Share

บทที่ 2

Author: อิงเซี่ย
ฟู่อี้ชวนอุ้มเย่ซินหย่าสาวเท้ายาว ๆ ออกไป กระแทกเข้ากับไหล่ซูมั่วตอนเดินผ่านประตู เธอถูกชนจนเซและกระแทกเข้ากับขอบประตู

ความเจ็บบนหลังเท้าและน่องขาทำให้เธออดกำขอบประตูไว้แน่นไม่ได้

คนในห้องส่วนตัวมองมาด้วยสายตาหลากหลายรูปแบบ มีทั้งเหยียดหยาม เย้ยหยัน เยาะเย้ยเหน็บแนม...

แต่ซูมั่วไม่สนใจเลยสักนิด

เธอหมุนตัวอย่างช้า ๆ คอยเกาะกำแพงไว้ และเดินจากไปอย่างยากลำบาก

เมื่อถึงคลินิก พยาบาลได้เข้ามาทายาให้ ครั้นเห็นบาดแผลบนหลังเท้าของเธอ พยาบาลถึงกับสูดหายใจลึก ๆ ทันที

ตุ่มน้ำบนหลังเท้าทั้งหมดมันพองขึ้นนานแล้ว ตุ่มที่ใหญ่ที่สุดใหญ่ถึงขนาดเท่าเสี่ยวหลงเปาเลยทีเดียว ส่วนตุ่มอื่น ๆ ที่เหลือก็มีขนาดเท่ากับไข่มุกบนสร้อยไข่มุก เรียกได้ว่าขนพองสยองเกล้า

“พระเจ้า! คุณไปโดนลวกอีท่าไหนถึงได้เป็นแบบนี้คะเนี่ย?” พยาบาลถามอย่างตกใจ

ซูมั่วต้องกัดฟันแน่นเพราะความเจ็บมาตลอดทาง จนตอนนี้กล้ามเนื้อบนใบหน้าแข็งตึงไปหมด อ้าปากตอบคำถามไม่ได้เลย

พยาบาลทายาไปพลาง พูดจาทอดถอนใจไปพลาง

“เมื่อกี้นี้ก็มีคนถูกน้ำร้อนลวกมาคนหนึ่ง แฟนเขานี่อุ้มเข้ามาด้วยท่าทางร้อนใจเหมือนถูกไฟลนเชียว จะให้หัวหน้าแพทย์เป็นคนตรวจรักษาให้ได้ เป็นรอยแดงเล็ก ๆ แค่ไม่กี่รอยเอง มาช้าสักหน่อยก็หายเองได้”

ซูมั่วได้ฟังก็เกิดความขมปร่าและเศร้าสร้อยขึ้นในใจ คนที่โดยน้ำร้อนลวกจนเป็นรอยเล็ก ๆ ไม่กี่รอยคนนั้น ไหนยังจะคนที่อุ้มเธอมาด้วยอีก ถ้าเป็นอย่างที่คิดก็คงจะเป็นเย่ซินหย่ากับฟู่อี้ชวนนั่นแหละ

ตามคาด ด้วยฟู่อี้ชวนทั้งห่วงใยทั้งกังวลเสียขนาดนั้น แม้แต่พยาบาลก็เข้าใจว่าพวกเขาเป็นคู่รักกัน

“ถ้าผู้หญิงคนนั้นได้รับบาดเจ็บเหมือนคุณ ไม่รู้ว่าแฟนของเขาจะเจ็บปวดใจแค่ไหน” พยาบาลพูดต่อ

ได้รับบาดเจ็บเหมือนเธอ?

