ความอึดอัดจนแทบจะระเบิดกำลังโจมตีเขาอย่างหนัก นี่เขาไม่อยากคิดเลยว่า หากเรียวขายาว ๆ ของเจ้าหล่อนโอบรัดรอบเอวแกร่งของเขาจะเป็นยังไง...
ก็นรกน่ะสิ! ฮิมรานร้องตะโกนบอกตัวเองในใจราวกับคนบ้า
เจ้าชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่ชอบเลยสักนิดที่ตัวเองตอบรับเสน่ห์ทางเพศของร้อยดาวรุนแรงขนาดนี้ แต่เขาก็ห้ามสายตาของตัวเองไม่ได้ หล่อนงดงามจนเขาละสายตาไม่ได้เลยจริงๆ งดงามเสียจนเขารู้สึกลังเลกับความคิดที่จะปฏิเสธการแต่งงานกับหล่อน หรือว่าเขาจะยินยอมเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับหล่อนดี เพราะเขาคิดว่าหล่อนจะต้องเป็นคู่นอนที่ยอดเยี่ยมอย่างมากเลยทีเดียว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าหล่อนจะเป็นแม่ที่ดีของลูกเขาได้ และที่สำคัญเขาทำใจให้ยอมรับพฤติกรรมไร้ยางอายของหล่อนไม่ได้เลยจริงๆ เจ้าสาวของเขาต้องบริสุทธิ์และสะอาดดั่งน้ำค้างยามเช้า แม้เขาจะอาศัยอยู่ในฝรั่งเศสมาหลายปี แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาลืมวัฒนธรรมอันดีงามของความาร์แม้แต่น้อย
เพราะสิ่งที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงอย่างที่สุดยามที่อยู่ในฝรั่งเศสก็คือ การหลับนอนกับผู้หญิงพรหมจรรย์ เพราะเขารู้ดีอยู่แก่ใจว่า ตัวเองนั้นไม่สามารถให้สิ่งที่คู่ควรกับพวกหล่อนได้ ดังนั้นคู่นอนของเขาแต่ละคนจึงเป็นผู้หญิงรักสนุกทั้งนั้น สนุกด้วยกันชั่วครู่ชั่วยามก่อนจะแยกย้ายกันไป
เคยมีอยู่บางครั้งที่ผู้หญิงเหล่านั้นคิดจะจริงจังกับเขา แต่เขาก็ปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย เพราะเขาไม่ต้องการจะถูกล่ามโซ่ไว้กับผู้หญิงคนไหน เขายินดีที่นอนกับผู้หญิงมากหน้าแต่ไม่คิดจะหยุดที่ใครทั้งนั้น
แต่ถ้าหากต้องหยุดจริงๆ แล้วล่ะก็...
เธอคนนั้นต้องเป็นพรหมจารี... ไม่ใช่ทำตัวเละเทะแบบร้อยดาว!
“จำแม่นนี่...”
ร้อยดาวหน้าร้อนผ่าวด้วยความอับอาย ความปรารถนาอันรุนแรงที่มีเขาเป็นสาเหตุวิ่งหายไปทันที เมื่อคำพูดดูแคลนออกมาจากปากหยักสวยคู่นั้น
“แล้วคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ แล้วเจ้าชายล่ะ” หล่อนเห็นเขาหัวเราะ ก่อนที่จะเดินเข้ามาใกล้หล่อนอีก จากระยะห่าง 2 เมตร เหลือแค่ไม่ถึงหนึ่งไม้บรรทัด
ลมหายใจของหล่อนติดขัดแน่นอก ความชิดใกล้ทำให้หล่อนได้กลิ่นกายสะอาดสะอ้านจากเรือนร่างกำยำนั้น เขาสูงจนหล่อนต้องเงยหน้าขึ้นมอง ปกติแล้วหล่อนนั้นก็ไม่ใช่ผู้หญิงตัวเตี้ยสักนิดแต่เมื่อมาเผชิญหน้ากับเขา หล่อนกลายเป็นมดไปในทันที
“ที่นี่ไม่มีเจ้าชาย... มีแต่โจรทะเลทรายเท่านั้น”
หญิงสาวจ้องมองเขาอย่างตกใจ ก่อนจะฝืนหัวเราะออกมา ในใจก็ภาวนาให้หูของหล่อนเพี้ยนไปเอง
“คุณต้องล้อฉันเล่นแน่เลย...”
