แชร์

ตอนที่ 3 เทพเจ้ายี่ซิง

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-08 07:09:21

 ไป๋หลันอยู่คนเดียวในห้องเกือบสามเดือนแล้ว ถึงเธอจะอยากออกไปเที่ยวบ้าง แต่คิดอีกทีก็ไม่อยากออกไปไหน สุดท้ายจึงสั่งอาหารมาที่ห้องและนั่งดูซีรีส์ ดูการ์ตูน ดูอนิเมะต่อไป บางวันก็อ่านนิยายบ้าง เล่นเกมบ้าง

ไป๋หลันไม่มีพี่น้อง เป็นเด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่กับปู่ย่า การเรียนไม่ค่อยได้เรื่อง แต่โชคดีเป็นคนที่เก่งกีฬา เธอจึงได้โควตาเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยชิงหวา ด้วยคะแนนเกาเข่าเพียงสามร้อยกว่าเท่านั้น หลังเรียนจบก็หางานทำไม่ได้ เพราะได้รับบาดเจ็บที่แขนและขาจนต้องผ่าตัด ความฝันอาชีพนักกีฬาจึงต้องหยุดลงด้วย ยังดีที่เธอได้เงินจากการแข่งขันก่อนหน้ามาจำนวนหนึ่ง จึงยังพอใช้ชีวิตต่อไปได้ แม้จะต้องเดินด้วยท่าทางแปลกๆ

ไม่นานปู่ย่าก็มาเสียชีวิตติดๆ กันอีก เธอจึงขายบ้านของปู่ย่า เพราะไม่อยากฟังคำบ่นของพวกเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะป้าหลิวที่วันๆ คอยแต่ถามเธอว่าทำงานอะไร เธอหนีไปอยู่ในตัวเมืองปักกิ่ง แม้อากาศจะแย่มาก แต่ไป๋หลันที่มีเงินซื้อห้องเล็กๆ อยู่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร

จากนั้นมาเธอพยายามหางานทำแล้วแต่หาไม่ได้เลยเพราะเธอทำงานหนักไม่ไหว เพื่อนสนิทคนเดียวของเธอก็แต่งงานไปแล้ว แฟนเฮงซวยของเธอก็มาบอกเลิก ทั้งที่เขาขอหมั้นกับเธอแล้ว สุดท้ายชีวิตของไป๋หลันจึงลงเอยด้วยการขังตัวเองอยู่ในห้อง ใช้เงินเก็บจนร่อยหรอลงเรื่อยๆ ถึงเธอจะกังวลแต่ก็ไม่อยากออกไปหางานทำ

เธอเคยถูกคนอื่นๆ เรียกว่าเป็นพวกป่ายล่าน [1] ครั้งหนึ่ง ตอนที่เธอออกไปหาเพื่อนสนิท พวกผู้ชายที่เป็นเพื่อนกับสามีของเพื่อนเธอก็แซวเธอเล่นๆ แบบนั้น เพราะมันบังเอิญพ้องเสียงกับชื่อของเธอ แต่มันทำให้ความรู้สึกของไป๋หลันยิ่งดิ่งจนไม่กล้าออกไปไหนอีก

ความสุขเดียวของเธอตอนนี้คือการดูซีรีส์ ดูอนิเมะ อ่านหนังสือ เล่นเกมอยู่ในห้อง เธอชอบสะสมแปลนธนูเก่า มันทำให้เธอหลงรักเสื้อผ้าแบบโบราณด้วย บางครั้งเธอก็อยากไปงานคอสเพลย์บ้าง แต่ติดที่ไม่กล้าออกไป เธอจึงได้แต่สั่งผ้ามาลองตัดใส่เอง แม้ฝีมือของเธอจะห่วยแตกชนิดที่มองไม่ได้ แต่เสื้อตัวแรกที่เย็บเองนั้นก็ทำให้เธอภูมิใจมาก

