ฟ้าใสสะบัดมือออกจากการจับกุมผลักหน้าชายหนุ่มออกพร้อมกับมองหน้าเขาด้วยอาการโกรธจัด ‘เล่นอย่างนี้ใช่มั้ย ได้’
“เรียกก็เรียกคะ พี่กรณ์ พอใจมั้ยคะ แค่นี้ ไม่ทำให้ฟ้าทนไม่ได้หรอกคะ ก็ดีมีพี่กับเขา จะได้มีที่พึ่งพิง มีคนปกป้องจริงมั้ยค่ะ พี่กรณ์” เสียงขุ่นเขียวเปลี่ยนมาเป็นเสียงหวานหยาดเยิ้ม จนปกรณ์ ต้องถอยห่าง และมองหน้าอย่างงงกับอาการที่เปลี่ยนไปของหญิงสาว ‘ได้ปกป้องหนักแน่คุณพี่กรณ์ อยากเป็นพี่นักใช่มั้ย’
“พี่กรณ์อยากอยู่กับฟ้าต่อเหรอค่ะ งั้นเราไปที่อื่นกันต่อมั้ยคะ” คราวนี้เป็นฟ้าใสที่เป็นฝ่ายยื่นหน้าเข้าไปหาปกรณ์พร้อมส่งสายตาหยาดเยิ้มไปให้
“ไม่เป็นไรครับ วันนี้พี่ไม่สะดวกแล้วครับ ไว้วันหลังแล้วกันนะครับ” ว่าพลางพร้อมปลดล็อคทันที เมื่อสาวหน้าหวานยื่นหน้าเข้าใกล้อย่างไม่ทันตั้งตัว
“งั้นฟ้ากลับก่อนนะคะ ไว้เจอกันวันหลัง” ฟ้าใสเปิดประตูยิ้มหวาน เพราะยกนี้เธอเป็นฝ่ายชนะทำให้อีกฝ่ายไปต่อไม่เป็น พร้อมกับปิดประตูรถดังสนั่น เมื่อหันหลัง หน้าที่ยิ้มก็เริ่มกลับมาเครียดอีกครั้ง ต้องเขียนแผนใหม่ทั้งหมด แต่ก่อนอื่นต้องปรึกษายัยแป้งด่วนเลย
เมื่อเห็นหญิงสาวขึ้นตึกไปแล้ว ปกรณ์รีบต่อสายหาเพื่อนสนิททันที
@คอนโดฟ้าใส
หลังจากกลับมาที่ห้อง ฟ้าใสรีบอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนเตรียมความพร้อมนอนทันที หากคืนนี้คุยกับยัยแป้งดึกเกิน ว่าแล้วก็เปิดโปรแกรมแชทสีเขียว ส่งสติ๊กเกอร์ไปก่อน
ฟ้าใสใส: ยัยแป้ง สะดวกคุยเปล่า
แป้งเด็กแต่ไม่เด็กนะจ๊ะ: ว่าไงเพื่อน ไปทานข้าวกับว่าที่สามี อร่อยมั้ย
ฟ้าใสใส: อร่อยอะไรหละ อาหารอะน่ากิน แต่กินไม่ลง นายนั่นนะ พูดมาแต่ละประโยคเนี่ย อยากจะเอาอะไรยัดปากจริงๆ ทำให้ความอยากอาหารฉันลดลงไปครึ่งนึงเลย
แป้งเด็กแต่ไม่เด็กนะจ๊ะ: อ้าว อุตส่าห์ได้ไปกินร้านหรูบนโรงแรมระดับหกดาว กินไม่ลงเสียดายของจริงๆ
ฟ้าใสใส: แกก็ อย่าเพิ่งเห็นแก่กิน ว่าแต่แกว่างเปล่า ขอคอลหน่อยดิ อยากปรึกษาอะ
หลังประโยคสุดท้ายที่พิมพ์ไป พร้อมขึ้นสถานะอ่านแล้ว แป้งก็วีดีโอคอลเข้าหาฟ้าใสทันที
“ว่าไงเพื่อน มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า” เสียงใสจากเพื่อนสาวออกมาทันที เมื่อฟ้าใสรับสาย
“ตานั่นน่าจะรับมือยากนะ แผนที่วางไว้ ไม่น่าจะได้ผล” ฟ้าใสรีบเกริ่นทันที
“ตานั่นนี่ตาไหนเหรอ”
