INICIAR SESIÓNฮืออออ ฮืออออ อนาสตาเซียปล่อยโฮออกมา ขยับโอบกอดเอ็ดเวิร์ดที่คุกเข่าตรงหน้าเธอ เพราะตอนนี้เป็นเธอเองที่สงสัยตัวเองว่า เธอต้องการอะไรกันแน่ เธอคิดว่าลูสจะไม่มีผลต่อความรู้สึกอะไรกับเธอ แต่การที่ได้เห็นหน้าเขาอีกครั้งในวันนี้ เธอเกิดคำถามให้กับตัวเอง
“เอ็ดเวิร์ด...พี่ควรขัดขวาง หรือทำอะไรสักอย่างที่ให้ตัวเองได้เปรียบ” อนาสตาเซียพึมพำ สลับกับเสียงสะอื้นขณะที่โอบกอดเอ็ดเวิร์ด
“แน่นอนพี่ทำแน่ในทุกๆเรื่อง แต่ไม่ใช่เรื่องนี้ แอนนี่อยู่เหนือสิ่งอื่นใด...ลืมไปแล้วเหรอว่าแอนนี่สำคัญกับพี่มากแค่ไหน” อนาสตาเซียคลายอ้อมกอดเมื่อเอ็ดเวิร์ดดึงเธอออกมาและเช็ดคราบน้ำตาให้ ดวงตาสองดวงมองกันและกัน เอ็ดเวิร์ดขยับใบหน้าเข้ามา เพื่อให้ริมฝีปากของเขาสัมผัสกับริมฝีปากที่แดงจากการร้องไห้ของเธอ อนาสตาเซียรับสัมผัสนั้น เพราะเธอรู้ว่าเอ็ดเวิร์ดจะทำเพียงแค่นี้ มือเล็กที่ประคองเกาะที่ข้างลำตัวของ เอ็ดเวิร์ดยังคงอยู่ตรงนั้น เมื่อการสัมผัสครั้งนี้ของเอ็ดเวิร์ดนานกว่าที่เคยเกิดขึ้น แต่เขาก็ทำเพียงแค่นั้น อนาสตาเซียรับรู้ถึงลมหายใจของเอ็ดเวิร์ดเมื่อจังหวะเริ่มเปลี่ยนไป เอ็ดเวิร์ดค่อยๆผละออกในที่สุด เพราะเอ็ดเวิร์ดยังคงเป็นเอ็ดเวิร์ดที่อนาสตาเซียรู้จักดี
“พาแอนนี่ไปดูหนังสักเรื่องนะ” เอ็ดเวิร์ดยิ้มออกมา เมื่อเจอลูกอ้อน ของอนาสตาเซีย และเขาไม่เคยปฎิเสธได้สักครั้ง
“พี่คิดว่า แอนนี่จะให้พี่พาไปซ้อมมือเสียอีก” อนาสตาเซียยิ้มออกมา คำว่าซ้อมมือในความหมายจริงคือซ้อมยิงปืน
“ก็เป็นความคิดที่ดีนะคะ...” เอ็ดเวิร์ดต้องยิ้มยาวอย่างต่อเนื่อง เมื่อดึงความสนใจของอนาสตาเซียได้บ้าง เพราะเธอต้องมีเวลาให้ได้คิด ลูส ลูเธอร์ ไม่ใช่คนเลว เพราะพวกเขาสืบประวัติและค้นหาข้อมูลที่แท้จริงของลูสได้แล้วนั่นเอง เรื่องนี้ต้องยกรางวัลให้โนอาห์ ที่สามารถแฮกเข้าระบบ ข้อมูลของลูสที่ถูกปกปิดไว้ การตั้งข้อสันนิษฐานของโนอาห์ทำให้พวกเขาเข้าค้นหาได้อย่างถูกทาง เมื่อข้อมูลที่เปิดเผยบางจุดมีบางอย่างขัดแย้งกันจนน่าสงสัย โนอาห์ใช้เวลาอันสั้นในการเจาะค้นข้อมูลจนรู้ว่า ลูส ลูเธอร์ แท้จริงแล้วคือเจ้าหน้าที่ซีไอเอ ซึ่งนั้นทำให้เอ็ดเวิร์ดและโนอาห์ต้องปกปิดเรื่องนี้ไม่ให้อนาสตาเซียรู้ แม้แต่ลูสเองก็ไม่รู้ว่านอกจากเขา โนอาห์ ก็จะมีท่านอดัมที่รู้เรื่องนี้เมื่อไม่นานนี้ หลังจากที่โนอาห์ตรวจสอบจนแน่ชัดแล้ว
