หน้าหลัก / รักโบราณ / นอกบทนางร้าย / บทที่ 1 จุดเริ่มต้นของบทนางร้าย

แชร์

บทที่ 1 จุดเริ่มต้นของบทนางร้าย

ผู้เขียน: เทียนสื่อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-06 23:02:07

ปัง!

ปัง!

ปัง!

เสียงฝ่ามือทุบประตูไม้จนแทบหลุดกระเด็น ตามมาด้วยเสียงโหวกเหวกจนแสบแก้วหู

“นังตัวขี้เกียจ ตื่นได้แล้ว จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงเมื่อใด”

หญิงสาววัยสิบห้าดีดเด้งร่างขึ้นพลันนั่งเหยียดตรง ผ้าห่มผืนเก่าถูกเลิกออกไปกองตรงเอว เส้นผมสีดำเงาดุจดั่งน้ำหมึกพันกันยุ่งเหยิง

“รู้แล้ว ท่านมองท้องฟ้าบ้างหรือไม่นี่มันเพิ่งยามอิ๋น [1] จะเร่งให้ข้าตื่นหาสวรรค์วิมานใดมิทราบ” เสียงใสโต้กลับ

ผู้ที่ยืนเท้าเอวอีกด้านก็ไม่ยอมกัน “นังเด็กปากดี หากไม่เพราะแม่ของเจ้าสำส่อนไม่รักดีจะให้กำเนิดมารร้ายเช่นเจ้าได้อย่างไร”

ผัวะ!

ประตูที่งับเมื่อครู่ถูกเปิดออกไม่ทันตั้งตัว หญิงร่างท้วมถึงกับเบิกตาค้างตระหนกตื่น เพราะเมื่อครู่นางลงแรงไปกับการเคาะบานประตูอย่างหนัก เป็นเหตุให้ร่างที่กลมดั่งอึ่งอ่างแม่ไข่กลิ้งหลุน ๆ ไปนอนหงายท้องพังพาบที่พื้นเย็นเยียบ

หญิงสาวยกมือปิดปาก เสียงใสหัวเราะคิกคักด้วยความสาแก่ใจ

“เจ้า! นังตัวดี กล้าทำร้ายข้ารึ ข้าจะไปฟ้องลุงของเจ้า”

นัยน์ตากลมโตกลอกมองบนไม่แยแส “เชิญท่านขี่ม้าสามศอกไปฟ้องท่านลุงของข้าได้เลย ข้าถูกทำโทษจนเคยชินเสียแล้ว ครั้งนี้จะให้ข้าทำอะไรอีกเล่า คุกเข่าสองชั่วยาม หรือว่าโบยข้าให้หลังขาด”

“เจ้า เจ้า…” หญิงร่างท้วมชี้นิ้วพลางกัดฟันพูดไม่ออกจนตัวสั่นเทิ้ม

เสียงที่แผดตั้งแต่ตะวันยังไม่โผล่พ้นขอบฟ้าเป็นเสียงของป้าสะใภ้ใหญ่นามว่าเฉินเจีย ส่วนหญิงสาวที่แค่นหัวเราะสาแก่ใจอยู่ไม่ไกลกันก็คือเฉินอิ้งถง

อันที่จริงเฉินอิ้งถงผู้นี้คือหญิงสาววัยยี่สิบปีจากยุคสองพันหาใช่คนในโลกใบนี้ ทว่าคืนหนึ่งเฉินอิ้งถงนอนดูซีรีส์อยู่เพลิน ๆ กลับเผลอหลับไปให้จอดูคน ลืมตาตื่นอีกทีจิตวิญญาณก็มาสวมร่างนางร้ายที่มีชื่อแซ่คล้ายตัวเองในซีรีส์เรื่องนั้นอย่างน่าอัศจรรย์

