Chapter 87เมฆินทร์ดีใจ เพราะอยากนอนกับเมฆานานแล้ว แต่แล้วก็ต้องหยุดยิ้ม เมื่อนึกถึงมารดา “แม่จะยอมให้นอนหรอครับลุงเมฆ” “เดี๋ยวลุงจัดการเองครับ” “ลุงเมฆไปส่งคีย์ที่บ้านทีฮะ ผมอยากขี่หลังลุงเมฆ” “ได้สิครับหนุ่มน้อยของลุง” เมฆาย่อตัวให้เมฆินทร์ขี่หลัง ก่อนที่เขาจะพาบุตรชายเดินไปยังบ้านพักหลังใหญ่ที่อยู่ไม่ห่างนัก โดยมีสายตาของก้องเกียรติที่กำลังยืนคุยกับอนันต์มองตามไป ไม่กี่นาทีต่อมาสองพ่อลูกมาถึงบ้านพักหลังใหญ่ รถคันหรูที่จอดอยู่หน้าบ้านทำให้เมฆาสงสัยว่า เจ้าของรถคือใคร แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร คิดว่าเป็นแขกของก้องภพหรือไม่ก็ประภาพร พอก้าวเข้าไปในบ้าน เมฆาก็พบกับคำตอบว่า ใครคือแขกคนนั้น อดุลย์... เมฆามองหน้าอดุลย์อย่างไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นัก เพราะเขารู้ดีว่า อดุลย์คิดกับณัฐรวีเกินกว่าคำว่าเพื่อน และที่มาในวันนี้คงมาตามจีบณัฐรวี เตะหน้าแม่งดีไหม...ต่อมหึงเมฆากำเริบ เขาคำรามอยู่ในใจ ไม่อาจเปล่งคำพูดประโยคนี้ออกมาได้หรือแม้แต่คิดทำ เมฆาย่อตัวลงเพื่อให้เมฆินทร์ลงจากหลัง“สุดหล่อของลุงมาแล้วเหรอครับ มาครับมาหาลุงเร็ว ลุงซื้อข
Chapter 86เมฆินทร์รีบวิ่งไปยังน้ำตก เด็กชายควักน้ำเล่นก่อนนำน้ำมาลูบใบหน้า เมฆายืนมองไปรอบๆ น้ำตกที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ความสูงของน้ำตกราวสองร้อยเมตร ความกว้างของมันกะจากสายตาประมาณหนึ่งร้อยเมตร มีโขดหินน้อยใหญ่กระจายไปทั่ว หากอีกฝั่งข้ามมาก็ไม่ใช่เรื่องยาก กระโดดตามโขดหินมาเรื่อยๆ แล้วเดินลุยน้ำที่ไม่น่าจะสูงเกินหน้าขา ลำธารนี้ไม่สามารถปิดกั้นความปลอดภัยจากคนชั่วที่อาจมาลุกล้ำไร่กอบกุลได้เลย เมฆาเห็นแล้วหวั่นใจอย่างบอกไม่ถูก“ปรางไปเก็บดอกเฟื่องฟ้าให้คุณนายก่อนนะพี่เมฆ”“อืม ขอบใจนะที่พาพี่มาน้ำตก” เมฆาพูดกับมะปรางที่แววตาไม่ได้มองคู่สนทนา แต่กลับมองไปยังฝั่งตรงข้าม ทำให้เมฆาอดมองตามสายตาหล่อนไม่ได้ภาพที่เมฆาเห็นคือ กลุ่มชายฉกรรจ์ห้าคนที่คล้องปืนยาวไว้บนบ่า กำลังล้างหน้าล้างตา บางคนก็ควักน้ำขึ้นมาดื่ม หนึ่งในห้าที่ล้างหน้าเสร็จก็เงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ทำให้มองเห็นอีกฝั่งหนึ่งชัดเจน เขาลุกขึ้นยืนและยังคงมองไปที่เดิม ส่งผลให้เพื่อนที่มาอีกสี่คนมองตามไปด้วย“พวกนั้นแน่ๆ พี่เมฆ” มะปรางคาดเดา“ปรางพาคีย์กลับไปไร่ก่อน”สถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แม้ว่าอีกฝ่ายจะนิ่งเฉย ไม่แสดงทีท่า
