Share

ตอนที่ 4 ไท่เหอเจียนหู่

last update Last Updated: 2025-07-08 07:11:25

ไป๋หลันมองไปรอบๆ คุกแบบโบราณ ไม่มีใครถูกขังอยู่ใกล้เธอเลย ผู้ชายอีกสองคนที่อยู่ไกลๆ ก็เหมือนนอนอยู่ เธอไม่ใส่ใจพร้อมกับทบทวนความทรงจำในหัว พอเธอได้กินอาหารบ้าง มันก็ทำให้ปวดหัวน้อยลง ทำให้เธอเข้าใจอะไรๆ ชัดเจนมากขึ้น

ใช่แล้ว เธอย้อนเวลามาเข้าร่างของคนอื่น!!

ไป๋หลันไม่รู้ว่าที่นี่ปีอะไร เพราะในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม มีแต่ช่วงเวลาที่เธอไม่รู้จัก อย่างเช่น ตอนนี้เป็นรัชศกเอ้อหมิง ปีที่ 5 ก่อนหน้านี้เป็นรัชศกฉางเจ๋อ แต่ละชื่อไป๋หลันไม่คุ้นเคย ไม่เหมือนประวัติศาสตร์ที่เธอเคยเรียนเลย เธอจึงตัดสินใจว่าคงเป็นมิติอื่น

แต่ที่แน่ๆ ผู้คนพูดภาษาโบราณ แต่งชุดโบราณ และในหัวของเธอก็มีภาพความทรงจำของเจ้าของร่างอย่างซู่หรานเต็มไปหมด มิน่าล่ะถึงได้ปวดหัวมาก สมองปกติของคน คงจะเก็บความทรงจำของทั้งสองคนพร้อมๆ กันไม่ไหว ยังไงก็ต้องมีขีดจำกัดบ้าง นั่นต้องเป็นเหตุผลที่ตอนแรกเธอปวดหัวแน่

ตอนที่ตกลงมา ร่างของไป๋หลันถูกเสียบตายไปแล้ว เธอยังจำตอนถูกเสียบได้อยู่เลย แม้จะไม่ทันรู้สึกเจ็บ แต่ร่างนั้นตายแน่นอน เธอถึงได้รู้สึกว่าตกลงมาอีกครั้ง แต่ตกเท่าไหร่ก็ยังไม่ถึงพื้น ตกลงมานานมากๆ

และหลังจากตกมาสู่ร่างของซู่หราน ซู่หรานคงตายเพราะแรงกระแทกหรือไม่ก็พิษที่ได้รับมาก่อนหน้า ไป๋หลันถึงได้มาอยู่ในร่างของเธอได้ เรื่องแบบนี้ ออกจะเหลือเชื่อเกินไป แต่มันก็เกิดขึ้นจริงๆ

ไป๋หลันกินจนอิ่ม และเริ่มสำรวจร่างกายของซู่หราน

‘โอ้โห เอวคอด เล็กแค่ฝ่ามือโอบ สะโพกผาย ก้นแน่นมาก ไหนจะก้อนภูเขาตรงหน้านี่อีก หน้าอกใหญ่ขนาดที่สองมือกุมไม่หมด โอ้แม่เจ้า ซู่หราน เธอช่างเซ็กซี่จริงๆ ขนาดฉันเป็นผู้หญิงยังตกหลุมรักเลย มือก็นุ่ม แก้มก็เนียน ชักอยากส่องกระจกแล้วสิ’ ไป๋หลันตื่นเต้นในใจ

ขณะที่ไป๋หลันเตรียมจะถลกกระโปรงขึ้นอีกหน่อยเพื่อจะได้เห็นขาอ่อนของเจ้าของร่างให้ชัดๆ ก็ได้ยินเสียงบางอย่างเกิดขึ้น