ที่ชวนปวดหัวยิ่งกว่านั้น โลกใบนี้ไม่ใช่กองถ่ายละครทว่ามันกลับประหนึ่งโลกคู่ขนานในอีกมิติ หนำซ้ำเฉินอิ้งถงเข้ามาอยู่ในร่างนางร้ายตั้งหลายเดือนแล้ว และไม่มีทีท่าว่าตนจะสามารถทลายมิติกลับไปยังโลกใบเดิมได้ ทั้งยังต้องมาอยู่อาศัยในแถบกันดารอย่างอำเภอฉีหลิน ในเมื่อเป็นเช่นนี้หญิงสาวจึงทำได้เพียงปล่อยวางและใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ให้ดีต่อไป

เฉินอิ้งถงส่ายหน้าระอิดระอาเพราะดูเหมือนคงไม่มีใครดวงกุดเท่านางอีกแล้ว แทนที่จะได้เข้ามาเป็นนางเอกดันโผล่มาอยู่ในร่างนางร้ายช่วงวัยปักปิ่นไปเสียได้ ซ้ำยังเกิดในตระกูลแร้นแค้น มีป้าสะใภ้ใจทรามกับลูกพี่ลูกน้องจอมรั้น โชคดีนิดหน่อยที่ลุงแท้ ๆ ของนางยังเห็นแก่เยื่อใยจากสายเลือดเดียวกัน เฉินอิ้งถงจึงไม่ถูกสองแม่ลูกตามรังแกมากจนเกินไป อันที่จริงเฉินอิ้งถงคนใหม่นี้ก็แค่รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหางต่างหาก 

นางร้ายเฉินอิ้งถงในเมื่อก่อนหากว่ากันตามบทบาท นางเป็นคนหัวอ่อน ถูกกดขี่รังแกจากป้าสะใภ้แต่เล็กจนโต กระทั่งถูกขายออกไปเป็นอนุเศรษฐีอย่างไม่เต็มใจ และดูเหมือนว่าเหตุการณ์คล้ายกันนี้กำลังใกล้เข้ามาแล้วเสียด้วย เฉินอิ้งถงจากอีกมิติจึงต้องคิดวิธีรับมือเอาไว้อยู่ทุกวัน

เนื่องจากเฉินอิ้งถงคนก่อนเติบโตมาพร้อมความชิงชังเคียดแค้น ในใจอัดแน่นไปด้วยเพลิงอาฆาต ทำให้ตอนที่นางถูกขายออกไปเลือกกระทำการอุกอาจ กระทั่งกล้าลอบวางยาเศรษฐีหม่าจนตาย จากนั้นนางก็หนีไป ทำให้ฮูหยินของเศรษฐีหม่าหวนกลับมาเอาเรื่องคนสกุลเฉิน

ในตอนที่ทุกคนถูกสั่งสอนจนเอาชีวิตไม่รอด เฉินอิ้งถงก็แอบมองคนตระกูลเฉินล่มจมไปต่อหน้าต่อตาด้วยสีหน้าเลือดเย็น จากหญิงสาวอ่อนแอไร้กำลังก็แปรผันเป็นคนเกรี้ยวกราดไร้หัวใจ หลังจากกำจัดศัตรูที่ชิงชังได้แล้ว นางจึงตัดสินใจมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองหลวง

กระทั่งได้พบกับจินเหยียนหรือเหยียนอ๋องเข้าโดยบังเอิญ ทำให้นางตกหลุมรักเขาอย่างจัง ทว่าคนผู้นี้เป็นถึงชินอ๋องอีกทั้งยังมีสัญญาหมั้นหมายกับคุณหนูตระกูลลู่ซึ่งก็คือนางเอกของเรื่องนามว่าลู่หลันหลิง