“อ้าวก็ตาปกรณ์ ว่าที่คู่หมั้นฉันไง”
“อ้าวเหรอ ว่าแต่เค้าหน้าตาเป็นอย่างไรบ้างคะ หล่อมะ”
“เฮ้อ หล่อ ก็หล่อแหละ สูง ขาว หน้าเหมือนพระเอกเกาหลีที่แกชอบ แต่ปากเสียชะมัด” ฉันคิดอะไรไปเนี่ย
“หน้าเหมือน ชาอึนอูเลยหรอ หูว หล่อมากเลยนะแก แต่ปากเสียเหรอ ทำไมช่วงนี้ เจอแต่ผู้ชายหล่อแต่ปากเสียนะ” อยู่ๆ แป้งร่ำก็นึกถึงคนบ้าที่เดินชนกันเมื่ออาทิตย์ก่อนตอนไปหาฟ้าใสที่คอนโด `แล้วเราไปคิดถึงเขาทำไมเนี่ย’
“อืม หน้าคล้ายๆ นั่นแหละ แต่ปากเสียสุดๆ แถมมาใช้มุขเราเคยเจอกันไหนมาก่อนด้วยนะ น่าจะเจ้าชู้สุดๆ ไปเลย ขากลับมา ฉันลองคุยกับนายนั่นเรื่องยกเลิกงานหมั้น แต่เขาไม่ยอมท่าเดียว”
“เขาชอบแกแหงเลย ถึงไม่ยอม ยกเลิกหมั้นหนะ” แป้งโพล่งออกมาเสียงใส สงสัยเพื่อนเราจะตกหนุ่มหล่อได้
“หึ ชอบบ้าอะไรอะแก ไม่ได้บอกไม่ยอม แต่นายนั่นบอกฉันว่า ถ้าฉันอยากยกเลิกให้ไปบอกแม่เอง แล้วบอกด้วยนะว่าเขาไม่ติดปัญหาอะไร เพียงแต่ฉันจะทนเขาได้หรือเปล่าก็เท่านั้น” ฟ้าใสเผลอเสียงดัง เมื่อนึกถึงหน้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับปกรณ์ระหว่างทางกลับบ้าน
“อ้าว อย่างนี้ก็เหมือนเล่นเกมส์ประสาทกันหนะสิ ประมาณว่าใครทนได้ ก็ทน ใครทนไม่ได้ก็บอกแม่ซะ ประมาณนั้นใช่มั้ย”
“อืม ประมาณนั้นแหละ ทีนี้ทำไงอะแก ฉันคิดอะไรไม่ออกแล้วอะ ดูแล้วฉันน่าจะต้องเสียเวลากับตานั่นมากแน่เลย” ฟ้าใสถอนหายใจ เมื่อนึกถึงว่าจะจัดการตาปกรณ์ไม่ง่ายอย่างที่คิดแล้ว เสียเวลาชะมัด
“ฉันว่าแกเครียดไปนะ วันนี้เพิ่งเจอหน้ากัน เขาทำให้แกลำบากขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ฉันแค่ไม่อยากเสียเวลากับเรื่องพวกนี้ แกก็รู้ มันไม่อยู่ในแผนชีวิตฉันเลย ฉันควบคุมอะไรก็ไม่ได้” ฟ้าใสพูดเสียงเรียบ
“ฉันว่าแกใจเย็นๆ ค่อยๆ คิดดีมั้ย” แป้งรับรู้ถึงความเครียดของเพื่อน เพราะรู้ว่าฟ้าใสไม่ชอบอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้เลย และเรื่องความสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ฟ้าใสไม่ชอบมากที่สุด เพื่อนสาวพยายามที่จะไม่พาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ขนาดรู้ล่วงหน้า ยังพยายามยามหนี แล้วนี้ ไม่ทันตั้งตัว เพื่อนจะทนไหวได้อย่างไร
“ฉะ ฉันกดดันอะแก ฉันไม่รู้จะทำยังไง ฉันรู้สึกถึงความยุ่งยาก ฉันไม่ชอบจริงๆ” ฟ้าใสเริ่มเสียงสั่นเครือ