วันนี้ไป๋หลันเห็นข่าวในโต่วอิน [2] บอกว่าจะมีการรวมตัวกันของเหล่านักคอสระดับโลก ที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังโบราณกู้กง ในอีก 15 วัน ทุกคนต้องจองตั๋วพิเศษเท่านั้น หัวใจของไป๋หลันกลับมาเต้นแรงในรอบ 4 ปี มันเป็นครั้งแรกที่เธออยากออกไปข้างนอกมากๆ

เธอตัดสินใจแย่งชิงตั๋วพิเศษ เธอใช้ความสามารถในการเล่นเกมจนแย่งมาได้สองใบ หยิบเอาชุดที่เธอเย็บด้วยตัวเองมาลองทาบๆ หน้ากระจกอยู่นาน แต่มันห่วยแตกจนเธอไม่อาจโกหกตัวเองได้

ไป๋หลันขายตั๋วอีกใบ ซึ่งราคาแรงมากจนเธอสามารถเอาเงินนั่นไปซื้อชุดฮั่นฝูชุดใหม่ได้พอดี ชุดนั้นสวยจนชวนตะลึง มีเกล็ดสีทองประดับตามชายกระโปรงด้วย ไป๋หลันตื่นเต้นมาก ได้ยินว่าถูกตัดเย็บตามแบบโบราณแท้ๆ

เธอเฝ้ารอวันที่จะได้ออกไปพบเจอเหล่าเลเยอร์ [3] ด้วยใจจดจ่อ แม้ชีวิตของเธอตอนนี้จะบัดซบสิ้นดี

พอถึงวันงานอีเวนต์จริงๆ บรรยากาศดีกว่าที่ไป๋หลันกังวลมาก ไม่มีใครสนใจที่เธอใส่ชุดโบราณ เพราะใครๆ ก็ใส่ แต่ละคนที่เดินผ่านไปมาก็สวยงามจนไม่อาจละสายตาได้ ไม่มีใครมาคอยถามเธอว่าทำงานอะไร ทุกคนต่างพูดถึงแต่ชุดและการตัดเย็บที่แสนลำบาก มีคนขอถ่ายรูปชุดของไป๋หลันด้วย แม้ตัวเธอที่เดินท่าทางผิดปกติจะไม่เหมาะกับชุดเลยก็ตาม

ไป๋หลันไม่มีเพื่อนมาด้วย ดังนั้นเมื่อขบวนนักคอสเคลื่อนเข้าไปด้านในพระราชวัง เธอจึงรั้งอยู่ท้ายขบวนตามที่ตั้งใจแต่แรก ทุกคนเดินดูและตื่นเต้นกับพระราชวังที่กว้างใหญ่ ตั้งแต่ประตูไท่เหอจนถึงประตูเสินอู่

ทุกอย่างช่างมหัศจรรย์ชวนหลงใหลจนไป๋หลันเดินช้าลง ช้าลง เธออยากเดินสำรวจพิพิธภัณฑ์พระราชวังกู้กงมากกว่านี้ ในที่สุดเธอจึงตัดสินใจแยกตัวจากขบวน และไม่มีใครสนใจว่าเธอจะหายไปไหนด้วย

ไป๋หลันเดินย้อนกลับไปทางหอนาฬิกา ตำหนักเฟิงเสียน เธอเฝ้ามองนาฬิกาแต่ละเรือนที่งดงาม เดินดูทีละเรือน อ่านทุกตัวอักษรความเป็นมาของนาฬิกาพวกนั้น ราวกับต้องมนตร์

กระทั่งเธอเดินมาถึงป้าย ห้ามเข้า! กำลังปรับปรุง แต่เพราะที่นี่คือบริเวณที่ตั้งของหอนาฬิกาน้ำเครื่องแรกของโลกที่ถูกออกแบบโดยเทพเจ้ายี่ซิง ซึ่งเป็นนักดาราศาสตร์ชาวจีน นักคณิตศาสตร์ นักประดิษฐ์ วิศวกรเครื่องกล นักปรัชญาและพระภิกษุในราชวงศ์ถัง ถูกสร้างโดยนักประดิษฐ์อัจฉริยะซูซ่ง แม้จะถูกทำลายไป แต่รัฐบาลก็ได้สร้างขึ้นใหม่โดยอ้างอิงจากแบบในบันทึกเก่าแก่ สร้างขึ้นโดยไม่ผิดเพี้ยนจากบันทึกเลย