เป็นเหตุให้เฉินอิ้งถงเกิดความริษยา นางจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตนสามารถคว้าหัวใจพระเอกคนนี้มาให้ได้ ทั้งยังยัดเยียดตัวเองสารพัดวิธีจวบจนได้พบเหยียนอ๋องอีกครั้งที่โรงน้ำชา แน่นอนว่านางเกือบสมปรารถนาเพราะเบื้องหลังของนางร้ายผู้นี้ย่อมมิใช่ธรรมดา ต่อให้นางเกิดมาในตระกูลสามัญก็ตาม แต่ใครจะล่วงรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของนางได้กันเล่าเพราะนั่นคือปมที่ชวนซับซ้อนเสียเกินจะกล่าว ทว่าท้ายที่สุดนางร้ายก็ไม่อาจฝืนดวงชะตา ในเมื่อเฉินอิ้งถงถูกวางตัวให้เป็นนางร้ายจะหมายเคียงคู่พระเอกได้อย่างไร

ดังนั้นเฉินอิ้งถงที่เข้ามาสวมบทบาทเป็นนางร้ายในตอนนี้ ย่อมรู้ซึ้งถึงจุดจบของตนเองดีว่าไม่มีทางสมหวังกับพระเอกไปได้ อีกทั้งยังเป็นการเอาคอไปแขวนบนผ้าขาวโดยใช่เรื่อง 

ในเมื่อตนได้โผล่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตัวละครในซีรีส์เรื่องนี้แล้ว เฉินอิ้งถงจะไม่ยอมกลายเป็นนางร้ายที่มีชีวิตสุดอาภัพแน่นอน อีกอย่างเหยียนอ๋องคนนี้ก็ไม่ใช่พระเอกที่นิสัยดีเด่อะไร 

เฉินอิ้งถงชอบพระเอกธงเขียว หาได้ชมชอบพระเอกธงแดง ต่อให้กลับตัวกลับใจแล้วอย่างไร ในบทบาทช่วงแรกเขาก็ร้ายยิ่งกว่าปีศาจไม่ใช่หรือ

ดังนั้นเป้าหมายใหม่ของเฉินอิ้งถงก็คือ การแต่งงานกับตัวประกอบของเรื่องเช่นองค์ชายห้านอกจากช่วยให้หลีกหนีชะตาที่น่าอดสู ก็ยังสามารถเปลี่ยนช่วงวิกฤติของชีวิตให้เป็นโอกาส

ที่นางจงใจเลือกเขานั่นเพราะองค์ชายห้าจินชางหลงเป็นน้องชายสุดรักของเหยียนอ๋อง ชายหนุ่มอายุไล่เลี่ยกับเฉินอิ้งถงในตอนนี้ อาจจะราวสิบหกสิบเจ็ด หนำซ้ำเขายังสุขภาพไม่ดีขี้โรคอีกต่างหาก บิดามารดาหมางเมินมีเพียงจินเหยียนและไทเฮาเท่านั้นที่เอาใจใส่เขาดุจไข่ในหิน 

นั่นยิ่งทำให้เฉินอิ้งถงมั่นใจได้ว่าในอนาคตนางจะไม่ถูกสามีข่มเหง อีกอย่างบุรุษที่อ่อนแอไร้กำลังจะมีตระกูลใดอยากส่งบุตรีเข้าไปหมั้นหมายด้วยกันหรือ ต่อให้เป็นถึงองค์ชายก็ตามทว่าตำแหน่งนี้ก็หาได้มีประโยชน์ เช่นนั้นองค์ชายห้าย่อมเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการพลิกบทนางร้ายสุดอนาถ

ทว่าตอนนี้เฉินอิ้งถงเป็นเพียงหญิงสาววัยกระเตาะต่อให้มีปัญญาแต่ไร้กำลังก็ดูจะลำบาก ทั้งยังติดแหง็กอยู่ที่อำเภอฉีหลินสุดแร้นแค้น แล้วอย่างนี้นางจะไปคว้าองค์ชายตัวประกอบผู้สูงส่งมาทำสามีได้อย่างไร ยิ่งคิดก็ยิ่งชวนปวดสมอง 

“ท่านแม่!” 