ซูมั่วมองตุ่มน้ำขนาดเขื่องบนหลังเท้าตัวเอง มันทั้งใสแจ๋ว ทั้งบวมเป่ง

ถ้าเป็นเย่ซินหย่า เกรงว่าฟู่อี้ชวนคงจะเรียกรวมตัวผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงจากทั่วทั้งเมืองมารักษาให้เธอแน่

แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็นตัวเธอ กลับถูกทิ้งอย่างไม่ลังเล เขาให้เธอมาหาหมอคนเดียว ไม่มีความเห็นอกเห็นใจให้กันเลยแม้แต่นิด

ดูแลใส่ใจต่างกันขนาดนี้ มันราวฟ้ากับเหวชัดๆ

หน้าจอโทรศัพท์พลันสว่างวาบ ซูมั่วหันมอง เป็นฟู่อี้ชวนที่โทรเข้ามา

เขาอยู่กับเย่ซินหย่าไม่ใช่เหรอ? แล้วโทรมาหาเธอทำไม?

ซูมั่วไม่อยากรับสาย เลยคว่ำโทรศัพท์ไป

ตอนนี้พยาบาลกำลังเตรียมเข็มมาเจาะตุ่มน้ำตุ่มที่ใหญ่ที่สุดนั่น เนื่องด้วยมันมีขนาดใหญ่เกินไป น้ำเหลืองเลยไม่สามารถแห้งไปเองได้

ประจวบเหมาะกับในเวลานี้ ฟู่อี้ชวนมาหาที่คลินิกแล้ว ครั้นเขาเห็นซูมั่วนั่งอยู่บนเตียงพยาบาล ประโยคแรกยามที่ก้าวเข้ามาถึงกลายเป็นการซักถาม

“ทำไมไม่รับสายฉัน?”

เมื่อซูมั่วได้ยินเสียง เธอก็เงยหน้าขึ้นมองทันทีด้วยความตกใจ

เธอไม่อยากทะเลาะกับเขา ถึงขนาดที่ว่าแม้แต่พูดก็ไม่อยากพูดทั้งนั้น ได้แต่เอ่ยปากออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า

“ฉันปิดเสียง ไม่ได้ยิน”

ฟู่อี้ชวนมองไปแถวมือเธอ ซึ่งโทรศัพท์ก็คว่ำอยู่จริง ๆ เขาเลยไม่ได้โมโหอะไรมากแล้ว

ตอนนี้เอง พยาบาลหันไปมองเขา นี่ไม่ใช่คนที่ร้อนรนอุ้มผู้หญิงอีกคนมาโรงพยาบาลเหรอ?

“คุณเป็นอะไรกับคนไข้เหรอคะ?” พยาบาลถาม

ฟู่อี้ชวนอยากจะตอบไปในทันที ทว่าเสียงของเย่ซินหย่าพลันดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง

“อี้ชวน มั่วมั่วเป็นยังไงบ้าง?”

ฟู่อี้ชวนหันหน้าไปมอง คำว่า “สามี” คาอยู่ในลำคอ เขาได้แต่อ้าปากเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป

ซูมั่วรับรู้ได้ถึงความลังเลและไม่เต็มใจของเขา เธอยกมุมปากยิ้มเยาะตัวเอง เลยเป็นฝ่ายตอบแทนเขาเอง

“เราไม่ได้เป็นอะไรกันค่ะ”

ฟู่อี้ชวนได้ยินประโยคนี้ก็มองใบหน้าของซูมั่วที่มีสีหน้าไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย ความโกรธพลันผุดขึ้นมาในใจอย่างไม่มีสาเหตุ ที่กระทั่งตัวเขาเองก็ไม่รู้กำลังโกรธอะไร

“เธอเป็นภรรยาของผม” ฟู่อี้ชวนพูดพลางจ้องเธอ

“เธออยากแต่งกับฉันเองไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ทำไมไม่ยอมรับต่อหน้าคนอื่นแล้วล่ะ?” เขาซักไซ้ซูมั่ว

ซูมั่วมองเขา ขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอทั้งไม่เข้าใจทั้งรู้สึกน่าขันในเวลาเดียวกัน

คนที่ไม่อยากยอมรับมันฟู่อี้ชวนไม่ใช่หรอกเหรอ? เธอแค่เห็นว่าเขาเอ่ยปากลำบาก เลยช่วยเขาพูด