ไป๋หลันรู้สึกอยากเห็นหอนาฬิกากลน้ำนี้มากจนห้ามใจไม่ได้ เหมือนถูกบางอย่างครอบงำ เธอที่ขี้ขลาดมาเป็นปี กล้าที่จะเดินเข้าไปในห้องต้องห้าม ในห้องนั้นทั้งกว้างและสูงใหญ่ ค่อนข้างมืดเพราะปิดอยู่ มีหอนาฬิกาตั้งเด่นสง่าอยู่กลางห้อง

หอนาฬิกาน้ำถูกสร้างใหม่สูงประมาณเก้าเมตร หรือเทียบเท่าตึกสองสามชั้นได้ มีนั่งร้านที่ทำจากไม้ไผ่ล้อมรอบ เธอรู้สึกอยากปีนขึ้นไปดูกลไกด้านบนอย่างมาก จึงแอบปีนขึ้นไปตามนั่งร้านไม้ไผ่พวกนั้น แม้เธอจะขาพิการเจ็บแขน แต่ยังคงมีความคล่องตัวตามแบบฉบับนักกีฬา

ตามแต่ละชั้น มีตัวอักษรที่วิศวกรเขียนเอาไว้คร่าวๆ ว่าต้องสร้างอย่างไร ไป๋หลันสนใจเพ่งมองแต่ตัวอักษรจนไม่ได้สังเกตว่ามีคนอื่นเข้ามาในห้องนี้

ลุงเจ้าหน้าที่เห็นคนปีนขึ้นนั่งร้านจนถึงชั้นบนสุด ทั้งยังสวมชุดฮั่นฝูโบราณ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่แน่ เขาจึงตะโกนออกไป

“ใครน่ะ เข้ามาทำอะไรในนี้”

ไป๋หลันตกใจอย่างแรงไม่ทันระวัง จับนั่งร้านพลาด พลัดตกลงมาจากที่สูงกะทันหัน หัวใจของเธอหล่นวูบ

‘ตายแน่!!’ ไป๋หลันคิดในใจ เพราะช่วงพลัดตกลงมา เธอเห็นชัดเจนว่าด้านล่างมีไม้ไผ่ที่ถูกตัดปลายจนแหลมคมรอรับเธออยู่

แต่เธอไม่ได้กลัว กลับหลับตาลงและหวังว่าจะไม่เจ็บมาก

‘ตายตอนนี้ก็ดี เงินเก็บก็แทบไม่เหลือแล้ว จะได้ไม่ต้องออกไปหางานทำ เทพเจ้ายี่ซิง..ขอบคุณที่ทำให้พ้นทุกข์เร็วขนาดนี้ ถ้าชาติหน้ามีจริง ขอเกิดมาแล้วไม่ต้องทำอะไรมาก นั่งๆ นอนๆ อยู่แต่ในห้องก็พอ ถ้าท่านทำให้ความหวังของฉันเป็นจริง สัญญาว่าจะช่วยกู้ชาติตอบแทน’ เธอบอกตัวเองขำๆ ในใจระหว่างที่กำลังตกลงไปด้านล่างเรื่อยๆ ...

..................................ตรงนี้ลงรูปไม่ได้ ถ้าใครอยากเห็นรูปให้ไปตามเว็บที่ติดไว้นะคะ

รูปหอนาฬิกากลไกน้ำเครื่องแรกของโลก [4]


[1] เทรนด์ของวัยรุ่นจีนตอนนี้ ‘ป่ายล่าน’ (摆烂) แปลว่า ‘ปล่อยให้เน่า’ ที่หมายถึงการปล่อยวางเรื่องความสำเร็จ ไม่ทะเยอทะยานอยากได้งานรายได้สูง และหันมาทำงานเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่หาได้เลี้ยงตัวเองไปวันๆ โดยไม่คิดอะไร นอนเน่าอยู่แต่ในห้อง ไม่พยายามดิ้นรน