ชายคนหนึ่งใส่ชุดสีแดงสด ปิดหน้าปิดตา บุกเข้ามาในคุกและพังประตูที่มีชายสองคนนอนอยู่ จากนั้น ทั้งสามคนก็วิ่งมาทางที่ไป๋หลันโดนขัง

“ตามแผนต้องไม่มีผู้ใดอยู่ไม่ใช่หรือ” ชายชุดแดงหันไปถามอีกสองคน แต่ทั้งสองคนก็แค่ปรายตามองไป๋หลัน ไม่คิดสนใจ

“ไม่ต้องสนใจ” อีกคนที่ตัวใหญ่สุดที่แขนบาดเจ็บข้างหนึ่งพูด เขารับดาบมาจากคนชุดแดงและฟันไปที่กรงไม้ไม่กี่ครั้งก็กลายเป็นช่องขนาดใหญ่พอให้บุรุษตัวโตผ่านไปได้

“ใส่ชุดแดงแหกคุก ไม่สะดุดตาเลยเนอะ” ไป๋หลันเผลอพูดออกไป

ทั้งสามคนหันขวับมามองทันที ไป๋หลันต้องรีบยกมือปิดปาก คนในชุดแดงยกดาบเตรียมจะหันมาฟันทางไป๋หลัน แต่ทันทีนั้นก็มีชายอีกคนในชุดคลุมสีดำทั้งตัว ปิดหน้าปิดตา โผล่ออกมาจากไหนไม่รู้ แต่เขารวดเร็วมาก วิ่งไม่ถึงอึดใจก็มาถึงตรงที่ชายทั้งสามคนยืนอยู่

เกิดการต่อสู้ชุลมุน จนคล้ายมองไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร เพราะทุกคนต่างรวดเร็วจนมองแทบไม่ทัน แต่สิ่งหนึ่งที่ไป๋หลันเห็นคือ คนในชุดดำเก่งมาก ขนาดว่าเขาสู้กับคนสามคน เขายังพลิ้วไหวจนถือได้ว่าเขาได้เปรียบที่สุดในการต่อสู้นี้

ถ้าให้ไป๋หลันบรรยาย เธอคงพูดว่า งดงามราวกับคนที่กำลังเต้นบัลเลต์ เพราะคนชุดดำ แม้เทียบตามขนาดตัวแล้ว เขาดูจะตัวเล็กกว่าอีกสามคนมาก แต่เขาว่องไวราวกับสายลม ควงกระบี่วนไปรอบๆ ในขณะที่หนุนตัวไปด้วย รวดเร็วจนมองไม่ทัน กระทั่งชายสามคนยังรับมือไม่ไหว คนที่แขนบาดเจ็บรีบหนีออกไปทางที่เตรียมไว้ ปล่อยให้ชายชุดแดงและนักโทษอีกคนสู้ต่อ

ไม่นานคนชุดแดงก็หนีอีกคน ทันทีที่ชายชุดแดงหนีออกไปทางช่องถูกฟัน นักโทษที่เหลืออยู่ก็ถูกแทงทันที ชายชุดดำรีบตามออกไปอย่างไม่ลดละ แต่ไป๋หลันสาบาน ว่าได้สบตากับคนชุดดำนั่น เขาหันมามองเธอก่อนรีบออกไป และสายตานั้น ไป๋หลันบอกได้คำเดียวว่าน่ารักมาก

‘ไท่เหอเจียนหู่ นักรบที่ศัตรูต่างหวาดเกรง ฆาตกรที่ผู้คนต่างหวาดกลัว แต่เป็นผู้ปกป้องแคว้นอี้ของเราที่ทุกคนต่างยกย่อง ไม่มีผู้ใดในแคว้นนี้ไม่รู้จัก’ เสียงในความทรงจำของซู่หร่านดังขึ้น