“เก็บเรื่องนี้ไว้ อย่าขยายต่อ ยิ่งคนรู้น้อยก็เป็นเรื่องดี เพราะลูส ลูเธอร์ อาจกำลังแฝงตัวทำภาระกิจของประเทศอยู่ก็เป็นได้ สิ่งเดียวที่สำคัญกับเราตอนนี้คือความปลอดภัยของแอนนี่ เพราะเธอเกี่ยวข้องกับ ลูสน้อยเท่าไหร่ เธอก็จะไม่ตกเป็นเป้า ลูส ลูเธอร์มีศัตรูมากเกินกว่าที่เราจะตั้งรับได้ทันท่วงที ไม่มีเหตุผลอะไรที่แอนนี่ต้องเสี่ยงแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว” คำสั่งของท่านอดัมที่พูดกับเขาและโนอาห์ แต่เอ็ดเวิร์ดก็ไม่อาจทำตามคำสั่งของอดัมในเรื่องที่ต้องกันลูสออกจากอนาสตาเซีย เพราะดูเธอจะสั่นคลอน กับลูส ลูเธอร์ไม่น้อย เพียงแค่รู้จักกันในเวลาสั้นๆ
ลูสเดินไปยังบาร์เครื่องเดิมในห้องส่วนตัวคอนโดในนครนิวยอร์ก และเขากำลังตั้งรับกับอารมณ์ของตัวเอง อนาสตาเซียส่งผลต่อความรู้สึกของเขาอย่างมากในเวลาสั้นๆที่รู้จักเธอได้ไม่นาน
“มีอะไร...ครูก้า” ลูส เสียงดังหันไปถามมือขวา ที่เขารู้ตัวในทันทีว่าไม่ควรทำแบบนั้นกับครูก้า “ขอโทษ!”
“ไม่เป็นไรครับ แต่ทางโรงพยาบาลรายงานเรื่องบีม เขาฟื้นแล้วครับ...” ลูส วางแก้วบนท็อปบาร์เครื่องดื่ม
“เคลื่อนย้ายเขาได้มั้ย...”
“แพทย์บอกว่าต้องรออีกสักวันสองวันครับ”
“เอามือดีไปเฝ้าไว้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงและอย่าให้ใครเข้าใกล้ ออกคำสั่งไป ต้องเป็นแพทย์ไมค์เท่านั้นที่เข้าตรวจได้”
“ครับ แต่มีอีกอย่างครับที่เราพึ่งทราบ”
“อะไร?”
“โรงพยาบาลนั้นเป็นของเครือซาวันเดอร์กรุ๊ปครับ”
“บ้าจริง!...ทำไมถึงพึ่งมารู้ตอนนี้”
“เอริค ซาวันเดอร์เป็นบุตรชายของอลัน ซาวันเดอร์ เขาพึ่งเข้ารับตำแหน่งต่อจากอลันเมื่อไม่นานนี้ แหล่งข่าวของเราบอกว่าที่นั้นปลอดภัยแน่นอน”
“ติดต่ออลัน ซาวันเดอร์ได้มั้ย?”
“ไม่ได้ครับ เขาเดินทางไปญี่ปุ่นกับภรรยา...คาดว่าพวกเขาจะไปพักผ่อน ถูกปิดช่องทางการติดต่อทั้งหมด”
“เอ็ดเวิร์ด มาเยส เซนนิคอป” คำพูดของลูส สร้างความแปลกใจให้กับครูก้าอย่างมากเมื่อจู่ๆ ลูสก็เอ่ยชื่อเอ็ดเวิร์ดออกมา
“เอ็ดเวิร์ด มาเกี่ยวอะไรกับเรื่องครับ”
“วันนี้ฉันไปหาอนาสตาเซียที่บ้านของเธอ ฉันเจอรูปถ่ายของเอริค ซาวันเดอร์กับอีกหลายๆคนที่ถ่ายร่วมกันในบ้านหลังนั้นรวมถึงเอ็ดเวิร์ดด้วย...”