“ผมไม่เคยล้อเล่น คุณลำบากซะแล้วล่ะร้อยดาว”
ดวงตาของเขาเจิดจ้าไปด้วยกองเพลิง รอยยิ้มยโสผุดอยู่ที่มุมปาก ร้อยดาวตัวสั่นสะท้านขึ้นมา ความหวาดกลัวกำลังรุกรานหล่อนอย่างรุนแรง สายตาของหล่อนประสานกับดวงตาคมกล้า ดุดัน ของเขาโดยบังเอิญ ปฏิกิริยาอันน่าอึดอัดบางอย่างจู่โจมเข้าใส่ทั้งเขาและหล่อนอย่างบ้าคลั่ง
“แต่ว่าฉันมาพบเจ้าชายฮิมรานนะคะ” หล่อนยังฝืนพูดออกมา
“ผมนี่ไง ฮิมราน” เขาพูดเสียงกร้าวร้าว ความอวดเบ่งของเขาเปล่งรัศมีออกมาจากเรือนร่างสูงใหญ่จนน่าสะพรึงกลัวนั้นจนแสบตา
“แต่ไม่ใช่เจ้าชายคนที่คุณต้องการจะพบอย่างแน่นอน” ฮิมรานปดคำโต และก็รู้สึกสะใจเมื่อเห็นสีหน้าของสตรีสาวตรงหน้าซีดเผือดลง แต่กระนั้นหล่อนก็ยังงามอยู่ดี
“แต่เขาพาฉันมาที่นี่ หรือว่ามีการเข้าใจผิดกัน” หญิงสาวพยายามคิดหาทางออก พยายามผูกเรื่องให้น่าหวาดกลัวน้อยที่สุด
“สงสัยฉันจะขึ้นรถผิดแน่ๆ” หล่อนพึมพำเบาๆ ฮิมรานหรี่ตามองหล่อนด้วยสายตาเพชฌฆาตดีๆ นี่เอง
“ไม่ผิดหรอก” หล่อนเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างตกใจ
“คุณหมายความว่ายังไงคะ” ร้อยดาวภาวนาเหลือเกินขออย่าให้เขามีเจตนาร้ายกับหล่อนเลย...
เขายื่นมือหนามาคว้าเอวคอดของหล่อนเข้าไปแนบอก ความแข็งแกร่งที่เกิดจากกล้ามเนื้อแน่น แนบชิดกับความอิ่มเต็มของทรวงอกสาว ฮิมรานสบถออกมาเป็นภาษาความาร์ซึ่งร้อยดาวฟังไม่ออก
ทั้งๆ ที่พยายามจะทำให้หล่อนอกสั่นขวัญหายและตกใจวิ่งหนีกลับบ้านเกิดของหล่อนไป แต่ผิดคาด เพราะคนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงนั้นคือเขาเองต่างหาก ความอึดอัดจนน่าเวียนหัวพุ่งเข้าใส่ช่องท้องของเขาอย่างคุ้มคลั่ง
เขาอยากจะจับหล่อนโยนลงบนเตียงแล้วก็จัดการกับเรือนร่างงดงามของหล่อนซะให้หายบ้าอย่างนี้ ฮิมรานครวญครางออกมาอย่างทุกข์ระทม นี่เขาจะต้านทานเสน่ห์ของร้อยดาวได้นานแค่ไหนนะ
แต่ยังไง ก็ขอให้นานพอจนหล่อนวิ่งหนีกับเมืองไทยไปก็แล้วกัน
“ผมให้คนไปรับคุณมาเอง...” เมื่อเห็นหล่อนจ้องมองเขาอย่างกังขา ฮิมรานจึงอธิบายต่อ
“ผมกับเจ้าชายเราไม่ถูกกัน เราเป็นศัตรูกัน” หน้าของร้อยดาวที่ซีดอยู่แล้ว ขาวลงไปอีกราวกับกระดาษ
หญิงสาวอยากจะร้องไห้ออกมาจริงๆ นี่หล่อนสมควรจะเชื่อคำพูดของเขาดีไหมนะ คำพูดของผู้ชายที่หล่อเหลาเหลือเกิน
“คุณต้องล้อฉันเล่นแน่ๆ เลย” ฮิมรานหัวเราะออกมาเมื่อฟังคำพูดที่พยายามปลอบใจตัวเองสุดฤทธิ์ของร้อยดาว
“ช่วยพาฉันไปหาเจ้าชายทีเถอะนะฉันขอร้อง หรือถ้าลำบากเกินไป พาฉันไปที่สนามบินก็ได้”
“คุณจะบินกลับเมืองไทยหรือ”