ที่ด้านหลัง เย่ซินหย่าได้ยินฟู่อี้ชวนพูดคำนั้นออกมาแล้ว ดวงหน้าของเธอพลันฉายความตกตะลึงและความปวดร้าว จากนั้นก็กวาดตามองไปทางซูมั่วด้วยสายตาแค้นใจระคนร้ายกาจ เล็บสวย ๆ จิกลงกลางฝ่ามือ

พยาบาลกวาดสายตามองพวกเขาทั้งสามคนด้วยสายตาสงสัย เธอเข้าใจในความสัมพันธ์ของพวกเขาแล้ว ดังนั้นน้ำเสียงที่ใช้กับผู้ชายเฮงซวยคนนี้จึงไม่ได้ดีอะไรนัก

“ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกรุณาออกไปด้วยค่ะ อย่าขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่”

ฟู่อี้ชวนได้ยินคำว่า “ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง” คำนี้แล้ว พลันขมวดคิ้วและคิดจะเอ่ยปากพูด ซึ่งในตอนนี้เอง การเบี่ยงตัวของพยาบาล ทำให้เขาเห็นบาดแผลบนหลังเท้าของซูมั่ว

ตุ่มน้ำขนาดใหญ่แสนน่าสยดสยองนั้นบาดดวงตาของเขา พาบให้หัวใจบีบรัดทีหนึ่ง ลืมเลือนคำพูดที่เมื่อครู่อยากจะพูดออกไปเสียสิ้น

เขายื่นมือออกไปโดยไม่รู้ตัว กันเย่ซินหย่าที่ก้าวเข้าประตูไปแล้วครึ่งตัวให้ออกไปด้านนอกพร้อมเบี่ยงตัวหลบ ไม่ให้บังแสงตรงประตู

เขาไม่ได้จากไปไหน ทำเพียงยืนชิดอยู่กับกำแพง มองตรงไปยังเท้าทั้งสองข้างนั้น ดวงตาพลันมืดครึ้ม

ตั้งแต่หลังเท้าไปจนน่องขาล้วนเป็นรอยแดงปื้นใหญ่ และบนรอยแดงก็มีตุ่มน้ำขนาดใหญ่พร้อมกับตุ่มน้ำพุพองเล็ก ๆ อยู่รอบ ๆ เต็มไปหมด

พยาบาลใช้เข็มเจาะตุ่มเล็ก ๆ ตุ่มหนึ่ง ใช้แผ่นสำลีปลอดเชื้อซับน้ำเหลือง ขาของซูมั่วสั่นเล็กน้อย

ภรรยาในนามของเขาคนนี้ สิ้นเปลืองความคิดไปมากมายเพื่อทำให้ปู่บังคับเขาให้แต่งงานกับเธอ ตลอดสองปีที่ผ่านมานี้เขาเห็นเธอเป็นแค่ของประดับ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่รู้สึกว่า ที่แท้เธอก็ผอมและอ่อนแอขนาดนี้

“ช่วงนี้ห้ามใส่รองเท้า ห้ามขยับตัวทำอะไรมาก และทายาสามครั้งต่อวันนะคะ” พยาบาลกำชับหลังเจาะตุ่มน้ำตุ่มใหญ่แล้ว

ซูมั่วพยักหน้า เธออยากลุก ทว่าความเจ็บบนหลังเท้าทำให้เธอสั่นสะท้านไปทั้งร่างตอนยืน

ตอนนี้เองที่ฟู่อี้ชวนก้าวฉับ ๆ เข้ามา เขาค้อมเอวแล้วอุ้มเธอขึ้นมาในท่าเจ้าสาวทันที

เพราะเสียการทรงตัว ซูมั่วเลยยื่นมือออกไปเกาะไหล่ของอีกฝ่ายเอาไว้โดยไม่รู้ตัว พอได้สติก็รีบชักมือออกทันที พลางพูดว่า

“ปล่อยฉันลง”

