เฉินอิ้งถงเร่งตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง วันนี้นางตั้งใจแล้วว่าจะทำอาหารเช้าเพื่อตอบแทนท่านย่าหลี่ที่หยิบยื่นน้ำใจให้อาศัยบ้านอันอบอุ่น
“พี่สาวทั้งสองวันนี้ข้าขอทำครัวเองได้หรือไม่”
สองสาวใช้หยุดมือลง เจี่ยงน่าสาวใช้ร่างเล็กยิ้ม “นั่นจะได้อย่างไรท่านเป็นแขกของทะ…” ประโยคถัดมาชะงักลงเมื่ออยู่ ๆ ก็ถูกข้อศอกของฉินก่วงกระแทกเบาจนหน้าบิดเบี้ยว
เฉินอิ้งถงเลิกคิ้ว “เอ่อ เป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ”
ฉินก่วงยิ้มหวาน “แม่นางเฉินท่านเป็นแขกของนายหญิงจะให้ท่านเข้าครัวเองได้อย่างไร เชิญท่านพักผ่อนให้สบายประเดี๋ยวยามเฉิน [1] ข้าจะไปตามมาทานอาหารนะเจ้าคะ”
“คือว่าวันนี้ข้าก็จะเร่งเดินทางแล้ว ท่านย่าหลี่ให้ที่พักกับข้า ข้าเองไม่มีเงินทองมาตอบแทนจึงอยากทำอาหารให้ท่านย่าและม่านเอ๋อร์เจ้าค่ะ หากพวกท่านไม่สบายใจก็อยู่ช่วยเป็นลูกมือให้ข้าดีหรือไม่”
สาวใช้ทั้งสองมองหน้ากันหลุกหลิก ปรึกษาไตร่ตรองกันด้วยสายตาแล้วจึงพร้อมใจพยักหน้า “เช่นนั้นก็ได้เจ้าค่ะ”
เฉินอิ้งถงยิ้มตาปิด เร่งล้างไม้ล้างมือและจัดเตรียมวัตถุดิบ วันนี้นางอยากแสดงฝีมือเต็มที่ ไม่ได้เข้าค
เฉินอิ้งถงยืนตัวเกร็งท่ามกลางตำหนักรับรองขนาดกว้าง สตรีสูงวัยทว่างดงามน่าเกรงขามไม่ย่อหย่อนไปกว่าไท่เฟยกวาดสายตามองร่างระหงตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า“พี่หญิงท่านมองนางเช่นนั้นนางก็ทำตัวไม่ถูกสิเพคะ”ไทเฮาปรายตามองเจ้าของเสียง “เจ้าแน่ใจหรือว่านางทำอาหารอร่อยยิ่งกว่าห้องเครื่องของเรา”“เสด็จย่า ฝีมือของนางไม่เลวจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ” จินชางหลงโพล่งอย่างนึกลืมตัวเฉินอิ้งถงที่ยืนตัวเกร็งสะท้านเบนหน้ามองจินชางหลงด้วยแววตาคาดไม่ถึง“เจ้าก็เป็นไปกับเสด็จย่ารองของเจ้า สตรีไร้หัวนอนปลายเท้าอย่างนี้ก็กล้าจะให้นางมาทำเครื่องเสวยในงานเฉลิมฉลองของข้า”จินชางหลงยิ้มขืน เพราะไม่อยากให้เฉินอิ้งถงต้องอึดอัดไปมากกว่านี้จึงเร่งออกตัวเฉินอิ้งถงก้มหน้างุด ผู้ใดจะคิดว่างานที่ต้องทำคือเครื่องเสวยสำหรับงานวันคล้ายวันประสูติของไทเฮา หากรู้แต่แรกนางไม่มีทางยอมตามไท่เฟยเข้าเมืองหลวงเป็นอันขาดรอยยิ้มบนใบหน้าของไท่เฟยอ่อนหวานมีเมตตานางยังพอรับมือไหว ทว่ายามนี้ต้องมาเผชิญหน้ากับไทเฮาผู้สูงศักดิ์หยิ่งทระนงเหงื่อเย็นก็พลันผุดซึมเต็มแผ่นหลังเฉินอิ้งถงขบคิ