“ว้าว มีคนแบบนั้นอยู่จริงๆ ใช่ไหม เก่งจนน่ากลัวเลยแฮะ” ไป๋หลันยกมือมาทาบอกหอบหายใจ ราวกับตัวเองออกแรงไปมากมาย ทั้งที่สิ่งที่เธอทำคือ ยืนมองการต่อสู้นั้นอยู่เฉยๆ ในอีกฟากของลูกกรงไม้

ไป๋หลันถูกจับมาไว้ที่คุกประมาณช่วงกลางวัน มีคนแหกคุกไม่นานจากนั้น เธอจึงถูกย้ายไปอยู่ในห้องขังอื่นซึ่งเป็นห้องขังรวม แม้ผู้คุมหลายคนจะไม่สบายใจ เพราะอย่างไรซู่หรานก็เป็นลูกของขุนนาง ถึงจะเป็นเพียงขุนนางเล็กๆ ชั้นเก้า แต่พ่อของซู่หรานถือว่าเป็นบัณฑิตที่มีผู้คนนับหน้าถือตามากมาย ผู้คุมจำต้องตัดสินใจ เพื่อความปลอดภัยยังไงก็ต้องย้าย ไป๋หลันได้แต่นั่งมุมห้องด้วยความอึดอัดใจ นี่เธอต้องอยู่ในคุกนี่อีกกี่วันกัน เธอไม่ชอบอยู่กับคนเยอะๆ เลย

ตกเย็น เมื่อท่านพ่อของซู่หรานมาถึงศาล และรู้ว่าซู่หรานถูกย้ายไปขังในห้องขังรวมเพราะมีเหตุปล้นคุก เขาตกใจมาก รีบวิ่งไปตามหาตัวลูกสาว

“ท่านพ่อ” ไป๋หลันยืนขึ้น

“เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่ ถูกทำร้ายที่ใดหรือไม่” ท่านพ่อที่เคยถึงขั้นตบหน้าเธอ ยามนี้กลับเป็นห่วงเธออย่างมาก

“ข้าไม่เป็นไร” ไป๋หลันอยากบอกว่าสบายดีมาก แค่เจ็บแผลในปากที่ถูกท่านพ่อตบเมื่อเช้า แต่เธอไม่ได้พูดไป

“ท่านพ่อมารับข้าหรือ ไม่ต้องนอนที่นี่แล้วใช่หรือไม่” ไป๋หลันถามออกไป

“คือ..พ่อให้ท่านหมอตรวจสุนัขนั่นแล้ว มันป่วยจริงๆ ยามที่มันเข้ามาในจวน น้องของเจ้าบอกว่าเจ้าถูกขังอยู่ในห้อง นางยังขอร้องว่าเจ้าตั้งใจช่วยนางจริงๆ ท่านย่าและท่านแม่จึงอนุญาตให้พาเจ้ากลับไปไต่สวนที่บ้าน จะได้ไม่ต้องอับอายขายขี้หน้าคนอื่นไปทั่ว”

ท่านพ่อของซู่หรานทำเป็นขรึม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังเป็นห่วงนางมาก พอรู้ว่านางสบายดีจึงวางใจได้บ้าง กลับมาปั้นหน้าเย็นชาสั่งสอนลูกสาวต่อไป เขาก็รู้สึกผิดกับเรื่องที่ตบหน้าลูกไปไม่น้อย

ไป๋หลันถูกพากลับบ้านและต้องมานั่งคุกเข่าอยู่กลางห้องโถง ที่มีท่านย่ากับท่านพ่อทำตัวเป็นใต้เท้าคอยตัดสินโทษ ส่วนเมียเอกของพ่อนั่งที่เก้าอี้ด้านข้างด้วยสีหน้ากังวล มีน้องสาวของซู่หรานยืนสีหน้ากังวลอยู่ด้านหลัง