[2] โซเชียลมีเดียของจีน

[3] (เลเยอร์) : เป็นการเรียกผู้ที่แต่งคอสเพลย์อย่างสั้น แผลงมาจากคำว่า Cosplayer (ย่อคำแบบญี่ปุ่น Cosp “layer”) คำนี้นิยมใช้ในทางสากล โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น Coser (คอสเซอร์) ◾ นักคอส / นักคอสเพลย์

[4] ทำหน้าที่เป็นเครื่องบอกเวลาและทำนายการเคลื่อนตัวของดวงดาว หรือเรียกว่าหอนาฬิกาคำนวณดาราศาสตร์พลังน้ำ มีเครื่องกลซับซ้อน แบ่งเป็น 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นที่ 1 ส่วนของการบอกเวลา มีหน้าต่างแสดงเวลาตามป้าย หมุนตามจำนวนเวลา 100 เค่อ บอกเวลาตั้งแต่ 1 วันจนครบ 1 ปี ชั้นที่ 2 ส่วนของตำแหน่งดวงดาว เรียกว่า ‘หุนเซี่ยง’ มีการติดตั้งลูกโลกทรงกลม มีปุ่มโลหะเลียนแบบตำแหน่งดวงดาว ชั้นที่ 3 ส่วนของวงล้อดาราศาสตร์ เรียกว่า ‘หุนอี๋’ มีวงล้อสำหรับสังเกตการขึ้นและตกของดวงดาว รวมถึงตำแหน่งของดาวบนท้องฟ้า เพื่อคำนวณเวลาตกฟาก 

เครดิต : www.arsomsiam.com/หน่วยเวลาและนาฬิกาจีน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นักธนูมือหนึ่งย้อนเวลากลับไปเย็บผ้าอยู่หลังบ้าน   ตอนที่ 22 ถูกหมายชีวิต

    เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนใกล้เข้าฤดูใบไม้ผลิ ซู่หรานกลายเป็นเศรษฐีนีที่มีเมตตาในสายตาของผู้คน เพราะเธอได้สร้างงานให้กับหลายชีวิต สร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับสตรีที่แทบหางานทำไม่ได้แน่นอนว่าสิ่งที่ซู่หรานทำกระทบหลายอย่าง มีหลายคนไม่พอใจ..วันนี้ซู่หรานตื่นสาย แต่ต้องออกจากบ้านเพื่อไปดูหุ่นไม้ที่สั่งทำเอาไว้ เธอต้องการให้มีหุ่น เพื่อเอาไว้แสดงสินค้าตัวจริงตั้งหน้าร้าน สั่งช่างไม้ทำไปตั้งแต่ครึ่งเดือนก่อน โดยซู่หรานวาดทุกอย่างใส่แผ่นกระดาษ เขียนบอกขนาดอย่างละเอียด เมื่อวาน ซู่หรานได้ข่าวจากผู้จัดการเฉาคุนว่าหุ่นไม้เสร็จแล้ว เธอจึงเดินทางออกจากห้องเพื่อไปดูงานสั่งทำว่าเป็นไปตามที่ต้องการหรือไม่ เธอไม่ชอบแต่งตัวหลายชั้น แต่โชคดีที่เธอสอนให้อิงเถาตัดเย็บเสื้อชั้นในสำหรับเก็บทรงใหญ่โตแล้ว ดังนั้นการออกไปข้างนอกวันนี้ ต่อให้ใส่เสื้อชั้นเดียวหรือสองชั้นก็ไม่มีทางที่ใครจะเห็นหน้าอกของเธอเธอออกไปคุยกับช่างไม้เพียงลำพัง เพราะทุกคนต่างงานยุ่ง เมื่อดูหุ่นไม้แล้ว แม้ไม่ได้ตามมาตรฐาน แต่ถือว่าใส่เสื้อผ้าตั้งแสดงหน้าร้านได้แล้ว เธอจึงจ่ายเงินและเดินทางกลับหลังจากนั้น ซู่หรานแวะไปดูร้านที่ถนนอีกฝั่

  • นักธนูมือหนึ่งย้อนเวลากลับไปเย็บผ้าอยู่หลังบ้าน   ตอนที่ 21 แผนซ่องสุมกำลังพล?