“เกาะให้แน่น ถ้าหล่นลงไปก็อย่ามาโทษฉันแล้วกัน” ฟู่อี้ชวนพูดออกมาเพียงเท่านั้น

เขาปล่อยมือข้างหนึ่ง ทำให้ซูมั่วรีบโอบรอบคอเขาไว้กันหล่นทันที ฟู่อี้ชวนใช้มือข้างที่ปล่อยออกไปคว้ารองเท้าแตะกับโทรศัพท์ของเธอมา

ซูมั่วมองเส้นหน้าของชายหนุ่ม เม้มปากพลางเงียบ ไม่พยายามดิ้นอีก

เธอรู้ดีว่าการอุ้มครั้งนี้ไม่มีความรักแม้แต่นิดเดียว เป็นแค่เพราะเห็นบาดแผลของเธอแล้ว เลยทำทานสักหน่อยอย่างความรู้สึกช้า

หรือเขาอาจกลัวว่าพอคุณปู่ฟู่รู้เรื่องเข้าจะมาติเตียน มันเป็นแค่การทำให้วัวหายแล้วล้อมคอกเท่านั้นเอง

ฟู่อี้ชวนอุ้มซูมั่วออกไป ที่ด้านนอกประตู เย่ซินหย่าเห็นภาพฉากนี้แล้ว ก็พยายามฝืนยิ้มออกมา พลางเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

“มั่วมั่ว เธอพอโอเคไหม?”

ดวงตาของซูมั่วมีเพียงความเย็นชา เธอไม่พูดออกมาสักคำ ด้วยไม่อยากเข้าร่วมกับละครหญิงสาวใสซื่อบริสุทธิ์นี้ของอีกฝ่าย

ฟู่อี้ชวนได้ฟังแล้วเป็นฝ่ายตอบเอง “ซินหย่า ขาของเธอได้รับบาดเจ็บ เดินไม่ได้ ฉันเลยต้องอุ้มเธอน่ะ”

เย่ซินหย่ายังคงรักษารอยยิ้มบนดวงหน้าไว้ พลางว่า

“ไม่ต้องอธิบายฉันหรอกน่า มั่วมั่วเป็นภรรยาของนาย นายจะอุ้มเธอก็เป็นเรื่องที่สมควร แถมเธอยังบาดเจ็บอยู่ด้วย”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 100

    อันที่จริงเขาก็อับจนหนทางแล้วเช่นกัน ทางคุณท่านต่างหากที่ติดต่อกับคุณนายได้ เพียงแต่น่าเสียดายที่ประธานฟู่คว้ามาไม่ได้ช่วงเช้ามีผู้จัดการถือแผนงานผลิตภัณฑ์เข้ามาหาฟู่อี้ชวน ทว่าพอพูดคุยกันได้พักหนึ่ง ถึงรู้ตัวว่าประธานฟู่มีอาการใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ทั้งยังตาบวมแดง จึงมีแต่ต้องออกไปก่อน“ผู้ช่วยหลี่ คุณรู้ไหมว่าประธานฟู่เป็นอะไรไป?” ผู้จัดการเอ่ยถามหลี่หยวนที่อยู่ในออฟฟิศผู้ช่วย“เอ่อ อกหักละมั้ง” หลี่หยวนเงยหน้าขึ้นจากคอมพิวเตอร์ แล้วตอบไปโดยไม่รู้ตัวจากนั้นก็รู้ว่าที่ตัวเองพูดออกไปนั้นไม่ค่อยพูดต้องเท่าไร เพราะคุณนายกับประธานฟู่แต่งงานกันแล้ว ไม่ได้เป็นแฟนกัน ดังนั้นก็น่าจะเป็น...ใช่แล้ว รักพังเฮ้อ ผู้ชายที่เพิ่งหย่าร้างมามักเลี่ยงอาการซึมเซาและความรู้สึกพังไม่เป็นท่าไม่ได้ แถมประธานฟู่ก็เป็นคนทำพังด้วยน้ำมือตัวเองด้วย หลี่หยวนมีแต่ส่ายหน้าและถอนหายใจให้กับเรื่องนี้ผู้ช่วยคนอื่น ๆ ได้ยินคำพูดนี้แล้วก็ชะงักค้างระคนตกใจ ผู้จัดการเองก็เผยสีหน้าประหลาดใจ ได้แต่พึมพำออกมาว่า“นายช่วยไปปลอบหน่อยสิ ไม่งั้นได้กระทบต่อความคืบหน้าของงานเกินไปแน่”หลี่หยวนยิ้มอ่อนพลางพยักหน้าเล็