ไป๋หลันไม่แน่ใจเลยว่าแบบนี้ยังเรียกว่าเป็นครอบครัวกันได้ไหม แต่ที่นี่ไม่ใช่โลกของเธอ ได้แต่ก้มหน้ารับความแปลกประหลาดของวัฒนธรรม เธอแอบสัญญาในใจว่าถ้าเธอมีลูก จะไม่ทำแบบนี้เด็ดขาด

“ข้าเห็นแก่ซินซิน นางเอาแต่ร้องไห้ขอร้องแทนเจ้า จึงไม่เอาความเรื่องหน้าไม้พระราชทาน เห็นแก่ความตั้งใจที่จะช่วยน้อง เจ้าอ้างว่ามั่นใจ ไม่มีทางยิงพลาด เจ้าจะพิสูจน์อย่างไร” ท่านย่าเชิดหน้ามองมาทางไป๋หลัน

“พิสูจน์?” ไป๋หลันทวน ในใจกำลังลิงโลดดีใจ เพราะถ้าผู้ใหญ่พูดแต่เรื่องนี้ แสดงว่าเรื่องที่ซู่หรานเป็นคนปล่อยหมาเข้ามายังไม่มีใครรู้ ถ้างั้นก็ยังพอถูไถแก้ตัวไปได้ ยังไงเรื่องร้ายก็ยังไม่เกิด ไป๋หลันจะแก้ไขให้เอง


มีคนแนะนำ ไรท์เลยมาเพิ่มประกาศค่ะ 

นางเอกป่วย เป็นความผิดปกติทางบุคลิกภาพของกลุ่มอาการที่เรียกว่า Avoidant Personality Disorder เป็นความรู้สึกกลัวถูกปฏิเสธหรือกลัวถูกตัดสิน มักเกิดเวลาที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้คน บางคนเป็นมากบางคนเป็นน้อย ถ้าเป็นคนที่รู้จักก็จะมีความรู้สึกกลัวมากขึ้นไปอีก ยิ่งเป็นคนที่ตัวเองชอบจะยิ่งกลัว ยิ่งชอบเขามากก็ยิ่งกลัวมาก เพราะถ้าโดนปฏิเสธหรือถูกตัดสินจากคนที่ชอบจะส่งผลกระทบต่อจิตใจได้มากกว่า มักมองโลกในแง่ลบ ไว้ใจใครสักคนยาก และชอบแยกตัวออกจากสังคม ชอบรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าหรือดีไม่พอ ไม่ควรได้รับความรักหรือความหวังดีจากใคร ส่งผลให้ไม่ชอบและไม่กล้ามีปฏิสัมพันธ์กับใคร มีอาการกลัวการเข้าสังคม ไม่มีความมั่นใจ ยิ่งอยู่ต่อหน้าคนที่ชอบเลยยิ่งทำอะไรบ้งๆ โดยไม่ตั้งใจ (นางเอกมักควบคุมปากตัวเองไม่ได้ พูดไปแล้วก็รู้สึกอยากด่าตัวเองตลอด สังเกตว่าเวลาอยู่กับจิ้งจื่อจะเป็นบ่อยมาก) ที่จริงนางดีขึ้นตั้งแต่มาที่โลกนี้แล้ว มีความมั่นใจมากขึ้น แต่เวลาตื่นเต้น ตึงเครียดหรือคนเยอะๆ หรืออยู่ต่อหน้าคนที่ชอบก็จะหลุดบ่อยค่ะ ยังไม่หายดี ถ้าสังเกต นางเอกรู้ตัวค่ะว่าได้ทำสิ่งที่ไม่ควรไปแล้ว แต่บางครั้งมันตึงเครียดมากจนห้ามปากไม่ได้ สมองเหมือนถูกฟรีดไว้ชั่วคราว เรื่องที่ดูธรรมดาสำหรับเรา มันเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับคนที่มีอาการแบบนางเอกค่ะ อยากให้เข้าใจตรงจุดนี้นะคะ