เมื่อคืนสนทนากันเสียค่อนคืนกว่าจะได้พักผ่อนจริงฟ้าก็เกือบสว่าง เช้านี้เฉินอิ้งถงถูกเจี่ยงน่าและฉินก่วงปลุกตั้งแต่ไก่โห่เพราะนางกำนัลของไท่เฟยมาตามให้นางไปพบมือเรียวยกขึ้นปิดปากที่กำลังหาวหวอด สองสาวใช้เร่งหวีผมจัดแต่งเสื้อผ้าของเฉินอิ้งถงให้ถูกกาลเทศะ“แม่นางเฉิน ปิ่นนี่ของเจ้างดงามอย่างมากได้มาจากที่ใดกันหรือ”“อ้อ ปิ่นทั่ว ๆ ไปเจ้าค่ะ” เฉินอิ้งถงแก้ตัว อันที่จริงปิ่นในมือของเจี่ยงน่าก็คือเจ้าภูติตัวจิ๋วเสี่ยวฮวา“เช่นนั้นเจ้าเปลี่ยนอันใหม่ให้เข้ากับเสื้อผ้าดีหรือไม่”“ไม่ต้องเจ้าค่ะ ปิ่นปักผมอันนี้ไม่ว่าใช้กับเสื้อผ้าตัวใดก็เหมาะทั้งสิ้น”เจี่ยงน่าลังเล ฉินก่วงไม่อยากขัดใจจึงพยักหน้าให้สหายปักลงบนเส้นผมเงาสลวยดังเดิม“เช่นนั้นก็ได้”ปิ่นปักผมหลากสีย้ายมาประดับอยู่บนศีรษะของเฉินอิ้งถงเป็นที่เรียบร้อย เจี่ยงน่าและฉินก่วงมองหญิงสาวผ่านคันฉ่องก็ตื่นตะลึงจนตาเบิกค้างเจี่ยงน่า “เรื่องจริงหรือนี่ เหตุใดตอนที่ข้าถือเอาไว้ดูแล้วไม่เข้ากับอาภรณ์ตัวนี้เลยสักนิด ไฉนเมื่อประดับอยู่บนศีรษะแม่นางเฉินแล้วจึงดูงดงามเปล่งประกายจนข้าอด
“องค์ชาย! แย่แล้วองค์ชายตกน้ำ” เสียงตูมตามเมื่อครู่ทำให้ผู้คนแตกตื่นไปทั้งตำหนัก กงกงตื่นตูมแผดร้องเสียงหลงทั้งสองที่ยืนกายเปียกมะล่อกมะแล่กกลางสระบัวพลันได้สติ จินชางหลงปล่อยมือจากไหล่แคบทันควัน เฉินอิ้งถงผงะ“เหวอ”เพราะพื้นด้านล่างลื่นมากหินที่เหยียบเต็มไปด้วยตะไคร้น้ำ เฉินอิ้งถงตวัดแขนวาดกลางอากาศจนร่างซวนเซใกล้ร่วงลงไปอีกครั้งจินชางหลงจึงยื่นมือคว้าแขนเปียกชื้นไว้ ทว่าร่างกายเขาเพิ่งพักฟื้นไม่นานหาได้มีกำลังมาก ต่างฝ่ายต่างพูดไม่ออกได้แต่จ้องหน้ากันปริบ ๆ พริบตาร่างทั้งสองก็ล้มทับกันลงน้ำซ้ำซ้อนจนเสียงดังสนั่นตู้ม!เสียงสำลักสอดประสาน น้ำในสระแตกกระจายกลายเป็นละอองน้อยใหญ่กงกงยกมือปิดตามองภาพคนทั้งสองกอดกันกลมลอดหว่างนิ้ว “ไอหยา ทำอย่างไรดี นี่มันเรื่องใดกันเล่า องค์ชาย องค์ชาย…กระหม่อมสมควรตายที่ดูแลพระองค์ไม่ดี”ทหารเวรยามวิ่งมาถึงก็กระโจนตูมตามลงน้ำยกขบวน เสียงเอะอะเอ็ดตะโรดังอยู่ชั่วอึดใจ ทั้งสองก็ถูกช่วยขึ้นมาสำเร็จ โชคดีที่น้ำไม่ลึกมากแต่อากาศนั้นเย็นจัด กงกงเร่งคลี่เสื้อคลุมที่พกมายื่นสวมให้จินชางหลง
บรรยากาศระหว่างเดินทางไม่มีเงียบเหงาเลยสักนิด เพราะมีเจ้าตัวเล็กม่านม่านเจื้อยแจ้วน้ำลายแตกฟองอยู่ผู้เดียว พลังงานอันล้นเหลือย่อมมีวันหมด พริบตาก็ม่อยหลับลงบนตักนุ่มนิ่ม“ดูเจ้าเด็กคนนี้สิ ทำเจ้าลำบากแล้ว”“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านย่าหลี่ ข้าไม่ได้ลำบากใด ข้าไม่เคยยิ้มอย่างมีความสุขเช่นนี้มานานแล้ว รู้จักม่านเอ๋อร์เพียงข้ามวันนางทำให้ข้ามีความสุขยิ่งนัก”“เจ้าคิดเช่นนี้จริงหรือ”เฉินอิ้งถงพยักหน้า “เจ้าค่ะ”หลี่ซูฉียิ้มอบอุ่น สายตาลดมองเด็กน้อยที่หลับตาพริ้ม “ข้ารู้ว่าหลายคนมองว่าม่านเอ๋อร์เป็นเด็กเอาแต่ใจนิสัยโผงผาง แต่เจ้ากลับมองนางต่างออกไป มิน่าเล่าม่านเอ๋อร์จึงชอบเจ้านัก”เฉินอิ้งถงยิ้ม มือเรียวลูบไล้ศีรษะม่านม่านด้วยความทะนุถนอม “ม่านเอ๋อร์น่ารักมากเจ้าค่ะ ข้าเองก็อยากมีน้องสาวเช่นนาง”“เช่นนั้นเจ้าก็มาเป็นพี่สาวของนาง”“เอ๋อ…” เฉินอิ้งถงลังเลหลี่ซูฉีอมยิ้ม “เจ้าคงนึกถึงเรื่องนั้น ขออภัยที่ทำให้เจ้าต้องเก็บไปคิดมาก ใจคนเราไม่อาจบีบบังคับ ไม่รักก็คือไม่รัก ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ เอาไว้ถ้าพบหน้ากันแล้วจะเป็นอย่างไรก็สุดแล้วแ