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 99

    “คุณซูมีความเชี่ยวชาญในความรู้เฉพาะทาง ยิ่งกว่านั้นในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยยังได้นำทีมร่วมการแข่งขันใหญ่อยู่หลายครั้ง ฉันคิดว่าคุณเหมาะกับตำแหน่งผู้อำนวยการค่ะ”ซูมั่วได้ยินแบบนั้นก็เม้มปาก เธอหันหน้าไปมองรุ่นพี่เล็กน้อยพลางกล่าวว่า“ขอโทษนะคะ แต่ความสามารถของฉันยังมีข้อจำกัดอยู่ เกรงว่าจะไม่มีความสามารถที่จะรับตำแหน่งนี้ ให้ฉันเข้าไปเป็นพนักงานในฝ่ายออกแบบก็พอแล้วค่ะ”เหล่าเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์งานได้ยินเธอปฏิเสธแล้ว ก็อดแปลกใจขึ้นมาชั่วขณะไม่ได้“ขอบคุณพวกคุณที่ยอมรับความสามารถของฉันนะคะ การแข่งขันในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยเป็นการแข่งขันแบบกลุ่ม ผู้รับผิดชอบหลักก็คือประธานโจวของพวกคุณค่ะ ฉันเป็นแค่ผู้ช่วยเท่านั้น จะแอบอ้างผลงานไม่ได้หรอกค่ะ” ซูมั่วพูดต่อ“ฉันรู้จักข้อด้อยของตัวเองดีค่ะ นี่เป็นการเข้าทำงานครั้งแรกของฉัน ยังมีหลายส่วนที่จำเป็นต้องฝึกฝน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องความสามารถในการนำทีมเลยค่ะ ถ้าต้องเลื่อนตำแหน่ง ฉันก็อยากเริ่มตั้งแต่ตำแหน่งเริ่มต้นค่ะ”เมื่อฟังอีกฝ่ายพูดประโยคนี้จบ เหล่าเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ต่างก็ชื่นชมในการพูดความจริงและความจริงใจของเธอ ดังนั้นจึงเบนสายตาไปยัง

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 98

    เขาเอียงหน้ามองเธอ หญิงสาวแต่งหน้าอ่อน ๆ ริมฝีปากเป็นสีแดงทว่าไม่ได้จัดจ้าน ทั่วทั้งร่างดูเรียบ ๆ สะอาดตา มองแล้วก็ยิ่งงดงามเป็นธรรมชาติราวกับไม่ใช่คนของโลกนี้“ไม่แปลกเลยสักนิด สวยมาก” โจวจิ่งอันไม่หวงแหนคำชื่นชมของตัวเองเลยแม้แต่น้อย“ตอนเรียนมหาวิทยาลัยเธอเป็นถึงดาวของสาขาเราเชียวนะ แถมยังฉลาดยอดเยี่ยม คนมาจีบนี่ต่อแถวกันยาวเหยียดจนล้อมเมืองหลวงได้หลายรอบเลย” โจวจิ่งอันว่ายิ้ม ๆ“รุ่นพี่ไม่ต้องมาล้อฉันเลย” ซูมั่วพูดอย่างเขิน ๆ เล็กน้อยโจวจิ่งอันได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มเล็กน้อย มองหญิงสาวที่มีนิสัยขี้เขินแล้ว ราวกับได้ย้อนกลับไปสมัยเรียนมหาวิทยาลัยอันที่จริงเขาอยากใช้โอกาสนี้ถามซูมั่วเหลือเกินว่ามีแฟนหรือยัง แต่ก็รู้สึกว่าพวกเขาทั้งคู่เพิ่งได้กลับมาเจอหน้ากันอีกครั้งหลังจากไม่ได้เจอกันมานาน หากถามคำถามแบบนี้ไปมันออกจะบุ่มบ่ามไปจริง ๆ เลยคิดว่ารอก่อนอีกหน่อยแล้วกันขณะที่คุยกันอยู่นั้น ลิฟต์ก็มาถึงชั้นสิบสองแล้ว โจวจิ่งอันเป็นฝ่ายเสนอตัวนำทาง พร้อมกับแนะนำไปด้วยในขณะเดียวกัน“ดูนี่ ตรงนี้เป็นป้ายชื่อบริษัทของพวกเรา ติ่งเซิ่งเทคโนโลยี ถึงมันจะดูเชยไปสักหน่อย แต่ก็เป็นการเอาฤกษ์เอาช