การที่นางเอกอยู่ในห้องได้เป็นเดือนๆปีๆ มันไม่ใช่เรื่องปกติหรือเป็นแค่ความขี้เกียจเท่านั้นค่ะ แต่เป็นเพราะเขาต้องการการรักษาทางจิตใจอย่างเร่งด่วน เป็นอาการป่วยที่คนอื่นๆมองไม่เห็นค่ะ (นางป่วยค่ะ อย่าเพิ่งรำคาญหรือรีบเทนะคะ ช่วยอยู่เป็นกำลังใจให้นางเอกของไรท์ต่อไปด้วยค่ะ) 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นักธนูมือหนึ่งย้อนเวลากลับไปเย็บผ้าอยู่หลังบ้าน   ตอนที่ 112 ทั้งรัก ทั้งหลง (ตอนจบ)

    "ข้าไม่รู้ว่าอะไรคือรัก อะไรคือหลง ข้าบอกได้เพียงว่า เพราะเป็นเจ้า ข้าจึงหลง ไม่ว่าจะอกโตของเจ้า ริมฝีปากนุ่มนิ่ม เสียงร้อง รอยยิ้ม ความหน้าด้าน ความบ้าคลั่ง หรือกระทั่งหยดน้ำตา ข้าก็ทั้งหลงทั้งรักไม่อาจสูญเสียไปได้จริงๆ" คำบอกรักของเขาชวนใจเต้นแล้วแต่คำขอแต่งงานยิ่งชวนให้รู้สึกดีใจจนอยากร้องไห้มากยิ่งกว่าอีกซู่หรานมือเท้าสั่นเทาจนไม่รู้จะทำตัวอย่างไร"ขะ ข้า..ข้ากลัว" เธอบอกเขาถึงความในใจ เธอก็ไม่รู้ว่ากลัวอะไรแต่เธอรู้สึกกลัวการต้องใช้ชีวิตกับคนอื่นมากจริงๆ"ข้าก็กลัว" เขาตอบเสียงทุ้ม"เจ้า..เจ้ากลัวแล้วยังขอแต่งงานอีกหรือ""อืม""เจ้าโง่ไปแล้วหรือ" ซู่หรานน้ำตาร่วง มือสั่นจนเริ่มควบคุมไม่ได้"ข้ากลัวว่าเจ้าจะทิ้งข้าอยู่ทุกวัน กลัวว่าพรุ่งนี้เจ้าอาจเปลี่ยนใจไปหาผู้อื่น แต่ข้ากลัวจะไม่ได้อยู่กับเจ้ามากกว่า ไม่ว่าอะไรข้าก็จะโยนทิ้งให้หมด""ข้ากลัวจะเสียใจ" ซู่หรานบอกเขาตามตรง"แต่เจ้าไม่กลัวว่าจะเสียข้าให้ผู้อื่นหรือ" เขาถามตรง จี้ความกลัวของเธอ"กลัว กลัวสิ ฮือ" เธอตอบพร้อมเสียงสะอื้น"เช่นนั้นก็แต่งเถิด" เขาเริ่มใช้น้ำเสียงออดอ้อนขอร้อง และเธอรู้สึกว่ามันน่ารักจนไม่อาจทนได้จริงๆ"อ

  • นักธนูมือหนึ่งย้อนเวลากลับไปเย็บผ้าอยู่หลังบ้าน   ตอนที่ 111 ขอแต่งงานแบบจิ้งจื่อ NC20+