เฉินอิ้งถงหลุดจากภวังค์ ดวงตากลมโตจดจ้องภาพบุตรสาวประคองมารดาด้วยสีหน้าเรียบเฉย 

“นังตัวแสบ เจ้ารังแกท่านแม่ข้ารึ”

เฉินจิงลูกสาวแท้ ๆ ของเฉินเจียขบฟันแน่น นางเขม้นมองเฉินอิ้งถงแววตาเจือความมาดร้าย

สองแม่ลูกคู่นี้เมื่อก่อนก็กดขี่เฉินอิ้งถงคนก่อนอย่างหนัก มีสิทธิ์ใดมาชักสีหน้าใส่นาง

“ผู้ใดรังแกป้าสะใภ้กันเล่า ก็แม่ของเจ้ากินจนขึ้นอืด ทรงตัวไม่อยู่เลยล้มกลิ้งลงไปเอง แร้นแค้นเพียงนี้ไม่ช่วยกันประหยัด เล่นยัดของกินไม่แบ่งก็สมควรแล้ว”

เฉินเจียโดนต่อว่าก็โมโหจนหน้าสั่น

“กรี๊ด…นังเด็กเหลือขอ วันนี้ข้าจะเอาเลือดหัวเจ้ามาล้างเท้า แล้วจะถลกหนังเอาเกลือทาตัวเจ้าส่งไปให้เศรษฐีหม่าเสียวันนี้เลย” 

เฉินอิ้งถงมองอีกฝ่ายกระทืบเท้าเร้า ๆ ก็ขบขัน ทว่าหูของนางกลับได้ยินเสียงฝีเท้าใครบางคนมุ่งตรงมาอย่างเร่งร้อน

“โอ๊ย…ท่านป้า ข้าเจ็บนะเจ้าคะ” เฉินอิ้งถงแสร้งล้มลงไปกองบนพื้น

“เกิดอะไรขึ้น!” เสียงทุ้มดังแทรกที่หน้าประตู

ชายวัยกลางคนปรากฏกายพร้อมสีหน้าคร่ำเคร่ง

สองแม่ลูกอ้าปากค้างพูดไม่ออก

“ท่านพ่อ นังเด็กนี่มัน…”

“ท่านลุงเจ้าคะ ข้ากำลังจะลุกไปเตรียมตัวทำหมั่นโถวขาย แต่อยู่ ๆ ท่านป้าสะใภ้กับอาจิงก็พรวดพราดเข้ามาผลักข้า ข้ายังไม่รู้เลยว่าทำสิ่งใดผิด” เฉินอิ้งถงตัดบทแสร้งตีหน้าสลด

ชายวัยกลางคนหน้าหม่นทะมึนลงเดี๋ยวนั้น เขาช่วยประคองหลานสาวเพียงหนึ่งให้ยืนเคียงกัน “ถงเอ๋อร์ เจ็บตรงไหนหรือไม่”

สองแม่ลูกแทบกรีดร้อง เฉินจิ้นซงเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของมารดาเฉินอิ้งถง ตั้งแต่น้องสาวของเขาตายจากไปก็สัญญาจะดูแลหลานสาวคนนี้ให้ดี แต่บ่อยครั้งที่เขาหูเบาเชื่อคำยุแยงตะแคงรั่วของภรรยาจนเผลอทำร้ายหลานสาวโดยไร้เหตุผล

หนำซ้ำเฉินจิ้นซงยังไม่เคยระแคะระคายเลยว่าในตอนที่ตนออกไปทำงาน เฉินอิ้งถงนั้นถูกสองแม่ลูกคู่นี้เอาเปรียบอย่างไร เฉินอิ้งถงคนก่อนก็หัวอ่อนจนไม่กล้าปริปากฟ้อง ในเมื่อนางร้ายได้เปลี่ยนไปแล้ว เช่นนั้นเฉินอิ้งถงผู้นี้จึงขอพลิกบทบาทให้ใหม่เสียเลย หลังจากเฉินจิ้นซงพบเหตุวิวาทของภรรยาและหลานสาวซ้ำ ๆ เขาจึงแน่ใจแล้วว่าเฉินอิ้งถงนั้นเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย

“ท่านพี่ นังเด็กนี่มันโกหก ข้ายังไม่ได้…”