Chapter 85 “เธอนี่...” “หยุดเถียงกันได้แล้ว ไม่เห็นเหรอว่าคีย์อยู่ตรงนี้” เมฆาพูดขัดขั้น ก้องเกียรติเหมือนรู้ตัว “ฉันจะไปเตรียมอุปกรณ์ขัดหินนะ หินจะได้สะอาด ปรางก็รอพี่ตรงนี้นะ” เมฆาเดินจูงมือลูกชายไปหยิบแปรงทองเหลืองและผงซักฟอกที่อยู่ให้ห้องเก็บอุปกรณ์ในการทำงาน มะปรางที่ตั้งใจเดินไปรอเมฆาตรงทางเดินข้างต้นมะยมก็ต้องชะงักเท้า เมื่อร่างสูงใหญ่ของก้องเกียรติก้าวมาขวาง “อย่าทำตัวแรดให้มันมากนะ อย่าลืมนะว่าเธอมีผัวแล้ว” ได้ยินประโยคนี้ มะปรางคอแข็งขึ้นมาทันที ความไม่พอใจจุดประกายในนัยน์ตามะปราง เขาพูดเสียงไม่ดัง พอได้ยินกันสองคน “คุณไม่ใช่ผัวฉัน คุณก็แค่ทางผ่านให้ฉันหายคันเท่านั้นแหละ” มะปรางสวนกลับชนิดที่ว่า ก้องเกียรติถึงกับอึ้ง “เรื่องของเราจบแล้ว ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก ฉันจะแรดกับใครหรือนอนกับใครมันก็เรื่องของฉัน ไม่ต้องมาเดือดร้อน” พูดจบมะปรางสะบัดหน้าเดินหนีก้องเกียรติทันที ก้องเกียรติถึงกับร้องฮึ่มๆ ในใจ อยากจะเดินตามร่างเล็กแล้วจัดการให้สาสม ทว่าอนันต์เดินเข้ามาหา พูดคุยกับเขาเรื่องงาน ส่งผลให้ก้องเกียรติจำต้องละความตั้งใ
Chapter 84หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ตั้งแต่วันที่เมฆินทร์มาหาเมฆา เด็กชายก็ไม่ยอมกลับบ้าน ร้องงอแงจะอยู่ไร่กอบกุลท่าเดียว ทั้งร้องไห้ ทั้งออดอ้อน ส่งสายตาปริบๆ ณัฐรวีพยายามทำใจแข็งกับลูกชาย แม้ว่าทำยากแต่หล่อนก็ไม่อยากให้เมฆาเข้ามาวุ่นวายในชีวิตมากไปกว่านี้ แค่นี้หล่อนก็คิดว่าตนเองคิดผิดมากพอแล้ว ทว่าก้องเกียรติตัวตั้งตัวตีให้ณัฐรวีเอาคืนเมฆากลับบอกให้เมฆินทร์อยู่ไร่กอบกุลตามความต้องการ โดยให้เหตุผลว่า “เราทำพลาดมาตั้งแต่ต้น ตอนนี้แก้ไขอะไรยาก คีย์ดูเหมือนจะรักเมฆมากขึ้นทุกวัน เรากีดกันไม่ให้ทั้งคู่เจอกันได้ แต่ห้ามทางด้านความรู้สึกไม่ได้ มันจะยิ่งทำให้เรื่องเลวร้ายหนักขึ้น ตอนนี้น้ำกำลังเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวางดีกว่า พี่ว่าเราค่อยๆ ให้คีย์ห่างกับเมฆทีละนิดดีกว่าไหม พี่จะช่วยอีกแรงหนึ่ง” ก้องเกียรติพูดมีเหตุผล และเป็นเหตุผลที่ก้องภพ ประภาพรและณัฐรวีเห็นด้วย จึงไม่มีใครสงสัยเหตุผลที่แท้จริงของก้องเกียรติ นั่นคือ หากเมฆินทร์อยู่ที่นี่ เขาก็มีเหตุผลจะอยู่ไร่กอบกุลต่อโดยไม่ต้องอ้างคำใด เพราะปกติเขาไม่ค่อยได้มาที่นี่บ่อยนัก จะมาพร้อมณัฐรวีกับครอบครัวเท่านั้น และนั่นหมายถึงก้อง