    "ไม่ เจ้าน่ารัก ข้าไม่กลัวแล้ว"สิ้นคำตอบของคนน่ารัก จิ้งจื่อก็ค่อยๆ ดันมังกรยิ่งใหญ่ของเขาเข้าไปเป็นหนึ่งเดียวกับนาง เขารู้สึกดีใจจนแทบคลั่ง ดีใจจนอธิบายไม่ถูก ในใจมีความสุขยิ่ง ร่างกายยิ่งกว่าสุขสมจนน้ำพุพุ่งกระจาย แต่เขาตัวสั่นกอดร่างเล็กอยู่เพียงครู่เดียวก็เริ่มขยับต่อไป ความคับแน่นทรมานก่อนหน้านี้ที่คับแคบจนเขาขยับลำบากก็เริ่มลื่นไหลมากขึ้น"อ้า อะ อ้า อื้อ จิ้ง อึก..อึก อื้อ"จิ้งจื่อเงยหน้ามองดูคนน่ารักของเขาที่ปกติแม้จะสุขสมเพียงใดก็ไม่ค่อยส่งเสียง นางมักจะกัดปากเก็บเสียงเงียบ แต่ยามนี้นางกำลังครางไม่เป็นภาษา ลืมเลือนแม้กระทั่งกัดปาก ได้แต่ร้องรับแรงกระแทกของเขาอย่างลืมตัวเขาดีใจมากที่สามารถเป็นฝ่ายกลั่นแกล้งจนนางทำตัวไม่ถูกได้บ้างแล้ว ยิ่งเวลาที่เขาบดเบียดจนนางเสร็จสม แต่เขาไม่ยอมพักและกระแทกกระทั้นต่อไปทันที นางจะจะจับไหล่เขาจนแน่น บางครั้งถึงขั้นจิกเล็บลงไปบนหลังเขา ร้องครางจนลืมตัวเขาต้องรีบจูบปิดปากเพราะกลัวใครจะได้ยิน แน่นอนว่าเขาชอบเสียงครางของคนน่ารักยิ่งกว่าสิ่งใด แต่เขาไม่ต้องการให้ใครได้ยิน เขาอยากเก็บเอาไว้เป็นของเขาคนเดียว ดังนั้นเขาจึงชอบกระแทกให้นางสุขสมจนแทบก

  • นักธนูมือหนึ่งย้อนเวลากลับไปเย็บผ้าอยู่หลังบ้าน   ตอนที่ 110 จิ้งจื่อเด็กดื้อ NC20+

    "อีกครู่เดียว..ได้หรือไม่ ทำเช่นนี้ช่วยให้หายหนาว เจ้าเป็นคนบอก จำไม่ได้หรือ" เขาพยายามต่อรองซู่หรานรู้สึกสงสารท่าทางน่ารักนั้นยิ่งนัก เธอเสร็จสมแล้ว แต่เขายังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย เมื่อคิดแล้วก็รู้สึกว่าสงสารยิ่ง แต่ตัวเองก็ไม่มีแรงแล้ว เธอจึงยกมือชี้ที่ปากตัวเองแทน"เอ่อ..เจ้า.." เขาอยากพูดว่าหากนางไม่ไหวแล้วก็ไม่เป็นไร แต่ความร้อนรุ่มก็กำลังกัดกินเขา"มาสิ" เธอพูดอย่างอ่อนแรงจิ้งจื่อตัดสินใจขยับตัวขึ้นไปคร่อมอยู่ตรงคอของร่างเล็ก เขาพยายามจัดท่าทางไม่ให้ทับจนนางหายใจไม่ออก ก่อนจะจ่อหัวมังกรชมพูไปที่ปากเล็กของนางซู่หรานยามนี้ เหนื่อยจนอ่อนแรง แต่อยากเอาใจเขาจึงอ้าปากแลบลิ้นไปเลียหัวมังกรร้อนผ่าวลำนั้น"อื้อ อะ" เธอเพียงเลียแผ่วปลาย เขาก็ส่งเสียงครางสุขสันต์จนน่าสงสารไปหมดซู่หรานอยากให้เขาสุขสมยิ่งขึ้นจึงยกมือดันก้นแน่นของเขาเพื่อให้เจ้ามังกรใหญ่ขยับเข้าปากมากขึ้นจิ้งจื่อรู้สึกดีจนตัวสั่น นางไม่เพียงอ้าปากให้ความสุขเขา แต่ยังขยับลิ้นไปมาเพื่อดุนดันลิ้นไปทั่วหัวมังกร ยิ่งทำให้เขาสุขสมยิ่งขึ้น เขาชอบสัมผัสนั้นมากจนไม่อาจห้ามใจไหว จึงขยับสะโพกขึ้นลงเบาๆ"อ้า อา" เขามีความสุขมากเกินไป