    หลังออกจากบ้านครั้งนั้น ซู่หรานสั่งให้ปิดร้านขายเสื้อชั่วคราว ขังตัวเองอยู่ในห้องนอนไม่ออกไปเจอใคร ไม่ไปเรียนเขียนอักษร ไม่ไปทำความเคารพท่านย่าตอนเช้า ซินซินมาหาก็ไม่ยอมพบซู่หรานขังตัวเองอยู่ในห้องสามวันเต็มๆ วันที่สี่ เธอเดินเข้าไปหาบัณฑิตหวังในห้องหนังสือ หลังจากที่เขาออกจากเข้าเฝ้าฮ่องเต้แล้ว“ท่านพ่อ นี่คือแผนการของข้า ข้าอยากขอยืมเงินของท่านเจ้าค่ะ” เธอยื่นกระดาษปึกหนึ่งที่หนาหลายชุ่น[1]ให้เขาดูขุนนางหวังเห็นว่าลูกสาวจริงจังมาก เขาจึงรับมาเปิดดู“เจ้าจะเอาเท่าไร”“มากเจ้าค่ะ”“อือ..” เขาตอบส่งๆ อย่างน้อยลูกสาวคนนี้ก็เริ่มอยากทำอะไรจริงจังบ้างแล้วแต่ยิ่งเขาพลิกกระดาษดู เขาก็ยิ่งขมวดคิ้วมากขึ้น จากที่เขาตั้งใจจะแค่ดูผ่านๆ เขาต้องนั่งลงอ่านสิ่งที่ซู่หรานเขียนในกระดาษอย่างละเอียด ซู่หรานทำเพียงนั่งรอเงียบๆ“ใครสอนเจ้า” อ่านจบ ท่านพ่อก็ถามซู่หรานเช่นนี้“ข้าคิดเองเจ้าค่ะ” ซู่หรานบอกไม่ได้หรอกว่าเป็นผลจากการเรียนการบริหารในมหาวิทยาลัยชิงหวา ถึงแม้เธอจะเป็นนักกีฬาและเรียนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การกีฬาเป็นหลัก แต่พวกการบริหาร บัญชีและค้าปลีกก็เป็นวิชาที่ต้องบังคับเรียนอยู่แล้ว การเขียนแผ

  • นักธนูมือหนึ่งย้อนเวลากลับไปเย็บผ้าอยู่หลังบ้าน   ตอนที่ 20 อย่าหวั่นไหวกับความหล่อ

    ‘เด็กนี่ หยิ่งชะมัด แต่ก็ยังหล่อมากเหมือนเดิม’ ซู่หรานคิดระหว่างที่เธอหน้าเจื่อน กำลังจะนั่งลง ซู่หรานเหลือบเห็นว่าปลายเท้าของจิ้งจื่อขยับเร็วๆ เตะเก้าอี้ด้านข้างของเขาจนลอยมาทางซู่หราน เธอรีบยกสองแขนขึ้นปิดหน้า‘แค่ทักทายต้องโกรธขนาดนี้เลยหรอ!!!’ ซู่หรานหัวใจหล่นวูบโครม!!เสียงเก้าอี้ปะทะกับบางคนจนล้ม ซู่หรานรีบลืมตามอง ไม่ใช่เธอที่ถูกขว้างเก้าอี้ใส่ แต่เป็นชายแก่เจ้าของร้าน อิงเถาเองก็ตกใจตาโตจนไม่กล้าขยับชั่วเวลากลั้นลมหายใจ ชายแก่รีบลุกขึ้นและวิ่งหนีไปอีกทาง จิ้งจื่อรีบลุกขึ้นจะตามไป แต่ซู่หรานมือไวกว่า เธอคว้าถ้วยชาขว้างใส่ท้ายทอยของชายชราที่วิ่งเร็วมาก ถ้วยชาแตกกระจาย แล้วชายแก่ก็ล้มลงตรงนั้นจิ้งจื่อรีบไปจับตัวเจ้าของร้านคนนั้นเอาไว้ เขาใช้เชือกมัดตัวคนร้ายทันที ก่อนจะหันมามองทางร้านน้ำชา ซู่หรานยืนหอบหายใจ เหมือนนางก็ตกใจไม่น้อย เพียงแค่ปฏิกิริยาตอบโต้ทางร่างกายไวมากจิ้งจื่อขมวดคิ้วมุ่น เขาประหลาดใจในตัวหญิงหน้าด้านคนนั้นยิ่งขึ้น แต่ที่เขาประหลาดใจยิ่งกว่าคือ ลูกน้องสามคนของเขากำลังอ้าปากตาค้าง จ้องมองซู่หรานด้วยความตกใจขั้นสูงสุดกระทั่งจิ้งจื่อลากตัวคนร้ายมายืนอยู่หน้าร้