ฮิมรานถามออกไปอย่างมีความหวัง เพราะถ้าหล่อนตัดสินใจกลับเมืองไทยไปตอนนี้ เขาจะรีบไปส่งหล่อนโดยไม่รอให้เสียเวลาเลย
“เปล่าค่ะ ฉันคิดว่าคนของเจ้าชายคงรอฉันอยู่”
คำพูดของหล่อนทำให้ความผิดหวังปรากฏอยู่ในแววตาของเขา ก่อนจะจางหายไปเหลือแต่ความเย็นชาดังเดิม
“ถ้าผมไม่ทำตามที่คุณขอล่ะ”
ความตกใจแปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจก่อนจะกลายเป็นความขัดเคืองสุดแสน หล่อนมองเขาอย่างตำหนิ
“แต่คุณกำลังลักพาตัวเจ้าสาวของเจ้าชายฮิมรานนะ”
เขาหัวเราะเยาะ แก้มสาวร้อนผ่าว แต่ก่อนจะพูดอะไรออกไป หล่อนก็รู้สึกถึงความเหมือนของชื่อของชายทั้งสองคน
ฮิมราน... กับเจ้าชายฮิมราน ทำไมถึงชื่อเดียวกันล่ะ
“ทำไมคุณกับเจ้าชายถึงชื่อเดียวกันคะ นี่คุณกำลังเล่นตลกอะไรกันแน่”
ฮิมรานยักไหล่กว้างอย่างไม่ใส่ใจ “ก็แค่เหมือนกัน แต่ไม่ใช่คนเดียวกันแน่”
“ฉันไม่เชื่อคุณหรอก คุณไม่ได้ชื่อฮิมรานหรอก”
“ก็ตามใจ แต่ขอบอกว่าผมจะไม่ไปส่งคุณให้กับเจ้าชายบ้าบออะไรนั่นหรอก”
ตอนที่1.ทะเลทรายสีทองอันร้อนระอุ ไอแดดเต้นรำระริกไหวอยู่ในอากาศ ผืนทรายที่สะท้อนเงาแดดทอดยาวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาจรดแผ่นฟ้าสีสวย ทัศนียภาพสุดแสนน่าอภิรมย์ แต่กระนั้นก็ไม่อาจซ่อนเร้นความโหดร้ายของแห่งดินแดนทะเลทรายให้เลือนหายไปจากสายตาได้เลยแม้แต่น้อย เฉกเช่นเดียวกับความเวิ้งว้าง เดียวดายที่ปรกคลุมผืนทรายไม่เคยแปรเปลี่ยน พระราชวังใหญ่สีขาวที่สร้างสรรค์ขึ้นจากหินอ่อนเนื้อดีงามจับตา ตั้งอยู่ใจกลางโอเอซิสขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศความาร์ แม้จะอยู่ท่ามกลางทะเลทรายที่ถูกแสงแดดยามเที่ยงวันแผดเผา แต่ก็ดูเหมือนมันจะเย็นฉ่ำใจมากเสียกว่าภายในพระราชวังที่ติดแอร์ชั้นดีเสียอีก เพราะตอนนี้ เจ้าชายฮิมราน บิน ฮาเซม อัล-ราชิด กำลังเกรี้ยวกราดใส่อำมาตย์คนสนิทที่กำลังนั่งก้มหน้าจ้องมองพื้นด้วยความหวั่นเกรง “ท่านหาทางออกให้เราไม่ได้จริงๆ ใช่ไหม”เสียงคำรามด้วยความเดือดดาล จากเรือนกายสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดประจำชาติสีดำยกด้วยดิ้นทอง เสื้อตัวในสีขาวเป็นแบบคอตั้งมีกระดุมเม็ดสวยสีเดียวกันกับตัวเสื้อเรียงรายลงไปตามสาบเสื้อจนถึงเอว ชายเสื้อปล่อยยาวกรอมเท้า บนศีรษะประดับด้วยผ้าคลุมหน้าตาหมากรุกสีขาวค
