินมาพักใหญ่เริ่มมีแสงสว่างส่องลอดมาต้นไม้บริเวณนี้ใบไม้บนต้นมีแต่ใบแห้งๆ บางต้นยืนต้นตาย" พรานพักก่อนเถอะฉันไปต่อไม่ไหวแล้ว"โมรียืนพิงต้นไม้หายใจเหนื่อยหอบ มูเล่มองดูรอบบริเวณ ก่อนจะบอกให้ทุกคนพักได้ภาสกรกินน้ำไปได้ไม่กี่อึกน้ำก็หมดขวด เขาค้นหาในกระเป๋าก็ไม่มีน้ำเหลือ" ใครมีน้ำเหลือบ้างขอหน่อย"" กูเหลือแค่ครึ่งขวดเองยังไม่ได้กินเลย"" ไม่ต้องมองกู ของกูก็หมดแล้วมึงพึ่งกินเมื่อกี้ไม่ใช่รึไง"" กูไม่อิ่ม"โมรีเปิดกระเป๋าตัวเองจะหยิบขวดน้ำออกมา ปรากฏว่ามีแต่ขวดเปล่า ดารินก็เช่นกันแต่ดารินโชคดีที่ดุษฎีส่งน้ำที่เหลือครึ่งขวดให้ เธอรีบยกดื่มอย่างกระหาย โมรีได้แต่กลืนน้ำลายมองตาม" รินแบ่งฉันมั่ง"" อึก อึก อึก แกว่าอะไรนะฉันได้ยินไม่ชัด"โมรีดื่มน้ำหมดขวดแล้วหันมาถามโมรี โมรีชักสีหน้าไม่พอใจ เธอรู้ว่าดารินแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินที่เธอพูด" นายครับพวกเราไม่มีน้ำกินเลยสักหยดทำยังไงดี"" แถวนี้พอมีลำธารไหมลองไปถามพรานดูซิ"ลูกน้องของอาชวีเดินไปถามเซโพ แล้วกลับมารายงานอาชวีว่าเซโพจะพาไปหาแหล่งน้ำ" เดี๋ยวก่อน ถ้าข้าจำไม่ผิดแถวนี้ไม่มีแม่น้ำลำธารหรอก"" อ้าว แล้วอย่างนี้พวกเราไม่แย่เหรอ อดน้

  • ธารนางครวญ   ตอนที่21

    " เดี๋ยวสิพราน พวกเราไม่มีพรานแล้วจะไปต่อกันได้ยังไง พรานรออีกสักหน่อยเถอะนะ พวกเขาอาจกำลังมาก็ได้"" ใช่ครับพราน เข้าไปอาจสวนกันเปล่าๆ"" รอไม่ได้ นี่ผ่านมา15นาทีแล้วขืนรอต่อไปยิ่งมีแต่อันตราย"ต้นหญ้าสูงท่วมหัวมองไม่เห็นทาง พวกนั้นอาจวิ่งเตลิดไปทางอื่น ป่านนี้คงหลงอยู่ในทุ่งหญ้าแสนกว้างใหญ่" พราน"" นี่เป็นแผนที่ที่ข้าทำขึ้นมาตอนอยู่ในถ้ำ เอ็งไปตามในแผนที่นี้ แล้วจะไปถึงที่อยู่ของกล้วยไม้สีรุ้ง"พูดจบมูเล่ก็วิ่งฝ่าทุ่งหญ้าเข้าไป ธารธารานึกขึ้นมาได้ก็บอกให้ทุกคนช่วยกันสุมไฟให้เกิดควันเยอะๆ คนในทุ่งหญ้าจะได้รู้ทิศทางทุกคนจึงรีบเอาใบไม้มาสุมไฟ ลูกน้องของอาชวีที่วิ่งวนหลงทางอยู่ในทุ่งหญ้ามองเห็นควันที่พวยพุ่งอยู่อีกทิศหนึ่งก็รู้ว่าตัวเองวิ่งเตลิดมาไกลจึงรีบวิ่งไปยังทิศทางที่มีควันไฟ เซโพที่เห็นดำรงวิ่งหลงทิศก็วิ่งตามตะโกนเรียกก็ไม่ได้ยินกว่าจะวิ่งตามทันก็เสียเวลาไปนาน พอเห็นควันไฟก็รู้ว่าต้องมีคนในทีมจุดขึ้นเพื่อบอกทิศทางจึงรีบพากันออกมา " นั่นมากันแล้ว พรานเซโพ"" ไอ้ดำกูนึกว่าจะไม่เจอมึงอีกแล้ว "อาชาดีใจรีบวิ่งเอาผ้าชุบแอลกฮอล์ไปให้" แล้วพ่อข้าหล่ะยังไม่ออกมารึ ไม่ใช่ว่าวิ่งมาเป็