  • นักธนูมือหนึ่งย้อนเวลากลับไปเย็บผ้าอยู่หลังบ้าน   ตอนที่ 19 เปิดร้านขายเสื้อผ้า

    ท่านย่าชอบชุดที่ซู่หรานเย็บให้มาก ถึงขั้นเอ่ยปากชื่นชมในระหว่างที่ทุกคนในบ้านกำลังทานอาหารเย็นพร้อมกันยกเว้นซู่หราน และพูดลอยๆ ว่าอยากให้ซู่หรานมาหาตอนเช้าบ้าง ซินซินดีใจมากรีบเอาข่าวนี้ไปแจ้งกับพี่สาว แม้ซู่หรานจะไม่อยากตื่นเช้าไปเคารพท่านย่า แต่ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ท่านย่าเริ่มเอ็นดูเธอบ้างแล้ว เธอจึงถือโอกาสพูดเรื่องอยากเปิดร้านขายเสื้อในวันถัดไปที่ไปพบท่านย่าตอนเช้า“เหลวไหล สตรียังไม่ออกเรือน จะเปิดร้านขายของได้อย่างไร” ท่านพ่อขัด“ทีท่านป้ายังไม่ได้แต่งงานเช่นกัน แต่นางยังเปิดร้านได้เลย” ซู่หรานเถียง“เจ้ากับนางไม่เหมือนกัน” “ท่านพ่อ ข้ากับท่านป้าแตกต่างกันที่ใด นางยังไม่แต่งงาน นางอายุมากแล้ว ข้าต่างจากนางที่ใดกัน” ซู่หรานไม่ยอม“หรือเพราะข้าฉลาดไม่เท่านาง ให้คำปรึกษาเรื่องทางราชการไม่ได้ ข้าจึงแตกต่างจากนาง” ซู่หรานยิงตรงจุด“เจ้า!! อวดดี!” ขุนนางหวังโมโห ตบโต๊ะและลุกออกไปทันที ทุกคนในห้องโถงไม่มีใครกล้าเอ่ยปาก แม้แต่ท่านย่าก็ไม่กล้า นางรู้จักลูกชายของนางดีว่าเวลาโมโหน่ากลัวเพียงใด“เขาเพียงเป็นห่วงเจ้า เจ้ายังสาว ยังไม่หมดหวังเช่นข้า” ท่านป้าอธิบายให้หลานสาวตัวดีฟัง“ข้ารู