“พอได้แล้ว! พวกเจ้าอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ ยามที่ข้าออกไปทำงานเจ้าก็เอาแต่รังแกนาง เฉินเจีย นางเป็นหลานข้าก็เหมือนหลานของเจ้า ไยไม่พูดจากันให้ดี เจ้าให้ข้าลงโทษนางมาตั้งกี่ครั้งกี่ครายังไม่สาแก่ใจอีกรึ เช่นนั้นวันนี้เจ้าสองคนแม่ลูกก็ทำงานส่วนของถงเอ๋อร์ทั้งหมด”

“กรี๊ด…ท่านพ่อลำเอียง”

“หุบปาก! เป็นข้าเอง ข้าผิดเองที่ตามใจเจ้าจนเสียคน”

สองแม่ลูกตาค้างตะลึงลาน หลายเดือนมานี้พวกนางไม่สามารถรังแกเฉินอิ้งถงได้เหมือนเมื่อก่อน ไม่รู้ว่านางถูกปีศาจตนใดมาสิงร่างนิสัยจึงได้พลิกกลับดุจคนละคน พวกนางหาเรื่องเฉินอิ้งถงมากเท่าใด ก็ถูกโต้กลับมากยิ่งกว่านั้น ช่างสร้างความประหลาดใจให้สองแม่ลูกยิ่งนัก 

“ถงเอ๋อร์ วันนี้เจ้านอนพักเถิด งานที่เจ้าต้องทำก็ให้จิงเอ๋อร์กับป้าสะใภ้เจ้าทำแทนแล้วกัน ถือซะว่าเป็นการขอโทษเจ้า”

เฉินจิงกระทืบเท้าเร้า ๆ ทว่ากลับถูกบิดาตวัดตามองเข้ม เพราะยุคสมัยนี้อำนาจบุรุษยิ่งใหญ่ดุจฟ้า ครั้นเฉินเจียเห็นแววตาสามีเต็มไปด้วยไอสังหารก็ไม่คิดล่วงเกินอีก

มืออวบอั๋นดึงบุตรสาวมายืนขนาบข้าง ตอบรับสามีลอดไรฟัน “ข้ารู้แล้ว”

สองแม่ลูกกระฟัดกระเฟียดจากไป เฉินอิ้งถงมองตามจนลับสายตา ริมฝีปากสีกุหลาบกดลึกเป็นรอยยิ้ม 

ในเมื่อข้าเป็นนางร้าย ก็ต้องร้ายให้สุด เพียงแต่ใครดีมาข้าดีตอบ ใครร้ายมาข้าก็ร้ายตอบเท่านั้นเอง

เชิงอรรถ

^ยามอิ๋น (寅:yín) คือ 00 – 04.59 น.

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นอกบทนางร้าย   บทที่ 50 วันต้องห้าม

    เฉินอิ้งถงทอดสายตามองสีหน้าของตนผ่านคันฉ่อง ตั้งแต่เกิดเหตุวุ่นวายในท้องพระโรงหนนั้น ก็ร่วมสองสัปดาห์แล้วที่จินชางหลงเงียบหายไปไม่แม้แต่ปรากฏตัวส่วนนางเองก็ถูกทั้งไทเฮาและไท่เฟยเรียกเข้าเฝ้าจนบางคราต้องค้างที่วังหลวง นั่นเพราะนางจะต้องเข้ารับการขัดเกลามารยาทจากมามาก่อนเข้าพิธีอภิเษกวันใดที่กลับมาบ้านก็ประหนึ่งวิญญาณหลุดออกจากร่าง ทำได้เพียงทิ้งตัวลงและก็ม่อยหลับไป วันนี้ได้โอกาสหยุดพักผ่อนตั้งหนึ่งวันจึงมีเวลาพบหน้าซูซูจริงจังเสียที“คุณหนู ท่านไปเสียนานบ่าวคิดถึงคุณหนูมาก อยู่ที่แดนเหนือลำบากหรือไม่เจ้าคะ” ซูซูหวีผมนุ่มสลวยดำขลับดุจสีน้ำหมึกด้วยความแผ่วเบา“ข้าไม่ได้รับความลำบากใด อีกอย่างข้าอยู่ที่นั่นยังได้รู้จักคนผู้หนึ่ง นางคล้ายเจ้ามากทีเดียว” เฉินอิ้งถงยิ้ม“น่าอิจฉานางที่ได้ช่วยคุณหนูทำประโยชน์ ทว่าบ่าว…”“อาซู เจ้านี่ขี้น้อยใจจริง ข้าก็กลับมาแล้วนี่อย่างไร”ซูซูทำท่าจะร้องไห้ “แต่อีกไม่นานคุณหนูก็ต้องอภิเษกแล้ว เช่นนั้นบ่าวจะได้ติดตามคุณหนูเข้าวังหรือไม่เจ้าคะ”“ข้าไม่ทอดทิ้งเจ้าแน่นอน วันพรุ่งนี้ไท