ตอนที่2.“เจ้าเห็นนางแล้วใช่ไหม” “พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันเห็นนางแล้ว และก็รังเกียจนางเป็นอย่างมากด้วย”กรามแกร่งขบกันเป็นสันนูน หล่อนไม่เหมาะสักนิดกับตำแหน่งชายาของเขา แม้แต่นางบำเรอ... เขายังไม่รู้ว่าหล่อนนั้นคู่ควรที่จะเป็นหรือเปล่า ชีคฮาเซมเลิกคิ้วสีดำที่มีสีขาวแซมอยู่ประปรายขึ้นอย่างแปลกใจ“นางน่าเกลียดถึงกระนั้นเลยหรือ ฮิมราน” เจ้าชายฮิมรานส่ายหน้าปฏิเสธ ใครว่าหล่อนขี้ริ้วขี้เหร่กันล่ะ เจ้าหล่อนสวยหยาดเยิ้มเลยทีเดียว น่าพิศมัยไปทั้งเนื้อทั้งตัว เมื่อคิดไปถึงเจ้าความนุ่มนิ่ม อวบอิ่มของเรือนกายสาวที่เขาได้สัมผัสโดยบังเอิญที่เมืองไทยแล้วความคึกคะนองที่ซอกขาก็ทำให้เขาอึดอัดจนแทบคลั่ง“ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ นางงามมาก แต่ถึงกระนั้นหม่อมฉันก็ไม่ต้องการแต่งงานกับนาง”“เจ้าก็รู้ว่าพ่อไม่อาจช่วยเจ้าได้”“แต่เสด็จพ่อสามารถยกเลิกสัญญางี่เง่านั้นได้ไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ” ฮิมรานถามกลับบิดาด้วยน้ำเสียงที่ยากจะควบคุมความขุ่นมัวไว้ได้ เขายอมวิ่งเอาหัวชนฝาให้ตายไปตรงนี้เสียยังดีกว่าต้องแต่งงานกับผู้หญิงเอเชียที่นิสัยแย่ ๆ แบบนั้น“แต่พ่อไม่อาจฉีกสัญญาที่อันมิกาทำไว้ได้ เจ้ารู้อยู่เต็
ตอนที่3.ร้อยดาวกระชับกระเป๋าเดินทางในมือแน่น น้ำตาแห่งความโศกเศร้าไหลพรากลงมาอาบแก้ม ความเสียใจที่ต้องจากบิดาไปไกลทำให้หล่อนเจ็บแปลบในอก แต่หญิงสาวก็ไม่มีทางเลือก…หากนี่คือสิ่งที่บิดาต้องการ... แม้จะสงสัยแต่ร้อยดาวก็ไม่เคยคิดจะถามบิดาออกไป ว่าเพราะอะไรท่านถึงต้องการให้หล่อนเป็นภรรยาของผู้ชายคนนั้น ผู้ชายที่หล่อนไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้า... รู้จักเพียงแค่ชื่อของเขาเท่านั้น เจ้าชายฮิมราน บิน ฮาเซม อัล- ราชิด แห่งประเทศ ความาร์แม้จะพยายามปลอบใจตัวเองแค่ไหน แต่หญิงสาวก็ไม่อาจขจัดความหวาดกลัวที่กำลังก่อตัวขึ้นภายในจิตใจได้แม้แต่น้อย หล่อนเกรงกลัวเขา หวาดหวั่นเหลือเกินหากต้องไปใช้ชีวิตอยู่ประเทศนั้น ดินแดนแห่งทะเลทรายที่เต็มไปด้วยโหดร้าย รุ่มร้อน กิติศัพท์ความป่าเถื่อน และมักมากในกามของผู้ชายในแถบทะเลทรายนั้นทำให้หญิงสาวแทบอยากจะร้องไห้ออกมานี่หล่อนจะต้องไปเป็นหนึ่งในผู้หญิงในฮาเร็มของเจ้าชายฮิมรานอย่างนั้นหรือ...ร้อยดาวคิดอย่างเศร้าหมอง เท้าบอบบางในรองเท้าหุ้มส้นก้าวตรงไปยังส่วนบริการผู้โดยสารบนเครื่องบิน ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความอาดูรเจ้าชายฮิมรานนั่งหน้าเครียดอยู่ที่