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 97

    บนที่นั่งข้างคนขับหลี่หยวนได้ยินเสียงร้องไห้และเสียงตะโกนของประธานฟู่แล้ว เลยอดขมวดคิ้วไม่ได้ พลางถอนหายใจอยู่ในใจถ้ารู้แต่แรกว่าจะเป็นอย่างวันนี้ แล้วจะทำแบบนั้นตั้งแต่แรกไปทำไม?หลายวันก่อนเขาเคยเตือนประธานฟู่ไปแล้ว ว่าต้องเผชิญหน้ากับหัวใจของตัวเอง แต่ตอนนั้นประธานฟูยังยืนหยัดพูดอย่างหนักแน่นว่าตัวเขาไม่มีทางเสียใจทีหลังบ้านใหญ่ไม่ว่าหลานชายจะขอร้องอย่างไร ร้องไห้อย่างไร ทว่าครั้งนี้คุณท่านฟู่ใจแข็งไม่หวั่นไหวความอยากจับคู่ให้ที่เกิดขึ้นไม่นานก่อนหน้านี้ถูกทำลายย่อยยับไปหมดแล้ว เขาตัดสายทิ้งอย่างไร้เยื่อใย สุดท้ายก็ได้แต่ทิ้งคำพูดไว้ว่า“แกไม่คู่ควรกับมั่วมั่วสักนิด”ที่นั่งด้านหลังภายในตัวรถ ฟู่อี้ชวนกดต่อสายออกไปอีกครั้ง ไม่ว่าอย่างไรคุณปู่ก็ไม่รับสายทั้งนั้น ส่วนเขาก็เริ่มใจสลายอย่างสุดซึ้ง จะรู้สึกเสียใจสำนึกผิดต่อเรื่องที่ได้ทำลงไปก็สายไปเสียแล้วชายหนุ่มที่ปกติหยิ่งในศักดิ์ศรีทั้งยังเย็นชา ตอนนี้กำลังร้องไห้เศร้าโศก เหมือนกับหมาน้อยน่าสงสารที่ถูกทิ้งไว้ข้างทาง เขากอดศีรษะตัวเองร้องไห้จนเสียงเหือดแห้งขณะเดียวกัน ณ ตึกซีบีดีที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางธุรกิจซูมั่วลงม