  • นักธนูมือหนึ่งย้อนเวลากลับไปเย็บผ้าอยู่หลังบ้าน   ตอนที่ 109 กลืนกินบนหอคอย

    "ใช่แล้ว หากไม่ได้เขาข้าอาจตายไปนานแล้ว หรือไม่ตายก็คงเหมือนตายอยู่ดี" เขาพูดและรวบตัวคนขี้สงสัยเข้ามากอด"ครั้งแรกที่ข้าเข้าสู่สนามรบ ข้าฆ่าคนไปมากมายจนไม่อาจนับได้ หลังจากนั้นข้าไม่อาจมองผู้คนเช่นเดิมอีกเลย ผู้คนต่างยกย่องข้าแต่ก็หวาดกลัวข้าราวกับปีศาจร้าย ถึงพวกเขาจะเรียกข้าว่าวีรบุรุษสงคราม แต่ข้าก็คือฆาตกรที่ฆ่าคนไปมากมาย ข้ารู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรจะยืนอยู่บนพื้นโลกกับผู้อื่นต่อให้พวกเขาจะมองข้าด้วยความชื่นชมแต่ก็มองด้วยความกลัวเช่นกัน จนข้าได้มาพบเขา ปณิธานของเขาทำให้ข้าอยากจะลองมีชีวิตอยู่และลงมือช่วยเหลือเขาสักครั้ง ต่อให้ต้องลงมือฆ่าคน ข้าก็รู้สึกว่าคุ้มค่า ข้าศรัทธาในตัวเขาและความตั้งใจของเขามาก""เพราะเช่นนี้ เจ้าจึงไม่ชอบที่ถูกจ้องมองหรือ" ซู่หรานถาม"อืม""เจ้าเป็นไท่เหอเจียนหู่ตั้งแต่อายุสิบสองเช่นนั้นหรือ" เธอตัดสินใจถามคำถามในสิ่งที่เธอกังวลตั้งแต่รู้ว่าเขาคือไท่เหอเจียนหู่"อืม" คำตอบของเขาเรียบง่าย แต่บีบคั้นหัวใจของซู่หรานจนเจ็บปวด เธอรู้สึกหายใจไม่ออกแทนเขา เด็กผู้ชายคนหนึ่ง ต้องแบกภาระมากขนาดนี้ โลกนี้ช่างโหดร้ายยิ่งนัก ซู่หรานอยากปลอบประโลมเขาให้สมกับเป็นเพีย