ตอนที่ 4.แต่ก็ดูเหมือนคำขอของหล่อนจะไม่ได้ผล เมื่อรถที่หล่อนนั่งมาตั้งแต่สนามบินจอดสนิท หญิงสาวหันไปมองหน้าคนขับรถด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม แต่หล่อนก็ไม่ได้รับคำตอบใด ๆ กลับมา“ถึงแล้ว...” เขาพูดแค่นั้น ก็เปิดประตูและก้าวลงจากรถไปทันที ทิ้งให้ร้อยดาวมองตามไปตาปริบๆหญิงสาวกระโดดลงมาจากรถ สายตากวาดมองไปรอบๆ หล่อนเห็นผู้คนในชุดประจำชาติเดินไปมา ร้อยดาวจ้องมองกระโจมหลังใหญ่เบื้องหน้าอย่างกังขา ก่อนจะมองเลยไปยังกระโจมหลังเล็ก ๆ สี่ห้าหลังที่ตั้งอยู่ห่างออกไป “เชิญคุณด้านใน...”สตรีนางหนึ่งที่คลุมผม คลุมหน้าจนเหลือแต่ดวงตา เดินมาพูดกับหล่อนด้านหลัง ร้อยดาวรีบหันกลับไปมอง และรอยยิ้มของหล่อนมีอันต้องแห้งแล้งลงทันทีเมื่อเห็นแววตาไม่พอใจของสตรีนางนั้น หญิงสาวก้าวตามสตรีชาวความาร์ไปหยุดอยู่หน้ากระโจมที่ใหญ่ที่สุดในบรรดากระโจมทั้งหลายที่ตั้งอยู่ในแถบนี้“เข้าไปได้แล้ว มีคนกำลังรอพบคุณอยู่” สตรีในชุดรุ่มร่ามเปิดปากประตูกระโจมให้ ร้อยดาวประสานสายตากับสตรีนางนั้นอย่างชั่งใจ ก่อนจะตัดสินใจก้าวเท้าเดินเข้าไปด้านใน ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความกริ่งเกรงภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้หล่อนถึงก
ตอนที่ 5. ความอึดอัดจนแทบจะระเบิดกำลังโจมตีเขาอย่างหนัก นี่เขาไม่อยากคิดเลยว่า หากเรียวขายาว ๆ ของเจ้าหล่อนโอบรัดรอบเอวแกร่งของเขาจะเป็นยังไง... ก็นรกน่ะสิ! ฮิมรานร้องตะโกนบอกตัวเองในใจราวกับคนบ้า เจ้าชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่ชอบเลยสักนิดที่ตัวเองตอบรับเสน่ห์ทางเพศของร้อยดาวรุนแรงขนาดนี้ แต่เขาก็ห้ามสายตาของตัวเองไม่ได้ หล่อนงดงามจนเขาละสายตาไม่ได้เลยจริงๆ งดงามเสียจนเขารู้สึกลังเลกับความคิดที่จะปฏิเสธการแต่งงานกับหล่อน หรือว่าเขาจะยินยอมเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับหล่อนดี เพราะเขาคิดว่าหล่อนจะต้องเป็นคู่นอนที่ยอดเยี่ยมอย่างมากเลยทีเดียว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าหล่อนจะเป็นแม่ที่ดีของลูกเขาได้ และที่สำคัญเขาทำใจให้ยอมรับพฤติกรรมไร้ยางอายของหล่อนไม่ได้เลยจริงๆ เจ้าสาวของเขาต้องบริสุทธิ์และสะอาดดั่งน้ำค้างยามเช้า แม้เขาจะอาศัยอยู่ในฝรั่งเศสมาหลายปี แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาลืมวัฒนธรรมอันดีงามของความาร์แม้แต่น้อย เพราะสิ่งที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงอย่างที่สุดยามที่อยู่ในฝรั่งเศสก็คือ การหลับนอนกับผู้หญิงพรหมจรรย์ เพราะเขารู้ดีอยู่