  • นักธนูมือหนึ่งย้อนเวลากลับไปเย็บผ้าอยู่หลังบ้าน   ตอนที่ 18 ตัดสินใจไม่แต่งงาน

    ตอนนี้ซินซินก็ไม่ยอมออกจากบ้านตามพี่สาวไปอีกคน ท่านย่าเป็นห่วงมากแต่ว่าอะไรไม่ได้ เพราะขุนนางหวังไม่ได้ว่าอะไรที่ลูกสาวสองคนไม่ยอมออกจากบ้าน เขาคล้ายเข้าใจว่าลูกสาวอาจกลัวเพราะเพิ่งเจอเรื่องร้ายมาซู่หรานเริ่มขอเรียนเขียนอักษรภาพกับท่านป้า เธอสนิทกับท่านป้าอย่างรวดเร็ว แม้ท่านป้าจะเข้มงวดเรื่องการเรียนมาก แต่สำหรับซู่หราน เธอชอบทำงานที่ใช้สมาธิสูงอยู่แล้ว การนั่งคัดอักษรทั้งวันจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร แม้จะเพิ่มตารางเรียนแล้ว แต่เธอยังคงเย็บกองผ้าห่วยๆ ของเธอต่อไปในที่สุด จิ้งซานก็ทนความคิดถึงไม่ไหว บุกมาหาถึงจวน เพราะซินซินไม่ยอมออกจากบ้าน เขาจึงเข้าไปสารภาพกับขุนนางหวังว่าชอบพอซินซินมานาน หวังจะได้แต่งงานกับซินซินเมื่อซินซินรู้เรื่องที่จิ้งซานทำ นางกระวนกระวายทำตัวไม่ถูก รีบไปต่อว่าจิ้งซานต่อหน้า แต่จิ้งซานกลับดีใจที่ได้พบนางในดวงใจขุนนางหวังเห็นอาการของหนุ่มสาวก็พอดูออกบ้าง จึงอ้างกับชายหนุ่มว่า หากจิ้งซานจริงใจก็ควรบอกกล่าวบิดามารดา และส่งแม่สื่อมาสู่ขอตามประเพณี จิ้งซานดีใจมากรีบกลับไปบอกทางบ้านแน่นอนว่าฮูหยินจิ้งย่อมอยากได้ซินซินเป็นลูกสะใภ้ การที่จิ้งซานเอ่ยปากอยากแต่งงาน นาง

  • นักธนูมือหนึ่งย้อนเวลากลับไปเย็บผ้าอยู่หลังบ้าน   ตอนที่ 17 หน้าตาดีแต่หยิ่งผยอง

    จิ้งจื่อไม่ได้จะหนี เขาเพียงเดินจากไป ดังนั้นแม้จะได้ยินเสียงวิ่งตามมา เขาก็ไม่ได้วิ่งหนีและไม่ได้เดินให้ช้าลง“นี่ หยุดก่อน” ซู่หรานตะโกนแบบกระซิบ“นี่ หยุดสิ” เธอยังคงตะโกนแบบกระซิบจนกระทั่งวิ่งมาจับชายแขนเสื้อของจิ้งจื่อไว้ได้ เขาจึงได้แต่ต้องหยุดฝีเท้า รีบสะบัดแขนเสื้อออกจากการเกาะกุมของหญิงสาว“ในที่สุดก็หยุดเดินสักที ทำไมต้องหนีเนี่ย” ซู่หรานบ่น“ข้าไม่ได้หนี”“ไม่หนีแล้วเรียกทำไมไม่หยุด”“เหตุใดข้าต้องหยุด”“เช่นนั้นก็กำลังหนี”จิ้งจื่อหายใจลึกๆ ระงับโทสะ“ข้า ไม่ ได้ หนี” เขาหันมาเน้นทีละคำต่อหน้าซู่หราน“อ้อ เช่น นั้น เหตุ ใด จึง ไม่ หยุด” ซู่หรานพูดทีละคำตามเขาจิ้งจื่อยิ่งรู้สึกโมโหกว่าเดิม เขาหันหน้าไปทางอื่น ทำเป็นไม่สนใจที่นางพูดล้อเลียนเขา“ข้าไม่อยากฟังคำสั่งของเจ้า และไม่จำเป็นต้องฟัง” เขาอธิบาย“สั่งอะไร แค่เรียกให้หยุดก่อน จะได้แก้ความเข้าใจผิดได้” ซู่หรานยกมือจุ๊ๆ ตรงปากเป็นเชิงให้เขาเบาเสียงลงอีกหน่อย พูดให้เสียงเบากว่าเขา“ข้ากับเจ้า ไม่มีอะไรต้องอธิบาย” เขายังยืนยันคำเดิม“ว้าว พวกคนหล่อหน้าตาดีมาก มักจะหยิ่งแบบนี้เสมอเลยหรอ”ซู่หรานเผลอพูดภาษาจากโลกเดิม จิ้งจื่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status