เฉินอิ้งถงเร่งตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง วันนี้นางตั้งใจแล้วว่าจะทำอาหารเช้าเพื่อตอบแทนท่านย่าหลี่ที่หยิบยื่นน้ำใจให้อาศัยบ้านอันอบอุ่น“พี่สาวทั้งสองวันนี้ข้าขอทำครัวเองได้หรือไม่”สองสาวใช้หยุดมือลง เจี่ยงน่าสาวใช้ร่างเล็กยิ้ม “นั่นจะได้อย่างไรท่านเป็นแขกของทะ…” ประโยคถัดมาชะงักลงเมื่ออยู่ ๆ ก็ถูกข้อศอกของฉินก่วงกระแทกเบาจนหน้าบิดเบี้ยวเฉินอิ้งถงเลิกคิ้ว “เอ่อ เป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ”ฉินก่วงยิ้มหวาน “แม่นางเฉินท่านเป็นแขกของนายหญิงจะให้ท่านเข้าครัวเองได้อย่างไร เชิญท่านพักผ่อนให้สบายประเดี๋ยวยามเฉิน [1] ข้าจะไปตามมาทานอาหารนะเจ้าคะ”“คือว่าวันนี้ข้าก็จะเร่งเดินทางแล้ว ท่านย่าหลี่ให้ที่พักกับข้า ข้าเองไม่มีเงินทองมาตอบแทนจึงอยากทำอาหารให้ท่านย่าและม่านเอ๋อร์เจ้าค่ะ หากพวกท่านไม่สบายใจก็อยู่ช่วยเป็นลูกมือให้ข้าดีหรือไม่”สาวใช้ทั้งสองมองหน้ากันหลุกหลิก ปรึกษาไตร่ตรองกันด้วยสายตาแล้วจึงพร้อมใจพยักหน้า “เช่นนั้นก็ได้เจ้าค่ะ”เฉินอิ้งถงยิ้มตาปิดเร่งล้างไม้ล้างมือและจัดเตรียมวัตถุดิบ วันนี้นางอยากแสดงฝีมือเต็มที่ ไม่ได้เข้าค
ดูเหมือนว่าสองย่าหลานไม่ธรรมดาอย่างที่เฉินอิ้งถงคิด บางทีพวกนางอาจเป็นเศรษฐีมีเงินในหมู่บ้านแห่งนี้เฉินอิ้งถงได้รับเชิญให้มาพักที่จวนของพวกเขา ดังนั้นเลยได้ทำความรู้จักชื่อแซ่กันและกัน หลานสาวมีนามว่าม่านม่าน ส่วนหญิงสูงวัยมีนามว่าหลี่ซูฉี เพราะไม่อยากเสียมารยาทเฉินอิ้งถงจึงมิได้สอบถามประวัติของทั้งสองโดยละเอียดวันนี้เพียงมีแผ่นกระเบื้องคุ้มศีรษะมีกำแพงป้องกันความหนาวก็เพียงพอแล้ว“พี่หญิงเฉิน ท่านย่าบอกว่าให้ข้านำผ้าห่มมาให้ท่านเจ้าค่ะ”เฉินอิ้งถงได้ยินก็ลุกไปเปิดประตูต้อนรับอีกฝ่าย เด็กหญิงยิ้มกว้างพลางยื่นผ้าห่มผืนหนาส่งมาให้ เฉินอิ้งถงลูบศีรษะเด็กที่สูงกว่าเอวตนเล็กน้อยด้วยความเอ็นดู “เด็กดี ขอบใจเจ้ามาก”“พี่หญิงเฉินข้าเข้าไปได้หรือไม่เจ้าคะ”“ได้สิ”ม่านม่านได้ยินคำตอบรับก็ยิ้มตาปิด เด็กหญิงตัวเล็กกระโจนนั่งลงบนเตียงหนานุ่มด้วยใบหน้าแช่มชื่น “พี่หญิงเฉินข้าเห็นท่านทั้งงดงามและก็น่ารักมาก ซ้ำยังมีน้ำใจอีกด้วย ไม่ทราบว่าท่านแต่งงานแล้วหรือไม่เจ้าคะ”เฉินอิ้งถงแทบสำลักน้ำลาย “เจ้าตัวเท่านี้ก็รู้เรื่องแต่งงานแล้วหรือ”