ตอนที่ 4.แต่ก็ดูเหมือนคำขอของหล่อนจะไม่ได้ผล เมื่อรถที่หล่อนนั่งมาตั้งแต่สนามบินจอดสนิท หญิงสาวหันไปมองหน้าคนขับรถด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม แต่หล่อนก็ไม่ได้รับคำตอบใด ๆ กลับมา“ถึงแล้ว...” เขาพูดแค่นั้น ก็เปิดประตูและก้าวลงจากรถไปทันที ทิ้งให้ร้อยดาวมองตามไปตาปริบๆหญิงสาวกระโดดลงมาจากรถ สายตากวาดมองไปรอบๆ หล่อนเห็นผู้คนในชุดประจำชาติเดินไปมา ร้อยดาวจ้องมองกระโจมหลังใหญ่เบื้องหน้าอย่างกังขา ก่อนจะมองเลยไปยังกระโจมหลังเล็ก ๆ สี่ห้าหลังที่ตั้งอยู่ห่างออกไป “เชิญคุณด้านใน...”สตรีนางหนึ่งที่คลุมผม คลุมหน้าจนเหลือแต่ดวงตา เดินมาพูดกับหล่อนด้านหลัง ร้อยดาวรีบหันกลับไปมอง และรอยยิ้มของหล่อนมีอันต้องแห้งแล้งลงทันทีเมื่อเห็นแววตาไม่พอใจของสตรีนางนั้น หญิงสาวก้าวตามสตรีชาวความาร์ไปหยุดอยู่หน้ากระโจมที่ใหญ่ที่สุดในบรรดากระโจมทั้งหลายที่ตั้งอยู่ในแถบนี้“เข้าไปได้แล้ว มีคนกำลังรอพบคุณอยู่” สตรีในชุดรุ่มร่ามเปิดปากประตูกระโจมให้ ร้อยดาวประสานสายตากับสตรีนางนั้นอย่างชั่งใจ ก่อนจะตัดสินใจก้าวเท้าเดินเข้าไปด้านใน ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความกริ่งเกรงภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้หล่อนถึงก
ตอนที่3.ร้อยดาวกระชับกระเป๋าเดินทางในมือแน่น น้ำตาแห่งความโศกเศร้าไหลพรากลงมาอาบแก้ม ความเสียใจที่ต้องจากบิดาไปไกลทำให้หล่อนเจ็บแปลบในอก แต่หญิงสาวก็ไม่มีทางเลือก…หากนี่คือสิ่งที่บิดาต้องการ... แม้จะสงสัยแต่ร้อยดาวก็ไม่เคยคิดจะถามบิดาออกไป ว่าเพราะอะไรท่านถึงต้องการให้หล่อนเป็นภรรยาของผู้ชายคนนั้น ผู้ชายที่หล่อนไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้า... รู้จักเพียงแค่ชื่อของเขาเท่านั้น เจ้าชายฮิมราน บิน ฮาเซม อัล- ราชิด แห่งประเทศ ความาร์แม้จะพยายามปลอบใจตัวเองแค่ไหน แต่หญิงสาวก็ไม่อาจขจัดความหวาดกลัวที่กำลังก่อตัวขึ้นภายในจิตใจได้แม้แต่น้อย หล่อนเกรงกลัวเขา หวาดหวั่นเหลือเกินหากต้องไปใช้ชีวิตอยู่ประเทศนั้น ดินแดนแห่งทะเลทรายที่เต็มไปด้วยโหดร้าย รุ่มร้อน กิติศัพท์ความป่าเถื่อน และมักมากในกามของผู้ชายในแถบทะเลทรายนั้นทำให้หญิงสาวแทบอยากจะร้องไห้ออกมานี่หล่อนจะต้องไปเป็นหนึ่งในผู้หญิงในฮาเร็มของเจ้าชายฮิมรานอย่างนั้นหรือ...ร้อยดาวคิดอย่างเศร้าหมอง เท้าบอบบางในรองเท้าหุ้มส้นก้าวตรงไปยังส่วนบริการผู้โดยสารบนเครื่องบิน ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความอาดูรเจ้าชายฮิมรานนั่งหน้าเครียดอยู่ที่