  • นักธนูมือหนึ่งย้อนเวลากลับไปเย็บผ้าอยู่หลังบ้าน   ตอนที่ 108 หึงหวง บอกรัก

    "จิ้งจื่อ ไม่เอา" เธอผลักและพยายามถอยหนี แต่มือแข็งแกร่งของเขารวบจับสองมือเธอขึ้นไปไว้บนหัว และเริ่มจูบวนรอบยอดถัน พยายามดูดดันหัวมังกรเข้าไปอีกครั้ง"ไม่เอาแบบนี้ จิ้งจื่อ อย่าทำเช่นนี้ ขอร้อง" เธอเสียงสั่นกลัว"เพราะเหตุใด" เขายอมพูดคุยกับเธอแล้ว"ขะ ข้ากลัว" "แล้วต้องทำเช่นไรเจ้าถึงจะไม่กลัว" เสียงของเขาสั่นเครือ แต่ไม่ใช่เพราะความกำหนัด คล้ายว่าเขากำลังจะร้องไห้มากกว่า"จิ้ง..จิ้งจื่อ" ซู่หรานเองก็รู้สึกถึงความผิดปกติในน้ำเสียง"ต้องเป็นเขาเท่านั้นหรือ" เขายอมเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเธอในที่สุด"ข้ารักเจ้า รักมากกว่าเขา เขาไม่ได้รักเจ้า เหตุใดเจ้าจึงยึดติดกับเขานัก" นัยน์ตาของจิ้งจื่อแดงก่ำ น้ำตาคลอเบ้า ใกล้จะร้องไห้เต็มทีซู่หรานชะงักค้าง เธอตกใจทั้งกับคำบอกรักและท่าทางเจ็บปวดของเขา หัวใจของเธอกำลังพองโต"เป็นข้าไม่ได้หรือ ข้ารักเจ้า รักมาก..รักจนไม่อาจสูญเสียไปได้ เปลี่ยนเป็นข้าเถิด ข้าสาบานด้วยชีวิต ไม่ว่าเจ้าต้องการสิ่งใด ข้าล้วนยินยอมทั้งสิ้น" จิ้งจื่อสบตาหญิงสาว พูดความในใจตัวเองออกมาด้วยความเจ็บปวดและรู้สึกพ่ายแพ้ยิ่งแต่สำหรับซู่หราน เธอคล้ายตกหลุมรักความน่ารักของเขาเป็นครั้ง

  • นักธนูมือหนึ่งย้อนเวลากลับไปเย็บผ้าอยู่หลังบ้าน   ตอนที่ 107 พ่ายแพ้ ทำโทษ

    "ข้าคิดถึงเจ้า คืนก่อนเจ้าก็ยังบอกว่าคิดถึงข้าอยู่เลย วันนี้เจ้าน้อยใจอะไรอีก เจ้าไม่พูดข้าจะรู้ได้อย่างไร" เธอพยายามพูดง้อเขา มือหนึ่งเกาะเอวไว้อีกมือก็ลูบคลำจนสิ่งนั้นของเขาเริ่มจะพองโตใหญ่ขึ้นบ้างแล้ว"หยุด!" เขาพยายามพูดเสียงให้ดุที่สุด แต่สองมือของเขากลับทำได้เพียงกุมข้อมือบางเล็กของนางไว้เท่านั้น ยิ่งนางลูบคลำ ขายาวของเขาก็ยิ่งสั่นมากขึ้น"เจ้าหนาวหรือ ให้ข้าช่วยนะ" เธอพูดออดอ้อนและเริ่มดึงเข็มขัดของเขาออก"หยุด!!" เขาแทบจะตะคอกใส่เธอซู่หรานตกใจจนสองมือหยุดชะงักเธอค่อยๆ หดมือกลับมาไว้ข้างตัวจิ้งจื่อเดินไปตรงกำแพงและโขกหัวตัวเองกับกำแพงแรงๆ หนึ่งที"เจ้าทำอะไร!!" ซู่หรานตกใจเธอรีบร้อนจะวิ่งไปดูเขา"อย่าเข้ามา!!" เขาตะเบ็งเสียงใส่จนเธอไม่กล้าเข้าใกล้"เจ้า..เจ้าเป็นอะไร อย่าทำเช่นนี้" หัวใจของซู่หรานเจ็บปวดมากเมื่อเห็นเขาต้องเจ็บเช่นนี้"ข้าเกลียดเจ้า" จิ้งจื่อเสียงเย็น"...อ้อ ได้ ขะ ข้าเข้าใจแล้ว" ซู่หรานรู้สึกแย่มากที่พยายามไล่ตามผู้ชายคนหนึ่ง เธอรู้สึกว่าตัดสินใจผิดพลาดแล้ว เธอไม่น่าฟังคำของน้องสาวจนมาทำเรื่องน่าอายพวกนี้เลย"เจ้ามันเป็นปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง เป็นสตรีหน้าด้าน ไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status