“ทำไม?...อยากจะแกล้งอะไรเขาอีกละ...” “เปล่าสักหน่อย...ยายนั้นมาฟ้องคุณย่าเหรอครับ” “คิดว่าเชือกฟางทำแบบนั้นเหรอ” ไอเดนยิ้มและส่ายหน้า ถึงเขาจะเจอกับเชือกฟางได้ไม่นาน แต่เขารู้ว่าเชือกฟางไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน “นะครับคุณย่า” “จะดูแลเขาได้เหรอ?” หนูนาถามกลับทันที “ได้ครับคุณย่า” หนูนายิ้มให้กับหลานชาย หนูนามองเข้าไปในดวงตาของไอเดน เธอรู้ว่าไอเดนคิดยังไง และเมื่อไอเดนกล้ามาคุยกับเธอ นั้นก็แสดงให้เธอรู้ว่า ไอเดนคิดยังไงโดยที่ไม่ต้องมีคำพูดมากมาย “คุณปู่และย่าภูมิใจในตัวหลาน
“ไอเดน ฉันชอบเธอ” ไอเดนเบิกตากว้างขึ้น อย่างคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำนี้จากผู้หญิงอีกคน เชอร์รี่บอกออกไปในที่สุด ซึ่งเรื่องนี้เธออยากจะบอกไอเดนมาตั้งนาน เธอไปขอให้เชือกฟางร่วมมือ ให้เปิดทางให้เธอได้อยู่กับไอเดนเพียงลำพัง แต่... “เธอควรจะหาทางเองดีกว่า” เชือกฟางบอกกับเชอร์รี่ไป หลังจากที่เชอร์รี่บอกให้เชือกฟางกลับบ้านไปเองตามลำพัง ไม่ต้องรอไอเดน “เชือกฟางมันจะยากอะไรนักหนา เธอก็กลับบ้านไปเลย เดี๋ยวฉันจะไปบอกไอเดนแทนเธอเองว่า เธอฝากมาบอกว่ากลับแล้ว” “ไม่ได้!” เชือกฟางตอบเชอร์รี่เพียงแค่นั้น เพราะถ้าเธอขืนทำแบบนั้น ชีวิตเธอคงไม่สงบไปอีกสักพักเป็นแน่ “ทำไมไม่ได้” &ldq
“อุ้ย!” คริสตี้ร้องออกมา เมื่อเธอพยายามจะปิดประตูแต่ฝ่ามือของเอริคก็ดันมันไว้อย่างรวดเร็ว และแน่นอนเธอต้านแรงของเขาไม่ได้ “คุณมาที่นี่ทำไม...” คริสตี้เอ่ยถามด้วยเสียงที่เธอคิดว่าดังมากแล้ว“เป็นอะไรเหรอเปล่า?” เอริคกลับตอบคำถามของเธอด้วยการตั้งคำถามกลับ เพราะคริสตี้ดูซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด “ออกไปนะ!” คริสตี้ไม่สนใจฟังและไม่สนใจใบหน้าที่ดูเป็นกังวลอย่างชัดเจนถ้าเธอจะสังเกตุ และมองใบหน้าของคนตรงหน้าตรงๆ “กินอะไรเหรอยัง?” เอริคหลี่ตามองและตั้งคำถามอีกครั้ง ไม่สนใจคำไล่ของเธอ “ออกไปนะ!...” คริสตี้อ่อนแรง อ่อนเพลีย เธอเหมือนจะเป็นลม และเธอก็เจ็บปวดเมื่อยตามร่างกาย เธอคงกำลังจะไม่สบาย “อ๊ะ!” เอริคขยับรับร่างที่กำลังจะล้มหมดสติได้ทัน 