  • ธารนางครวญ   ตอนที่20

    เพราะมีคนได้รับบาดเจ็บจากการถูกงูกัดทุกคนเลยตกลงกันว่าจะพักอยู่ที่นี่ต่ออีกสักสองคืน อีกอย่างไม่ไกลจากบริเวณที่พักมีต้นมันขึ้นอยู่เยอะ เท่ากับว่าทุกคนจะมีอาหารกินกันโดยไม่ต้องไปหาไกลๆมูเล่บอกว่าจะออกไปสำรวจรอบๆบริเวณพร้อมหาอาหารเพิ่ม ธารธาราขอตามไปด้วย แน่นอนว่าธารธาราไปไหนอาชวีก็ตามติด พวกเขาเดินเลาะริมแม่น้ำไปเรื่อยๆ จนได้มาเจอต้นพุทราอยู่ต้นหนึ่งออกลูกเต็มไปหมด ลูกใหญ่ด้วย ธารธาราสังเกตุเห็นนกหลายตัวมาจิกกินก็คิดว่าน่าจะปลอดภัยกินได้ จึงลองเด็ดมากินลูกหนึ่งปรากฏว่าหวานกรอบอร่อยมาก จึงให้อาชวีกับอาชาและดำรงที่ตามมาด้วยช่วยกันเก็บ ดารินนั่งรอทุกคนอยู่อย่างเบื่อๆเซ็งๆ จะไปด้วยก็ไม่ได้ขายังเดินไม่มั่นคง พอเห็นธารธารากลับมาก็ดีใจรีบลุกเดินกระโผลกกะเผลกไปหา " น้ำกลับมาแล้ว ได้อะไรมาด้วยเยอะเลย"" พุทรา หวานกรอบมาก ลองชิมดู"ดารินรับพุทรามากัดกินดูแล้วก็พยักหน้า" อือหวานกรอบอร่อยจริงๆ"" ทุกคนวันนี้เรามีพุทราเพิ่มมาให้กินด้วยนะมาเอากันเร็ว"" แล้วพ่อของข้าหล่ะไม่ได้กลับมาพร้อมพวกเอ็งรึ"" ตอนที่พวกเราเก็บพุทราอยู่พรานมูเล่บอกว่าจะไปสำรวจอีกทางหนึ่ง ให้พวกเรากลับก่อนเลย เดี๋ยวเขาตามมา