“แก ใจเย็น ฉันว่านี่ดึกแล้ว แกไปพักผ่อนก่อนมั้ย เดี๋ยวพรุ่งนี้ ฉันไปนอนเป็นเพื่อนแล้วเราค่อยคิดกัน วันนี้ฉันว่าความคิดแกกำลังตีกันยุ่ง ไม่พร้อมหรอก”
“อืม ดี เหมือนกัน งั้นพรุ่งนี้แกมาหาฉันนะ”
“ได้สิ หลับฝันดีนะเพื่อน”
ฟ้าใสวางหูเพื่อนคนสนิท พร้อมทั้งเดินไปหยิบยาคลายเครียดทานลงไป เพื่อคืนนี้จะได้หลับดีๆ หน่อย พร้อมสำหรับรับมือวันพรุ่งนี้ต่อไป
“ทำอะไรกันนะ”เสียงทุ้มดังขึ้นมา ทำให้ทั้งสองสะดุ้งทันที ฟ้าใสหันมาเจอกับปกรณ์ที่มีสีหน้าทะมึงถึงพร้อมกับสายตาของเขาที่จ้องไปที่มือทั้งสองที่ยังคงจับกันอยู่ ในขณะที่พีทก้มหัวทักทายปกรณ์เล็กน้อย แต่เมื่อมองตามสายตาของปกรณ์ไปก็ตกใจรีบปล่อยมือตัวเองออกจากแฟนสาวของท่านประธานทันที“ตกใจหมดเลยกรณ์ ทำไมต้องเสียงดังด้วย เบาหน่อยสิค่ะ เดี๋ยวเรื่องก็แตกหรอก” ฟ้าใสบ่นไปยังแฟนตัวเอง แล้วยกนิ้วชี้ปิดที่ปากของตัวเอง พร้อมกับส่งเสียง จุ๊ ๆ พลางมองซ้ายมองขวา เมื่อไม่เห็นออยออกมาจากห้องก็ถอนหายใจออกมา แล้วหันไปทำตางอนๆ ใส่แฟนตัวเอง“ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้ แล้วนี่ทำอะไรกัน ทำไมมาอยู่กันสองคน พร้อมจับไม้จับมือกันอยู่ ไม่อยากให้คนเข้าใจผิดก็ไม่ควรทำ” ปกรณ์เอ่ยออกมาอย่างตำหนิ น่าหยิกแฟนตัวเองดีนัก“ขอโทษครับ พอดีผมตื่นเต้นและดีใจเกินไปหน่อย” พีทขอโทษออกมาอย่างรู้สึกผิดที่ทำให้ทั้งสองคนตรงหน้ากำลังเข้าใจผิดซึ่งกันและกันปกรณ์เหลือบมองฝ่ายชายอย่างไม่ค่อยใส่ใจ ถึงแม้เขาพอจะรู้แล้วว่าเพื่อนคนนี้ของแฟนสาวมีแฟนอยู่แล้ว แต่ก็เคยช
“ฟ้ารู้ใช่มั้ยว่าพีทรักฟ้า” พีทไม่ตอบคำถามหญิงสาว แต่กลับถามกลับไปแทน“ฟ้าไม่รู้ เพิ่งรู้วันนั้นแหล่ะ แต่วันนี้ฟ้าจะพูดให้ชัด ฟ้าไม่ได้มองพีทเป็นอย่างอื่น นอกจากเพื่อน” เสียงหญิงสาวอ่อนลงแต่หนักแน่นเพื่อให้เพื่อนของตัวเองรู้ว่ายังไงเธอก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่นอน“หึหึ พีทรู้อยู่แล้วหล่ะ พีทผิดเองที่พึ่งรู้ใจตัวเอง เมื่อมันสายไป แต่เราสองคนยังเป็นเพื่อนกันได้ใช่มั้ย” พีทหันไปจ้องที่หญิงสาวที่ตัวเองหลงรักมานานหลายปี“ได้สิ ถ้าพีทไม่คิดกับเราเกินเพื่อนเราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิม” ฟ้าใสยิ้มบางๆ ให้กับคนตรงหน้า“อืม” พีทฝีนยิ้มออกมา เขาต้องทำให้ได้เพราะตอนนี้เขามีอีกสองชีวิตที่ต้องรับผิดชอบ“แล้วออยหล่ะ พีทจะทำยังไง” ฟ้าใสถามออกมาอีกครั้ง“พีทจะรับผิดชอบออยกับลูก พีทว่าพีทก็เริ่ม...” พีทยังพูดไม่ทันจบก็มีเสียงแหบแห้งพูดออกมา“ไม่ต้อง ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เราไม่ใช่ตัวสำรองของใคร” เสียงออยดังขึ้นมา จริงๆ แล้วหญิงสาวรู้สึกตัวตั้งแต่ไ