Chapter 83“เคยหรือยัง” อากัปกิริยาของมะปรางที่เขาสัมผัสได้ ทำให้เขารู้ว่า หล่อนไม่เคยผ่านมือชาย แต่ที่ถามเพื่อความแน่ใจว่าตนคิดไม่ผิด“ไม่...ไม่เคย” หล่อนตอบเสียงเบา ไม่กล้าสบตาเขา“งั้นก็ดี ฉันจะได้ไม่ใส่ถุง” พูดจบก็บดจูบเรียวปากอิ่มอีกครั้ง ครั้งนี้ยาวนานหลายนาทีกว่าจะละห่าง “ทำความคุ้นเคยกับมันหน่อยสิ”มะปรางที่กำลังงวยงงกับรสจูบ ไม่เข้าใจคำพูดของเขา จนกระทั่งเขาใช้เข่าทั้งสองข้างรับน้ำหนักตัวเอง ขยับมาคร่อมช่วงลำคอสาว ตัวตนชายอยู่ตรงหน้ามะปรางในระยะไม่ถึงคืบ หล่อนมองความอ่อนนุ่มอันแข็งขึงตาลุกวาว ตื่นเต้นกับขนาดของมันที่พอๆ กับข้อมือตน แถมมีเม็ดคล้ายไข่มุกฝังอยู่ในนั้นหลายเม็ด“เอามือจับมัน” เขาสั่ง มะปรางกล้าๆ กลัวๆ กับคำสั่งนี้ แต่ก็ทำตามในเวลาต่อมา มืออันสั่นเทาของหล่อนยกขึ้นสูง ค่อยๆ จับสิ่งนั้นไว้ในมือ “รูดสิ รูดขึ้นรูดลง”มะปรางทำตามคำบอก ขยับมือช้าๆ ไม่รีบร้อน ใบหน้าก้องเกียรติเคลิบเคลิ้ม ตาหลับพริ้ม เกิดเสียงครางพอใจแผ่วเบาออกมา“มันอาจใหญ่ไปสักหน่อย แต่เชื่อเถอะว่า เธอจะสนุกกับมัน” เขาพูดขณะเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักหัวเตียง หยิบวาสลีนกระปุกเล็กที่เขาไว้ใช้ทาริมฝีปากเวลาแห้ง
Chapter 82“ผิวเธอสวยจัง” เขาชื่นชมจากใจ ผิวกายมะปรางนวลเนียนสีน้ำผึ้งเนียนนุ่ม ชายหนุ่มทั่วไปอาจชอบผู้หญิงผิวขาว สำหรับก้องเกียรติกลับชอบผู้หญิงสีผิวนี้ ดูมีเสน่ห์อยู่ในตัว ลำแขนแข็งแรงโอบร่างเล็กทางด้านหลัง เขาก้มหน้าจูบหัวไหล่ไล่มายังบ่า ไต่ไปเรื่อยๆ จนถึงลำคอ ฝ่ามือเขาลูบไปมาตรงหน้าท้องเนียนเรียบ ไล่มือขึ้นสูงไปถึงดอกบัวสองดอก “ว้าว...ซ่อนรูปซะด้วย ใหญ่เต็มมือดีจัง”คนถูกจูบตัวสั่น และสั่นหนักมากขึ้นเมื่อทรวงอกสาวถูกมือใหญ่เคล้นคลึงจากเบามือเป็นหนักมือขึ้นเรื่อยๆ มะปรางเริ่มรู้ชะตาตัวเองว่า เขาคงไม่ปล่อยให้ตนหลุดมือไปแน่ เป็นความจำยอมที่ตนต้องทำใจ และพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้รินไหลร่างเล็กถูกผ่อนให้นอนบนที่นอน ก้องเกียรติกวาดตามองร่างกายส่วนหน้าที่สวยงามตระการตา ดอกบัวสองดอกอวบใหญ่ ยอดถันสีน้ำตาลอ่อนเหมาะสมกับสีผิวเป็นสิ่งโดดเด่นจนเขาอยากนำปากไปลิ้มลอง ไล่สายตาต่ำลงมาจนพบเจอกับแพรไหมสีดำปกคลุมดอกไม้ช่องามที่เนินนูนสวยงาม จนเขาอยากกลายร่างเป็นภมรโบกโบยบินไปเกาะแล้วดูดเกสรชิมน้ำหวานก้องเกียรติไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปนาน เขาเอนตัวทาบทับเรือนร่างสาว ไม่ได้จูบปากหล่อนแต่กลับจูบทรวงอกคู่สวย