  • นอกบทนางร้าย   บทที่ 49 เพื่อเป้าหมายย่อมไม่สนวิธีการ

    “องค์ชาย ทำเช่นนี้ดีแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ”“เจ้าคิดว่าข้ามีทางเลือกมากนักหรือ ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครสนใจความเป็นตายของข้านอกจากท่านพี่ หากเสด็จพ่อทำตามข้อตกลงไม่ได้ เช่นนั้นข้าก็มิอาจทำตามที่ท่านต้องการได้เช่นเดียวกัน”“แล้วท่านอ๋องจะยินยอมทำตามแผนการหรือพ่ะย่ะค่ะ”“ท่านพี่และข้าสนิทสนมและรู้ใจกันมากที่สุด สำหรับเจ้าแล้ว ท่านพี่หรือว่าข้าเด็ดเดี่ยวมากกว่ากันล่ะ”เผิงจิ้นเสียนผงะเมื่อเห็นแววตาที่เคยอบอุ่นแปรผันเป็นเย็นยะเยือกน่าเกรงขาม เมื่อใดที่จินชางหลงเผยด้านมืดออกมาผู้ใดก็อย่าหมายขัดขวางความตั้งใจของเขา “แน่นอนว่าทั้งสองพระองค์นิสัยใกล้เคียงกันพ่ะย่ะค่ะ”จินชางหลงยิ้มขันผ่านลำคอ นิสัยของจินเหยียนเข้มงวดเย็นชาจนน่าสะพรึง ผู้คนล้วนโจษจันว่าเขาเป็นอ๋องอำมหิตสังหารศัตรูไม่กะพริบตา ทว่าคนเหล่านั้นกลับไม่เคยรู้ว่าน้องชายที่อ่อนแอดูอบอุ่นเช่นเขา นิสัยแท้จริงหนักข้อยิ่งกว่าพี่ชายตนเสียอีก พูดได้ว่าเขาคือจอมวางแผนผู้แสนร้ายกาจณ ตำหนักบรรทมเสิ่นกุ้ยเฟยฮ่องเต้จินข่ายลุกพรวด สีหน้าเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม โลหิตในกายเดือดพล่านเสียจนหน้