  • ธารนางครวญ   ตอนที่19

    " ก็แค่งูเห่าตัวเดียว โธ่เอ๊ย นึกว่าพวกกูจะกลัวเหรอ แน่จริงมากันให้เป็นฝูงเลยเซ่ "ลูกน้องคนหนึ่งของอาชวีเดินไปพูดเยาะเย้ยใกล้ๆซากงู แล้วยังถ่มน้ำลายใส่มันอีกอาชวีจับบ่าสองข้างของธารธาราถามด้วยความห่วงใย" เมื่อกี้ตกใจหรือเปล่า "ธารธาราส่ายหน้า" ขอบคุณ"" ผมต้องปกป้องคุณอยู่แล้ว คุณต้องอยู่ใกล้ๆผมนะ ห้ามอยู่ไกลจากผมเด็ดขาดรู้ไหม"คนอื่นๆเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วจึงกลับไปเหลาไม้ต่อ ไม่มีใครสังเกตุว่างูเห่าเป็นฝูงกำลังเลื้อยมาทางพวกเขา ลูกน้องของอาชวีที่ถ่มน้ำลายใส่ซากงู กำลังจะหันหลังกลับก็ถูกฉกเข้าที่ขา พอเขาก้มลงดูก็ตกใจ อ้าปากค้างเมื่อเห็นงูเห่าหลายตัวแผ่แม่เบี้ยและพุ่งเข้ามากัดเขาจนล้มลง" โอ้ย ช่วย ช่วยด้วย"ทุกคนหันไปดูก็ตกใจกับภาพที่เห็นงูเห่ารุมฉกกัดชายคนนั้นจนแทบมองไม่เห็นร่าง คนที่มีปืนก็ยิงปืนใส่พวกมัน แต่ยิ่งยิงจำนวนพวกมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเหมือนแตกตัวได้" ขืนเป็นแบบนี้ไม่ไหวแน่พราน พวกมันมาจากไหนกันเยอะแยะขนาดนี้ ปืนมีแค่สี่กระบอกต่อให้ยิงหมดลูกกระสุนก็ต้านพวกมันไม่ไหวหรอก"" กรี๊ดดด พรานดูนั่นพวกมันมาจากทางนั้นด้วย"ดารินชี้ให้มูเล่ดูงูเห่านับจำนวนไม่ถ้วน พากันเลื้อยเข

  • ธารนางครวญ   ตอนที่18

    เมื่อมูเล่กลับเข้าถ้ำมา ก็ได้ถามทุกคนว่าจะไปต่อหรือเปลี่ยนใจกลับออกจากป่า" ก็ต้องไปต่อสิพราน นี่พวกเรายังไปไม่ถึงไหนเลยนะ ยังไงก็ต้องนำกล้วยไม้สีรุ้งกลับไปด้วย"" มีใครจะเปลี่ยนใจไหม ฉันจะไม่บังคับหากใครเปลี่ยนใจก็ให้กลับพร้อมกับคุณอาชวีได้ พรานเซโพจะนำทางทุกคนออกจากป่ากลับกรุงเทพ แต่ถ้าใครจะไปต่อเราก็จะไปด้วยกัน พรานมูเล่จะนำทางเราสู่หุบเขามรณะ"กิตติศักดิ์ถามทุกคนในทีม ดารินลังเลเธอก็อยากกลับ จึงมองหน้าธารธาราเพราะคิดว่าธารธารายังไงก็ต้องกลับกับอาชวี แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อธารธาราพูดขึ้นมาว่าจะไปต่อกับทีม กิตติศักดิ์ยิ้มดีใจ อาชวีรีบเดินเข้ามาจับแขนธารธารา" ไม่ได้นะน้ำ คุณไปต่อไม่ได้ คุณต้องกลับกับผม"" ปล่อย ฉันไม่ใช่ลูกน้องของคุณที่ต้องทำตามคำสั่งคุณ คุณจะกลับก็กลับไปคนเดียวฉันไม่กลับ จนกว่าจะได้กล้วยไม้สีรุ้งกลับไปด้วย นี่เป็นความตั้งใจของฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว"" ไอ้กล้วยไม้บ้าบอนั่นมันมีอยู่จริงที่ไหนหล่ะ กลับไปคุณอยากได้สีรุ้งหรือสีเลือดผมจะให้คนพ่นสีจะเอาสักกี่ร้อยกี่พันดอกก็ได้"" คุณจะบ้าเหรอ มันต้องเป็นสีที่เกิดเองตามธรรมชาติ ไม่งั้นจะมีสรรพคุณทางยาได้ยังไง"" ผมไม่สน ยังไง