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 96

    “ดังนั้น... ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง??!” ทางนั้น แม้ว่าจะได้รับคำตอบแล้ว ทว่าคุณปู่ฟู่ยังคงไม่อยากเชื่ออยู่ดี“ไม่ใช่แค่เป็นเรื่องจริงเท่านั้นนะครับ ยังมีเรื่องอื่นอีก” หลี่หยวนว่า“เอาแบบนี้ดีกว่าครับ เดี๋ยวผมเขียนข้อมูลแล้วส่งไปให้คุณท่าน”พอพูดจบ การสนทนาก็จบลง หลี่หยวนพิมพ์เรื่องราวที่คุณนายได้รับความทุกข์เท่าที่เขารู้แล้วส่งไปให้ทางนั้น ทั้งยังมีเรื่องที่ประธานฟู่พาเมียน้อยเข้าบ้านอีกถึงอย่างไรตอนนี้ทั้งคู่ก็หย่ากันแล้ว เขาคิดว่าคุณท่านฟู่ยังคงเข้าข้างคุณนายอยู่ น่าจะเรียกร้องความยุติธรรมคืนมาให้คุณนายได้บ้างไม่มากก็น้อยภายในรถเงียบผิดปกติ ที่เบาะด้านหลัง ฟู่อี้ชวนกำลังนั่งเหม่ออยู่อย่างนั้น ดวงตาทั้งสองข้างดูอ่อนล้าและล่องลอยเขายังคงไม่เชื่อว่าตัวเองหย่ากับซูมั่วแล้ว ขณะเดียวกันก็กำลังคิดทบทวนความจริงในสองปีที่ผ่านมาคุณปู่เป็นคนบังคับให้ซูมั่วแต่งงานกับเขา ตั้งแต่ต้นจนจบซูมั่วล้วนไม่มีความผิดเลย แต่เขากลับเกลียดเธอมาสองปีเต็มเพราะเรื่องนี้!!ฟู่อี้ชวนอยู่ในสภาพสองมือกุมใบหน้า สะอึกอยู่ในลำคอ ดวงตาร้อนผ่าว ในใจเศร้าสร้อยฝืดเฝื่อนในสมองผุดเรื่องร้ายกาจทั้งหมดที่เขาทำไว้ก

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 95

    “มั่วมั่ว อี้ชวนมันสำนึกผิดแล้วนะ หลายวันนี้ก็เอาแต่ตามหาเธอ” คุณท่านฟู่เอ่ยปาก“เดี๋ยวปู่จะให้คนจัดการผู้หญิงคนนั้นเอง มั่วมั่วให้อภัยอี้ชวนสักครั้งเถอะนะ? ให้โอกาสเขาสักครั้ง”“ที่จริงอี้ชวนก็รักเธอนะ แต่ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ตัว เมื่อครู่ก็เข้ามาบอกปู่ว่าไม่อยากหย่ากับเธอ แถมยังร้องไห้ด้วยนะ ปู่รับปากเลย ว่าต่อไปเขาจะเป็นสามีที่ดี”อีกฟากหนึ่งของโทรศัพท์ ครั้นได้ฟังคำพูดนี้ของคุณท่านฟู่แล้ว สีหน้าของซูมั่วก็เย็นชาขึ้นทันที ไม่มีคลื่นอารมณ์ใด ๆ ทั้งสิ้นเธอน่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคุณปู่ฟู่ไม่มีทางจัดการปัญหาเรื่องการหย่าไม่ได้ เธอไม่น่ารับสายนี้เลยมาพูดขอร้องแทนฟู่อี้ชวน?เหอะ เรื่องอย่างพวกโลกถล่ม มนุษยชาติล่มสลาย พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตกอะไรพวกนี้ยังน่าเชื่อกว่าฟู่อี้ชวนเสียอีก“คุณปู่ฟู่ คุณบอกให้ฉันให้โอกาสเขาสักครึ่ง แต่ว่านะคะ ฉันเองก็อยากขอโอกาสให้ฉันได้มีชีวิตบ้างสักครั้ง” ซูมั่วกล่าวฟากคุณท่านฟู่ เมื่อได้ยินประโยคนี้ก็ชะงักทันที ไม่รู้ว่าซูมั่วหมายความว่าอย่างไร“คุณเคยเห็นตุ่มน้ำที่ใหญ่เท่ากำปั้นไหมคะ? เวลาเดินก็รู้สึกเหมือนเหยียบย่ำลงบนปลายมีด”“ไหนยังจะกระดูกก้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status