“แล้วแกไม่โกรธมันเหรอ” ออยถามหยั่งเชิงนิดๆ อยากรู้ว่าเพื่อนรักรู้สึกอะไรกับนายนั่นหรือเปล่า“อืม จะพูดยังไงดีหล่ะ รู้นะว่ามันเมา มันไม่ได้ตั้งใจ แต่แค่ไม่คิดว่ามันจะคิดกับฉันแบบนั้น”“แกไม่ได้รู้สึกอะไรกับมันเลยเหรอ” ออยถามเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง“ไม่ได้คิดอะไรเลย คิดเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น อีกอย่าง...”“อีกอย่างอะไร” เสียงอยากรู้ออกมาทันที จนฟ้าใสนึกเอ็นดูเพื่อน“อีกอย่างตอนนี้ฉันกับคุณกรณ์ก็ตกลงเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการแล้ว”“หา! ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขายอมบอกรักแกแล้วเหรอ”“อืม เมื่ออาทิตย์ที่แล้วหล่ะ” ฟ้าใสตอบไปด้วยมีริ้วแดงขึ้นบนหน้าไปด้วย แสดงออกถึงความเขินอายเล็กน้อย“เฮ้ย ยินดีด้วยนะ” ออยจับมือฟ้าใสขึ้นมาแล้วยิ้มออกมาอย่างจริงใจ“ว่าแต่แกยังไม่บอกเลย ว่าโกรธอะไรกับมัน”“เอ่อ มีเรื่องทะเลาะกับมันนิดหน่อย ตอนนี้ยังไม่อยากคุยกับมัน ฟ้าอย่าสนใจเลย เดี๋ยวพออะไรๆ ดีขึ้น เรากับมันก็คุยกันเ
“ฟ้า ทบทวนเรื่องของเราสองคนอีกรอบได้มั้ย”ฟ้าใสหันไปมองหน้าชายหนุ่มอย่างงุนงง ทบทวนอะไรเหรอ“ทบทวนเรื่องความรู้สึกของเราสองคนไงหล่ะ เหตุการณ์เมื่อคืนทำให้กรณ์ไม่อยากรอถึงสองปีแล้ว ถ้าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับฟ้า กรณ์คงอยู่ไม่ได้แน่ๆ กรณ์อยากจะสามารถปกป้องฟ้าได้อย่างเต็มที่ ฟ้าเป็นแฟนกับกรณ์นะ”พูดจบก็ยิ่งกระชับไหล่ที่โอบไว้แน่นขึ้นร่างบางเมื่อได้ยินร่างสูงพูดความในใจออกมาก็เข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ หากเมื่อคืน เธอโดนพีทล่วงเกิน แม้จะแค่จูบ เธอก็คงจะรู้สึกกับเขาเช่นกันตอนนี้เธอค่อนข้างจะมั่นใจตัวเองแล้วว่าเธอรักเขามากจริงๆ แต่เขาหล่ะ“กรณ์แน่ใจแล้วเหรอว่า กรณ์รักฟ้า ไม่ใช่แค่ความใกล้ชิด”ร่างหนาพยักหน้าอย่างแรงจนเธอนึกเอ็นดู“จริง ตอนนี้กรณ์รู้ใจตัวเองแล้ว ว่ากรณ์รักฟ้า กรณ์ไม่อาจเสียฟ้าไปได้ เราแต่งงานกันนะฟ้า”เพี๊ยะ เสียงตีดังขึ้น พร้อมกับรอยแดงที่แขน แต่แปลก หน้าคนตีก็แดงด้วย“เร็วไปแล้วค่ะ เป็นแฟนกันก่อนก็พอ”“อ้าวเหรอ ก็อยากข้ามขั้นอ