  • นอกบทนางร้าย   บทที่ 48 หมื่นทะเลทุกข์

    เช้าวันถัดมาจินชางหลงก็พาเฉินอิ้งถงกลับ เดิมทีเขาอยากยื้อเวลาอีกสักหน่อย ทว่าสถานการณ์คล้ายจะไม่เหมาะ ดังนั้นการบรรเทาทุกข์ครั้งนี้ต้องเร่งจัดการและกลับไปที่วังหลวงเพื่อเข้าพิธีอภิเษกโดยเร็วขึ้นเขาหนนี้นับว่าไม่เสียเปล่าเพราะเฉินอิ้งถงได้พบกับสมุนไพรชนิดร้อนที่สามารถชะล้างอาการหนาวปวดกระดูกได้ นางจึงคิดวิธีการปรุงเป็นยาบำรุงโดยเลือกผสมเข้ากับธัญพืช นอกจากสามารถช่วยรักษาอาการป่วย ยังสามารถใช้ทดแทนอาหารในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย“พี่หญิงท่านนี่เก่งจริง ๆ ทำเช่นนี้เราก็ไม่ต้องลำบากเรื่องต้มยาและอาหาร” อาจิ้นตาเป็นประกายเฉินอิ้งถงยิ้ม “เจ้าอย่ามาทำเยินยอข้า เรื่องครั้งก่อนอย่าคิดว่าข้าจะลืม”อาจิ้นสะดุ้งพลางยิ้มแหย “พี่หญิงเฉิน ข้าเองก็ลำบากใจ…” อาจิ้นเหลือบซ้ายแลขวา โน้มตัวกระซิบเบา “เขาเป็นถึงองค์ชายเชียวนะเจ้าคะ หากข้าไม่ทำตามเกรงว่าหัวจะหลุดจากบ่า”เฉินอิ้งถงส่ายหน้า มือเรียวดีดปลายจมูกอาจิ้นเพื่อหยอกล้อ “นี่แน่ะ เด็กเลี้ยงแกะ พอกันทุกคน หากเป็นบ้านเมืองเดิมของข้าพวกเจ้าคงได้รางวัลตุ๊กตา

  • นอกบทนางร้าย   บทที่ 47 บัญชีความรู้สึก

    เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วยามมีเพียงเสียงลมหายใจของคนทั้งสองที่พ่นปะทะความเงียบสงัด ปลายนิ้วเรียวเริ่มขยับทีละน้อย เปลือกตาบางแง้มเปิดแช่มช้า“อื้อ…เจ็บจัง” เฉินอิ้งถงดันร่างขึ้น ทว่าต้องล้มพังพาบลงไปอีกครั้ง เพราะเรี่ยวแรงที่ถดถอยซ้ำยังถูกแขนแกร่งรัดไว้จนแน่น“องค์ชาย…”จินชางหลงยังไร้สติ เฉินอิ้งถงแหงนมองพลางร้องเรียก น้ำเสียงของนางแหบแห้งระคนร้อนรน“องค์ชายเพคะ เป็นอย่างไรบ้าง”“…”เมื่อครู่เฉินอิ้งถงแทบไม่ได้รับบาดเจ็บใดเลย มีเพียงความตกใจที่ทำให้นางสิ้นสติ ทว่าจินชางหลงไม่โชคดีเช่นนั้น เขาพยายามปกป้องนาง ใช้ตัวเองเป็นโล่จนร่างบอบช้ำเฉินอิ้งถงเห็นอีกฝ่ายแน่นิ่งก็รู้สึกใจคอไม่ดี “องค์ชาย องค์ชาย ตอบสิเพคะ”“…”เสียงเล็กสั่นเครือน้ำสีใสเอ่อคลอขึ้นตรงขอบตา นางเงี่ยหูฟังเสียงหัวใจของเขา แต่มันกลับเต้นเบามาก ๆ จนนางไม่ทันได้ยิน เสื้อผ้าที่สวมก็หนาเสียจนบดบังทุกสิ่ง พยายามแนบหูอยู่นานนางก็ยังสัมผัสไม่ถึง เฉินอิ้งถงใจเสีย สติที่มีขาดผึงเดี๋ยวนั้น“ฮึกฮื่อ…องค์ชาย อย่าทำหม่อมฉันตกใจ ท่านฟื้นสิ ฟื้นขึ้นมา”“…