  • ธารนางครวญ   ตอนที่17

    " เลิกบอกใครว่าฉันเป็นเมียคุณสักที"" ก็คุณเป็นเมียผม"" ฮึ ตอนนั้นถ้าคุณบอกใครๆแบบนี้ฉันคงจะดีใจมาก ในตอนที่ฉันต้องการการยอมรับจากคุณแต่คุณก็ไม่สนใจ ตอนนี้ฉันไม่ต้องการมันแล้ว ฉะนั้นอย่ามายัดเยียดให้ฉัน"" น้ำผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมได้ไหม"" อาชวีเราจบกันแล้ว"" ไม่ คุณจบของคุณคนเดียวผมไม่รับรู้ด้วยเรายังเป็นเหมือนเดิม คุณยังเป็นเมียผม"" มันสายไปแล้ว ฉันไม่ต้องการเกี่ยวข้องอะไรกับคุณอีก"" ผมรู้ว่าผมผิดแล้ว ผมถึงได้ตามมาง้อคุณถึงที่นี่ไง"" ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องการ พอฝนหยุดคุณก็พาลูกน้องของคุณกลับกรุงเทพไปซะที่นี่ป่าเขาไม่ใช่ที่เล่นสำหรับคุณ"" ถ้าผมจะกลับคุณก็ต้องกลับไปกับผมด้วย"" ฉันมาทำงานไม่ได้มาเที่ยวเล่น ถ้างานของฉันไม่เสร็จฉันจะไม่มีวันกลับ"" ไอ้งานที่คุณว่าคือไปตามหากล้วยไม้บ้าบออะไรนั่นมาวิจัยหน่ะเหรอ ฮ่าฮ่า น้ำ คุณคิดว่ามันมีอยู่จริงเหรอ คุณหน่ะโดนไอ้แก่นั่นหลอกแล้วหล่ะ "" ฉันเชื่อว่ามันมีอยู่จริง พรานมูเล่เคยเห็นมันมาแล้ว เเล้วเขาก็เป็นคนที่กินกล้วยไม้สีรุ้งแล้วหายจากโรคร้ายจริงๆ นั่นยังไม่ใช่ข้อพิสูจน์อีกเหรอ"" ไอ้พรานแก่นั่นกับไอ้แก่ที่สถาบันมันรวมหัวกันหลอก

  • ธารนางครวญ   ตอนที่16

    " เฮ้ยน้ำ น้ำทำไมมาถึงนี่แล้ววะกรุ๊ป"ดุษฎีแตกตื่นเห็นว่าน้ำเริ่มขึ้นมาถึงตรงที่เขาหลบฝน จึงรีบตะโกนบอกกิตติศักดิ์ กิตติศักดิ์กับดุษฎีรีบวิ่งไปหาเพื่อนที่บาดเจ็บทั้งสามคน ก็เห็นว่าน้ำท่วมเข้าไปถึงข้อเท้าแล้ว ดารินนอนอยู่บนเปลไม้ไผ่เปียกไปทั้งตัวข้างๆมีดุษฎีกับโมรีที่นั่งกอดเข่าอยู่" ทำไมไม่พากันออกมาจะรอให้น้ำท่วมตายห่าก่อนรึไง"ดุษฎีสบถอย่างหัวเสีย" กูเจ็บแขน รินก็นอนเดี้ยงอยู่แบบนี้แล้วจะให้หนีไปไหน"ภาสรตอบ เขาเองก็อยากหนีไปจากตรงนี้แต่เขาจะทิ้งดารินไปได้ยังไง เลยรอให้คนอื่นมาช่วยแล้วค่อยออกไปพร้อมกัน กิตติศักดิ์หันไปมองโมรี อดต่อว่าไม่ได้" โมเธอแค่หัวแตกเจ็บที่หัว แต่มือกับขาสองข้างยังใช้การได้ ทำไมไม่ช่วยพาพวกเขาออกจากตรงนี้ก่อน"" จะให้พาไปไหน ฝนก็ตกหนักแบบนี้ไปทางไหนก็เปียกอยู่ดี"" เธอไม่เห็นเหรอว่าน้ำกำลังจะท่วมแล้วน้ำป่าเวลามันมามันมาเร็วมาก คนปกติยังหนีแทบไม่ทัน ตอนนี้เรามีเพื่อนที่บาดเจ็บอยู่อะไรช่วยได้ก็ต้องช่วยกันไปก่อน"" แต่พรานเซโพก็บอกแล้วนี่ว่าพรานมูเล่กำลังไปหาที่หลบฝนใหม่ให้เราอยู่"" ตอนนี้พรานมูเล่ยังไม่กลับมา น้ำเริ่มขึ้นมาเรื่อยๆแล้วเห็นไหม เราต้องช่วยเหลื

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status