“มึง ไอ้พีท”พีทโดนกระชากออกจากตัวฟ้าใสทันที ปกรณ์ตามเข้าไปต่อยชายหนุ่มที่บังอาจทำกับคนของเขาแบบนั้น ส่วนฟ้าใสก็ตัวสั่นอยู่ภายในอ้อมกอดของแป้ง โดยมีมิ้นท์ยืนอยู่ข้างๆออยวิ่งเข้ามาดูเป็นคนสุดท้ายเพราะออกไปรับโทรศัพท์ที่ระเบียงมา เมื่อเห็นเพื่อนโดนปกรณ์ทั้งต่อย ทั้งเตะ และมองไปเห็นฟ้าใสตัวสั่นด้วยความกลัว ก็พอจะเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นออยเดินเข้าไปหาฟ้าใสแล้วถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง“ฟ้า เป็นยังไงบ้าง เกิดอะไรขึ้น”เหมือนฟ้าจะได้สติขึ้นมา จึงรีบเดินเข้าไปจับมือปกรณ์ที่กำลังง้างเพื่อต่อยเขาอีก“พอเถอะกรณ์ พีทไม่ได้ตั้งใจหรอก เขาเมาหนะ” ฟ้าพูดด้วยเสียงที่สั่นเทาปกรณ์หันหน้ามาหาหญิงสาวแล้วโอบกอดเธอไว้ พร้อมมองไปที่ร่างของชายหนุ่มที่นอนกองอยู่กับพื้น ไม่ถึงกับสลบแต่ก็น่าหายเมาพอสมควร“ยังจะไปแก้ตัวแทนมันอีก” ปกรณ์ดันหัวฟ้าเข้าหาตัวเอง แล้วพูดออกมาด้วยเสียงสั่นเช่นกัน เขาคิดไม่ออกว่าถ้าหญิงสาวเป็นอะไรไป เขาจะทำยังไงพีทเมื่อเริ่มได้สติ หันไปเห็นคนที่ตัวเองแอบรักมาหลายปี มีอา
ฟ้าใสรีบเดินออกมาจากห้องครัวอย่างเร็วเพื่อเดินไปเปิดประตูทันทีแกร๊ก“สวัสดีพี่ฟ้าใส” เสียงใสดังขึ้นหน้าประตูทันที“สวัสดีจ๊ะ น้องมิ้นท์ คุณเจมส์” ฟ้าใสยิ้มทักทายทั้งสองคนมิ้นท์ชูของขวัญให้กับว่าที่พี่สะใภ้ หันไปส่งให้เจมส์เป็นคนถือ จากนั้น ก็รีบควงแขนพี่สะใภ้คนโปรดเข้าไปในห้องทันที“อ้าวสวัสดีค่ะ พี่กรณ์ และก็พี่ๆ ทุกคนค่ะ”มิ้นท์ทักทายทุกคนอย่างไม่ถือตัว“เอาหละค่ะ ในเมื่อทุกคนมากันครบแล้ว งั้นเราเริ่มตั้งหม้อเลยมั้ย” ฟ้าใสยิ้มบอกกับทุกคน“เย้ เอาเลย หิวแล้ว” ทุกคนเอ่ยพร้อมกันฟ้าใสรีบเข้าไปในครัวเพื่อจัดการเทน้ำซุปที่ต้มไว้แล้ว เมื่อกำลังจะยก ปกรณ์รีบมาช่วยยกแทนหญิงสาวเอง แต่ก่อนเดินออกไปก็แอบหอมแก้มร่างบางตอนเผลอแล้ววิ่งออกไปทันทีฟ้าใสยืนจับแก้มตัวเอง แต่ก็แอบอมยิ้มเขินๆ ไปด้วยปกรณ์เมื่อยกเตาชาบูมาวางบนโต๊ะกินข้าว ก็เดินเข้าไปเตะขาเพื่อนสนิท กับมือขวาตัวเอง ที่นั่งอยู่บนโซฟาเล่นโทรศัพท์อยู่“เฮ้ย อยากกินก็ไปช่วยกันดิ”