เฮเลนที่ลอบมองจากหน้าต่าง ล้วงโทรศัพท์ของตัวเองออกมา และกดโทร.ออกทันทีเมื่อเจ้านายขับรถออกไป “คุณมุก...เรื่องน่าจะเลยเถิดไปมากกว่าที่คุณอลันคาดไว้แล้วล่ะคะ” เฮเลนเอ่ยบอกปลายสายทันที เมื่อได้รับเสียงตอบรับมา “เอริค ทำอะไรเหรอคะ?” ปิ่นมุกถามกลับทันที ในขณะที่เธอและ อลันอยู่ที่ญี่ปุ่น “ป้าคิดว่า คุณเอริคมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้นที่เป็นลูกบุญธรรมของดีน เลอนาร์ด...และตอนนี้คุณเอริคก็ออกจากบ้านไปตามลำพังแล้วค่ะ” “ตายจริง!...ขอบคุณนะคะเฮเลน คนที่ก่อเรื่องต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ พี่อลันทำเกินไปแล้ว...มุกฝากเฮเลนช่วยดูแลเธอคนนั้นหน่อยนะคะ... คริสตี้เป็นเด็กดี...มุกได้แต่หวังว่าเอริคจะรับผิดชอบสิ่งที่เขาทำลงไป...แต่ตอนนี้มุกต้องไปจัดการคนที่สร้า
“คริสตี้ ฟังสิ่งที่ฉันจะพูดกับเธอให้ดี...” เอริคพูดพร้อมกับที่เขาจัดการตัวเองโดยการเอาเกราะป้องกันที่ยังคงมีคราบเลือดพรหมจรรย์ของเธอติดอยู่ให้เห็นจางๆออกไป “เธอต้องกลับไปบอกพ่อของเธอว่า วันนี้เธอมาทำหน้าที่ของเธอที่บ้านของฉัน และมันยังไม่เรียบร้อย พรุ่งนี้เธอต้องเดินทางมาที่นี่อีก...” เอริคแต่งตัวไปพร้อมๆ กับพูดในสิ่งที่คริสตี้ต้องทำ เขาหยิบเสื้อผ้าของเธอขึ้นมาจากพื้นและวางบนลงเตียง “...แต่งตัวซะ” เอริคสั่งการทันที เมื่อคริสตี้ยังไม่ขยับ แต่เธอได้ยินสิ่งที่เขาพูด คริสตี้ขยับร่างกายที่บอบบางและอ่อนล้านั้นทันทีเท่าที่เธอจะสามารถขยับได้เร็วพอแบบที่ไม่ต้องเจ็บปวดมาก เสียงพูดของเขายังดังต่อไป โดยที่เขาไม่แม้แต่จะมองเธอเลย คริสตี้รีบแต่งตัวตามคำสั่งนั้น เธอไม่มีคำถามต่อคำสั่งนั้น แต่... “ฉันยังต้องมาที่นี่อีกเหรอ?” คริสตี้ถามกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจ&
สองมือของเอริคไล้เลื่อนไปยังมือเล็กที่เกร็งดึงรั้งผ้าปูที่นอนดั่งกับต้องการหาหลักที่ยึดเหนี่ยว มือที่ใหญ่และแข็งแรงกว่ากอบกุมมือเล็กไว้ ก่อนที่ เอริคจะทำลายกำแพงนั้น ‘พรหมจรรย์’ “อื้มมมมม...” เสียงร้องในคอของคริสตี้ดังออกมา พร้อมกับดวงตาที่ปิดลงอีกครั้ง น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกครั้ง เมื่อโพรงสาวถูกล่วงล้ำโดยแก่นกายของเขาจนแนบสนิทกันและกัน เอริคดูดรั้งริมฝีปากของเธอ เขารับรู้ถึงความเจ็บปวดและอาการเกร็งของเธอทั่วทั้งเรือนร่างภายใต้ร่างกายเขา ให้ตายเถอะ! เอริคเกลียดความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ เพราะเขาพยายามหักห้ามตัวเอง เขาจะไม่ปลอบประโลมเธอเด็ดขาด คริสตี้ร้องออกมาเพียงครั้งเดียว จากความเจ็บปวดที่เธอไม่เข้าใจสักนิดว่าเซ็กส์ มันมีดีอะไร ในเมื่อตอนนี้เธอทรมานกับสิ่งที่ได้รับอยู่ ร่างกายเธอแทบจะระเบิดออกมา ยามที่เขาเข้ามาในกายเธอ เธอเจ็บจนเกินบร

![นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)