ตอนที่2.“เจ้าเห็นนางแล้วใช่ไหม” “พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันเห็นนางแล้ว และก็รังเกียจนางเป็นอย่างมากด้วย”กรามแกร่งขบกันเป็นสันนูน หล่อนไม่เหมาะสักนิดกับตำแหน่งชายาของเขา แม้แต่นางบำเรอ... เขายังไม่รู้ว่าหล่อนนั้นคู่ควรที่จะเป็นหรือเปล่า ชีคฮาเซมเลิกคิ้วสีดำที่มีสีขาวแซมอยู่ประปรายขึ้นอย่างแปลกใจ“นางน่าเกลียดถึงกระนั้นเลยหรือ ฮิมราน” เจ้าชายฮิมรานส่ายหน้าปฏิเสธ ใครว่าหล่อนขี้ริ้วขี้เหร่กันล่ะ เจ้าหล่อนสวยหยาดเยิ้มเลยทีเดียว น่าพิศมัยไปทั้งเนื้อทั้งตัว เมื่อคิดไปถึงเจ้าความนุ่มนิ่ม อวบอิ่มของเรือนกายสาวที่เขาได้สัมผัสโดยบังเอิญที่เมืองไทยแล้วความคึกคะนองที่ซอกขาก็ทำให้เขาอึดอัดจนแทบคลั่ง“ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ นางงามมาก แต่ถึงกระนั้นหม่อมฉันก็ไม่ต้องการแต่งงานกับนาง”“เจ้าก็รู้ว่าพ่อไม่อาจช่วยเจ้าได้”“แต่เสด็จพ่อสามารถยกเลิกสัญญางี่เง่านั้นได้ไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ” ฮิมรานถามกลับบิดาด้วยน้ำเสียงที่ยากจะควบคุมความขุ่นมัวไว้ได้ เขายอมวิ่งเอาหัวชนฝาให้ตายไปตรงนี้เสียยังดีกว่าต้องแต่งงานกับผู้หญิงเอเชียที่นิสัยแย่ ๆ แบบนั้น“แต่พ่อไม่อาจฉีกสัญญาที่อันมิกาทำไว้ได้ เจ้ารู้อยู่เต็
ตอนที่1.ทะเลทรายสีทองอันร้อนระอุ ไอแดดเต้นรำระริกไหวอยู่ในอากาศ ผืนทรายที่สะท้อนเงาแดดทอดยาวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาจรดแผ่นฟ้าสีสวย ทัศนียภาพสุดแสนน่าอภิรมย์ แต่กระนั้นก็ไม่อาจซ่อนเร้นความโหดร้ายของแห่งดินแดนทะเลทรายให้เลือนหายไปจากสายตาได้เลยแม้แต่น้อย เฉกเช่นเดียวกับความเวิ้งว้าง เดียวดายที่ปรกคลุมผืนทรายไม่เคยแปรเปลี่ยน พระราชวังใหญ่สีขาวที่สร้างสรรค์ขึ้นจากหินอ่อนเนื้อดีงามจับตา ตั้งอยู่ใจกลางโอเอซิสขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศความาร์ แม้จะอยู่ท่ามกลางทะเลทรายที่ถูกแสงแดดยามเที่ยงวันแผดเผา แต่ก็ดูเหมือนมันจะเย็นฉ่ำใจมากเสียกว่าภายในพระราชวังที่ติดแอร์ชั้นดีเสียอีก เพราะตอนนี้ เจ้าชายฮิมราน บิน ฮาเซม อัล-ราชิด กำลังเกรี้ยวกราดใส่อำมาตย์คนสนิทที่กำลังนั่งก้มหน้าจ้องมองพื้นด้วยความหวั่นเกรง “ท่านหาทางออกให้เราไม่ได้จริงๆ ใช่ไหม”เสียงคำรามด้วยความเดือดดาล จากเรือนกายสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดประจำชาติสีดำยกด้วยดิ้นทอง เสื้อตัวในสีขาวเป็นแบบคอตั้งมีกระดุมเม็ดสวยสีเดียวกันกับตัวเสื้อเรียงรายลงไปตามสาบเสื้อจนถึงเอว ชายเสื้อปล่อยยาวกรอมเท้า บนศีรษะประดับด้วยผ้าคลุมหน้าตาหมากรุกสีขาวค