  • นอกบทนางร้าย   บทที่ 46 ความแตก

    การบรรเทาทุกข์ของชาวบ้านแดนเหนือเป็นไปอย่างยากลำบากมาร่วมเดือนแล้ว แม้ว่ามีเสี่ยวฮวาคอยใช้พลังรักษาก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้มาก วันดีคืนดีเจ้าภูติน้อยก็หมดแรงหลับไปเสียหลายวัน ส่วนปัจจัยทั้งห้าที่เหอหย่งเซาหอบมาก็ใช้ประทังชีวิตได้อีกไม่นาน สักวันย่อมมีวันหมด“ถงเอ๋อร์ไปพักบ้างเถิด ข้าเห็นเจ้าทำงานหามรุ่งหามค่ำเช่นนี้ไม่สบายใจเอาเสียเลย”มือเรียวหยิบรากสมุนไพรใส่ลงในหม้อดินเผา ส่วนอีกด้านก็พัดเพิ่มแรงให้กับเชื้อเพลิง “ท่านพ่อ ข้าไหวเจ้าค่ะ ชาวบ้านล้มป่วยเป็นจำนวนมากเช่นนี้ข้าไม่อาจนิ่งนอนใจได้”“แต่เจ้าต้องต้มยาอีกกี่หม้อ หักโหมอีกกี่วันคนเหล่านั้นจะหาย รักษาได้หนึ่งอีกคนหนึ่งก็จะป่วยขึ้นมาอีก”“เช่นนั้นจะให้ทำเช่นไรเจ้าคะ ปล่อยพวกเขาล้มตายไม่ไยดีหรือ”“ข้ามิได้หมายความเช่นนั้น”เหอหย่งเซาผ่อนเสียงเมื่อเห็นว่าเฉินอิ้งถงเกิดโทสะขึ้นมาบ้างแล้ว“ท่านเองก็เหนื่อยมามาก ไปพักเถิดเจ้าค่ะ” เฉินอิ้งถงเลิกสนใจคนตรงหน้าและตั้งตาต้มยายื่นให้ชาวบ้านที่รอรับยาจากตนต่อเหอหย่งเซายืนมองด้วยแววตาสิ้นหวังพลางหมุนกายเดินจากไปเงียบ ๆ“พี่หญิ

  • นอกบทนางร้าย   บทที่ 45 เด็กเลี้ยงแกะ

    ระยะทางอีกไม่ไกลก็จะถึงที่หมาย ทว่ายิ่งเข้าใกล้มากเท่าใดอากาศก็ยิ่งลดต่ำจนเหน็บหนาวเข้ากระดูกเฉินอิ้งถงแหงนมองบุรุษที่นั่งกอดเอวของตนอยู่บนหลังม้าด้วยแววตาเป็นห่วง แม้เสี่ยวฮวาจะบอกว่าเขาหายแล้ว ทว่าท่าทีและสีหน้าของจินชางหลงดูจะไม่เป็นเช่นนั้น “องค์ชายไหวหรือไม่เพคะ”“ไหว เจ้าอย่าห่วงแต่ผู้อื่นจนลืมห่วงตัวเจ้าเอง” จากอ้อมแขนที่กอดเอวคอดเอาไว้ ก็เลื่อนไปจับบังเหียนเบื้องหน้า เสื้อคลุมขนสัตว์ถูกนำมาห่อคนทั้งสองดุจร่างเดียวกัน“องค์ชายปล่อยมือเพคะ มือพระองค์ยังไม่หายดี”“ข้าไม่เป็นไร” จินชางหลงปลดมือขาวเนียนออกแช่มช้าพลางลูบเบา ๆ หวังคลายความเจ็บให้อีกฝ่าย ฝ่ามืออันเนียนนุ่มของหญิงสาวบัดนี้ขึ้นสีแดงระเรื่อ ทั้งยังเริ่มถลอก“เจ็บหรือไม่”เฉินอิ้งถงส่ายหน้า “ไม่เพคะ”“โกหกตาใส เจ้าพักเสียบ้าง อีกไม่กี่ลี้ [1] ก็จะถึงแล้ว”“พระองค์นั่นแหละ อย่าดื้อสิเพคะ” เฉินอิ้งถงคิดแย่งบังเหียนกลับ“เจ้าสิที่ดื้อ” จินชางหลงใช้มือหนึ่งฝั่งดึงร่างระหงเข้ามาแนบตัวเฉินอิ้งถงถูกแรงชายหนุ่มลากมาปะทะแผ่นอกกว้างก็ตกใจหน้าตื่น อ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status